สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ

6.2

เขียนโดย แสงจันทรา

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.50 น.

  24 ตอน
  1 วิจารณ์
  35.97K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

17)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                สุธีถูกลากตัวมายังหลังบ้านเมื่อได้รับโทรศัพท์จากสายธารให้มาที่บ้านด่วนโดยไม่ได้บอกอะไรสักอย่าง
     “มีอะไรเป็นความลับมากหรือ ถึงบอกทางโทรศัพท์ไม่ได้”สุธีพูดขึ้นเมื่อสายธารนั่งลงตรง
     “คือว่า...เอ่อ เดี๋ยวนะรอมีนาก่อน”สายธารพูดไม่ออก เธอรอมีนาที่กำลังเดินถือน้ำส้มตามมาที่หลัง
     “ว่าไงครับคุณมีนา...มีอะไรกันหรือ”มีนามองหน้าเพื่อนสาวเหมือนจะถามว่ายังไม่พูดอีกหรือ สายธารส่ายหน้า
     “เอ่อ คือ...ถ้าคนติดยาบ้าแล้วคิดจะเลิก ต้องทำอย่างไงค่ะ”มีนาถามแบบกล้าๆ กลัวๆ สุธีตกใจยืนมองทั้งสอง
     “ใครครับ น้องบอกพี่มาสิว่าใครติดยา”สุธีเสียงดุขึ้น หันไปมองสายธาร เธอหลบหน้าเขาทันที
     “เอ่อ..ไม่ใช่พวกเราหรอกค่ะ เพื่อนนะค่ะ”มีนารีบพูด ดูจะกลัวสายตาของสุธีเอามาก หลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมด สุธีจึงให้คำแนะนำ ไปอย่างละเอียด
     “แต่ทางที่ดีพี่คิดว่าควรจะไปให้หมอดูแลมากกว่า ไม่งั้นถ้ารักษาไม่ถูกวิธีอาจทำให้ลงแดง อันตรายถึงชีวิตได้” สุธีพูดขึ้น ทำเอาทั้งมีนาและสายธารตาโตอย่างคาดไม่ถึง ทั้งสองจึงปรึกษากันดูอีกครั้งก่อนจะไปพูดกับพวกเจนจิตร
 
                ในเย็นวันศุกร์ มีนาและสายธารเดินลงจากรถทั้งสองดูจะเหนื่อยและเพลียเอามาก เมื่อนั่งลงที่โซฟา
     “นี่ไม่บอกไม่รู้นะว่าไปเรียนกันมา”เสียงดังออกมาจากประตูของห้องรับแขก ธนากำลังกอดอกยืนยิ้มให้ทั้งสอง
     “พี่ชาย...กลับมาแล้วเหรอ”สายธารถามด้วยท่าทางที่ยิ้มไม่ค่อยจะออกนัก แต่มีนากับยิ้มและรู้สึกมีแรงขึ้นเยอะ
     “ไปทำอะไรกันมาหรือถึงได้หมดเรียวหมดแรงอย่างนี้”ธนาหันไปถามมีนา และยิ้มให้กับเธอ
     “ธุระสำคัญ เรื่องของผู้หญิงค่ะ”มีนาตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เธอยังน้อยใจเรื่องคราวก่อน
     “ใช่ค่ะ คราวนี้จะอยู่สักกี่วันค่ะ”สายธารก็เอาด้วยอีกคน ทั้งสองลุกขึ้นเดินหนีขึ้นบ้านไป ทำให้ธนาฉงนงงงวย
     “อะไรกันเนี่ย ถามดีๆ กับทำค้อนใส่สะอย่างนั้น”ธนาเกาหัวก่อนจะเดินตามขึ้นไป
 
                เช้าอีกวันรถของสุธีมาจอดที่หน้าบ้านแต่เช้า ธนามองลงไปเห็นมีนาและสายธารออกไปต้อนรับ ทั้งสามเหมือนกำลังพูดอะไรกันอยู่ ก่อนจะพากันไปนั่งที่สวนหลังบ้าน ธนามองตามด้วยความสงสัย
     “อื้อ..แล้วเพื่อนๆ เป็นไงกันบ้าง”สุธีถามขึ้นเมื่อสองสาวนั่งลงตรงหน้า แต่สีหน้าก็น่าจะตอบได้ว่าล้มเหลว
     “พี่แนะนำว่าเราควรจะพาเพื่อนมาหาหมอผู้เชียวชาญดีกว่านะ”สุธีชักจะเป็นห่วงเสียแล้ว
     “คุยเรื่องอะไรกันอยู่”ธนาถามขึ้น ทำให้ทุกคนในวงหันไปมองก่อนจะพากันเงียบไปเสียหมด
     “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”สุธีพูดขึ้นเพราะเหมือนจะไม่มีใครยอมพูดสักคน
     “แหม..ฉันไม่อยู่นายก็เข้า-ออก บ้านฉันได้สบายแหละสินะ”ธนาหันไปประชดเพื่อนรัก เพราะคิดว่ามาหามีนา
     “มาถึงก็ไล่แขกเสียงแล้ว”สายธารตำหนิพี่ชายที่ดูพาลไปหาเรื่องสุธี ธนาดูเหมือนว่าเป็นส่วนเกินจึงเดินหนีไป
     “สงสัยมันจะโกรธนะ น้องไม่นานพูดขนาดนั้นเลย”สุธีตำหนิสายธาร และมีนามองตามด้วยความเป็นห่วง
     “มีนาช่วยไปดูพี่ชายฉันหน่อยสิ ผู้ชายอะไรขี้ใจน้อยชะมัด”สายธารพูดมีนาทำหน้างง ที่จะต้องรับหน้าที่นี้ แต่แล้วเธอก็ยอมไปแต่โดยดี มีนาตามหาธนาจนรอบก็ไม่เจอ และเรือนดอกไม้เป็นที่สุดท้ายที่เธอหาเขา และเมื่อมองไปเห็นธนากำลังนั่งหลับตาอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ต้นเดิมที่มีนาเคยเผลอหลับ มันทำให้เธอนึกถึงตัวเองวันนั้น
     “ว้า..ไม่ยักรู้มาก่อนเลยนะว่าคนแถวนี้ก็ขี้ใจน้อยเหมือนกัน”มีนาพูดเมื่อเดินมาหยุดตรงหน้าธนาและก้มมองจนหน้าของเธอและเขาห่างกันแค่คืบเท่านั้น ธนาลืมตาขึ้นมา เขาก็ต้องตะลึงเมื่อสบตากับเธอ มีนาตกใจเธอรีบยืนนิ่ง
     “ใครกันคนแถวนี้ พี่ไม่เห็นมีใครเลย”ธนาอมยิ้มเมื่อเห็นมีนามีท่าทางเขินอายจนหน้าแดงเหมือนลูกตำลึง
     “ก็พี่นั้นแหละ..”มีนาพูดจบและกำลังจะเดินหนีไป ธนารีบคว้ามือของเธอเอาไว้ มีนาตกใจหันไปมองสบตาเขา
     “จะรีบไปไหนฮื้อ”ธนายิ้ม และดึงมือให้เธอนั้นลงข้างๆ เขา มีนารู้สึกเขินอายใจเต้นๆ ราวกับจะหลุดออกมา
     “มีนาจำได้ไหม ต้นไม้ต้นนี้มีอะไรอยู่”ธนาถามขึ้น มีนาหันไปมองด้วยความสงสัย
     “มีอะไรค่ะ?...”มีนามีท่าทางฉงนใจ คิด
     “ว้า!! พี่นึกว่าเรา จะจำได้ซะอีก”ธนาพูดน้ำเสียงผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังคงยิ้ม และพูดต่อไปว่า
     “ใต้ต้นไม้ต้นนี้มีสัญญาของเราไง พี่ว่าจะเปลี่ยนสัญญากันสักหน่อย มีนาจะว่าอย่างไง”ธนาถามอีกครั้ง
     “เปลี่ยนสัญญางั้นเหรอ อย่างไรค่ะ”มีนาถามด้วยท่าทางของคนขี้สงสัย ธนายังคงอมยิ้มเมื่อมองดูหน้าของเธอ
                สายธารชะเง้อมองเหมือนว่ากำลังรออะไรบางอย่าง จนสุธีอดสงสัยไม่ได้
     “มองจนคอยืดคอยาวหมดแล้วนะ รอมีนาอยู่เหรอ”สุธีถามและยิ้มมื่อสายธารหันมามองดูสีหน้าบึ้งตรึง
     “ค่ะ น้องลืมไปว่าสองคนนั้นเขาไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่ มีนาเคยพูดว่าเกียจขี้หน้าพี่ธนามาก”สายธารพูด
     “งั้นหรือ เท่าที่พี่เห็นพักหลังๆ พวกเขาดูจะเข้ากันได้ดีออก”สุธีพูด และหันไปมองที่หน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถ
     “ใครมากันนะ”สายธารหันกลับมามองสุธีหน้าท่าที่สงสัย ก่อนที่จะเดินออกไปดู ก็ทำให้สายธารไม่พอใจมาก
     “ใครมาหรือ ทำไมน้องถึงทำหน้าอย่างนั้นหละ”สุธีถามขึ้น เมื่อสายธารเดินหน้ายุ่งกับมานั่งที่เดิม แต่แล้วคำตอบนั้นก็แสดงอยู่ตรงหน้าของสุธี นิษา ดูจะตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นหน้าของสุธีที่บ้านของธนา เธอมาเพื่อพบธนา
                ธนาขุดเอาผ้าที่ห่อกล่องเป็นที่เก็บสัญญาของพวกเธอขึ้นมาทั้งสองเข้าไปยังบ้านพัก หลังเล็ก ก่อนจะหยิบเอาสัญญานั้นขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ธนาอ่านจบมัน และเข้าไปหยิบกระดาษและปากกามานั่งตรงหน้าของมีนา
     “เรามาทำสัญญากันใหม่เถอะ”ธนาพูด มีนายังคงไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่ธนาต้องการมันคืออะไรกันแน่
     “สัญญาเรื่องอะไรค่ะ”มีนาถาม ธนาไม่มีคำตอบนอกจากรอยยิ้มก่อนจะลงมือเขียน
     ข้อที่ 1. ยกเลิกสัญญาสงบศึกเพราะเราจะเป็นมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป
     ข้อที่ 2. ต่างฝ่ายจะดูแล เอาใจใส่อีกฝ่ายด้วยความจริงใจ
     ข้อที่ 3. ห้ามมีความลับระหว่างกันและกัน เราจะเปิดเผยให้อีกฝ่ายรู้ทุกเรื่อง
     “โฮ้ สัญญาทาสหรือเปล่านี่ทำไมมันถึงได้โหดแบบนี้ มีนาจะทำได้อย่างไง”มีนาแย้งขึ้นมาธนายิ้มวางท่าเฉย
     “ขี้โกงชะมัดเลย งั้นเพิ่มข้อที่ 4. ห้ามอีกฝ่ายแต่งงานก่อน จนกว่ามีนาจะมีแฟนและแต่งงานก่อน”มีนายิ้มขึ้นบ้าง
     “เอาอย่างนั้นเลยเหรอ พี่ว่าคงพากันขึ้นคานทองแน่นอน ถ้างั้นข้อสุดท้าย”ทั้งคู่สบตากันและพูดขึ้นว่า
     “ข้อ 5. แฟนของอีกฝ่ายจะต้องผ่านการยอมจากอีกฝ่ายเสียก่อนถึงจะคบกันได้”ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะจับมือเซ็นสัญญากันอีกครั้ง และนำกลับไปฝังไว้ที่เดิม มีนาแกล้งทำเชิดใส่ธนา แต่ธนากับยิ้มด้วยความดีใจ
                ทั้งสองนั่งคุยกันจนเวลาผ่านไปนานถึง 2 ชั่งโมง มีนา ถึงนึกได้ว่า สุธีและสายธารรออยู่ที่บ้าน
     “ตายหละ เรากลับกันเถอะค่ะ คุณสุธี กับน้องคงรอเราอยู่”มีนาท่าทางร้อนใจทำให้ธนาคิดว่าเธอเป็นห่วงสุธี
     “กลัวสุธีรอนานหละสิ ฮื้องั้นก็กลับเถอะ”ธนาพูดจบก็เดินนำมีนาไป มีนามองตามด้วยความหมั่นไส้จนทำหน้าลิงลับหลังเขา ธนาหันกลับมามีนาเกือบยิ้มแทบไม่ทัน เธอยังยืนอยู่ที่เดิม ธนาจึงเดินกลับมาจูงมือเธอ
     “ไปกันเถอะ... ไหนว่ารีบนักหนาหละ”ธนาอมยิ้มเพราะเจ้าหล่อนเดินงงๆ ตามแรงจูงของธนา
 
                นิษามองดูที่ประตูจนคอยืดคอยาว ก็ไม่เห็นวี่แววของธนา เธอนั่งร่วมกลุ่มสายธารและสุธี ทั้งสองมองหน้ากันและการสนทนามันก็จบไปนานตั้งแต่นิษานั่งอยู่ตรงนั้น สายธารทนความอึดอัดไม่ไหว เธอถอนหายใจใหญ่และกำลังจะลุกขึ้น สุธีจับมือเธอไว้ใต้โต๊ะ มีท่าทางเหมือนจะบอกว่าช่วยนั่งอยู่ก่อนได้ไหม สายธารจำต้องนั่งต่อ
     “มาแล้ว”นิษาดีใจเมื่อเห็นธนาเดินมา แต่แล้วหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เพราะอีกมือหนึ่งธนาจูงมีนาให้เดินตามทั้งสองหยอกล้อกัน จนมีเสียงหัวเราะร่าเริง สายธารมองดูก็อดที่จะหัวเราะท่าทางของนิษาไม่ได้เธอโกรธจนหน้าแดง
     “ธนา..กล้าทำขนาดนี้เชียวเหรอ”นิษาโกรธและกำลังจะเดินไปยังทั้งสองคนนั้น สายธารและสุธีตกใจวิ่งตามไป
     “นี่มันอะไรกันค่ะ ธนาคุณปล่อยแม่นี่เดี๋ยวนี้นะ”เสียงแหลมๆ จนแสบแก้วหูดังขึ้นตรงหน้าทั้งธนาและมีนาตกใจ ยืนมองผู้หญิงที่ท่าทางโกรธเป็นฝืนเป็นไฟกำลังแผงฤทธิ์อยู่ตรงหน้า มีนาดึงมือของเธอออกจากมือของธนา
     “นิษา...คุณมาทำอะไรที่นี่”ธนาถามขึ้นอย่างไร้เยื่อใย หลังจากที่สบตาอันเศร้าของมีนาจนเขารู้สึกใจหาย
     “นี่หรือ..คนรักกันเขาถามกันแบบนี้นะเหรอ”นิษาเสียงแหลมด้วยความโมโหอีกครั้ง มีนาทนฟังต่อไปไม่ไหว เธอเลือกที่จะเดินหนีไป สายธารวิ่งตามเพื่อนสาวเข้าไป สุธีมองนิษาแล้วนึกสมเพช นี่หรือผู้หญิงที่เคยหลงรัก เขาคิดได้อย่างนั้นก็เดินตามสายธารเข้าไปในบ้าน มีนาถูกสายธารดึงตัวเอาไว้ทันก่อนที่เธอจะเดินขึ้นบ้าน
     “เดี๋ยวก่อนมีนา เธอโกรธยายนั้นเพราะคำพูดของหล่อน หรือเพราะเธอโกรธพี่ธนา”สายธารถามขึ้น มีนาหยุดคิด
     “ไม่หรอกฉันไม่ได้โกรธใครสักหน่อย เธออย่างลืมสิฉันนะเกลียดพี่ชายเธอจะตาย ที่เราดีกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะสัญญาสงบศึกต่างหาก”มีนาพูด ปากกับใจของเธอจะตรงกันหรือเปล่านั้น มันเดาไม่อยากเลยจากสายตา และน้ำตานั้นก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุดอยู่แล้ว สุธีมองดูเห็นมีนากำลังร้องไห้อยู่ แต่เขาก็ได้ยินมันชัดเจน
     “สัญญา..สัญญาอะไรนะ”สุธีคิด เช่นเดียวกันกับสายธารที่ต้องปล่อยให้มีนาขึ้นไปในห้อง เธอหันกลับมาพบสุธี
     “พี่ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”สายธารถามขึ้น เพราะสายตาที่สุธีมองตามมีนาอย่างห่วงใย
                สุธีและสายธารกำลังนั่งมองดูธนาและนิษาคุยกันอยู่ ไม่รู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกัน แต่สายธารพอจะเดาออกเพราะภาพแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว มันคงไม่พ้นคำตอบเดิม เพราะนิษาที่อ้อนวอน และคำควรจนน่าสงสาร
      “คราวนี้ ก็คงเหมือนคราวนั้น”สายธารพูดขึ้น สุธีมองตามสายตาของเธอที่ดูเศร้าและเสียใจมากเป็นที่สุด
     “เชื่อใจธนาเถอะนะ เชื่อเถอะว่าคนอย่างนิษาไม่มีวันที่จะไปใช้ชีวิตอยู่บนดอยอย่างนั้นได้หรอก”สุธีปลอบใจ
     “นั้นสินะ แต่พี่ก็คงไม่เหลือใคร น้องสงสารพี่”สายธารพูดและน้ำตาคอเหมือนจะไหลออกมา สุธีขยับไปใกล้ๆ
     “อย่างห่วงไปเลย ทุกอย่างมันต้องออกมาด้วยดี”สุธีพูดจบ สายธารตาโตด้วยความตกใจจนสุธีมองตาม ธนากำลังกอดอยู่กับนิษาอยู่ที่หน้าบ้าน และมันคงเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด ในสายตาของสายธาร สุธี และมีนาที่กำลังยืนมองอยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง ทำไมภาพนั้นมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดมากมายขนาดนี้นัก จนห้ามน้ำตาไม่ไหว
 
                วันต่อมาธนาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องของเขาที่อยู่ติดกับห้องของมีนา สายธารเดินออกมาเจอพอดี
     “พี่เดินทำอะไรอยู่ค่ะ”สายธารถาม ธนามีท่าทางเป็นพิรุธ ก่อนจะส่ายหน้าและเดินเข้าไปในห้อง สายธารเดินลงไปด้านล่าง และร่วมโต๊ะทานข้าวเช้ากับผู้เป็นพ่อและแม่
     “น้องแล้วมีนาหละ”พ่ออาทรถามด้วยความเคยชิน ทั้งสายธารและแม่ดาวเรืองมองและนึกขำ
     “ลืมไปแล้วหรือค่ะ หนูมีนากลับไปอยู่คอนโดแล้วไง เมื่อคืนคุณยังรับไหว้เธออยู่เลย”แม่ดาวเรืองยิ้มทำให้พ่ออาทรนึกขึ้นได้ สายธารนึกถึงเรื่องเมื่อคืนหลังจากที่ธนาออกไปส่งนิษากลับบ้าน มีนาก็เก็บข้าวของเสร็จพอดี
     “น้องฉันอยากกลับไปอยู่คอนโด เธอช่วยหาวิธีบอกคุณลุงคุณป้าได้ไหม”มีนาเช็ดน้ำตาจนแห้งแต่ก็เหลือคาบน้ำตา ทำให้สายธารอดสงสารเธอไม่ได้ ถึงมีนาจะปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้คิดอย่างไงกับธนา แต่สายตามันก็ฟ้อง
     “ปะฉันจะบอกพ่อกับแม่ว่า แม่ของเธอมาทำธุระที่เชียงใหม่หลายวันและเธอต้องย้ายกลับไปอยู่คอนโด เอาตามนี้นะ”สายธารพูด เพราะเธอรู้ดีว่าการที่มีนาอยู่ที่นี่ มันอาจจะทำให้เพื่อนรักของเธอเจ็บปวดไปมากกว่านี้
 
                ธนาเดินวนไปวนมาที่หน้าห้องอยู่นาน สายธารก็ออกไปเรียนแล้ว ทำไมมีนายังไม่ออกจากห้องหรือเธอจะไม่สบาย เมื่อธนาคิดได้อย่างนั้นเขาจึงตัดสินใจเคาะประตู แต่เมื่อเคาะอยู่นาน เขาจับลูกบิดจึงรู้ว่าห้องไม่ได้ล็อก
     “มีนา พี่เข้าไปนะ”ธนาพูดก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ธนาตกใจเมื่อในห้องเหลือแต่ความว่างเปล่า เหมือนไม่มีใครอยู่ เขาเปิดดูตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก มีแต่ความว่างเปล่า ธนารู้สึกผิดหวัง เขากำลังจะเดินออกไป แต่สายตาก็ไปสะดุดกับ
     “กระถางกุหลาบ เธอคงโกรธพี่มากสินะ ถึงไปโดยไม่ลา ไปโดยไม่เอาเจ้าไปด้วย”ธนาพูดกับต้นกุหลาบ ก่อนจะนำมันออกไป ด้วยสายตาเศร้าอย่างผิดหวัง สายธารกลับมาพอดี กับที่ธนาเดินออกมาจากห้องของมีนา
     “พี่เข้าไปทำอะไรที่ห้องนั้นค่ะ”สายธารถามขึ้น ธนามองน้องสาวแต่ก็ไม่มีคำตอบใดๆ
     “พอดีแม่ของมีนาขึ้นมาเชียงใหม่ เธอก็เลยต้องกลับไปอยู่ที่คอนโด และอาจจะไม่กลับมาที่นี่อีก”สายธารพูด เธอไม่ได้อยากทำร้ายความรู้สึกของพี่ชายเธอ แต่เธอไม่รู้เลยว่าใจของธนาก็เจ็บปวดมากสักแค่ไหน ที่เธอไปโดยไม่ลา
      ส่วนมีนากลับมาจากเรียนเธอเริ่มเก็บข้าวของให้เข้าที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าลืมอะไรบางอย่าง
     “เอ๋...กระถางกุหลาบเราหยิบมาด้วยหรือเปล่านะ”มีนาหาจนทั่วก็ไม่มี เธอคิดว่าคงลืมมันไว้ที่โน้นแน่
 
                สายธารเดินเข้ามาเห็นเจนจิตรทำลับๆ ล่อๆ เธอจึงเดินเข้าไปจับไหล่ ทำให้เจนจิตรตกใจจนตัวสั่น
     “ยายน้อง เธอทำให้ตกใจหมดเลยรู้ไหม”เจนจิตรหันกลับมาตำหนิสายธาร สายตาที่มองอย่างคนทำความผิด
     “เธอจะไปไหน ไปทำอะไร”สายธารถาม ขณะเดียวกันมีนาและมินทร์ตาเดินเข้ามาพอดี เจนจิตรยังคงวางท่า
     “เปล่าฉันจะไปหาเพื่อนๆ ของฉันนะสิ โน้นพวกของเธอมาโน้นแล้วฉันไปนะ”เจนจิตรเปลี่ยนไปเยอะ แต่เธอก็ยังคงหยิ่งโยส ตามฟร์อมของเธอเหมือนเดิม มีนามองตามเจนจิตร สายธารจึงบอกไปว่าไม่มีอะไรมากไม่ต้องห่วง
     “งั้นเหรอ.. อื้อน้องรู้สึกว่าฉันลืมของบางอย่างที่บ้านของเธอนะ”มีนานึกขึ้นได้ แต่ดูท่าทางเธอดูจะกังวลใจอยู่
     “ก็กลับไปเอาสิ พี่ธนากลับดอยไปแล้วหละ วันนี้แวะไปที่บ้านดีกว่านะพ่อกับแม่ฉันถามหาเธอ ฉันขี้เกียจจะโกหกแล้ว เธอกลับไปแก้ตัวเองเถอะ”สายธารพูด มีนาคิดและรับปากว่าเธอจะไปและให้มินทร์ตาไปเป็นเพื่อน
 
                หลังจากที่คุยกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้วมีนาขออนุญาติขึ้นมาในห้องพร้อมด้วยสายธารเธอหาของที่ลืมอยู่เป็นนานก็ไม่เห็นของสิ่งนั้น สายธารจะช่วยหาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรมีนาไม่ยอมบอก มีนาดูจะผิดหวังอย่างมาก
     “เห็นหรือเปล่า...”สายธารถามมีนาส่ายหน้าและนั่งลงกับเตียงอย่างอ่อนใจ มันหายไปได้อย่างไงกันนะ
     “อื่อห้องนี้ก็ไม่มีใครเข้ามานะ มีแต่แม่บ้านที่มาทำความสะอาดหลังจากเธอย้ายออกไป แต่ก็ไม่เห็นพูดถึงของมีค่าอะไรที่เธอจะลืมมันได้”สายธารพูด มีนาทำหน้าผิดหวัง จนสายธารคิดว่ามันคงมีค่าหรือมีราคาอย่างมาก
     “มันก็ไม่ใช่ของที่มีราคาอะไรหรอก ช่างมันเถอะฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน”มีนาเดินคอตกลงมาและลากลับ
                บนดอยธนากำลังปะคบปะงม กุหลาบน้อยอย่างดี เขาดูแลมัน และพูดกับมันเหมือนว่า มันเป็นตัวแทนของมีนา ธนาคิดถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอก็ยิ่งรู้สึกเศร้าใจเมื่อคิดว่ามีนาคงเกลียดเขาจนไม่อยากมองหน้า
     “มีนา ทำไมเธอไม่ยอมลาพี่สักคำนะ เธอคงเกลียด ไม่อยากเห็นหน้าของพี่ใช่ไหม”ธนาพูดกับกระถางกุหลาบด้วยความรู้สึกน้อยอกน้อยใจ และเช่นเดียวกันที่มีนากำลังมองดูท้องฟ้าระเบียงคอนโดเธอมองเห็นดาวไม่ชัดเหมือนอยู่ที่ไร่ภูอาทร แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกนึกถึงใครบางคนที่นั้น มีนาพยายามที่จะลืมๆ ความรู้สึกเหล่านั้น เธอไม่อยากหาคำตอบว่ามันจะเป็นความรู้สึกแบบไหนก็ช่าง เธอเลือกที่จะฝังมันเอาไว้ในใจมากกว่าที่จะคิดถึงมัน
     “พี่ธนา...ลาก่อนค่ะ ไม่มีพี่ธนาอีกต่อไปไม่ว่ามันจะเป็นความรู้แบบไหน ฉันก็จะไม่มีวันนึกถึงมันอีก มันจะเป็นเหมือนตะกอนที่จะนอนนิ่งอยู่ก้นแก้ว ก้นบึกของหัวใจ”มีนาพูดกับตัวเองและน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ได้รับเชิญ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา