You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi
16) บทที่16
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ที่เราควรไปคงไม่ใช่ทางซ้ายแล้วล่ะ" จุนพูดเป็นครั้งแรก หลังจากเดินมาเจอคบไฟอันเดิมถึงสามครั้ง "ตอนนี้เหลืออีกสองทาง"
จากห้องที่คุมขังพวกเขาก็มีทางเดินลากยาวไปจนถึงทางแยกรูปวงกลมที่มีเส้นทางไปทั้งหกรวมทางไปห้องคุมขัง พวกเขาเลือกเดินจากทางซ้ายสุดจนถึงทางตรงกลาง ตอนนี้ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ต้องสำรวจเส้นทางประหลาดนี้
ร่างในชุดกิโมโนเองก็เริ่มปวดข้อเท้าไปหมดแล้ว ทางแต่ละช่องก็ใช่ว่าจะสั้นเลย ถ้ายังหาทางออกไม่เจอแบบนี้ล่ะก็ พวกกลุ่มโจรจะรู้ตัวเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว
และเ้มื่อทางจากด้านซ้ายสุดไม่มีที่ถูกต้องเลย ในครั้งนี้จุนจึงได้เลือกจากด้านขวาสุด ยังไงซะ ถ้าหากทางนี้ผิดอีก เส้นทางสุดท้ายก็จะเป็นคำตอบได้
มาซารุจับมือกับจุนเดินไปตามทางที่ถูกสร้างอย่างคงทนอย่างทางขวาสุด ในใจก็อดครุ่นคิดไม่ได้ ถ้าเป็นทางลับหกเหลี่ยมแบบนี้ก็น่าจะมีคำบอกใบ้ไว้หน่อย หากว่าไม่ทำสัญลักษณ์ไว้เลย ตัวกลุ่มโจรเองก็มีสิทธิที่จะโดนทางลับลวงเอาได้
หรือว่ามั่นใจว่ายังไงก็คงไม่มีทางลืม?
จุนถอนหายใจเบาๆให้กับคบไฟซึ่งได้ทักทายกันเป็นรอบที่สี่ เปลวเพลิงไหววูบเหมือนกับจะล้อเลียนเด็กหนุ่ม ความโชติช่วงของมันสว่างไสวพอสำหรับเห็นประตูทางทั้งหกเลยทีเดียว
เมื่อไม่ได้ดั่งใจ เขาก็หันไปทะเลาะกับคบไฟ "ฮึ่ย ผมเป็นคนจุดแท้ๆ มาทำวูบวาบใส่ทำไมกัน ควรจะขอบคุณผมต่างหากล่ะ!"
มาซารุพยามกลั้นขำสีหน้าที่เอาจริงเอาจังในการโต้เถียง "ข่างเถอะน่า จุน ยังไงคบไฟก็ไม่ได้ตั้งใจไหววูบใส่เจ้าหรอก" มือเรียวยกสูงเพื่อบังลมที่พัดโชย แน่นอนว่ามันกลับมาเป็นคบไฟที่อยู่นิ่งๆอย่างเรียบร้อย "นี่ไงล่ะ ...เอ๊ะ!"
เด็กหนุ่มมัวแต่จ้องเปลวไฟรีบดึงมือข้างนั้นของมาซารุมาดูทันทีเพราะนึกว่าสัมผัสกับไฟ ภาพสายฟ้าที่ฟาดใส่ร่างวิญญาณของมาซารุปรากฏในห้วงความคิด แต่ครั้งนี้มาซารุไม่ได้มีพลังฟื้นตัวเหมือนเดิมหรอกนะ
อย่างไรก็ดี มือคู่งามนี้ไม่ได้มีแผลอะไร สร้างความงุนงงให้กับเด็กหนุ่มเป็นอันมาก
"เปล่า ข้าไม่ได้โดนกับไฟ" มาซารุตอบโจทย์ที่ถูกถามด้วยสายตาของจุน "ครั้งแรกที่เรามาที่นี่ เจ้าเป็นคนจุดคบไฟใช่ไหม ถ้าตรงนี้เป็นทางออกก็น่าจะมีไฟจุดไว้ก่อนหน้าแล้วสิ"
เขามองไปรอบๆ พื้นไม้เองถึงจะเก่าแต่ก็ยังดูแข็งแรงและเต็มไปด้วยฝุ่น สภาพเหมือนไม่ใช่ทางที่ถูกใช้มากนัก
สุดท้าย มาซารุถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ "ข้าว่าเราติดกับแล้วล่ะจุน ในหกทางนี้ไม่มีทางไหนถูกเลย"
จุนพูดเสียงเบาด้วยสีหน้าที่ซีดลง "มาซารุซัง..."
ผู้ถูกเรียกหันมาหาเด็กหนุ่มข้างกาย ก่อนจะพบว่าแสงไฟส่องมาจากสองทาง คือจากคบไฟที่มีอยู่กับไฟที่ปรากฏขึ้นมา เขาหันหลังไปประจันหน้ากับกลุ่มโจรที่ถืออาวุธครบมือ ชายร่างใหญ่ท่าทางเป็นหัวหน้าหัวเราะลั่นทางเดินจนเกิดเสียงสะท้อน "ฮึ! มารู้ตัวตอนนี้ก็สายไปแล้วเฟ้ย ฮ่าฮ่าฮ่า จับมัน!"
นั่นเป็นเสียงที่สั่งให้พวกกลุ่มโจรวิ่งเข้ามาหาและเป็นเสียงที่ทำให้จุนตัดสินใจดึงมือมาซารุที่ไม่มีอาวุธอะไรทั้งนั้นให้เข้าไปในทางแยกสุดท้าย ในชั่วจังหวะนั้น มาซารุเหวี่ยงคบไฟไปตรงทางเดินให้พวกนั้นหยุดชะงัก แม้จะเป็นเพียงสักครู่หนึ่งก็ยังดี
ตามทางเดินที่มืดสนิทเพราะไร้ซึ่งคบไฟ แต่ไม่น่าเป็นกังวลว่าจะชนกำแพงอะไร เพราะในหนึ่งทางแยกจะมีทางเลี้ยวเพียงสามครั้งเท่านั้นและแต่ละครั้งก็ห่างกันพอสมควร
แต่แล้ว ท่ามกลางความมืดมิดนั้นเอง เด็กหนุ่มสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างจนหกล้มกลิ้งไปหลายตลบ มาซารุพยามความหาเด็กหนุ่มในความมืดโดยใช้เสียงเป็นตัวนำ แต่กว่าจะพบก็คงยากเอาการเพราะทางเดินนี้เป็นเสียงก้องจนแทบจับทิศทางไม่ได้
"ใคร!... จุน?"
เพราะจับมือกันวิ่งมาโดยตลอด มาซารุถึงได้จับอุณหภูมิที่มือของจุนได้ เขาส่งเสียงรับออกมาแล้วกล่าวออกมาสั้นๆอย่างสิ้นหวัง "ทางตันแล้ว มาซารุซัง"
ถึงตอนนี้ จุนอยากจะทรุดตัวลงไปร้องไห้หรือทำอะไรทำนองนั้นเหลือเกิน นี่มันอะไรกันนะ เขาย้อนกลับมาในยุคเอโดะ มาพบกับมาซารุในร่างมนุษย์ มาพบกับสิ่งต่างๆที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เผชิญ แน่นอนล่ะ วิ่งหนีกลุ่มโจรในทางลับก็ด้วยเหมือนกัน
แต่เมื่อมือที่จับอยู่กับเขาถูกบีบแน่นขึ้นพร้อมทั้งเย็นเฉียบเหมือนกับหวาดกลัว เด็กหนุ่มก็ฝืนยิ้มท่ามกลา่งความมืด พูดปลอบด้วยเสียงขบขันที่พยามไม่สั่นมากที่สุด
ผมไม่อยากให้เธอคิดว่าผมอ่อนแอหรอกนะ
จุนบีบมือของมาซารุด้วยมือทั้งสองที่เต็มไปด้วยรอยแผลจากแกะเชือก "มาซารุซังไม่ต้องกลัว ผมจะพาเธอออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยให้ได้เลย ก็ผมเป็นโคชูของเธอนี่นา!"
เสียงฝีเท้าและแสงไฟใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มาซารุยิ้มเศร้าๆและไม่กล่าวตอบอะไรทั้งนั้น
"หึ จนมุมจนได้นะ เจ้าพวกลูกขุนนางไร้น้ำยา!"
มาซารุขมวดคิ้ว "นี่เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใครแล้วยังจะกล้าลักพาตัวมาอีกงั้นเหรอ"
หัวหน้ากลุ่มโจรที่เดินมาโดยมีลูกน้องแยกออกเป็นทางตรงกลางหัวเราะอย่างอำมหิตปนเจ้าเล่ห์
"ก็เพราะรู้นะสิถึงได้จับมา สาห์นเรื่องเงินค่าไถ่ก็ส่งไปแล้วด้วย ถ้าได้มันมาเมื่อไหร่ พวกเจ้าก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ถึงตอนนั้นข้าจะจัดการให้สมกับความยุ่งยาก...ฮึ่ย!"
จุนหยิบวัตถุสีขาวปริศนาที่ข้างเท้าเหวี่ยงใส่หัวหน้ากลุ่มโจร แน่นอนว่ามันไม่เสียเวลาหลบด้วยซ้ำ ดาบคมกริบถูกตวัดทีเดียววัตถุนั้นก็ขาดเป็นสองท่อน แต่ยังไม่ทันตั้งตัว มาซารุก็บุกเข้าไปแย่งดาบจากมือหัวหน้ากลุ่มโจรโดยการฟาดลงไปข้อมือของเขาอย่างแรง
พวกโจรทั้งหลายอยู่ในท่าดาบเตรียมตัวบุกทันที หากไม่ชะงักไปกับภาพที่เห็น นั่นคือการที่มาซารุเอาดาบจ่อคอตัวเอง "อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นข้าลงมือจริงๆด้วย"
"มาซารุซัง!" จุนร้องลั่น
แต่คนใจเด็ดอย่างมาซารุยิ่งเอาดาบใกล้คอมากขึ้นเมื่อเห็นพวกโจรยังขยับใกล้ "ข้าบอกว่าอย่าเข้ามา! อย่าลืมสิ หากไม่มีข้าออกมาให้ท่านพ่อเห็น พวกเจ้าก็จะไม่มีวันได้เงินค่าไถ่หรอก!"
หัวหน้าโจรส่งเสียงฮึดฮัดอย่างขัดใจ ตะโกนเสียงกร้าวว่ามาซารุต้องการอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนให้วางดาบลง
"ปล่อยจุนไปซะ" เด็กหนุ่มหันไปมองผู้พูดทันทีอย่างตื่นตะลึง "หากปล่อยเขาไป พวกเจ้าก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรก็จริง แต่ถ้าเจ้าสังหารเขาล่ะก็ คงรู้นะ ว่าข้าจะทำอะไรกับตัวเอง"
หัวหน้าโจรมองดูจุนอย่างทบทวน ในสาห์นค่าไถ่เขาไม่ได้บอกซะด้วยสิว่าให้เอาเงินมาไถ่ตัวโคชูด้วย งั้นปล่อยไปก็ไม่เสียหายอะไรหรอก เขายิ้มกว้างแล้วพูดเสียงเจ้าเล่ห์ "ปล่อยตัวเจ้าหนูนั่นไปก็ได้ แต่เจ้าต้องถูกมัดอยู่ในห้องเดิม คราวนี้ก็ทำตัวสงบเสงี่ยมด้วยล่ะ ได้ไหม?"
มาซารุพยักหน้าช้าๆ ดาบในมือคลายออกจากคอเล็กน้อย เขามองจุนเหมือนจะบอกว่าเด็กหนุ่มออกไปจากที่นี่ได้แล้ว...ออกไปอย่างปลอดภัย
จุนมองกลุ่มโจรสลับกับมาซารุ พวกนั้นมีจำนวนมากกว่าก็จริง แต่เขาก็ไม่คิดดูถูกฝีมือของมาซารุซ้ำสองด้วยการตัดสินจากจำนวนเท่านั้นหรอกนะ
เด็กหนุ่มหันมาถามมาซารุโดยที่เท้ายังไม่ได้ขยับไปไหน "เธอคิดว่าผมเป็นโคชูที่ดีไหม"
มาซารุพยักหน้าแล้วจะเอ่ยเร่งให้เขารีบไปก่อนที่พวกโจรจะเปลี่ยนใจ
จุนยิ้มแล้่วกล่าวด้วยเสียงปกติว่า "ถ้าให้สู้กับพวกนี้ เธอจะสามารถเอาชนะได้หรือเปล่า"
มาซารุกระพริบตาปริบๆ "ข้าทำได้ แต่ถึงตอนนั้นเจ้าจะทำยังไงกัน พวกเขาอาจใช้เจ้าเป็นตัวประกันให้ข้าวางอาวุธ"
หัวหน้าโจรขมวดคิ้วทันที เขาตะโกนขึ้นมา
"อย่ามาทำเล่นลูกไม้ ตอนที่เจ้าไปจากที่นี่จะมีคนคุมไปถึงประตูทางออก ถึงตรงนั้น เจ้านายของเจ้าจะต้องวางดาบก่อน และถ้าหากเจ้าหนีไปโดยที่เจ้านายของเจ้าคิดเล่นแง่ล่ะก็ คนของข้าที่ชำนาญพื้นที่กว่าจะไปนำตัวเจ้ากลับมาทันที!"
จุนยกยิ้มเย้ยหยัน เขาหันมาหามาซารุแล้วเอ่ยคำรักสั้นๆเบาๆ ในตอนที่ร่างในชุดกิโมโนกำลังเผลอนี้เอง จุนใช้แรงบิดเอาดาบจากมืออีกฝ่ายมาแทงตนเองอย่างไม่สนใจเสียงร้องลั่นของมาซารุ ซึ่งได้รับร่างเขาไว้ในทันที
เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ พวกกลุ่มโจรถือโอกาสบุกเข้าไปจับตัวมาซารุเพื่อนำกลับไปห้องคุมขัง
ดวงตาของมาซารุแววโรจน์ด้วยความโกรธเกรี้ยว เขารอกลุ่มโจรวิ่งเข้ามาอย่างใจเย็น และเมื่อประชิดตัว ร่างงามก้มลงแล้วบิดข้อมือหนึ่งในลูกสมุนโจรซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดเพื่อชิงดาบ แล้วจัดการพวกนั้นอย่างเคืองแค้น
ทำไมพวกเจ้าต้องจับจุนมาด้วย... ทำไมข้าถึงไม่ลงมือกับพวกมันตั้งแต่แรก... และจุน ทำไมเจ้าต้องทำแบบนี้ด้วย!
สมาธิเป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้ แต่มาซารุที่ไม่มีของแบบนั้นอยู่เลยสักนิดแต่ทำได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมยอดมากแล้ว หัวหน้าโจรเล็งโอกาสแล้วส่งเสียงยินดี "เสร็จข้าล่ะ!"
มือที่แทบไร้แรงตั้งแต่เห็นคนรักแทงตัวเองได้ปล่อยให้ดาบหล่นลงไปกับพื้นโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว ราวกับจะไม่ทำอะไรต่อไปอีกแล้ว ไม่สิ...ต้องเรียกว่าไม่มีอะไรอยู่ในจิตใจนี้แล้วต่างหาก มาซารุหลับตาและทรุดลงกับพื้น เตรียมรับคมดาบของหัวหน้าโจร
แต่สิ่งที่ปรากฏหลังจากนั้นคือร่างที่ถูกดาบพิฆาตในฉับเดียวของหัวหน้าโจรซึ่งล้มลงมาใกล้กับมาซารุนั่นเอง
"ท่าน...พ่อ?"
ท่านมารุสึเกะยิ้มให้บุตรชายเหมือนจะปลอบว่าไม่มีอะไรให้ต้องกลัวแล้ว โดยมีซาคาเมะโผล่มาจากด้านหลังแล้วใช้เท้าทักทายกับร่างหัวหน้าโจรอย่างไม่ปรานีปราศัย ปากก็พร่ำคำพูดเยาะเย้ยสะใจไป
คนในกองกำลังของท่านมารุสึเกะรีบเข้าไปตรวจดูอาการของจุนทันที "ยังมีชีวิตอยู่ขอรับ!"
น้ำตาสายหนึ่งได้ไหลลงมา คำพูดสั้นๆนั้นเหมือนเติมความรู้สึกที่เกือบดับมอดในจิตใจของมาซารุขึ้นมาใหม่ เขายิ้มอย่างมีความหวังทั้งน้ำตาแล้ววิ่งเข้าไปหาร่างที่บาดเจ็บนั้น
ท่านมารุสึเกะถอนหายใจออกมาเงียบๆ มองดูสิ่งที่จุนกับมาซารุสะดุึดในตอนแรก...โครงกระดูกสีขาว ร่างของพวกที่โดนกลุ่มโจรจับมาก่อนหน้านี้ แล้วนึกขอบคุณโชคชะตาที่ตนเองได้มาทันพอดี
จุนรู้สึกอะไรบางอย่างขมๆในปากถูกป้อนมาช้อนแล้วช้อนเล่า เขากลืนมันลงไปอย่างไม่คิดอะไรมาก แต่ในที่สุด เด็กหนุ่มก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาจนได้ สมองเขาแล่นทันที ฉายภาพความทรงจำก่อนที่ตัวเองต้องมานอนให้ยาแบบนี้ เด็กหนุ่มรีบได้สติลุกขึ้นมาพรวดเดียว
"มาซารุซัง! อะ...โอ๊ย!"
จุนล้มลงไปกองกับฟูกขาวพลางร้องโอดโอยกุมจมูกตัวเองเช่นเดียวกันกับผู้ถูกชนอย่างมาซารุ สถานการณ์ช่างคุ้นในความรู้สึกของทั้งสองคนซะจริง
"เป็น...เป็นอะไรรึเปล่า"
เสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของมาซารุปรากฏอยู่ข้างกายในเวลาอันรวดเร็ว เด็กหนุ่มมองคนรักอย่างดีใจที่เห็นอีกฝ่ายปลอดภัยดี แน่นอนว่าความดีใจที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่แล่นขึ้นมาจนกลั้นยิ้มไม่อยู่
"ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่" มาซารุพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจปนความสุขและอะไรต่างๆที่รวมแล้วได้ความรู้สึกที่ดี "เจ้าไม่รู้หรอกว่าตอนที่เห็นเจ้าทำแบบนั้น ข้า...ข้าแทบจะเสียสติเลยรู้ไหม"
จุนกุมมืออีกฝ่ายแล้วบีบเบาๆพลางพูดปลอบว่าเขาไม่เป็นไรแล้ว ก่อนจะถามเรื่องที่คาใจอยู่ตอนนี้ "แล้วต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้น มาซารุซังหนีมาได้ยังไง หรือว่าจัดการกลุ่มโจรได้เหรอ"
"เปล่า" เสียงขรึมๆของท่านมารุสึเกะดังขึ้นที่อีกด้านของฟูกนอนญี่ปุ่น "ข้ายกกำลังไปช่วยมาจากที่นั่นไว้ได้นะ"
เมื่อเห็นท่าทางของจุนที่เพิ่งสังเกตว่าในห้องมีคนอื่นอยู่ด้วย ท่านมารุสึเกะก็หมั่นไส้ซะจนอยากซัดเจ้าโคชูบ้าคนนี้ให้นอนสลบต่อไปให้หายโมโห ถ้าไม่ติดที่บุตรชายของเขาซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดูแลจุนแบบหามรุ่งหามค่ำจนแทบไม่ได้นอนเลย
ท่านหญิงเองก็กระแอมเล็กน้อย คล้ายจะบอกว่านอกจากท่านมารุสึเกะแล้วยังมีนางกับท่านองเมียวจิมิสึกาวะที่มาเยี่ยมอีกด้วย
"ท่านมารุสึเกะเจ้าคะ ไหนๆจุนก็ฟื้นแล้ว พวกเราก็ออกไปด้านนอก ให้พวกเขาได้คุยกันหน่อยไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ?"
ท่านผู้นำตระกูลสูงสุดเลิกคิ้ว "ทำไมต้องออกด้วย มีเรื่องอะไรที่ข้าอยู่ฟังไม่ได้หรือไง?"
ท่านหญิงสบตากับมาซารุที่เต็มไปด้วยความเหวอแล้วหัวเราะคิกคัก
"เปล่าเจ้าค่ะ ไม่ใช่ความลับอะไรที่ท่านรู้ไม่ได้ แต่มันเป็นการ 'พูดคุยธรรมดาๆ' ของเจ้านายกับโคชูเท่านั้นเองเจ้าค่ะ เชื่อข้่าเถอะ ท่านมาซารุอุตสาห์ดูแลอย่างหนักเพื่อให้เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ตื่นขึ้นมา ให้พวกเขาได้คุยกันเป็นการส่วนตัวดีกว่า"
หลังจากทุกคนออกไปหมดตามคำขอของท่านหญิงอาสึสะแล้ว มาซารุก็โผเข้ากอดจุนทันทีจนเขาร้องโอดโอยเพราะเจ็บแผล เล่นเอาร่างในชุดกิโมโนพร่ำขอโทษ กล่าวว่าตนไม่ได้ตั้งใจและค่อยๆประคองเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้นมานั่ง
"ข้าเป็นห่วงเจ้ามากเลยนะ รู้ไหม ทำไมต้องเสี่ยงทำอะไรอย่างนั้นด้วย"
น้ำตาที่มาซารุกลั้นมาโดยตลอดตั้งแต่จุนฟื้นได้ไหลลงมา ไหลลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ...
จุนปาดมันออกพลางพูดยิ้มๆ "แต่ผมไม่เป็นไรแล้วนี่นา เธออย่าร้องไห้สิ ผมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้สิ่งนี้ต้องปรากฏนะ"
มาซารุโผเข้ากอดจุนอีกครั้งอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องเจ็บ "แต่ข้ารักเจ้า เจ้าทำแบบนี้จะไม่ให้ข้าร้องไห้ได้ยังไงกันเล่า!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ