You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi

10.0

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.13 น.

  20 chapter
  3 วิจารณ์
  27.77K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) บทที่16

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        “ที่เราควรไปคงไม่ใช่ทางซ้ายแล้วล่ะ"  จุนพูดเป็นครั้งแรก  หลังจากเดินมาเจอคบไฟอันเดิมถึงสามครั้ง  "ตอนนี้เหลืออีกสองทาง"

        จากห้องที่คุมขังพวกเขาก็มีทางเดินลากยาวไปจนถึงทางแยกรูปวงกลมที่มีเส้นทางไปทั้งหกรวมทางไปห้องคุมขัง  พวกเขาเลือกเดินจากทางซ้ายสุดจนถึงทางตรงกลาง  ตอนนี้ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ต้องสำรวจเส้นทางประหลาดนี้

        ร่างในชุดกิโมโนเองก็เริ่มปวดข้อเท้าไปหมดแล้ว  ทางแต่ละช่องก็ใช่ว่าจะสั้นเลย  ถ้ายังหาทางออกไม่เจอแบบนี้ล่ะก็  พวกกลุ่มโจรจะรู้ตัวเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว

        และเ้มื่อทางจากด้านซ้ายสุดไม่มีที่ถูกต้องเลย  ในครั้งนี้จุนจึงได้เลือกจากด้านขวาสุด  ยังไงซะ ถ้าหากทางนี้ผิดอีก  เส้นทางสุดท้ายก็จะเป็นคำตอบได้

        มาซารุจับมือกับจุนเดินไปตามทางที่ถูกสร้างอย่างคงทนอย่างทางขวาสุด  ในใจก็อดครุ่นคิดไม่ได้  ถ้าเป็นทางลับหกเหลี่ยมแบบนี้ก็น่าจะมีคำบอกใบ้ไว้หน่อย  หากว่าไม่ทำสัญลักษณ์ไว้เลย  ตัวกลุ่มโจรเองก็มีสิทธิที่จะโดนทางลับลวงเอาได้

        หรือว่ามั่นใจว่ายังไงก็คงไม่มีทางลืม?

        จุนถอนหายใจเบาๆให้กับคบไฟซึ่งได้ทักทายกันเป็นรอบที่สี่  เปลวเพลิงไหววูบเหมือนกับจะล้อเลียนเด็กหนุ่ม  ความโชติช่วงของมันสว่างไสวพอสำหรับเห็นประตูทางทั้งหกเลยทีเดียว

        เมื่อไม่ได้ดั่งใจ เขาก็หันไปทะเลาะกับคบไฟ  "ฮึ่ย ผมเป็นคนจุดแท้ๆ  มาทำวูบวาบใส่ทำไมกัน  ควรจะขอบคุณผมต่างหากล่ะ!"

        มาซารุพยามกลั้นขำสีหน้าที่เอาจริงเอาจังในการโต้เถียง  "ข่างเถอะน่า จุน  ยังไงคบไฟก็ไม่ได้ตั้งใจไหววูบใส่เจ้าหรอก"  มือเรียวยกสูงเพื่อบังลมที่พัดโชย  แน่นอนว่ามันกลับมาเป็นคบไฟที่อยู่นิ่งๆอย่างเรียบร้อย  "นี่ไงล่ะ  ...เอ๊ะ!"

        เด็กหนุ่มมัวแต่จ้องเปลวไฟรีบดึงมือข้างนั้นของมาซารุมาดูทันทีเพราะนึกว่าสัมผัสกับไฟ  ภาพสายฟ้าที่ฟาดใส่ร่างวิญญาณของมาซารุปรากฏในห้วงความคิด  แต่ครั้งนี้มาซารุไม่ได้มีพลังฟื้นตัวเหมือนเดิมหรอกนะ

        อย่างไรก็ดี มือคู่งามนี้ไม่ได้มีแผลอะไร  สร้างความงุนงงให้กับเด็กหนุ่มเป็นอันมาก

        "เปล่า  ข้าไม่ได้โดนกับไฟ"  มาซารุตอบโจทย์ที่ถูกถามด้วยสายตาของจุน  "ครั้งแรกที่เรามาที่นี่  เจ้าเป็นคนจุดคบไฟใช่ไหม  ถ้าตรงนี้เป็นทางออกก็น่าจะมีไฟจุดไว้ก่อนหน้าแล้วสิ"

        เขามองไปรอบๆ  พื้นไม้เองถึงจะเก่าแต่ก็ยังดูแข็งแรงและเต็มไปด้วยฝุ่น  สภาพเหมือนไม่ใช่ทางที่ถูกใช้มากนัก

        สุดท้าย มาซารุถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  "ข้าว่าเราติดกับแล้วล่ะจุน  ในหกทางนี้ไม่มีทางไหนถูกเลย"

        จุนพูดเสียงเบาด้วยสีหน้าที่ซีดลง  "มาซารุซัง..."

        ผู้ถูกเรียกหันมาหาเด็กหนุ่มข้างกาย  ก่อนจะพบว่าแสงไฟส่องมาจากสองทาง  คือจากคบไฟที่มีอยู่กับไฟที่ปรากฏขึ้นมา  เขาหันหลังไปประจันหน้ากับกลุ่มโจรที่ถืออาวุธครบมือ  ชายร่างใหญ่ท่าทางเป็นหัวหน้าหัวเราะลั่นทางเดินจนเกิดเสียงสะท้อน  "ฮึ!  มารู้ตัวตอนนี้ก็สายไปแล้วเฟ้ย  ฮ่าฮ่าฮ่า จับมัน!"

        นั่นเป็นเสียงที่สั่งให้พวกกลุ่มโจรวิ่งเข้ามาหาและเป็นเสียงที่ทำให้จุนตัดสินใจดึงมือมาซารุที่ไม่มีอาวุธอะไรทั้งนั้นให้เข้าไปในทางแยกสุดท้าย  ในชั่วจังหวะนั้น มาซารุเหวี่ยงคบไฟไปตรงทางเดินให้พวกนั้นหยุดชะงัก  แม้จะเป็นเพียงสักครู่หนึ่งก็ยังดี

        ตามทางเดินที่มืดสนิทเพราะไร้ซึ่งคบไฟ  แต่ไม่น่าเป็นกังวลว่าจะชนกำแพงอะไร  เพราะในหนึ่งทางแยกจะมีทางเลี้ยวเพียงสามครั้งเท่านั้นและแต่ละครั้งก็ห่างกันพอสมควร

        แต่แล้ว ท่ามกลางความมืดมิดนั้นเอง  เด็กหนุ่มสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างจนหกล้มกลิ้งไปหลายตลบ  มาซารุพยามความหาเด็กหนุ่มในความมืดโดยใช้เสียงเป็นตัวนำ  แต่กว่าจะพบก็คงยากเอาการเพราะทางเดินนี้เป็นเสียงก้องจนแทบจับทิศทางไม่ได้

        "ใคร!... จุน?"

        เพราะจับมือกันวิ่งมาโดยตลอด  มาซารุถึงได้จับอุณหภูมิที่มือของจุนได้  เขาส่งเสียงรับออกมาแล้วกล่าวออกมาสั้นๆอย่างสิ้นหวัง  "ทางตันแล้ว  มาซารุซัง"

        ถึงตอนนี้ จุนอยากจะทรุดตัวลงไปร้องไห้หรือทำอะไรทำนองนั้นเหลือเกิน  นี่มันอะไรกันนะ เขาย้อนกลับมาในยุคเอโดะ  มาพบกับมาซารุในร่างมนุษย์  มาพบกับสิ่งต่างๆที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เผชิญ  แน่นอนล่ะ วิ่งหนีกลุ่มโจรในทางลับก็ด้วยเหมือนกัน

        แต่เมื่อมือที่จับอยู่กับเขาถูกบีบแน่นขึ้นพร้อมทั้งเย็นเฉียบเหมือนกับหวาดกลัว  เด็กหนุ่มก็ฝืนยิ้มท่ามกลา่งความมืด พูดปลอบด้วยเสียงขบขันที่พยามไม่สั่นมากที่สุด

        ผมไม่อยากให้เธอคิดว่าผมอ่อนแอหรอกนะ

        จุนบีบมือของมาซารุด้วยมือทั้งสองที่เต็มไปด้วยรอยแผลจากแกะเชือก  "มาซารุซังไม่ต้องกลัว  ผมจะพาเธอออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยให้ได้เลย  ก็ผมเป็นโคชูของเธอนี่นา!"

        เสียงฝีเท้าและแสงไฟใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  มาซารุยิ้มเศร้าๆและไม่กล่าวตอบอะไรทั้งนั้น

        "หึ จนมุมจนได้นะ เจ้าพวกลูกขุนนางไร้น้ำยา!"

        มาซารุขมวดคิ้ว  "นี่เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใครแล้วยังจะกล้าลักพาตัวมาอีกงั้นเหรอ"

        หัวหน้ากลุ่มโจรที่เดินมาโดยมีลูกน้องแยกออกเป็นทางตรงกลางหัวเราะอย่างอำมหิตปนเจ้าเล่ห์  

        "ก็เพราะรู้นะสิถึงได้จับมา  สาห์นเรื่องเงินค่าไถ่ก็ส่งไปแล้วด้วย  ถ้าได้มันมาเมื่อไหร่  พวกเจ้าก็ไม่มีประโยชน์แล้ว  ถึงตอนนั้นข้าจะจัดการให้สมกับความยุ่งยาก...ฮึ่ย!"

        จุนหยิบวัตถุสีขาวปริศนาที่ข้างเท้าเหวี่ยงใส่หัวหน้ากลุ่มโจร  แน่นอนว่ามันไม่เสียเวลาหลบด้วยซ้ำ  ดาบคมกริบถูกตวัดทีเดียววัตถุนั้นก็ขาดเป็นสองท่อน  แต่ยังไม่ทันตั้งตัว มาซารุก็บุกเข้าไปแย่งดาบจากมือหัวหน้ากลุ่มโจรโดยการฟาดลงไปข้อมือของเขาอย่างแรง

        พวกโจรทั้งหลายอยู่ในท่าดาบเตรียมตัวบุกทันที  หากไม่ชะงักไปกับภาพที่เห็น  นั่นคือการที่มาซารุเอาดาบจ่อคอตัวเอง  "อย่าเข้ามานะ  ไม่งั้นข้าลงมือจริงๆด้วย"

        "มาซารุซัง!"  จุนร้องลั่น

        แต่คนใจเด็ดอย่างมาซารุยิ่งเอาดาบใกล้คอมากขึ้นเมื่อเห็นพวกโจรยังขยับใกล้  "ข้าบอกว่าอย่าเข้ามา!  อย่าลืมสิ หากไม่มีข้าออกมาให้ท่านพ่อเห็น  พวกเจ้าก็จะไม่มีวันได้เงินค่าไถ่หรอก!"

        หัวหน้าโจรส่งเสียงฮึดฮัดอย่างขัดใจ  ตะโกนเสียงกร้าวว่ามาซารุต้องการอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนให้วางดาบลง

        "ปล่อยจุนไปซะ"  เด็กหนุ่มหันไปมองผู้พูดทันทีอย่างตื่นตะลึง  "หากปล่อยเขาไป  พวกเจ้าก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรก็จริง  แต่ถ้าเจ้าสังหารเขาล่ะก็  คงรู้นะ ว่าข้าจะทำอะไรกับตัวเอง"

        หัวหน้าโจรมองดูจุนอย่างทบทวน  ในสาห์นค่าไถ่เขาไม่ได้บอกซะด้วยสิว่าให้เอาเงินมาไถ่ตัวโคชูด้วย  งั้นปล่อยไปก็ไม่เสียหายอะไรหรอก  เขายิ้มกว้างแล้วพูดเสียงเจ้าเล่ห์  "ปล่อยตัวเจ้าหนูนั่นไปก็ได้  แต่เจ้าต้องถูกมัดอยู่ในห้องเดิม  คราวนี้ก็ทำตัวสงบเสงี่ยมด้วยล่ะ  ได้ไหม?"

        มาซารุพยักหน้าช้าๆ  ดาบในมือคลายออกจากคอเล็กน้อย  เขามองจุนเหมือนจะบอกว่าเด็กหนุ่มออกไปจากที่นี่ได้แล้ว...ออกไปอย่างปลอดภัย

        จุนมองกลุ่มโจรสลับกับมาซารุ  พวกนั้นมีจำนวนมากกว่าก็จริง  แต่เขาก็ไม่คิดดูถูกฝีมือของมาซารุซ้ำสองด้วยการตัดสินจากจำนวนเท่านั้นหรอกนะ

        เด็กหนุ่มหันมาถามมาซารุโดยที่เท้ายังไม่ได้ขยับไปไหน  "เธอคิดว่าผมเป็นโคชูที่ดีไหม"

        มาซารุพยักหน้าแล้วจะเอ่ยเร่งให้เขารีบไปก่อนที่พวกโจรจะเปลี่ยนใจ

        จุนยิ้มแล้่วกล่าวด้วยเสียงปกติว่า  "ถ้าให้สู้กับพวกนี้  เธอจะสามารถเอาชนะได้หรือเปล่า"

        มาซารุกระพริบตาปริบๆ  "ข้าทำได้  แต่ถึงตอนนั้นเจ้าจะทำยังไงกัน  พวกเขาอาจใช้เจ้าเป็นตัวประกันให้ข้าวางอาวุธ"

        หัวหน้าโจรขมวดคิ้วทันที  เขาตะโกนขึ้นมา  

        "อย่ามาทำเล่นลูกไม้  ตอนที่เจ้าไปจากที่นี่จะมีคนคุมไปถึงประตูทางออก  ถึงตรงนั้น เจ้านายของเจ้าจะต้องวางดาบก่อน  และถ้าหากเจ้าหนีไปโดยที่เจ้านายของเจ้าคิดเล่นแง่ล่ะก็  คนของข้าที่ชำนาญพื้นที่กว่าจะไปนำตัวเจ้ากลับมาทันที!"

        จุนยกยิ้มเย้ยหยัน  เขาหันมาหามาซารุแล้วเอ่ยคำรักสั้นๆเบาๆ  ในตอนที่ร่างในชุดกิโมโนกำลังเผลอนี้เอง  จุนใช้แรงบิดเอาดาบจากมืออีกฝ่ายมาแทงตนเองอย่างไม่สนใจเสียงร้องลั่นของมาซารุ  ซึ่งได้รับร่างเขาไว้ในทันที

        เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้  พวกกลุ่มโจรถือโอกาสบุกเข้าไปจับตัวมาซารุเพื่อนำกลับไปห้องคุมขัง

        ดวงตาของมาซารุแววโรจน์ด้วยความโกรธเกรี้ยว  เขารอกลุ่มโจรวิ่งเข้ามาอย่างใจเย็น  และเมื่อประชิดตัว ร่างงามก้มลงแล้วบิดข้อมือหนึ่งในลูกสมุนโจรซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดเพื่อชิงดาบ  แล้วจัดการพวกนั้นอย่างเคืองแค้น

        ทำไมพวกเจ้าต้องจับจุนมาด้วย...  ทำไมข้าถึงไม่ลงมือกับพวกมันตั้งแต่แรก...  และจุน ทำไมเจ้าต้องทำแบบนี้ด้วย!

        สมาธิเป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้  แต่มาซารุที่ไม่มีของแบบนั้นอยู่เลยสักนิดแต่ทำได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมยอดมากแล้ว  หัวหน้าโจรเล็งโอกาสแล้วส่งเสียงยินดี  "เสร็จข้าล่ะ!"

        มือที่แทบไร้แรงตั้งแต่เห็นคนรักแทงตัวเองได้ปล่อยให้ดาบหล่นลงไปกับพื้นโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว  ราวกับจะไม่ทำอะไรต่อไปอีกแล้ว  ไม่สิ...ต้องเรียกว่าไม่มีอะไรอยู่ในจิตใจนี้แล้วต่างหาก  มาซารุหลับตาและทรุดลงกับพื้น  เตรียมรับคมดาบของหัวหน้าโจร

        แต่สิ่งที่ปรากฏหลังจากนั้นคือร่างที่ถูกดาบพิฆาตในฉับเดียวของหัวหน้าโจรซึ่งล้มลงมาใกล้กับมาซารุนั่นเอง

        "ท่าน...พ่อ?"

        ท่านมารุสึเกะยิ้มให้บุตรชายเหมือนจะปลอบว่าไม่มีอะไรให้ต้องกลัวแล้ว  โดยมีซาคาเมะโผล่มาจากด้านหลังแล้วใช้เท้าทักทายกับร่างหัวหน้าโจรอย่างไม่ปรานีปราศัย  ปากก็พร่ำคำพูดเยาะเย้ยสะใจไป

        คนในกองกำลังของท่านมารุสึเกะรีบเข้าไปตรวจดูอาการของจุนทันที  "ยังมีชีวิตอยู่ขอรับ!"

        น้ำตาสายหนึ่งได้ไหลลงมา  คำพูดสั้นๆนั้นเหมือนเติมความรู้สึกที่เกือบดับมอดในจิตใจของมาซารุขึ้นมาใหม่  เขายิ้มอย่างมีความหวังทั้งน้ำตาแล้ววิ่งเข้าไปหาร่างที่บาดเจ็บนั้น

        ท่านมารุสึเกะถอนหายใจออกมาเงียบๆ  มองดูสิ่งที่จุนกับมาซารุสะดุึดในตอนแรก...โครงกระดูกสีขาว  ร่างของพวกที่โดนกลุ่มโจรจับมาก่อนหน้านี้  แล้วนึกขอบคุณโชคชะตาที่ตนเองได้มาทันพอดี

 

        จุนรู้สึกอะไรบางอย่างขมๆในปากถูกป้อนมาช้อนแล้วช้อนเล่า  เขากลืนมันลงไปอย่างไม่คิดอะไรมาก  แต่ในที่สุด เด็กหนุ่มก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาจนได้  สมองเขาแล่นทันที  ฉายภาพความทรงจำก่อนที่ตัวเองต้องมานอนให้ยาแบบนี้  เด็กหนุ่มรีบได้สติลุกขึ้นมาพรวดเดียว

        "มาซารุซัง!  อะ...โอ๊ย!"

        จุนล้มลงไปกองกับฟูกขาวพลางร้องโอดโอยกุมจมูกตัวเองเช่นเดียวกันกับผู้ถูกชนอย่างมาซารุ  สถานการณ์ช่างคุ้นในความรู้สึกของทั้งสองคนซะจริง

        "เป็น...เป็นอะไรรึเปล่า"

        เสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของมาซารุปรากฏอยู่ข้างกายในเวลาอันรวดเร็ว  เด็กหนุ่มมองคนรักอย่างดีใจที่เห็นอีกฝ่ายปลอดภัยดี  แน่นอนว่าความดีใจที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่แล่นขึ้นมาจนกลั้นยิ้มไม่อยู่

        "ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่"  มาซารุพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจปนความสุขและอะไรต่างๆที่รวมแล้วได้ความรู้สึกที่ดี  "เจ้าไม่รู้หรอกว่าตอนที่เห็นเจ้าทำแบบนั้น  ข้า...ข้าแทบจะเสียสติเลยรู้ไหม"

        จุนกุมมืออีกฝ่ายแล้วบีบเบาๆพลางพูดปลอบว่าเขาไม่เป็นไรแล้ว  ก่อนจะถามเรื่องที่คาใจอยู่ตอนนี้  "แล้วต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้น  มาซารุซังหนีมาได้ยังไง  หรือว่าจัดการกลุ่มโจรได้เหรอ"

        "เปล่า"  เสียงขรึมๆของท่านมารุสึเกะดังขึ้นที่อีกด้านของฟูกนอนญี่ปุ่น  "ข้ายกกำลังไปช่วยมาจากที่นั่นไว้ได้นะ"

        เมื่อเห็นท่าทางของจุนที่เพิ่งสังเกตว่าในห้องมีคนอื่นอยู่ด้วย  ท่านมารุสึเกะก็หมั่นไส้ซะจนอยากซัดเจ้าโคชูบ้าคนนี้ให้นอนสลบต่อไปให้หายโมโห  ถ้าไม่ติดที่บุตรชายของเขาซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดูแลจุนแบบหามรุ่งหามค่ำจนแทบไม่ได้นอนเลย

        ท่านหญิงเองก็กระแอมเล็กน้อย  คล้ายจะบอกว่านอกจากท่านมารุสึเกะแล้วยังมีนางกับท่านองเมียวจิมิสึกาวะที่มาเยี่ยมอีกด้วย

        "ท่านมารุสึเกะเจ้าคะ  ไหนๆจุนก็ฟื้นแล้ว  พวกเราก็ออกไปด้านนอก  ให้พวกเขาได้คุยกันหน่อยไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ?"

        ท่านผู้นำตระกูลสูงสุดเลิกคิ้ว  "ทำไมต้องออกด้วย  มีเรื่องอะไรที่ข้าอยู่ฟังไม่ได้หรือไง?"

        ท่านหญิงสบตากับมาซารุที่เต็มไปด้วยความเหวอแล้วหัวเราะคิกคัก  

        "เปล่าเจ้าค่ะ  ไม่ใช่ความลับอะไรที่ท่านรู้ไม่ได้  แต่มันเป็นการ 'พูดคุยธรรมดาๆ' ของเจ้านายกับโคชูเท่านั้นเองเจ้าค่ะ  เชื่อข้่าเถอะ ท่านมาซารุอุตสาห์ดูแลอย่างหนักเพื่อให้เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ตื่นขึ้นมา  ให้พวกเขาได้คุยกันเป็นการส่วนตัวดีกว่า"

        หลังจากทุกคนออกไปหมดตามคำขอของท่านหญิงอาสึสะแล้ว  มาซารุก็โผเข้ากอดจุนทันทีจนเขาร้องโอดโอยเพราะเจ็บแผล  เล่นเอาร่างในชุดกิโมโนพร่ำขอโทษ  กล่าวว่าตนไม่ได้ตั้งใจและค่อยๆประคองเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้นมานั่ง

        "ข้าเป็นห่วงเจ้ามากเลยนะ รู้ไหม  ทำไมต้องเสี่ยงทำอะไรอย่างนั้นด้วย"  

        น้ำตาที่มาซารุกลั้นมาโดยตลอดตั้งแต่จุนฟื้นได้ไหลลงมา  ไหลลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ...

        จุนปาดมันออกพลางพูดยิ้มๆ  "แต่ผมไม่เป็นไรแล้วนี่นา  เธออย่าร้องไห้สิ  ผมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้สิ่งนี้ต้องปรากฏนะ"

        มาซารุโผเข้ากอดจุนอีกครั้งอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องเจ็บ  "แต่ข้ารักเจ้า  เจ้าทำแบบนี้จะไม่ให้ข้าร้องไห้ได้ยังไงกันเล่า!"

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา