สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ
6.2
4) เจ้ากรรม...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความด้านหน้าสวนมีหญิงสาวหน้ายืนตัวสั่น เนื้อตัวมอมไปด้วยโคลนดิน ใบหน้าของเธอคล้ายๆ กับว่าเคยเจอที่ไหน ธนาวิ่งไปจนใกล้จึงนึกออก และหยุดพร้อมกับหลบหน้าเธอ ก่อนจะดึงผ้ามาปิดหน้าไว้และเดินเลี่ยงหนี
“นี่นายเป็นคนเปิดน้ำใช่ไหน” มีนาถามขึ้นและพยายามจะมองหน้าชายหนุ่ม แต่เขากับหลบ
“ใช่..”มีเพียงคำตอบสั้นๆ และดูท่าทางมีพิรุธ และกำลังจะเดินหนี
“เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมนายต้องปิดหน้าปิดตาด้วย”มีนา ดึงผ้าที่โพกหัวเขาไว้ได้ขณะที่เขากำลังคิดหนี ผ้าหลุด ธนาหันกลับมาด้วยความตกใจ แต่มีนาดูจะตกใจมากกว่าเสียอีก เมื่อทั้งคู่สบตากัน มีนาชี้หน้าของเขาด้วยความโกรธ
“ฮะ..! นี่นายอีกแล้วเหรอ ไอ้!! ไอ้คนบ้า คนไม่มีมารยาท ไอ้คนก่อเหตุ ไอ้คน..”มีนาสันหาคำมาด่าธนาเป็นชุด
“อ้าว.. เอาเข้าไปคนเขาอุตสาห์มีน้ำใจจะช่วย จะขอบคุณสักคำก็ไม่มี แถมยังด่าไม่หยุดปากซะอีก”ธนาพูดขึ้นบ้าง
“ก็ใครหละ ที่ทำให้ฉันเปียกได้ขนาดนี้ กล้องฉัน!... ดูสิเสียหรือเปล่าก็ไม่รู้”มีนานึกขึ้นได้ เธอรีบตรวจเช็คกล้องสุดโปรดของเธอ ด้วยความวังวล และท่าทีของเธอทำให้ ธนาอดเห็นใจไม่ได้ ดึงกล้องจากมือมีนามาช่วยดู
“ไหน...ผมดูสิ มันก็แค่เปียกน้ำ” ธนาแกะชิ้นส่วนออกมาดู มีนาที่ปากเก่ง เมื่อสักครู่เงียบเสียจนผิดปกติ นัยตาเศร้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาเสียให้ได้
“อะไรกันคุณ...ถึงกับหน้าเศร้าได้ขนาดนี้เชียวหรือ แปลกคนจริง”ธนายิ้ม และหุบยิ้มทันที่เมื่อมองเห็นสายตาและท่าทางของเธอ
“อ้าว.. นี่คุณแค่กล้องตัวเดียวถึงกับร้องไห้เลยหรือนี่” ธนาตกใจที่เห็นมีนาร้องไห้ เธอคว้าเอากล้องถ่ายรูปในมือของธนาก่อนจะวิ่งกับไปยังบ้านพัก ซึ่งสายธารกำลังเดินออกมาตามหามีนา และเธอต้องแปลกใจ เมื่อมองเห็นเพื่อนสาวของเธอวิ่งตรงมาเนื้อตัวมอมไปด้วยโคลนและเปียกไปทั้งตัว ไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำ
“มีนา!! เกิดอะไรขึ้น” สายธารถาม แต่มีนากับไม่มีคำตอบ เธอวิ่งผ่านไป สายธารงงไปหมด และเมื่อชายหนุ่มที่วิ่งตามมาหยุดตรงหน้าสายธารจึงได้รู้ว่า เป็นพี่ชายของเธอเอง…
“พี่ชาย..! ไปทำอะไรมาถึงดูมอมแมมอย่างงี้ แล้วนี่วิ่งตามเพื่อนน้องทำไม หรือว่าพี่ทำอะไรยายมีนา” สายธารถามเอง และตอบทั้งหมด เธอมองพี่ชายตาเขียว ธนาตกใจตาตื่นส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“คนนี้หรือเพื่อนของเรา..พี่เปล่านะ เรื่องมันยาว รีบไปดูเพื่อนเราก่อนเถอะ” ธนาพูด สายธารจึงวิ่งตามมีนาไป
เมื่อมีนามาถึงก็รีบแกะกล้องของเธอก่อนจะเอาไดร์มาเป่า และเช็ดจนแห้ง สายธารเดินมาถึงพอดี
“มีนา เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ตัวเปียกมอมเชียว” สายธารถาม และมองหน้าเพื่อนสาวที่กำลังหน้าเครียด
“ไม่..เปล่า แต่กล้องฉันสิ” มีนาดูท่าทางเป็นกังวลจนหน้าเศร้า
“กล้องนี้..ดูมันคงจะมีความหมายกับเธอมากใช่ไหม” สายธารถาม
“ใช่ เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายของพ่อฉันก่อนที่ท่านจะเสีย” มีนาเช็ดกล้อง ก่อนจะประกอบให้มันเหมือนเดิม
“ฉันต้องขอโทษแทนพี่ชายฉันด้วยนะ” สายธารพูดทำให้มีนาถึงกับตะลึง ด้วยความตกใจ
“อะไรนะ เธอกำลังจะบอกฉันว่าไอ้คนเมื่อกี้เป็นพี่ชายเธองั้นเหรอ... ฉันฟังผิดไปใช่ไหม...” สายธารพยักหน้าตอบ
“เธอฟังไม่ผิดหรอก คนนั้นแหละพี่ชายฉันเอง..เธอสองคนรู้จักกันแล้วเหรอ” สายธารถามอย่างกล้าๆ กล้วๆ
“ใช่รู้จักแล้ว รู้จักดีด้วยสิ ถ้างั้นเราคงอยู่ร่วมบ้านกับเธอไม่ได้แล้ว” มีนา เดินไปยังตู้สื้อผ้าและดึงกระเป๋าออกมาหมายจะเก็บข้าวของใส่กระเป๋า
“เดี๋ยวก่อน!.. พวกเธอรู้จักกันแล้วเหรอ พี่ชายฉันทำอะไรเธอ”สายธารขัดขวางดึงกระเป๋าออกจากมือของมีนา
“เธอไม่รู้หรอก อีตานั้น คือ...” มีนาคิดถึงทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขายิ่งคิดเธอก็ยิ่งแค้นนัก
“เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องหนีเลยหรือ... ไหนน้องคุยกันคุยหน่าเพื่อนที่เราชื่นชม ที่แท้ก็...”ธนาอมยิ้มวางท่ากวนประสาทมีนา เธอมองด้วยความโกรธ จนดวงตากลมที่เคยสวยงามดุร้อนน่ากลัว สายธารหันทำหน้ายักษ์ตำหนิธนา
“นายจะพูดอะไรต่อ ที่แท้ก็อะไร”มีนาดูโกรธจนหน้าแดง เมื่อเห็นธนาทำทีไม่รู้ไม่ชี้สายธารต้องรีบไปห้ามไว้
“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ นะมีนา พี่ชายเงียบแล้วออกไปก่อนเลยนะ”สายธารดึงตัวธนาออกนอกห้องและค้อนใส่พี่ชาย
“นี่เหรอ...ยายน้องเพื่อนที่เราพูดถึงพี่ว่าตรงกันข้ามกับที่เราพูดถึงทุกประการเลยหละ” ธนายังคงแกล้งพูดไม่เลิก
“ยายน้อง นี่เหรอพี่ชายที่แสนดีของเธอ ไหนบอกว่าสุภาพไงเท่าที่เห็น เนี่ยไอ้ผู้ชายไร่มารยาทปากร้ายชัดๆ” มีนาตะโกนตอบ ขณะที่สายธารลากพี่ชายออกมาจากห้องของมีนา ไปยังห้องของธนาแล้วปิดประตู้ มองตาเขียวใส่ธนาอีกครั้ง
“พี่ชาย..ทำไมพี่ถึงแกล้งมีนาเขาอย่างนั้น ถ้ามีนาหนีกลับจริงๆ หละก็พี่เตรียมหาของแก้ตัวดีๆ ให้พ่อกับแม่ได้เลย น้องจะฟ้องว่าเพราะพี่แกล้งมีนา” สายธารทำหน้าดุและค้อนใส่พี่ชาย แต่ธนา ซึ่งยังอมยิ้มเห็นเป็นเรื่องตลก
“เอาเถอะน่า เพื่อนของเราเขาต้องอยู่ต่อแน่นอน กลับไปดูเพื่อนได้แล้วไป” ธนาเปิดประตู้ให้น้องสาว และทำหน้าทะเล้น สายธารค้อนเชิดหน้าใส่ธนาก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ที่ห้องอาหารของบ้าน ในวงโต๊ะรับประธานอาหาร มีนานั่งข้างๆ สายธารโดยมีพ่อของสายธารนั่งหัวโต๊ะและผู้เป็นแม่นั่งตรงข้ามสายธาร และที่นั่งตรงข้ามมีนาคือธนาทั้งคู่ยังคงทำสงครามกันด้วยสายตาและท่าทาง
“เป็นไงบ้างหนู กับข้าวบ้านเราพอจะทานได้ไหม” พ่ออาทรถามด้วยในหน้ายิ้มแย้ม
“ค่ะ..อ่อ..อร่อยมากเลยค่ะ” มีนาตอบอย่างตกใจ เพราะเธอมัวแต่สนใจกับการทำสงครามกับธนา จนธนานึกขัน
“เป็นอะไรไปลูก แม่เห็นว่าธนาแอบอมยิ้มตั้งนานแล้วนะ” ธนาหันไปยิ้มให้ผู้เป็นแม่
“ท่าทางเพื่อนของน้อง คงทานอาหารบ้านเราไม่เป็น ถึงเอาแต่เขี่ยข้าวไปมานะฮะ” ธนาพูด มีนาทำหน้าดุตาโตใส่ธนา ก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้กับทุกคนที่กำลังมองเธอ
“พี่ธนา..เงียบไปเลยนะ มีนาทานน้ำพริกอ่องสิ เป็นอาหารเหนือไม่เผ็ด” สายธารหันไปดุพี่ชายก่อนจะตักอาหารให้เพื่อนสาว มีนาหมั่นไส้ธนาอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำไงดี แต่แล้วเธอก็คิดออก..ก่อนจะยิ้มให้ธนาอย่างมีพิรุธและแล้วก็...
“อุ้ย..!” ธนาก้มลงลูบไปมาที่หน้าแข้งด้วยความเจ็บ และหันไปทำตาโตใส่เธอแต่มีนายิ้มเยาะ ทุกคนตกใจหันมองธนา
“เป็นอะไรธนา ทำตัวแปลกๆ นะเรา”ผู้เป็นพ่อถามขึ้น ธนากัดฟันหันไปมองตัวต้นเหตุ แต่พบว่ามีนากำลังทานข้าวอย่างสบายใจ เธอหัมมามองทำหน้าทะเล้นไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนทำหน้าซื่อมองธนาอย่างสงสัยเช่นเดียวกับทุกคน ที่รอคำตอบอยู่
“อ่อ..ไม่รู้สิครับ สงสัยโดยแมงกระจวดกัด” ธนาพูดขึ้นทำเอามีนาแทบสำรักข้าว สายธารลูบหลังให้เพื่อนรัก เจ้าหล่อนกัดฟันทำตาโตใส่ธนา การทานอาหารในค่ำคืนแรกกับครอบครัวที่นับได้ว่าแปลกหน้าสำหรับมีนา แต่ก็รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับที่เธอทานพร้อมครอบครัวของเธอที่บ้าน ยกเว้นแต่เจ้ากรรมที่นั่งตรงหน้าเธอที่ปั่นเธอเสียจริงๆ
สายธารกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำที่มหาวิทยาลัย แล้วเธอต้องตกใจเมื่อกลุ่มเจนจิตรที่ยืนขวางทางออก
“ยายเจน!... พวกเธอมาขวางทางฉันทำไม”สายธารถาม เธอยังคงจะเดินต่อ แต่เจนจิตรยังคงขวางทางเธออยู่
“ก็เปล่านี่ ฉันแค่อยากรู้จากปากเธอเท่านั้น ตกลงพี่ชายเธอกลับมาแล้วใช่ไหม” เจนจิตรถาม
“แล้วไง..เธอคิดว่าจะทำอย่างไง”สายธารถาม เธอนึกขำเมื่อเจนจิตรถามถึงพี่ชายของเธอ
“โธ่เพื่อนรัก ถึงเธอจะอยู่ข้างยายมีนานั้น แต่ฉันก็ยังเห็นเธอเป็นเพื่อนฉันเสมอนะ” เจนจิตรยิ้มอย่างมีความในใจ
“อย่าเลยเจน ฉันคงรับน้ำใจเธอไม่ไหว ถ้าอย่างไงฉันขอตัวนะ”สายธารยิ้มก่อนจะเดินผ่านวงของเจนจิตรออกไป เจนจิตรและเพื่อนมองตามจนสายธารเดินลับตา
“ยายน้องนี่ เปลี่ยนไปเยอะนะตั้งแต่คบกับแม่มีนานั้น ฉันว่าเธอน่าจะปรามๆ มันไว้บ้างนะ”ดาวล้อมพูด
“ช่างเถอะน่า อย่างไงฉันก็ยังหมายปองพี่ชายมันอยู่ ยายน้องมันไม่มีปัญญาทำอะไรฉันหรอก”เจนจิตรยิ้ม
สุธีเดินวนไปวนมาที่ห้องโถง และมองไปที่ประตูทางเข้าของคอนโดฯ จนพนักงานต้อนรับทนมองต่อไปไม่ไหว เดินตรงมาที่สุธี
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมค่ะ”พนักงานต้อนรับยิ้มอย่างเป็นมิตร ทำเอาสุธียิ้มตอบแบบเขินๆ
“เอ่อ..คือผมมารอคุณมีนานะครับ” สุธีตอบ และท่าทางยังคงเขินอาย
“ถ้าจำไม่ผิดคุณมาที่นี่ 2-3 ครั้งแล้วใช่ไหมค่ะ” สุธียิ่งเขินไปใหญ่ก่อนจะพยักหน้ายอมรับ
“ครับ...ผมคงมาผิดเวลามั่งครับ ถ้าอย่างไงผมขอตัวกลับก่อนแล้วกันครับ”สุธีก้มหัวก่อนจะหันกลับ
“คุณค่ะ คือว่าคุณมีนาไม่ได้บอกคุณหรือค่ะ เธอย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว” คำพูดนั้นทำให้สุธีหันกลับอย่าทันควัน
“ว่าอะไรนะครับ คุณมีนาย้ายออกไปแล้วนั้นเหรอ”สุธีถึงกับอึ้ง เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาพยายามถามรายละเอียดเท่าไหร่ พนักงานต้อนรับก็ไม่มีคำตอบมากกว่าไม่ทราบค่ะ สุธีเดินออกจากคอนโดฯ ด้วยความผิดหวัง…
ธนาเดินผ่านมาที่หน้าบ้าน เขายื่นแขนรับลม และสูดเอาอากาศอย่างสดชื่น ธนาตั้งใจจะเดินไปยังสนามหน้าบ้านเพื่อชื่นชมท้องฟ้าในยามค่ำคืน แต่เมื่อเดินมาถึงที่ประจำของเขา ก็มีคนอื่นมาจับจ้องอยู่ก่อนเสียแล้ว
“ยายน้องหรือเปล่าน่า”ธนารู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าใครกันที่อยู่ตรงนั้น เขาเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องรีบหลบ
“อ่อ..ยายตัวแสบนะนั่นเอง”ธนาเห็นในนาทีแรกที่เกิดความรู้สึกหมั่นไส้ แต่แล้วความรู้สึกนั้นก็หายไปเมื่อเขาเห็นเธอที่กำลังนั่งกอดเข่า มองดูดาวลักษณะท่าทางแบบนั้นกับรอยยิ้มเล็กๆ ของเธอ มันทำให้คนที่กำลังแอบมองอยู่ยิ้มตามเธออย่างไม่รู้ตัว ซึ่งมันต่างจากคนที่เขาเห็นยายตัวแสบคนนั้นราวกับคนละคน
“ดูอ่อนโยนกับเขาก็เป็นหรือ”ธนานึกขันในใจ แต่ทันใดนั้น ต้นไม้ที่เขากำลังพิงอยู่ก็ล้มลงทำให้ธนาล้มลงไปด้วย
“ฮู้ย.!!”เสียงร้องของธนาบวกกับเสียงล้มของต้นไม้ ทำให้มีนาตกใจหันมองทันควัน
“ใครกันนะ..!” มีนา ลุกขึ้นยืนและเดินมาดูใกล้ๆ ก็พบว่าธนากำลังลุกลี้ลุกลนหมายจะหนี แต่ไม่ทันซะแล้ว
“เอ่อ...ผมเดินซุ่มซ่ามไปหน่อยเลยชนต้นไม้เข้า หวังว่าคงไม่ทำให้คุณเสียบรรยกาศดูดาวหรอกนะ” ธนารีบแก้ตัว
“นายนั่นเอง แล้วรู้ได้อย่างไงว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่...แอบดูฉันเหรอ” มีนาจ้องมองจับพิรุธ
“เอ้า..ถ้าคุณไม่มองดาวแล้วคุณจะมองอะไร ที่ตรงนั้นผมนั่งมองดาวประจำ” ธนารีบแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ
“ชิ..”มีนาทำหน้าเบ้ ด้วยความหมั่นไส่ และเชิดหน้าเดินผ่านธนาเข้าไปในบ้าน
“อ้าว..ไม่นั่งต่อหรือคุณ..เอ๋ ตกลงว่าเมื่อกี้ นั่งมองดาวหรือนั่งคิดถึงแฟนกันเอ่ย..” ธนาทำหน้าทะเล้นยั่วประสาทเดินตามมาถากถางเจ้าหล่อนต่อ มีนาหันกลับมาด้วยคำพูดอันเสียมารยาทของเขา มองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“เรื่องของฉัน ตรงนั้นมันที่ของนายใช่ไหม..ฉันจะไม่แตะต้องมันอีก เชิญสิงสถิต อยู่ตามสบายเถอะยะ” มีนาเชิดหน้าเดินหนี ธนาขมวดคิ้วคิดตามก็พบว่า...
“อ้าว...นี่คุณ ผมไม่ใช่ผีนะ ใช่คำว่าสิงสถิตไม่ได้นะ”ธนาตะโกนตามหลัง เธอหันกับมายิ้มเยาะให้เขาอีกครั้ง
“งั้นเหรอ...ดูไม่ออกเลยนะเนี่ย... ฉันคิดว่าพวกเดียวกันซะอีก..คนผีทะเล”มีนาทำหน้าทะเล้นแลบลิ้นปิ้นตาใส่เขา
“คนอะไรเวลาโกรธหน้าตาตลกเป็นบ้า” ธนายังคงนึกขำท่าทางของหญิงสาวแสนงอน และขี้โมโหหล่อน มันช่างตลกและน่าขำเป็นที่สุด ทำให้บรรยากาศ การมองท้องฟ้าในค่ำคืนนี้มีสีสันขึ้นเยอะทีเดียว…ต่างกับมีนาที่เดินบ่นพึงพลำมาตลอดทางจนถึงห้องของเธอ และนั่งลงกับเตียง เธอทั้งหมั่นไส้ ทั้งหงุดหงิดกับเจ้าตัวปัญหายิ่งนัก
“ฉันจะทนอยู่ได้สักกี่วันเนี่ย..ต้องเจอหน้าไอ้คนบ้านี่ ทุกวันๆ มีหวังห้ามใจฆ่าหมอนั่งไม่ได้เข้าสักวัน”มีนาพูดกับตัวเอง และเมื่อเธอมองไป เห็นรูปครอบครัวของเธอที่อยู่หัวเตียงนั้นเธอก็ต้องยิ้มและจับมันขึ้นมามองด้วยความคิดถึง
“แม่ค่ะพ่อค่ะ..มีนาจะทำอย่างไง กับไอ้หมอนั้นค่ะ”เธอถามกับรูปพ่อและแม่ที่ยิ้มด้วยใบหน้าอันโอบอ้อมอารี
“หวังว่าแม่คงสบายดี และไม่เหงาเหมือนมีนา พ่อจ๋าคอยอยู่ข้างๆ ดูแลแม่ด้วยนะค่ะ...ราตรีสวัสดิ์นะค่ะ”มีนาบรรจงจูบรูปครอบครัว และวางมันไว้ที่เดิมก่อนเปิดไฟเข้านอน
“นี่นายเป็นคนเปิดน้ำใช่ไหน” มีนาถามขึ้นและพยายามจะมองหน้าชายหนุ่ม แต่เขากับหลบ
“ใช่..”มีเพียงคำตอบสั้นๆ และดูท่าทางมีพิรุธ และกำลังจะเดินหนี
“เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมนายต้องปิดหน้าปิดตาด้วย”มีนา ดึงผ้าที่โพกหัวเขาไว้ได้ขณะที่เขากำลังคิดหนี ผ้าหลุด ธนาหันกลับมาด้วยความตกใจ แต่มีนาดูจะตกใจมากกว่าเสียอีก เมื่อทั้งคู่สบตากัน มีนาชี้หน้าของเขาด้วยความโกรธ
“ฮะ..! นี่นายอีกแล้วเหรอ ไอ้!! ไอ้คนบ้า คนไม่มีมารยาท ไอ้คนก่อเหตุ ไอ้คน..”มีนาสันหาคำมาด่าธนาเป็นชุด
“อ้าว.. เอาเข้าไปคนเขาอุตสาห์มีน้ำใจจะช่วย จะขอบคุณสักคำก็ไม่มี แถมยังด่าไม่หยุดปากซะอีก”ธนาพูดขึ้นบ้าง
“ก็ใครหละ ที่ทำให้ฉันเปียกได้ขนาดนี้ กล้องฉัน!... ดูสิเสียหรือเปล่าก็ไม่รู้”มีนานึกขึ้นได้ เธอรีบตรวจเช็คกล้องสุดโปรดของเธอ ด้วยความวังวล และท่าทีของเธอทำให้ ธนาอดเห็นใจไม่ได้ ดึงกล้องจากมือมีนามาช่วยดู
“ไหน...ผมดูสิ มันก็แค่เปียกน้ำ” ธนาแกะชิ้นส่วนออกมาดู มีนาที่ปากเก่ง เมื่อสักครู่เงียบเสียจนผิดปกติ นัยตาเศร้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาเสียให้ได้
“อะไรกันคุณ...ถึงกับหน้าเศร้าได้ขนาดนี้เชียวหรือ แปลกคนจริง”ธนายิ้ม และหุบยิ้มทันที่เมื่อมองเห็นสายตาและท่าทางของเธอ
“อ้าว.. นี่คุณแค่กล้องตัวเดียวถึงกับร้องไห้เลยหรือนี่” ธนาตกใจที่เห็นมีนาร้องไห้ เธอคว้าเอากล้องถ่ายรูปในมือของธนาก่อนจะวิ่งกับไปยังบ้านพัก ซึ่งสายธารกำลังเดินออกมาตามหามีนา และเธอต้องแปลกใจ เมื่อมองเห็นเพื่อนสาวของเธอวิ่งตรงมาเนื้อตัวมอมไปด้วยโคลนและเปียกไปทั้งตัว ไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำ
“มีนา!! เกิดอะไรขึ้น” สายธารถาม แต่มีนากับไม่มีคำตอบ เธอวิ่งผ่านไป สายธารงงไปหมด และเมื่อชายหนุ่มที่วิ่งตามมาหยุดตรงหน้าสายธารจึงได้รู้ว่า เป็นพี่ชายของเธอเอง…
“พี่ชาย..! ไปทำอะไรมาถึงดูมอมแมมอย่างงี้ แล้วนี่วิ่งตามเพื่อนน้องทำไม หรือว่าพี่ทำอะไรยายมีนา” สายธารถามเอง และตอบทั้งหมด เธอมองพี่ชายตาเขียว ธนาตกใจตาตื่นส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“คนนี้หรือเพื่อนของเรา..พี่เปล่านะ เรื่องมันยาว รีบไปดูเพื่อนเราก่อนเถอะ” ธนาพูด สายธารจึงวิ่งตามมีนาไป
เมื่อมีนามาถึงก็รีบแกะกล้องของเธอก่อนจะเอาไดร์มาเป่า และเช็ดจนแห้ง สายธารเดินมาถึงพอดี
“มีนา เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ตัวเปียกมอมเชียว” สายธารถาม และมองหน้าเพื่อนสาวที่กำลังหน้าเครียด
“ไม่..เปล่า แต่กล้องฉันสิ” มีนาดูท่าทางเป็นกังวลจนหน้าเศร้า
“กล้องนี้..ดูมันคงจะมีความหมายกับเธอมากใช่ไหม” สายธารถาม
“ใช่ เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายของพ่อฉันก่อนที่ท่านจะเสีย” มีนาเช็ดกล้อง ก่อนจะประกอบให้มันเหมือนเดิม
“ฉันต้องขอโทษแทนพี่ชายฉันด้วยนะ” สายธารพูดทำให้มีนาถึงกับตะลึง ด้วยความตกใจ
“อะไรนะ เธอกำลังจะบอกฉันว่าไอ้คนเมื่อกี้เป็นพี่ชายเธองั้นเหรอ... ฉันฟังผิดไปใช่ไหม...” สายธารพยักหน้าตอบ
“เธอฟังไม่ผิดหรอก คนนั้นแหละพี่ชายฉันเอง..เธอสองคนรู้จักกันแล้วเหรอ” สายธารถามอย่างกล้าๆ กล้วๆ
“ใช่รู้จักแล้ว รู้จักดีด้วยสิ ถ้างั้นเราคงอยู่ร่วมบ้านกับเธอไม่ได้แล้ว” มีนา เดินไปยังตู้สื้อผ้าและดึงกระเป๋าออกมาหมายจะเก็บข้าวของใส่กระเป๋า
“เดี๋ยวก่อน!.. พวกเธอรู้จักกันแล้วเหรอ พี่ชายฉันทำอะไรเธอ”สายธารขัดขวางดึงกระเป๋าออกจากมือของมีนา
“เธอไม่รู้หรอก อีตานั้น คือ...” มีนาคิดถึงทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขายิ่งคิดเธอก็ยิ่งแค้นนัก
“เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องหนีเลยหรือ... ไหนน้องคุยกันคุยหน่าเพื่อนที่เราชื่นชม ที่แท้ก็...”ธนาอมยิ้มวางท่ากวนประสาทมีนา เธอมองด้วยความโกรธ จนดวงตากลมที่เคยสวยงามดุร้อนน่ากลัว สายธารหันทำหน้ายักษ์ตำหนิธนา
“นายจะพูดอะไรต่อ ที่แท้ก็อะไร”มีนาดูโกรธจนหน้าแดง เมื่อเห็นธนาทำทีไม่รู้ไม่ชี้สายธารต้องรีบไปห้ามไว้
“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ นะมีนา พี่ชายเงียบแล้วออกไปก่อนเลยนะ”สายธารดึงตัวธนาออกนอกห้องและค้อนใส่พี่ชาย
“นี่เหรอ...ยายน้องเพื่อนที่เราพูดถึงพี่ว่าตรงกันข้ามกับที่เราพูดถึงทุกประการเลยหละ” ธนายังคงแกล้งพูดไม่เลิก
“ยายน้อง นี่เหรอพี่ชายที่แสนดีของเธอ ไหนบอกว่าสุภาพไงเท่าที่เห็น เนี่ยไอ้ผู้ชายไร่มารยาทปากร้ายชัดๆ” มีนาตะโกนตอบ ขณะที่สายธารลากพี่ชายออกมาจากห้องของมีนา ไปยังห้องของธนาแล้วปิดประตู้ มองตาเขียวใส่ธนาอีกครั้ง
“พี่ชาย..ทำไมพี่ถึงแกล้งมีนาเขาอย่างนั้น ถ้ามีนาหนีกลับจริงๆ หละก็พี่เตรียมหาของแก้ตัวดีๆ ให้พ่อกับแม่ได้เลย น้องจะฟ้องว่าเพราะพี่แกล้งมีนา” สายธารทำหน้าดุและค้อนใส่พี่ชาย แต่ธนา ซึ่งยังอมยิ้มเห็นเป็นเรื่องตลก
“เอาเถอะน่า เพื่อนของเราเขาต้องอยู่ต่อแน่นอน กลับไปดูเพื่อนได้แล้วไป” ธนาเปิดประตู้ให้น้องสาว และทำหน้าทะเล้น สายธารค้อนเชิดหน้าใส่ธนาก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ที่ห้องอาหารของบ้าน ในวงโต๊ะรับประธานอาหาร มีนานั่งข้างๆ สายธารโดยมีพ่อของสายธารนั่งหัวโต๊ะและผู้เป็นแม่นั่งตรงข้ามสายธาร และที่นั่งตรงข้ามมีนาคือธนาทั้งคู่ยังคงทำสงครามกันด้วยสายตาและท่าทาง
“เป็นไงบ้างหนู กับข้าวบ้านเราพอจะทานได้ไหม” พ่ออาทรถามด้วยในหน้ายิ้มแย้ม
“ค่ะ..อ่อ..อร่อยมากเลยค่ะ” มีนาตอบอย่างตกใจ เพราะเธอมัวแต่สนใจกับการทำสงครามกับธนา จนธนานึกขัน
“เป็นอะไรไปลูก แม่เห็นว่าธนาแอบอมยิ้มตั้งนานแล้วนะ” ธนาหันไปยิ้มให้ผู้เป็นแม่
“ท่าทางเพื่อนของน้อง คงทานอาหารบ้านเราไม่เป็น ถึงเอาแต่เขี่ยข้าวไปมานะฮะ” ธนาพูด มีนาทำหน้าดุตาโตใส่ธนา ก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้กับทุกคนที่กำลังมองเธอ
“พี่ธนา..เงียบไปเลยนะ มีนาทานน้ำพริกอ่องสิ เป็นอาหารเหนือไม่เผ็ด” สายธารหันไปดุพี่ชายก่อนจะตักอาหารให้เพื่อนสาว มีนาหมั่นไส้ธนาอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำไงดี แต่แล้วเธอก็คิดออก..ก่อนจะยิ้มให้ธนาอย่างมีพิรุธและแล้วก็...
“อุ้ย..!” ธนาก้มลงลูบไปมาที่หน้าแข้งด้วยความเจ็บ และหันไปทำตาโตใส่เธอแต่มีนายิ้มเยาะ ทุกคนตกใจหันมองธนา
“เป็นอะไรธนา ทำตัวแปลกๆ นะเรา”ผู้เป็นพ่อถามขึ้น ธนากัดฟันหันไปมองตัวต้นเหตุ แต่พบว่ามีนากำลังทานข้าวอย่างสบายใจ เธอหัมมามองทำหน้าทะเล้นไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนทำหน้าซื่อมองธนาอย่างสงสัยเช่นเดียวกับทุกคน ที่รอคำตอบอยู่
“อ่อ..ไม่รู้สิครับ สงสัยโดยแมงกระจวดกัด” ธนาพูดขึ้นทำเอามีนาแทบสำรักข้าว สายธารลูบหลังให้เพื่อนรัก เจ้าหล่อนกัดฟันทำตาโตใส่ธนา การทานอาหารในค่ำคืนแรกกับครอบครัวที่นับได้ว่าแปลกหน้าสำหรับมีนา แต่ก็รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับที่เธอทานพร้อมครอบครัวของเธอที่บ้าน ยกเว้นแต่เจ้ากรรมที่นั่งตรงหน้าเธอที่ปั่นเธอเสียจริงๆ
สายธารกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำที่มหาวิทยาลัย แล้วเธอต้องตกใจเมื่อกลุ่มเจนจิตรที่ยืนขวางทางออก
“ยายเจน!... พวกเธอมาขวางทางฉันทำไม”สายธารถาม เธอยังคงจะเดินต่อ แต่เจนจิตรยังคงขวางทางเธออยู่
“ก็เปล่านี่ ฉันแค่อยากรู้จากปากเธอเท่านั้น ตกลงพี่ชายเธอกลับมาแล้วใช่ไหม” เจนจิตรถาม
“แล้วไง..เธอคิดว่าจะทำอย่างไง”สายธารถาม เธอนึกขำเมื่อเจนจิตรถามถึงพี่ชายของเธอ
“โธ่เพื่อนรัก ถึงเธอจะอยู่ข้างยายมีนานั้น แต่ฉันก็ยังเห็นเธอเป็นเพื่อนฉันเสมอนะ” เจนจิตรยิ้มอย่างมีความในใจ
“อย่าเลยเจน ฉันคงรับน้ำใจเธอไม่ไหว ถ้าอย่างไงฉันขอตัวนะ”สายธารยิ้มก่อนจะเดินผ่านวงของเจนจิตรออกไป เจนจิตรและเพื่อนมองตามจนสายธารเดินลับตา
“ยายน้องนี่ เปลี่ยนไปเยอะนะตั้งแต่คบกับแม่มีนานั้น ฉันว่าเธอน่าจะปรามๆ มันไว้บ้างนะ”ดาวล้อมพูด
“ช่างเถอะน่า อย่างไงฉันก็ยังหมายปองพี่ชายมันอยู่ ยายน้องมันไม่มีปัญญาทำอะไรฉันหรอก”เจนจิตรยิ้ม
สุธีเดินวนไปวนมาที่ห้องโถง และมองไปที่ประตูทางเข้าของคอนโดฯ จนพนักงานต้อนรับทนมองต่อไปไม่ไหว เดินตรงมาที่สุธี
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมค่ะ”พนักงานต้อนรับยิ้มอย่างเป็นมิตร ทำเอาสุธียิ้มตอบแบบเขินๆ
“เอ่อ..คือผมมารอคุณมีนานะครับ” สุธีตอบ และท่าทางยังคงเขินอาย
“ถ้าจำไม่ผิดคุณมาที่นี่ 2-3 ครั้งแล้วใช่ไหมค่ะ” สุธียิ่งเขินไปใหญ่ก่อนจะพยักหน้ายอมรับ
“ครับ...ผมคงมาผิดเวลามั่งครับ ถ้าอย่างไงผมขอตัวกลับก่อนแล้วกันครับ”สุธีก้มหัวก่อนจะหันกลับ
“คุณค่ะ คือว่าคุณมีนาไม่ได้บอกคุณหรือค่ะ เธอย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว” คำพูดนั้นทำให้สุธีหันกลับอย่าทันควัน
“ว่าอะไรนะครับ คุณมีนาย้ายออกไปแล้วนั้นเหรอ”สุธีถึงกับอึ้ง เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาพยายามถามรายละเอียดเท่าไหร่ พนักงานต้อนรับก็ไม่มีคำตอบมากกว่าไม่ทราบค่ะ สุธีเดินออกจากคอนโดฯ ด้วยความผิดหวัง…
ธนาเดินผ่านมาที่หน้าบ้าน เขายื่นแขนรับลม และสูดเอาอากาศอย่างสดชื่น ธนาตั้งใจจะเดินไปยังสนามหน้าบ้านเพื่อชื่นชมท้องฟ้าในยามค่ำคืน แต่เมื่อเดินมาถึงที่ประจำของเขา ก็มีคนอื่นมาจับจ้องอยู่ก่อนเสียแล้ว
“ยายน้องหรือเปล่าน่า”ธนารู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าใครกันที่อยู่ตรงนั้น เขาเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องรีบหลบ
“อ่อ..ยายตัวแสบนะนั่นเอง”ธนาเห็นในนาทีแรกที่เกิดความรู้สึกหมั่นไส้ แต่แล้วความรู้สึกนั้นก็หายไปเมื่อเขาเห็นเธอที่กำลังนั่งกอดเข่า มองดูดาวลักษณะท่าทางแบบนั้นกับรอยยิ้มเล็กๆ ของเธอ มันทำให้คนที่กำลังแอบมองอยู่ยิ้มตามเธออย่างไม่รู้ตัว ซึ่งมันต่างจากคนที่เขาเห็นยายตัวแสบคนนั้นราวกับคนละคน
“ดูอ่อนโยนกับเขาก็เป็นหรือ”ธนานึกขันในใจ แต่ทันใดนั้น ต้นไม้ที่เขากำลังพิงอยู่ก็ล้มลงทำให้ธนาล้มลงไปด้วย
“ฮู้ย.!!”เสียงร้องของธนาบวกกับเสียงล้มของต้นไม้ ทำให้มีนาตกใจหันมองทันควัน
“ใครกันนะ..!” มีนา ลุกขึ้นยืนและเดินมาดูใกล้ๆ ก็พบว่าธนากำลังลุกลี้ลุกลนหมายจะหนี แต่ไม่ทันซะแล้ว
“เอ่อ...ผมเดินซุ่มซ่ามไปหน่อยเลยชนต้นไม้เข้า หวังว่าคงไม่ทำให้คุณเสียบรรยกาศดูดาวหรอกนะ” ธนารีบแก้ตัว
“นายนั่นเอง แล้วรู้ได้อย่างไงว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่...แอบดูฉันเหรอ” มีนาจ้องมองจับพิรุธ
“เอ้า..ถ้าคุณไม่มองดาวแล้วคุณจะมองอะไร ที่ตรงนั้นผมนั่งมองดาวประจำ” ธนารีบแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ
“ชิ..”มีนาทำหน้าเบ้ ด้วยความหมั่นไส่ และเชิดหน้าเดินผ่านธนาเข้าไปในบ้าน
“อ้าว..ไม่นั่งต่อหรือคุณ..เอ๋ ตกลงว่าเมื่อกี้ นั่งมองดาวหรือนั่งคิดถึงแฟนกันเอ่ย..” ธนาทำหน้าทะเล้นยั่วประสาทเดินตามมาถากถางเจ้าหล่อนต่อ มีนาหันกลับมาด้วยคำพูดอันเสียมารยาทของเขา มองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“เรื่องของฉัน ตรงนั้นมันที่ของนายใช่ไหม..ฉันจะไม่แตะต้องมันอีก เชิญสิงสถิต อยู่ตามสบายเถอะยะ” มีนาเชิดหน้าเดินหนี ธนาขมวดคิ้วคิดตามก็พบว่า...
“อ้าว...นี่คุณ ผมไม่ใช่ผีนะ ใช่คำว่าสิงสถิตไม่ได้นะ”ธนาตะโกนตามหลัง เธอหันกับมายิ้มเยาะให้เขาอีกครั้ง
“งั้นเหรอ...ดูไม่ออกเลยนะเนี่ย... ฉันคิดว่าพวกเดียวกันซะอีก..คนผีทะเล”มีนาทำหน้าทะเล้นแลบลิ้นปิ้นตาใส่เขา
“คนอะไรเวลาโกรธหน้าตาตลกเป็นบ้า” ธนายังคงนึกขำท่าทางของหญิงสาวแสนงอน และขี้โมโหหล่อน มันช่างตลกและน่าขำเป็นที่สุด ทำให้บรรยากาศ การมองท้องฟ้าในค่ำคืนนี้มีสีสันขึ้นเยอะทีเดียว…ต่างกับมีนาที่เดินบ่นพึงพลำมาตลอดทางจนถึงห้องของเธอ และนั่งลงกับเตียง เธอทั้งหมั่นไส้ ทั้งหงุดหงิดกับเจ้าตัวปัญหายิ่งนัก
“ฉันจะทนอยู่ได้สักกี่วันเนี่ย..ต้องเจอหน้าไอ้คนบ้านี่ ทุกวันๆ มีหวังห้ามใจฆ่าหมอนั่งไม่ได้เข้าสักวัน”มีนาพูดกับตัวเอง และเมื่อเธอมองไป เห็นรูปครอบครัวของเธอที่อยู่หัวเตียงนั้นเธอก็ต้องยิ้มและจับมันขึ้นมามองด้วยความคิดถึง
“แม่ค่ะพ่อค่ะ..มีนาจะทำอย่างไง กับไอ้หมอนั้นค่ะ”เธอถามกับรูปพ่อและแม่ที่ยิ้มด้วยใบหน้าอันโอบอ้อมอารี
“หวังว่าแม่คงสบายดี และไม่เหงาเหมือนมีนา พ่อจ๋าคอยอยู่ข้างๆ ดูแลแม่ด้วยนะค่ะ...ราตรีสวัสดิ์นะค่ะ”มีนาบรรจงจูบรูปครอบครัว และวางมันไว้ที่เดิมก่อนเปิดไฟเข้านอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ