อย่าด่วนรักพิศวาส
7.2
12)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ วชิรญาณ์นั่งครุ่นคิดทั้งคืน ถึงเรื่อง 'ความลับของนุชกานดา' เขาคิดไม่ตก นอนกระสับกระส่ายทั้งคืน และเสียงเคาะประตูของมารดาทำให้เขาหายพะวงเรื่องนี้
"คุณวุ่นคะ เปิดประตูหน่อยค่ะ คุณวุ่น" เขาลุกไปเปิดประตูให้กับมารดา เมื่อเขาเปิดประตู มารดาก็ถือถาดนมร้อนมาให้เขา "ดื่มนมก่อนมั้ยคะ คุณวุ่น" วชิรญาณ์ถึงกับหัวเราะทันที
"คุณแม่ครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ และอีกอย่าง คนใช้ในบ้านเราก็มี คุณแม่จะถือมาทำไมครับ เมื่อยออก" และเขาก็รับถาดนมไปวางไว้ที่โต๊ะ
"ก็คุณแม่เป็นห่วงคุณวุ่น เห็นกลับมาบ้านดูโทรมๆชอบกล คุณวุ่นเครียดเรื่องงานเหรอคะ" วชิรญาณ์พามารดามานั่งบนเตียง และพูดว่า
"ไม่เครียดเรื่องงานหรอกครับคุณแม่ ผมสนุกกับงานจะตายไป ที่ผมเครียด ผมเครียดเรื่องอื่น" คุณนายเย็นฤดีแปลกใจในลูกชายมาก
"เครียดเรื่องอะไรคะ คุณวุ่น" วชิรญาณ์เบ้ปากก่อนตอบ
"เจ้ยกับเช็งทะเลาะกันอีกแล้วครับคุณแม่" และวชิรญาณ์นอนหนุนตักคุณนายเย็นฤดี พูดต่ออีกว่า "ทะเลาะกันแค่เรื่องผู้หญิงคนเดียว" คุณนายเย็นฤดีลูบหน้าผากลูกชายเบาๆ และพูดว่า
"ถ้าเป็นคุณแม่ คุณแม่เลิกยุ่งกับผู้ชาย 2 คนนั้นเลยนะ" เขาแปลกใจ
"ทำไมล่ะครับ"
"คุณแม่ว่า มันไม่ดี กับการที่ให้ผู้ชาย 2 คนนั้น มาทะเลาะกันเพราะแม่ แม่เองไม่อยากจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ก็เลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ว่าใครผิดใครถูก เลิกคบทั้งคู่ เพราะแม่ถือว่า เรื่องเพื่อนสำคัญ แฟนน่ะ จะมีตอนไหนก็ได้ แต่เพื่อน ถ้าไม่มี ก็เหมือนโดดเดี่ยว ยิ่งญาติ คนในบ้าน ถ้าไม่มี คงไม่ต่างจากศพไร้ญาติ" วชิรญาณ์เข้าใจตั้งแต่ตอนนั้น
ชาลินีนั่งทำงานทั้งคืน พอได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงรีบรับ
"สวัสดีค่ะ"
"ผมเจ้ยครับ" เธอยิ้มทันที
"อ้อ คุณเจ้ย งานเป็นไงบ้างคะ"
"ก็เรื่อยๆอ่ะครับ ไม่มีอะไรหวือหวา"
"ดีแล้วค่ะ แล้วที่โทรมามีอะไรรึเปล่าคะ" จิรฐาลังเลก่อนตอบ
"ก็...ผมมีเรื่องกับเพื่อนครับ ไอ้เช็งมันบ้า มันคลั่งคุณนุชจนสติแตกกระเจิงไปหมดแล้ว" ชาลินีก็แอบแปลกใจ
"เอ๊... คุณเช็งเหรอคะ"
"ครับ ไอ้เช็งนั่นแหละฮะ มันคลั่งยัยคุณนุชเมียมันมาก มันหาว่าผมกอดกับคุณนุช" ชาลินีจึงซักต่อ
"แล้ว คุณกอดคุณนุชเหรอคะ"
"เหอะ ผมจะไปกอดได้ไงครับ เอ้อ คุณทราบเรื่องที่นังคุณนุชอะไรนั่นน่ะ มีพี่สาวฝาแฝดอีกคนมั้ยครับ"
"อ๋อ หมายถึงคุณนิเหรอคะ คุณแขกเคยเล่าให้ชุบฟังบ่อยๆค่ะ ว่าเธอหน้าเหมือนคุณนุชมาก ถ้าไม่ทำทรงผมให้แตกต่างนะ ก็จะเหมือนคุณนุชมากเลยล่ะค่ะ"
"ครับ ผม"
"เอ้อ ชุบทราบเรื่องที่คุณนิจมน้ำด้วย อยากทราบว่าใครช่วยคุณนิคะ" จิรฐากระอักกระอ่วนทันที เมื่อเจอกับคำถามนี้ เพราะอะไรล่ะ ก็เขา เป็นคนช่วยเหลือนิกานดายังไงล่ะ
"เอิ่ม.... ผมไม่ทราบครับว่าใครช่วยคุณนิ" ชาลินีไม่คาดคั้นอะไรมาก
"งั้น ชุบต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่ทำให้คุณเจ้ยไม่สบายใจอีกแล้ว"
"ไม่มีอะไรนี่ครับ" จิรฐาปฏิเสธทันควัน แกมหัวเราะ และเขาแหงนมองนาฬิกา ใกล้จะ 5 ทุ่มแล้ว เขาจึงขอตัวเธอนอนก่อน "งั้น...เอาไว้คราวหน้า เรามาคุยกันใหม่นะครับ คุณชุบ"
"ค่ะ สวัสดีค่ะ"
"ครับ" เมื่อวางสายลง จิรฐานอนหลับไปอย่างสบายใจ
เขมินทร์กับไปรเวทก็นั่งอยู่ในร้าน เมื่อชลชาติเข้ามา เขาก็สั่งแต่เหล้า โดยไม่สนใจไปรเวทกับเขมินทร์ที่นั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกัน
"เหล้า โซดา น้ำแข็ง" บริกรคนนั้นเมื่อได้รับออเดอร์แล้ว ก็เดินเข้าไปทำตามออเดอร์ ไม่กี่อึดใจ ชลชาติก็ได้ครบ เขาเริ่มรินเหล้าใส่แก้ว เทโซดาลงหน่อย และตักน้ำแข็งลงไปอีกนิด ก็ดื่ม เขมินทร์จึงบอกว่า
"เออ ไอ้เช็ง แก้วนี้แก้วเดียวเท่านั้น แล้วพอ ไม่ต้องดื่มอีก คนอะไร ดื่มแต่เหล้า" ชลชาติจึงถามเขมินทร์ว่า
"มันเกี่ยวอะไรกับมึงด้วย ไม่กินก็อยู่ส่วนไม่กิน ไป๊!!!!!" นับวันอารมณ์ของชลชาติจะร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ เขมินทร์จึงดึงแขนของไปรเวท
"เฮ้ย อั๊วไม่อยากกินร้านนี้ เราไปกันเถอะ" ไปรเวทกระซิบว่า
"ลีเหมืองกังน้า อั๊วจาล่ายม่ายต้องทงกะอี" และทั้งคู่ก็เดินจากไป ทิ้งชลชาติขลุกอยู่กับเหล้า
โปรดติดตามตอนต่อไป
"คุณวุ่นคะ เปิดประตูหน่อยค่ะ คุณวุ่น" เขาลุกไปเปิดประตูให้กับมารดา เมื่อเขาเปิดประตู มารดาก็ถือถาดนมร้อนมาให้เขา "ดื่มนมก่อนมั้ยคะ คุณวุ่น" วชิรญาณ์ถึงกับหัวเราะทันที
"คุณแม่ครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ และอีกอย่าง คนใช้ในบ้านเราก็มี คุณแม่จะถือมาทำไมครับ เมื่อยออก" และเขาก็รับถาดนมไปวางไว้ที่โต๊ะ
"ก็คุณแม่เป็นห่วงคุณวุ่น เห็นกลับมาบ้านดูโทรมๆชอบกล คุณวุ่นเครียดเรื่องงานเหรอคะ" วชิรญาณ์พามารดามานั่งบนเตียง และพูดว่า
"ไม่เครียดเรื่องงานหรอกครับคุณแม่ ผมสนุกกับงานจะตายไป ที่ผมเครียด ผมเครียดเรื่องอื่น" คุณนายเย็นฤดีแปลกใจในลูกชายมาก
"เครียดเรื่องอะไรคะ คุณวุ่น" วชิรญาณ์เบ้ปากก่อนตอบ
"เจ้ยกับเช็งทะเลาะกันอีกแล้วครับคุณแม่" และวชิรญาณ์นอนหนุนตักคุณนายเย็นฤดี พูดต่ออีกว่า "ทะเลาะกันแค่เรื่องผู้หญิงคนเดียว" คุณนายเย็นฤดีลูบหน้าผากลูกชายเบาๆ และพูดว่า
"ถ้าเป็นคุณแม่ คุณแม่เลิกยุ่งกับผู้ชาย 2 คนนั้นเลยนะ" เขาแปลกใจ
"ทำไมล่ะครับ"
"คุณแม่ว่า มันไม่ดี กับการที่ให้ผู้ชาย 2 คนนั้น มาทะเลาะกันเพราะแม่ แม่เองไม่อยากจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ก็เลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ว่าใครผิดใครถูก เลิกคบทั้งคู่ เพราะแม่ถือว่า เรื่องเพื่อนสำคัญ แฟนน่ะ จะมีตอนไหนก็ได้ แต่เพื่อน ถ้าไม่มี ก็เหมือนโดดเดี่ยว ยิ่งญาติ คนในบ้าน ถ้าไม่มี คงไม่ต่างจากศพไร้ญาติ" วชิรญาณ์เข้าใจตั้งแต่ตอนนั้น
ชาลินีนั่งทำงานทั้งคืน พอได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงรีบรับ
"สวัสดีค่ะ"
"ผมเจ้ยครับ" เธอยิ้มทันที
"อ้อ คุณเจ้ย งานเป็นไงบ้างคะ"
"ก็เรื่อยๆอ่ะครับ ไม่มีอะไรหวือหวา"
"ดีแล้วค่ะ แล้วที่โทรมามีอะไรรึเปล่าคะ" จิรฐาลังเลก่อนตอบ
"ก็...ผมมีเรื่องกับเพื่อนครับ ไอ้เช็งมันบ้า มันคลั่งคุณนุชจนสติแตกกระเจิงไปหมดแล้ว" ชาลินีก็แอบแปลกใจ
"เอ๊... คุณเช็งเหรอคะ"
"ครับ ไอ้เช็งนั่นแหละฮะ มันคลั่งยัยคุณนุชเมียมันมาก มันหาว่าผมกอดกับคุณนุช" ชาลินีจึงซักต่อ
"แล้ว คุณกอดคุณนุชเหรอคะ"
"เหอะ ผมจะไปกอดได้ไงครับ เอ้อ คุณทราบเรื่องที่นังคุณนุชอะไรนั่นน่ะ มีพี่สาวฝาแฝดอีกคนมั้ยครับ"
"อ๋อ หมายถึงคุณนิเหรอคะ คุณแขกเคยเล่าให้ชุบฟังบ่อยๆค่ะ ว่าเธอหน้าเหมือนคุณนุชมาก ถ้าไม่ทำทรงผมให้แตกต่างนะ ก็จะเหมือนคุณนุชมากเลยล่ะค่ะ"
"ครับ ผม"
"เอ้อ ชุบทราบเรื่องที่คุณนิจมน้ำด้วย อยากทราบว่าใครช่วยคุณนิคะ" จิรฐากระอักกระอ่วนทันที เมื่อเจอกับคำถามนี้ เพราะอะไรล่ะ ก็เขา เป็นคนช่วยเหลือนิกานดายังไงล่ะ
"เอิ่ม.... ผมไม่ทราบครับว่าใครช่วยคุณนิ" ชาลินีไม่คาดคั้นอะไรมาก
"งั้น ชุบต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่ทำให้คุณเจ้ยไม่สบายใจอีกแล้ว"
"ไม่มีอะไรนี่ครับ" จิรฐาปฏิเสธทันควัน แกมหัวเราะ และเขาแหงนมองนาฬิกา ใกล้จะ 5 ทุ่มแล้ว เขาจึงขอตัวเธอนอนก่อน "งั้น...เอาไว้คราวหน้า เรามาคุยกันใหม่นะครับ คุณชุบ"
"ค่ะ สวัสดีค่ะ"
"ครับ" เมื่อวางสายลง จิรฐานอนหลับไปอย่างสบายใจ
เขมินทร์กับไปรเวทก็นั่งอยู่ในร้าน เมื่อชลชาติเข้ามา เขาก็สั่งแต่เหล้า โดยไม่สนใจไปรเวทกับเขมินทร์ที่นั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกัน
"เหล้า โซดา น้ำแข็ง" บริกรคนนั้นเมื่อได้รับออเดอร์แล้ว ก็เดินเข้าไปทำตามออเดอร์ ไม่กี่อึดใจ ชลชาติก็ได้ครบ เขาเริ่มรินเหล้าใส่แก้ว เทโซดาลงหน่อย และตักน้ำแข็งลงไปอีกนิด ก็ดื่ม เขมินทร์จึงบอกว่า
"เออ ไอ้เช็ง แก้วนี้แก้วเดียวเท่านั้น แล้วพอ ไม่ต้องดื่มอีก คนอะไร ดื่มแต่เหล้า" ชลชาติจึงถามเขมินทร์ว่า
"มันเกี่ยวอะไรกับมึงด้วย ไม่กินก็อยู่ส่วนไม่กิน ไป๊!!!!!" นับวันอารมณ์ของชลชาติจะร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ เขมินทร์จึงดึงแขนของไปรเวท
"เฮ้ย อั๊วไม่อยากกินร้านนี้ เราไปกันเถอะ" ไปรเวทกระซิบว่า
"ลีเหมืองกังน้า อั๊วจาล่ายม่ายต้องทงกะอี" และทั้งคู่ก็เดินจากไป ทิ้งชลชาติขลุกอยู่กับเหล้า
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ