สคูล ลัมเบอร์

8.1

เขียนโดย yaranaika

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.34 น.

  5 chapter
  5 วิจารณ์
  11.51K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) บอกรักวันเปิดเทอม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ข้างๆอพาร์ตเมนท์ระดับค่องข้างหรู่ ใจกลางเมืองYแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของร้านอาหารจีน ยางามิเฮ้าส์ ซึ่งเป็นเพี่ยงแห่งเดียวของเมือง เปิดบริการตั้งแต่เที้ยงวันยังเที้ยงคืน จึนกลายเป็นเจ้าประจำสำหรับผู่ที่อาศัยอยู่ในแมนชั่นแห่งนี้

     คุซาคาเบะ อีโตโกะ เตรียมจะจัดการเจ้าถ้วยราเม็งขนามมหึมาตรงหน้า เธอกำลังมองหาวัตถุเล็กๆที่อยู่ไกลเกือนกว่าเธอจะเอื้อมถึง

     "นี้ เคนจิ ส่งขวดพริกไทยมาหน่อยสิ"

      เด็กชายวัยสิบเจ็ดที่นั้งอยู่ตรงข้ามกับเธอคือ ฮาริมะ เคนจิ ผู้เป็นทั้งลูกศิษย์ และญาติห่างๆที่บังเอิญตรงอาศัยใต้ชายคาเดียวกัน เนื่องจากนิสัยเกเรเกินกว่าพ่อแม่จะเลี้ยงต่อไปไหว

     เด็กหนุ่มไม่ขยับเขยื่อน เอาแต่ร้องไห้สะอื้นเหมือนเด็กหลงทาง

      เมื่อเห็นว่าไอ่เจ้าบ้านี้ไม่ยอมหยิบขวดพริกไทยให้ อีโตโกะจึงต้องลุกขึ้นเอื้มไปหยิบเอง

     ทันทีเมื่อคุณครูยืดมือไปช้าๆ

     "แง้----"

     ไอ่ลูกศิษย์ตัวแสบก็ปล่อยโฮ่ออกมาเต็มที่

     "ตูไม่น่าลืมเรื่องตูสอบซ้ำชั้นไปเลย ทั้งๆที่อุตสาห์หวังไว้ว่าจะได้ขึ้นปีสองแล้วแท้ๆอ่ะ แง่----" 

     "ถามจริงเถอะ คนจรจัดอย่างนายอ่ะ เป็นห่วงอนาคตถึงขนาดยังอยากเป็นนักเรียนต่อขนาดนั้นเลยเหรอ"

      "อย่ามาพูดบ้าๆนะ ใครจะไปมีความสุขกับการฟังฟังใครก็ไม่รู้พล่ามเป็นชัวโมงๆทุกๆวันได้ฟะ ฉันมีเหตุผลของฉันแล้วกัน แต่ตอนนี้จบเห่ชะแล้วง่ะ"

     "ไอ่เหตุผลของนายเนี้ย คงจะเป็นเธอคนนี้ ชิมิๆ"

      "ฮื๋ม???"

      เคนจิแทบจะเป็นลมเมื่อเหลือบสายใต้ภายในแว่นกันแดด(ซึ่งขนาดอยู่ในที่ร่มก็ยังใส่ ไม่งั้นก็ไม่ใช่นังเลงสิ) ไปที่อาจารย์สาว ที่กำลังเปิดกระเป๋าสตางค์ของเขาซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่าโดนฉกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอเห็นไปแล้วว่าข้างในมีแค่เงินสามพันเยนกับรูปถ่ายของเท็นมะอีกใบเดียว

     "เฮ้ยกระเป๋าตังตุ เอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่"

     "ฉันเดาไม่ผิดจริงๆด้วย ยังอยากจะเรียนต่อก็เพราะไปเล็งสาวไว้นี้เอง ทุเรศ"

     "หนวกหูน้า เอาคืนมาเดี่ยวนี้เลย" เด็กหนุ่มเริ่มีน้ำโห้ ดีดมือคว้ารูปถ่ายนั้นมาอย่างรวดเร็ว

     "ของแบบนี้ไม่เห็นจำเป็นต้องปิดบังฉันเลยนี้นา ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ปกครองนายแท้ๆ แถมยังให้ที่ซุกหัวนอนราคาแพงในห้องของฉันด้วย เพราะงั้นฉันน่าจะมีสิทธ์รู้นี้นา"

     "ชิ เป็นลูกพี่ลูกน้อง ดันมาชื่อ อีโตโกะที่แปลว่าลูกพี่ลูกน้องชะอีก เรื่องนี้มันเป็นปัญหาสของฉัน ถึงเธอรู้ไปก็ใช่ว่าจะช่วยอะไรฉันได้นิ"

      "มันก็จริงนะ และถ้าจะให้พูดแบบตรงๆหละก็..."

     "ห๋า..."

      "เด็กสาวเรียบร้อย น่าตาน่ารักแบบนี้ ถ้ามาได้เป็นแฟนกับอีตากุ้ยเถื่อนขี้เหล้าไว้หนวดจิ๋มแถมยังใส่แวนดำอย่างนี้ มันช่างไม่เข้ากันอย่างแรง"

      ด้วยคำพูดแบบนี้เองเคนจิรู้สึกราวกับมีฝนลูกธนุ พุ่งมาปักอกเป็นพันๆลูก จนต้องกลับโหมต นั้งซบโตะร้องไห้อีกครั้ง

    

     และช่วงจังหวะนั้นเอง ทั้งสองก็ได้ยินเสียงบางอย่าง ดังขึ้นจาก ตู้โทรทัศในร้านอาหาร ซึ่งเปิดไว้บริการลูกค้าที่อยากลูกละครหลังข่าว

     เสียงเพลงไตเติ้ลดังขึ้น “แถ่แดแด้น แถ่เด้เด้เดแด้น” แล้วปรากฏข้อความ ‘สี่มือสังหาร’ ขึ้นบนหน้าจอทีวี ตามมาด้วย บุรุษชุดฮากามะ สองคนยืนสนทนากัน ณ บริเวณใจกลางย่านการค้าในยุคสมัย โตกุกาว้า

      “ท่านมังโกคุ หมายสาร ฉบับนี้นั้น”

     “ข้าขอฝากเจ้า นำความในใจของข้าไปถึงมือนางด้วย บัดนี้ ข้าหาได้มีหน้าไปพบครอบครับของนางได้อีกแล้ว”

     “เพราะเหตุใดกัน ท่านควรจะไปกล่าวด้วยตนเองมิใช่หรือ สู้หน้ามิได้ก็เขียนจดหมายเสีย ไม่สมกับเป็นซามูไรเลย”

 

      ด้วยประโยคนี้เอง บางสิ่งบางอย่างพุ้งดิ่งตรงเข้าไปยังส่วนลึกของจิตใจเขา


 

      “จดหมายเหรอ”

      อื่ม จดหมายไง

      “จริงด้วย.........”

      

      ว่าแล้ว เด็กสาวก็เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็วดุดสายฟ้า แล้ววิ่งออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว โดยทิ้งอีโตดฏะไว้คนเดียว

 

     "ไอ่พวกบ้า คิดเรื่องชัวๆได้แล้วสิท่า"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา