คลื่นรักทะเลหวาน
-
4) ทะเลเดือด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความครึ่งชั่วโมงอันเเสนยาวนานของเมฆรินทร์ผ่านไปพร้อมกับเสียงเรือเเละลมทะเล เวลานี้เธอทั้งหิ้วทั้งเหนียวตัว ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าขากลับจะใช้เวลานานเหมือนขามา เธอคงจะทานอะไรรองท้องมาก่อน ดีที่ว่าเรือลำนี้ยังมีห้องเเอร์ให้ได้หลบลมทะเล เเต่ไอ้ห้องนี้ก็เล็กเเสนเล็กเเถมยังมีเพื่อนร่วมห้องเป็นคนขับเรือตัวเหม็นอีกต่างหาก ทำไมวันนี้ไม่มีอะไรได้ดั่งใจซักอย่างนะ
“คุณเมฆรินทร์ชอบเกาะไข่มุกมั้ยครับ” นิ่งนทีรวบรวมความกล้าเปิดบทสนทนาขัดความเงียบ
“ก็สวยดี เเต่ให้กลับมาอีกก็คงไม่ไหว ไกลความเจริญ” เธอตอบโดยไม่เเม้เเต่จะมองหน้าผู้ถาม
“ชาวบ้านบนเกาะไข่มุกรักความสงบเเละรักสันโดษครับ กองละครคุณก็เป็นเจ้าเเรกนี่เเหละที่มาสร้างความอึกทึกครึกโครมให้รำคาญใจ” นิ่งนทีเริ่มจะหมดความอดทนเมื่อได้ยินคำวิจารณ์ไม่เข้าหูต่อเกาะของปู่ผู้เป็นที่รักของเขา
“พวกชั้นต่างหากมั้งที่ต้องพูดว่ารำคาญใจ จะถ่ายละครเวลาไหนอึกทึกยังไงชั้นก็เห็นชาวเกาะอย่างพวกนาย มุงกันตลอดเวลา เธอควรจะขอบคุณพวกชั้นมากกว่านะที่นอกจากจะนำละครมาให้ดูถึงที่ ยังนำรายได้มาให้พวกเธออีก ” เมฆรินทร์ยืนขึ้นพูดด้วยความขัดใจ
“ ขอบคุณในความกรุณามากครับ คุณนางเอกเเสนสวย” นิ่งนทีหยุดการขับเรือชั่วขณะเเละหันหน้ามามองหน้าเมฆรินทร์ตรงๆ “คุณสวยจริงๆนะ เวลาที่ไม่เปิดปากพูดออกมา”
เกิดมาเมฆรินทร์ก็พึ่งได้ยินคนกล้าต่อว่าซึ่งๆหน้าก็วันนี้ เธอโกรธจนลืมตัว เดินไปชี้หน้านิ่งนที
“นายกล้าดียังไงกล้ามาต่อว่าคนอย่างชั้น” เมฆรินทร์ขึ้นเสียง “เป็นเเค่คนขับเรือซกมก อยู่ดีๆส้มหล่นมีคนดังมาใช้บริการเเถมค่าจ้างอีกห้าเท่า ยังจะกล้ามาวิจารณ์ชั้นอีก คนระดับล่างเเบบนายเเม้เเต่จะคิดว่าชั้น มันก็ไม่มีสิทธิ์เเล้ว” เธอเถียงหน้าดำหน้าเเดงจนไม่เห็นว่าบัดนี้นิ่งนทียืนประชิดเธอใกล้เเค่คืบเท่านั้น
“ผมไม่มีสิทธิ์คิดเเต่มีสิทธิ์ทำใช่มั้ย” พูดไม่ทันจบนิ่งนทีก็คว้าตัวเมฆรินทร์เข้ามาประชิดออก ใบหน้าของเค้าซุกไซร้ไปที่ซอกคอเนียนละเอียด สูดกลิ่นตัวเธอเข้าเต็มปอด
“กรี๊ดดดด ไอ้คนบ้า ไอ้โรคจิต ออกไปนะ” เมฆรินทร์ทั้งทุบทั้งดันนิ่งนทีให้ออกไป เเต่ร่างกายเเกร่งดั่งภูผาหาได้สะเทือนไม่ เค้ายิ่งซุกไซร้ซอกคอเธอเเรงขึ้น มือสองข้างเคล้าคลึงสลับไปมาระหวางหลังบางเเละบั้นท้ายกลมมน สัมผัสนุ่มละมุนเเละกลิ่นหอมอ่อนๆยิ่งทำให้เค้าลืมตัวกอดเธอเเน่นยิ่งขึ้น วงเเขนเเข็งเเรงของเค้ารัดร่างบางจนเเทบละเอียด ยิ่งบวกกับกระเพาะอาหารที่ว่างเปล่า เเละกลิ่นตัวของนิ่งนที เมฆรินทร์ก็เเทบจะยืนไม่อยู่
“อะ อะ ออก ปะ ปะ ไป” เมฆรินทร์ไล่ส่งตะกุกตะกักเพราะร่างที่โดดรัดจนหายใจไม่ออก บวกกลับกลิ่นตัวหนุ่มชาวเลที่ทำให้เธอสำลัก เธอหน้ามืดล้มพับไปในวงเเขนของนิ่งนที
“อ้าว หมดฤทธิ์ซะเเล้ว” นิ่งนทีก้มลงมองใบหน้านวลที่บัดนี้สีเลือดฝาดจางหายไปหมด เขาจึงอุ้มเธอไปนอนบนโซฟาตัวยาวที่ปรับเเต่งเป็นเตียงเล็กๆได้ หลังพวงมาลัยบังคับเรือ “เราเหม็นจนทำคนเป็นลมเลยเหรอวะเนี่ย”
“คุณเมฆรินทร์ชอบเกาะไข่มุกมั้ยครับ” นิ่งนทีรวบรวมความกล้าเปิดบทสนทนาขัดความเงียบ
“ก็สวยดี เเต่ให้กลับมาอีกก็คงไม่ไหว ไกลความเจริญ” เธอตอบโดยไม่เเม้เเต่จะมองหน้าผู้ถาม
“ชาวบ้านบนเกาะไข่มุกรักความสงบเเละรักสันโดษครับ กองละครคุณก็เป็นเจ้าเเรกนี่เเหละที่มาสร้างความอึกทึกครึกโครมให้รำคาญใจ” นิ่งนทีเริ่มจะหมดความอดทนเมื่อได้ยินคำวิจารณ์ไม่เข้าหูต่อเกาะของปู่ผู้เป็นที่รักของเขา
“พวกชั้นต่างหากมั้งที่ต้องพูดว่ารำคาญใจ จะถ่ายละครเวลาไหนอึกทึกยังไงชั้นก็เห็นชาวเกาะอย่างพวกนาย มุงกันตลอดเวลา เธอควรจะขอบคุณพวกชั้นมากกว่านะที่นอกจากจะนำละครมาให้ดูถึงที่ ยังนำรายได้มาให้พวกเธออีก ” เมฆรินทร์ยืนขึ้นพูดด้วยความขัดใจ
“ ขอบคุณในความกรุณามากครับ คุณนางเอกเเสนสวย” นิ่งนทีหยุดการขับเรือชั่วขณะเเละหันหน้ามามองหน้าเมฆรินทร์ตรงๆ “คุณสวยจริงๆนะ เวลาที่ไม่เปิดปากพูดออกมา”
เกิดมาเมฆรินทร์ก็พึ่งได้ยินคนกล้าต่อว่าซึ่งๆหน้าก็วันนี้ เธอโกรธจนลืมตัว เดินไปชี้หน้านิ่งนที
“นายกล้าดียังไงกล้ามาต่อว่าคนอย่างชั้น” เมฆรินทร์ขึ้นเสียง “เป็นเเค่คนขับเรือซกมก อยู่ดีๆส้มหล่นมีคนดังมาใช้บริการเเถมค่าจ้างอีกห้าเท่า ยังจะกล้ามาวิจารณ์ชั้นอีก คนระดับล่างเเบบนายเเม้เเต่จะคิดว่าชั้น มันก็ไม่มีสิทธิ์เเล้ว” เธอเถียงหน้าดำหน้าเเดงจนไม่เห็นว่าบัดนี้นิ่งนทียืนประชิดเธอใกล้เเค่คืบเท่านั้น
“ผมไม่มีสิทธิ์คิดเเต่มีสิทธิ์ทำใช่มั้ย” พูดไม่ทันจบนิ่งนทีก็คว้าตัวเมฆรินทร์เข้ามาประชิดออก ใบหน้าของเค้าซุกไซร้ไปที่ซอกคอเนียนละเอียด สูดกลิ่นตัวเธอเข้าเต็มปอด
“กรี๊ดดดด ไอ้คนบ้า ไอ้โรคจิต ออกไปนะ” เมฆรินทร์ทั้งทุบทั้งดันนิ่งนทีให้ออกไป เเต่ร่างกายเเกร่งดั่งภูผาหาได้สะเทือนไม่ เค้ายิ่งซุกไซร้ซอกคอเธอเเรงขึ้น มือสองข้างเคล้าคลึงสลับไปมาระหวางหลังบางเเละบั้นท้ายกลมมน สัมผัสนุ่มละมุนเเละกลิ่นหอมอ่อนๆยิ่งทำให้เค้าลืมตัวกอดเธอเเน่นยิ่งขึ้น วงเเขนเเข็งเเรงของเค้ารัดร่างบางจนเเทบละเอียด ยิ่งบวกกับกระเพาะอาหารที่ว่างเปล่า เเละกลิ่นตัวของนิ่งนที เมฆรินทร์ก็เเทบจะยืนไม่อยู่
“อะ อะ ออก ปะ ปะ ไป” เมฆรินทร์ไล่ส่งตะกุกตะกักเพราะร่างที่โดดรัดจนหายใจไม่ออก บวกกลับกลิ่นตัวหนุ่มชาวเลที่ทำให้เธอสำลัก เธอหน้ามืดล้มพับไปในวงเเขนของนิ่งนที
“อ้าว หมดฤทธิ์ซะเเล้ว” นิ่งนทีก้มลงมองใบหน้านวลที่บัดนี้สีเลือดฝาดจางหายไปหมด เขาจึงอุ้มเธอไปนอนบนโซฟาตัวยาวที่ปรับเเต่งเป็นเตียงเล็กๆได้ หลังพวงมาลัยบังคับเรือ “เราเหม็นจนทำคนเป็นลมเลยเหรอวะเนี่ย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ