สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ

6.2

เขียนโดย แสงจันทรา

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.50 น.

  24 ตอน
  1 วิจารณ์
  36.50K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

16)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หนึ่งอาทิตย์ต่อมาธนาลงมาจากดอย และเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีมีลอยยิ้มแห่งความหวังแต่แล้ว..บ้านกับเงียบไม่มีใครอยู่สักคน นายปี่ลูกคนงานคนสนิทของธนาวิ่งออกมาต้อนรับอย่างปิติ

     “คุณธนา...มาแล้วหรือครับผมคิดว่าคุณจะไปอยู่บนดอยตลอดไปเสียอีก”นายปี่พูดไปหัวเราะไป

     “ปี่ คนบ้านนี้ไปไหนหมด”ธนาถาม เมื่อสำรวจดูรอบๆ แล้วไม่มีใครอยู่ที่บ้าน นายปี่จึงแจ้งรายละเอียดให้ทราบ

     “อ่อ..แล้ว เอ่อ..แล้ว”ธนาอ่ำๆ อึ้งๆ ถาม และยังคงมองขึ้นไปบนบ้าน เหมือนกำลังมองหาใครบางคน

     “คุณธนามองหาใครหรือครับ หรือว่ามองหาคุณมีนา”นายปี่พูดขึ้นทำให้ธนาหันกับมามอง

     “เอ่อ..อื้อ..”ธนายอมรับแต่โดยดี

     “คุณมีนากลับกรุงเทพตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ก่อนไปผมเห็นเธอไปที่เรือนดอกไม้” ธนาคิดถึงคำพูดของนายปี่ เพราะมันทำให้เขารู้สึกผิดหวัง ธนาเดินมาเรื่อยๆ จนถึงเรือนดอกไม้

     “พี่มาช้าไปสินะ”ธนาพูดกับตัวเอง เมื่อเดินมาถึงบ้านพักเขามานั่งลงตรงระเบียงที่มองไปด้านหน้าเป็นต้นไม้ใหญ่ ธนานึกขำขึ้นมา เหมือนว่ากำลังเห็นอะไรบางอย่าง ใช่แล้วเขากำลังนึกถึงภาพที่เคยเห็นมีนาหลับที่ใต้ต้นไม้

     “เธอจะเป็นอย่างไงแล้วตอนนี้ พี่น่าจะมาให้เร็วกว่านี้ใช่ไหม”ธนานั่งเหม่อใจลอยคิดถึงมีนา อยู่เป็นนาน

                “แม่ค่ะ นั่นรถพี่ธนาใช่หรือเปล่าค่ะ”สายธารถามเมื่อมองไปเห็นรถที่จอดอยู่ตรงหน้า สายธารรีบวิ่งเข้ามาในบ้าน โดยมีพ่อและแม่เดินตามเข้ามา พ่ออาทรแอบดีใจ แต่ต้องว่างท่าเฉย เมื่อเดินมาถึงลูกชาย ที่กำลังยิ้มให้

     “สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”ธนาพูด และหันกลับไปยิ้มให้สายธารที่โผเข้ากอดด้วยความดีใจ

     “ทำไมพี่ถึงไม่กลับบ้านเลยค่ะ”สายธารถามขึ้น ธนาหันไปมองผู้เป็นพ่อ ที่ว่างท่าทีไม่พอใจก่อนเดินออกไป ทุกคนพากันเงียบและมองตามพ่ออาทร

     “น้องขอโทษนะค่ะ คือน้องไม่น่าถามอะไรอย่างนั้นเลย”สายธารทำสีหน้าสำนึกผิด ธนาอมยิ้มและขยี่หัวเธอ

     “เดี๋ยวผมไปคุยกับคุณพ่อนะครับ”ธนาขอตัวเดินตามผู้เป็นพ่อไป เขาถอนหายใจใหญ่เมื่อมองเห็นผู้เป็นพ่อกำลังนั่งหน้าเครียดอยู่ เขาเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ผู้เป็นพ่อ

     “พ่อครับ พ่อสบายดีใช่ไหม โรงเรียนของผมกำลังไปได้ด้วยดีเลยครับ ผมอยากให้พ่อไปเห็น”ธนาพูด แต่พ่ออาทรเอาแต่เงียบ เมื่อ ธนาพูดจบแล้ว และไม่มีวี่แววว่าผู้เป็นพ่อจะหันมาคุยด้วย เขาจึงเดินออกไป พ่ออาทรมองตามผู้เป็นลูกด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความคิดถึง และห่วงใย แต่ทำไมเขาถึงพูดมันไปออก มันเป็นความรู้สึกขัดแย้งอยู่ในใจ

 

                ธนาเดินเข้ามาในโรงพยาบาลเพื่อจะไปพบเพื่อนรัก พร้อมของฝาก ด้วยท่าทางดีใจเมื่อคิดถึงหน้าสุธี

    “สุธีค่ะ ฉันถามคุณจริงๆ เถอะคุณจะตัดใจจากฉันได้แล้วจริงๆ หรือค่ะ ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้รักเพื่อนของคุณแล้ว คุณจะกลับมารักฉันอีกครั้งไม่ได้หรือค่ะ”เสียงผู้หญิงดังมาจากด้านใน และเสียงนั้นคุ้นหูธนามาก เขาแอบฟังอยู่

     “นิษา คุณอย่ารื้อฝื้นเรื่องเก่าอีกได้ไหม ผมเคยรักคุณก่อนที่จะรู้ว่าคุณเป็นคนรักของเพื่อนผม แค่นี้ผมก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว แต่นั้นมันก็ผ่านไปนานกว่า 5 ปี คุณจะพูดมันขึ้นมาเพื่ออะไร”สุธีพูดหน้าเครียด นิษาจับมือของสุธี

     “ฉันไม่มีใคร ไม่เหลือใครแล้วคุณไม่คิดสงสารฉันบ้างหรือค่ะ หรือว่าคุณมีคนอื่นอยู่แล้ว”นิษาถามสุธีขุ่นคิด

     “ผมจะรักใครอยู่หรือไม่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณเลิกพยายามเสียเถอะมันไม่มีประโยชน์อีก”สุธีพูด

     “เพราะเด็กคนนั้นใช่ไหม ใครกันแน่ที่กำลังแอบรัก สายตาที่ฉันเห็นตอนนั้นเหมือนคุณกำลังหลงรักเด็กที่อยู่ในบ้านของธนา แต่พักหลังๆ ฉันกลับเห็นยุ้งอยู่กับยายน้อง”นิษาพูด คนที่แอบฟังถึงกับอึ่งไปจนของที่ถืออยู่หลุดมือ

     “นั่นใครอยู่ตรงนั้น”สุธีถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงที่อยู่หน้าประตู ธนารีบหนีไปก่อนที่สุธีจะออกมาเปิดประตู

     “ใครกันนะ.. นิษาผมว่าคุณกลับไปก่อนเถอะ ไม่ว่าคุณจะพยายามสักแค่ไหนผมก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ ถ้าคุณไม่ได้ทิ้งธนาถึงสองครั้ง เพราะผมเป็นสาเหตุ ความสัมพันธ์ของเราคงจะไม่เป็นแบบนี้”สุธีเปิดประตูให้นิษา เธอเชิดออกมาด้วยความโมโห เธอทั้งอายทั้งแค้นสุธีนัก ธนาแอบมองนิษาเดินลับตาไป ด้วยความผิดหวังและเสียใจ

     “ที่แท้คนที่คุณรักมาตลอดก็คือสุธีสินะ”ธนาพูดเพียงลำพัง เธอเคยเป็นคนที่เขารักมากที่สุด เพราะมันเป็นรักครั้งแรกของธนา ธนาหวนคิดถึงอดีตก็พอจะเข้าใจ เพราะสายตาที่นิษามองสุธีนั้นมันมีความหมายแบบนี้นี่เอง

 

                สุธีแวะมาที่บ้านของธนา เมื่อได้ข่าวจากสายธารว่าธนากลับมาแล้ว สุธีถือเครื่องดื่มเขามาเต็มไม้เต็มมือ

     “พี่สุธีถืออะไรมาเยอะแยะหละค่ะ”สายธารถามและเข้ามาช่วยถือ สุธียิ้มและปฏิเสธความช่วยเหลือ

     “ไม่เป็นไรหรอก ธนาไปไหนเสียหละ”สุธีวางของลงที่ห้องครัว สายธารเดินตามเข้ามารินน้ำให้กับสุธี

     “สงสัยคงอยู่ที่เรือนดอกไม้ของเขาหละมั้งค่ะ ใกล้จะค่ำแล้วเดี๋ยวก็คงกลับ”สายธารพูดและยื่นน้ำให้สุธีดื่ม

                ธนานั่งใจลอยหวนคิดถึงภาพอดีตรักของเขาและนิษา ด้วยสายตาที่หมองเศร้า เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง แต่ความทุกข์ ความเศร้าของเขาก็มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ท่าทางอันแสนงอน ของผู้หญิงอีกคนล่องลอยเข้ามาแทรกในใจ

     “มีนา...กำลังทำอะไรอยู่นะ”ธนาพูดขึ้นด้วยใจที่เหม่อลอย แต่เขาต้องรีบปลุกตัวเองเมื่อคำพูดของนิษาที่พูดกับสุธีเข้ามาหลอกหลอนในหัวของเขา และธนาเองก็รู้ว่าความจริงตั้งแต่ต้นแล้ว สุธีแอบรักมีนามาโดยตลอด

     “พี่กำลังคิดอะไรอยู่ พี่ไม่มีสิทธิ์ดึงเธอลงมาอยู่กับคนที่ไม่สามารถทำให้เธอมีความสุขและสบายได้หรอก สุธีต่างหากที่จะทำให้มีนา มีความสุขได้”ธนาพูดกับเธอ คนที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา เหมือนว่าเธอกำลังนั่งอยู่ข้างๆ

     “กำลังพูดอยู่กับใครเหรอ” เสียงของสุธีทำเอาธนาสะดุ้งด้วยความตกกใจ

     “สุธี นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”ธนาหันไปมอง และยิ้มให้เพื่อนรักที่เดินมานั่งข้างๆ

     “ดูท่าทางของนายไม่มีความสุขเลยนะ คุณอายังยอมรับนายไม่ได้อีกหรือ”สุธีถามด้วยความเป็นห่วง

     “อื่อ...พ่อฉันไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ นายก็น่าจะรู้ดี”ธนาถอนหายใจอย่างอ่อนแรง เมื่อพูดถึงผู้เป็นพ่อ

     “นายก็อย่าพึ่งท้อสิ มีอีกตั้งหลายคนที่จะคอยเป็นกำลังใจให้นายเสมอ”สุธียิ้มและชวนธนากลับบ้านเพราะพวกเขากำลังจัดปาตี้ เล็กๆ เพื่อธนา โดยมีสายธารและแม่ดาวเรืองเป็นแม่ครัวใหญ่ ส่วนพ่ออาทร รู้สึกผิดในใจลึกๆ ที่เห็นลูกชายฝืนยิ้มด้วยท่าทางที่เศร้าหมอง อีกใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปพูดอีกใจหนึ่งก็ทิฐิสูงเกินกว่าจะกล้าเกินเข้าไปหา

                “อื่อ...จะกลับมาเมื่อไร...อ่อ..งั้นเหรอ..ให้ไปรับไหม...ตกลง..สวัสดีจ๊ะ”สายธารยิ้มด้วยท่าทางดีใจหลังจากว่าสายโทรศัพท์ ธนามองด้วยความอยากรู้

     “ทำหน้าอยากรู้อยากเห็นซะอย่างนี้ จะบอกดีไหมน่า”สายธารแกล้งแย่พี่ชาย ธนาทำทีไม่สนใจเชิดหน้าหนี

     “โธ่...เราก็หลงดีใจนึกว่าอยากรู้”สายธารบ่นพึ่งพลำด้วยความผิดหวังก่อนจะเดินหนีไป

     “แม่ค่ะ อาทิตย์หน้ามีนาก็จะกลับมาแล้วนะค่ะ”สายธารหันไปตะโกนบอกผู้เป็นแม่แทน ธนาอมยิ้ม ดีใจลึกๆ

 

                ก่อนถึงวันที่กำหนดกลับของมีนา ธนาได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่บ้านบนดอยตุง ว่าเด็กชายเลอะตกน้ำตายเมื่อวานนี้ ด้วยความร้อนใจของธนา ทำให้เขาต้องกลับก่อนกำหนด

     “พี่ค่ะ ไม่อยู่รอมีนาก่อนหรือค่ะ”สายธารถามขึ้น ธนาหยุดคิดก่อนจะหันกลับมายิ้มให้น้องสาว

     “ฝากสวัสดี เพื่อนของน้องด้วยนะ พี่ต้องรีบกลับที่โน้นมีปัญหา”ธนาพูดจบก็ออกรถไป สายธารได้แต่มองตาม

                มีนารีบกลับมายังไร่ภูอาทร ด้วยความดีใจที่ได้กลับมาที่นี่ แต่ในใจลึกๆ ของเธอดีใจ ที่จะได้พบธนามากกว่า สาธารยืนรอรับที่หน้าบ้าน หลังจากมีนาเดินเข้ามาในบ้านเธอก็ชะเง้อมองหาอะไรบางอย่างด้วยความหวัง

      “ไม่ต้องมองหาหรอก พี่ชายกลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”สายธารพูดทำให้มีนาดูเศร้าและผิดหวังอย่างมาก เธอขอตัวขึ้นห้องไปด้วยใจที่เหม่อลอย เพราะเธอตั้งใจ และหวังว่าจะได้พบเขา

     “พี่ไม่อยากเจอฉันสินะ”มีนาได้แต่คิดน้อยอกน้อยใจ เธอมองไปเห็นกระถางดอกกุหลาบ ที่ฝากสายธารช่วยดูแล

     “ออกดอกสวยเชียว สงสัยน้องคงดูแลอย่างดีสินะ”มีนายิ้มเธอหยิบขวดน้ำขึ้นมาฉีด แต่แล้วเธอก็ต้องแปลกใจ

     “เอ๋...นี่มันกระดาษอะไรนะ”มีนาหยิบกระดาษพลับเป็นรูปหัวใจที่อยู่ในกระถางต้นไม้มองมันอย่างแปลกใจ

     “ใครจะเข้ามาในนี้อีกนอกจากแม่บ้านกับยายน้องนะ”มีนาพยายามคิด เธอมองหามุมที่จะเปิด ลายมือเรียงร้อยอักษรเป็นบทกลอน โดยไม่ได้ระบุว่าถึงผู้ใด มีนาอ่าน

“กุหลาบแดงแทนใจว่าคิดถึง...

แสงดาวลำพึงว่าห่วงหา...

ค่ำคืนมองจันทร์คิดถึงหน้า...

แววตาเธอคล้ายดังดวงดาว”

มีนายิ้มเมื่ออ่านมันจบ ถึงมันจะไม่ได้ระบุถึงเธอ แต่มันจะเป็นของใครได้หละ ในเมื่อมันอยู่ที่ห้องเธอ

     “ธนา.. ของพี่ธนางั้นหรือ”มีนายิ่งดีใจไปใหญ่เมื่อเธอมองด้านหลังลงชื่อผู้แต่งว่าเป็นธนา คนที่เธออยากเจอที่สุด

 

                เปิดเทอมอีกครั้ง แอนนา วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหามีนาและเพื่อนๆ ที่กำลังนั่งอยู่ที่ใต้โต๊ะประจำของพวกเธอ

     “มีนา มีนา ฉันรู้แล้วพวกนั้นเขาไปทำอะไรให้ห้องน้ำเก่าๆ นั้น”แอนนากระซิบบอก มีนาถึงกับตกใจ

     “จริงเหรอ..ทำไมเธอถึงไม่ห้ามพวกนั้นหละ”มีนาพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ สายธารและมินทร์ตามองอย่างสงสัย

     “มีอะไรหรือมีนา”สายธารถามขึ้น มีนาเล่าให้เพื่อนสนิททั้งสองฟังทุกคนต่างตกใจ และคิดที่จะหาทางช่วย

     “มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่พวกนั้นจะเชื่อเธอ”สายธารพูดด้วยเหตุด้วยผล พวกเธอไม่ได้อยู่สถานะของมิตร

     “ฉันจะลองดู อย่างไงซะพวกนั้นก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นนะ”มีนาพูด มินทร์ตาและสายธารรู้ว่าห้ามไปก็ไร้ประโยชน์

                มีนา สายธาร และมินทร์ตา ย่องๆ มาจากด้านหลัง โดยมีแอนนาเป็นคนดูต้นทางให้ ทั้งสี่วางแผนกันไว้โดยแอนนาแกล้งทำเหมือนว่าถูกพวกมีนาจับมัดเอาไว้ก่อนจะบุกเข้าไปในห้องน้ำ มีนา ส่งสัญญาณพร้อม

     “โอเค พร้อม”สายธารและมินทร์ตา ชูนิ้วก่อนจะผลักประตูห้องน้ำเข้าไปพร้อมกัน เจนจิตรและเพื่อนๆ ร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่จะเห็นว่าคนที่พังประตูเป็นพวกของมีนา เจ้าหล่อนถึงกับตกใจเพราะในมือของพวกนั้นเป็นยาบ้าที่กำลังอยู่ระหว่างการเสพ ด้วยท่าทางกำลังอ่อนเพียรทั้งสี่ไม่เหลือสภาพที่ดูได้ ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะออกฤทธิ์

     “ยายเจน เธอทำอะไรนะ”สายธารตกใจเมื่อมองดูอดีตเพื่อนสาวสภาพดูไม่ได้เลยสักนิด

     “มีนา มินทร์ตา ยายน้อง พวกเธอจะมาหาเรื่องพวกฉันงั้นเหรอ”เจนจิตรพูด ท่าทางกำลังเมายาอย่างเต็มที่

     “ทำไมพวกเธอทำอย่างนี้หละ”มีนาถามขึ้น เจนจิตร ยิ้มเยาะที่มุมปาก

     “เป็นทีของเธอแล้วนี้ จะไปฟ้องอาจารย์สินะ”เจนจิตรพูด ทำให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ตกใจและหวาดกลัว

     “อย่านะ ฉันยังไม่อยากหมดอนาคตแบบนี้ ได้โปรดเถอะ”ดาวล้อมอ้อนวอน เจนจิตรหันไปต่อว่าเพื่อนสาว

     “ไม่ต้องไปขอร้องพวกมัน เธอรู้ไหมฉันลูกใคร”เจนจิตรพูด และทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ขอบตาดำและซ้ำ

     “เจน เธอสัญญากับฉันสิว่าอย่าไปเล่นของพวกนี้อีก พวกฉันสัญญาจะเก็บมันไว้เป็นความลับ”สายธารพูด

     “ถ้ามันเลิกได้ง่ายๆ ฉันก็คงไม่ติดงอมแงมขนาดนี้หรอกยายน้อง ครั้งแรกฉันก็แค่อยากลอง แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ติด” เจนจิตรพูดน้ำเสียงอ่อนราวกับจะร้องไห้ออกมาให้ได้ แต่เจ้าหล่อนกับหัวเราะ สภาพไม่ต่างอะไรกับคนไร้สติ

      “ใช่ พวกเราไม่คิดว่ามันจะถลำลึกได้ขนาดนี้”ดาวล้อม นิตยา และสร้อยทองพูด มีนาส่ายหน้า และไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี หลังจากที่พวกเธอรอให้พวกเจนจิตรส่างเมาได้แล้วจึงแยกย้ายกันกลับ

 

                มีนากำลังนั่งคิดหาวิธีที่จะช่วยพวกเจนจิตร โดยที่พวกนั้นต้องไม่เดือดร้อน สายธารเดินมานั่งข้างๆ มีนา

     “มีนา เธอไม่โกรธพวกนั้นหรือ พวกเขาร้ายกับเธอมากนะ”สายธารถาม ด้วยความไม่เข้าใจ

     “ไม่นี่ ฉันไม่รู้จะโกรธไปทำไมหนักสมองเปล่าๆ สู้เก็บสมองไปทำเรื่องที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวันดีกว่า”มีนาตอบ

     “เธอก็มักจะหามุนที่ต่างกับชาวบ้านเขาเสมอนะ”สายธารพูด ทำให้มีนายิ้มและหันกลับมาถาม

     “ตกลงเธอนี่ ชมหรือด่ากันแน่ ฟังดูแปลกๆ นะ”มีนายิ้ม ทำให้สายธารนึกขำกับคำพูดของตัวเองเช่นกัน

     “ฉันคิดออกแล้ว..เราไปปรึกษาหมอสุธีกันดีไหม”มีนาดีใจเมื่อนึกออกสักที เธอนั่งนึกอยู่ตั้งนานสองนาน

 

                ธนากำลังสอนหนังสือเด็กชาวเขา ทั้งโรงเรียนมี 200 กว่าคน แต่ครูมีเพียง 5 คนเท่านั้นส่วนมากเป็นครูที่สูงอายุมากแล้ว จะมีหนุ่มที่สุดก็จะเป็นธนาเท่านั้น

     “คุณครูธนา ผมขอถามคุณสักข้อจะได้ไหม ผมสงสัยจริงๆ”ครูชราอายุราว 50 ปีถามขึ้นด้วยความสงสัย

     “ครับ ได้สิครับครู”ธนาพูดและหันไปยิ้ม

     “คุณยังหนุ่มยังแน่น ทำไมถึงคิดหนีอนาคตที่สดใสมาเป็นครูอยู่บนดอยเสียหละ”ครูใหญ่ผู้ชราถาม

     “อ้อ...ผมยึดปัจจัย 4 นะครับ”ธนาตอบสั้นๆ ด้วยรอยยิ้ม ครูชราก็ยังไม่หายข้องใจอยู่ดี

     “ปัจจัย 4 งั้นเหรอ มันคืออันไหนหละที่ว่านะ”ธนายิ้มและหันไปตอบ

     “ปัจจัยที่ 1 คือที่อยู่อาศัย ผมก็มี่ที่ซุกหัวนอน ปัจจัยที่ 2 เสื้อผ้า ผมก็ยังมีใส่ ปัจจัยที่ 3 อาหาร ผมก็มีกินถึง 3 มื้อแถมเป็นอาหารผักสดๆ ดีต่อสุขภาพไร้สารพิษห่างโรคภัย และอาจจะไม่ต้องใช้ ปัจจัยที่ 4 คือยา เลยก็ได้นะครับ”ธนาตอบ

     “อ้อ อย่างงั้นหรือ แล้วในเมืองใช้ปัจจัย 4 ไม่ได้หรือ”ครูชราผู้ห่างหายจากเมืองหลวงมานานถาม

     “ปัจจัย 4 เห็นไม่พอหรอกครับ มีแต่ความดิ้นรนแย่งชิงดีชิงเด่น เงินที่หามาได้ก็เอาไปชื้อความสะดวกสบายทางกายเสียหมด และนั่นก็คงจะเป็นปัจจัย 4  ปัจจัย 5 ที่ต้องหาซื้อมาเพื่อเลี้ยงชีพ ผมออกจะขี้เกียจดิ้นรนสักหน่อย เลยขออยู่กับธรรมชาติมีเวลาพักผ่อนมากๆ อย่างนี้ดีกว่าครับ” ธนาอธิบายไปยิ้มไปด้วยท่าทีมีความสุข

     “แล้วอย่างนี้ มีคนรักหรือยังหละ เธอว่าอย่างไงที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่บนดอยที่นี่”ครูชราถามคำถามที่ธนาไม่อาจจะตอบมันได้ นั้นสินะ ถึงจะมีความสุขที่ได้อยู่กับธรรมชาติแค่ไหน แต่ก็เหงามากเหมือนกัน จะมีใครยอมร่วมทุกข์ อยู่ลำบากกับเราที่นี่ แล้วเธอจะอยากอยู่ที่นี่หรือเปล่านะ...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา