สคูล ลัมเบอร์
5) บอกรักวันเปิดเทอม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความข้างๆอพาร์ตเมนท์ระดับค่องข้างหรู่ ใจกลางเมืองYแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของร้านอาหารจีน ยางามิเฮ้าส์ ซึ่งเป็นเพี่ยงแห่งเดียวของเมือง เปิดบริการตั้งแต่เที้ยงวันยังเที้ยงคืน จึนกลายเป็นเจ้าประจำสำหรับผู่ที่อาศัยอยู่ในแมนชั่นแห่งนี้
คุซาคาเบะ อีโตโกะ เตรียมจะจัดการเจ้าถ้วยราเม็งขนามมหึมาตรงหน้า เธอกำลังมองหาวัตถุเล็กๆที่อยู่ไกลเกือนกว่าเธอจะเอื้อมถึง
"นี้ เคนจิ ส่งขวดพริกไทยมาหน่อยสิ"
เด็กชายวัยสิบเจ็ดที่นั้งอยู่ตรงข้ามกับเธอคือ ฮาริมะ เคนจิ ผู้เป็นทั้งลูกศิษย์ และญาติห่างๆที่บังเอิญตรงอาศัยใต้ชายคาเดียวกัน เนื่องจากนิสัยเกเรเกินกว่าพ่อแม่จะเลี้ยงต่อไปไหว
เด็กหนุ่มไม่ขยับเขยื่อน เอาแต่ร้องไห้สะอื้นเหมือนเด็กหลงทาง
เมื่อเห็นว่าไอ่เจ้าบ้านี้ไม่ยอมหยิบขวดพริกไทยให้ อีโตโกะจึงต้องลุกขึ้นเอื้มไปหยิบเอง
ทันทีเมื่อคุณครูยืดมือไปช้าๆ
"แง้----"
ไอ่ลูกศิษย์ตัวแสบก็ปล่อยโฮ่ออกมาเต็มที่
"ตูไม่น่าลืมเรื่องตูสอบซ้ำชั้นไปเลย ทั้งๆที่อุตสาห์หวังไว้ว่าจะได้ขึ้นปีสองแล้วแท้ๆอ่ะ แง่----"
"ถามจริงเถอะ คนจรจัดอย่างนายอ่ะ เป็นห่วงอนาคตถึงขนาดยังอยากเป็นนักเรียนต่อขนาดนั้นเลยเหรอ"
"อย่ามาพูดบ้าๆนะ ใครจะไปมีความสุขกับการฟังฟังใครก็ไม่รู้พล่ามเป็นชัวโมงๆทุกๆวันได้ฟะ ฉันมีเหตุผลของฉันแล้วกัน แต่ตอนนี้จบเห่ชะแล้วง่ะ"
"ไอ่เหตุผลของนายเนี้ย คงจะเป็นเธอคนนี้ ชิมิๆ"
"ฮื๋ม???"
เคนจิแทบจะเป็นลมเมื่อเหลือบสายใต้ภายในแว่นกันแดด(ซึ่งขนาดอยู่ในที่ร่มก็ยังใส่ ไม่งั้นก็ไม่ใช่นังเลงสิ) ไปที่อาจารย์สาว ที่กำลังเปิดกระเป๋าสตางค์ของเขาซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่าโดนฉกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอเห็นไปแล้วว่าข้างในมีแค่เงินสามพันเยนกับรูปถ่ายของเท็นมะอีกใบเดียว
"เฮ้ยกระเป๋าตังตุ เอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ฉันเดาไม่ผิดจริงๆด้วย ยังอยากจะเรียนต่อก็เพราะไปเล็งสาวไว้นี้เอง ทุเรศ"
"หนวกหูน้า เอาคืนมาเดี่ยวนี้เลย" เด็กหนุ่มเริ่มีน้ำโห้ ดีดมือคว้ารูปถ่ายนั้นมาอย่างรวดเร็ว
"ของแบบนี้ไม่เห็นจำเป็นต้องปิดบังฉันเลยนี้นา ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ปกครองนายแท้ๆ แถมยังให้ที่ซุกหัวนอนราคาแพงในห้องของฉันด้วย เพราะงั้นฉันน่าจะมีสิทธ์รู้นี้นา"
"ชิ เป็นลูกพี่ลูกน้อง ดันมาชื่อ อีโตโกะที่แปลว่าลูกพี่ลูกน้องชะอีก เรื่องนี้มันเป็นปัญหาสของฉัน ถึงเธอรู้ไปก็ใช่ว่าจะช่วยอะไรฉันได้นิ"
"มันก็จริงนะ และถ้าจะให้พูดแบบตรงๆหละก็..."
"ห๋า..."
"เด็กสาวเรียบร้อย น่าตาน่ารักแบบนี้ ถ้ามาได้เป็นแฟนกับอีตากุ้ยเถื่อนขี้เหล้าไว้หนวดจิ๋มแถมยังใส่แวนดำอย่างนี้ มันช่างไม่เข้ากันอย่างแรง"
ด้วยคำพูดแบบนี้เองเคนจิรู้สึกราวกับมีฝนลูกธนุ พุ่งมาปักอกเป็นพันๆลูก จนต้องกลับโหมต นั้งซบโตะร้องไห้อีกครั้ง
และช่วงจังหวะนั้นเอง ทั้งสองก็ได้ยินเสียงบางอย่าง ดังขึ้นจาก ตู้โทรทัศในร้านอาหาร ซึ่งเปิดไว้บริการลูกค้าที่อยากลูกละครหลังข่าว
เสียงเพลงไตเติ้ลดังขึ้น “แถ่แดแด้น แถ่เด้เด้เดแด้น” แล้วปรากฏข้อความ ‘สี่มือสังหาร’ ขึ้นบนหน้าจอทีวี ตามมาด้วย บุรุษชุดฮากามะ สองคนยืนสนทนากัน ณ บริเวณใจกลางย่านการค้าในยุคสมัย โตกุกาว้า
“ท่านมังโกคุ หมายสาร ฉบับนี้นั้น”
“ข้าขอฝากเจ้า นำความในใจของข้าไปถึงมือนางด้วย บัดนี้ ข้าหาได้มีหน้าไปพบครอบครับของนางได้อีกแล้ว”
“เพราะเหตุใดกัน ท่านควรจะไปกล่าวด้วยตนเองมิใช่หรือ สู้หน้ามิได้ก็เขียนจดหมายเสีย ไม่สมกับเป็นซามูไรเลย”
ด้วยประโยคนี้เอง บางสิ่งบางอย่างพุ้งดิ่งตรงเข้าไปยังส่วนลึกของจิตใจเขา
“จดหมายเหรอ”
อื่ม จดหมายไง
“จริงด้วย.........”
ว่าแล้ว เด็กสาวก็เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็วดุดสายฟ้า แล้ววิ่งออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว โดยทิ้งอีโตดฏะไว้คนเดียว
"ไอ่พวกบ้า คิดเรื่องชัวๆได้แล้วสิท่า"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ