You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi

10.0

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.13 น.

  20 chapter
  3 วิจารณ์
  28.32K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) บทที่17

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

       มะรืนนี้คือวันเกิดของมาซารุแล้ว  แต่จุนที่ใช้เวลานอนพักตามการขอร้องกึ่งบังคับของคนรักได้แต่เดินเตะฝุ่นทั้งที่มีงานทำเพื่อสรรหาของที่อีกฝ่ายชอบที่สุดมาให้  โชคดีที่ท่านหญิงอาสึสะเรียกตัวมาซารุไปทำธุระด้วยกัน  ไม่งั้น เขาคงหาทางลุกขึ้นมาไม่ได้หรอก

        แต่จุนนึกยังไงก็นึกไม่ออก  อะไรที่มาซารุชอบที่สุด  ดาบ? ถ้วยชา?  หรือว่าจะเป็นกิโมโน  แต่ก็ไม่ได้หรอก เขาไม่มีเงินขนาดนั้น  ถึงจะมีทุนที่ท่านมารุสึเกะให้เบิกเงินเดือนล่วงหน้าก็ตามทีเถอะ...

        แปะ! ของเหลวๆเหนียวๆบางอย่างชนเข้ากับข้อศอกของจุนด้วยฝีมือของเด็กผู้หญิงอายุห้าหกขวบที่ทำหน้าตื่นๆ  "ข้า...ข้าขอโทษ"

        ยังไม่ทันที่จุนจะพูดอะไร เด็กหญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว  ร้อนถึงผู้ชายคนหนึ่งต้องรีบวิ่งเข้ามาปลอบ  ดูจากรูปการณ์แล้วคงจะเป็นบิดาของเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้อย่างแน่นอน

        "เอ่อ..."  จุนอ้ำอึ้ง  "คือว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เด็กร้องไห้นะครับ  คือว่า..."

        ชายคนนั้นดูจะมีแววตาที่ประหลาดใจขึ้นมาทันทีเมื่อเด็กหนุ่มกล่าวคำพูดเหล่านั้นออกไป  ก็แน่ล่ะ จากการชมตลาดครั้งที่แล้วทำให้พวกชาวบ้านเล่าลือว่ามาซารุมีโคชูแล้ว  ซ้ำเรื่องที่เสียสละตัวเองเพื่อให้เจ้านายหนีไปทำให้ชื่อเสียงของจุนยิ่งเป็นที่กล่าวขวัญขึ้นไปอีก

        ส่วนที่คุณลุงคนนี้ต้องทำท่าประหลาดใจนั่นก็เพราะดูภายนอกแล้วตัวของเขาเองก็ไม่ใช่คนมีเงินอะไร  คนของพวกขุนนางที่ปฏิบัติต่อพวกชาวบ้านก็ไม่ใช่ว่าจะเกรงใจกันแบบนี้นักหรอก  ดังนั้น กรณีจุนถึงรับได้ว่าหายากพอสมควร

        เด็กน้อยหยุดร้องไห้จนได้ด้วยการปลอบของบิดาและเด็กหนุ่ม  แม้ว่าความจริงเธอเพียงแค่กลัวว่าจะถูกทำโทษหนักอย่างที่เคยได้ยินมาเท่านั้นเอง

        "เอาล่ะ ชิสึเอะเลิกเล่นพู่กันอย่างซนๆสักทีนะ"  คุณลุงคนนั้นพูดด้วยเสียงที่ไม่ดุอะไรมากนะ  เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าแล้วชี้ไปที่แขนเสื้อบริเวณข้อศอกของจุนซึ่งมีน้ำหมึกติดอยู่

        "ไม่ต้องกังวลไปหรอก  ซักนิดเดียวก็คงออกเองนั่นแหละ  แต่ถ้าไม่ออกก็ถือซะว่าเป็นลายเพนท์ก็ได้"

        จุนลูบหัวเด็กหญิงอย่างเอ็นดู  แม้เด็กสาวไม่เข้าใจคำว่าลายเพนท์ที่จุนกล่าวเลยสักนิด  แต่เขาไม่โกรธก็ถือว่าดีแล้ว  เธอกล่าวขอโทษอีกครั้งแล้วถือพู่กันวิ่งตื๋อออกไปอย่างร่าเริงรวมกับกลุ่มเพื่อนที่เป็นแก๊งพู่กันเหมือนกัน

        "โอ้โห  ทุกคนมีพู่กันหมดเลยแฮะ"  จุนรู้สึกทึ่งกับการละเล่นของพวกเด็กๆ  "แต่ว่าอย่างนี้ไม่เปลืองพวกหมึกกับเงินค่าพู่กันแย่เหรอ"

        คุณลุงคนนั้นกอดอกพูดยิ้มๆอย่างภาคภูมิใจในอาชีพ  

        "ไม่เปลืองหรอก  ความจริงข้าเป็นช่างทำพู่กัีนนะ  ที่พวกเด็กๆถือกันอยู่ก็เป็นของที่ข้าทำขึ้นมาทั้งนั้น  ส่วนหมึกก็เอาสีจากพวกใบไม้หรือดอกไม้มาบดรีด"

        จุนมองอย่างรู้สึกตื่นเต้น  นึกขึ้นได้ว่ามาซารุเคยพูดว่ามีทักษะการเขียนอยู่มาก  การให้พู่กันก็น่าจะดี  พู่กันอันหนึ่งก็คงจะราคาไม่แพงมากนัก  เงินทุนที่ท่านมารุสึเกะให้มาคงจะพอ

        จุนกล่าวอย่างกระตือรือร้น  "คุณลุง พู่กันอันละเท่าไหร่ครับ"

        "ฮ่าฮ่าฮ่า เรียกข้าว่าชินบุก็ได้  ว่าแต่เจ้าจะซื้อพู่กันแบบไหนกันล่ะ  มันมีหลายขนาดหลายราคานะ  แล้วถ้าสลักลายที่พู่กันก็จะเป็นอีกราคาหนึ่ง  ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะเอาไปทำอะไรน่ะนะ"

        ช่างทำพู่กัน...  ชินบุ...  เคยได้ยินที่ไหน...เฮ้ย!

        จุนอ้าปากค้าง  เมื่อนึกขึ้นได้เกี่ยวกับประวัติของบุคคลที่มีชื่อเสียงในหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ที่เขาชอบเป็นอันดับสองจากวิชาทั้งหมด

        ถึงจะดีใจที่เจอคนจากประวัติศาสตร์ตัวเป็นๆ  แต่เรื่องที่เขาเริ่มกลุ้มใจก็คือเรื่องราคาพู่กันนี่สิ

        เด็กหนุ่มเกิดอาการคอตก  "เอ่อ คุณลุงชินบุครับ  ราคาพู่กันแบบที่เหมาะกับการเขียนโชโดมีเท่าไหร่บ้างครับ"

        ลุงชินบุตบหลังเด็กหนุ่มป้าบๆแล้วหัวเราะอย่างรู้ึสึกขำ  "อะไรกัน ทำไมห่อเหี่ยวแบบนั้น  เจ้าเป็นถึงโคชูของท่านมาซารุยังต้องกังวลเรื่องราคาด้วยหรือ ฮ่าฮ่าฮ่า"

        เขาพยักหน้ากล่าวเหตุผลด้วยน้ำเสียงที่แสนจะแห้งเหี่ยว  นั่นคือการที่เขาเพิ่งได้ัรับเงินเดือนล่วงหน้างวดแรกมา  ฉะนั้น ถึงจะพอสมควรแต่ไม่ได้มากพอจะซื้อพู่กันชั้นดีได้หรอก

        คุณลุงชินบุเลิกคิ้วแล้วถามเรื่องเงินที่เขามีรู้สึกแปลกจากใจ  ตกลงเงินเดือนโคชูมีเท่าไหร่กันแน่ล่ะนี่  จุนหยิบถุึงเงินที่มาซารุให้มาแล้วเทเหรียญออกมานับ

        "มากขนาดนี้จะซื้อพู่กันที่ดีที่สุดของข้าได้หลายแท่งเลยนะ  ท่านโคชูจะกังวลทำไมกัน"

        จุนไม่รุ้สึกชินนักที่จะถูกเรียกเช่นนั้นจึงได้บอกชื่อเขาไปพร้อมกัีบพึมพำ  "แปลกจัง  ก็ชินบุซังเป็นช่างทำพู่กันอันดับหนึ่งแท้ๆ  ผมนึกว่าจะเงินไม่พอแล้วซะอีก"

        "ข้าเป็นแค่ช่างทำพู่กันธรรมดาๆ  ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรแบบนั้นหรอกนะ ท่านจุน"  ชินบุกล่าวอย่างชอบอกชอบใจ  "แต่ข้าก็หวังจะเป็นได้อย่างนั้นเหมือนกัน"

        "เห!  แต่ในยุคผม...ยุคเฮย์เซย์นะ  พู่กันของชินบุซังราคาอย่างต่ำๆี่ก็ห้าหมื่นเยนขึ้นไปนะครับ!  ตามตำนานก็เล่าว่าคุณเป็นหนึ่งในสุดยอดช่างทำพู่กันของเอโดะเลย"

        "ยุคเฮย์เซย์อะไรของท่านนะ"  ชินบุกอดอกขมวดคิ้วด้วยใบหน้าที่งุนงงและไม่เข้าใจพลางลูบคางไปมา  "แต่ว่า ท่านจะเอาพู่กันไปทำไมเหรอ  เห็นทำหน้าซะจริงจังเชียว  ซื้อเป็นของฝากให้หญิงอันเป็นที่รักเหรอ"

        จุนเกาแก้มแก้เขินเมื่อได้ยินเช่นนั้น  ถึงมาซารุจะไม่ใช่ 'หญิงอันเป็นที่รัก' ก็ตาม  แต่ก็เป็น 'บุคคลผู้ที่เขารักที่สุด'

        "ก็...  คือพรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของมาซารุซังแล้ว  ผมได้ยินว่าเขาเก่งเรื่องการเขียนโชโด  เลยตั้งใจจะเอาพู่กันไปเป็นของนะครับ"

        ถ้าไม่เลือกพู่กันล่ะก็  ผมคงจะไม่มีของอะไรให้แล้วล่ะ

        ชินบุอึ้งไปพักใหญ่เมื่อรู้ว่าจุนตั้งใจจะเอาพู่กันของตนไปเป็นของขวัญให้กับมาซารุ  ก็เขาเป็นช่างทำพู่กันธรรมดาๆ  ทำไมเด็กหนุ่มผู้นี้ถึงได้เลือกกันล่ะ  หรือว่าจะเข้าใจว่าเขาเป็นยอดนักทำพู่กันจริงๆกันล่ะเนี่ย...

        แต่จุนไม่รอฟังคำอธิบายเพราะจำได้ว่าใกล้เวลาที่มาซารุจะกลับจากธุระมากแล้ว เขาพูดทิ้งไว้เพียงแค่ชนิดของพู่กันและลายที่อยากให้สลักลงไปเป็นพิเศษเท่านั้น

 

        เขามาทันพอดีกับเวลาพวกท่านหญิงกลับมา  แต่ยังไม่ทันทีมาซารุจะได้ตอบเสียงเรียกของคนรัก  ก็เห็นจุนโดนท่านมารุสึเกะลากคอไปซะก่อน  ทำเอาเขามึนไปหมดโดยข้างๆมีท่านหญิงที่หัวเราะเบาๆอย่างรู้เรื่องดี

        "ข้าไม่คิดจะปล่อยให้เจ้าออกไปเดินเล่นอย่างไร้ประโยชน์หรอกนะ  อุตสาห์ให้ท่านหญิงชวนมาซารุไปศาลเจ้าฟุมิเนเนะได้แล้ว  เจ้าก็คงใช้เวลา 'ทั้งหมด' ในการเลือกซื้อของขวัญอย่างนั้นใช่ไหม"

        คำเน้นของท่านมารุสึเกะหมายถึงการได้รับคำตอบว่าจุนตั้งใจหาของขวัญอย่างจริงจัง  ไม่ใช่ออกไปเดินเอ้อระเหยลอยชายที่ตลาดอย่างเสียเวลาเปล่า

        เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วรีบปฏิเสธทันที  เล่าว่าเขาได้เจอยอดช่างทำพู่กันแห่งยุคและสั่งทำพู่กันสำหรับมาซารุเรียบร้อยแล้ว  แต่กระนั้น ท่านมารุสึเกะยังไม่ไว้ใจอยู่ดี

        เด็กหนุ่มอธิบายอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าที่แสนจะปลาบปลื้มว่าช่างทำพู่กันนั้นคือชินบุ

        "ข้าไม่เึคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ!"  ท่านมารุสึเกะกล่าวเสียงดังแล้วกางพัดมาโบกตนเอง  "เอาเถอะ พู่กันยังห่อให้สวยงามได้  ขืนเจ้าไปเจอกับช่างตีดาบแล้วเอาของชุ่ยๆมาให้  นั่นคงแย่กว่า"

        "ชินบุซังเป็นยอดช่างทำพู่กันจริงๆนะครับ!"  

        จุนพยามอธิบายอย่างเต็มความสามารถแต่เรื่องความแตกต่างของช่วงเวลาเป็นอะไรที่เขาต้องทำใจ

 

        "ได้ยินจากท่านมารุสึเกะว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นมีของขวัญแด่ท่านมาซารุเป็นพู่กันธรรมดาๆด้ามหนึ่งงั้นหรือ"  

        เมื่อเห็นท่านหญิงแตะปากเป็นสัญลักษณ์ที่บอกให้เขาลดเสียง ท่านมิสึกาวะพยักหน้ารับรู้พลางฟังคำบอกเล่าจากท่านหญิงอาสึสะว่าจุนยืนกรานหนักแน่นถึงสามชั่วโมงว่าชินบุเป็นยอดช่างทำพู่กันจริงๆ  นางอดกระเซ้าเหย้าแหย่ไม่ได้ว่าหากของขวัญจากจุนเป็นพู่กันชั้นดีจริงๆ  ของขวัญจากท่านองเมียวจิจะน้อยหน้ากว่าหรือไม่

        เขามองหญิงคนรักด้วยสีหน้ารู้ทัน  นางเดาออกว่าเขาไม่บอกแน่นอนว่าของขวัญที่จะให้กับมาซารุคืออะไร  จึงได้คิดหลอกให้หลุดปากออกมา

        "ข้าหรือจะกล้า"  ท่านหญิงอาสึสะยิ้มอย่างประจบ  "แต่งานนี้ท่านมารุสึเกะจริงจังมาก  ทั้งที่ปีก่อนๆยังไม่เคร่งเครียดขนาดนี้เลย  ทำเอาข้าเองก็ต้องหาของขวัญได้ยากขึ้นไปด้วย  เขาพูดอะไรกับท่านบ้างไหม"

        ท่านมิสึกาวะส่ายหน้า  เรื่องนี้เขาเองก็เดาไม่ออกเหมือนกัน  แต่เมื่อคิดดูดีๆแล้วมันอาจเป็นการหาทางกลั่นแกล้งโคชูที่ไม่เอาไหนอย่างจุนก็ได้  อย่างไรก็ดี ท่านหญิงแย้งความคิดนั้น  กล่าวว่าตั้งแต่เรื่องกลุ่มโจรนั้น ท่านมารุสึเกะก็มองเห็นด้านดีของจุนขึ้นมาบ้างแล้ว

        ท่านมิสึกาวะจิบชาด้วยมาดสุขุมแล้วอธิบาย  "การเห็นความดีกับการหมั่นไส้จนอยากแกล้งไม่เหมือนกัน  ในด้านของท่านมาซารุที่เป็นบุตรชายอันเป็นที่รัก  จู่ๆมาโปรดปรานใครสักคนซ้ำยังมีความรู้สึกพิเศษด้วย  ท่านมารุสึเกะัย่อมไม่เปิดทางให้ง่ายๆหรอกนะ"

        "แต่ท่านมารุสึเกะไม่ได้รู้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่แท้จริงเช่นไรนะเจ้าคะ"

        ท่านองเมียวจิส่ายหน้าพูดขรึมๆด้วยสายตาอ่อนอกอ่อนใจ  

        "ในสายตาคนนอกแล้ว จุนเป็นที่โปรดปรานในฐานะโคชู็ก็จริง  แต่ยังไงซะ โปรดปรานก็คือโปรดปราน  ท่านมารุสึเกะเองก็ไม่รู้ที่มาที่ไปของจุน  ถึงตอนนี้จะรู้ว่าไว้ใจได้อย่างแน่นอนแล้วก็ตาม  แต่ท่านหญิงต้องเข้าใจ  คำว่าอยากแกล้งยังเป็นคำว่าอยากแกล้งอยู่วันยังค่ำนั่นล่ะ"

 

        "ฮัดชิ้ว!"  

        จุนจามติดต่อกันถึงสามครั้งแล้วมองซ้ายขวา  มีใครแอบนินทาเขาอยู่ไหมนะ  มาซารุมองอย่างแตกตื่นแล้วรีบเอามือทาบกับหน้าผากของจุนทันที  ไม่ร้อนไม่เย็นซ้ำยังอุ่นๆพอดี  เขายิ้มออกมา่นิดๆ  "ข้าชอบอุณหภูมิของจุนจังเลย"

        เด็กหนุ่มที่ตั้งใจจะดื่มน้ำชาเพื่อสงบจิตใจถึงกับสำลัก  มองไปที่มาซารุซึ่งกำลังจ้องเขาอย่างงุนงงเพราะไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดพลา่งหาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดปากเขาอย่างเร่งด่วน  เด็กหนุ่มนึกมึนอยู่ในใจ  ทีแรกเขาคิดว่าที่มาซารุในอีกหลายร้อยปีชอบอุณหภูมิของเขาเป็นเพราะตัวของตนเองนั้นเย็นมาก  แต่นึกไม่ถึงว่ามาซารุในร่างมนุษย์ก็ชมเขาแบบนี้เหมือนกัน

        หรือว่าอุณหภูมิร่างกายเรามันจะกำลังดีจริงๆหว่า...

        จุนนึกไปนึกมาก็ลองแตะหน้าผากตนเองดูแต่มันก็ปกติ  ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ  ร่างกายเขาก็อุณหภูมิไม่ต่างจากคนอื่นนี่นา  หรืออย่างน้อยก็ไม่ต่างกันมาก

        "จริงสิ จุน  ได้ยินว่าเจ้าถูกเรียกไปคุยเรื่องของขวัญวันเกิด  ท่านหญิงอาสึสะแอบกระซิบมาว่าท่านพ่อกดดันเจ้ามาก  ถ้าเจ้าหาไม่ได้จริงๆก็ไม่เป็นไรหรอกนะ"  มาซารุพูดอย่างเกรงใจ  "ข้าเองก็ไม่ได้มีของที่อยากได้เป็นพิเศษด้วย"

        เมื่อพูดถึุงเรื่องนี้ จุนทำหน้าจริงจังขึ้นมาทันที  เขายืนยันหนักแน่นว่าเขามีของที่จะมอบเป็นของขวัญให้มาซารุแล้วจริงๆ  สิ่งนี้สั่งทำโดยช่างอันดับหนึ่งแห่งเอโดะด้วย  มาซารุรีบพยักหน้าโดยเร็วๆพลางกลืนน้ำลายกับหน้าจริงจังนั้น  แต่เขาหารู้ถึงสาเหตุของใบหน้าที่จริงจังของจุนไม่

        ก็ทั้งท่านมารุสึเกะ ทั้งตัวชินบุ ต่างยืนยันหนักแน่นว่าไม่ใช่ยอดนักทำพู่กันเด็ดขาด  แบบนี้มันดูถูกความทรงจำกันชัดๆ  เขาอ่านอะไรสักสองสามรอบก็จำได้หมดแล้วนะ!  อีกอย่าง ของขวัญให้มาซารุทั้งที เขาย่อมหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้อยู่แล้ว  จะดูถูกความจำเขาก็ยังพอว่า  แต่ถ้าเป็นเรื่องของสิ่งที่จะให้กับมาซารุ  อย่าได้มาปรามาสกันเชียว!

        ความจริง ด้วยความทรงจำแสนมหัศจรรย์นี่แหละที่อ่านวิชาดาบลับซึ่งมาซารุได้มอบให้มาจนจำได้ขึ้นใจและกลายเป็นโคชูอย่างวันนี้

        แม้ผมจะเป็นโคชูที่ไม่เอาไหนเลยก็ตามทีเถอะ!

 

        ในที่สุด วันเกิดของมาซารุก็มาถึง  จุนต้องวิ่งเต็มฝีเท้าไปที่ตลาดเพื่อตามหาชินบุแต่เช้าเพราะขี่ม้าไม่เป็น  นี่เป็นข้อสำคัญที่จุนคิดว่าตัวเองควรหัดได้แล้ว  แต่ให้มันได้งี้สิ! เขาลืมไปว่าตนเองไม่มีที่อยู่ของช่างทำพู่กันคนนี้นี่นา  ในช่วงสองสามวันนี้เอาแต่เถียงกับท่านมารุสึเกะจนลืมไปเลย

        ทว่า...วิ่งในตลาดจนทั่วก็แล้ว ตลาดรอบนอกก็แล้วยังไม่เจอตัวชินบุสักที  จะว่าไป มันไม่ใช่ข้อบังคับที่จะต้องมาซื้อของทุกวันนี่นะ  วันนี้ชินบุอาจไม่ได้มาก็เป็นได้

        "อ๊าก!  ผมทำบ้าอะไรเนี่ย  ทำไงดีๆ!"

        แปะ...ของเหลวๆปริศนาอันแสนคุ้นเคยปะทะเข้ากับแขนเสื้อบริเวณข้อศอกของจุน  เด็กหญิงถอยหลังไปเล็กน้อยแล้วกล่าวขอโทษด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่  โอ้ละหนอ...เหตุใดเธอถึงได้พลาดซ้ำสองไปได้ขนาดนี้ล่ะนี่

        อย่างไรก็ดี นี่ยังไม่ใช่ชุดสำหรับงานที่จะเริ่มขึ้นในอีกสามชั่วโมง  การได้พบกับเด็กหญิงคือรางวัลที่ฟากฟ้าประทานให้กับคนตั้งใจ  จุนรีบจับตัวไว้ทันทีเพื่อถามหาช่างทำพู่กันปริศนา

        เด็กน้อยลนลาน  "ข้า...ข้าไม่ตั้งใจนะ  แง...อย่าทำอะไรท่านพ่อของข้าเลย"

        จุนต้องบอกเหตุผลว่าที่เขาตามหาชินบุไม่ใช่เพราะจะลงโทษที่เธอเอาหมึกมาเปื้อนแขนเสื้อเขาถึงสองครั้งสองครา  แต่เป็นเรื่องของพู่กันที่จะนำมาเป็นของขวัญต่างหากเล่า

        น้ำตาของเด็กน้อยหายไปอย่างกับไม่เคยปรากฏ  เธอตอบเสียงใสว่านำไปให้จุนที่ปราสาทท่านขุนนางแล้วและยังเล่าอีกว่าพู่กันอันนี้ชินบุใช้เวลาเกือบจะทั้งหมดจากวันที่พบกับจุนในการทำขึ้นมาด้วยความประณีตที่สุด  เพราะพู่กันอันนี้เป็นอันแรกที่จะไปสู่มือของคนในตระกูลขุนนาง

        ชิสึเอะยังเสริมเข้าไปอีกว่า  "ความจริงแล้วท่านพ่อเป็นที่รู้จักของคนทั้งตลาดนั่นแหละค่ะ  ถ้าท่านจะตามหาที่อยู่ก็ถามได้ตั้งแต่ร้านแรกไปจนถึงร้านสุดท้าย  ทุกคนตอบได้หมดเลยค่ะ  ไปนะคะ!"

        คำพูดแนะนำอย่างมีน้ำใจของเด็กน้อยเหมือนกับเธอเอามือน้อยๆซึ่งจับพู่กันเล่นกับเพื่อนอยู่ตอนนี้มาชกหน้าจุนก็ไม่ปาน

        แล้วที่ผมวิ่งมาเกือบชั่วโมงมันเพื่ออะไรกันล่ะนี่

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา