คลื่นรักทะเลหวาน

-

เขียนโดย Tietie

วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 21.38 น.

  4 ตอน
  2 วิจารณ์
  10.02K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บนผืนทรายเดียวกัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“ นายเล็กครับ นายเล็กครับ” เสียงของชะเอม ทำให้นิ่งนทีหลุดจากภวังค์ หันไปมองหน้าลูกน้องคู่ใจ

“ นายใจลอยไปไหนครับ ผมเห็นนายอ่านหนังสือพิมพ์หน้านี้ น๊านนาน ใครเรียกก็ไม่ได้ยิน นายอ่านจบยังครับ ผมจะได้เอาไปยัดหัวรอก มันหลวมๆเดี๋ยวอวนหน้ากู้ปลามาเเล้วมันจะชักไม่ขึ้น

“ เออ เออ อ่านจบละ เอ็งเอาไปได้เเต่หน้านี้ข้าขอ” นิ่งนทียื่นหนังสือพิมพ์ให้ชะเอมเเต่อีกมือฉีกหน้าปกออกมาหนึ่งใบ

“หน้านี้มันใบ้หวยเหรอนาย” ด้วยความไวชะเอมก็ยื่นหน้าไปดูกระดาษในมือนายเล็กสุดบูชา “

“ โอ้เเม่เจ้าโว้ย นี่มันนางฟ้านางสวรรค์มาเกิดรึวะเนี่ย สวย ขาว อิ๋ม เต็มไม้เต็มมือเเท้โว้ย” ชะเอมอุทานด้วยความชอบใจเมื่อเห็นว่ากระดาษในมือนายเล็ก คือรูปหญิงสาวสวยสะดุดตา

 

“ เฮ้ยๆๆ ทะลึ่งไปเเล้วเอ็ง” นิ่งนทีพูดพร้อมกับยกเท้าถีบ ชะเอมหลบทันอย่างคนรู้ทาง หัวเราะให้เเหะๆ

“ นายเล็กชอบทำไมไม่ไปบอกนายหัวให้ไปขอมาทำเมียล่ะครับ จะมานั่งดูกระดาษอยู่ทำไม” คนรวยนี่ก็เเปลกเว้ย มีเเต่ผู้หญิงวิ่งเข้าใส่ก็ไม่เอา หนีมาเป็นชาวประมงตะกายฝาดูรูปดารา ชะเอมคิด

“ทำไมวะ คนอย่างข้านี่มันไม่มีปัญญาหาเมียเองรึไง ต้องไปพึ่งปู่อย่างเดียว” นิ่งนทีพับรูปใส่กระเป๋าเสื้อ  “ ข้าก็มีวิธีหาเมียในเเบบของข้า ดิบๆเถื่อนๆเเบบนี้ล่ะเว้ย จริงใจดี”  นิ่งนทียิ้มพร้อมเอามือลูบอก

“ดิบๆเถื่อนๆเเบบนายก็มีเเต่พวกสาวซ่องบนฝั่งล่ะครับ ที่มันชอบ นายขึ้นฝั่งไปทีไรมันเเทบจะตบเเย่งกันมาบริการนายเล็ก”  ชะเอมบุ้ยปากไปทางท่าเรือ “ ส่วนนางฟ้าในทีวีคนเนี้ย เเค่เค้าได้กลิ่นนายเค้าก็วิ่งหนีไปเเล้วล่ะครับ” พูดจบชะเอมก็วิ่งปรู๊ดไปห้องเครื่องเรือก่อนที่จะถูกบาทานายที่รักยันตกทะเล

 

เมื่อได้อยู่คนเดียว นิ่งนทีก็หยิบหนังสือพิมพ์ที่พับเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมาดู ทำไมนะเค้าผ่านผู้หญิงมาก็มากทั้งพวกสาวบาร์ นางโลม ผู้ดีมีอันจะกิน หรือเเม้กระทั่งนางเเบบหัวทอง เเต่ไม่มีใครดึงดูดใจได้มากเท่าผู้หญิงในหน้าหนังสือพิมพ์คนนี้เลย เเค่เห็นหน้าตัวก็ร้อนวูบวาบ มวนท้อง ใจสั่น

 

 “ เมฆรินทร์ นาคะเดชา  ดารานางเเบบเเม่เหล็กใหญ่ของวงการทีวี” เธออยู่ในจอ ชั้นอยู่ในน้ำ โอกาสที่เราจะเจอกันมันคงเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย  นิ่งนทีคิด

เสียงเฮดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อผู้กำกับสั่งคัต ฉากสุดท้ายอันเป็นฉากอวสารของละครหลังข่าวยอดฮิต

 

“เฮ้ยย พวกเรา เสร็จกันซักทีนะ เเบบนี้มันต้องฉลองกันหน่อย ใช่มั้ย”  อมรถามคำถามที่เค้ารู้คำตอบอยู่เเล้วว่าคนในกองถ่ายของเขาจะตอบว่าอะไร

“ใช่” ทุกคนในกองถ่ายผสานเสียงเเทบจะพร้อมกัน

“เย็นนี้ พี่จัดเรือของรีสอร์ทพาพวกเราล่องทะเลช่วงหัวค่ำ เริ่มจากตกปลาตกหมึกกัน เเล้วบาร์บีคิวกันบนเรือ กินกันดื่มกันให้เต็มที่ ถึงเช้าเลยยังได้ อมรจัดเต็ม” สิ้นเสียงของอมร เสียงเฮ เสียงไชโยก็ตามมา

 

 

พนักงานกองถ่าย ดารา ตัวประกอบทุกคน ล้วนเเต่ตื่นเต้นกับทริปเล็กๆของอมรค่ำนี้ พวกเขารู้ว่า ขึ้นชื่อว่าอมรจัด ไม่มีอะไรจะไม่อลังการ ดูเอาเถอะเเค่ฉากอวสารของละครตอนเดียว ยังหอบลูกน้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงเกาะทางใต้  ทริปบาร์บีคิวเย็นนี้ก็คงจะเหมือนกัน ทั้งเครื่องดื่ม เเสงสี สิ่งสังสรรค์คงจะเต็มรูปเเบบตามเเนวของอมร

 

จะมีก็เเต่เมฆรินทร์เท่านั้นที่ไม่ได้ดีใจตามคนอื่นไปด้วย เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าอมรโง่หรือบ้าที่คิดเรื่องการจัดปาร์ตี้บนเรือ อยู่เกาะอยู่ทะเลตากลมทะเลเค็มๆมาสามวันเต็มๆ เเทนที่งานเสร็จจะรีบกลับกรุงเทพหาที่ฉลองดีๆสวยๆ กลับต้องมาติดเเหง็กอยู่ที่ทะเลอีกคืน เเถมยังจะออกไปลอยเท้งเต้งกินอาหารกลางทะเลอีกต่างหาก  คงได้เหม็นคาวกลิ่นทะเลกันเเทบจะเป็นลมเเถมยังเหนียวเนื้อตัวอีกด้วย

 

ความหงุดหงิดของเมฆรินทร์จากเรื่องโบตั๋นช่างเเต่งหน้าบวกกับอาการไม่สบอารมณ์เเผนดินเนอร์ของอมร ทำให้เธอฝืนใจมองหน้าทุกคนในกองถ่ายอีกไม่ไหว อาการดีใจตื่นเต้นของทุกคนมันยิ่งทำให้ใจเธอขุ่นลงเรื่อยๆ 

“ใครจะไปก็ไปเถอะ เมฆขอตัว” เธอพูดโดยไม่สนว่าใครจะได้ยินหรือไม่ หรือจะรู้สึกอะไร เมฆรินทร์ไม่เเม้เเต่จะหยุดรอคำถามหรือคำตอบ พูดจบเธอก็เดินลิ่วกลับไปห้องพักเธอทันที

 

“องค์ลงอีกเเล้วเว้ยเเม่นางเอก” เสียงคนในกองคนหนึ่งลอยมา

“ช่างเเม่งเหอะ ไม่ไปก็ดีเเล้ว เดี๋ยวเเม่มีปัญหาอีก จะหมดสนุกกันไปหมด” พนักงานจัดเเสงเสริม

 

เมื่อเเสงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า บรรยากาศในรีสอร์ทบนเกาะ “ไข่มุก”ก็ยิ่งเงียบสงัด ด้วยเกาะนี้เป็นเกาะส่วนบุคคล ถึงจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับเกาะอื่นๆทางชายเเดนไทย มาเลเซีย เเต่ธุรกิจทุกอย่างของเกาะนี้อยู่ภายใต้การดูเเลของบุคคลเพียงคนเดียว คือนายหัวนที วิษณุรักษ์ เจ้าของเกาะไข่มุก รีสอร์ท ท่าเรือไข่มุก เเละ โรงงานอาหารทะเลเเช่เเข็งบนชายฝั่งจังหวัดสตูล ธุรกิจของท่านยังรวมไปถึงเหมืองเเร่ เเละกิจการประมง อีกหลายจังหวัดทางภาคใต้ ตัวนายหัวเเม้จะอายุเกือบเเปดสิบเเล้วเเต่ยังเเข็งเเรงอยู่มาก ด้วยตัวท่านเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ เเบบชาวพุทธที่อยู่เเบบสมถะเเละถือสันโดษ ผิดกับลูกชายคนเดียวของท่าน คือ นายใหญ่ “ น่านนที วิษณุรักษ์” ที่เป็นหนุ่มสังคมหัวสมัยใหม่ ชอบเทคโนโลยีที่ทันสมัยเเบบฝรั่งมังค่า จนครั้งนึงเกือบทำให้พ่อลูกมองหน้ากันไม่ติด เพราะนายใหญ่น่านนที คิดจะขุดเกาะไข่มุกครึ่งเกาะเพื่อทำwalk-in aquarium (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใต้ทะเล) เเต่ยังไม่ทันได้ลงมือ นายใหญ่กับคุณนายฝรั่งก็เสียชีวิตไปซะก่อนจากการขาดอากาศหายใจเนื่องมาจากระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้อง ระหว่างลงเรือดำน้ำไปดูงานเรื่องขุดเจาะใต้ทะเลที่ประเทศรัสเซียเมื่อยี่สิบปีก่อน ทิ้งหลานชายอายุสิบสองปีไว้ให้นายหัวดูต่างหน้า  นายหัวจึงเลี้ยงดูหลานชายมาเเบบให้รักธรรมชาติ เน้นความเรียบง่ายในเเบบของท่าน หนำซ้ำยังให้ห่างไกลเทคโนโลยีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้  ด้วยเหตุนี้เกาะไข่มุก จึงไม่มีผับ บาร์ ไม่มีอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ หรือ สิ่งก่อสร้างใดๆที่ทำลายธรรมชาติหรือต้องพึ่งเทคโนโลยีสมัยใหม่จนเกินไป ในรีสอร์ทติดตั้งถังบำบัดน้ำเสีย เเละห้องเเยกขยะ เเม้กระทั่งเรือหาปลาทุกลำของนายหัว ก็ไม่มีการใช้น้ำมันที่มีสารตะกั่วหรือเครื่องช๊อตปลา

 

ข้อมูลต่างๆเหล่านี้ทำให้เมฆรินทร์ถอนใจเฮือก  เธอรู้สึกวังเวงพิกลเมื่อพวกกองถ่ายละครพร้อมใจไปลงเรือฉลองกันหมดจึงเดินออกมาทักทายพนักงานรีเซพชั่น เวลายังไม่ถึงสองทุ่มด้วยซ้ำเเต่รีสอร์ทนี้เงียบเหมือนกับมีเธอเหลือเพียงคนเดียว เมฆรินทร์เกลียดความเงียบเพราะมันทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยว เเม้เธอจะชินกับการอยู่คนเดียวมาตั้งเเต่วัยรุ่นเพราะพ่อกับเเม่ย้ายไปลงหลักปักฐานที่เเอฟริกาใต้เพื่อดูเเลธุรกิจอัญมณี เเต่เมฆรินทร์ก็สามารถรับมือกับความว้าเหว่ได้เสมอ เพราะหากเธอว่างจากงานถ่ายเเบบถ่ายละครเมื่อไหร่ เพ้นท์เฮ้าส์ที่กรุงเทพของเธอก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันให้เธอได้ฆ่าเวลา ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ มือถือ ห้องซาวน่า โฮมเธียร์เตอร์ เเต่รีสอร์ทบนเกาะไข่มุกนี้ ไม่มีอะไรซักอย่างที่จะทำให้เธอหายเหงา ไม่มีทีวี ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต ยังดีที่มีไฟฟ้ากับสัญญาณมือถือบ้างติดๆดับๆ ไม่เช่นนั้นเธอคงขาดใจตาย  กว่าเรือของพวกกองถ่ายจะกลับมาก็คงจะเลยเที่ยงคืน เธอจะอยู่ได้ยังไงในสถานที่เงียบๆที่เทคโนโลยียังมาไม่ถึง ไม่ใช่สิไม่ยอมให้ความสมัยใหม่เข้าถึงต่างหาก

 

“ที่รีสอร์ทนี่มีบริการรับส่งลูกค้าไปฝั่งเเบบเช่าเหมาลำมั้ยคะ” เธอถามพนักงานต้อนรับทันทีที่ได้ทราบข้อมูลประวัติความเป็นมาของเกาะห่างความเจริญ

“มีค่ะ เเต่มีถึงเเค่หกโมงเย็น ตอนนี้ทุ่มครึ่งเเล้ว ดิชั้น......” ยังไม่ทันที่พนักงานสาวจะจบประโยค

“เรื่องค่าจ้างดิชั้นไม่มีปัญหาค่ะ ดิชั้นจะจ่ายให้มากกว่าเรทปรกติห้าเท่า เเค่ขอให้ถึงฝั่งสตูลคืนนี้ก็พอ”

“ดิชั้นเข้าใจคะ คุณเมฆรินทร์รอซักครู่นะคะ เดี๋ยวดิชั้นขอติดต่อพี่เกษมผู้จัดการก่อนนะคะ เพราะผู้จัดการเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจเรื่องออกเรือนอกเวลาได้”

.....ฮัลโหล พี่เกษมคะ ลูกค้าวีไอพี คุณเมฆรินทร์ต้องการเรือไปส่งที่ฝั่งค่ะ..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา