The Kid , No kid.
9.7
4) บทที่4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ทำไมมาที่แบบนี้กันล่ะ"
เซโตะเตะย้ำหิมะที่ทับถมอยู่บนต้นหญ้าไปมา ความหนาวทำให้ไม่มีดอกไม้อะไรสักอย่างบานเลย แถมความไกลของมันยังทำให้ใช้เวลามาก กว่าจะมาถึงก็พลบค่ำเข้าไปแล้ว หิมะและต้นไม้ที่เหมือนหลับไปหมดกับความมืด ทุกอย่างรวมกันแล้วอย่างกับจะหลุดไปในแฟนตาซีงั้นล่ะ!
กิ่งก้านของต้นไม้มีตะเกียงหนึ่งอันต่อหนึ่งต้น นอกจากมันจะมีไว้สร้างแสงสว่างแล้วมันยังเป็นการบอกด้วยว่าคนไปทางไหน เซโตะอดมองกลับไปด้านหลังไม่ได้ เส้นทางที่ถูกจุดตะเกียงแล้วช่างดูมหัศจรรย์เหลืิอเกิน
อย่างไรก็ดี เซโตะหาวหวอด ความหนาวของหิมะที่เริ่มโปรยลงมาช้าๆสร้างความหนาวเย็นเป็นทวี ยิ่งหนาวก็ยิ่งง่วง ในยามนี้เขาจึงไม่ปฏิเสธการอุ้มของคาโอรุ เด็กน้อยอยากนอนหลับซะแล้วสิ
แต่สิ่งที่กวนใจเขาไม่ให้นอนอย่างสบายคือการหยิกแก้มทุกๆครั้งที่ติดตะเกียงของผู้มีนัยย์ตาสีราตรี จนกระทั่ง ถึงบ้านพักที่สร้างจากไม้หลังเล็กๆ
ของพนันของเซโตะคือการไม่หยิกแก้มเขาอีก ส่วนของคาโอรุบอกว่าเป็นการไปที่แห่งหนึ่งด้วยกัน แน่ล่ะ ถ้าเขาชนะคงไม่ต้องโดนหยิกแก้มแบบนั้นหรอก ซ้ำยังไม่ต้องมาที่เย็นๆมืดๆนี่ด้วย
คาโอรุดึงสลักที่ทำด้วยไม้ไปมาอย่างคล่องแคล่วจนกระทั่งประตูเปิดออก ในบ้านหลังเล็กนั้นมีเตาผิงและฟูกนอนแบบญี่ปุ่นที่พับเก็บไว้ตรงมุมห้อง ดูจากปริมาณฝุ่นแล้ว เซโตะคาดไม่ถูกจริงๆว่าครั้งล่าสุดที่มีคนเข้ามามันคือหนึ่งหรือสองร้อยปีกันแน่
"ที่นี่พวกอัลลิวีนช่วยสร้างให้ฉัน ส่วนของคาโอริอยู่ที่ดินผืนข้างๆ ในนั้นมีแต่กับระเบิดไม่ก็อะไรแปลกๆ"
"แต่ที่ของนายมีแต่ตะเกียงหลอกเด็ก!"
เซโตะพูดเยาะๆตามวิสัย ก่อนจะรีบปิดปากเมื่อนึกถึงสวิทท์อาละวาดขึ้นมาได้ แต่คาโอรุอมยิ้มเล็กน้อย ดูเหมือนจะไม่โกรธ เขาอธิบายอย่างใจดีว่า
"ใครว่าไม่มีล่ะ ตะเกียงนั่นสำคัญมากนะ ต้องจุดตั้งแต่ต้นขวาแรกแล้วข้ามไปซ้ายแรก ต้นซ้ายต่อมาและข้ามไปต้นขวาที่สอง สลับไปมาอย่างนั้น หากทำพลาดเลเซอร์สีแดงจะวิ่งวนเพื่อตรวจจับทันที แล้วถ้าไม่ใช่ฉันกับคาโอริล่ะก็... เอาเถอะ นายไม่อยากรู้ผลลัพย์หรอก ถ้ารอดไปได้แล้วคิดแจ้งความก็ไร้ประโยชน์ อัลลิวีนมีเครือข่ายแฝงในองกรณ์หลายๆแห่ง"
เซโตะหาวปากกว้าง ขดตัวในอยู่ในอ้อมแขนของคาโอรุอย่างง่วงๆ แต่เขาก็อดถามไม่ได้ว่าอัลลิวีนนี่คืออะไรกันแน่ หากเดาไม่ผิดคงเป็นคนฉีดสวิสท์ระเบิดให้กับพวกคาโอรุเป็นแน่ เรื่องอย่างนั้นมีบ่อยในพวกองกรณ์ลึกลับในการ์ตูนล่ะ
แล้วคำถามคือถูกต้องเมื่อผู้มีนัยย์ตาสีราตรีพยักหน้า เขาจ้องเปลวเพลิงไหววูบ
"องค์กรอัลลิวีนทำงานกันอยู่หลายประเภท ตั้งแต่ทดลองยารักษาโรคจนถึงผลิตไวรัสอันตราย เป็นหน่วยรวบรวมข่าวสาีร แล้วบางส่วนก็ยังสร้างอาวุธจำหน่ายในประเทศที่มีสงคราม แต่หากเป็นอาวุธดีๆก็จะถูกเก็บไว้พัฒนาต่อไปอย่างเป็นความลับ เป็นองค์กรที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับรัฐใดๆทั้งสิ้น"
ตอนแรกเซโตะคิดว่าคงได้ข้อมูลเพียงผิวเผินหรือตอบปัดๆว่าเป็นองค์กรลับแห่งหนึ่งที่มีเป้าหมายหลายอย่าง ไม่นึกว่าคาโอรุจะรู้ดีและยอมอธิบาย
แต่พอถามเรื่องนั้น เจ้าตัวก็บอกว่าเป็นเพราะเซโตะรู้ไปก็ไร้ค่า เอาไปบอกใครๆก็คงถูกหาว่าดูการ์ตูนมากไปหรือไม่ก็คงโดนเก็บในเร็ววัน ฉะนั้น เงียบไว้จะดีกว่า
เซโตะพยักหน้า "นายกับน้องสาวเป็นสมาชิกเจ้าองค์กรลึกลับนั่นล่ะสินะ"
"เปล่า" คาโอรุกระพริบตาปริบ "แต่พ่อแม่ของฉันบริหารองค์กรนั้นอยู่ เรียกว่าไงดีล่ะ ผู้ก่อตั้งมั้ง?"
เด็กน้อยผมแดงจากที่ง่้วงๆอยู่ึถึงกับตัวแข็งทื่อ มองดูใบหน้าที่เจือไปด้วยรอยยิ้มละมุนและแววตาสดใสของคาโอรุที่มอบให้ในยามนี้ ดูยังไงๆก็ไม่ใช่คนที่จะเป็นทายาทผู้่สืบทอดองค์กรปริศนาได้เลยนี่นา คนเราดูกันจากภายนอกไม่ได้จริงๆสินะ เซโตะรู้สึกทันทีว่าคนท่าทางเหมือนคนในแก๊งยากูซ่าอย่างตนเองนี่แหละ ที่ซื่อตรงกับนิสัยจริงๆที่สุด!
คาโอรุจับความรู้สึกนั้นได้ก็ค้อนขวับทันที
"คิดอะไรอยู่นะ ลืมไปแล้วรึไงว่าฉันโดนจับฉีดสวิทช์อาละวาดตั้งแต่เด็ก เอ๊ะ...เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมนายรู้เรื่องนี้ได้ล่ะ"
เด็กน้อยตัดสินใจเล่าเรื่องการอาละวาดครั้งนั้นให้ฟัง ระหว่างนั้นก็คิดคำพูดปลอบไว้แล้ว ถึงมันจะฟังแล้วแปร่งๆไปหน่อย แต่ถ้าไม่ทำให้เสียใจถึงขั้นนั้นก็คงจะไม่มีปัญหา
แต่ดูเหมือนคาโอรุจะมีจิตใจเข้มแข็งกว่าที่เซโตะคิด ที่สำคัญคือการไม่โทษตัวเองมากจนเกินไปและสนใจจุดที่เด็กน้อยผมแดงปลอดภัยดีมากกว่า เซโตะแอบคิดในอีกแง่ว่าคาโอรุอาจชินกับเรื่องทำนองนี้เต็มทีแล้วก็ได้ นั่นสินะ โดนฉีดยาอย่างนั้นมาตั้งแต่เกิด ถ้าโทษตัวเองอย่างหนักทุกครั้งคงกลายเป็นโรคจิตเอาง่ายๆเลยนะนี่
คาโอรุลูบศีรษะเด็กน้อยแล้วหอมแก้มเบาๆอีกสักครั้งหนึ่งพลางพูดเรื่องที่ค้างไว้ต่อ "เพราะสวิทช์นั่น ฉันเลยไม่เคยคิดจะเข้าองค์กรเลยแม้แต่น้อย พวกพ่อแม่ก็คงรู้สึกผิดบ้างที่เอาเราไปฉีดอะไรประหลาดๆตั้งแต่เด็ก เวลาที่พวกเราต้องการอะไรจึงได้มาอย่างง่ายดาย เพื่อชดเชยในวัยเด็กที่เหมือนจะแปลกแยกกว่าคนอื่นนะ"
"เพราะงั้นนายเลยอยากให้ฉันไปเข้าโปรแกรมปรับพฤติกรรมอะไรนั่นงั้นสินะ"
คาโอรุกระพริบตาสองสามทีอย่างงุนงง ก่อนจะนึกว่าเซโตะหมายถึงอีกคนที่เป็นวัยรุ่น เขาจึงพยักหน้า "มันก็ใช่นะ ถ้าเขาลดความรุนแรงลงได้อาจจะมีเพื่อนก็ได้นี่นา"
เด็กน้อยผมแดงขดตัวอีกครั้งแล้วพูดอย่างเบื่อๆ "แต่ฉันไม่ได้อยากปรับพฤติกรรมอะไรนั่นนี่ แล้วถ้าฉันต้องปรับจริงๆ นายจะมาเลี้ยงฉันอย่างนี้รึไงกันเล่า"
"ก็เซโตะคุงไม่ใช่เซโตะงี่เง่านี่นา"
เด็กน้อยผมแดงคิ้วกระตุกแล้วตัดสินใจนอนขดอย่างสบายบนตักของคาโอรุแทนการโมโห แน่ล่ะ สภาพน่าเอ็นดูเช่นนี้ช่างน่าหยิกแก้มจริงๆ
แต่อีกด้านหนึ่ง สาวผมทองมองลอดหน้าต่างเข้ามา ลมหายใจของเธอทำให้เกิดฝ้าบนกระจกใสซึ่งกันกระสุนเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่ภายใน เส้นผมสีทองของเธอโบกพัดไปตามสายลมของพายุหิมะ ดวงตาสีแดงเชอรี่คู่นั้นจ้องมองพวกเขา เมื่ออ่านความรู้สึกจากสายตาที่จ้องมองเด็กน้อย โรซารี่ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
เป็นแบบนี้ต่อไปก็คงไม่แคล้วกลายเป็นลูกบุญธรรมไปนะสิ!
คำแนะนำจากคุณย่าร้านทำนายดวงคือหนุ่มสาวล้วนคู่กันฉันท์ใด คนวัยเดียวกันก็คู่กันฉันนั้น ยกเว้นพวกโชตะ (ชอบเด็กผู้ชายอายุน้อย) กับโลลิ (ชอบเด็กผู้หญิงอายุน้อย) ปัญหาคือเซโตะเป็นเด็กอยู่นี่สิ จะเชียร์อัพให้คาโอรุไปใจเต้นตึกตักกับเด็กนี่มันก็ยังไงๆอยู่นา...
ในตอนนั้น โซราซี่ผู้มีผมทองปล่อยสยายไปตามสายลมไม่มัดแกละอย่างโรซารี่ถึงกับถอนหายใจ กอดอกพูดกับเพื่อนสาว
"อย่าว่าแต่รู้สึกอะไรเลย คาโอรุคุงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซโตะคุงเป็นใคร เอาแต่คิดว่าเป็นเด็กที่พยามเลียนแบบผู้ใหญ่หรือไม่ก็เลียนแบบเซโตะคุงเวอร์ชั่นวัยรุ่น แถมตัวเซโตะคุงเองยังไม่รู้สึกอะไรกับคาโอรุคุงเลย ถ้ารู้สึกยังพอมีหวัง แต่นี่มัน... เฮ้อ!"
โรซารี่เหล่ๆมองคนข้างกายแล้่วกอดอกพูดยิ้มๆ "อะไรกัน พวกแอนตี้ความรักอย่างนาย รู้จักมันด้วยรึไงยะ?"
"ต้อง 'เธอ' สิ ฉันเป็นผู้หญิงนะ!"
โซราซี่กอดอกตวาดเบาๆอย่างโมโห เธอทิ้งความเป็นผู้ชายแล้วก้าวเข้าสู่ความเป็นสาวน้อยอย่างเต็มตัวทั้งหน้าตาเสียงและจิตใจ ทำไมเจ้าคนที่คบหากันฉันมิตรมานานถึงได้ขยันเอาธนูมาปักจึกกันนักนะ!
อย่างไรก็ดี เด็กสาวเพศที่สามก็แนะนำว่าควรจะทำให้ทั้งสองคนได้ผูกสัมพันธ์ในร่างจริงอย่างที่คุณย่าร้านทำนายดวงแนะนำก่อนคงจะเป็นการดีที่สุด
โรซารี่ถอนหายใจหยิบเอานาฬิกาพกของเล่นที่ทำจากพลาสติกสีแดงสดใสเหมาะกับวัยต่ำกว่าห้าขวบสูงกว่าสามปีเป็นอย่างยิ่ง เธอคิดไปคิดมาแล้วเอากระดาษของขวัญมาห่ออีกหน่อยและประดับด้วยริบบิ้นสีสวย ติดการ์ดเล็กๆว่าเป็นของขวัญส่งถึงเซโตะและคำอธิบายการใช้ก็หย่อนลงไปในกล่องนั้นแล้ว
โซราซี่กอดอกมองแผนการซานตาคลอสของเพื่อนสาวที่ขึ้นไปใกล้ถึงปล่องไฟแล้วเตือนด้วยความหวังดีว่าในอากาศหนาวๆที่เตาผิงติดอยู่แบบนี้ ถ้าหย่อนลงไปก็เหลือแต่เถ้าถ่านแน่นอน
"แหะๆ" เด็กสาวผมทองยิ้มแหย "ลืมง่ะ"
โรซารี่จึงจัดการนำมันไปวางไว้เฉยๆหน้าประตูบ้าน รอให้เด็กน้อยผมแดงตื่นขึ้นมาหยิบในตอนเช้า มันคงเป็นอะไรที่น่าสนใจสุดๆแน่นอน!
แต่จนแล้วจนรอด พายุหิมะก็ยังคงกระหน่ำ อาหารเช้าในบ้านไม้ถูกทำขึ้นอย่างง่ายๆแต่อร่อย ฟืนและเสบียงมีอีกเหลือเฟือเกินกว่าจะต้องกังวล ความจริงแล้วมันเพียงพอสำหรับสามวันด้วยซ้ำ แน่ล่ะ ในบ้านมีกิจกรรมอะไรให้ทำตั้งเยอะ ใครจะอยากออกมานอกบ้านกัน รวมทั้งเปิดประตูบ้านด้วยล่ะนะ แต่แบบนี้ของขวัญที่เซโตะควรได้รับเมื่อไหร่จะถูกแกะกัน
"ฮะ...ฮัดชิ้ว! เธอ...เธอว่าเราควรเคาะประตูจริงๆเหรอ" โรซารี่ตัวสั่นงันงกหลังจากที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้อยู่นานเพื่อรอดูสีหน้าความแปลกใจของเซโตะ แต่เขาก็เหมือนจะไม่รู้ตัวสักที "แต่...แต่การเซอร์ไพรซ์ล่ะ!"
โซราซี่มองเพื่อนสาวอย่างหงุดหงิดแล้วปั้นหิมะกลมๆหนาๆแล้วเตะเต็มแรงให้มันไปโดนประตูจนเกิดเสียงดัง ผลจากการกระทำนั้นคือการที่คาโอรุตัดสินใจเดินออกมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ความรู้สึกของคนที่ยืนใต้ต้นไม้โดยมีพายุหิมะเป็นเครื่องประกอบตลอดหลายชั่วโมงคือ...
ทำไมไม่แบบนี้ตั้งแต่แรกนะ!
คาโอรุขมวดคิ้วกับกองหิมะที่เหมือนไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่นักแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ เขายกกล่องของขวัญเล็กๆไปให้เซโตะตามที่จ่าหน้าซอง
"แปลกมาก ใครส่งมาน่ะ?"
คาโอรุพึมพำ ถึงแม้ว่าจะตรวจสอบดีว่าไม่มีวัตถุแปลกปลอมก็เถอะ แต่ที่นี่มันเป็นสถานที่ลับของเขานะ จะรู้วิธีจุดไฟตะเกียงได้ไง ถ้าหากว่าย่องตามมาตอนที่เขาจุดไฟในตะเกียงตอนแรกก็คงจะรู้ตัวบ้าง แต่ถ้าไม่มีเจตนาร้ายทำไมไม่เรียกแล้วยื่นให้เลยล่ะ จะลำบากเอามาวางแล้วย่องออกไปเงียบๆทำไมกัน?
คำตอบความว้าวุ่นใจของคาโอรุเขียนอยู่ในจดหมายที่แนบมาด้วย เซโตะอ่านเสียงดังฟังชัด
"ฮ่าฮ่าฮ่า ตกใจล่ะสิ นี่คือนาฬิกาพกสำหรับดูเวลาจากร้านสายฝนและลูกเห็บ เก็บไว้ดีๆนะ ปล.ถ้านายเป็นปกติเมื่อไหร่อย่าลืมพาคาโอรุคุงไปเลี้ยงข้าวซะนะ ปล.สอง เซอร์ไพรซ์ล่ะสิ ตกใจมากใช่ไหม แล้วก็ตัวเลขห้าห้าห้าบวก ฝีมือยัยเพี้ยนโรซารี่!"
ข้างนอกมีใครคนหนึ่งกำลังจามอยู่ ไม่รู้เป็นเพราะความหนาวหรือคนนินทา...
คาโอรุพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่ไว้ใจผู้หญิงผมทองคนนั้นเลย ตั้งแต่ตอนที่มาหาเซโตะครั้งแรกที่บ้านของเขาแล้ว ไหนจะเรื่องการมาที่นี่อีก บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นคนของอัลลิวีนที่ถูกส่งมาทำภารกิจพิเศษอะไรบางอย่างก็เป็นได้
"พิเศษยังไงล่ะ"
เซโตะทำหน้าสงสัย หรือว่าสืบว่าทำไมเขาถึงตัวหด? โอ้ ถ้าเช่นนั้นก็สืิบมาได้เลย! ถ้าเป็นพวกองค์กรประหลาดๆแบบในการ์ตูนต้องหาทางแก้ได้แน่นอน ถึงตอนนั้นเขาก็จะกลับมาเป็นเซโตะคนเดิมที่แข็งแรงและตัวสูง ไม่ต้องโดนหยิกแก้มโดยเรียกร้องอะไรไม่ได้!
"ฉันไม่รู้ว่าอัลลิวีนตรวจสอบสถานะของนายว่ายังไง แต่ไหนแต่ไร เพื่อนของฉันจะถูกตรวจสอบประวัติอย่างลับๆ แน่นอน พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวนี่นา จะได้มีประวัติเกิดอยู่ที่ดาวอาบูดาบี้ที่ไหนไม่รู้นะ แต่บางทีหนึ่งในพวกนั้นก็มีพวกน่าสนใจ เช่นคนที่มีประวัติว่าในครอบครัวมีอะไรพิเศษ เช่นเป็นนักวิทยาศาสตร์อนาคตไกลหรือว่ามีพลังจิต พวกนั้นจะถูกจับไปบ้าง จนฉันทนไม่ไหวแล้วเข้าสู่โหมดสวิทช์ พวกเขาถึงได้ยอมหยุดทำเรื่องแบบนั้น แต่ไม่รู้ว่าเซโตะคุงจะมีอะไรแบบนั้นหรือเปล่า ไม่มีหรอกเนอะ!"
เซโตะบอกไม่ถูกว่าการที่ตัวหดมันเป็นพลังเหนือธรรมชาติหรือว่าพลังวิทยาศาสตร์กันแน่ แต่ตอนนี้ส่ายหน้าไว้ก่อนแล้วกัน
แต่ครั้นจะบอกว่าโรซารี่เป็นสมาชิกองค์กรอัลลิวีนก็ออกจะแปลกๆไปสักนิดนะ ก็ในเมื่อ 'คุณหนู' ก็อยู่ด้วย แต่สาวผมทองคนนั้นไม่เคยแสดงความนับถือหรืออะไรทำนองนั้นเลย หรือว่าในองค์กรนั้นเขาปฏิบัติกันฉันท์มิตร ไม่ใช่เจ้านายกับลูกน้องนะ?
เมื่อเห็นเซโตะนั่งเหม่อไปนาน คาโอรุก็เผยยิ้มบางๆพลางลูบศีรษะไปมา บอกว่าจะตรวจสอบเรื่องนั้นให้ ถึงอัลลิวีนจะทำอะไรโดยพลการ แต่ก็ดีอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ไม่เคยปิดบังเวลาถามอะไร หากถามเรื่องเด็กผู้หญิงผมทองคนนั้นก็คงจะรู้เรื่องในไม่ช้า
อย่างไรก็ดี คาโอรุขอนาฬิกาพลาสติกสีแดงไปตรวจดูสักหน่อย มีช่องใส่ถ่านตามปกติื แต่อย่างหนึ่งที่ไ่ม่ปกติคือเข็มที่ต่อให้ปรับกี่ครั้งๆก็จะหมุนวนติ้วๆแล้วกลับมาอยู่จุดเดิมเสมอ
"อีกสามชั่วโมงจะเลขสิบสอง แปลกจัง นี่มันตั้งเวลาไว้ไม่เที่ยงเลยนะ"
เซโตะขมวดคิ้ว "ยัยโรซารี่น่าหมั่นไว้คนนั้นบอกว่าเป็นนาฬิกาสำหรับดูเวลา หรือว่าจะเป็นเวลาสำหรับอะไรสักอย่างรึเปล่า?"
การรอคอยอยู่หน้าเตาผิงเป็นอะไรที่ชวนง่วงจริงๆ สุดท้าย เด็กน้อยผมแดงก็นอนหลับไปพร้อมกับพี่เลี้ยงจำเป็นนั้นเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ