สองคน ใจ ดวงเดียว

9.6

เขียนโดย SettUparaj

วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 09.06 น.

  9 ตอน
  7 วิจารณ์
  14.52K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ร้าย...? รึ...ดี?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 8 ร้าย...? รึ...ดี? 

อานนท์อยากหัวเราะตาม

แต่เจ็บหน้าอกใกล้ท้อง คงล้มกระแทกโดนก้อนหิน

ต้อนโดนตีกลางหลัง และมันยังซ้ำอัดลงไปอีกหลายไม้

“อยากให้คุณลุงมาช้าๆ อยากอยู่อย่างนี้ตลอดไป” เขาพูดพร้อมกับหลับตา

เธอรู้สึกอบอุ่น ลูบผมเขาไปมา ไม่พูดอะไรอีก

“ผมรู้สึกหนาวนะ” เขาพูดเบาทั้งที่หลับตา เธอจับตัวเขาก็รู้สึกตัวเขาเย็นจริง

“คุณอย่าเป็นอะไรนะ?” เสียงเธอสั่น

อยากร้องไห้อีก เขาหนาวทำไงดี?

คิดได้แล้ว คงเสียเลือดมาก ไปโรงพยาบาลดีกว่ามั้ง ต้องบอกคุณลุง

ทำไมไม่มาซักที กอด ต้องกอดเขาให้หายหนาว น้ำตาไหลอีกแล้วเรา!

เธอพยายามดึงตัวเขาขึ้นเอนพิงกับอกเธอ และกอดเขาไว้

อย่าเป็นไรไปมากกว่านี้นะ ฉันจะรู้สึกยังไงหากคุณเป็นอะไรมากกว่านี้ โธ่!

“อุ่นขึ้นบ้างมั้ยค่ะ?”

“คุยกับฉันซิค่ะ?”

“ผมหนาวครับ”

อานนท์หนาวจนปากแห้งผาก น้ำลายเหนียวคอ หน้ามืดหวิว เวียนหัวอยากอ๊วก

เขาไอออกมา รู้สึกมีอะไรออกมาด้วย เสียงเธอร้องโฮ

อะไร? เธอร้องทำไม? เขามึนหัว

“คุณ คุณอย่าตายนะ ลืมตาซิค่ะ” เธอกอดเขา

 อานนท์ไอ เลือดสดๆ ออกตามมาเป็นลิ้มๆ เธอไม่อยากบอกเขา

เขาคงไม่รู้ตัว น้ำตาเธอไหลพราก...

 

เสียงรถคุณลุงจอด คุณลุงกับลูกชายวิ่งเข้าหา

“คุณลุงไปโรงพยาบาลเร็วเถอะค่ะ คุณเขาไม่ไหวแล้ว ดูซิค่ะ”

เธอพูดพร้อมกับมองคุณลุงด้วยสายตาวิงวอน

คุณลุงตกใจจริงๆ คราวนี้ วิ่งเข้ามา

“ไอ้หนูมาช่วยกันอุ้มขึ้นรถเร็ว คุณขึ้นไปนั่งก่อนท้ายกะบะนะ คุณแกจะได้นอนไปสบายๆ”

“ค่ะ”

ทั้งสองพ่อลูกช่วยกันหามหัวท้าย เอาอานนท์ขึ้นท้ายรถ เธอเอาหัวเขาหนุนตัก

ลูกชายลุงนั่งปลายกะบะ

“อาการหนักจริงนี่”

คุณลุงพึมพำเกาหัวเกรกๆ ท่าทางกระสับกระส่าย

“เร็วซิค่ะออกรถ คุณไม่รู้สึกตัวแล้ว ตัวเย็นมาก ฮือๆ เร็วๆ ค่ะ ฮือๆ”

เธอได้แต่ก้มตัวโอบเขา อานนท์มึนไปหมด หูดับสนิท...

 

 “เฮ้ย! พวกมึงลงมือหนักไปหรือเปล่า?

กระอักเลือดขนาดนี้ ไหนบอกจะใช้กระบองเอฟเฟ็กไง ไอ้พวกบ้า! เดี๋ยวเรื่องใหญ่แน่”

เสี่ยตกใจ โวยลูกน้องทางมือถือ

“ไอ้หนุ่มนั้น มันสู้หนัก พวกผมเจ็บเลยลืมตัวไปหน่อย ขอโทษครับเสี่ย”

“พวกลื้อพูดง่ายจริงๆ มันจะตายมั้ยเนี่ย?” เสี่ยชักไม่สนุกแล้ว

“ไม่ทราบครับ ผมไม่รู้มันโดนอะไร ทุบสี่ห้าครั้งไม่น่าจะหนักขนาดนั้น ผมเองยังงง! เสี่ย!

ไอ้ยักษ์เข้มผู้นำกลุ่มเกาหัว

“ผิดคิวจริงๆ” ไอ้หมีบ่นตามลูกพี่

“แค่นี้ก่อน ดูกันไป ตามกันให้ติดนะโว้ย”

“ครับเสี่ย” มานพตอบ

เสี่ยสมบูรณ์คิดในใจ เรื่องนี้จะเลยเถิดเกินไปหรือเปล่า?

ไม่เป็นไรคงพอแก้ไขได้ หวังว่าไอ้หนุ่มคงไม่เป็นอะไรมากจนตาย...

 

รถปิกอัฟลุงแถม

วิ่งเข้าตัวจังหวัด และทะลุออกตัวจังหวัดอีกด้านไม่พบโรงพยาบาลสักที

พิมพ์มายาร้องไห้จนไม่มีน้ำตา

ทำไมช้าจัง? ไกลเหลือเกินไอ้โรงพยาบาลบ้านี่ ทำไมไม่อยู่ในตัวเมือง

หรือจะข้ามไปอีกจังหวัด ไม่ทันการณ์พอดี

นี่คุณเขาไอออกมาอีกเป็นครั้งที่สองแล้ว โธ่! อย่าเป็นอะไรนะคุณ อดทนไว้นะคะ

ฉันรักคุณค่ะ ฉันรักคุณได้ยินไหม?

ไม่มีคุณฉันจะอยู่ได้ยังไงค่ะ? เธอพูดกับเขา ก้มลงจูบหน้าผากเขา

ใจหญิงสาวเตลิดกว่าที่คิด

 

รถเลี้ยวขวาอีกครั้ง เธอเงยหน้ามองถึงโรงพยาบาลเสียที

เสื้อ กางเกงของเธอ เลอะไปด้วยเลือดของเขาที่กระอักออกมา

คุณลุงจอดตรงอาคารติดป้ายฉุกเฉิน

คุณลุงแถมวิ่งเข้าไปพูดกับพนักงาน ครู่หนึ่งเตียงก็เข็นเข้ามาเทียบกระบะรถ

บุรุษพยาบาลโดดขึ้นกระบะสองคน

ช่วยกันหามอานนท์นอนบนเตียงรัดเข็มขัดเข็นเข้าอาคาร

พิมพ์มายาตามไปติดๆ

“เขาเจ็บที่หลัง ที่หน้าอก ที่มือซ้ายเป็นแผลใหญ่เลือดไหลไม่หยุด

กระอักเลือดออกสองครั้ง ตัวเย็นมากค่ะ”

เธอพูดขณะเดินกึ่งวิ่งตาม เพื่อให้บุรุษพยาบาลทราบก่อน

ถึงประตูห้องฉุกเฉิน บุรุษพยาบาลแตะแขนเธอ

“ปล่อยเป็นหน้าที่ของหมอเถอะครับ กรุณาคอยข้างนอก”

เธอหยุดมองตามเตียงและประตูที่ปิดตาม ลุงแถมมาสะกิดเธอ

“คุณครับ นั่งพักก่อนดีกว่า”

เธอพยักหน้า เดินตามลุงแถมไปนั่งที่ม้านั่งแถวยาวหน้าห้องฉุกเฉิน

“เขาจะตายมั้ยค่ะ คุณลุง?” เธอมองหน้าด้วยความหวัง

“ผมไม่ทราบครับ คงไม่มั่ง คุณทำใจดีๆ ไว้ก่อน”

ลุงแถมปลอบใจเธอ พร้อมกับปลอบตัวเองไปด้วยที่เข้ามายุ่งกับเรื่องบ้าๆ นี้...

 

เวลาผ่านไปพักหนึ่ง

“ญาติคนไข้กระอักเลือดช่วยมาทางนี้ค่ะ” พยาบาลสาวใหญ่เดินมาหา

พิมพ์มายาลุกขึ้นเดินตามไปที่เคาน์เตอร์

“ช่วยบอกชื่อ อายุ ที่อยู่ของคนไข้ด้วยค่ะ?”

พิมพ์มายาตะลึง! พึ่งนึกได้เธอไม่รู้จักชื่อเขา เธอพึ่งรู้จักเขาไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง

“ฉันไม่รู้ชื่อเขา แต่ฉันให้ชื่อฉันได้ ฉันชื่อพิมพ์มายา แสงสุวรรณ เป็นเจ้าของคนไข้

รับผิดชอบหมดทุกอย่าง นี่ค่ะบัตรประชาชนของฉัน”

เธอล้วงกระเป๋าหยิบบัตรประชาชนส่งให้พยาบาล ที่มองเธอเลิกคิ้ว แปลกใจ

พิมพ์มายาหน้าแดง

“คุณเป็นดาราใช่มั้ยค่ะ?” สีหน้าพยาบาลเริ่มตื่นเต้น

“คลายๆ ค่ะอยู่วงการเดียวกัน แถวนี้มีตำรวจไหมค่ะ?” พยาบาลยิ้มแปลกใจ มองหน้าเพื่อน

“อ้อย! ช่วยตามจ่าสมหมาย คุณพิมพ์มายาต้องการพบ”

พยาบาลอ้อยมองตามมือเพื่อนพบหน้าพิมพ์มายา

เธอทำตาโต พยักหน้าโดยไม่หุบปาก สายตาไม่ละจากใบหน้าของพิมพ์มายา

ลุงแถมอยู่ข้างรู้เหตุการณ์ไปกันใหญ่ทำใจดีสู้เสือ

โดยภาพรวมแล้ว เราเป็นพลเมืองดีนี่หน่า

“ขอโทษนะคะ ที่นี่ที่ไหนค่ะ?” พิมพ์มายาถามคุณพยาบาล

คุณเธอเงยหน้าขึ้นมองพิมพ์มายา งง! แต่ก็ตอบ

“เมืองนนท์ค่ะ”

“นนทบุรีเหรอ ขอยืมใช้โทรศัพท์ได้มั้ยค่ะ?”

คุณพยาบาลยิ้ม ล้วงกระเป๋าเสื้อกราวหยิบมือถือออกมาเปิดเครื่องยื่นให้

พิมพ์มายายิ้มให้ กดหาคุณพ่อ

“ไพจิตรพูดครับ”

ไพจิตรต้องรับ แม้ไม่รู้จักเบอร์ต่อหน้าสารวัตร จ่า และอำนวย

ที่รอคอยโทรศัพท์ติดต่อจากพวกเรียกค่าไถ่ พร้อมกับเปิดลำโพง

“คุณพ่อ หนูพิมพ์เองค่ะ”

“พิมพ์ พิมพ์อยู่ที่ไหนลูก? เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“หนูสบายดี ปลอดภัย หนีพวกมันออกมาได้

แต่ แต่คุณที่ช่วยหนูเขาบาดเจ็บสาหัสอยู่โรงพยาบาลจังหวัดนนท์ค่ะ

หนูอยู่ที่นี่ด้วย รีบมาหาหนูนะคะ”

เธอร้องไห้ดีใจที่ได้คุยกับคุณพ่อ พยาบาลได้ยินที่เธอพูด ตกใจ

“ลูกพิมพ์ใจเย็นๆ รอพ่ออยู่ตรงนั้นนะ พ่อจะไปเดี๋ยวนี้”

“ค่ะ! หนูจะรอ รีบมานะคะ หวัดดีค่ะ” เธอคืนมือถือให้คุณพยาบาล

“ขอบคุณมากค่ะ”

“ไม่เป็นไร เต็มใจอย่างยิ่งค่ะ” หน้าเธอยิ้มยินดีจริงๆ

 

ตำรวจไม่หนุ่มเดินมา

พร้อมกับคุณพยาบาลอ้อย พิมพ์มายายกมือไหว้

“สวัสดีค่ะ ดีใจที่พบคุณตำรวจ”

“สวัสดีครับ ผมก็ดีใจที่พบคุณ

เรื่องของคุณเราได้รับแจ้งจากทางวิทยุตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ออกทีวีทุกช่อง

เชิญนั่งก่อนครับ ค่อยคุยรายละเอียดกัน”

จ่าสมหมายชวนเธอไปนั่งในห้องพักพยาบาลใกล้ห้องฉุกเฉิน

“ฉันเป็นห่วงคนไข้ของฉันค่ะ รอฟังผลได้นะคะ?”

“ได้ครับคุณพยาบาลอ้อยจะดูแลให้ และบอกให้คุณทราบทุกระยะครับ”

“ขอบคุณค่ะ” เธอหันไปทางคุณพยาบาลอ้อย

“ยินดีค่ะ” คุณอ้อยยิ้มหน้าสวยตอบ

“หมู่ชาคริต จับตาดูความเคลื่อนไหวหน้าโรงพยาบาลด้วยครับ”

“ครับจ่า”

ผู้หมู่ชาคริตรับคำสังจากคู่หูออกไปเดินเตร่ดูลาดเลา พร้อมกับคุ้มกันไปในตัว

พอดีกับคุณหมอเวรห้องฉุกเฉินเปิดประตูออกมา พิมพ์มายารีบเข้าไปถาม

“คุณหมอคนไข้ดิฉันเป็นอย่างไรบ้างค่ะ?”

นายแพทย์หนุ่มสวมแว่นหน้าตี๋ทำท่า งง!

“คนไหนครับ เยอะไปหมด?”

“คนไข้ผู้ชายที่กระอักเลือด มีบาดแผลที่มือซ้ายค่ะ”

“อ๋อ! อาจารย์หมอดิเรกกำลังผ่าตัดครับ

อีกสามชั่วโมงคงอยู่ในห้องไอซียู พอเข้าเยี่ยมได้ไม่กี่นาที”

พูดจบคุณหมอรีบเดินดุ่มอย่างเร็วหายไป เธอได้แต่กล่าวขอบคุณตามหลัง

“จ่าค่ะคนไข้ เออ...ผู้ชายที่ช่วยเหลือฉัน ทราบชื่อเขามั้ยค่ะ?”

เธอหันไปถามจ่าสมหมาย

“อ้าว! ไม่รู้จักกันหรือครับ?”

“ค่ะ พึ่งเจอกันที่ลานจอดรถในงานค่ะ”

“อืมม...ข้อมูลใหม่ เขาชื่ออานนท์ นักบัญชี โสดอายุสามสิบสาม”

จ่าสมหมายดูจากสมุดบันทึกเล่มเล็กในมือ จ่ายิ้มมองหน้าพิมพ์อย่างชื่นชม

“เรื่องของคุณพิมพ์ดังน่าดู ขอแสดงความยินดีที่คุณผ่านพ้นมาได้อย่างปลอดภัย”

“ขอบคุณค่ะ”

 

ระหว่างที่พิมพ์มายาคุย กับตำรวจ

ลุงแถมเดินเลี่ยงออกไปหาโทรศัพท์สาธารณะในโรงพยาบาล

“เสี่ยครับ! ผมลุงแถม ไอ้หนุ่มกำลังผ่าตัด คิดว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว

คุณพิมพ์กำลังให้การกับตำรวจที่โรงพยาบาล เอาไงต่อครับ?”

“ลื้อเฉยไว้ ลื้อเป็นพลเมืองดี ไม่ต้องห่วง ให้การตามที่เป็นจริง

ไม่มีปัญหา ลื้อสบายใจได้ ถ่ายทำต่อ ทีมงานกำลังติดตามปกติ งานยังไม่ยุติ”

“ค่อยสบายใจหน่อยครับ สวัสดีเสี่ย”

ลุงแถมวางสาย รีบเข้าไปถ่ายทำ สีหน้าดีขึ้นทันที...

                                           (ชอบใจขอความเห็นด้วยครับ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา