The Kid , No kid.
5) บทที่5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหนัก... นั่นคือความคิดแรกของคาโอรุที่กำลังสะลึมสะลือ เสียงเป๊าะแป๊ะแปลกๆบางอย่างก่อให้เกิดเสียงกวนใจคนหลับ แต่ตัวต้นเหตุแท้จริงที่ทำให้เขาตื่นคือสิ่งหนักๆที่ทับขาเขาอยู่ตอนนี้มากกว่า ใครกันนะ เซโตะหรีือ? แต่เด็กน้อยผมแดงคนนั้นก็ไม่ได้หนักขนาดนี้นี่นา...
บางที ต่อให้เป็นคนที่คิดว่าตั้งสติก่อนลืมตาได้มากแล้ว ก็ยังไม่วายต้องร้องลั่นออกมาอย่างแน่นอน! ร่างเปลือยเปล่าของเซโตะเวอร์ชั่นวัยรุ่นปรากฏแทนที่จะเป็นเด็กน้อยคนนั้น
แล้วผู้ที่โดนคนในสภาพนั้นนอนทับอยู่จะไม่ตกใจกว่าปกติเป็นสามเท่าได้อย่างไรกันล่ะ
"อะไรกันนักหนาเนี่ย!"
เ้ซโตะร้องโวยวายอย่างตื่นไม่เต็มที่ ก่อนจะสังเกตร่างตัวเองชัดๆ รีบวิ่งไปเอาผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมกายไว้ก่อน นาฬิกาพกพลาสติกสีแดงตกลงที่พื้นโดยไร้ซึ่งความสนใจ ภาพเหล่านั้นมีคาโอรุซึ่งกำลังอึ้งจับจ้องอยู่
ถึงเซโตะในร่างนี้จะไม่ได้บึกบึนกล้ามใหญ่แบบนักเพาะกายก็ตาม แต่หลังจากค้นอยู่นาน เสื้อผ้าไซส์ของคาโอรุก็ยังเล็กกว่าอยู่ดี ถ้าต้องอยู่ในสภาพรัดตึงแน่นแบบนั้น เขายอมเอาผ้านวมคลุมตัวเหมือนชนเผ่าอะไรสักอย่างแบบนี้ดีกว่า อย่างน้อยก็เดินได้โดยไม่เหมือนปิศาจโครงกระดูกในเกมตีมอนสเตอร์ล่ะ!
"ฉันนี่แหละเซโตะ เลิกถามได้เลย"
เซโตะชิงพูดก่อนที่คาโอรุจะทันออกเสียง เด็กหนุ่มเนตรราตรีกอดอกทำหน้าเย็นชาใส่ ถึงจะเป็นมิตรกับเด็กน้อยผมแดง แต่กับคนที่เคยทำเรื่องบ้าๆกับเขา อย่าหวังว่า่จะลืมกันง่ายๆนักเลย!
เซโตะนึกถึงเจ้านาฬิกาพกท่าทางป้อกแป้กของโรซารี่ขึ้นมาได้ เมื่อหยิบขึ้นมาอ่านเวลาก็เป็นดังคาด มันชี้ไปที่เลขสิบสองแล้วหยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น คำบอกเล่าของโรซารี่กับลูกเห็บที่ตกลงมามันบ่งบอกว่านี่คือนาฬิกาดูว่าเขาจะคืนร่างได้เมื่อไหร่แน่นอน
"นายเอาเด็กคนนั้นไปไว้ที่ไหน" คาโอรุทำเสียงไร้อารมณ์ "แล้วทำไมจะโผล่มาต้องไม่ใส่เสื้อผ้าด้วย โรคจิตวิตถารหรือว่าว่างจัด!"
เซโตะคิ้วกระตุกอย่างโมโหโกรธา ตอนเขาเป็นเด็กน้อยอะไรๆก็พูดจาหวานหู ทั้งอ่อนโยนใจดีอย่างกับนางฟ้า! ไหงพอเขากลับมาเป็นวัยรุ่นถึงได้เชือดเฉือนกันนักนะ
"ฉันไม่มีคำอธิบายอะไรทั้งนั้น นายดูเอาเองตอนเจ้าเสียงเป๊าะแป๊ะนี่หยุดแล้วกัน"
แต่คาโอรุยังถามไม่เลิก "เซโตะคุงปลอดภัยใช่ไหม"
"ปลอดภัยสิ!"
สิ่งหนึ่งที่เซโตะไม่ได้พูดออกไปคือ 'ก็เขานั่งอยู่ตรงนี้แล้วไงเล่า' แน่ล่ะ พูดออกไปก็รังแต่จะยืดเยื้อ หลังจากนั่งรอด้วยอารมณ์คุกกรุ่นจนจะหลับไม่หลับอยู่รอมร่อ เข็มนาฬิกาก็เริ่มเคลื่อนออกจากเลขสิบสอง คราวนี้มันหมุนติ้วๆอยู่สามครั้งแล้วหยุดที่ตัวเลขหนึ่งในนั้น หมุนติ้วๆตอนแรกน่าจะหมายถึงอีกสามวัน
คาโอรุอ้าปากค้างเมื่อเห็นเซโตะที่นั่งหน้ามุ่ยจ้องนาฬิกาพกของเล่นค่อยๆหดลงเรื่อยๆจนมีขนาดตัวตามที่เขาเคยเจอ นี่...นี่มันอะไรกันเนี่ย!?
เด็กน้อมผมแดงดูจะชอบอกชอบใจในสีหน้าอึ้งทึ่งของอีกฝ่ายไม่น้อย โดยเฉพาะการยืดอกภาคภูมิใจนั่น ช่างเป็นสิ่งที่ชวนหยิกแก้มซะจริง แต่คาโอรุตอนนี้ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างนั้นดีไหม หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้จะบอกว่าโกหกก็คงจะเหลือเชื่อไปสักหน่อยล่ะ
"นาย...หด?" คาโอรุอ้าปากค้างไม่เลิก "นี่...นี่นายคือเซโตะคุงจริงๆด้วย!"
เขาค้อนตรงหน้าไปมา เมื่อก่อนพูดแล้วพูดอีกก็ไม่ฟังแถมเอาถาดทุบเอาๆอย่างไร้ซึ่งความปรานี ทำอย่างกับเขาเป็นสเต็ก! ตอนนี้มาทำอึ้งไปทำไม
"นายเป็นมนุษย์จริงๆรึเปล่านะ" คาโอรุถอยกรูด "เป็นเทพหรือว่ามนุษย์ต่างดาว?"
เซโตะค้อนเขารอบที่หนึ่งร้อย ยืนยันสถานะชัดเจนว่าตนเองเป็นมนุษย์ตั้งแต่กำเนิด แล้วเริ่มเล่าให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แน่ล่ะ ตอนนี้สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่มีเหตุผลที่คาโอรุต้องไม่เชื่ออะไรอีก เขาครุ่นคิดคำนวณไปมา ตอนนี้คนที่เป็นคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดคงไม่พ้นสาวผมทองโรซารี่! แต่จะหาตัวเธอคนนั้นได้จากไหนกันล่ะ
ผู้มีเนตรราตรีนึกอะไรขึ้นมาได้ ถึงจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดก็เถอะ แต่ความไม่ชอบก็คือไม่ชอบอยู่ดี ถึงจะต้องจำใจก็เถอะ ทว่า...หากต้องเลี้ยงเจ้าเด็กที่รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นคู่รักคู่แค้นแบบนี้ก็ไม่เอาด้วยแล้วล่ะ เขาต่อสายอย่างรวดเร็วถึงอัลลิวีน
"หึๆๆ" เสียงหัวเราะของผู้หญิงปลายสายดังขึ้น "ในที่สุดก็ต้องมาให้พวกเราช่วยสินะคะ ท่านคาโอรุ หึๆ ก๊าก ฮ่าฮ่าฮ่า!"
นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ไม่อยากต่อสายหาอัลลิวีนนี่แหละ! หลังจากหัวเราะซะจนคนโทรไปน่าวางสายใส่หยุดลง เสียงลึกลับของผู้หญิงคนเดิมก็กลับมา ถามว่าคราวนี้เขาต้องการอะไรเป็นพิเศษ เครื่องเพชร ชุดสวยๆ หรือให้ไปจัดการใคร? แน่นอน ไม่พูดถึงเรื่องเงินเพราะในบัญชีมีอยู่ครบถ้วน ตัดเข้าทุกสัปดาห์ มีอะไรให้แคร์เรื่องนั้นกันเล่า
"ตรวจสอบเรื่องเจ้าหน้าที่ชื่อโรซาริ อืม...โรซารี่ โรซารี่ต่างหาก ผมแกละยาวๆสีทอง ใส่ชุดสีส้มสลับขาว ท่าทางเพี้ยนๆ อายุประมาณสิบหกหรือสิบเจ็ด"
เสียงนิ้วไล่ตามแป้นพิมพ์ปรากฏอยู่สักพักก็หยุดลงแล้วพูดอย่างแปลกใจว่า "มีเจ้าหน้าที่ชื่อนั้นอยู่เหมือนกันนะะ แต่ว่าเราส่งไปทำงานที่อเมริกาอยู่ ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือว่าต้องการให้ช่วยอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ"
คาโอรุขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่ามีเจ้าหน้่าที่ประมาณนั้นอยู่ที่ญี่ปุ่นบ้างหรือไม่ รวมทั้งอัลลิวีนส่งใครมายุ่งวุ่นวายกับคนที่ชื่อ มุราคาอิ เซโตะ ไหม
"มีเจ้าหน้าที่ชื่อโรซารี่ในญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่รูปพรรณหรืออื่นๆแตกต่างจากที่ท่านว่ามานะค่ะ ส่วนเรื่องส่งใครไปก็ยังไม่มีกำหนดการในเรื่องนั้น แล้วก็มุราคาอิ เซโตะ ตอนนี้ทางองค์กรพบเขาในสถานะเฝ้าจับตาค่ะ เนื่องจากมุราคาอิ เซโตะ นักเรียนมัธยมห้องเอได้มีการตรวจสอบว่าเป็นคนเดียวกับเด็กปริศนาที่ไร้ที่มาอย่าง มุราคาอิ เซโตะ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของท่านค่ะ ต้องการส่งคนไปรับตัวเขามาที่ศูน์วิจัยเพื่อค้นคว้าไหมคะ?"
"ยกเลิกการเฝ้าจับตาที่ว่านั่นซะ แล้วส่งคนมารับได้เลย"
ถึงเซโตะจะไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไรมาบ้าง แต่คาโอรุที่บอกว่าให้ส่งคนมารับนั้น เขาได้ยินชัดเจน นี่อีกฝ่ายตั้งใจจะทำอะไร หรือว่าส่งเขาไปที่องค์กรอะไรนั่นเพื่อเป็นค้นหาวิธีแก้ไขกลับเป็นร่างเดิม ก็ดีนะสิ! ในที่สุด เขาก็ไม่ต้องอยู่ในร่างเล็กๆที่แทบจะหยิบอะไรไม่ถึงนี่สักที
คาโอรุอธิบายว่าจะมีคนมารับเซโตะไปที่ศูนย์วิจัยเพิ่อค้นคว้าว่าทำไมจู่ๆถึงตัวหดลงไปได้
"แล้วก็สำนึกไว้ด้วยล่ะ" คาโอรุจิ้มหน้าผากเซโตะเบบี้อย่างใจร้าย "ฉันช่วยถึงขนาดนี้ก็อย่าได้คิดทำบ้าๆกับฉันเป็นครั้งที่สองล่ะ ไม่งั้น ฉันจะให้อัลลิวีนฉีดอะไรประหลาดๆให้นายมีร่างเป็นปลาหมึก หัวเป็นแมงกะพรุนเลยคอยดู!"
โรซารี่มองภาพเหล่านั้นแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ต่อให้เป็นสุดยอดองค์กรแค่ไหนก็ทำให้เจ้าหนูคนนี้กลับเป็นวัยรุ่นสุดห่ามคนเดิมไม่ได้หรอกนะ
เรื่องราวผ่านไปหลังจากนั้นถึงสามวัน ลูกเห็บที่ตกลงมาตามเวลาที่นาฬิกาพกพลาสติกสีแดงได้บอกไว้ คาโอรุเหม่อมองสภาพอากาศแล้วอดคิดถึงเด็กน้อยคนนั้นไม่ได้ ถึงเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ มันก็เป็นอะไรที่สนุกดีออกนะ
คาโอริเดินออกมาจากห้องวิจัยของตนเองหลังจากที่คลุกอยู่เกือบอาทิตย์ แล้วกระดกกาแฟอั้กๆ มองพี่ชายที่ทำหน้าเหงาๆอย่างกับคนอกหักแล้วเรียกหาเซโตะ แต่แน่นอนว่าไม่มีการตอบรับเพราะองค์กรอัลลิวีนนำตัวเขาไปตั้งแต่สามวันที่แล้ว คาโอรุถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วบอกเรื่องนั้นกับน้องสาวด้วยน้ำเสียงซึมๆ
เป็นเอามากแฮะ
คาโอริมองพี่ชายแล้วนึกในใจว่าเคยเจอเขาแสดงอาการเช่นนี้ออกมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ใช่ตอนย้ายโรงเรียนเพื่อขึ้นชั้นมัธยมหรือเปล่านะ?
อย่างไรก็ดี เธอสะดุดกึกกับคำว่า 'ให้ไปแล้ว' ของคาโอรุ
"จะบ้าเรอะ!" เธอเดือดดาลจนกระชากคอเสื้อผู้เป็นพี่ชายแท้ๆ "คิดอะไรถึงให้เจ้าพวกนั้นไปนะ!""
คาโอรุพยามดึงคอเสื้อของตัวเองให้กลับมาอยู่ที่เดิมสุดชีวิตแล้วเล่าให้ฟังว่าทำไมเขาถึงได้ทำแบบนั้นไป ถึงจะเชื่อเรื่องที่คนคนหนึ่งกลายเป็นเด็กก็ตาม แน่นอนล่ะ คาโอริเคยเจออะไรที่มันมากกว่านี้เยอะแล้วนี่นา แต่เรื่องที่ให้องค์กรอัลลิวีนเอาคนไปค้นคว้า เธอยอมรับไม่ได้เด็ดขาด!
"นายจำไม่ได้รึไง เด็กร่วมห้องคนหนึ่งของฉันเคยเกือบโดนผ่าตัดทดลองสมองเพียงเพราะญาติของเธอมีพลังจิตนะ! เจ้าพวกนั้นเอาตัวเด็กคนนั้นไปทำการตามใจชอบเพราะคิดว่าถ้าเป็นสายเลือดเดียวก็อาจมีความเป็นไปได้สูงกว่าคนอื่นว่าถ้าผ่าตัดขึ้นมาแล้วจะมีพลังจิตสำเร็จ!"
คาโอรุนิ่งไปพักหนึ่ง "ฉันย้ำแล้วว่าห้ามทำอะไรเกินเลยอย่างการผ่าตัด..."
เสียงเคาะประตูเป็นจังหวะอย่างร่าเริงพร้อมกับคำพูดสดใส "ขอโทษค่ะ มีใครอยู่ไหมเอ่ย ตอนนี้เซโตะคุงแย่แล้วนะคะ"
สองศรีพี่น้องหยุดการยื้อยุดคอเสื้อแล้ววิ่งไปที่ประตูทันที คนที่มาไม่ใช่ใครที่ไหน สาวผมทองโรซารี่นั่นเอง! เธอยื่นภาพถ่ายบางอย่างให้ เป็นเซโตะที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงทดลองพร้อมสายระโยงระยาง ราวกับถูกมนุษย์ต่างดาวจับไปในการ์ตูนวิทยาศาสตร์ของโลกตะวันตก
โรซารี่เล่าให้ฟังว่าเด็กน้อยผมแดงคนนั้นถูกจับนอนอย่างนั้นมาหลายวันแล้ว แต่ต่อให้ตรวจอย่างไร ร่างกายก็ไม่มีของผิดปกติถูกฉีดหรือฝังชิป ตอนที่กำลังลงมติให้ปล่อยตัวแล้วลงสถานะไปว่าเป็นเด็กไม่ทราบที่มานั้นเอง เซโตะก็ค่อยๆกลับคืนร่างเดิมเพราะลูกเห็บที่ตกลงมาพอดี สถานการณ์จึงเปลี่ยนไป ตอนนี้เขาถูกถ่ายเทเลือดออกมาจำนวนมากเพื่อนำไปทดลองหลายๆอย่าง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปได้แห้งสนิทแน่นอน!
"เดี๋ยวสิ คอมพ์สภาพอากาศของฉันมันแสดงว่าลูกเห็บตกได้ไม่นาน ถึงเธอจะใช้เฮลิคอปเตอร์บินมาก็เหอะ แต่จากศูนย์วิจัยนั่นถึงบ้านฉันก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามสิบนาทีแน่นอน! นี่มันแค่สิบนาทีเองนะ"
โรซารี่ทำแก้มป่องอย่างงอนๆ "เถอะน่า ถ้าใช้เวลานานขนาดนั้นก็ยิ่งมีเวลาจำกัดในการช่วยนะ"
เฮ้อ ถ้ายังเป็นเด็กน้อยน่าหยิกคงอุ้มมาบริการถึงที่นี่แล้ว แต่ตัวโตๆจะเอามาทำไม เกะกะ!
มอเตอร์ไซค์ NAKED ที่ถูกดัดแปลงจนเหมือนมอเตอร์ไซค์ของบรรดาคนแปลงร่างในซีรี่ย์ของญี่ปุ่นถูกสะบัดผ้าคลุมออก ถึงมันจะเท่แค่ไหนก็ตาม แต่ฝุ่นที่เกาะอยู่บางจุดบ่งบอกว่ามันคงไม่ได้ล้างมาสามปีได้แล้ว แน่นอน คาโอริง่วนอยู่ในห้องวิจัยอาวุธของตัวเอง ไม่มีเวลาสำหรับกิจกรรมสุนทรีย์อย่างล้างรถหรอก
คาโอรุอยากจะขับเองเพราะฝีมือการขับของน้องสาวนั้นดีเลิศ ใช่! มันดีเลิศ แต่เพราะอย่างนั้นคาโอริจึงขับร้อยแปดสิบกิโลเมตรอย่างไม่สนใจโลก , ผู้ใช้รถใช้ถนนและคนซ้อน! ทว่า...ในสภาวะอย่างนี้ก็คงต้องจำใจทนความรู้สึกหวาดเสียวเหมือนเล่นรถไฟเหาะไปก่อนล่ะนะ ความไวเป็นต่อ!
โรซารี่มองรถที่บึ่งออกไปอย่างรวดเร็วแล้วผิวปากวี้ดวิ้ว โซราซี่ที่ยืนพิงสาวไฟฟ้าพยามทำตัวไม่น่าสนใจเพราะไม่อยากยุ่งยากมองอย่างกลุ้ม "บอกสถานการณ์เกินจริงไปจะดีเหรอ"
"เกินจริงตรงไหน" โรซารี่แสร้งทำหน้าใสซื่อ "ก็เซโตะงี่เง่าถูกนำเลือดไปทดลองจริงๆนี่นา ถึงจะไม่ได้โดนสูบเอาๆก็เถอะ แต่เจาะเลือดไปหลายๆครั้งมันก็คล้ายกับที่ฉันเล่านั่นล่ะ ฮิฮะ"
วิวที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนการกรอภาพในระดับสูง คาโอรุมองอะไรไม่ทันตัดสินใจหลับตาไว้ดีกว่า จะได้ไม่เป็นลมก่อนจะถึงศูนย์วิจัย ไม่งั้น อย่าว่าแต่จะช่วยเซโตะ ตัวเขาเองจะถูกหามไปส่งห้องพยาบาลซะเปล่าๆ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมน้องสาวของเขาถึงได้กล้าขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วแบบนี้กันนะ
ที่สำคัญ ไม่รู้ตลอดทางที่ผ่านมาพวกเขาควรได้ใบสั่งเพราะขับเร็วเกินกฏหมายกำหนดกี่ใบแล้วน่ะ!
ตั้งแต่รถของคาโอริแล่นเข้ามาในเขตก็ถูกกล้องตรวจจับและแจ้งเรียบร้อย จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อคาโอริจอดรถปุ๊บ คนในชุดเรียบร้อยทั้งชายหญิงก็เดินเข้ามาให้การต้อนรับ ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมแต่ก็พอเดาได้ลางๆว่าคงเป็นเรื่องของเด็กผมแดงแน่นอน
"ฉันมาพาเซโตะคุง...เซโตะงี่เง่ากลับบ้าน" คาโอรุพูดอย่างรวดเร็ว "เขาอยู่ที่ไหน"
เจ้าหน้าที่มองหน้ากันอยู่สักพัก ในที่สุด ก็มีผู้หญิงในชุดกาวน์สีขาวเป็นคนตอบขึ้นมา "มุราคาอิ เซโตะ อยู่ที่ห้องวิจัยหมายเลขศูนย์สามค่ะ แต่ว่าจะพาเขาไปตอนนี้เลยไม่ได้...อึ้ก!"
คาโอริทุบต้นคอเธอคนนั้นจนสลบแล้วจัดการคนที่เหลืออย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรเพราะวิธีนี้ง่ายกว่า ระหว่างนั้นคาโอรุซึ่งเคยมาที่ศูนย์วิจัยนี้บ้างตอนเด็กๆรีบก้าวไปยังห้องศูนย์สามอย่างรู้ทาง ประตูสีขาวเปิดผางออก คาโอริที่ตามมาสมทบพี่ชายบอกให้เขาจัดการเรื่องเด็กหนุ่มผมแดงพลางจัดการเจ้าหน้าที่ในห้องโดยไม่ฟังอะไรทังนั้น
โรซารี่สวมชุดกาวน์และแว่นกันแดดยืนอยู่ข้างโซราซี่ที่แต่งกายเหมือนกันโดยแอบมองภาพนั้นด้วยสายตาที่เหมือนมองเรื่องสนุกๆอยู่ก็ไม่ปาน
คาโอรุดึงสายที่มีแผ่นกลมสีขาวที่ติดตามตัวเซโตะออกจนหมดแล้วพยามเรียกให้เขาตื่นขึ้นมา เด็กหนุ่มผมแดงฟื้นขึ้นมาอย่างเพลียๆ ใบหน้าขาวซีด เรียกชื่อคาโอรุเบาๆ
"ไม่ต้องกลัวนะ ฉันมาช่วยแล้ว"
เด็กหนุ่มผมสีชาดลุกขึ้นยืนอย่างยากเย็นเพราะแทบไร้เรี่ยวแรง ถึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างที่ตนสลบอยู่ แต่ท่าทางสถานการณ์ตอนนี้มันดูจริงจัง คงไม่ใช่การแกล้งแผลงๆของผู้มีเนตรราตรีหรอก
"ฉันขอโทษจริงๆ" คาโอรุละล่ำละลักพูด "ฉันไม่น่าไว้ใจอัลลิวีนเลย"
เซดตะงุนงง หลายวันมานี้เขาหลับอยู่ตลอดจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ฟื้นอีกทีก็เจอคาโอรุที่ร้อนรนอยู่อย่างนี้แล้ว "เกิดอะไรขึ้น?"
"ไว้ค่อยอธิบาย"
คาโอรุตัดบทสั้นๆแล้วช่วยพยุงกลับไปตามทางเดิม เจ้าหน้าที่ของอัลลิวีนวิ่งเข้ามาหลังรู้เรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้น "ไม่ได้นะ ท่านคาโอรุ ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้นะ!"
คาโอริจัดการคนพวกนั้นอย่างชำนาญ แต่เจ้าหน้าต่างๆยังพุ่งมาขวางไม่หยุด แต่ทางออกไม่ได้มีแห่งเดียวนี่นะ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ