Sugar Love หลุมรักร้าย ของนายหน้าหวาน
10.0
12)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความSougr Love หลุมรักร้าย... ของนายหน้าหวาน ( TK PF)
ฉันค่อยๆ ขยับเปลือกตาของตัวเองขึ้นมาพลางบิดขี้เกียจและกลิ้งตัวไปมาอยู่บนเตียง รู้สึกเมื่อยไปหมดทั้งตัวเลยอ่ะเมื่อคืนฉันไปทำอะไรนี่ย ฉันเด้งตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับอาการปวดหัวหนึบๆ แถมยังรู้สึกเจ็บบริเวณต้นแขนอีกต่างหาก พอหันไปดูก็เห็นผ้ากอซแปะอยู่บนแผลที่ได้จากยัยพิม ใครมาทำแผลให้ฉันเนี่ยน่ารักจัง ในขณะที่ฉันกำลังปลื้ม สายตาก็เหลือบไปเห็นชามข้าวต้มที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง พอฉันขยับเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นกุ้งสองตัวงอเข้าหากันเป็นรูปหัวใจข้างชามก็มีซองยากับกระดาษโน้ตที่เขียนว่า อารุณสวัสดี ^^ กินข้าวแล้วอย่าลืมกินยาด้วยนะ ใครมันมาเล่นพิเรนทร์แถวนี้เนี่ย - - บอกให้กินข้าวก็โอเคนะแต่กินยาเนี่ยสิฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยทำไมต้องกินยาด้วยหรือว่าฉันกำลังจะตาย O_O! (คิดมาได้) “ไง ตื่นแล้วหรอ” ฉันที่กำลังกินข้าวต้มช้อนสุดท้ายหันไปมองทางประตูที่ถูกเปิดเข้ามาด้วยน้ำมือของโทโมะฉันนั่งกินข้าวอยู่เนี่ยนายคิดว่าฉันละเมอรึไง “นายมีอะไร” “เปล่า แค่จะมาดูเฉยๆ ว่าเธอตื่นหรือยัง” “นายคิดว่าฉันตื่นสายขนาดนี้เชียว?” ฉันหันหน้าไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังห้องก่อนจะหันไปถามเขา ฉันตื่นตอนเก้าโมงและใช้เวลาในการนั่งกินข้าวต้มชามนี้หนึ่งชั่วโมงเศษ - - ทำไมฉันถึงได้กินข้าวนานแบบนี้เนี่ย “ก็เมื่อวานคุณหมอบอกว่าวันนี้เธออาจจะมีไข้ ฉันเลยมาดูไงว่าเธอจะตื่นสายหรือเปล่า” อ๋อ มิน่าล่ะพอฉันตื่นขึ้นมาแล้วถึงได้รู้สึกมึนๆ ที่แท้ก็เป็นเพราะฉันกำลังจะเป็นหวัดนั่นเอง แต่เมื่อวานฉันก็ไม่ได้ไปตากแดดตากลมตากฝนที่ไหนนี่นา ทำไมฉันถึงไม่สบายได้ล่ะ “แล้วสายไหมล่ะ” “หึ สายกว่าฉันตั้งสองชั่วโมงก็แล้วกัน” “ก็ฉันไม่สบายนี่นา ลองฉันไม่เป็นไรดูสิมีหรอที่นายจะตื่นเช้ากว่าฉัน” “ไม่ต้องบ่นเลย รีบกินยาแล้วนอน...” “นายจะให้ฉันนอนอีกแล้วหรอ ฉันเพิ่งจะตื่นเองนะ” ฉันโผลงออกไปเมื่อได้ยินประโยคนั้นทำให้โทโมะขมวดคิ้วมองหน้าฉันทันที ฉันจึงจ้องเขากลับไปอย่างไม่ลดละ “ต้องนอน ถ้าไม่นอนแล้วเธอจะหายหรอ” “โหย...ก็ฉันไม่อยากนอนนี่นา อย่าให้ฉันนอนเลยนะ” ฉันออดอ้อนแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ให้ - - นี่นายจะมาเป็นพ่อคนที่สองของฉันหรือเปล่าเนี่ย “ถ้าเธอไม่นอนแล้วเธอจะทำอะไร” “ทำไรก็ได้ขอแค่ไม่ต้องนอนก็พอ” “ตามใจ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน” เขาพูดแค่นั้นและเดินออกจากห้องฉันไป ฉันจึงลุกขึ้นจากเตียงด้วยความยากลำบากเพราะมีอาการมึนหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูเตรียมจะอาบน้ำ แต่คนที่เพิ่งจะเดินออกจากห้องฉันไปก็เปิดประตูเข้ามา ลืมด่าฉันอีกรึไง -*- “ฉันลืมบอกไป” “ว่า???” “เธอ – ห้าม – อาบน้ำ” “ว่าไงนะ!” ฉันร้องห้องคอแทบแตก นายจะบ้ารึไงตื่นเช้ามาก็ต้องอาบน้ำสิยะถ้าไม่อาบเดี๋ยวเดินไปไหนกลิ่นก็ได้ฟุ้งไปทั่วบริเวณหรอก - - “ไม่ชัดหรือไง ฉันบอกว่าเธอห้ามอาบน้ำ” “ทำไมอ่ะT^T” “ถ้าแผลเธอโดนน้ำแล้วเดี๋ยวมันจะอักเสบ” “นี่ ฉันโดนมีดปอกผลไม้นะไม่ได้โดนมีดสปาต้าทำไมจะอาบไม่ได้ -*-” “ฉันก็เพิ่งจะบอกไปว่าเดี๋ยวมันอักเสบ เธอเห็นแผลเธอหรือยังล่ะนี่ถ้ามันลึกกว่านี้หมอบอกว่าต้องเย็บนะบอกให้ เพราะฉะนั้น...เธอห้ามอาบน้ำนี่เป็นคำสั่ง ถ้าเธอไม่เชื่อฉันจะจับเธอแช่น้ำทั้งวันเลย” เขาพูดเสียงโหดหน้าตาจริงจัง - - มองจากสายตาแล้วฉันคิดว่าถ้าฉันผิดคำสั่งหมอนี่มันต้องทำตามคำขู่ของมันแน่ๆ เลย ไม่อาบก็ได้ฟระ “เช็ดตัวอย่างเดียวก็พอ แล้วก็อย่าลืมกินยาล่ะถ้าฉันรู้ว่าเธอไม่กินฉันจะเอายาพวกนั้นน่ะมาละลายน้ำให้เธอกินเป็นแก้วๆ เลย” แง ทำไมวันนี้ไอ้หมอนี่มันโหดจังฟระเนี่ย T^T สิ่งที่ฉันอยากทำเขาก็ไม่ให้ทำพอสิ่งที่ฉันไม่อยากทำเขาก็อยากจะให้ฉันทำ โทโมะใจร้าย ถ้าวันนี้ได้กลิ่นเหม็นๆ จากใครไม่ต้องสงสัยนะแต่ขอให้เงียบไว้ ^^; ฉันทำตามที่โทโมะบอกคือไม่อาบน้ำแต่กินยา ก่อนจะเดินถือถาดข้าวต้มลงบันไดไปปกติไม่ถึงหนึ่งนาทีฉันก็ถึงชั้นล่างแล้วแต่วันนี้ฉันรู้สึกว่าบันไดบ้านของอีตาหน้าหวานเนี่ย มันช่างยาวไกลเหลือเกิน ใครมันมาต่อบันไดบ้านเขาเพิ่มหรือเปล่าเนี่ย - - “โอ๊ย...ไม่ไหวแล้วนะ” ฉันหยุดเดินวางถาดข้าวไว้ที่ขั้นบันไดก่อนที่จะทิ้งตัวลงไปนั่งบ้าง มันปวดหัวมากๆ เลยอ่ะถ้าฉันเดินต่อไปชีวิตฉันได้จบบริบูรณ์แน่ “หึ เป็นไงล่ะบอกให้นอนก็ไม่ยอมสุดท้ายก็มาติดแหง็กอยู่ตรงเนี้ยะ” เสียงของโทโมะดังขึ้นจากด้านหลังก่อนที่ตัวจะมาหยุดอยู่ข้างๆ ฉัน เชอะ ก็คนมันปวดหัวนี่นาขืนฉันเดินต่อไปก็ได้กลิ้งตกบันไดตายตามความปรารถนาอันสูงสุดของยัยพิมมี่จอมร้ายกาจน่ะสิ - - “ถ้าไม่ช่วยก็อย่าซ้ำเติมได้ไหม” “โอ๋ๆๆ อย่างอนสิ มาๆ เดี๋ยวฉันช่วย” ฉันแอบยิ้มกับตัวเองคิดว่าเขาจะเป็นสุภาพบุรุษอุ้มฉันลงไปจากบันได แต่เปล่าเลย...การกระทำของเขามันทำให้ฉันอยากจะกลิ้งตกบันไดตายให้รู้แล้วรู้รอดเพราะแทนที่เขาจะอุ้มฉันแต่เขากลับหยิบถาดที่ฉันวางไว้ข้างตัวเดินลงบันไดไปอย่างหน้าตาเฉย -*- นี่ถ้าไม่ติดว่าฉันปวดหัวแล้วก็ไม่มีแรงนะฉันกระโดดลงจากบันไดไปยิงลูกโทษเขาแล้ว “อื้อ ตัวเธอนี่เบาจังเลยนะ” “โทโมะคะ โมะอยากจะให้แก้วคนนี้ฟรีคิกออกจากนอกบ้านไหมคะ ^-^?” “หึ ฉันว่าเธอหาทางลงจากบันไดให้ได้ก่อนไหมแล้วค่อยมาฟรีคิกฉัน” “กรี๊ด! โทโมะนายดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะคิดว่าฉันไม่สบายแล้วจะหักคอนายไปจิ้มน้ำพริกกะปิกินไม่ได้ใช่ไหม!?” ว่าแล้วฉันก็วิ่งลงมาจากบันไดอย่างรวดเร็วและเอาหมอนที่วางอยู่บนโซฟาวิ่งไล่ตีโทโมะอย่างบ้าคลั่ง แรงมันมาจากไหนก็ไม่รู้ฉันรู้อย่างเดียวว่าวันนี้ฉันต้องฆ่าโทโมะให้ได้ (ติดเชื้อพิมมี่หรือไง - -) “เฮ้ยนี่! เธอไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ยเมื่อกี้ยังเดี้ยงคาบันไดอยู่เลยไม่ใช่รึไง” “มันมาจากก้นบึ้งของหัวใจที่โดนนายดูถูกไง!” “นี่แก้ว ใจเย็นสิ เดี๋ยวอาการแย่ลงไม่รู้ด้วยนะ” “ช่างมันสิ ถึงมันจะแย่ลงฉันก็ไม่ตายง่ายๆ หรอก” ฉันไม่สนคำเตือนของโทโมะแล้วบรรจงฟาดหมอนใส่ตัวเขาด้วยความมันมือ ^^;แต่พอตีเขาไปเรื่อยๆ โดยที่เขาก็มีปัดป้องบ้างฉันก็เริ่มเหนื่อยจนแทบจะขาดใจและจู่ๆ ร่างกายของฉันก็หยุดชะงักเหมือนมีใครดึงปลั๊กไฟออก เฮ้ย! ฉันเป็นอะไรไปน่ะ “เธอเป็นไรน่ะ” “หายใจไม่ทัน - -” ฉันว่าพลางหายใจแบบหอบๆ ไม่น่าเล่นเลยฉัน - - จะตายหรือเปล่าเนี่ย “เป็นไงล่ะฉันเตือนแล้วก็ไม่เชื่อ ไปนั่งพักก่อน” โทโมะเดินเข้ามาพยุงร่างฉันเดินไปที่โซฟาและในขณะนั้นเองขาของฉันมันก็ร่วงผล็อยลง ทำให้ฉันล้มลงบนโซฟาโดยมีเขาที่ไม่ทันตั้งตัวล้มลงมาทับร่างฉัน พอเห็นอย่างนั้นฉันคิดว่าถ้าฉันตั้งหน้าตรงๆ แบบนี้ปากเขาต้องมาชนปากฉันเป็นแน่แท้ฉันจึงรีบหันหน้าไปทางอื่นทำให้จมูกโด่งๆ ของเขาฝังลงที่ที่แก้มของฉันอย่างจัง ฉันนอนค้างอยู่อย่างนั้นส่วนเขาก็ค่อยๆ ยกจมูกของเขาออกไปพลางมองหน้าฉันนิ่ง อย่ามองสิฟระฉันเขินนะ -///- “โทโมะ! นายแอบแต๊ะอั๋งฉันหรอ” ฉันลุกพรวดขึ้นมาก่อนจะโวยวายเป็นการกลบเกลื่อนความเขิน โดนไปเต็มๆ ซะขนาดนั้นไม่เขินก็ต่อมความรู้สึกเสื่อมแล้ว “เธอนั่นแหละยืนไม่ดีฉันเลยล้มลงไปด้วย” “แล้วถ้านายเป็นหลักให้ฉัน ฉันจะล้มลงไปไหมล่ะ” “ตกลงฉันผิด???” “ใช่ นายน่ะผิดเต็มประตูแล้วก็ไม่ต้องมาเถียงกับฉันต่อเลยนะ” “ครับๆ” ฉันขยับตัวออกห่างจากไอ้หญี่ปุนหน้าหวานเพราะรู้สึกว่าตัวของฉันมันร้อนๆ ยังไงก็ไม่รู้ ถ้าเกิดตัวเขาได้รับความร้อนจากตัวฉันเดี๋ยวฉันจะซวยแหลก - - “ทำไมไอ้เขื่อนมันมาช้าจัง” “จะไปรู้หมอนั่นหรอ” “ถ้างั้น...เรามานั่งแปลกันไปก่อนดีกว่า อ่ะ เธอเขียนเหมือนเดิม” ฉันมองโทโมะตาปริบๆ เมื่อเขายื่นกระดาษพร้อมปากกามาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าฉัน ฉันกำลังปวดหัวอยู่นะนายยังจะให้ฉันเขียนอีกหรอ นายแปลเองก็เขียนเองสิยะจะมาให้ฉันเขียนทำไมเดี๋ยวก็ต้องมานั่งแกะตัวหนังสือจากภาษาไทยมาเป็นภาษาไทยอีกทีหรอก - - “ทำไมนายไม่เขียนเองอ่ะ” “อ้าว ก็ฉันแปลเธอเขียนไงหรือเธอจะใจดำให้ฉันทั้งแปลทั้งเขียนเองล่ะ” แล้วทำไมนายถึงใจดำให้คนปวดหัวมานั่งเขียนหนังสือล่ะยะ แต่ถ้าฉันบอกว่าฉันปวดหัวเขาจะต้องให้ฉันนอนแน่ๆ เลยอ่ะ ไม่เอาหรอกฉันไม่อยากนอน “ก็ได้ๆ ว่ามาสิ” ฉันหยิบปากกาขึ้นมาพร้อมจด พอโทโมะเอ่ยปากพูดถึงประโยคในหนังสือฉันก็จัดการเขียนตามคำบอกของเขาทั้งๆ ที่หัวมันก็แทบจะระเบิดแต่ฉันไม่อยากนอนนี่นา ถ้าเกิดฉันหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาเจอเหตุการณ์เหมือนเมื่อวานก็ไม่ไหวนะ ฉันนั่งเขียนมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยที่โทโมะก็ไม่รู้ว่าฉันกำลังต่อสู้กับหัวอันหนักอึ้งของตัวเองอยู่เขาจึงบอกมารัวๆ แบบไม่เกรงใจสมองคนเขียนบ้างเลยว่าจะจำประโยคของเขาได้หรือเปล่า - - ฉันนั่งปิดเขาได้เป็นเวลานานจนกระทั่งเขื่อนได้ปรากฏตัวขึ้นในบ้านของโทโมะอาการที่ฉันอุตส่าห์ปกปิดไว้มันก็ได้เผยแผ่ออกไปให้คนข้างกายได้รับรู้ว่าฉันปวดหัวมากแค่ไหน “ไอ้โมะ ทำไมแกใช้แรงงานคนไม่สบายวะ” “อะไร?” เขื่อนที่เดินเข้ามานั่งลงบนโซฟาตัวข้างฉันพลางพูดขึ้นมา หมอนี่มันกำลังจะทำให้ความลับของฉันถูกเปิดเผย “แกดูหน้าน้องแก้วสิเนี่ย ซีดเป็นท้องปลาตายแล้ว” เขื่อนจับหน้าฉันหันไปให้โทโมะดู ทำไมนายทำแบบนี้ล่ะเขื่อนเดี๋ยวฉันก็โดนคุณพ่อคนที่สองดุเอาหรอก T^T “ไหนเธอบอกไม่เป็นอะไรไง” โทโมะถามเสียงดุ แง ฉันลืมบอกไปว่าก่อนที่เขื่อนจะมาเขาเคยถามฉันว่าฉันไหวไหมฉันก็เลยโกหกไปว่าไหวจึงทำให้เขาบอกฉันเขียนมาเป็นชุดเหมือนลูกกระสุนปืนกล - - “ฉัน...บอกหรอ” “ไม่ต้องมาทำเป็นงง ไปนอนเดี๋ยวนี้เลย” “เฮ้ย! ไม่เอาฉันไม่นอน” ฉันแหกปากร้องลั่นเมื่อถูกไอ้หน้าหวานสุดหล่ออุ้มเดินขึ้นบันไดไป นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะฉันไม่ได้สั่งให้นายอุ้มฉันขึ้นมานอนสักหน่อย “ไม่เอาๆ ฉันไม่นอน” “ไม่นอนก็ถึงห้องแล้วอ่ะ” เขาโยนฉันลงบนเตียง ย้ำว่า ‘โยน’ ทำไมถึงทำกับคนไม่สบายแบบนี้ล่ะคะสุดหล่อT^T “นี่! ถ้าเธอไม่นอนฉันจะจูบเธอจนกว่าเธอจะเคลิ้มหลับไปเลยนะ” ไอ้หน้าหวานพูดขึ้นมาเมื่อฉันทำท่าจะลุกออกจากเตียง ทุเรศ! คิดมาได้ไม่อายสมอง -*- นายคิดว่าฉันไม่กลัวรึไง? “ตกลงจะนอนไม่นอน” “นอนก็ได้” ฉันพูดเสียงบูดก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง ไม่อยากนอนก็ยังจะบังคับให้นอนนี่ถ้าไม่ติดว่าคำขู่เขาน่ากลัวขนาดนั้นนะฉันเปิดประตูเดินออกไปแล้วไม่มานอนอยู่ตรงนี้หรอก ฉันค่อยๆ เลื่อนผ้าห่มลงมาเมื่อได้ยินเสียงเปิดปิดประตูพอเห็นว่าในห้องนี้ไม่มีร่างของโทโมะแล้วฉันก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งและหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ประตู ตอนนี้ฉันก็เหมือนแมวไม่อยู่หนูร่าเริงล่ะ นายคิดว่าฉันจะวานรสอนง่ายหรือไงยะรู้เอาไว้นะว่าคนอย่างฉันไม่ทำตามใครง่ายๆ หรอก ฮ่าๆๆๆ เฮ้ย! “ถ้าฉันรู้ว่าเธอไม่หลับล่ะก็เจอดีแน่!!”
ฉันรีบล้มตัวลงนอนจับผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวแกล้งทำเป็นเนียนไม่รู้เรื่องอะไรเพราะจู่ๆ โทโมะก็เปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง ใจหายหมด -*- ดีนะที่ฉันไหวตัวทันไม่งั้นชีวิตฉันหาไม่แน่ ว่าแต่เขาจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าฉันหลับจริงหรือเปล่าในห้องฉันไม่มีกล้องวงจรปิดสักหน่อยแล้วเขาก็ไม่ได้มานั่งเฝ้าฉัน ถ้าฉันแค่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงใครมันจะไปรู้ว่าฉันไม่ได้หลับ จริงไหมล่ะ ฉันทำตามความคิดของตัวเองโดยการนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงสมองก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแต่จู่ๆ ฉันก็หลับไปเฉยเลย - - ไหนบอกว่าจะไม่หลับไงใช้ไม่ได้เลยฉันเนี่ยพูดแล้วคืนคำได้ไงกัน z z Z
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ