You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi

10.0

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.13 น.

  20 chapter
  3 วิจารณ์
  28.01K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) บทที่7

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        จิเสะเดินคอตกกลับบ้านมาพร้อมกลุ่มเพื่อนที่เอาแต่ปลอบโยนเธอ  ถึงแม้กระนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้นัก  ทั้งนี้ เรื่องที่ทำให้เด็กสาวต้องซึมไปคือการที่ไม่ได้เจอมาซารุ  กลุ่มเพื่อนของเธอถึงแม้จะอยู่ชมรมเดียวกันแต่กลับมีธุระด่วนแทรกเข้ามาจนไม่ได้ไปดูการแข่งขัน  ช่างเป็นความบังเอิญอันน่าเหลือเชื่อจริงๆ ที่สุดท้ายในวันนี้ยังไม่มีใครได้เจอมาซารุเลยสักคน

        แม้ว่าตอนแรกยังมีความหวังกับการที่จะมีใครอัดภาพไว้  แต่ชมรมชงชาเล็กเกินกว่าจะถ่ายภาพในสภาวะคนเยอะขนาดนั้นและถึงจะมีในส่วนของการแข่งขันเคนโด้ก็ตาม  แต่จิเสะเห็นเมมโมรี่ของกล้องโดนทำลายต่อหน้าต่อตาเลยทีเดียว  ความพ่ายแพ้ของชมรมเคนโด้เป็นอะไรที่เกินกว่าคนภายนอกจะเข้าใจจริงๆ

        เหตุผลทั้งหมดได้รวมกันกลายเป็นความซึมเศร้ายามเดินกลับบ้านในวันนี้ของเด็กสาวนั่นเอง

        เฉกเช่นเดียวกันกับจินเนะ  เธอใช้เครือข่ายแฟนคลับที่มีอยู่ในทุกชมรมเพื่อการเจาะหาภาพของมาซารุรวมทั้งตั้งราคาภาพถ่ายในราคาที่สูงมากเกินกว่าความจำเป็นจากสายตาของคนทั่วไป  ถ้าหากเธอประกาศไว้ก่อนหน้านี้  คงจะมีใครแอบถ่ายภาพไว้บ้างหรอก

        เพราะยกเว้นคนจากชมรมเคนโด้ที่ได้รับอนุญาติพิเศษซึ่งตอนนี้เมมโมรี่การ์ดได้ถูกทำลายแล้ว  กฏง่ายๆที่จุนขอไว้คือการห้ามถ่ายภาพเด็ดขาด  ตั้งแต่เขาเห็นจินเนะนั่งรถออกไปกับไซโตะ ผู้จัดการส่วนตัวของเด็กสาวแล้ว  เขาก็ได้ตั้งกฏนี้ขึ้นมาทันทีเพื่อกันไม่ให้จินเนะล่วงรู้ว่ามาซารุเป็นใครหรือหน้าตายังไง  นี่อาจเป็นชัยชนะในไม่กี่ครั้งก็ย่ิอมได้

        ระหว่างที่นั่งรถบัสไปยังฟุมิเนเนะ  จุนสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายนั่งเกร็งพอสมควรรวมทั้งยังหน้าซีดลงไปเล็กน้อย

        "เอ่อ มาซารุซังเมารถหรือเปล่า"  จุนถามด้วยความเป็นห่วง  "ทำไมหน้าซีดเซียวเชียวล่ะ"

        "ข้าไม่เป็นไร  แต่ทำไมเจ้าสิ่งนี้ถึงได้เร็วนักล่ะ  น่าจะเร็วกว่าม้าฝีเท้าดีๆซะอีกนะ"

        จุนอ้าปากค้าง  "มาซารุซังไม่เคยนั่งรถบัสหรือ  งั้นเธอไปที่โรงเรียนไคเซย์ได้ยังไงกัน  คงไม่ใช่ว่าเดิน...หรอกนะ?"

          "ข้า..."  มาซารุกระพริบตาสองสามที  "ใช่ ข้าเดินไปนะ"

        จุนรู้สึกผิดขึ้นมาทันที  เขาน่าจะพาคนคนนี้ไปที่โรงเรียนด้วยกันตั้งแต่ตอนเช้่า  

        ก็เห็นๆอยู่ในศาลเจ้าฟุมิเนเนะไม่ได้เครื่องอำนวยความสะดวกอะไรที่มันทันสมัยเลยสักนิด  และมาซารุคนนี้คงไม่ใช่ประเภทที่จะเดินทางไปไหนต่อไหนหรือเข้าสังคมในเมือง  การที่ไม่เคยพบรถบัสก็คงเป็นเพราะเมื่อลงที่ป้ายแล้วยังต้องเดินต่อไปอีกประมาณห้านาทีถึงจะเจอทางขึ้นศาลเจ้าฟุมิเนเนะ

        "งั้นเดี๋ยวผมจะจดตารางรถบัสให้เธอแล้วกันนะ  เผื่อว่าจะไปในเมืองจะได้ไม่ต้องเดินไป"

        มาซารุรับกระดาษที่มีตัวเลขเขียนไว้แล้วกล่าวขอบคุณเบาๆ  แม้ว่าสำหรับเขาแล้วการที่ต้องนั่งรถบัสไม่ใช่เรื่องจำเป็นก็ตาม

 

        "เอ๊ะ รุ่นพี่เองก็ไม่รู้หรือคะว่าคนที่รุ่นพี่จุนเขาซ่อนอยู่เป็นใคร?"  ซายากะถูกส่งมาเพื่อสอบถามข้อมูลจากจิเสะถึงที่บ้าน  ซึ่งก็ตามที่จุนคาดไว้ไม่ผิด  "รู้แค่ว่าเป็นผู้ชายเท่านั้นเองหรือคะ"

        "ก็...อะไรประมาณนั้นนะจ้ะ  แต่ทำไมต้องปิดกันด้วยนะ  ไม่เข้าใจจริงๆเลย"  เด็กสาวพูดพึมพำก่อนจะโพล่งเสียงดังลั่น  "หรือว่าจะเป็นคนไม่ดีกันนะ!"

        ซายากะทุบกำปั้นลงกับมืออีกข้าง  "ต้องใช่แน่นอนเลยค่ะ  รุ่นพี่จิเสะอย่าวางใจเชียวนะคะ  ซายากะเป็นห่วงสุดๆเลย  แบบนี้รุ่นพี่ต้องตามติดรุ่นพี่จุนให้มากๆนะคะ  ถ้ามีอะไรก็ช่วยรายงานซายากะด้วยนะคะ"

        ถึงจะรู้สึกว่าประโยคหลังมันแปลกๆก็ตาม  เด็กสาวก็พยักหน้ารับด้วยความมุ่งมั่น  หลังโดนบิวต์อารมณ์ให้มองเพื่อนปริศนาของจุนว่าต้องเป็นคนร้ายกาจไปแล้ว  เธอก็พยามเต็มที่ในการจะสะกดรอยตามจุนไปให้ได้  วันนี้เพราะความผิดพลาดเลยไม่ได้ตาม  แต่พรุ่งนี้ไม่พลาดแน่ๆ!

        ซายากะขอตัวและเดินออกมาด้วยสีหน้าสบายอารมณ์  ถึงแม้ว่าวันนี้จะยังไม่ได้ของรางวัลจากเมยามิ ริกะก็ตามที  แต่ว่าถ้ารุ่นพี่หญิงคนนั้นได้ข้อมูลอะไรมาบอก  เธอก็ได้ของรางวัลแล้ว!

        ฮุๆๆ  ขอโทษด้วยนะคะ  ถึงความจริงจะอยากบอกว่า 'คิดมากไปไหมคะก็เถอะ  แต่เรื่องแบบนี้มันจำเป็นนะค่ะ ฮุๆๆ

 

        แต่ใครจะคาดคิดเล่าวว่า หลังจากนั้น จิเสะจะทนอยู่เฉยไม่ไหวจนอยากจะไปสอบถามความจริงถึงที่บ้านของจุน  แต่ทว่า...ตอนที่กำลังเดินไปตามทางลัดซึ่งใช้ประจำ  เสียงของหญิงมีอายุคนหนึ่งได้ร้องเรียกเธอขึ้นมา

        ไม่ใช่ใครที่ไหน  คุณย่าร้านทำนายดวงนั่นเอง  เธอเพิ่งมาเปิดซุ้มร้านใหม่ได้วันแีรก  น่าเสียดายที่ลูกค้ายังเงียบเหงา  แผนการชักชวนลูกค้าจึงได้เริ่มขึ้น

        "ดวงความรักดูเหมือนจะมีอะไรแปลกไปนะ!"

        เสียงดังโอเวอร์กับท่าทีประหลาดที่ลูบลูกแก้วไปมาทำให้ผู้คนในระยะร้อยเมตรต้องหันมา  บางคนทำหน้าไม่สบอารมณ์ด้วยความรำคาญก็จริง  แต่บางคนกลับมีท่าทีสนใจขึ้นมาเล็กน้อยและหยุดดู  แผนเรียกลูกค้าคงจะได้ผลเป็นแน่แท้และคงได้ผลมาหลายครั้งแล้วด้วย  มิฉะนั้น ทั้งจิเสะทั้งจุนคงไม่กลายเป็นพรีเซนเตอร์จำเป็นแบบนี้หรอก

        "ฮ่า!  คนรักๆ...คนรัก!"  จิเสะสะดุ้งเมื่อโดนตะโกนใส่  "ทำไมเธอถึงเกี่ยวข้องกับเจ้าหนูนั่นได้นะ  หรือว่าคนที่เป็นตัวเรียกลูกค้าของฉันต้องมีดวงความรักคล้องกับเจ้าหนูนั่นทุกคน  เอ้อ...ไม่มีอะไรๆ"

        คุณย่าร้านทำนายดวงที่หลุดพูดอะไรแปลกๆออกมารีบทำหน้าจริงจังตึงเครียดกว่าปกติอย่างเดิืม

        "คนรักผันแปรเพราะโชคชะตาไม่เป็นใจ  บอกข้ามาสิ ก่อนหน้านี้ทะเลาะอะไรสักอย่างกันใช่ไหม  หนักไหมล่ะ"

        จิเสะนึกถึงจุนขึ้นมาแล้วหน้าแดงเรื่อ  พยักหน้าหงึกๆ  "ก็...พอสมควรค่ะ  อ๊ะ ตะ...แต่เขาไม่ใช่คนรัก..."

        "ฉันรู้หรอกน่า  โชคชะตาไม่เป็นใจขนาดนี้อย่าว่าแต่เป็นแฟนกันเลย  แค่สารภาพรักก็มีมารขัดขวางแล้ว  อื้ม ระหว่างเจ้าและเจ้าหนูนั่นมีใครบางคนขัดขวางอยู่  ใครบางคนที่อยู่ใกล้ตัวจนคาดไม่ถึงและไกลตัวจนดูไม่ออก"

        "ใกล้จนคาดไม่ถึง  ไกลจนดูไม่ออก?"

        คุณย่าร้านทำนายดวงพยักหน้าหงึกหงัก  

        "ถูกต้อง บอกข้าสิ ที่ทะเลาะกันหนักเป็นเพราะเขาไม่ดีหรือเป็นเพราะตัวเจ้าเอง  ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะกระตุ้นบางอย่างกับตัวของเจ้าเพื่อให้เขาไปพบกับคนที่พิเศษอย่างประหลาด  พิเศษมากจน...จนน่าจะเรียกว่าแปลกสุดๆเลยล่ะ  แถมคนที่ว่านี่ก็อยู่ในดวงความรักของเจ้าหนูด้วยนะ  โฮ่โฮ่โฮ่"

        "ความจริงเรื่องทะเลาะ...ฉันเองก็โกรธเขาหลายวันเหมือนกัน  แต่จุนคุงไม่น่าจะส่งจดหายรักมาแกล้งกันนี่นา!  ฮือ...ฉันเป็นคนทำให้จุนคุงพบคนพิเศษคนนั้นเหรอคะ?"

        คุณย่าร้านทำนายดวงมีสีหน้าอ่อนขึ้นเมื่อเห็นอารมณ์เศร้าสร้อยและน้ำตาที่ปรากฏบนใบหน้าของเด็กสาว  เธอได้แต่ถอนหายใจ

        "ไม่ใช่เพราะตัวเจ้าหรอก...ไม่ใช่เลย  แต่จำที่ฉันบอกได้ไหมล่ะ มารขัดขวางนั่นนะ  เป็นฝีมือมารมารคนนั้นแหละ  ถ้าเจ้าไม่หวั่นไหวกับการกลั่นแกล้งของใครคนนั้นล่ะก็  เจ้าหนูจะกลายเป็นคู่แท้ของเจ้าโดยทันที  เป็นแฟนแต่งงานแล้วก็มีความสุขในชีวิตคู่  เฮ้อ...น่าสงสาร โชคชะตาไม่เป็นใจมันก็อะไรแบบนี้แหละ  ทำใจซะนะ  เอาล่ะ เพื่อเป็นการขอบคุณ  ฉันจะดูดวงให้เจ้าฟรีๆล่ะกัน"

        ขอบ...คุณ?

        จิเสะร้องอุทานเสียงหลงด้วยความตกใจที่ด้านหลังมีคนมุงอยู่เต็ม  ดูเหมือนพวกเขาจะพยามแย่งกันเพื่อจะได้ไปเป็นลูกค้าคิวต่อไป  และเนื่องจากลูกค้าทั้งหมดเป็นหญิงสาว  บรรยากาศมันจึงเหมือนกับอยู่ในร้านที่มีแต่ของลดราคาไม่มีผิด  จิเสะทำสีหน้าผวาแล้วรีบหลบหนีไป

        เนื่องจากเป็นเวลาที่เย็นเกินกว่าจะไปรบกวน  จิเสะตัดสินใจเดินกลับบ้านโดยในใจครุ่นคิดถึงคำทำนายเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา

        คนพิเศษคนนั้นหรือว่าจะเป็นเพื่อนของจุนคุงคนนั้น?  แล้วที่ว่ามีอะไรแปลกๆนั่นหมายความว่าไง  เพื่อนของจุนคุงจะมีอะไรแปลกจนพบฉันไม่ได้กันนะ...

 

        ...ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่มันเริ่มขึ้นมา  ในศาลเจ้าที่เงียบสงบในภูเขาแห่งนี้  จุนถอนริืมฝีปากออกอย่างเชื่องช้าโดยที่ยังไม่ลดมือที่โอบเอวอีกฝ่ายอยู่  ท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดงสีส้มเข้ม

        จุนท่ามด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไร

        "เธอต้องการแค่นี้เหรอ"

        "ใช่  แค่นี้ก็พอ"  สีหน้าของมาซารุหม่นหมองลง  "ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่เต็มใจอยู่ที่นี่  สิ่งที่ข้าขอเป็นรางวัลนี้คงจะทำให้เจ้าลำบากใจ  อ๊ะ.."

        จุนดึงร่างบอบบางของอีกฝ่ายให้เข้าใกล้อีกครั้งและเริ่มต้นจุมพิตอย่างนุ่มนวลที่สุด  สัมผัสนั้นชวนหลงใหลมากซะจนมาซารุสมองขาวโพลนไปหมดผิดกับใบหน้าที่แดงระเรื่อ...

        เรื่องนี้เกิดขึ้น...เมื่อยี่สิบนาทีก่อน

        มาซารุรับตารางเวลาของรถบัสมา  แ้ม้ว่ามันจะไม่จำเป็นกับเขาเลยก็ตามที  ร่างในชุดกิโมโนมองใบหน้าที่ครุ่นคิดผสมกับรู้สึกผิดของจุนแล้วยิ้มออกมา

        "ไม่ต้องกังวลไปหรอก  ข้าไม่ได้เหนื่อยหรืออะไรหรอกนะ  อีกอย่าง ที่ได้แข่งในวันนี้ก็สนุกมาก  เพราะว่าไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ข้าไม่ได้ประลองดาบกับใคร...หากไม่รวมที่สอนเจ้าไปในวันนั้น"

        จุนมีสีหน้าดีขึ้นมาเล็กน้อย  หลังจากคิดหนักอยู่นาน  เขานึกถึงหลักของความจำเป็นกับการดีใจ  อะไรสำหรับผู้รับแล้วมันจำเป็นกว่ากัน?

        ถ้าเป็นของที่ได้รับจากเขา  ไม่ว่าอะไรมาซารุก็ดีใจทั้งนั้น  แต่จุดนี้นี่แหละคือปัญหาล่ะ  ต้องเป็นของที่ได้รับแล้วดีใจไม่ใช่เพราะได้รับจากเขาแล้วดีใจสิ!  นี่มันรางวัลสำคัญนะ

        แต่อะไรที่เป็นของที่มาซารุชอบกันล่ะ  ถ้าเป็นพวกคนสมัยนี้  เด็กผู้ชายก็ต้องชอบลูกฟุตบอลล่ะมั้ง  แต่ว่ามาซารุไม่น่าจะใช้พวกของชอบเล่นกีฬาเท่าไหร่  ถึงแม้ว่าจะมีทักษะด้านเคนโด้ก็ตามที  หรือว่าจะเป็นถ้วยชาสวยๆสักใบดีนะ?

        เด็กหนุ่มคิดไปคิดมาแล้วตัดสินใจถามออกไปตรงๆ  "มาซารุซังชอบอะไรที่สุดเหรอ"

        คู่สนทนาหันมาตอบอย่างไม่ปิดบัง  "ข้าชอบเจ้าที่สุด"

        จุนชะงักอย่างรู้สึกประหม่า  เขารีบเปลี่ยนคำถาม  "งั้นสิ่งของที่ชอบที่สุดคืออะไร  คือผมจะได้ซื้อเป็นรางวัลให้นะ"

        "ข้าไม่ได้ต้องการสิ่งของนะ"  มาซารุยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นก่อนจะจ้องหน้าจุนอยู่นาน  สุดท้ายก็เสมองอย่างอื่นไป  ทำเอาเด็กหนุ่มมึนตึ้บ  ตกลงสิ่งของที่ชอบคืออะไร?  

        หรือว่าไม่มีกันนะ  จะว่าไปมาซารุซังก็ดูไม่ค่อยวัตถุนิยมซะด้วยสิ  แต่คนที่ไม่วัตถุนิยมนี่แหละที่ซื้อของให้ง่ายที่สุดและยากที่สุด

        "ข้าอยากได้..."

        จู่ๆมาซารุก็กล่าวขึ้นมา  แต่รถบัสได้แล่นมาจนถึงที่หมายแล้ว  ต่อจากนี้คือการเดินทางต่ออีกห้านาที  ทว่า...แต่ตอนนั้นร่างในชุดกิโมโนนี่ก็เอาแต่นิ่งเงียบ  ไม่ปริปากอะไรสักอย่าง  นอกจากหันมาจ้องหน้าเขาในบางครั้งและเบือนหนี  ช่างเป็นกริยาที่เข้าใจยากจริงๆ  หรือว่ามาซารุอยากให้เขามาอยู่ที่ศาลเจ้าเป็นรางวัลจริงๆ

        ในที่สุดการเดินทางด้วยเท้าก็ยุติลงเมื่อถึงศาลเจ้าฟุมิเนเนะ  จุนนั่งรับลมพร้อมชมพระอาทิตย์ตกและมองคนข้างกายดื่มชาอย่างเงียบๆ  ใบหน้านั้นแดงเรื่อขึ้นมา  แต่อาจเป็นเพราะแสงยามเย็นเช่นนี้ก็ได้...

        ความคิดทั้งมวลหยุดชะงักเมื่อมาซารุเรียกชื่อเขาเบาๆ  จุนหันไปหาอีกฝ่ายเพื่อฟังคำตอบ

        "เจ้าก็รู้ว่าข้ารอเจ้ามานานมาก  และถึงเจ้าจะจำอะไรไม่ได้ก็เถอะ  แต่ความรู้สึกของข้าที่มั่นคงมาตลอดหลายร้อยปี  มันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะ"

        มาซารุเกิดอาการอ้ำอึ้งขึ้นมาทันที  ซ้ำเขายังดูลังเลในการจะกล่าวไปอีกด้วย  เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบๆ  ไม่เข้าใจว่ามาซารุต้องการอะไรกันแน่

        "ถ้าเจ้ายังไม่อยากมาอยู่กับข้า...งั้นตอนนี้ ช่วย...จุมพิตข้า...ได้ไหม?"  ร่างในชุดกิโมโนกล่าวด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อ  "เอ่อ แต่ถ้าเจ้าไม่ต้องการข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ  ความจริงสำหรับข้าแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าละอายในการมีกล่าวแบบนี้กับคนที่ไม่ใช่คนรัก..."

        คำพูดทั้งหมดทั้งมวลของมาซารุถูกหยุดไว้ด้วย 'รางวัล' แสนหวานจากจุน

        กลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน  มาซารุจ้องมองเด็กหนุ่มผู้นี้ด้วยสายตาที่ตื่นตะลึงเมื่อจุมพิตคำรบสองได้หยุดลง  เขาพูดเสียงเบาว่าทำไมซ้ำไปซ้ำมา

        "ไม่รู้สินะ"  จุนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ  "สงสัยผมคงเผลอคิดไปว่าตัวเองคือคนที่มาซารุซังรอคอยอยู่ตลอดเวลา  ถึงได้รู้สึกว่าเธอคือคนพิเศษของผมนะ"

        แต่ร่างในชุดกิโมโนทวนคำเบาๆ  "คนพิเศษเหรอ?"

        ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งเมื่อมาซารุก้มหน้าลงมองพื้นด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย  มันสับสนปนเปไปหมด  ทั้งดีใจทั้งยินดี...มันเป็นอะไรที่บอกไม่ถูกจริงๆ

        ทางด้านจุน เขารู้ตัวดีและรู้ตัวตลอดว่ากำลังพูดอะไร  'คำสารภาพรัก' ยังไงล่ะ  ทั้งที่ความรู้สึกนี้คือสิ่งที่เขาอยากจะบอกกับจิเสะ  แต่ในตอนนี้เขากลับพูดได้อย่างไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย

        เพราะเขามั่นใจ  ถึงความรุ้สึกที่มีต่อจิเสะมันจะนานกว่าหรืออะไรก็ตาม  แต่ในเวลานี้ ณ ที่นี่ เขามั่นใจว่าความรู้สึกของเขามันได้ตรงกับที่พูดไป

        "ข้ารักเจ้า"  ร่างในชุดกิโมโนเงยหน้าขึ้นมาจากพื้นด้วยรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความดีใจ  โผเข้ากอดจุนด้วยความดีใจ  

        "จะผ่านไปนานแค่ไหนก็รักเจ้าและรักเจ้านะ  จุน!"

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา