สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ

6.2

เขียนโดย แสงจันทรา

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.50 น.

  24 ตอน
  1 วิจารณ์
  36.49K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

15)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เวลากว่า 5 โมงเย็น สายธารเดินกลับมายังบ้านพัก โดยเธอไม่รู้เลยว่าสุธีเดินมาเธอมาโดยตลอด ธนายิ้มให้กับน้องสาว สายธารพยายามทำหน้าให้สดใส และฝืนยิ้ม ธนาเดินออกไปคุยกับสุธี เมื่อสองสาวขึ้นรถรอ

     “นายอย่าทำให้น้องสาวฉันร้องไห้อีกเป็นอันขาด ไม่งั้นฉันเอาเรื่องนายแน่นอน”ธนาขู่เสียงแข็ง สุธีเข้าใจมันดี

     “ฉันขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไงดี”สุธีรับความผิดนั้นแต่โดยดี และสำนึกผิดนั้นมาโดยตลอด

     “นายไม่รู้หรือไง น้องสาวฉันแอบรักนาย ถ้านายไม่รู้จะทำอย่างไงก็อยู่ห่างๆ เธอไว้”ธนาพูด และกำลังเดินไป

     “ฉันขอโทษนะ ครั้งที่แล้วที่น้องห่างฉันไปฉันก็รู้เสียใจมาก ฉันทำใจไม่ได้ที่คิดว่าจะไม่มีน้องอีก”สุธีเสียงอ่อน

     “ถ้านายไม่ได้คิดอะไรกับน้อง ก็อยู่ห่างๆ เธอเข้าไว้ หรือนายอยากเห็นน้องเสียใจอีก”ธนาพูดและหันกับไปยิ้มให้สองสาวที่กำลังมองมา ด้วยท่าทางสงสัย ก่อนจะขึ้นรถไป

 

                หลังจากวันนั้นสายธารดูจะเศร้าจนผิดปกติ เธอมักจะใจลอยจนมักจะทำอะไรผิดเสมอ

     “มีนา เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทำไมดูน้องเศร้าๆ แบบนั้น”มินทร์ตาสังเกตุมาตั้งนานกว่าจะกล้าถามมีนา

     “หลายเรื่องอยู่เหมือนกัน ฉันก็เลยไม่แน่ใจว่า ยายน้องเศร้าใจเรื่องอะไรกันแน่”มีนาพูด และหันไปเห็น กลุ่มของเจนจิตรเดินลับๆ ล่อๆ ไปด้านหลังโรงเรียน เธอบอกมินทร์ตาว่าจะไปห้องน้ำ และแอบเดินตามพวกนั้นไป พวกเขาทำอย่างเดิม คือให้แอนนาเฝ้าดูต้นทางและทั้ง 4 ก็หายไปในห้องน้ำ นานกว่า 20 นาทีถึงเดินออกมา

     “พวกนั้นทำอะไรกันนะ”มีนาพูดขึ้นมา และแอบมองจนพวกนั้นเดินหายไปแล้วเธอจึงเข้าไปสำรวจด้านใน

     “กลิ่นอับขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างยายเจน จะเข้าห้องน้ำที่นี่ได้ เอ้..แต่ทำไมมีกลิ่นเหมือนช็อกโกเลตด้วยนะ”มีนา ดมดูทั้งสองห้องพบว่ากลิ่นคล้ายๆ กัน แต่เธอก็ไม่อาจรู้ได้ว่าพวกนั้นมาทำอะไรที่นี่

                ทุกๆ วันมีนาสังเกตุเห็นว่าพวกเจนจิตรมักจะหายตัวไปในเวลา บ่ายของทุกๆ วัน เมื่อเธอแอบตามไปก็พบว่าพวกนั้น มาที่ห้องน้ำเก่าเป็นประจำเธอคิดว่ามันต้องมีอะไรอย่างแน่นอน มีนาเดินกลับมาด้วยท่าทางสงสัย

     “เธอหายไหนมาหรือ”มินทร์ตาถาม สายธารมองหน้าเพื่อนสายที่ดูเหมือนกำลังมีความลับอะไรบางอย่างอยู่

     “มีอะไรปิดบังงั้นเหรอ”สายธารถามด้วยสายตาจริงจัง จนมีนาจำต้องเล่าให้เพื่อนทั้งสองฟัง

     “เธอสนิทกับแอนนาก็ลองถามแอนนาดูสิ”สายธารออกความคิดเห็น และตกเย็นวันนั้นแอนนาก็ถูกสักถาม แต่เธอก็ปฏิเสธ ดูท่าทางของเธอจะไม่รู้จริงๆ เพราะเธอให้เหตุผลว่า เจนจิตรให้เธอดูต้นทางเธอจึงไม่รู้ว่าพวกนั้นทำอะไร แต่เธอเล่าพฤติกรรมแปลก ที่เห็นเจนจิตรบางครั้งก็หงุดหงิดง่าย ใบหน้าดูทรุดโทรม หมองคล้ำ คนอื่นๆ ก็เช่นกัน ท่าทางดูแปลกๆ ไป และพวกนั้นมักจะนัดกันเที่ยวกลางคืนบ่อย ๆ           

 

                เจนจิตรรู้สึกหงุดหงิด เมื่อเธอนั่งทำรายงานกลุ่ม อยู่กับเพื่อนๆ เธอโวยวายขึ้นมาจนทุกคนตกใจ

     “อะไรกันเนี่ย ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้ ยายแอนไปไหนดาว สร้อย นิด เธอเห็นยายแอนไหม”เจนจิตรโวยวาย

     “นั้นสิฉันก็ไม่เห็นตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ”ดาวล้อมมองหา และสายตาก็ไปหยุดที่มินทร์ตากำลังมองพวกเธออยู่

     “ยายมินทร์ตา.. มองด้วยสายตาแบบนี้สงสัยอยากมีเรื่อง”ดาวรล้อมพูดขึ้นเจนจิตรยิ้มและพวกนั้นกำลังเดินมา

     “สายตาของเธอมันช่างดูกวนประสาทฉันอย่างไงไม่รู้นะ”เจนจิตรพูดเมื่อเดินตาตรงหน้ามินทร์ตาเธออยู่เพียงลำพังเพราะมีนาและสายธารออกไปซื้อของกิน มินทร์ตาเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที

     “พวกเธอจะทำอะไรฉัน”มินทร์ตาลุกและคิดจะเดินหนี และเธอถูกล้อมเอาไว้ เจนจิตรสั่งให้สองคนจับเธอเอาไว้ มินทร์ตาพยายามดิ้นแต่ก็ไม่เป็นผล เจนเจตรยิ้มเยาะชอบใจ คนแถวนั้นแทบจะไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง

     “ต่อให้เธอร้องก็ไม่มีใครเข้าอยากยุ่งหรอก เธอก็รู้จักฉันดีไม่ใช่เหรอ”เจนจิตรพูดมือของเธอตบหน้ามินทร์ตาเบาๆ

     “ฉันทำอะไรให้เธอ ปล่อยฉันไปเถอะ”มินทร์ตาพยายามอ้อนวอนขอความเห็นใจ

     “ขอร้องฉันงั้นหรือ ฉันว่าให้เพื่อนเธอมาช่วยไม่ง่ายกว่าเหรอ”เจนจิตรพูด และกำลังปลดกระดุมเสื้อมินทร์ตา

     “อย่านะ อย่าทำฉันเลย”มินทร์ตาร้องไห้ และยิ่งเธอร้อง เจนจิตรก็ยิ่งพอใจมาก กระดุมหลุดออกทีละเม็ด ทีละเม็ด จนเห็นชุดชั้นใส ของมินทร์ตา คนอื่นๆ พากันรุมมองดู ขณะนั้นมีนาและสายธารเดินมาเห็นคนกำลังมุงดูอะไรบางอย่าง ด้วยท่าทางสนุกสนาม และที่ตรงนั้นพวกเธอจำได้ว่ามินทร์ตากำลังนั่งรออยู่ มีนาวิ่งเข้าไปหน้าตาตื่นพร้อมกับสายธารเธอก็พบว่า กลุ่มของเจนจิตรกำลังเล่นสนุกกับโดยมินทร์ตาเป็นหุ่น กำลังร้องไห้ใหญ่

     “หยุดนะปล่อยเพื่อนของฉัน”มีนาเริ่มโมโห เมื่อตะโกนมาจากด้านหลังเจนจิตร ที่หันไปมอง ทำหน้าเฉย

     “มีนา น้อง ช่วยฉันด้วย” มินทร์ตาสลัดจนหลุดจากมือ ของสร้อยทองและนิตยา เธอวิ่งไปโผเข้ากอดสายธาร

     “เธอกล้าทำเรื่องแบบนี้ในมหาวิทยาลัยเชียวเหรอ หรือถือว่าเธอลูกผู้อำนวยการจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม”มีนาพูด

     “ใช่..แล้วเธอจะทำไม เห็นถามเธออยากเล่นสนุกพวกฉันจะจัดให้”เจนจิตรพูด เพื่อนของเธอเดินมายื่นเรียงหน้าข้างๆ เจนจิตร ทุกสายตาที่มองมีนาดูจะเอาเรื่องไม่ใช่น้อย

     “ถ้าอย่างนั้นก็เรียงหน้ามาเลยแล้วกัน ฉันก็อยากจะลองวิชาอยู่พอดี”มีนาดูท่าทางจะถอยก็ไม่ได้เสีย เจนจิตรง้างมือจะตบ มีนาหลบและผลักจนหล่อนล้มไปกองกับพื้น ดาวล้อมวิ่งเข้าใส่ด้วยความโมโห แต่มีนาขัดขาจนเธอล้มไปอีกคน สร้อยทองและนิตยาพร้อมใจกันวิ่งเข้าหา มีนาจับนิตยาทุ่มใส่สร้อยทองทั้งคู่นอนกองกันอยู่กับพื้น มีนาหันกับมาก็พบว่าเจนจิตรง้างมือและตบเธอ และมีนาก็ง้างมือขึ้นหวังจะตอบโต้ ทั้งสองประชันหน้ากัน

     “หยุดนะ!!  พวกเธอทำอะไรกัน”เสียงนั้นทำให้ทุกๆ คนในบริเวณนั้นที่กำลังสนุกสนานสลายตัวอย่างทันควัน มีนามอง และเมื่อเธอเผลอเจนจิตรตบหน้าเธอเข้าอย่างเต็มแรง

     “ฉันบอกให้หยุด!! ไม่ได้ยินกันหรือ ทุกคนไปพบฉันที่ห้องประชุมเล็ก”ครูฝ่ายปกครองสีหน้าดุด้วยความโมโห

                เจนเจตร เดินออกมาจากห้องประชุมเล็กพร้อมกับเพื่อนๆ ด้วยท่าทางไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ ก็แน่หละเธอเป็นถึงลูกสาวคนเดียวของผู้อำนวยการนี่ แต่มีนากับหน้าเศร้า เพราะที่นี่สำหรับเธอแล้ว เธอเป็นเพียงคนต่างถิ่นที่ไร้ญาติขาดมิตร เธอจะทำอย่างไงเมื่อมีหนังสือเชิญผู้ปกครองให้มาพบ แม่ของเธอจะผิดหวังมากแค่ไหน

     “มีนา เธอเจ็บมากใช่ไหม”สายธารจับหน้าที่มีลอยซ้ำๆ เป็นนิ้วมือที่เจนจิตรฝากไว้ให้มีนา

     “อื่อ..เกิดมาก็พึ่งเคยถูกตบครั้งแรกเลยหละ”มีนาพูดและนึกขำ พลอยทำให้ทั้งสายธารและมินทร์ตาหัวเราะตาม

     “และเธอจะทำอย่างไงกับหนังสือเชิญผู้ปกครอง”มินทร์ตาถามทำให้มีนาหน้าเศร้าขึ้นมีมาอีกครั้ง

     “นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอหน้าเศร้าตั้งแต่แรกสินะ”สายธารพูด

 

                มีนาและสายธารแอบเข้าบ้านในตอนดึก เพราะกลัวว่าจะมีใครเห็น ทั้งสองย่องเข้าในบ้านเงียบๆ แต่แล้ว

     “ทำไม!..กลับมาดึกนักหละ”เสียงที่ดังขึ้นมาในมุมมืดและเมื่อไฟเปิดขึ้น ทั้งสองถึงกับสะดุ้ง สายธารจับมีนาแอบไว้ด้านหลังเพราะกลัวว่าใครจะเห็นหน้าซ้ำๆ ของมีนา

     “อ้าวพี่ชาย กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”สายธารหันไปยิ้มและทักทาย เธอส่งสัญญาณเพื่อให้มีนาขึ้นห้องไปก่อน

     “เดี๋ยวสิ มีนาจะรีบไปไหน”ธนาพูดขึ้นมีนาถึงกับตกใจและหยุดยืนนิ่ง ธนาเห็นท่าทางแปลกจึงเดินเข้าไปหา

     “เอ่อ..พี่ค่ะ มีนาปวดท้องเข้าห้องน้ำ ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ” สายธารรีบดึงตัวมีนา เดินขึ้นห้องท่าทางมีพิรุธ จนน่าสงสัย ธนาดึงมือของมีนาไว้ได้ทัน มีนาหันกลับมาด้วยแรงดึงของธนา เธอตกใจรีบหลบหน้าเขาทันที

     “นี่!! หน้าไปโดนอะไรมา”ธนาเสียงแข็งและมองหน้ามีนา สายธารทำอะไรไม่ถูก เพราะธนาสำรวจหน้าของมีนา และเห็นลอยซ้ำ ที่เป็นรูปนิ้วมือ อยู่บนหน้าของมีนา เธอยังคงเอาแต่หลบสายตาที่มองอย่างเป็นกังวลของธนา

เวลาต่อมาธนาถือชามน้ำที่มีผ้าและน้ำแข็งเดินตรงเข้ามาที่ห้องของมีนา เขายังคงมองเธอด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก

     “แล้วทำไมต้องมีเรื่องมีราวกันด้วยหละ”ธนาถามขึ้นด้วยเสียงดุ เมื่อนั่งอยู่ตรงหน้าของมีนามือก็บิดผ้าชุบน้ำจนแห้ง และประคบหน้าให้เธอ มีนากำลังหน้ายุ้งด้วยความเจ็บ ธนานึกขำท่าทางของมีนา จนเธอค้อนใส่เขา

     “เป็นห่วงยายเจนก็ไม่ต้องมาตะคอกใส่ฉันก็ได้ แล้วนี้ขำอะไรนัก”มีนาหน้าบึ้งด้วยความโมโห

     “แล้วทำไมพี่ต้องเป็นห่วงเจนด้วยหละ เรานั้นแหละตัวแสบนักชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย”ธนาพูดไปบ่นไป แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าสายตาที่มีนากำลังมองอยู่นั้น ด้วยความรู้สึกปลื้มประทับใจ

 

                มีนากำลังคุยโทรศัพท์กับที่บ้านของเธอเมื่อเธอรู้ว่าที่บ้านกำลังวุ่นวายงานที่แม่กำลังทำอยู่มีปัญหา เธอจำต้องวางสายและไม่กล้าพูดถึงเรื่องที่ทางมหาวิทยาลัยเชิญผู้ปกครองมาพบ เธอเดินเข้ามาในบ้านหน้าเศร้า

     “มีเรื่องอะไรหรือเปล่ามีนา ทำไมทำหน้าอย่างนั้นหละ” สายธารถามเมื่อเห็นหน้าของเพื่อนสาวดูเป็นกังวลมาก

     “ที่บ้านฉันกำลังวุ้นฉันไม่กล้าบอกแม่หรอก”มีนานั่งลงข้างๆ สายธาร เธอออกความคิดว่าจะให้แม่ของเธอไปแทน แต่มีนาไม่อยากรบกวน เท่านี้ก็ลำบากมาพอแล้ว

     “กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่หรือจ๊ะสาวๆ”ธนาเดินเข้ามาร่วมกลุ่ม แต่สายตาของธนามองดูแต่หน้าของมีนา เขายิ้มเมื่อเห็นลอยซ้ำที่หน้าของเธอจางลง จนมองแทบไม่เห็น สายธารแอบมองพี่ชาย และสะกิดให้รู้ตัว

     “มากไปค่ะ พี่จะขึ้นเขาอีกเมื่อไหร่”สายธารเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะสีหน้าของเพื่อนสาวดูจะงง กับคำพูดของเธอ

     “อื่อ..อาทิตย์หน้า พี่กะว่าจะเข้าเมืองไปหาอุปกรณ์สำหรับนักเรียนก่อน”สายธารยิ้มเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก

     “ถ้าอย่างนั้นพี่ชายก็ช่วยได้สิ”คำพูดนั้นทำเอาทั้งมีนา และธนางง ไปตามๆ กัน

     “เรื่องอะไรกันหรือ”ธนายังคงดูจะงง สายธารเอาแต่ยิ้ม กับแผนการของเธอ

 

                สายธารเดินเกาะแขนธนาที่ดูจะเกรงๆ เพราะถูกบังคับให้แต่งตัว มีนาหัวเราะเมื่อเห็นธนา ทั้งสามเดินตรงเข้าไปยังห้องอาจารย์ฝ่ายปกครอง สายธารนั่งรออยู่ด้านนอก  เมื่อเจนจิตรและเพื่อนๆ เดินมาถึงทั้ง 4 พากันหัวเราะ

     “ว่าไงจ๊ะ เพื่อนรักของเธอคงลำบากไม่น้อยหละสิ”เจนจิตรพูดด้วยน้ำเสียงแดกดัน สายธารยิ้ม เมื่อเห็นธนาเดินออกมาพร้อมมีนา เจนจิตรมองด้วยสีหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นธนายืนอยู่ข้างๆ กับศัตรูคนสำคัญของหล่อน

     “พี่ธนา ทำไมพี่ถึงมาที่นี่ได้หละค่ะ”เจนจิตรเสียงแหลมขึ้นมาทันที มีนาได้โอกาสเกาะแขนธนา และยิ้มเยะ

     “ก็มาเป็นผู้ปกครองของฉันนะสิ เธอมีปัญหาอะไรไหม”มีนาพูด ยิ่งทำให้เจนจิตรโมโห

     “เดี๋ยวก่อนนะ...พี่ว่าเราออกจากตรงนี้ก่อนดีกว่านะ พี่ไม่อยากเข้าห้องนี้รอบสองนะ” ธนาพูดจบ จับมือมีนาและสายธารเดินออกมาจากลุ่มของเจนจิตร มีนาหันกลับไปทำหน้าทะเล้น ใส่เจนจิตร หล่อนโกรธจนหน้าแดง

 

ธนาจับสองสาวขึ้นรถ เขาดูจะเหนื่อยอกเหนื่อยใจไม่น้อย ต่างกับที่สองที่กำลังหัวเราะชอบใจ

     “สนุกกันใหญ่เลยนะ ดูพี่สิแทบจะปวดหัวตายอยู่แล้ว”ธนาหันไปบ่น ทั้งสองปิดปากเงียบสนิท แต่ก็แอบขำอยู่

     “สมน้ำหน้า พี่นั้นหละทำตัวเป็นคนดีนักเป็นไงหละยายเจนคงไม่ปล่อยพี่หรอกน่า”สายธารตำหนิพี่ชาย

     “เอาเถอะเรื่องไร้สาระ พี่ว่าพวกเราไปทำตามของแลกเปลี่ยนของพี่ดีกว่า” ธนาออกรถตรงไปยังห้างสรรพสินค้า

“อื่อ เราจะเริ่มที่อะไรกันดีนะ”ธนาพูดอยู่ลำพัง เพราะสองสาวแอบหายไปแล้ว เมื่อเขารู้สึกเงียบผิดปกติ

     “อ้าวเราก็คิดว่าตามมาซะอีก”ธนามองหาก็พบว่าสองสาวกำลังดูเสื้อผ้าอย่างเพลิดเพลิน ธนานึกขำและส่ายหน้า

ก่อนจะเดินมาดึงสองสาวออกจากมุมเสื้อผ้าได้ พวกเขาดูจะสนุกและมีความสุขสังเกตุจากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

 

                ธนาเก็บของขึ้นรถเตรียมที่จะขึ้นเขา แม่ดาวเรืองมองอย่างถอดใจ ธนาหันมาสบตากลับผู้เป็นแม่

     “คุณแม่ จะคัดค้านผมอีกคนหรือครับ”ธนาถามขึ้น ผู้เป็นแม่ยิ้มและโอบกอดลูกชายสุดรัก

     “แม่รู้ว่าไม่มีใครเปลี่ยนความคิดของลูกได้ แต่แม่อยากให้ลูกเข้าใจอะไรบางอย่างนะ การที่คนเราจะมีความคิดต่างกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าคนๆ นั้นจะคิดผิดหรอกนะลูก ที่พ่อเขาคัดค้านก็เพราะว่าเป็นห่วงอนาคตของลูก กลัวว่าลูกจะลำบาก”ผู้เป็นแม่อธิบาย ธนาหันเข้าไปในบ้านก็เห็นเงาของผู้เป็นพ่อ แอบมองอยู่และวางท่าเฉยชา

     “ขอบคุณครับ สักวันพ่อก็จะเข้าใจ ว่าผมทำทุกอย่างเพื่ออะไร”ธนาโอบกอดผู้เป็นแม่ก่อนจะขึ้นรถไป พ่ออาทรมองตาม ด้วยสายตาที่แสนจะห่วงใย ไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นลูกไปลำบาก

 

                เวลาผ่านไปกว่าสองอาทิตย์มีนารู้สึกเศร้าใจ เธอเผลอนั่งมองดูที่ประตู้หน้าบ้านอยู่เสมอ

     “นั่งมองอะไรอยู่เหรอมีนา ฉันเห็นมีท่าทางแบบนี้จะเป็นอาทิตย์อยู่แล้วนะ”สายธารถาม เธอมองตามมีนา

     “เปล่า.. เปล่านี่ ฉัน.. ฉันก็แค่กำลังคิดว่าวันหยุดอาทิตย์หน้าจะไปไหนดี”มีนาสันหาคำแก้ตัวแทบไม่ถูก

     “อื่อ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี”สายธารนั่งลงข้างๆ กับมีนา ทั้งสองได้ยินเสียงแตลรถดังที่หน้าบ้าน ทั้งมีนาและสายธารต่างพากันดีใจ ทั้งสองวิ่งออกไปดูที่หน้าบ้าน สายธารยิ้มเมื่อคนที่เธอกำลังรออยู่มาถึง ต่างจากมีนาดูจะผิดหวังไม่ใช่น้อย เธอเดินคอตกกลับไปยังที่เดิมของเธอ สุธีมองตามด้วยความแปลกใจ

     “น้อง คุณมีนาเป็นอะไรไปเหรอ”สุธีถาม สายธารมองหาเพื่อนสาวที่คิดว่ายืนอยู่ข้างๆ เธอเสียอีก

     “อ้าวไปไหนเสียหละ อยากรู้พี่ก็ไปถามเองสิค่ะ”สายธารน้อยใจเดินตามมีนาไป สุธีรู้สึกงง กับท่าทางของเธอ

                มีนานั่งใจลอยจนไม่รู้ว่าสุธีกับสายธารคุยกันถึงเรื่องอะไร เมื่อทั้งสองยินคำถามมาที่เธอ จนเธอทำหน้างง

     “ค่ะ ฉันก็คิดว่าที่ดอยตุง เด็กนักเรียนคงน่ารักเหมือนกันนะค่ะ”คำตอบของเธอทำทั้งสองงง ไปตามๆ กัน

     “เรากำลังพูดถึงปิดเทอมเล็กที่จะถึง เธอจะกลับบ้านไหม”สายธารอธิบายให้เพื่อนสาวฟังอีกครั้ง

    “อ่อ..กลับค่ะฉันกำลังคิดถึงที่บ้านอยู่พอดี”มีนาพูด แต่ดูท่าทางคำพูดนั้นจะไม่ตรงกับใจเธอเลย มีนาขอตัวออกไปเดินเล่นที่เรือนดอกไม้ เธอเดินมาที่นี่ ที่ๆ เขาและเธอมากันเป็นประจำ เธอนึกถึงท่าทางจริงจัง รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเขา เคยมีอยู่ตรงนี้ ดอกไม้ที่เคยสดใส กับดูหมองเศร้าเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง

     “นี้เธอกำลังเป็นอะไรไปหรือมีนา ทำไมเธอถึงดูไม่สดใสแบบนี้”มีนากำลังถามตัวเองขณะเดินชมดอกไม้อยู่ เธอเดินจนมาถึงบ้านพักเล็กๆ และเธอก็นึกถึงวันที่เธอเผลอหลับที่ใต้ต้นไม้นั้น และตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ธนาก็กำลังนั่งเฝ้าเธออยู่ เธอคิดถึงวันที่พวกเธอทำสัญญาณสงบศึก และคิดย้อนไปถึงวันเก่าๆ ที่พวกเธอเคยพบกัน ทะเละกัน

     “ท้องฟ้า หมู่ดาวเต็มไปหมดสวยจริงๆ แต่ทำไม ถึงได้รู้สึกไร้ชีวิตชีวาแบบนี้นะ”มีนาพูดกับตัวเองขณะมองดูดาว

                อีกมุมหนึ่งที่ดอยตุง ธนากำลังนั่งมองดาวอยู่บนท้องฟ้า ที่นั้นอาการดี เย็นสบายจนรู้สึกหนาว เขายิ้มขึ้น

     “มีนาคงกำลังนั่งมองดาวอยู่เหมือนกันใช่ไหม พี่จำได้ว่า เธอชอบออกมานอกระเบียง แล้วมองดาวจนดึกดื่น ดาวตากลมๆ นัยตาเป็นประกายระยิบระยับเหมือนดวงดาว เหมือนคืนนี้” ธนากำลังบรรยายเหมือนว่าเห็นหน้ามีนาอยู่

     “มันคงจะดีถ้าเธอนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยกัน…”ธนายิ้ม เหมือนว่าเขากำลังยิ้มตอบรอยยิ้มของมีนาที่บนท้องฟ้า

     “เอ๋...นี่เรากำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมอยู่ๆ ถึงได้คิดถึงมีนาได้นะ อื่อหรือว่าเราแอบชอบเธอจริงๆ เข้าแล้ว”ธนาฉงนใจตั้งคำถามให้กับตัวเอง เขาพยายามคิดที่จะหาคำตอบ แต่ดูท่าทางของเธอแล้วคงจะเกลียดขี้หน้าเขาเสียด้วยซ้ำ

     “นั้นสินะ ที่เธอทำดีกับเราก็เพราะสัญญาณสงบศึกนั้น ถ้าหมดสัญญาณ เธออาจจะแสดงความรู้สึกจริงๆ ของเธอก็ได้”ธนาถอนหายใจใหญ่เมื่อนึกเช่นนั้น เพราะเขาคิดอยู่เสมอที่เธอยอมทำตัวดีๆ ด้วยเพราะข้อต่อทั้งนั้น

 

                ปิดเทอมเล็กมีนาเตรียมตัวกลับกรุงทพ คราวนี้เธอคงไม่มีใครไปส่งจริงๆ เพราะธนายังไม่ลงมาจากดอยตั้งแต่เดือนที่แล้ว เธอถอดใจเพราะคิดว่าเขาคงไม่รู้หรอก ว่าเธอจะกลับกรุงเทพ และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง เพราะคนที่มาส่งเธอก็คือ สุธี สายธารและมินทร์ตา เมื่อส่งมีนาเรียบร้อยมินทร์ตาขอตัวกลับก่อน

     “เดี๋ยวสิมินทร์ตา เธอต้องกลับพร้อมฉันนะ”สายธารพูดไม่ทัน เพราะมินทร์ตาวิ่งหนีไปเสียก่อนทำเอาสุธีนึกขำ

     “หัวเราะอะไรไม่ทราบค่ะคุณหมอ น้องจะกลับบ้านแล้วค่ะเชิญตามสบาย”สายธารพูดจบเธอเดินดุ่มๆ ไป สุธีวิ่งตามมาง้องอนเธออยู่เป็นนาน กว่าสายธารจะยอมพูดจาดีๆ กับเขา สุธีไม่อยากถามเธอเหตุผลที่ทำให้เธอดูแปลกๆ

     “อร่อยไหม กินให้เยอะนะ จะได้อารมณ์สักทีพี่เหนื่อยใจจริงๆ ที่ต้องตามง้อเรา”สุธีพูดด้วยท่าทางน้อยใจ

     “ก็เวลาพี่ทำให้น้องโกรธทีไร น้องได้กินไอติมทุกที รู้อย่างนี้โกรธบ่อยๆ ก็ดีจะได้มีคนตามใจ”สายธารยิ้มด้วยท่าทางสดใส่ มันดูไร้เดียงสาจนน่ารัก เขาก็พลอยยิ้มไปกับเธอโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

     “ไม่ไหวหรอก พี่รู้สึกใจไม่ดีทุกครั้งที่น้องโกรธพี่ เอาอย่างนี้ดีกว่าพี่สัญญาจะเลี้ยงไอติมน้องไปจนตายเลย ขอแค่น้องอย่างโกรธและเงียบไม่พูดไม่จากับพี่อีกได้ไหม มีอะไรโกรธอะไรพี่ก็ต้องรีบบอกตกลงไหม”สุธีชูนิ้วก้อย

     “อื่อ...น่าสนใจ แต่พี่คงทำไม่ได้หรอก พี่จะดูแลน้องไปตลอดชีวิตได้อย่างไง สักวันพี่ก็ต้องแต่งงาน”สายธารหน้าเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดถึงวันที่จะไม่มีสุธีคอยเอาใจ พวกเขาคุ้นเคยกันจนเกิดเป็นความผูกพัน

     “พี่สัญญาแล้วไง เอาอีกข้อก็ได้ข้าพเจ้าหมอสุธีขอสัญญาว่า หากน้องสาวคนนี้หาแฟนแต่งงานไปได้ ข้าพเจ้าจะขอขึ้นคานทองเป็นเพื่อน น้องสาวคนนี้ตลอดชีวิต”สุธีชูสามนิ้วสาบานก่อนจะยื่นนิ้วก้อยเกี่ยวกับสายธาร

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา