Kiss Me'Mister ABสืบลับจับใจละลายรัก
-
2) เผชิญหน้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เสียงเคาะประตูหน้าห้องฉันดังขึ้นในตอนเช้า ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของคาร์ล
"คริส ตื่นยัง กินข้าวได้แล้ว"
"ตื่นแล้ว แต่งตัวเสร็จเสร็จแล้วด้วยน่า"
ฉันเปิดประตูห้องออกไป สะพายกระเป๋าที่จัดเอาไว้เรียบร้อยแล้วก่อนจะเดินตามคาร์ลลงไปยังชั่นล่างของบ้าน
เข้าไปในห้องครัว
คาดเดาไม่ออกว่าอาหารเช้าประจำวันคืออะไรเพราะมันไม่มีกลิ่นอะไรบ่งชี้สักอย่าง จนกระทั่งมองเห็นได้มอง
เห็นกระจ่างตาด้วยตัวเอง
"คอร์นเฟลกอีกแล้วเหรอคาร์ล=_=;"
ฉันบ่นงึมงำเมื่อเห็นว่าอาหารที่วางบนโต๊ะกินข้าวไม่ใช่อะไรที่เรียกน้ำลายเลยสักนิด นอกจากเป็นคอร์นเฟลก
ธัญพืชใส่นมจืดพร่องมันเพยธรรมด๊าธรรมดา
"ช่วยไม่ได้ เมื่อเช้าพราก็ตื่นสายเหมือนกัน"
พอคาร์ลเห็นฉันบ่นใส่ เขาก็หันมาทำท่ายักไหลช่วยไม่ได้ใส่ฉันนิดหน่อยก่อนจะยกกาแฟของตัวเองเป่าเบาๆ
แล้วจิบช้าๆ
เป็นเพราะว่าเราอยู่บ้านด้วยกันแค่2คนพี่น้องไม่มีแม่บ้านไม่มีพ่อบ้าน ดังนั้นอาหารเช้า ฉันกับคาร์ลเลยมักสลับ
ทำเสมอ แต่สำหรับอาหารเย็นส่วนใหญ่ฉันทำเอง เพราะถ้าให้คาร์สลับทำคงกินอย่างไม่มีความสุขแน่ๆ สู้ให้คาร์ล
ทำงานกวาดถูไปตอนระหว่างฉันทำอาหารเย็นยังดีเสียกว่า
"เวรนายทีไรก็แบบนี้ทุกทีแหละ=_="ฉันบ่นใส่คาร์ล
แต่เป็นเพราะเผลอใช้คำว่า'นาย'ไป คาร์ลก็เลยหันมาส่งสายตาดุใส่นิดหน่อย
"บอกให้เรียกว่าพี่ไง เธอชอบเอานิสัยเด็กนอกมาใช้จริงนะ"
"ฉันแค่ลืมน่า=_="
ฉันบ่นตอบอุบอิบ แหม มันช่วยไม่ได้เหมือนกันน่ะแหละเรื่องนี้และระหส่างที่ตักคอร์นเฟลกเข้าปากอย่างจำใจ
กิน คาร์ลที่ยังจิบกาแฟร้อนๆ อยู่ก็เอ่ยขึ้น
"วันนี้พี่ส่งเอลงที่เดิมนะ"
"หือ?"
"ฉันจะส่งเธอลงที่เดิม" คาร์ลลากเสียงก่อนเอ่ยต่ออย่างไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด "...ข้างกำแพงน่ะ"
"โห นี่พี่จะให้ฉันปีนกำแพงเข้าอีกแล้วเหรอ"
ฉันโวยวายกลับ หมดเลยทันใดรสชาติพอใช้ได้จากคอร์นเฟลก แทบหมดอารมณ์กินตอด้วยซ้ำ
"เอาน่า"คาร์ลยักไหล่เบาๆ อีกหน "พี่มีธุระ"
เฮอะ ตลอดล่ะ -__-^^!
"ธุระอะไรของพี่เนี่ย อาทิตย์นี้พี่ส่งฉันลงข้างกำแพงสามวันแล้วนะ..สามวัน จากทั้งหมดสามวันด้วย"ฉันเน้น
เสียงใส่นิดหน่อยในประโยคท้าย
ให้ตายสิ นี่คาร์ลเห็นฉันเป็นลิงรึไงกัน ถึงจะได้ฝึกให้ปีนต้นมะพร้าวอยู่ได้ไม่เลืก
"ธุระก็คือธุระคริสติน"
คาร์ลพูดพร้อมกับเน้นเสียงในชื่อจริงของฉันมานิดหน่อย นั่นเป็นการบอกทางอ้อมว่าฉันไม่ควรเซ้าซี้ให้มากไป
กว่านี้
"เข้าใจแล้ว" และสุดท้ายฉันก้ได้แต่ถอนหายใจ ทำอะไรไม่ได้จริงๆ "ข้างกำแพงก็คือข้างกำแพง =_=!"
การทะเลาะนิดหน่อยในยามเช้าครู่ประสาพี่น้องผ่านไปอย่างไม่มีติดใจจะพูดร้ายอะไรใส่กันอีกทั่งเวลา
อาหารเช้าจบลง และคาร์ลก็ขับรถมาส่งฉันที่โรงเรียนก่อนจะหนีไป'ธุระ'อะไรของเขาต่อ
แต่ยังไงเสีย...ผลสุดท้ายก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดีนั่นก็คือฉันคงต้องปีนข้างกำแพงต่างประตูเข้าโรงเรียนเหมือน
เดิมU_U
"เฮ้อ -_-;"
ฉันถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ เมื่อปีนตามกำแพงขึ้นมาจนถึงขอบบนสุดของกำแพงเรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆ
เอื้อมมือ กระเถิบตัวไปยังกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่ซึ้งต้องถูกใช้ต่างทางลง
หือ...ไม่มีแฮะ =_=?
วันนี้กิ่งไม้ตรงข้ามกับฉันไม่มีนายหัวสีส้มกางเกงยีนฟอกสีซีดกับสนีกเกอร์แดงสดมานานแผ่หลาอยู่หรอกนะ
...หรือวันนี้เขาจะไปนอนที่ต้นอื่นเพราะรำคาญที่เมื่อวานโดนฉันรบกวนรึเปล่าหว่า
ช่างสิ...จะเป็นเพราะอะไร ยังไงซะมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย
ฉันคิดแบบนั้นก่อนจะหลับตาลงแล้วส่ายหน้าไปมาเบาๆไล่ความคิดทีนับวันจะไม่เข้าเรื่องให้ออกจากหัว ก่อน
จะลืมตาขึ้น
ตุ้บ!
"O_O!!"
เงาวูบของอะไรบาบงอย่างพุ่งพรวดขึ้นมาจากด้านล่างไปยังกิ่งไม้ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับฉัน และเป็นเพราะลืมตา
ปั๊ปจู่ๆ ก็เห็นเงาวูบๆพุ่งขึ้นมาฉันเลยสะดุ้งตกใจจนผงะ
และ...หงาย O__O;;;
เหวอออ!! กะ...ก็ตายน่ะสิแบบนนี้น่ะ =()=;;!
หมับ!
แต่ก่อนที่ฉันจะหงายหลังตกจากความสูงระดับต้นไม้ใหญ่ที่เหนือเกินกว่าศรีษะคนลงไปหลังจากกระแทกจน
อัมพาตอาจจะกินต่อ ก็กลับมีมือหนึ่งที่ช่วยดึงฉันเอาไว้จนตัวห้อยโตงเตงการอากาศ
"...จะฆ่าตัวตายรึไง"
นั่นคือน้ำเสียงคนที่กำลังช่วยชีวิตฉันเอาไว้
น้ำเสียงนุ่มไม่มีระดับเสีงสูงต่ำของผู้ชายใบหน้าเนียนใส เส้นผมสีน้ำตาลจนออกส้ม ดวงตาคมสีประหลาดราว
กับมีทั้งสีฟ้าสีเทาปะปนกันจนแยกไม่ออกว่าเป็นสีไหน จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางๆ สีชมพู ทุกอย่างบนใบหน้า
ที่ประกอบเข้าด้วยกันมันช่างกลมกลืนและต่างกันเองได้เป็นอย่างดี
เดี๊ยวนะ...สีผมนี้ ฉันจำได้นี่นา นายนี่ต้องเป็นผู้ชายสีผมน้ำตาลออกส้มเมื่อวานที่นอนอยู่บนทางกิ่งนั้น แล้ว
ฉันเองก็พยายามก้มแล้วก้มอีกเพื่อจะมองให้เห็นหน้าเขาให้ได้จนถอดใจไปน่ะ
ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ กลายเป็นว่าเมื่อวานที่ตั้งใจดูกลับเสียเปล่า แต่วันนี้มันกลับไม่ใช่ เขาโผล่หน้มาเผิญหน้า
กับฉันเองด้วยซ้ำ แม้ว่ามันจะเป็นเพราะอุบัติเหตุก็เหอะ
"..."
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากประโยคที่ว่า 'จะฆ่าตัวตายรึไง' เมื่อครู่ หากแต่นายผมสีน้ำตาลออกส้มนั่นค่อยๆ
ช่วยออกแรงดึงให้ฉันกลับมาขึ้นมาบนกิ่งไม้เหมือนเดิมอีกครั้ง
และตอนนี้ฉันก็ปลอดภัยแล้ว ฟู่...ขอบคุณพระเข้าจริงๆ สำหรับวันนี้...ไม่สิ ความจริงแล้วต้องนึกขอบคุณนายผม
สีน้ำตาลออกส้มนี่ต่างหาก
"ตกหมดเลยนะ"
แล้วนายตาสีแปลกนี่ก็เปรยอะไรออกมาเบาๆ ราวกับกำลังพูดกับตัวเองอยู่ ฉันเข้าใจแบบนั้น จนกระทั่งเปรย
มาเบาๆ ออกมาอีกหน
"ของเธอ...ตกกระจายหมดเลย -_-"
"ของฉัน O_O?"
"..."
ไม่มีคำตอบรับกลับมา นอกเสียจากว่าหมอนี่มองฉันด้วยสายตาเนือยๆ เหมือนคนไปวิ่งจนเหนื่อยแล้วยิ้มหรือ
หัวเราะอะไรไม่ออก ก่อนเขาจะขยับตัวออกห่างจากฉันแล้วปันกลับปกิ่งไม้เดิมที่เขานอนหงายยาวเหยียดอยู่เมื่อ
วาน แถมยังนอนด้วยท่าเดิมเป๊ะๆ ซ้ำอีกครั้ง
แม้จะยังไม่ทันได้ขอบคุณสักคำ แต่คไพดงึมงำชวนให้คิดของนายสีน้ำตาลส้มก็ทำให้ฉันอยากรู้
'ตกหมดเลยนะ '
อะไรตก -_-?
'ของเธอ...ตกกระจายหมดเลย'
ของของฉัน...คำนี้ทำให้ฉันนึกถึงกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาได้แล้วพบว่าขณะที่วงแขนตัวเองกำลังว่าง
เปล่า นั้นเป็นเพราะว่า ณ ที่ เบื้องล่างนั้น...มีกระเป๋าฉันตกลงไปนอนตายสนิทอยู่เบื้องล่าง ซ้ำสารพัดข้าวของ
ที่อยู่ด้านล่างด้านในยังกระจายไปทั่วจุดประดุจโดนระเบิดอีกด้วย
"ตายละ!! =()= โทรศัพท์!"
แน่นอนว่าผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์กระเป๋าตกจากฟากฟ้าก็ยังมีไอโฟนในเคสสีเหลืองอ๋อยของฉันนอนสลบ
ไสลหงายเท้งเต้งอยู่ด้วย
ฉันรีบกระโดลงไปก่อนจะเก็บข้าวของทุกยอ่างที่ตกอยู่โดยรอบเข้ากระเป๋า โชคดีจริงๆ ที่โทรศัพท์ยังปลิดภัย
อยู่ แค่เป็นรอยนิดหน่อยเท่านั้น
ฉันเงยหน้าขึ้นไปด้านบนก่อนจะตะโดนไปยังนายผมสีน้ำตาลออกส้มที่กำลังหลับอยู่
"นี่"
...แต่เงียบฉี่ ไร้คำตอบรั บางทีหมอนั่นอาจจะหลับไปแล้ว -_-?
"ขอบใจที่ช่วยนะ"
ฉันพูดเสร็จก็เดินออกจากต้นไม้ต้นนั้น ปล่อยให้นายหัวส้มนอนตามปรารถนา แต่ช่างเถอะ จะหลับไม่รับรู้ หรือ
แกล้งหลับเพราะขี้เกียจรับฟัง ยังไงก็ถือว่าบอกขอบคุณในความช่วยเหลือไปแล้วละกัน~
และเพราะเหตุการณ์นี่เอากระเป๋าไปเทกระจาดเมื่อเช้า
ฉันผู้ซึ่งคิดว่าตัวเองหยิบทุกอย่างที่ตกยัดใส้ลงกระเป๋าเรียบรเอยแล้ว ยามเมื่อกลางวันมาถึง มันก็ค่อยตอบข้อ
สงสัยฉันว่ามันไม่ใช่ -_-;
"รับอะไรดีจ๊า ^^"
คุณป้าประจำร้านซุ้มร้านหนึ่งในคาล็อตส่งยิ้มละไมเอ่ยถามฉันทียิ้มตอบกลับไปเช่นกัน
"เอาสปาเกตตี้กุ้งค่า"
ฉันตอบหลังจากเลือกเมนูได้เรียบร้อยแล้ว อาหารตะวันตกพวกนี้มันได้น้อยครั้งมากที่จะทำกินกับค่าร์ลหรือทำ
ให้คาร์ลกิน เพราะคาร์ลยืนยันกับฉันตลอดเวลาว่ายังไงก็โปรดอาหารไทยมากกว่าตะวันตก
...ทั้งที่เป็นลูกครึ่งแท้ๆ น้า U_U
และเพราะดังนั้น ฉันเลยต้องมาหาอาหารตะวันตกพวกนี้กินเอาจากนอกบ้านแบบนี้ไงล่ะ
"เท่าไหร่คะ ^^"
ฉันถามหลังจากออกปากสั่งรายการอาหารไปเรียบร้อยพลางเปิดประเป๋าถือ เอามือล้วงหากระเป๋าสตางค์ในนั้น
แต่มันกลับ...หายไปเฉยๆหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนกระทั่งคุณป้าเงียหน้าขึ้นมาส่งยิ้มพร้อมตอบคำถาม
"50จ๊ะ"
คุณป้าตอบมาแบนั้น แต่ฉันก็ยังคงหากระเป๋าสตางค์ในนั้น แต่มันกลับ...หายไปเฉยๆหาเท่าไหร่ก็ไม่เจออยู่ดี
เวรกรรม...ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแน่ๆพนันได้เลย ว่ามันต้องตกอยู่แถวมุมใดมุมหนึ่งใกล้กับโคนต้ไม้นั่นตอนที่กระ
เป๋าตกจากต้นไม้ลงไปเทกระจาดกับพื้นแน่ -_-;!
"เอ่อ ป้าขา"และแล้วเมื่อไม่มีเงินจ่าย ก็จำต้องชิ่ง "คือ...ยังไม่เอาตอนนี้ดีกว่าคะ เพิ่งคิดได้ว่าตอนนี้ยังไม่หิว
เลยสักนิด แหะๆ ^^;;"
"หา =_=?"
"คือว่า...เดี๋ยวหนูกลับมาแล้วกันนะคะ"
ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มแห้งแหะๆ ก่อนจะถอยเท้าตั้งหลักแล้วหันหลังเดินเร่งเท้าจ้ำพรวดออกปให้ไกลจากร้านทัน
ใดแบบไม่เหลียวหลังกลับไปมองว่าป้าแกจะเขวี้ยงอะไรจตามมาใส่รึเปล่า
แย่ แย่ แย่...!
ฉันเดินเร่งเท้าเข้าไปในสวนพลางบ่นในใจรับเสียงท้องร้องที่ร้องไม่หยุดของตัวเองไปด้วย
บ้าที่สุดเลย...ฉันจะมีปัญหาอะไรกับข้าวของตกหายนักหนานะ หวังว่าคราวนี้ไปถึงกระเป๋าสตาง๕ของฉันอยู่
เหมือนมือถือเมื่อวานนะ ถ้าหายขึ้นมาละแย่เลย =_=!
และทันทีที่เข้าไปถึงสวน เดินไปยังต้นไม้ต้นใหญ่ต้นเดิม...ภาพคล้ายๆ กับเหตุการณ์เมื่อวานก็ปรากฎขึ้นใน
ความทรงจำ...
อืม...จะผิดไปหน่อยตรงที่เมื่อวานกับเรื่องราวไอโฟนที่รักของฉันแม้ว่ามันจะแหกปากร้องเป็นสิบรอบอยู่ที่ใต้ต้น
ไม้ซึ่งฉันทำตกทิ้งเอ้าไว้ร่วมเป็นชั่วโมง แต่นายผมสีน้ำตาลส้มก็ไม่ยอมตื่นขยับตัสลงมาสักนิด ยังคงหลับนิ่งสบาย
เหมือนมันร้องเพลงกล่มองเสียมากกว่า
แต่คราวนี้...ถึงคราวของกระเป๋าสตางค์ของฉันซึ่งร้องรำทำเพลงตะโดนแผดเสียงไม่ได้สักแอะ มันไม่มีทางส่ง
เสียงรบกวนประสาทหูของใครได้แน่ๆ แต่กลับมีนายผมสีต้ำตาลส้มนั่นนั่งยองๆ กับพื้นหญ้าแล้วจ้องมันอยู่ราวกับ
กำลังใช้ความคิดพินิจเคราะห์
ฉันก้าวเท้าเดินไปยังกระเป๋าสตางค์ของตัวเองซึ่งกำลังตกลงมาเปิดหงายท้องอยู่ และกำลังอยู่ภายใต้สายตา
สนอกสนใจอย่างออกกน้าออกตาของคนประหลาดบางคน ก่อนจะเอ่ยถามไอย่างสงสัย
"นายดูอะไร -_-"
"...."
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากนายผมสีน้ำตาลส้ม แถมหมอนั่นก็ยังไม่มีทีท่าจะขยับตังจากท่านั่งยองๆ ตอนแรกอีก
ด้วย
"ขอเก็บนะ"
ฉันพูดอีกหนก่อนจะหยิบมันขึ้นมาพับปิดเก็บใส่กระเป๋าสะพายอย่างเก่า และพอทำแบบนั้น คนที่นั่งยองๆ จ้อง
กระเป๋าสตางค์ฉันราวกับเป็นแมลงสาบพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มีใครค้นพบบนโลกนี้ก็เริ่มขยับตัว
เปล่าเลย...เขาไม่ได้ลุกยืน ทำเพียงแค่หันหน้ากลับมาทางฉันแล้วเงบหน้าขึ้นมาสบตาเท่านั้น
"....ของเธอเหรอ" เขาเอ่อยมาสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความ
"ใช่" ฉันพยักหน้า
ในตอนแรกตั้งใจว่าจะลองเปิดนับเงินในกระเป๋าสำรวจดูคร่าวๆเสียหน่อยว่ามีอะไรหายไปบ้างรึป่าว แต่แล้วมัน
กลับไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง
หมอนี่อยู่ในชุดนักเรียนของคาล็อตนี่นา เสื้อเชิ๊ตสีขาว กางเกขายาวลายสก๊อตสีเทา
ใช่แน่...เครื่องแบบนี้มันคือเครื่องแบบของคาล็อตชัดๆ งั้นก็แปลว่าเขาคือนักเรียนที่นี่..อืม นี่เป็นเรื่องที่ไม่
ค่อยคาดฝันเลยแฮะ ภาพลักษณ์แลดูต่างจากชุดที่หมอนี่สวมเมื่อวานลิบลับเลย
แลเวจู่ๆนายหัวสีน้ำตาลส้มนี่ก็เอ่ยอะไรยางอย่างออกมา
"ผู้ชายในภาพ"เขาพูดแค่นั้น แล้วทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อแต่กลับไม่เอ่ย
ผู้ชายในภาพงั้นเหรอ...อืม คงหมายถึงของฉันถ่ายคู่กับคาร์ลที่สอดอยู่ในช่องใส่ประเป๋าสตางค์ซินะ
แล้วหมอนี่จะเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมกันล่ะ อืม...น่าสงสัย และฉันก็อยากรู้ ดังนั้น...ฉันเลยแกล้งถามไปต่อ
"ทำไม"
"คนรักของเธอรึไง -_-" เขาถามด้วยสีหน้าตายอย่างยิ่ง
"=__="
...คนรัก!!
โอ๊ย! เมื่อกี้ฉันแทบจะลืมตัวพ้นน้ำลายใส่หน้าเขาแน่ะ ดูยังไงทางมุมไหนถึงได้เดาเอาว่าคาร์ลกับฉันเป็นแฟน
กันได้ยังไงละเนี้ย
"คริส ตื่นยัง กินข้าวได้แล้ว"
"ตื่นแล้ว แต่งตัวเสร็จเสร็จแล้วด้วยน่า"
ฉันเปิดประตูห้องออกไป สะพายกระเป๋าที่จัดเอาไว้เรียบร้อยแล้วก่อนจะเดินตามคาร์ลลงไปยังชั่นล่างของบ้าน
เข้าไปในห้องครัว
คาดเดาไม่ออกว่าอาหารเช้าประจำวันคืออะไรเพราะมันไม่มีกลิ่นอะไรบ่งชี้สักอย่าง จนกระทั่งมองเห็นได้มอง
เห็นกระจ่างตาด้วยตัวเอง
"คอร์นเฟลกอีกแล้วเหรอคาร์ล=_=;"
ฉันบ่นงึมงำเมื่อเห็นว่าอาหารที่วางบนโต๊ะกินข้าวไม่ใช่อะไรที่เรียกน้ำลายเลยสักนิด นอกจากเป็นคอร์นเฟลก
ธัญพืชใส่นมจืดพร่องมันเพยธรรมด๊าธรรมดา
"ช่วยไม่ได้ เมื่อเช้าพราก็ตื่นสายเหมือนกัน"
พอคาร์ลเห็นฉันบ่นใส่ เขาก็หันมาทำท่ายักไหลช่วยไม่ได้ใส่ฉันนิดหน่อยก่อนจะยกกาแฟของตัวเองเป่าเบาๆ
แล้วจิบช้าๆ
เป็นเพราะว่าเราอยู่บ้านด้วยกันแค่2คนพี่น้องไม่มีแม่บ้านไม่มีพ่อบ้าน ดังนั้นอาหารเช้า ฉันกับคาร์ลเลยมักสลับ
ทำเสมอ แต่สำหรับอาหารเย็นส่วนใหญ่ฉันทำเอง เพราะถ้าให้คาร์สลับทำคงกินอย่างไม่มีความสุขแน่ๆ สู้ให้คาร์ล
ทำงานกวาดถูไปตอนระหว่างฉันทำอาหารเย็นยังดีเสียกว่า
"เวรนายทีไรก็แบบนี้ทุกทีแหละ=_="ฉันบ่นใส่คาร์ล
แต่เป็นเพราะเผลอใช้คำว่า'นาย'ไป คาร์ลก็เลยหันมาส่งสายตาดุใส่นิดหน่อย
"บอกให้เรียกว่าพี่ไง เธอชอบเอานิสัยเด็กนอกมาใช้จริงนะ"
"ฉันแค่ลืมน่า=_="
ฉันบ่นตอบอุบอิบ แหม มันช่วยไม่ได้เหมือนกันน่ะแหละเรื่องนี้และระหส่างที่ตักคอร์นเฟลกเข้าปากอย่างจำใจ
กิน คาร์ลที่ยังจิบกาแฟร้อนๆ อยู่ก็เอ่ยขึ้น
"วันนี้พี่ส่งเอลงที่เดิมนะ"
"หือ?"
"ฉันจะส่งเธอลงที่เดิม" คาร์ลลากเสียงก่อนเอ่ยต่ออย่างไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด "...ข้างกำแพงน่ะ"
"โห นี่พี่จะให้ฉันปีนกำแพงเข้าอีกแล้วเหรอ"
ฉันโวยวายกลับ หมดเลยทันใดรสชาติพอใช้ได้จากคอร์นเฟลก แทบหมดอารมณ์กินตอด้วยซ้ำ
"เอาน่า"คาร์ลยักไหล่เบาๆ อีกหน "พี่มีธุระ"
เฮอะ ตลอดล่ะ -__-^^!
"ธุระอะไรของพี่เนี่ย อาทิตย์นี้พี่ส่งฉันลงข้างกำแพงสามวันแล้วนะ..สามวัน จากทั้งหมดสามวันด้วย"ฉันเน้น
เสียงใส่นิดหน่อยในประโยคท้าย
ให้ตายสิ นี่คาร์ลเห็นฉันเป็นลิงรึไงกัน ถึงจะได้ฝึกให้ปีนต้นมะพร้าวอยู่ได้ไม่เลืก
"ธุระก็คือธุระคริสติน"
คาร์ลพูดพร้อมกับเน้นเสียงในชื่อจริงของฉันมานิดหน่อย นั่นเป็นการบอกทางอ้อมว่าฉันไม่ควรเซ้าซี้ให้มากไป
กว่านี้
"เข้าใจแล้ว" และสุดท้ายฉันก้ได้แต่ถอนหายใจ ทำอะไรไม่ได้จริงๆ "ข้างกำแพงก็คือข้างกำแพง =_=!"
การทะเลาะนิดหน่อยในยามเช้าครู่ประสาพี่น้องผ่านไปอย่างไม่มีติดใจจะพูดร้ายอะไรใส่กันอีกทั่งเวลา
อาหารเช้าจบลง และคาร์ลก็ขับรถมาส่งฉันที่โรงเรียนก่อนจะหนีไป'ธุระ'อะไรของเขาต่อ
แต่ยังไงเสีย...ผลสุดท้ายก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดีนั่นก็คือฉันคงต้องปีนข้างกำแพงต่างประตูเข้าโรงเรียนเหมือน
เดิมU_U
"เฮ้อ -_-;"
ฉันถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ เมื่อปีนตามกำแพงขึ้นมาจนถึงขอบบนสุดของกำแพงเรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆ
เอื้อมมือ กระเถิบตัวไปยังกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่ซึ้งต้องถูกใช้ต่างทางลง
หือ...ไม่มีแฮะ =_=?
วันนี้กิ่งไม้ตรงข้ามกับฉันไม่มีนายหัวสีส้มกางเกงยีนฟอกสีซีดกับสนีกเกอร์แดงสดมานานแผ่หลาอยู่หรอกนะ
...หรือวันนี้เขาจะไปนอนที่ต้นอื่นเพราะรำคาญที่เมื่อวานโดนฉันรบกวนรึเปล่าหว่า
ช่างสิ...จะเป็นเพราะอะไร ยังไงซะมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย
ฉันคิดแบบนั้นก่อนจะหลับตาลงแล้วส่ายหน้าไปมาเบาๆไล่ความคิดทีนับวันจะไม่เข้าเรื่องให้ออกจากหัว ก่อน
จะลืมตาขึ้น
ตุ้บ!
"O_O!!"
เงาวูบของอะไรบาบงอย่างพุ่งพรวดขึ้นมาจากด้านล่างไปยังกิ่งไม้ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับฉัน และเป็นเพราะลืมตา
ปั๊ปจู่ๆ ก็เห็นเงาวูบๆพุ่งขึ้นมาฉันเลยสะดุ้งตกใจจนผงะ
และ...หงาย O__O;;;
เหวอออ!! กะ...ก็ตายน่ะสิแบบนนี้น่ะ =()=;;!
หมับ!
แต่ก่อนที่ฉันจะหงายหลังตกจากความสูงระดับต้นไม้ใหญ่ที่เหนือเกินกว่าศรีษะคนลงไปหลังจากกระแทกจน
อัมพาตอาจจะกินต่อ ก็กลับมีมือหนึ่งที่ช่วยดึงฉันเอาไว้จนตัวห้อยโตงเตงการอากาศ
"...จะฆ่าตัวตายรึไง"
นั่นคือน้ำเสียงคนที่กำลังช่วยชีวิตฉันเอาไว้
น้ำเสียงนุ่มไม่มีระดับเสีงสูงต่ำของผู้ชายใบหน้าเนียนใส เส้นผมสีน้ำตาลจนออกส้ม ดวงตาคมสีประหลาดราว
กับมีทั้งสีฟ้าสีเทาปะปนกันจนแยกไม่ออกว่าเป็นสีไหน จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางๆ สีชมพู ทุกอย่างบนใบหน้า
ที่ประกอบเข้าด้วยกันมันช่างกลมกลืนและต่างกันเองได้เป็นอย่างดี
เดี๊ยวนะ...สีผมนี้ ฉันจำได้นี่นา นายนี่ต้องเป็นผู้ชายสีผมน้ำตาลออกส้มเมื่อวานที่นอนอยู่บนทางกิ่งนั้น แล้ว
ฉันเองก็พยายามก้มแล้วก้มอีกเพื่อจะมองให้เห็นหน้าเขาให้ได้จนถอดใจไปน่ะ
ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ กลายเป็นว่าเมื่อวานที่ตั้งใจดูกลับเสียเปล่า แต่วันนี้มันกลับไม่ใช่ เขาโผล่หน้มาเผิญหน้า
กับฉันเองด้วยซ้ำ แม้ว่ามันจะเป็นเพราะอุบัติเหตุก็เหอะ
"..."
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากประโยคที่ว่า 'จะฆ่าตัวตายรึไง' เมื่อครู่ หากแต่นายผมสีน้ำตาลออกส้มนั่นค่อยๆ
ช่วยออกแรงดึงให้ฉันกลับมาขึ้นมาบนกิ่งไม้เหมือนเดิมอีกครั้ง
และตอนนี้ฉันก็ปลอดภัยแล้ว ฟู่...ขอบคุณพระเข้าจริงๆ สำหรับวันนี้...ไม่สิ ความจริงแล้วต้องนึกขอบคุณนายผม
สีน้ำตาลออกส้มนี่ต่างหาก
"ตกหมดเลยนะ"
แล้วนายตาสีแปลกนี่ก็เปรยอะไรออกมาเบาๆ ราวกับกำลังพูดกับตัวเองอยู่ ฉันเข้าใจแบบนั้น จนกระทั่งเปรย
มาเบาๆ ออกมาอีกหน
"ของเธอ...ตกกระจายหมดเลย -_-"
"ของฉัน O_O?"
"..."
ไม่มีคำตอบรับกลับมา นอกเสียจากว่าหมอนี่มองฉันด้วยสายตาเนือยๆ เหมือนคนไปวิ่งจนเหนื่อยแล้วยิ้มหรือ
หัวเราะอะไรไม่ออก ก่อนเขาจะขยับตัวออกห่างจากฉันแล้วปันกลับปกิ่งไม้เดิมที่เขานอนหงายยาวเหยียดอยู่เมื่อ
วาน แถมยังนอนด้วยท่าเดิมเป๊ะๆ ซ้ำอีกครั้ง
แม้จะยังไม่ทันได้ขอบคุณสักคำ แต่คไพดงึมงำชวนให้คิดของนายสีน้ำตาลส้มก็ทำให้ฉันอยากรู้
'ตกหมดเลยนะ '
อะไรตก -_-?
'ของเธอ...ตกกระจายหมดเลย'
ของของฉัน...คำนี้ทำให้ฉันนึกถึงกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาได้แล้วพบว่าขณะที่วงแขนตัวเองกำลังว่าง
เปล่า นั้นเป็นเพราะว่า ณ ที่ เบื้องล่างนั้น...มีกระเป๋าฉันตกลงไปนอนตายสนิทอยู่เบื้องล่าง ซ้ำสารพัดข้าวของ
ที่อยู่ด้านล่างด้านในยังกระจายไปทั่วจุดประดุจโดนระเบิดอีกด้วย
"ตายละ!! =()= โทรศัพท์!"
แน่นอนว่าผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์กระเป๋าตกจากฟากฟ้าก็ยังมีไอโฟนในเคสสีเหลืองอ๋อยของฉันนอนสลบ
ไสลหงายเท้งเต้งอยู่ด้วย
ฉันรีบกระโดลงไปก่อนจะเก็บข้าวของทุกยอ่างที่ตกอยู่โดยรอบเข้ากระเป๋า โชคดีจริงๆ ที่โทรศัพท์ยังปลิดภัย
อยู่ แค่เป็นรอยนิดหน่อยเท่านั้น
ฉันเงยหน้าขึ้นไปด้านบนก่อนจะตะโดนไปยังนายผมสีน้ำตาลออกส้มที่กำลังหลับอยู่
"นี่"
...แต่เงียบฉี่ ไร้คำตอบรั บางทีหมอนั่นอาจจะหลับไปแล้ว -_-?
"ขอบใจที่ช่วยนะ"
ฉันพูดเสร็จก็เดินออกจากต้นไม้ต้นนั้น ปล่อยให้นายหัวส้มนอนตามปรารถนา แต่ช่างเถอะ จะหลับไม่รับรู้ หรือ
แกล้งหลับเพราะขี้เกียจรับฟัง ยังไงก็ถือว่าบอกขอบคุณในความช่วยเหลือไปแล้วละกัน~
และเพราะเหตุการณ์นี่เอากระเป๋าไปเทกระจาดเมื่อเช้า
ฉันผู้ซึ่งคิดว่าตัวเองหยิบทุกอย่างที่ตกยัดใส้ลงกระเป๋าเรียบรเอยแล้ว ยามเมื่อกลางวันมาถึง มันก็ค่อยตอบข้อ
สงสัยฉันว่ามันไม่ใช่ -_-;
"รับอะไรดีจ๊า ^^"
คุณป้าประจำร้านซุ้มร้านหนึ่งในคาล็อตส่งยิ้มละไมเอ่ยถามฉันทียิ้มตอบกลับไปเช่นกัน
"เอาสปาเกตตี้กุ้งค่า"
ฉันตอบหลังจากเลือกเมนูได้เรียบร้อยแล้ว อาหารตะวันตกพวกนี้มันได้น้อยครั้งมากที่จะทำกินกับค่าร์ลหรือทำ
ให้คาร์ลกิน เพราะคาร์ลยืนยันกับฉันตลอดเวลาว่ายังไงก็โปรดอาหารไทยมากกว่าตะวันตก
...ทั้งที่เป็นลูกครึ่งแท้ๆ น้า U_U
และเพราะดังนั้น ฉันเลยต้องมาหาอาหารตะวันตกพวกนี้กินเอาจากนอกบ้านแบบนี้ไงล่ะ
"เท่าไหร่คะ ^^"
ฉันถามหลังจากออกปากสั่งรายการอาหารไปเรียบร้อยพลางเปิดประเป๋าถือ เอามือล้วงหากระเป๋าสตางค์ในนั้น
แต่มันกลับ...หายไปเฉยๆหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนกระทั่งคุณป้าเงียหน้าขึ้นมาส่งยิ้มพร้อมตอบคำถาม
"50จ๊ะ"
คุณป้าตอบมาแบนั้น แต่ฉันก็ยังคงหากระเป๋าสตางค์ในนั้น แต่มันกลับ...หายไปเฉยๆหาเท่าไหร่ก็ไม่เจออยู่ดี
เวรกรรม...ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแน่ๆพนันได้เลย ว่ามันต้องตกอยู่แถวมุมใดมุมหนึ่งใกล้กับโคนต้ไม้นั่นตอนที่กระ
เป๋าตกจากต้นไม้ลงไปเทกระจาดกับพื้นแน่ -_-;!
"เอ่อ ป้าขา"และแล้วเมื่อไม่มีเงินจ่าย ก็จำต้องชิ่ง "คือ...ยังไม่เอาตอนนี้ดีกว่าคะ เพิ่งคิดได้ว่าตอนนี้ยังไม่หิว
เลยสักนิด แหะๆ ^^;;"
"หา =_=?"
"คือว่า...เดี๋ยวหนูกลับมาแล้วกันนะคะ"
ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มแห้งแหะๆ ก่อนจะถอยเท้าตั้งหลักแล้วหันหลังเดินเร่งเท้าจ้ำพรวดออกปให้ไกลจากร้านทัน
ใดแบบไม่เหลียวหลังกลับไปมองว่าป้าแกจะเขวี้ยงอะไรจตามมาใส่รึเปล่า
แย่ แย่ แย่...!
ฉันเดินเร่งเท้าเข้าไปในสวนพลางบ่นในใจรับเสียงท้องร้องที่ร้องไม่หยุดของตัวเองไปด้วย
บ้าที่สุดเลย...ฉันจะมีปัญหาอะไรกับข้าวของตกหายนักหนานะ หวังว่าคราวนี้ไปถึงกระเป๋าสตาง๕ของฉันอยู่
เหมือนมือถือเมื่อวานนะ ถ้าหายขึ้นมาละแย่เลย =_=!
และทันทีที่เข้าไปถึงสวน เดินไปยังต้นไม้ต้นใหญ่ต้นเดิม...ภาพคล้ายๆ กับเหตุการณ์เมื่อวานก็ปรากฎขึ้นใน
ความทรงจำ...
อืม...จะผิดไปหน่อยตรงที่เมื่อวานกับเรื่องราวไอโฟนที่รักของฉันแม้ว่ามันจะแหกปากร้องเป็นสิบรอบอยู่ที่ใต้ต้น
ไม้ซึ่งฉันทำตกทิ้งเอ้าไว้ร่วมเป็นชั่วโมง แต่นายผมสีน้ำตาลส้มก็ไม่ยอมตื่นขยับตัสลงมาสักนิด ยังคงหลับนิ่งสบาย
เหมือนมันร้องเพลงกล่มองเสียมากกว่า
แต่คราวนี้...ถึงคราวของกระเป๋าสตางค์ของฉันซึ่งร้องรำทำเพลงตะโดนแผดเสียงไม่ได้สักแอะ มันไม่มีทางส่ง
เสียงรบกวนประสาทหูของใครได้แน่ๆ แต่กลับมีนายผมสีต้ำตาลส้มนั่นนั่งยองๆ กับพื้นหญ้าแล้วจ้องมันอยู่ราวกับ
กำลังใช้ความคิดพินิจเคราะห์
ฉันก้าวเท้าเดินไปยังกระเป๋าสตางค์ของตัวเองซึ่งกำลังตกลงมาเปิดหงายท้องอยู่ และกำลังอยู่ภายใต้สายตา
สนอกสนใจอย่างออกกน้าออกตาของคนประหลาดบางคน ก่อนจะเอ่ยถามไอย่างสงสัย
"นายดูอะไร -_-"
"...."
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากนายผมสีน้ำตาลส้ม แถมหมอนั่นก็ยังไม่มีทีท่าจะขยับตังจากท่านั่งยองๆ ตอนแรกอีก
ด้วย
"ขอเก็บนะ"
ฉันพูดอีกหนก่อนจะหยิบมันขึ้นมาพับปิดเก็บใส่กระเป๋าสะพายอย่างเก่า และพอทำแบบนั้น คนที่นั่งยองๆ จ้อง
กระเป๋าสตางค์ฉันราวกับเป็นแมลงสาบพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มีใครค้นพบบนโลกนี้ก็เริ่มขยับตัว
เปล่าเลย...เขาไม่ได้ลุกยืน ทำเพียงแค่หันหน้ากลับมาทางฉันแล้วเงบหน้าขึ้นมาสบตาเท่านั้น
"....ของเธอเหรอ" เขาเอ่อยมาสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความ
"ใช่" ฉันพยักหน้า
ในตอนแรกตั้งใจว่าจะลองเปิดนับเงินในกระเป๋าสำรวจดูคร่าวๆเสียหน่อยว่ามีอะไรหายไปบ้างรึป่าว แต่แล้วมัน
กลับไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง
หมอนี่อยู่ในชุดนักเรียนของคาล็อตนี่นา เสื้อเชิ๊ตสีขาว กางเกขายาวลายสก๊อตสีเทา
ใช่แน่...เครื่องแบบนี้มันคือเครื่องแบบของคาล็อตชัดๆ งั้นก็แปลว่าเขาคือนักเรียนที่นี่..อืม นี่เป็นเรื่องที่ไม่
ค่อยคาดฝันเลยแฮะ ภาพลักษณ์แลดูต่างจากชุดที่หมอนี่สวมเมื่อวานลิบลับเลย
แลเวจู่ๆนายหัวสีน้ำตาลส้มนี่ก็เอ่ยอะไรยางอย่างออกมา
"ผู้ชายในภาพ"เขาพูดแค่นั้น แล้วทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อแต่กลับไม่เอ่ย
ผู้ชายในภาพงั้นเหรอ...อืม คงหมายถึงของฉันถ่ายคู่กับคาร์ลที่สอดอยู่ในช่องใส่ประเป๋าสตางค์ซินะ
แล้วหมอนี่จะเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมกันล่ะ อืม...น่าสงสัย และฉันก็อยากรู้ ดังนั้น...ฉันเลยแกล้งถามไปต่อ
"ทำไม"
"คนรักของเธอรึไง -_-" เขาถามด้วยสีหน้าตายอย่างยิ่ง
"=__="
...คนรัก!!
โอ๊ย! เมื่อกี้ฉันแทบจะลืมตัวพ้นน้ำลายใส่หน้าเขาแน่ะ ดูยังไงทางมุมไหนถึงได้เดาเอาว่าคาร์ลกับฉันเป็นแฟน
กันได้ยังไงละเนี้ย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ