You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi
10.0
2) บทที่2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ใครบางคนที่กำลังปลุกเขาเพราะอาหารเตรียมพร้อมแล้วทำให้จุนจำใจตื่นขึ้นมาทั้งที่กำลังสบายในฟูกนอนที่จัดไว้ให้ในห้องพักสำหรับแขก ซึ่งเป็นเพราะเขาปฏิเสธคำชวนในการนอนห้องเดียวของมาซารุ แล้วจัดการขนฟูกหมอนผ้าห่มออกมา
อาหารเช้าถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆแต่อร่อย ปกติเขามักจะได้กินแต่อาหารจำพวกซีเรียลไม่ก็ขนมปังทาเนยสักแผ่นเพราะใกล้สายเต็มที่ อาหารเช้าครบถ้วนแบบนี้ครั้งล่าสุดมันเมื่อไหร่กันนะ?
พูดถึงเวลา จุนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วร้องลั่น รีบกินเอาๆจนมาซารุต้องมองอย่างงุนงง เด็กหนุ่มขอบคุณสำหรับอาหารและวิ่งไปโรงเรียน โชคดีที่เหลือเงินเล็กน้อยจากเมื่อวาน มันเป็นค่ารถบัสในการกลับไปยังในเมือง
แต่คำว่าสายก็ย่อมเป็นสาย โชคดีที่บทลงโทษสำหรับคนมาสายที่โรงเรียนนี้ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่จุนยังคงถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เหม่อมองโรงเรียนที่มีแต่ความสับสนวุ่นวายและเสียงจอแจของเด็กนักเรียนคนอื่นๆ
อาจารย์สาวคิริเอะจัดกว้างขว้างชอล์กไปที่เด็กหนุ่มที่เอาแต่มองไปยังภูเขาฟูมิเนเนะ อย่าหวังว่าจะให้ไปยืนเหม่ออะไรอีกแล้ว ให้เสียงดังตลอดชั่วโมงยังดีกว่าให้ลูกศิษย์มาโรงเรียนเพื่ออย่างนี้ เห็นเธอเปรี้ยวซ่าแบบนี้ก็มีสปิริตความเป็นอาจารย์สูงไม่แพ้ใครหรอกนะ!
ช่างช่วยไม่ได้จริงๆ เมื่อวิชาตอนนี้คือวิชาวิทยาศาสตร์ที่จุนเกลียดที่สุดซะนี่ ผลของการนั่งเหม่อคือการทนฟังการแบ่งเซลล์พืชเสียงดังฟังชัดตลอดชั่วโมง
ในชั่วโมงชมรมเวียนมาในที่สุด จุนเดินมาโดยมีเพื่อนอีกสองคนคอยหิ้วไหล่ไม่ให้เขาเมาการแบ่งเซลล์จนเป็นลมล้มพับไปซะก่อน
จิเสะแิอบมองเด็กหนุ่มด้วยความเป็นห่วง โชคดีที่เขานั่งที่สุดท้ายในการสอบ เธอได้แต่หวังว่าเขาคงจะสังเกตคนก่อนหน้าให้ดีๆ ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปช่วยสอนตั้งแต่แรกเอ่อขึ้นมา
"ผ่าน!"
ประธานชมรมประกาศเสียงดังและเลื่อนคิวต่อจากจิเสะ เด็กสาวถ้วยชาลงแล้วแอบหันไปมองจุนด้่วยความลุ้นระทึก
แต่เขาเองกลับไม่ทันสังเกตสายตาที่มีแต่ความห่วงใยเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังไม่ได้ชายตาแลมองพวกคิวก่อนหน้าที่ทำพลาดบ้างผ่านบ้าง ความจริงเขาเอาแต่คิดถึงยามที่มาซารุสอนเขาชงชา
"จุน...คาเมซากิ จุน!" คุณประธานชมรมเสียงเข้ม "ถึงคิวสอบของนายแล้วนะ"
เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างตกใจเล็กน้อยแล้วนึกถึงเสียงอ่อนโยนที่คอยสอนเขาในตอนเย็นเมื่อวาน การสอบจึงมีความว่า 'ผ่าน' อย่างง่ายดาย มิหนำซ้ำยังมีคำชมให้อีกด้วย จิเสะแอบยิ้มปลื้มปนโล่งใจ แม้จะแปลกใจว่าใครกันที่เป็นคนสอนเขา
แต่ที่สำคัญ เด็กสาวได้ถือโอกาสตอนที่ชมรมเลิกและจุนอยู่คนเดียวในการเรียกให้ตามเธอไปที่ดาดฟ้าโรงเรียน
"ฉัน...ฉันเองก็ไม่คิดโกรธจุนคุงแล้วหรอกนะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงน่ารัก "ความจริงแล้ววันนั้นจุนคุงคงมีธุระด่วนสินะ วันนั้น จุนคุงอยากจะบอกอะไรกับฉันเหรอ"
"เอ่อ..." จุนเกิดอาการพูดไม่ออกเมื่อมองหน้าเขินอายของจิเสะ "ตอนนั้น ฉันตั้งใจจะบอกว่า..."
เสียงประกาศของโรงเรียนดังขึ้น "คาเมซากิ จุน มีคนมารอพบที่ห้องประชาสัมพันธ์ ย้ำ คาเมซากิ จุน มีคนมารอพบที่ห้องประชาสัมพันธ์"
เด็กหนุ่มมองไปยังห้องประชาสัมพันธ์ีที่มีคาเมซากิ จินเนะ น้องสาวของตัวเองซึ่งกำลังโพสต์ท่าถ่ายรูปตามปกติให้กับบรรดาแฟนคลับอย่างสบายอารมณ์
แน่นอน...การขึ้นดาดฟ้าของคนทั้งสองอยู่ในสายตาเธอพอดี เพราะชมรมการละครอันแสนอึกทึกอยู่ห่างชมรมชงชาอันเงียบสงบไปไม่เท่าไหร่ และเมื่อเป็นเช่นนั้น เด็กสาวตั้งใจเร่งฝีเท้าเต็มที่มาที่ห้องประชาสัมพันธ์ แล้วให้แฟนคลับต่างโรงเรียนช่วยประกาศตามที่สั่งให้
หึ! ทำตามอย่างไม่ถาม ข้อดีของแฟนคลับพวกนี้ล่ะ
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ชายซึ่งมองเธอลงมาเช่นเดียวกัน ดวงตาของเด็กสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
"จุนคุงไปที่ประชาสัมพันธ์ก่อนเถอะจ้ะ"
จิเสะกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่มีความเสียดายปะปนอยู่ด้วย เมื่อครู่ คู่สนทนากำลังจะบอกอะไรเธอแล้วแท้ๆ
แน่นอนว่าถ้าจิเสะรู้เรื่องการกลั่นแกล้งนี้ เธอคงใช้เชือกมัดไว้ไม่ให้เขาเดินจากไปง่ายๆแบบนี้แล้วบังคับให้พูดมาซะ ว่าสิ่งนั้นใช้การบบอกรรักอย่างที่กลุ่มเพื่อนของเธอแซวกันวันนั้นหรือเปล่า
จุนเดินกลับมายังบ้านด้วยจิตใจที่ไม่ได้ห่อเหี่ยวนัก ต่างจากความคิดคาดการณ์ของจินเนะ น้องสาวที่เดินอยู่อีกด้านของถนนด้วยสีหน้าเชิดหยิ่ง เตรียมรอความเศร้าหรืออย่างน้อยเธอก็หวังมาตลอดว่าจะได้เห็นพี่ชายของตัวเองร้องไห้ด้วยแผนของเธอสักครั้ง!
น่าเสียดายที่วันนั้น ใบหน้าไม่ได้มีความผิดปกติอะไรของจุนยังคงแสดงต่อไปอีกวันหนึ่ง
อาหารมื้อเย็นถูกเตรียมไว้อย่างรวดเร็ว จุนมองเวรทำอาหารที่อยู่บนปฏิทินด้วยความแล้วนึกถึงเมนูทำอาหาร ความจริงก็ใช่ว่าเขาไม่อยากแก้เผ็ดน้องสาวจอมป่วนที่ชอบทำแต่อาหารไม่ถูกปากเขาหรอกนะ แต่เธอคนนั้นไม่ชอบกินอะไรเนี่ยสิปัญหา เฮ้อ...การไม่มีข้อมูลนี่มันแย่จริงๆเลยนะ
ไ้่ม่เปิดช่องว่างให้โจมตีเอาซะเลย!
จุนนึกโทษจินเนะในใจแล้วนึกถึงต้มเผือกกับโกโบที่แสนอร่อยของมาซารุ ถึงอยากไปที่นั่นแต่เขาก็ต้องกลับมาเตรียมชุดและใช้สิ่งอำนวยความสะดวกหลายๆอย่างในบ้าน
ระหว่างที่รอของในหม้อต้มเดือด เด็กหนุ่มคิดถึงตอนที่มาซารุยืนรอเขาที่หน้าศาลเจ้าขึ้นมาทันที
"แย่ชะมัด อย่าว่าแต่ไม่รู้เบอร์เลย ที่นั่นไม่มีโทรศัพท์ด้วยซ้ำไป"
เขาได้แต่ภาวนาว่ามาซารุคงจะไม่ยืนรอเขาอยู่หรอกนะ ร่างในชุดกิโมโนนั่นคงรอเขาอยู่พักหนึ่งและกลับเข้าไปในศาลเจ้าเองนั่นล่ัะ จุนคิดในใจกันการรู้สึกผิด
แต่สิ่งที่ปรากฏกลับผิดไปจากที่คิดไว้ ท้องฟ้ามืดครึ้มพร้อมส่งประกายแวบวาบ ลมพัดหวีดหวิว เป็นสัญญาณบอกว่าฝนกำลังจะตกลงมา มาซารุนั่งลงกอดเข่าและมีใบหน้าเศร้าโศกไม่ต่างจากจุนในวันนั้น น้ำตาที่เชื่องช้าและใสเกินไปจนไม่เป็นธรรมชาตินั่นเริ่มไหลลงมารวมกับฝนที่ตกหนัก
"จุน" มาซารุเอ่ยอย่างแผ่วเบา "วันนี้ทำไมเจ้าไม่มาหาข้า"
ในเมืองเองก็มีฝนตกเช่นเดียว ราวกับคำพูดซึ่งกล่าวด้วยเสียงเย็นยะเยือกนั้นสื่อมาตามสายลมได้ เด็กหนุ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขารีบเดินไปจะปิดหน้่าต่างซึ่งมีละอองฝนพัดมาประปรายอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางความมืด สายตาของจุนทอดมองไปยังภูเขาฟุมิเนเนะ ในใจนึกเป็นห่วงปนร้อนรนอย่างประหลาด
มุมหนึ่ง จินเนะแอบมองพี่ชายด้วยสายตาที่เย็นชา เธอสังเกตได้ว่าเขาไม่มีท่าทีเซื่องซึมอะไรสักนิด ถึงจะพอเดาได้ว่าเธอคงจะขัดขวางการปรับความเข้าใจกับจิเสะไม่ทัน แต่เรื่องสารภาพรัก...ความสุขบนหน้ามันจะน้อยไปหน่อยรึเปล่า แถมยังวันนี้ยังจ้องไปนอกหน้าต่าง มองอะไรอยู่กันนะ?
กริ๊งๆ กริ๊งๆ
เสียงกระดิ่งเมสเสจที่จินเนะลุกลี้ลุกลนรับไม่ได้ส่งไปถึงจุนแต่อย่างใด เนื่องจากเสียงฝนที่ตกหนักได้กลบเสียงนั้นไปหมด
'ส่งกำหนดการณ์ของงานวันพรุ่งนี้มาให้ ตรวจเมลล์ด้วย จาก...เซโตะ'
นายผู้จัดการจอมจุ้นนั่น!
จินเนะบีบมือแน่นแล้วเดินโมโหไปตรวจอีเมลล์ตามที่อีกฝ่ายส่งเมสเสจมาบอก ตารางงานของไอดอลถึงมันจะแน่นเอี๊ยดและบางงานก็หนักไปบ้าง แต่นี่คือสิ่งที่เธอชอบทำ ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงอย่างเหตุผลของใครบางคนที่พยามจะเป็นและได้เป็น...ไอดอล
ท่ามกลางสายฝนอันกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้า ใครบางคนกดกริ่งที่หน้าบ้านคาเมซากิ เพียงแต่เสียงกริ่งมันฟังดูเบาๆลอยๆมาตามสายลมอยางบอกไม่ถูก
จุนเป็นคนลงไปเปิดประตูบ้านเองด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง สายฝนที่ตกกระหน่ำยังไม่มีท่าทีจะซาลง ใครกันนะที่มาดึกดื่นแบบนี้
"จุน..."
มาซารุยิ้มให้เขาอย่างดีใจปนโล่งอก มือทิ้งร่มเก่าๆที่แทบจะกันฝนอะไรไม่ได้แล้วโผเข้ากอดทันที กิโมโนเปียกชุ่มเม็ดฝนทำให้พื้นหน้าบ้านเปียกเป็นจุดๆและยังเปียกเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านด้วย เนื้อตัวที่เย็นเฉียบจนแทบไม่มีอุณหภูมิความร้อนเมื่อเจอฝนจึงเย็นขึ้นไปอีก สำหรับจุนแล้วผิวเนื้อของอีกฝ่ายมันหนาวราวกับน้ำแข็งเลยทีเดียว...
จะให้กลับไปก็ไม่ได้ ต่อให้กังวลการก่อกวนของจินเนะก็ตาม
"เปียกหมดแล้วนะ มาซารุซัง ว่าแต่ทำไมมากลางดึกกลางดื่นแบบนี้ล่ะ อันตรายออกนะ ยิ่งฝนตกหนักอยู่ด้วย รถราเอย พวกแก๊งอันธพาลเอย คนที่ดูบอบบางชวนรังแกอย่างมาซารุซังจะตกเป็นเป้าเอาง่ายๆนะ รู้ไหม"
"ข้ามาหาเจ้า" มาซารุยังคงยิ้ม "เพราะวันนี้รอตั้งนานแล้วเจ้าไม่ไปที่ศาลเจ้า และตอนเช้าเจ้าก็บอกว่า ถ้ามีธุระอะไรให้มาที่นี่ ข้ามาตามที่เจ้าบอกแล้วไง"
จุนเหลือบมองขึ้นไปด้านบน เขายังคงกังวลเรื่องน้องสาวไม่หาย แต่โชคดีอยู่ฝ่ายคนดีเสมอ เมื่อเด็กสาวยังคงตรวจอีเมลล์ไปก็บ่นอุบไปไม่หยุด
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันครู่ใหญ่เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรจะพูด มาซารุเองก็มีที่นี่ 'เพื่อพบกัน' เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะมาทำอะไรเป็นพิเศษ
แต่ในที่สุด พ่อของจุน คาเมซากิ ชิโร่ ต้องเดินลงมาดูเพราะเห็นเงียบกันไปนาน
"จุน ใครมานะ"
"อ้อ ขอแนะนำใหู้้รู้จักครับ มาซารุซังจากศาลเ้จ้าฟุมิเนเนะครับ"
จุนผายมือไปที่บุคคลร่างกิโมโนซึ่งโค้งตัวทักทายตามธรรมเนียมญี่ปุ่น ชิโร่มองดูด้วยความแปลกใจแล้วถามทันทีว่า
"ตรงไหนกันล่ะ"
ชิโร่กระพริบตาสองสามทีจึงจะสังเกตคนในชุดกิโมโนโบราณกำลังนั่งอยู่ข้างๆจุน แม้จะติดสงสัยเล็กน้อยแต่เสียงของภรรยาก็เรียกให้กลับไปที่ห้องนั่งเล่นซึ่งถัดไปอีกไม่กี่ห้อง
ชิโร่พูดอีกสองสามคำพอเป็นพิธีและเดินกลับไปตามเสียงของภรรยา
"เจ้าทำไมไม่ไปหาข้าล่ะ"
มาซารุพูดอย่างเศร้าสร้อย น้ำเสียงลอยล่องในอากาศเยียบเย็น ชวนให้จุนรู้สึกลำบากใจ
"คือ...ผมต้องกลับมาที่บ้านเพราะข้าวของอยู่ที่นี่นะ แล้วจะไปพบเธอทุกวันมันก็ไม่มีเงินค่ารถบัสทุกครั้งด้วย...เอ่อ"
"เรื่องเงินข้ามีให้เจ้านะ"
เหรียญเงินแบบเก่าอย่างที่จุนจะพบเฉพาะในพิพิธภัณฑ์หล่นลงมาจากแขนเสื้อกิโมโนเกรียวกราวจนเด็กหนุ่มอ้าปากค้าง เขารีบโกยเหรียญเหล่านั้นส่งคืนให้มาซารุทันที
"พบรับไว้ไม่ได้หรอกนะครับ ยังไงพรุ่งนี้ผมจะไปพบเธอแล้วกันนะ"
จุนตัดสินใจพูดไปแบบนั้นและเพื่อค่ารถบัสก็คงต้องงดขนมประจำวันบ้างอะไรบ้าง ค่าขนมรายอาทิตย์เพิ่งออกวันนี้ซะด้วยสิ
"คืนนี้ค้างที่นี่แล้วกันนะ ฝนตกหนักแบบนี้เธอจะกลับไปได้ยัีงไงกัน" จุนมองร่มที่เกือบขาดอยู่รอมร่อแล้วถอนหายใจ "วันหลังรอตอนเช้าค่อยมาก็ได้นี่ครับ เธอฝ่าฝนมาแบบนี้จะเป็นหวัดเอาได้ง่ายๆ ดูสิ ห่มผ้าขนาดน้ตัวยังไม่อุ่นขึ้นเลย"
มาซารุกล่าวพร้อมกับสัมผัสอีกฝ่าย
"แต่เนื้อตัวของจุนอุ่นดี เป็นอุณหภูมิแบบเดิมอย่างที่ข้าชอบ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จุนอดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้ มันก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แต่คำชมประหลาดๆอย่างการชอบอุณหภูมินี่ ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยได้รับเลยเนี่ยสิ ฟังดูพิลึกชอบกล
รุ่งเช้าวันถัดมา ครอบครัวคาเมซากิต้องประหลาดใจเมื่อมีชุดอาหารเช้าจัดไว้ให้เรียบร้อย จุนชิมรสอาหารก็รู้เลยว่าต้องเป็นฝีมือของมาซารุแน่นอน เพียงแต่บุรุษชุดกิโมโนคนนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ
ถ้าให้จินเนะต้่องรู้จักกับมาซารุและหาทางแกล้งเขาเหมือนที่ทำกับจิเสะล่ะก็...ไม่มีทาง จุนได้แต่บอกว่าเพื่อนที่มาตอนกลางดึกมาทำไว้ให้เท่านั้น
เด็กสาวมองตามแผ่นหลังของพี่ชายไปอย่างรู้สึกติดใจสงสัยบางอย่าง อาหารเช้าเหล่านั้นมันน่าจะเกินความสามารถของเด็กมัธยมทั่วไปแน่นอน ฉะนั้น เพื่อนที่ว่าเนี่ย...ใครกันล่ะ?
อาหารเช้าถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆแต่อร่อย ปกติเขามักจะได้กินแต่อาหารจำพวกซีเรียลไม่ก็ขนมปังทาเนยสักแผ่นเพราะใกล้สายเต็มที่ อาหารเช้าครบถ้วนแบบนี้ครั้งล่าสุดมันเมื่อไหร่กันนะ?
พูดถึงเวลา จุนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วร้องลั่น รีบกินเอาๆจนมาซารุต้องมองอย่างงุนงง เด็กหนุ่มขอบคุณสำหรับอาหารและวิ่งไปโรงเรียน โชคดีที่เหลือเงินเล็กน้อยจากเมื่อวาน มันเป็นค่ารถบัสในการกลับไปยังในเมือง
แต่คำว่าสายก็ย่อมเป็นสาย โชคดีที่บทลงโทษสำหรับคนมาสายที่โรงเรียนนี้ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่จุนยังคงถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เหม่อมองโรงเรียนที่มีแต่ความสับสนวุ่นวายและเสียงจอแจของเด็กนักเรียนคนอื่นๆ
อาจารย์สาวคิริเอะจัดกว้างขว้างชอล์กไปที่เด็กหนุ่มที่เอาแต่มองไปยังภูเขาฟูมิเนเนะ อย่าหวังว่าจะให้ไปยืนเหม่ออะไรอีกแล้ว ให้เสียงดังตลอดชั่วโมงยังดีกว่าให้ลูกศิษย์มาโรงเรียนเพื่ออย่างนี้ เห็นเธอเปรี้ยวซ่าแบบนี้ก็มีสปิริตความเป็นอาจารย์สูงไม่แพ้ใครหรอกนะ!
ช่างช่วยไม่ได้จริงๆ เมื่อวิชาตอนนี้คือวิชาวิทยาศาสตร์ที่จุนเกลียดที่สุดซะนี่ ผลของการนั่งเหม่อคือการทนฟังการแบ่งเซลล์พืชเสียงดังฟังชัดตลอดชั่วโมง
ในชั่วโมงชมรมเวียนมาในที่สุด จุนเดินมาโดยมีเพื่อนอีกสองคนคอยหิ้วไหล่ไม่ให้เขาเมาการแบ่งเซลล์จนเป็นลมล้มพับไปซะก่อน
จิเสะแิอบมองเด็กหนุ่มด้วยความเป็นห่วง โชคดีที่เขานั่งที่สุดท้ายในการสอบ เธอได้แต่หวังว่าเขาคงจะสังเกตคนก่อนหน้าให้ดีๆ ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปช่วยสอนตั้งแต่แรกเอ่อขึ้นมา
"ผ่าน!"
ประธานชมรมประกาศเสียงดังและเลื่อนคิวต่อจากจิเสะ เด็กสาวถ้วยชาลงแล้วแอบหันไปมองจุนด้่วยความลุ้นระทึก
แต่เขาเองกลับไม่ทันสังเกตสายตาที่มีแต่ความห่วงใยเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังไม่ได้ชายตาแลมองพวกคิวก่อนหน้าที่ทำพลาดบ้างผ่านบ้าง ความจริงเขาเอาแต่คิดถึงยามที่มาซารุสอนเขาชงชา
"จุน...คาเมซากิ จุน!" คุณประธานชมรมเสียงเข้ม "ถึงคิวสอบของนายแล้วนะ"
เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างตกใจเล็กน้อยแล้วนึกถึงเสียงอ่อนโยนที่คอยสอนเขาในตอนเย็นเมื่อวาน การสอบจึงมีความว่า 'ผ่าน' อย่างง่ายดาย มิหนำซ้ำยังมีคำชมให้อีกด้วย จิเสะแอบยิ้มปลื้มปนโล่งใจ แม้จะแปลกใจว่าใครกันที่เป็นคนสอนเขา
แต่ที่สำคัญ เด็กสาวได้ถือโอกาสตอนที่ชมรมเลิกและจุนอยู่คนเดียวในการเรียกให้ตามเธอไปที่ดาดฟ้าโรงเรียน
"ฉัน...ฉันเองก็ไม่คิดโกรธจุนคุงแล้วหรอกนะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงน่ารัก "ความจริงแล้ววันนั้นจุนคุงคงมีธุระด่วนสินะ วันนั้น จุนคุงอยากจะบอกอะไรกับฉันเหรอ"
"เอ่อ..." จุนเกิดอาการพูดไม่ออกเมื่อมองหน้าเขินอายของจิเสะ "ตอนนั้น ฉันตั้งใจจะบอกว่า..."
เสียงประกาศของโรงเรียนดังขึ้น "คาเมซากิ จุน มีคนมารอพบที่ห้องประชาสัมพันธ์ ย้ำ คาเมซากิ จุน มีคนมารอพบที่ห้องประชาสัมพันธ์"
เด็กหนุ่มมองไปยังห้องประชาสัมพันธ์ีที่มีคาเมซากิ จินเนะ น้องสาวของตัวเองซึ่งกำลังโพสต์ท่าถ่ายรูปตามปกติให้กับบรรดาแฟนคลับอย่างสบายอารมณ์
แน่นอน...การขึ้นดาดฟ้าของคนทั้งสองอยู่ในสายตาเธอพอดี เพราะชมรมการละครอันแสนอึกทึกอยู่ห่างชมรมชงชาอันเงียบสงบไปไม่เท่าไหร่ และเมื่อเป็นเช่นนั้น เด็กสาวตั้งใจเร่งฝีเท้าเต็มที่มาที่ห้องประชาสัมพันธ์ แล้วให้แฟนคลับต่างโรงเรียนช่วยประกาศตามที่สั่งให้
หึ! ทำตามอย่างไม่ถาม ข้อดีของแฟนคลับพวกนี้ล่ะ
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ชายซึ่งมองเธอลงมาเช่นเดียวกัน ดวงตาของเด็กสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
"จุนคุงไปที่ประชาสัมพันธ์ก่อนเถอะจ้ะ"
จิเสะกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่มีความเสียดายปะปนอยู่ด้วย เมื่อครู่ คู่สนทนากำลังจะบอกอะไรเธอแล้วแท้ๆ
แน่นอนว่าถ้าจิเสะรู้เรื่องการกลั่นแกล้งนี้ เธอคงใช้เชือกมัดไว้ไม่ให้เขาเดินจากไปง่ายๆแบบนี้แล้วบังคับให้พูดมาซะ ว่าสิ่งนั้นใช้การบบอกรรักอย่างที่กลุ่มเพื่อนของเธอแซวกันวันนั้นหรือเปล่า
จุนเดินกลับมายังบ้านด้วยจิตใจที่ไม่ได้ห่อเหี่ยวนัก ต่างจากความคิดคาดการณ์ของจินเนะ น้องสาวที่เดินอยู่อีกด้านของถนนด้วยสีหน้าเชิดหยิ่ง เตรียมรอความเศร้าหรืออย่างน้อยเธอก็หวังมาตลอดว่าจะได้เห็นพี่ชายของตัวเองร้องไห้ด้วยแผนของเธอสักครั้ง!
น่าเสียดายที่วันนั้น ใบหน้าไม่ได้มีความผิดปกติอะไรของจุนยังคงแสดงต่อไปอีกวันหนึ่ง
อาหารมื้อเย็นถูกเตรียมไว้อย่างรวดเร็ว จุนมองเวรทำอาหารที่อยู่บนปฏิทินด้วยความแล้วนึกถึงเมนูทำอาหาร ความจริงก็ใช่ว่าเขาไม่อยากแก้เผ็ดน้องสาวจอมป่วนที่ชอบทำแต่อาหารไม่ถูกปากเขาหรอกนะ แต่เธอคนนั้นไม่ชอบกินอะไรเนี่ยสิปัญหา เฮ้อ...การไม่มีข้อมูลนี่มันแย่จริงๆเลยนะ
ไ้่ม่เปิดช่องว่างให้โจมตีเอาซะเลย!
จุนนึกโทษจินเนะในใจแล้วนึกถึงต้มเผือกกับโกโบที่แสนอร่อยของมาซารุ ถึงอยากไปที่นั่นแต่เขาก็ต้องกลับมาเตรียมชุดและใช้สิ่งอำนวยความสะดวกหลายๆอย่างในบ้าน
ระหว่างที่รอของในหม้อต้มเดือด เด็กหนุ่มคิดถึงตอนที่มาซารุยืนรอเขาที่หน้าศาลเจ้าขึ้นมาทันที
"แย่ชะมัด อย่าว่าแต่ไม่รู้เบอร์เลย ที่นั่นไม่มีโทรศัพท์ด้วยซ้ำไป"
เขาได้แต่ภาวนาว่ามาซารุคงจะไม่ยืนรอเขาอยู่หรอกนะ ร่างในชุดกิโมโนนั่นคงรอเขาอยู่พักหนึ่งและกลับเข้าไปในศาลเจ้าเองนั่นล่ัะ จุนคิดในใจกันการรู้สึกผิด
แต่สิ่งที่ปรากฏกลับผิดไปจากที่คิดไว้ ท้องฟ้ามืดครึ้มพร้อมส่งประกายแวบวาบ ลมพัดหวีดหวิว เป็นสัญญาณบอกว่าฝนกำลังจะตกลงมา มาซารุนั่งลงกอดเข่าและมีใบหน้าเศร้าโศกไม่ต่างจากจุนในวันนั้น น้ำตาที่เชื่องช้าและใสเกินไปจนไม่เป็นธรรมชาตินั่นเริ่มไหลลงมารวมกับฝนที่ตกหนัก
"จุน" มาซารุเอ่ยอย่างแผ่วเบา "วันนี้ทำไมเจ้าไม่มาหาข้า"
ในเมืองเองก็มีฝนตกเช่นเดียว ราวกับคำพูดซึ่งกล่าวด้วยเสียงเย็นยะเยือกนั้นสื่อมาตามสายลมได้ เด็กหนุ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขารีบเดินไปจะปิดหน้่าต่างซึ่งมีละอองฝนพัดมาประปรายอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางความมืด สายตาของจุนทอดมองไปยังภูเขาฟุมิเนเนะ ในใจนึกเป็นห่วงปนร้อนรนอย่างประหลาด
มุมหนึ่ง จินเนะแอบมองพี่ชายด้วยสายตาที่เย็นชา เธอสังเกตได้ว่าเขาไม่มีท่าทีเซื่องซึมอะไรสักนิด ถึงจะพอเดาได้ว่าเธอคงจะขัดขวางการปรับความเข้าใจกับจิเสะไม่ทัน แต่เรื่องสารภาพรัก...ความสุขบนหน้ามันจะน้อยไปหน่อยรึเปล่า แถมยังวันนี้ยังจ้องไปนอกหน้าต่าง มองอะไรอยู่กันนะ?
กริ๊งๆ กริ๊งๆ
เสียงกระดิ่งเมสเสจที่จินเนะลุกลี้ลุกลนรับไม่ได้ส่งไปถึงจุนแต่อย่างใด เนื่องจากเสียงฝนที่ตกหนักได้กลบเสียงนั้นไปหมด
'ส่งกำหนดการณ์ของงานวันพรุ่งนี้มาให้ ตรวจเมลล์ด้วย จาก...เซโตะ'
นายผู้จัดการจอมจุ้นนั่น!
จินเนะบีบมือแน่นแล้วเดินโมโหไปตรวจอีเมลล์ตามที่อีกฝ่ายส่งเมสเสจมาบอก ตารางงานของไอดอลถึงมันจะแน่นเอี๊ยดและบางงานก็หนักไปบ้าง แต่นี่คือสิ่งที่เธอชอบทำ ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงอย่างเหตุผลของใครบางคนที่พยามจะเป็นและได้เป็น...ไอดอล
ท่ามกลางสายฝนอันกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้า ใครบางคนกดกริ่งที่หน้าบ้านคาเมซากิ เพียงแต่เสียงกริ่งมันฟังดูเบาๆลอยๆมาตามสายลมอยางบอกไม่ถูก
จุนเป็นคนลงไปเปิดประตูบ้านเองด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง สายฝนที่ตกกระหน่ำยังไม่มีท่าทีจะซาลง ใครกันนะที่มาดึกดื่นแบบนี้
"จุน..."
มาซารุยิ้มให้เขาอย่างดีใจปนโล่งอก มือทิ้งร่มเก่าๆที่แทบจะกันฝนอะไรไม่ได้แล้วโผเข้ากอดทันที กิโมโนเปียกชุ่มเม็ดฝนทำให้พื้นหน้าบ้านเปียกเป็นจุดๆและยังเปียกเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านด้วย เนื้อตัวที่เย็นเฉียบจนแทบไม่มีอุณหภูมิความร้อนเมื่อเจอฝนจึงเย็นขึ้นไปอีก สำหรับจุนแล้วผิวเนื้อของอีกฝ่ายมันหนาวราวกับน้ำแข็งเลยทีเดียว...
จะให้กลับไปก็ไม่ได้ ต่อให้กังวลการก่อกวนของจินเนะก็ตาม
"เปียกหมดแล้วนะ มาซารุซัง ว่าแต่ทำไมมากลางดึกกลางดื่นแบบนี้ล่ะ อันตรายออกนะ ยิ่งฝนตกหนักอยู่ด้วย รถราเอย พวกแก๊งอันธพาลเอย คนที่ดูบอบบางชวนรังแกอย่างมาซารุซังจะตกเป็นเป้าเอาง่ายๆนะ รู้ไหม"
"ข้ามาหาเจ้า" มาซารุยังคงยิ้ม "เพราะวันนี้รอตั้งนานแล้วเจ้าไม่ไปที่ศาลเจ้า และตอนเช้าเจ้าก็บอกว่า ถ้ามีธุระอะไรให้มาที่นี่ ข้ามาตามที่เจ้าบอกแล้วไง"
จุนเหลือบมองขึ้นไปด้านบน เขายังคงกังวลเรื่องน้องสาวไม่หาย แต่โชคดีอยู่ฝ่ายคนดีเสมอ เมื่อเด็กสาวยังคงตรวจอีเมลล์ไปก็บ่นอุบไปไม่หยุด
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันครู่ใหญ่เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรจะพูด มาซารุเองก็มีที่นี่ 'เพื่อพบกัน' เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะมาทำอะไรเป็นพิเศษ
แต่ในที่สุด พ่อของจุน คาเมซากิ ชิโร่ ต้องเดินลงมาดูเพราะเห็นเงียบกันไปนาน
"จุน ใครมานะ"
"อ้อ ขอแนะนำใหู้้รู้จักครับ มาซารุซังจากศาลเ้จ้าฟุมิเนเนะครับ"
จุนผายมือไปที่บุคคลร่างกิโมโนซึ่งโค้งตัวทักทายตามธรรมเนียมญี่ปุ่น ชิโร่มองดูด้วยความแปลกใจแล้วถามทันทีว่า
"ตรงไหนกันล่ะ"
ชิโร่กระพริบตาสองสามทีจึงจะสังเกตคนในชุดกิโมโนโบราณกำลังนั่งอยู่ข้างๆจุน แม้จะติดสงสัยเล็กน้อยแต่เสียงของภรรยาก็เรียกให้กลับไปที่ห้องนั่งเล่นซึ่งถัดไปอีกไม่กี่ห้อง
ชิโร่พูดอีกสองสามคำพอเป็นพิธีและเดินกลับไปตามเสียงของภรรยา
"เจ้าทำไมไม่ไปหาข้าล่ะ"
มาซารุพูดอย่างเศร้าสร้อย น้ำเสียงลอยล่องในอากาศเยียบเย็น ชวนให้จุนรู้สึกลำบากใจ
"คือ...ผมต้องกลับมาที่บ้านเพราะข้าวของอยู่ที่นี่นะ แล้วจะไปพบเธอทุกวันมันก็ไม่มีเงินค่ารถบัสทุกครั้งด้วย...เอ่อ"
"เรื่องเงินข้ามีให้เจ้านะ"
เหรียญเงินแบบเก่าอย่างที่จุนจะพบเฉพาะในพิพิธภัณฑ์หล่นลงมาจากแขนเสื้อกิโมโนเกรียวกราวจนเด็กหนุ่มอ้าปากค้าง เขารีบโกยเหรียญเหล่านั้นส่งคืนให้มาซารุทันที
"พบรับไว้ไม่ได้หรอกนะครับ ยังไงพรุ่งนี้ผมจะไปพบเธอแล้วกันนะ"
จุนตัดสินใจพูดไปแบบนั้นและเพื่อค่ารถบัสก็คงต้องงดขนมประจำวันบ้างอะไรบ้าง ค่าขนมรายอาทิตย์เพิ่งออกวันนี้ซะด้วยสิ
"คืนนี้ค้างที่นี่แล้วกันนะ ฝนตกหนักแบบนี้เธอจะกลับไปได้ยัีงไงกัน" จุนมองร่มที่เกือบขาดอยู่รอมร่อแล้วถอนหายใจ "วันหลังรอตอนเช้าค่อยมาก็ได้นี่ครับ เธอฝ่าฝนมาแบบนี้จะเป็นหวัดเอาได้ง่ายๆ ดูสิ ห่มผ้าขนาดน้ตัวยังไม่อุ่นขึ้นเลย"
มาซารุกล่าวพร้อมกับสัมผัสอีกฝ่าย
"แต่เนื้อตัวของจุนอุ่นดี เป็นอุณหภูมิแบบเดิมอย่างที่ข้าชอบ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จุนอดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้ มันก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แต่คำชมประหลาดๆอย่างการชอบอุณหภูมินี่ ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยได้รับเลยเนี่ยสิ ฟังดูพิลึกชอบกล
รุ่งเช้าวันถัดมา ครอบครัวคาเมซากิต้องประหลาดใจเมื่อมีชุดอาหารเช้าจัดไว้ให้เรียบร้อย จุนชิมรสอาหารก็รู้เลยว่าต้องเป็นฝีมือของมาซารุแน่นอน เพียงแต่บุรุษชุดกิโมโนคนนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ
ถ้าให้จินเนะต้่องรู้จักกับมาซารุและหาทางแกล้งเขาเหมือนที่ทำกับจิเสะล่ะก็...ไม่มีทาง จุนได้แต่บอกว่าเพื่อนที่มาตอนกลางดึกมาทำไว้ให้เท่านั้น
เด็กสาวมองตามแผ่นหลังของพี่ชายไปอย่างรู้สึกติดใจสงสัยบางอย่าง อาหารเช้าเหล่านั้นมันน่าจะเกินความสามารถของเด็กมัธยมทั่วไปแน่นอน ฉะนั้น เพื่อนที่ว่าเนี่ย...ใครกันล่ะ?
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ