ลีลาวดีเปื้อนรัก
-
3) กลับมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ...........ลีลาวดีดอกนี้ช่างแสนเศร้า สุดปวดร้าวเคล้าระบมปนน้ำตา
ครั้งเจอรักยากนักไขว่คว้ามา เฝ้าห่วงหาคะนึงนางสุดฤทัย
เสียงหยดเปาะแปะดังเปะเปาะ น้ำกัดเซาะเอ่อล้นรินหลั่งผ่านม่านตา
เปรียบดวงจิตลั่นทมร่ำร้องสะท้อนมา คร่ำครวญหาสายยุพิณถวิลวรรณ
เสียงแผ่วแผ่วพลิ้วปลิวพัดกลีบโบก แสนจะโศกขมขื่นขื่นขมตรมวิญญา
เมื่อสามคำเอ่ยเพียงครั้งทางวาจา คำที่ว่า “ฉันเกลียดเธอ”ลีลาวดี.....
......... “คุณหนูครับ....คุณหนูถึงบ้านแล้วครับ" ลุงเล็กแต่ตัวไม่เล็กตามชื่อ..เป็นคนขับ รถที่ไปรับลินจากสถานีขนส่ง....ร้องทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวยังคงเหม่อลอย
“ คะ...ค่ะ” ลินขานตอบ...พลางเอามือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม..เมื่อนึกถึงความหลังที่ปวดร้าว....และกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งในไม่ช้านี้
'ลุงค่ะเรียกลินเหมือนเดิมเถอะค่ะ....ลินไม่ใช่คุณหนูของใครหรอกค่ะ....แต่เป็นลินคนเดินดินทั่วไป....ขอบคุณน่ะค่ะที่ไปรับลิน' ลินหันมาบอกลุงเล็กและยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
'ลุงค่ะเรียกลินเหมือนเดิมเถอะค่ะ....ลินไม่ใช่คุณหนูของใครหรอกค่ะ....แต่เป็นลินคนเดินดินทั่วไป....ขอบคุณน่ะค่ะที่ไปรับลิน' ลินหันมาบอกลุงเล็กและยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
ลินก้าวเข้าบ้านหลังใหญ่ที่ไม่ได้มาเสียนาน
“สวัดดีค่ะคุณท่าน...” ...ลินตรงไปกราบไหว้สวัดดีผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งเด่นตระห่าอยู่ใจ กลางบ้าน
“อ้าวหนูลิน....กลับมาแล้วหรือลูก....ยินดีต้อนรับกลับบ้านน่ะลูก” คุณทัตเจ้าของบ้านซึ่งเป็นพ่อของนาเชน.....กล่าวต้อนรับพร้อมเอามือไปเตะที่ศรีษะเบาอย่างรักใคร่....ท่านเป็นคนดีมีเมตตาไม่ต่างไปจากนาเชน.....
“ อืม...กลับมาแล้วก็ดี” คุณแพรรับไหว้แบบไม่มอง...พลางเอ่ยทักทายแบบไม่ค่อยยินดียินร้ายการกลับมาของลิน.......เธอเป็นคุณหญิงประจำบ้านที่จิตใจตรงกันข้ามกับคุณๆทั้งสอง
“อ้าวน้องลิน....มาถึงนานยังครับ” นาเชนพูด..ขึ้นด้วยความดีใจพลางเข้าไปกอดรับสร้างความไม่ค่อยพอใจให้กับคุณแพรจนต้องเอ่ยขึ้นว่า
“แค่ยายลินกลับมา...ทำไมต้องดีใจเหมือนกับว่าได้เป็นนายกอย่างนั้และคุณทัต....ชายก็เหมือนกันทำไมต้องไปใกล้ชิดกับยายลินขนาดนั้นด้วย...ก็แค่เด็กอาศัยเท่านั้น...” ... ขณะที่พูดก็ทำสีหน้าไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไร...พลางใช้หางตามองแบบเหยียดๆไปที่ลิน
“ ไม่เอาน่าคุณแพร....ลินก็เหมือนลูกหลานของเราอีกคน”....คุณทัตพูดด้วน้ำเสียงเรียบๆเหมือนจงใจให้สติกับคุณแพร ........แล้วหันไปมองลินด้วยความเห็นดู
“ นั่นน่ะสิครับคุณแม่...ลินก็เหมือนน้องสาวของผมแท้ๆน่ะครับคุณแม่” นาเชนพูดเสริมพร้อมเอามือมาลูบหลังเบาเป็นการปลอบและให้กำลังใจในตัว
“ เชิญพวกคุณนับญาติกันเถอะค่ะ....แต่ฉันไม่นับญาติและไม่คิดจะนับด้วยจำใส่สมองของแกเอาไว้ด้วย...ว่าแกก็แค่คนอาศัยบ้านฉันเท่านั้น” คุณแพรพูดสะบัดหน้าแล้วเดินออกไปด้วยอารมณ์เสียอย่า
“ ไม่เป็นไรน่ะหนูลิน...อย่าไปใส่ใจคำพูดของคุณป้าเขาเลย..” คุณทัตพูดเพื่อให้หญิงสาวตรงหน้ารู้สึกดีขึ้นง......เมื่อเห็นใบหน้าซีดๆของลิน
“ ไม่เป็นไรค่ะคุณท่าน....ลินรู้ตัวดีค่ะ...คุณนาเชนกับคุณท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ...” ลินพูดพลางสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้พร้อมยิ้มบางๆส่งให้เพื่อบอกว่าไม่เป็นไรจริง
.......ที่คุณหญิงพูดมาก็เป็นความจริงไม่ใช่หรือลิน...เราแค่เด็กที่มาอาศัย...คุณท่านทั้งสองมีเมตตาเลี้ยงดูเรา.....แถมยังส่งเสียให้เราและพี่สาวเรามีความรู้นำไปประกอบอาชีพได้..นับว่าเป็นพระคุณยากจะทดแทน......เมื่อนึกถึงพี่สาวของเธอก็อดคิดถึงไม่ได้...ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง...ถึงแม้ว่าคนที่ขึ้นชื่อว่าพี่สาว...จะเป็นต้นเหตุให้คนที่เธอรักสุดหัวใจเกลียดเธออย่างที่สุดก็ตาม.....พี่จิรวดี...ฉันยังคงเป็นน้องสาวของพี่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง......
“น้องลินครับไปหาป้าบุญดีกว่าครับ....ป่านนี้คงตั้งหน้าตั้งตารออยู่ที่บ้านท้ายสวนแล้วล่ะครับ...” นาวินพูดขึ้นเมื่อนึกถึงอีกคนหนึ่งที่ตั้งหน้าตั้งตารอการกลับมาของลิน....
แม้ว่าตอนนี้เขาจะเครียดกับเรื่องที่ทับถมอยู่ในอก...แต่เขาก็ทำหน้าที่พี่ชายที่ดีต่อลินอย่างดี....พร้อมกับคิดว่าเมื่อมีน้องสาวคนนี้มายืนตรงนี้แล้ว...น้องสาวคนนี้ของเขาคงช่วยหาทางแก้ไขให้ดีขึ้นได้บ้าง
แม้ว่าตอนนี้เขาจะเครียดกับเรื่องที่ทับถมอยู่ในอก...แต่เขาก็ทำหน้าที่พี่ชายที่ดีต่อลินอย่างดี....พร้อมกับคิดว่าเมื่อมีน้องสาวคนนี้มายืนตรงนี้แล้ว...น้องสาวคนนี้ของเขาคงช่วยหาทางแก้ไขให้ดีขึ้นได้บ้าง
“คุณนะนา...เอ่อพี่ชายค่ะ.....แล้วพี่ชายมีเรื่องอะไรให้ลินช่วยค่ะ...เอ่อ...เรื่องที่พี่ชายกำลังจะแต่งงานกับคุณภินรริทร์หรือเปล่าค่ะ....” ลินทำท่าจะเอ่ยเรีกชื่อว่าคุณนาวินแต่โดยอีกคนส่งสายตามาดุ...แล้วค่อยเอ่ยถามชายหนุ่มถึงเรื่องจะให้ช่วย...แม้จะถามออกไปแล้วจะเหมือนตอกย้ำใจตัวเองให้ยิ่งเจ็บปวด
“...เอ่อ....พี่ว่าเราค่อยคุยกันน่ะครับ....” นาเชนพูดด้วยสีหน้าที่เร่งเกลียดขึ้นทันที....
“คุณลิน...คุณหนูลินของป้า..โอ้ดีใจเหลือเกิน...ดวงใจของป้าบุญ” ป้าบุญโผกอดลินอย่าดีใจจนน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว....นานเหลือเกินที่ไม่ได้กอดหญิงสาวที่เหมือนลูกของเธอเอง....อาการของลินก็ไม่ได้ต่างไปจากป้าบุญเลย...เหมือนได้กลับมากอดคนที่ให้ไออุ่นเปรียบเสมือนแม่แท้ๆของเธออีกคน....
ป้าบุญเปรียบเสมือนแม่แท้ๆของเธออีกคนหนึ่งนอกจากแม่บังเกิดเกล้าของเธอแล้ว....เพราะตั้งแต่เธอจำความได้....มีป้าบุญนี้และเป็นคนคอยดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอและพี่สาวของเธอ...
เพราะตอนที่เสียแม่ของเธอไปตอนนั้นเธอยังเด็กมากและพี่สาวของเธอคงไม่ต่างจากเธอเท่าไร...หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายๆคุณท่าน..มารับเธอสองคนพี่น้องมา...เขาบอกแต่เพียงว่า “รักพวกเราสองคนมาก...สักวันหนูจะรู้ความจริง”
แล้วพาเราสองคนมาอยู่กับคุณท่านที่บ้านแห่งนี้...ในตอนแรกที่เข้ามาก็ยังกลัวอยู่ๆแต่ทุกคนในบ้านต่างให้ความอบอุ่นแบบครอบครัวให้กับพวดเธอทั้งสองพี่น้อง...คุณผู้หญิงเมื่อก่อนไม้ได้ร้ายกับเธอขนาดนี้ถึงแม้จะไม่ชอบทั้งสองคนก็ตาม.....จนเกิดเรื่องของพี่สาวของเธอขึ้นมา...ทำให้คุณหญิงท่านร้ายกับเธอแบบไม่ยั้ง....แต่คนอื่นก็เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นของพี่สาวเธอดีและบอกว่าเป็นคนละคนกัน....
เธอสองคนพี่สาวอาศัยอยู่ในบ้านท้ายสวนตั้งแต่เข้ามาอยู่จนเติบใหญ่....แม่ว่าคุณท่านและคุณนาเชนจะพยายามให้เข้ามาอยู่ในตึกใหญ่ก็เถอะ.....เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นได้แค่ไหนในฐานะของพวกเธอและเจียมตัวเองเสมอ.....ประกอบกับป้าบุญเป็นผู้ดูแลตั้งแต่เด็กๆจึงมีความผูกพันธ์และรักป้าบุญมากจึงไม่ยอมจากไปไหน...
“ ลีลาวดีออกดอกแล้วสวยน่ะน้องลินว่าหรือเปล่า....ครับ...สวยเหมือนน้องสาวของพี่เลยว่าไหมครับ...” นาเชนพูดขึ้นขณะเดินไปนั่งบนม้าหินอ่อนใต้ต้นลีลาวดี....พลางสายตาไปมองดอกลีลาวดีที่ออกดอกกันบานสพรั่งน่าชวนมอง
“ลินช่วยดูแลแทนพี่ในช่วงที่พี่ไม่สามารถดูแลได้ไหมครับ....น้องลิน” แล้วนาวินก็บอกว่าจะให้ภินรริทร์ไปพักที่บ้านพักที่เชิงเขาในสวนไร่ส้มของเขาแถบประจวบที่ใครก็ไม่รู้นอกจากเขาและคนที่ไว้ใจได้เท่านั้นเพื่อป้องกันนักข่าวและพวกชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวเจ้าบ้าน....
เพราะตอนที่เสียแม่ของเธอไปตอนนั้นเธอยังเด็กมากและพี่สาวของเธอคงไม่ต่างจากเธอเท่าไร...หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายๆคุณท่าน..มารับเธอสองคนพี่น้องมา...เขาบอกแต่เพียงว่า “รักพวกเราสองคนมาก...สักวันหนูจะรู้ความจริง”
แล้วพาเราสองคนมาอยู่กับคุณท่านที่บ้านแห่งนี้...ในตอนแรกที่เข้ามาก็ยังกลัวอยู่ๆแต่ทุกคนในบ้านต่างให้ความอบอุ่นแบบครอบครัวให้กับพวดเธอทั้งสองพี่น้อง...คุณผู้หญิงเมื่อก่อนไม้ได้ร้ายกับเธอขนาดนี้ถึงแม้จะไม่ชอบทั้งสองคนก็ตาม.....จนเกิดเรื่องของพี่สาวของเธอขึ้นมา...ทำให้คุณหญิงท่านร้ายกับเธอแบบไม่ยั้ง....แต่คนอื่นก็เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นของพี่สาวเธอดีและบอกว่าเป็นคนละคนกัน....
เธอสองคนพี่สาวอาศัยอยู่ในบ้านท้ายสวนตั้งแต่เข้ามาอยู่จนเติบใหญ่....แม่ว่าคุณท่านและคุณนาเชนจะพยายามให้เข้ามาอยู่ในตึกใหญ่ก็เถอะ.....เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นได้แค่ไหนในฐานะของพวกเธอและเจียมตัวเองเสมอ.....ประกอบกับป้าบุญเป็นผู้ดูแลตั้งแต่เด็กๆจึงมีความผูกพันธ์และรักป้าบุญมากจึงไม่ยอมจากไปไหน...
“ ลีลาวดีออกดอกแล้วสวยน่ะน้องลินว่าหรือเปล่า....ครับ...สวยเหมือนน้องสาวของพี่เลยว่าไหมครับ...” นาเชนพูดขึ้นขณะเดินไปนั่งบนม้าหินอ่อนใต้ต้นลีลาวดี....พลางสายตาไปมองดอกลีลาวดีที่ออกดอกกันบานสพรั่งน่าชวนมอง
“ ลีลาวดีก็ยังเป็นลีลาวดีเหมือนเดิมเละค่ะพี่ชาย....แม้จะมีสีที่ต่างออกไปแต่ก็ยังเป็นดอกและกลิ่นหอมของลีลาวดีพี่ชายว่าจริงไหหมค่ะ....” ลีลาวดีพูดด้วยน้ำเสียงปนเศร้า....เหมือนจะตอกย้ำตัวเองให้รู้ตัว
“ พี่มีเรื่องให้น้องลินช่วยหน่อยน่ะครับ.....เกี่ยวกับคุณภินรริทร์” นาเชนพูดพลางใช้ความคิด
“...คุณภินรรินร์หรือค่ะ..” ลินหันมามองในทันทีเพียงแค่ได้ยินชื่อนี้...พร้อมด้วยใบหน้าที่สงสัย..เอะ..กำลังจะแต่งงานกันแล้วนี่...ทำไมต้องมาขอความช่วยเหลือจากเธออีกล่ะ
“ คือ...อย่างนี้น่ะครับ...” แล้วนาเชนก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า
.... ภินรริทร์ประสบอุบัติเหตุทางเมื่อรถยนต์ตอนที่ไปเที่ยวที่อเริกากับเขาพร้อมกับญาติ เมื่อไม่ 4 เดือนก่อน....และตอนนี้กำลังอยู่ของการพักฟื้นและรักษาเป็นระยะตามอาการของคนป่วย .....
บอกเกี่ยวกับผลที่ได้รับจากการเกิดอุบัติเหตุว่า.... ตาของภินรริทร์ในขณะนี้ยังมองไม่เห็น ความจำบางส่วนหายไปหรือกลับมาจำได้บ้างในบางครั้ง....ส่านร่างกายของเธอยังดีอยู่แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควรเพราะบางครั้งเธอจะมีอาการตัวชาด้านบนเป็นบางครั้ง.......นาเชนเล่าให้ฟังพร้อมกับดวงตามีสีหม่นเหมือนกลั้นน้ำตาเอาไว้.......
ลินนั่งฟังเรื่องราวของคนที่เธอรัก....แล้วรู้สึกเหมือนกับมีใครเอามีดบางๆมาปาดดวงหัวใจของเธอออกอย่างช้าๆออกมาเป็นชิ้นๆ....หยดน้ำตาค่อยๆไหลออกมาทีละนิด จากดวงตาสีดำนิลจนกลายเป็นสายน้ำตา..ริมฝีปากเล็กๆถูกกัดเอาไว้จนช้ำเป็นรอยเลือดเพื่อสกัดกั้นเสียงแห่งความเสียใจไม่ให้เล็ดลอดออกมา....คงเจ็บมาสิน่ะค่ะคุณภินรริทร์ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากเจ็บแทนคุณจะได้ไหมจริงอยู่ที่ภิรริทร์ร้ายกับเธอทั้งร่างกายและจิตใจจากอย่างเหลือแสน..แต่ความรักที่ลินมีให้มีมากกว่า......และยังไม่ลืม รัก ของอีกคนที่ฝากเอาไว้ในความเกลียดเพียงข้ามคืนให้กับเธอ....แม้ที่ทำลงไปกับเธอเพื่อจะแก้แค้นพี่สาวของเธอไม่ใช่ด้วยความรักก็ตาม
.... ภินรริทร์ประสบอุบัติเหตุทางเมื่อรถยนต์ตอนที่ไปเที่ยวที่อเริกากับเขาพร้อมกับญาติ เมื่อไม่ 4 เดือนก่อน....และตอนนี้กำลังอยู่ของการพักฟื้นและรักษาเป็นระยะตามอาการของคนป่วย .....
บอกเกี่ยวกับผลที่ได้รับจากการเกิดอุบัติเหตุว่า.... ตาของภินรริทร์ในขณะนี้ยังมองไม่เห็น ความจำบางส่วนหายไปหรือกลับมาจำได้บ้างในบางครั้ง....ส่านร่างกายของเธอยังดีอยู่แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควรเพราะบางครั้งเธอจะมีอาการตัวชาด้านบนเป็นบางครั้ง.......นาเชนเล่าให้ฟังพร้อมกับดวงตามีสีหม่นเหมือนกลั้นน้ำตาเอาไว้.......
ลินนั่งฟังเรื่องราวของคนที่เธอรัก....แล้วรู้สึกเหมือนกับมีใครเอามีดบางๆมาปาดดวงหัวใจของเธอออกอย่างช้าๆออกมาเป็นชิ้นๆ....หยดน้ำตาค่อยๆไหลออกมาทีละนิด จากดวงตาสีดำนิลจนกลายเป็นสายน้ำตา..ริมฝีปากเล็กๆถูกกัดเอาไว้จนช้ำเป็นรอยเลือดเพื่อสกัดกั้นเสียงแห่งความเสียใจไม่ให้เล็ดลอดออกมา....คงเจ็บมาสิน่ะค่ะคุณภินรริทร์ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากเจ็บแทนคุณจะได้ไหมจริงอยู่ที่ภิรริทร์ร้ายกับเธอทั้งร่างกายและจิตใจจากอย่างเหลือแสน..แต่ความรักที่ลินมีให้มีมากกว่า......และยังไม่ลืม รัก ของอีกคนที่ฝากเอาไว้ในความเกลียดเพียงข้ามคืนให้กับเธอ....แม้ที่ทำลงไปกับเธอเพื่อจะแก้แค้นพี่สาวของเธอไม่ใช่ด้วยความรักก็ตาม
นาวินเมื่อมองดูอาการของลินแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร...แต่กลับคิดว่าหญิงสาวคงสงสารคู่หมั้นของเขา...ทีเกิดเหตุการณ์ร้ายๆกับเธอ...แต่หากรู้ไม่ว่าลินกำลังเก็บอาการไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองคิดอย่างไรกับคู่หมั้นของคนที่ขึ้นชื่อว่าพี่ชาย
“ พี่ถูกสั่งย้ายไปอยู่ที่%$&^$43 ทำให้พี่ไม่สามาดูแลคนรักของพี่ได้....ถึงแม้พี่จะขอขัดค้านไปแล้วแต่ฝ่ายผู้ใหญ่เขาไม่ยอม....พี่เลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากลิน...” นาวินเอ่ยพูดขึ้นมาหลังจากมีความเงียบเข้ามาเมื่อเล่าเรื่องราวต่างๆจนจบ
“ลินเต็มใจที่จะให้ความช่าวยเหลือคุณภินรริทร์ค่ะ.....แล้วลินพอจะช่วยอะไรได้บ้างค่ะ”ลอนตอบออกมาตั้งที่น้ำตายังไม่แห้งเหือดไปจากดวงตา
“ลินช่วยดูแลแทนพี่ในช่วงที่พี่ไม่สามารถดูแลได้ไหมครับ....น้องลิน” แล้วนาวินก็บอกว่าจะให้ภินรริทร์ไปพักที่บ้านพักที่เชิงเขาในสวนไร่ส้มของเขาแถบประจวบที่ใครก็ไม่รู้นอกจากเขาและคนที่ไว้ใจได้เท่านั้นเพื่อป้องกันนักข่าวและพวกชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวเจ้าบ้าน....
“ได้ค่ะ...แต่มีข้อแม้น่ะค่ะ” ลินตอบตกลงในทันที...โดยยื่นข้อแม้ที่เธอคิดว่ามันดีสำหรับภินรริทร์เมื่อกลับมาสู่ปกติ
“ พี่อย่าบอกคุณภินรริทร์...ว่าลินเป็นคนดูแลเขา....แต่ให้บอกว่าคนที่ชื่อปรางเป็นคนดูแล...พี่ก็รู้น่ะค่ะว่า....ถ้าหากคุณภินรริทร์รู้ว่าลินเป็นคนดูแล...ภินรริทร์คงจะไม่มีวันยอม...พี่นาวินคงทราบเหตุผลน่ค่ะว่าเพราะอะไร” ลินพูดด้วยน้ำเสียงแบบเรียบๆแต่บ่งบอกความต้องการได้อย่างชัดเจน.....เพราะอะไรน่ะหรือ...ก็เพราะว่าเธอเป็นน้องสาวของจิรวดีและที่สำคัญเป็นคนที่ภินรริทร์เกลียดที่สุด..........
หลังจากนาวินยอมรับฟังข้อเสนอและยอมรับพร้อมตอบตกลงในที่สุดทั้งบอกเรื่องนี้กับคนที่รู้เรื่องให้ปิดเป็นความลับตามที่ลีลาวดีขอเขาไว้แม้แต่คุณหญิงก็ยอมจำนนเพราะเธอก็ไม่ได้ไม่ยอมรับฟังเหตุผลของคนอื่นเลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ