You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi
17) บทที่17
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความมะรืนนี้คือวันเกิดของมาซารุแล้ว แต่จุนที่ใช้เวลานอนพักตามการขอร้องกึ่งบังคับของคนรักได้แต่เดินเตะฝุ่นทั้งที่มีงานทำเพื่อสรรหาของที่อีกฝ่ายชอบที่สุดมาให้ โชคดีที่ท่านหญิงอาสึสะเรียกตัวมาซารุไปทำธุระด้วยกัน ไม่งั้น เขาคงหาทางลุกขึ้นมาไม่ได้หรอก
แต่จุนนึกยังไงก็นึกไม่ออก อะไรที่มาซารุชอบที่สุด ดาบ? ถ้วยชา? หรือว่าจะเป็นกิโมโน แต่ก็ไม่ได้หรอก เขาไม่มีเงินขนาดนั้น ถึงจะมีทุนที่ท่านมารุสึเกะให้เบิกเงินเดือนล่วงหน้าก็ตามทีเถอะ...
แปะ! ของเหลวๆเหนียวๆบางอย่างชนเข้ากับข้อศอกของจุนด้วยฝีมือของเด็กผู้หญิงอายุห้าหกขวบที่ทำหน้าตื่นๆ "ข้า...ข้าขอโทษ"
ยังไม่ทันที่จุนจะพูดอะไร เด็กหญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว ร้อนถึงผู้ชายคนหนึ่งต้องรีบวิ่งเข้ามาปลอบ ดูจากรูปการณ์แล้วคงจะเป็นบิดาของเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้อย่างแน่นอน
"เอ่อ..." จุนอ้ำอึ้ง "คือว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เด็กร้องไห้นะครับ คือว่า..."
ชายคนนั้นดูจะมีแววตาที่ประหลาดใจขึ้นมาทันทีเมื่อเด็กหนุ่มกล่าวคำพูดเหล่านั้นออกไป ก็แน่ล่ะ จากการชมตลาดครั้งที่แล้วทำให้พวกชาวบ้านเล่าลือว่ามาซารุมีโคชูแล้ว ซ้ำเรื่องที่เสียสละตัวเองเพื่อให้เจ้านายหนีไปทำให้ชื่อเสียงของจุนยิ่งเป็นที่กล่าวขวัญขึ้นไปอีก
ส่วนที่คุณลุงคนนี้ต้องทำท่าประหลาดใจนั่นก็เพราะดูภายนอกแล้วตัวของเขาเองก็ไม่ใช่คนมีเงินอะไร คนของพวกขุนนางที่ปฏิบัติต่อพวกชาวบ้านก็ไม่ใช่ว่าจะเกรงใจกันแบบนี้นักหรอก ดังนั้น กรณีจุนถึงรับได้ว่าหายากพอสมควร
เด็กน้อยหยุดร้องไห้จนได้ด้วยการปลอบของบิดาและเด็กหนุ่ม แม้ว่าความจริงเธอเพียงแค่กลัวว่าจะถูกทำโทษหนักอย่างที่เคยได้ยินมาเท่านั้นเอง
"เอาล่ะ ชิสึเอะเลิกเล่นพู่กันอย่างซนๆสักทีนะ" คุณลุงคนนั้นพูดด้วยเสียงที่ไม่ดุอะไรมากนะ เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าแล้วชี้ไปที่แขนเสื้อบริเวณข้อศอกของจุนซึ่งมีน้ำหมึกติดอยู่
"ไม่ต้องกังวลไปหรอก ซักนิดเดียวก็คงออกเองนั่นแหละ แต่ถ้าไม่ออกก็ถือซะว่าเป็นลายเพนท์ก็ได้"
จุนลูบหัวเด็กหญิงอย่างเอ็นดู แม้เด็กสาวไม่เข้าใจคำว่าลายเพนท์ที่จุนกล่าวเลยสักนิด แต่เขาไม่โกรธก็ถือว่าดีแล้ว เธอกล่าวขอโทษอีกครั้งแล้วถือพู่กันวิ่งตื๋อออกไปอย่างร่าเริงรวมกับกลุ่มเพื่อนที่เป็นแก๊งพู่กันเหมือนกัน
"โอ้โห ทุกคนมีพู่กันหมดเลยแฮะ" จุนรู้สึกทึ่งกับการละเล่นของพวกเด็กๆ "แต่ว่าอย่างนี้ไม่เปลืองพวกหมึกกับเงินค่าพู่กันแย่เหรอ"
คุณลุงคนนั้นกอดอกพูดยิ้มๆอย่างภาคภูมิใจในอาชีพ
"ไม่เปลืองหรอก ความจริงข้าเป็นช่างทำพู่กัีนนะ ที่พวกเด็กๆถือกันอยู่ก็เป็นของที่ข้าทำขึ้นมาทั้งนั้น ส่วนหมึกก็เอาสีจากพวกใบไม้หรือดอกไม้มาบดรีด"
จุนมองอย่างรู้สึกตื่นเต้น นึกขึ้นได้ว่ามาซารุเคยพูดว่ามีทักษะการเขียนอยู่มาก การให้พู่กันก็น่าจะดี พู่กันอันหนึ่งก็คงจะราคาไม่แพงมากนัก เงินทุนที่ท่านมารุสึเกะให้มาคงจะพอ
จุนกล่าวอย่างกระตือรือร้น "คุณลุง พู่กันอันละเท่าไหร่ครับ"
"ฮ่าฮ่าฮ่า เรียกข้าว่าชินบุก็ได้ ว่าแต่เจ้าจะซื้อพู่กันแบบไหนกันล่ะ มันมีหลายขนาดหลายราคานะ แล้วถ้าสลักลายที่พู่กันก็จะเป็นอีกราคาหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะเอาไปทำอะไรน่ะนะ"
ช่างทำพู่กัน... ชินบุ... เคยได้ยินที่ไหน...เฮ้ย!
จุนอ้าปากค้าง เมื่อนึกขึ้นได้เกี่ยวกับประวัติของบุคคลที่มีชื่อเสียงในหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ที่เขาชอบเป็นอันดับสองจากวิชาทั้งหมด
ถึงจะดีใจที่เจอคนจากประวัติศาสตร์ตัวเป็นๆ แต่เรื่องที่เขาเริ่มกลุ้มใจก็คือเรื่องราคาพู่กันนี่สิ
เด็กหนุ่มเกิดอาการคอตก "เอ่อ คุณลุงชินบุครับ ราคาพู่กันแบบที่เหมาะกับการเขียนโชโดมีเท่าไหร่บ้างครับ"
ลุงชินบุตบหลังเด็กหนุ่มป้าบๆแล้วหัวเราะอย่างรู้ึสึกขำ "อะไรกัน ทำไมห่อเหี่ยวแบบนั้น เจ้าเป็นถึงโคชูของท่านมาซารุยังต้องกังวลเรื่องราคาด้วยหรือ ฮ่าฮ่าฮ่า"
เขาพยักหน้ากล่าวเหตุผลด้วยน้ำเสียงที่แสนจะแห้งเหี่ยว นั่นคือการที่เขาเพิ่งได้ัรับเงินเดือนล่วงหน้างวดแรกมา ฉะนั้น ถึงจะพอสมควรแต่ไม่ได้มากพอจะซื้อพู่กันชั้นดีได้หรอก
คุณลุงชินบุเลิกคิ้วแล้วถามเรื่องเงินที่เขามีรู้สึกแปลกจากใจ ตกลงเงินเดือนโคชูมีเท่าไหร่กันแน่ล่ะนี่ จุนหยิบถุึงเงินที่มาซารุให้มาแล้วเทเหรียญออกมานับ
"มากขนาดนี้จะซื้อพู่กันที่ดีที่สุดของข้าได้หลายแท่งเลยนะ ท่านโคชูจะกังวลทำไมกัน"
จุนไม่รุ้สึกชินนักที่จะถูกเรียกเช่นนั้นจึงได้บอกชื่อเขาไปพร้อมกัีบพึมพำ "แปลกจัง ก็ชินบุซังเป็นช่างทำพู่กันอันดับหนึ่งแท้ๆ ผมนึกว่าจะเงินไม่พอแล้วซะอีก"
"ข้าเป็นแค่ช่างทำพู่กันธรรมดาๆ ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรแบบนั้นหรอกนะ ท่านจุน" ชินบุกล่าวอย่างชอบอกชอบใจ "แต่ข้าก็หวังจะเป็นได้อย่างนั้นเหมือนกัน"
"เห! แต่ในยุคผม...ยุคเฮย์เซย์นะ พู่กันของชินบุซังราคาอย่างต่ำๆี่ก็ห้าหมื่นเยนขึ้นไปนะครับ! ตามตำนานก็เล่าว่าคุณเป็นหนึ่งในสุดยอดช่างทำพู่กันของเอโดะเลย"
"ยุคเฮย์เซย์อะไรของท่านนะ" ชินบุกอดอกขมวดคิ้วด้วยใบหน้าที่งุนงงและไม่เข้าใจพลางลูบคางไปมา "แต่ว่า ท่านจะเอาพู่กันไปทำไมเหรอ เห็นทำหน้าซะจริงจังเชียว ซื้อเป็นของฝากให้หญิงอันเป็นที่รักเหรอ"
จุนเกาแก้มแก้เขินเมื่อได้ยินเช่นนั้น ถึงมาซารุจะไม่ใช่ 'หญิงอันเป็นที่รัก' ก็ตาม แต่ก็เป็น 'บุคคลผู้ที่เขารักที่สุด'
"ก็... คือพรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของมาซารุซังแล้ว ผมได้ยินว่าเขาเก่งเรื่องการเขียนโชโด เลยตั้งใจจะเอาพู่กันไปเป็นของนะครับ"
ถ้าไม่เลือกพู่กันล่ะก็ ผมคงจะไม่มีของอะไรให้แล้วล่ะ
ชินบุอึ้งไปพักใหญ่เมื่อรู้ว่าจุนตั้งใจจะเอาพู่กันของตนไปเป็นของขวัญให้กับมาซารุ ก็เขาเป็นช่างทำพู่กันธรรมดาๆ ทำไมเด็กหนุ่มผู้นี้ถึงได้เลือกกันล่ะ หรือว่าจะเข้าใจว่าเขาเป็นยอดนักทำพู่กันจริงๆกันล่ะเนี่ย...
แต่จุนไม่รอฟังคำอธิบายเพราะจำได้ว่าใกล้เวลาที่มาซารุจะกลับจากธุระมากแล้ว เขาพูดทิ้งไว้เพียงแค่ชนิดของพู่กันและลายที่อยากให้สลักลงไปเป็นพิเศษเท่านั้น
เขามาทันพอดีกับเวลาพวกท่านหญิงกลับมา แต่ยังไม่ทันทีมาซารุจะได้ตอบเสียงเรียกของคนรัก ก็เห็นจุนโดนท่านมารุสึเกะลากคอไปซะก่อน ทำเอาเขามึนไปหมดโดยข้างๆมีท่านหญิงที่หัวเราะเบาๆอย่างรู้เรื่องดี
"ข้าไม่คิดจะปล่อยให้เจ้าออกไปเดินเล่นอย่างไร้ประโยชน์หรอกนะ อุตสาห์ให้ท่านหญิงชวนมาซารุไปศาลเจ้าฟุมิเนเนะได้แล้ว เจ้าก็คงใช้เวลา 'ทั้งหมด' ในการเลือกซื้อของขวัญอย่างนั้นใช่ไหม"
คำเน้นของท่านมารุสึเกะหมายถึงการได้รับคำตอบว่าจุนตั้งใจหาของขวัญอย่างจริงจัง ไม่ใช่ออกไปเดินเอ้อระเหยลอยชายที่ตลาดอย่างเสียเวลาเปล่า
เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วรีบปฏิเสธทันที เล่าว่าเขาได้เจอยอดช่างทำพู่กันแห่งยุคและสั่งทำพู่กันสำหรับมาซารุเรียบร้อยแล้ว แต่กระนั้น ท่านมารุสึเกะยังไม่ไว้ใจอยู่ดี
เด็กหนุ่มอธิบายอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าที่แสนจะปลาบปลื้มว่าช่างทำพู่กันนั้นคือชินบุ
"ข้าไม่เึคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ!" ท่านมารุสึเกะกล่าวเสียงดังแล้วกางพัดมาโบกตนเอง "เอาเถอะ พู่กันยังห่อให้สวยงามได้ ขืนเจ้าไปเจอกับช่างตีดาบแล้วเอาของชุ่ยๆมาให้ นั่นคงแย่กว่า"
"ชินบุซังเป็นยอดช่างทำพู่กันจริงๆนะครับ!"
จุนพยามอธิบายอย่างเต็มความสามารถแต่เรื่องความแตกต่างของช่วงเวลาเป็นอะไรที่เขาต้องทำใจ
"ได้ยินจากท่านมารุสึเกะว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นมีของขวัญแด่ท่านมาซารุเป็นพู่กันธรรมดาๆด้ามหนึ่งงั้นหรือ"
เมื่อเห็นท่านหญิงแตะปากเป็นสัญลักษณ์ที่บอกให้เขาลดเสียง ท่านมิสึกาวะพยักหน้ารับรู้พลางฟังคำบอกเล่าจากท่านหญิงอาสึสะว่าจุนยืนกรานหนักแน่นถึงสามชั่วโมงว่าชินบุเป็นยอดช่างทำพู่กันจริงๆ นางอดกระเซ้าเหย้าแหย่ไม่ได้ว่าหากของขวัญจากจุนเป็นพู่กันชั้นดีจริงๆ ของขวัญจากท่านองเมียวจิจะน้อยหน้ากว่าหรือไม่
เขามองหญิงคนรักด้วยสีหน้ารู้ทัน นางเดาออกว่าเขาไม่บอกแน่นอนว่าของขวัญที่จะให้กับมาซารุคืออะไร จึงได้คิดหลอกให้หลุดปากออกมา
"ข้าหรือจะกล้า" ท่านหญิงอาสึสะยิ้มอย่างประจบ "แต่งานนี้ท่านมารุสึเกะจริงจังมาก ทั้งที่ปีก่อนๆยังไม่เคร่งเครียดขนาดนี้เลย ทำเอาข้าเองก็ต้องหาของขวัญได้ยากขึ้นไปด้วย เขาพูดอะไรกับท่านบ้างไหม"
ท่านมิสึกาวะส่ายหน้า เรื่องนี้เขาเองก็เดาไม่ออกเหมือนกัน แต่เมื่อคิดดูดีๆแล้วมันอาจเป็นการหาทางกลั่นแกล้งโคชูที่ไม่เอาไหนอย่างจุนก็ได้ อย่างไรก็ดี ท่านหญิงแย้งความคิดนั้น กล่าวว่าตั้งแต่เรื่องกลุ่มโจรนั้น ท่านมารุสึเกะก็มองเห็นด้านดีของจุนขึ้นมาบ้างแล้ว
ท่านมิสึกาวะจิบชาด้วยมาดสุขุมแล้วอธิบาย "การเห็นความดีกับการหมั่นไส้จนอยากแกล้งไม่เหมือนกัน ในด้านของท่านมาซารุที่เป็นบุตรชายอันเป็นที่รัก จู่ๆมาโปรดปรานใครสักคนซ้ำยังมีความรู้สึกพิเศษด้วย ท่านมารุสึเกะัย่อมไม่เปิดทางให้ง่ายๆหรอกนะ"
"แต่ท่านมารุสึเกะไม่ได้รู้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่แท้จริงเช่นไรนะเจ้าคะ"
ท่านองเมียวจิส่ายหน้าพูดขรึมๆด้วยสายตาอ่อนอกอ่อนใจ
"ในสายตาคนนอกแล้ว จุนเป็นที่โปรดปรานในฐานะโคชู็ก็จริง แต่ยังไงซะ โปรดปรานก็คือโปรดปราน ท่านมารุสึเกะเองก็ไม่รู้ที่มาที่ไปของจุน ถึงตอนนี้จะรู้ว่าไว้ใจได้อย่างแน่นอนแล้วก็ตาม แต่ท่านหญิงต้องเข้าใจ คำว่าอยากแกล้งยังเป็นคำว่าอยากแกล้งอยู่วันยังค่ำนั่นล่ะ"
"ฮัดชิ้ว!"
จุนจามติดต่อกันถึงสามครั้งแล้วมองซ้ายขวา มีใครแอบนินทาเขาอยู่ไหมนะ มาซารุมองอย่างแตกตื่นแล้วรีบเอามือทาบกับหน้าผากของจุนทันที ไม่ร้อนไม่เย็นซ้ำยังอุ่นๆพอดี เขายิ้มออกมา่นิดๆ "ข้าชอบอุณหภูมิของจุนจังเลย"
เด็กหนุ่มที่ตั้งใจจะดื่มน้ำชาเพื่อสงบจิตใจถึงกับสำลัก มองไปที่มาซารุซึ่งกำลังจ้องเขาอย่างงุนงงเพราะไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดพลา่งหาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดปากเขาอย่างเร่งด่วน เด็กหนุ่มนึกมึนอยู่ในใจ ทีแรกเขาคิดว่าที่มาซารุในอีกหลายร้อยปีชอบอุณหภูมิของเขาเป็นเพราะตัวของตนเองนั้นเย็นมาก แต่นึกไม่ถึงว่ามาซารุในร่างมนุษย์ก็ชมเขาแบบนี้เหมือนกัน
หรือว่าอุณหภูมิร่างกายเรามันจะกำลังดีจริงๆหว่า...
จุนนึกไปนึกมาก็ลองแตะหน้าผากตนเองดูแต่มันก็ปกติ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ร่างกายเขาก็อุณหภูมิไม่ต่างจากคนอื่นนี่นา หรืออย่างน้อยก็ไม่ต่างกันมาก
"จริงสิ จุน ได้ยินว่าเจ้าถูกเรียกไปคุยเรื่องของขวัญวันเกิด ท่านหญิงอาสึสะแอบกระซิบมาว่าท่านพ่อกดดันเจ้ามาก ถ้าเจ้าหาไม่ได้จริงๆก็ไม่เป็นไรหรอกนะ" มาซารุพูดอย่างเกรงใจ "ข้าเองก็ไม่ได้มีของที่อยากได้เป็นพิเศษด้วย"
เมื่อพูดถึุงเรื่องนี้ จุนทำหน้าจริงจังขึ้นมาทันที เขายืนยันหนักแน่นว่าเขามีของที่จะมอบเป็นของขวัญให้มาซารุแล้วจริงๆ สิ่งนี้สั่งทำโดยช่างอันดับหนึ่งแห่งเอโดะด้วย มาซารุรีบพยักหน้าโดยเร็วๆพลางกลืนน้ำลายกับหน้าจริงจังนั้น แต่เขาหารู้ถึงสาเหตุของใบหน้าที่จริงจังของจุนไม่
ก็ทั้งท่านมารุสึเกะ ทั้งตัวชินบุ ต่างยืนยันหนักแน่นว่าไม่ใช่ยอดนักทำพู่กันเด็ดขาด แบบนี้มันดูถูกความทรงจำกันชัดๆ เขาอ่านอะไรสักสองสามรอบก็จำได้หมดแล้วนะ! อีกอย่าง ของขวัญให้มาซารุทั้งที เขาย่อมหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้อยู่แล้ว จะดูถูกความจำเขาก็ยังพอว่า แต่ถ้าเป็นเรื่องของสิ่งที่จะให้กับมาซารุ อย่าได้มาปรามาสกันเชียว!
ความจริง ด้วยความทรงจำแสนมหัศจรรย์นี่แหละที่อ่านวิชาดาบลับซึ่งมาซารุได้มอบให้มาจนจำได้ขึ้นใจและกลายเป็นโคชูอย่างวันนี้
แม้ผมจะเป็นโคชูที่ไม่เอาไหนเลยก็ตามทีเถอะ!
ในที่สุด วันเกิดของมาซารุก็มาถึง จุนต้องวิ่งเต็มฝีเท้าไปที่ตลาดเพื่อตามหาชินบุแต่เช้าเพราะขี่ม้าไม่เป็น นี่เป็นข้อสำคัญที่จุนคิดว่าตัวเองควรหัดได้แล้ว แต่ให้มันได้งี้สิ! เขาลืมไปว่าตนเองไม่มีที่อยู่ของช่างทำพู่กันคนนี้นี่นา ในช่วงสองสามวันนี้เอาแต่เถียงกับท่านมารุสึเกะจนลืมไปเลย
ทว่า...วิ่งในตลาดจนทั่วก็แล้ว ตลาดรอบนอกก็แล้วยังไม่เจอตัวชินบุสักที จะว่าไป มันไม่ใช่ข้อบังคับที่จะต้องมาซื้อของทุกวันนี่นะ วันนี้ชินบุอาจไม่ได้มาก็เป็นได้
"อ๊าก! ผมทำบ้าอะไรเนี่ย ทำไงดีๆ!"
แปะ...ของเหลวๆปริศนาอันแสนคุ้นเคยปะทะเข้ากับแขนเสื้อบริเวณข้อศอกของจุน เด็กหญิงถอยหลังไปเล็กน้อยแล้วกล่าวขอโทษด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่ โอ้ละหนอ...เหตุใดเธอถึงได้พลาดซ้ำสองไปได้ขนาดนี้ล่ะนี่
อย่างไรก็ดี นี่ยังไม่ใช่ชุดสำหรับงานที่จะเริ่มขึ้นในอีกสามชั่วโมง การได้พบกับเด็กหญิงคือรางวัลที่ฟากฟ้าประทานให้กับคนตั้งใจ จุนรีบจับตัวไว้ทันทีเพื่อถามหาช่างทำพู่กันปริศนา
เด็กน้อยลนลาน "ข้า...ข้าไม่ตั้งใจนะ แง...อย่าทำอะไรท่านพ่อของข้าเลย"
จุนต้องบอกเหตุผลว่าที่เขาตามหาชินบุไม่ใช่เพราะจะลงโทษที่เธอเอาหมึกมาเปื้อนแขนเสื้อเขาถึงสองครั้งสองครา แต่เป็นเรื่องของพู่กันที่จะนำมาเป็นของขวัญต่างหากเล่า
น้ำตาของเด็กน้อยหายไปอย่างกับไม่เคยปรากฏ เธอตอบเสียงใสว่านำไปให้จุนที่ปราสาทท่านขุนนางแล้วและยังเล่าอีกว่าพู่กันอันนี้ชินบุใช้เวลาเกือบจะทั้งหมดจากวันที่พบกับจุนในการทำขึ้นมาด้วยความประณีตที่สุด เพราะพู่กันอันนี้เป็นอันแรกที่จะไปสู่มือของคนในตระกูลขุนนาง
ชิสึเอะยังเสริมเข้าไปอีกว่า "ความจริงแล้วท่านพ่อเป็นที่รู้จักของคนทั้งตลาดนั่นแหละค่ะ ถ้าท่านจะตามหาที่อยู่ก็ถามได้ตั้งแต่ร้านแรกไปจนถึงร้านสุดท้าย ทุกคนตอบได้หมดเลยค่ะ ไปนะคะ!"
คำพูดแนะนำอย่างมีน้ำใจของเด็กน้อยเหมือนกับเธอเอามือน้อยๆซึ่งจับพู่กันเล่นกับเพื่อนอยู่ตอนนี้มาชกหน้าจุนก็ไม่ปาน
แล้วที่ผมวิ่งมาเกือบชั่วโมงมันเพื่ออะไรกันล่ะนี่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ