Sugar Love หลุมรักร้าย ของนายหน้าหวาน
10.0
11)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความSougr Love หลุมรักร้าย... ของนายหน้าหวาน
หลายวันที่ผ่านมา ฉันอยู่บ้านกับโทโมะตลอด ไปโรงเรียนก็ไปด้วยกัน นั่งก็นั่งด้วยกัน กินข้าวก็กินด้วยกัน แต่ยังไม่ได้นอนด้วยกัน - - พอฉันจะกลับไปนอนที่คอนโดที่พ่อแม่ฉันซื้อให้ เขาก็ไม่ยอม บงคับฉันถึงที่สุด แต่ฉันก็ยอมซะงั้น จนคนทั้งห้องเรียน คิดว่าฉันกับหนุ่มหล่อสุดฮอตอย่างโทโมะ ไปไหนต่อไหนกันแล้ว -0- “นี่โทโมะ ให้ฉันเขียนให้เปล่า” หลังจากที่ฉันนั่งมองโทโมะอยู่นานในที่สุดฉันก็พูดออกไปแต่เจ้าตัวก็นิ่งเงียบนั่งเขียนต่อไป เฮ้ ผีเข้ารึไงเนี่ยหันมาคุยกับฉันหน่อยก็จะดีไม่ใช่น้อยเลยนะ ตอนนี้ ฉันก็ยังอยู่บ้านของเขา อาจารย์ สั่งให้ทำงานแปล ภาษา อะไรเนี่ยแหละ แบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน มีฉัน โทโมะ เขื่อน แล้วก็พิมมี่ ยัยมารร้าย ทำไมเธอต้องมาอยู่กลุ่มเดียวกับฉันด้วย ! “ทำไมนายไม่พูดกับฉันอ่ะ เป็นไรหรือเปล่า” ฉันขยับเข้าไปใกล้ๆ เขาพลางเอียงคอถามแต่เขาก็ไม่ตอบ นี่ถ้าฉันถามนายอีกครั้งแล้วขืนนายยังไม่ตอบอีกมีเจ็บมีช้ำแน่งานนี้ -_-+++ “โทโมะคุง...นายโกรธฉันหรอ” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขาพร้อมกับพูดเสียงหวานใส่และก็ได้ผล เขาหยุดเขียนก่อนจะหันมามองหน้าฉันจนฉันต้องผงะหัวออกมาเพราะหน้าฉันกับเขามันใกล้กันเกินไปจนฉันใจสั่น - - “ฉันจะโกรธเธอทำไม” “จะไปรู้นายหรอ ก็ฉันเห็นนายไม่คุยกับฉันนี่นา” “คิดมาก ฉันไม่ได้โกรธเธอสักหน่อยงอนเป็นเด็กไปได้” เขายื่นมือมาผลักหน้าผากฉันเบาๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ฉันไม่ได้เห็นเมื่อสิบนาทีที่แล้วออกมา ตกลงอารมณ์ของนายจะเป็นไงกันแน่เนี่ยฉันตามไม่ทันอ่ะ “อะแฮ่ม... ที่นี่ไม่ได้มีแค่คุณสองคน -_-” ฉันกับโทโมะหันไปมองเขื่อนที่เป็นเจ้าของเสียงพร้อมกัน เขากำลังมองฉันแบบล้อเลียน ทำไมนายต้องมองฉันแบบนั้นด้วยอ่ะ “เงียบไปเลยไอ้เขื่อน แปลเสร็จแล้วรึไง” “ยัง” “ยังก็แปลต่อไปเลย” “ครับๆ” “ส่วนเธอน่ะเอานี่ไปเขียนแล้วเดี๋ยวฉันบอกเหมือนเดิม” โทโมะยื่นกระดาษแผ่นใหม่มาให้ฉัน โธ่เอ๊ย สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งเขียนเหมือนเดิม น่าจะให้โทโมะเขียนต่อไปนะเนี่ยไม่น่าไปคุยด้วยเลย - - ผ่านไปหลายชั่วโมงฉันก็ชักจะเริ่มง่วงนั่งปิดปากหาวหวอดๆ ตัวหนังสือก็เริ่มจะเอนเอียง ปกติฉันไม่ได้เป็นคนที่ง่วงง่ายดายแบบนี้นี่นาแต่ทำวันนี้ฉันถึงได้อยากจะนอนกลางวันขึ้นมาล่ะเนี่ย -*- “สาบานได้ว่านี่คือตัวหนังสือ -_-” “เธอเขียนให้มันเป็นภาษาคนหน่อยซิ -_-” เขื่อนหันมาพูดกับฉันก่อนที่โทโมะจะตามมา ก็ฉันง่วงนี่นาจะให้ฉันเขียนสวยได้ยังไงล่ะ หนังตาฉันมันจะปิดอยู่แล้วเนี่ยทรมานกันชัดๆ เลย -*- “ลายมือแบบนี้ใครมันจะไปอ่านออก ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไปไป๊” ฉันตวัดสายตาไปมองยัยพิมมี่ที่พูดขึ้นมาอย่างเคืองๆ แล้วลายมือเธอน่ะสวยสักแค่ไหนกันเชียวสู้ฉันตอนไม่ง่วงได้หรือเปล่าล่ะ “ก็ฉันง่วงอ่ะ ผิดด้วยรึไง” “ง่วง - -;” ทุกคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน เออ ฉันง่วงมันน่าตกใจตรงไหนเนี่ยฉันเป็นคนนะไม่ใช่หมาที่จะง่วงไม่เป็นน่ะ (หมามันง่วงไม่เป็นหรอ?) “ตั้งแต่รู้จักกันมาฉันไม่เคยเห็นเธอง่วงตอนกลางวันเลยนะ” “แล้ววันนี้ฉันจะง่วงตอนกลางวันไม่ได้หรือง่ะ ไอ้หน้าหวาน” “ผีนกฮูกเข้าสิงรึเปล่าเนี่ย” เอากันเข้าไป - - ที่ฉันง่วงตอนกลางวันเนี่ยมันผิดมากใช่ไหม? ถ้างั้น...ฉันไม่ง่วงก็ได้ เชอะ “ขอนอนได้ไหมอ่ะฉันไม่ไหวแล้ว” “เฮ้ยนี่ เดี๋ยวสิแก้ว...” เสียงของโทโมะดังเข้าสู่โสตประสาทของฉันเป็นครั้งสุดท้ายเพราะหลังจากที่ฉันทิ้งปากกาเอนตัวไปพิงกับโซฟาฉันก็หลับทันที z z Z ฉันรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อมีใครคนหนึ่งเข้ามากระชากแขนฉันให้ลุกขึ้นจากโซฟา พอฉันขยับเปลือกตาที่หนักอึ้งของตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่าว่าเป็นยัย พิมมี่เธอมาฉุดแขนฉันทำไมเนี่ยคนกำลังหลับสบาย “ตื่นได้แล้ว” เพียะ ฉันหล่นลงไปกองอยู่ที่พื้นพร้อมกับความเจ็บที่แก้มข้างซ้ายด้วยน้ำมือของยัยพิมเธอมาตบหน้าฉันทำไมเนี่ย ดูซิ...ฉันตาสว่างเลย -*- “ปลุกกันดีๆ ไม่ได้รึไงทำไมต้องตบกันด้วย” “ก็เพราะฉันหมั่นไส้เธอมานานแล้วไง แหม ทำมาเป็นง่วงนอนเธอรู้หรือเปล่าว่าหลังจากที่เธอมารยาใส่โทโมะไปแล้วเขาก็เสียสละตักให้เธอนอน” อ้าว ใครมันจะไปรู้วะ - -? ฉันหลับจริงนะไม่ใช่แกล้งหลับฉันยังฝันได้เลขมาสามตัวเลยเธออยากจะเอาไปบอกพ่อเธอให้ซื้อไหมล่ะเผื่อมันจะถูก “ฉันหลับอยู่จะไปรู้ได้ไงว่าเขาจะเป็นสุภาพบุรุษขนาดนั้น” “ฉันก็บอกให้เธอรู้แล้วนี่ไง หน้าไม่อาย มาอ่อยผู้ชายถึงที่!” ยัยพิมพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามใส่ฉัน ใครกันแน่ที่มาอ่อยผู้ชายถึงที่ ฉันอยู่กับโทโมะ ทุกวันอยู่แล้ว แต่หล่อนกลับมานั่งเฝ้าโทโมะ เช้า กรางวัน เย็น โดยอ้างว่าต้องมาทำบทรายงานที่อาจานย์สั่ง ปัดโธ่เอ๊ย!! เชื่อตายแหละ “ก่อนจะว่าใครดูตัวเองก่อนก็จะดีไม่ใช่น้อยนะ” “นี่แกด่าฉันหรอ” “ฉันใช้คำไหนด่าเธอ” ฉันสวนกลับไปทันที ยัยนี่หนิทำฉันตื่นไม่พอยังจะมายั่วโมโหฉันอีกนะที่ถ้าไม่ติดว่าขาฉันเจ็บล่ะก็เธอได้โดนฉันฟรีคิกออกนอกบ้านไปแล้ว ครั้งก่อนที่เธอกับเพื่อนเธอทำร้ายฉัน ฉันยังไม่ได้เอาคืนเลยนะ “ปากดีนักนะ” เพียะ ยัยพิมกระชากฉันให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้งก่อนจะหวดฝ่ามือลงมาที่ใบหน้าของฉันอย่างแรงและปล่อยให้ฉันล้มลง เจ็บอ่ะ T^T ถ้าเธอตบฉันเฉยๆ ไม่ปล่อยให้ฉันล้มลงมาเนี่ยฉันจะไม่เคืองเธอเท่านี้เลยนะ -*- ฉันยกมือขึ้นมาจับซีกหน้าที่ถูกพิมตบและหันมองไปรอบกายหวังจะขอความช่วยเหลือแต่บังเอิญเกินเหตุว่าในห้องนี้มีแค่ฉันกับยัยพิมแค่สองคน ฉันก็ว่าทำไมถึงไม่มีใครช่วยฉันเลย ทุกคนหายไปไหนกันหมด “หึ ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกเพราะโทโมะออกไปส่งเขื่อนที่หน้าหมู่บ้านครั้งก่อนเธอไม่ตายแต่ตอนนี้เธอตายแน่แก้วใจ! มานี” “โอ๊ย...” ยัยพิมฉุดฉันให้ลุกขึ้นจากพื้นและฉุดกระชากลากถูฉันไปที่ห้องครัวซึ่งไม่มีใครอยู่เลยเช่นกัน วันนี้พวกแม่บ้านมันหายศีรษะไปไหนกันหมดเนี่ยพ่อก็ออกไปทำธุระกับคุณอาตั้งแต่เช้าแล้วด้วยจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วอย่างนี้จะมีใครช่วยฉันได้ T^T? ฉันเบิกตากว้างเมื่อพิมมี่หยิบมีดขึ้นมาไว้ในมือ เธอคิดที่จะฆ่าหั่นศพฉันหรือไงบอกไว้ก่อนนะว่ามีดปอกผลไม่น่ะมันหั่นศพคนไม่ได้หรอกเพราะฉะนั้นวางลงเถอะ -_- “เธอจะทำอะไรน่ะพิมมี่” “ถามได้ ก็จะฆ่าเธอไง” ว่าแล้วหล่อนก็กระชากข้อมือฉันเข้าไปใกล้ ยัยบ้าเอ๊ย! นี่เธอโรคจิตหรือเปล่าเนี่ยฉันไม่ได้เป็นมนุษย์อมตะนะที่จะตายแล้วฟื้นน่ะ - - “เฮ้ยนี่! ฆ่าคนมันบาปนะเธอ” “ช่วยไม่ได้ แกอยากมาแย่งโทโมะของฉันทำไม” “อย่านะ!!!” ก่อนที่ยัยพิมจะบรรจงมีดลงมาที่ข้อมือของฉัน ฉันก็เอื้อมมือไปจับมือที่ถือมีดของเธอและต้านไว้สุดแรงเกิด หล่อนจึงปล่อยมืออีกข้างไปยื้อแย่งมีดจากมือของฉัน ทำไมชีวิตฉันมันจะต้องมาเจอคนโรคจิตแบบนี้ด้วยเนี่ย ขาก็เจ็บแรงก็ไม่ค่อยจะมีเพราะยัยนี่เคยทำร้ายฉัน สองวันก่อน แล้วยังจะต้องมาสู้แรงยัยนี่เป็นครั้งที่สองอีก โปรดกรุณาอย่าให้ฉันของขึ้นนะ “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” “จะบ้าหรอ ถ้าฉันปล่อยเธอก็ฆ่าฉันสิ” “แกก็รู้อยู่แล้วว่าฉันจะฆ่าแกทำไมถึงไม่ยอมให้ฉันฆ่าดีๆ ล่ะฮะ” อ้าวนังนี่ - - ใครมันจะไปยอมให้คนมาฆ่าได้ง่ายๆ กันล่ะยะฉันไม่ใช่พวกโรคจิตอย่างเธอนะเฟ้ยที่จะฆ่าคนไม่เลือกหน้านะ คนอะไรสวยก็สวย ทำไมบ้าผู้ชายขนาดนี้ “ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นสักหน่อย” “หึ แต่ถึงแกจะดิ้นรนยังไงสุดท้ายแกก็ต้องตาย” “โอ๊ย!” ฉันร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะฉันโดนแทง! O_O เอ๊ยไม่ใช่! มีดมันเฉียดแขนฉันไปจนเลือดไหลต่างหากล่ะ เจ็บชะมัดเลยดีนะที่แค่เฉียดน่ะ “อุ้ย! ตายแล้วเจ็บไหมนั่น” “เธอลองมาโดนดูบ้างไหมล่ะ -*-” “ก็ดีนะ แต่ขอให้แกตายก่อนก็แล้วกันนังมารหัวใจของฉัน!” ยัยพิมตวัดปลายมีดมาทางฉันก่อนจะพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแต่พอดีว่าฉันเบี่ยงตัวหลบได้ก่อนมันจึงพลาดมาโดนต้นแขนของฉันแทน เจ็บอ่ะค่ะที่รัก T^T นี่เธอคิดว่าเรากำลังเล่นหนังฆาตกรรมอยู่หรือไงกันเนี่ย มัวแต่เพ้ออยู่นั่นแหละ ตื่นได้แล้วเฟ้ยเดี๋ยวฉันก็ตายพอดีหรอก ฉันคงจะไม่โชคดีทุกครั้งไปหรอกนะ “แกจะหลบทำไมเนี่ย” “อ้าว ก็ถ้าไม่หลบฉันก็ตายน่ะสิไม่น่าถามอะไรโง่ๆ แบบนี้เลย” “แกว่าฉันโง่หรอ” “ใช่ ไม่ได้แค่โง่อย่างเดียวนะยังจะโรคจิตอีกด้วยฉันไปทำอะไรให้เธอฮะเธอถึงคิดที่จะฆ่าฉันเนี่ย” “เพราะแกกำลังจะแย่งโทโมะไปจากฉันไง!” นังนี่ตะโกนออกมาเหมือนคนสติแตก สุดท้ายหล่อนก็เป็นคนบ้านั่นเอง - - กลับไปอยู่บ้านศรีธัญญาดีกว่าไหมจ๊ะสุดสวย =O=? “ฉันไม่ได้แย่งสักหน่อย เธอวางมีดเถอะ” “ถ้าฉันวางมีดแกก็ไม่ตายน่ะสิ ยังไงวันนี้แกก็ต้องตาย! ย๊ากกกก” “กรี๊ดดดดดด” ฉันกรีดร้องสุดเสียงก่อนจะรีบวิ่งหนีออกมาจากห้องครัวโดยมียัยพิมมี่คนเสียสติวิ่งถือมีดตามมาด้วย พ่อจ๋าแม่จ๋าหนูกำลังจะโดนคนเสียสติฆ่าตายแล้วนะพ่อแม่ช่วยลูกคนสวยคนนี้ด้วย ช่วยส่งอัศวินมาช่วยหนูทีไอ้คนสติแตกนั่นมันจะมาถึงตัวหนูอยู่แล้วนะ (เพ้ออะไรเนี่ย - -) ตึงงง... ในขณะที่ฉันกำลังเพ้อให้พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยจู่ๆ ฉันก็ชนเข้ากับอะไรบางอย่าง มันเจ็บมากเลยอ่ะนี่ฉันวิ่งชนเสาหลักของบ้านหรือไงกันเนี่ย ใครมันช่างกล้าเอาเสามาวางให้ฉันวิ่งชนฟระอย่าให้รู้นะแม่จะตบไม่เลี้ยงเลย “นี่เธอวิ่งหนีอะไรมาเนี่ย” เสาพูดได้ O_O??? พอฉันได้ยินเสียงจากสวรรค์ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปดู ผลปรากฏว่าจากเสาบ้านกลายมาเป็นใบหน้าอันหล่อเหลาของโทโมะ เสาบ้านมันแปลงร่างได้ O_o “นี่โทโมะหรือเสาบ้าน -_-?” “อะไรของเธอเนี่ย ละเมอรึไง” “โทโมะ! นายช่วยฉันด้วยคนสติแตกมันกำลังจะฆ่าฉัน” ฉันร้องอย่างดีใจและวิ่งไปหลบหลังเขาแต่หมอนี่มันก็ยังจะมีหน้าหันมาถามฉันด้วยเสียงอันกวนๆ อีกว่า... “ใคร?” สั้นๆ แต่ได้ใจความ - - นายไม่ต้องมาถามฉันหรอก คนที่ฉันพูดถึงมันยืนอยู่ข้างหลังนายแล้ว “นังแก้วใจ! แกตายซะเถอะ” “เฮ้ย! นี่เธอเป็นอะไรเนี่ยพิมมี่” “โมะปล่อยนาพิมนะ พิมจะฆ่ามัน!” พิมมีกรีดร้องเมื่อโทโมะจับแขนที่หล่อนถือมีดไว้ได้ทันก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาที่ท้องของฉัน ถ้าเธอคิดจะเล็งท้องฉันนะฉันว่าเธอเล็งที่หัวใจฉันดีกว่าเผื่อว่ามันจะตัดขั้วหัวใจตายคาที่ฉันจะได้ไม่เจ็บมาก - - “เธอจะบ้าหรอ” “ใช่ พิมมันบ้าบ้าเพราะรักโมะไง” โห่ ขอกระโถนด่วนฉันอยากจะอวกออกมาเป็นคำว่ารัก - - ถ้าเธอรักใครแล้วบ้าแบบนี้ฉันว่าเธออย่ามีความรักจะดีกว่านะลำบากคนอื่นที่ต้องวิ่งหนีเธอเหมือนฉัน “แล้วถ้าฉันบ้าเพราะรักแก้วบ้างเธอจะทำไง” ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินประโยคนั้นของโทโมะ บ้าเพราะรักฉันงั้นหรอ...ที่นายพูดเป็นเพราะความโมโหหรือพูดออกมาจากใจจริงเนี่ยนายหน้าหวานเอ๊ย “โมะรักนังแก้วหรอ” “ใช่ ฉันรักแก้วรักมานานแล้วด้วย” “ไม่จริงอ่ะ! โมะโกหกพิมใช่ไหมคะโมะโกหกพิมใช่ไหม!!” ยัยพิมปล่อยมีดออกจากมือและหันไปเขย่าร่างของโทโมะด้วยความบ้าคลั่ง ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนอึ้ง เขาพูดออกมาโดยไม่คิดถึงเจ้าของชื่อคนนั้นเลยอ่ะ ฉันมีความรู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย คลายจะเป็นลม ขอยาดมตราโป๊ยเซียนด่วน -O- “ถึงฉันจะโกหกเธอแต่ฉันโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกนะ” โอ๊ย ขอกระโถนใบที่สองจะได้ไหม ฉันรู้สึกอยากจะอ้วกออกมาเป็นคำว่ารักภาษาอาหรับ - - “กรี๊ดดดด ไม่จริงโทโมะรักพิมไม่ได้รักนังแก้ว... แกตายซะเถอะ!” พิมมี่พูดกับตัวเองอยู่สักพักแล้วก็หันมามองหน้าฉันด้วยสายตาอาฆาตก่อนจะก้มลงไปหยิบมีดที่ตกอยู่ที่พื้นและพุ่งเข้ามาหาฉันเช่นเคย ฉันที่กำลังอึ้งๆ อยู่ไม่ได้ทันตั้งตัวก็เลยโดยมีดที่ต้นแขนเป็นแผลที่สามที่ได้จากพิม ถ้าเธอจะฆ่าฉันทำไมไม่เอาตรงท้องหรือหัวใจฟระจะมาทำให้ฉันเจ็บมากขึ้นกว่าเดิมทำไมเนี่ย T^T “พอได้แล้วพิม ครั้งก่อนเธอก็ทำร้ายแก้วไปแล้วยังไม่พอใจอีกรึไง” โทโมะปราดเข้ามาจับยัยพิมเอาไว้พร้อมกับตวาดใส่เธอเสียงดัง ฉันรู้สึกว่าชีวิตฉันวันนี้มันแปลกๆ ไปจากทุกวันนะเนี่ยทำไมมันถึงดูวุ่นวายยังไงชอบกล -_-??? “โมะจำเอาไว้เลยนะ พิมจะไม่หยุดแค่นี้แน่!” พิมแผดเสียงใส่โทโมะก่อนจะเดินเชิดหน้าออกไปจากบ้านของโทโมะ เขามองร่างของยัยนั่นที่เดินจากไปและหันมามองฉันที่ยืนอยู่ด้านหลังอาการเจ็บไม่ปางตาย “เธอเป็นไรมากหรือเปล่า” “ไม่มากหรอกแค่สามแผลเอง” “เจ็บมากไหมอ่ะ” เขาเดินเข้ามาจับแขนข้างที่เจ็บของฉัน ฉันไม่พูดอะไรนอกจากยืนมองหน้าเขาที่กำลังสำรวจแผลบนแขนของฉันอยู่ ที่เขาพูดไปเมื่อกี้ว่า ‘เขารักฉัน’ มันเป็นความจริงหรือเปล่า (ยังไม่หายข้องใจ) “นี่โทโมะ...ฉันขอถามอะไรนายอย่างได้ไหม” “หือ? อะไรล่ะ” “ที่นายพูดเมื่อกี้...จริงหรือเปล่า” “หึ ถ้าจริงแล้วเธอจะทำไง” เขามองหน้าฉันนิ่ง ฉันก็ได้แต่ยืนสบตาเขาโดยที่ไม่พูดอะไรเพราะมันไม่มีอะไรจะพูด - - “ใช่ ฉันรักเธอ ฉันรู้สึกแบบนี้กับเธอตั้งแต่วันแรกที่เจอเธอแล้ว” คำพูดของเขาทำให้หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะก่อนที่ฉันจะรู้สึกมึนๆ วิงเวียงศีรษะและไม่รับรู้อะไรอีกเลย ง่ายๆก็คือ...นางเอกเป็นลมค่ะ =O=;;;
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ