สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ

6.2

เขียนโดย แสงจันทรา

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.50 น.

  24 ตอน
  1 วิจารณ์
  36.48K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

14)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

สายธารนั่งไอ อยู่หน้าห้องตรวจ รอรับยาหลังจากตรวจเรียบร้อย สุธาเดินผ่านมามองเห็นก็รู้สึกแปลกใจ

     “น้องไม่สบายเหรอ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไมไม่ไปห้องตรวจของพี่”สุธีถามเป็นชุดเมื่อดูเห็นสีหน้าของ สายธารขาวสีด และเธอก็ไอไม่หยุด สายธารมองหน้าของสุธีเธอก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมๆ กับเสียงไอ้

     “มันน่าขำตรงไป ตัวเองป่วยขนาดนี้ยังหัวเราะออกหรือไง”สุธีทำเสียงดุ และดูท่าทางจะโกรธสายธารจริงๆ

     “คุณหมอไม่เห็นต้องดุขนาดนั้นเลย น้องเห็นว่าผู้ป่วยของพี่คิวยาว น้องกลัวว่าจะตายเสียก่อนเลยไม่อยากรอพี่ต่างหาก”สายธารยังคงพูดเล่น สุธียังคงมีสีหน้าจริงจัง เขาไม่พูดอะไรเดินหายไปสักครู่

     “เอ้า..นี่โกรธจริงๆ หรือเนี่ย”สายธารทำหน้าเศร้าด้วยความผิดหวัง นั่งบ่นสุธีอยู่พักใหญ่ และเข้าก็เดินกลับมา...

     “อื่อ..อย่าลืมทานยาให้หมดด้วยนะ”สายธารตาโตด้วยความตกใจ เมื่อเห็นถุงยา เธอบ่นว่าทำไมมันถึงเยอะนัก

     “เห็นหมอที่ตรวจบอกว่าเราไม่ยอมฉีดยา เขาก็เลยสั่งแต่ยากินให้ อย่าให้พี่รู้นะว่าเรากินยาไม่หมดหรือแอบทิ้งยาเหมือนตอนเด็กๆ อีก ไม่งั้นพี่จะไปฉีดยาให้เราจริงๆ หละคราวนี้”สุธีขู่สายธารทำหน้าบึ้งทำปากขมุบขมิบ

 

                มีนากำลังถ่ายภาพเอาความสวยงานของดอกไม้ ส่วนธนากำลังพวนดินและปลูกต้นไม้เพิ่ม มีนาแอบถ่ายภาพของเขาอยู่หลายภาพ ธนาอมยิ้มเมื่อรู้ตัวว่าถูกแอบถ่าย

     “มีนาขอต้นนี้ไปปลูกที่กรุงเทพได้ไหมค่ะ”มีนาถามขึ้นเพราะนึกว่าธนาอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก แต่เมื่อหันมา

     “เอ้าพี่ธนาไปไหนเสียแล้วหละ คนบ้าปล่อยให้เราพูดคนเดียวอยู่ได้”มีนาบ่น และมองหาธนา เธอเดินจนรอบแล้วก็ยังไม่เห็นแม้เงาของธนา มีนาเริ่มหน้ายุ้งด้วยความโมโห ปากก็บ่นต่อว่าธนาตลอดทาง

     “อื้ม..บ่นอะไรพี่อยู่เหรอ”เสียงมาจากด้านหลังจนมีนาตกใจหันไปมอง ธนากำลังยิ้มและซ่อนอะไรบางอย่างไว้

     “คนบ้า..หายไปไหนมา มีนาเดินหาซะทั่วเลยนะ”ธนายื่นกระถางต้นกุหลาบเล็กน่ารักส่งให้มีนา เธอมองมันและสูดดมชื่นชมดอกกุหลาบด้วยความประทับใจ

     “พี่เพาะมันตั้งนานนะกว่าจะสวยได้ขนาดนี้ เอาไปไว้ที่ห้องนอนรักษาอย่างดีด้วยหละ”ธนาสั่งก่อนจะเดินผ่านไปด้วยรอยยิ้ม มีนายังคงยืมสนใจอยู่แต่กระถางต้นไม้ นี่จะเป็นของขัวญหรือแค่ของธรรมดาในสายตาของคนที่มอบให้ แต่เธอรู้สึกว่ามันล้ำค่าและมีความหมายมากเลยที่เดียว

     “ฉันจะรักษามันเป็นอย่างดี ด้วยหัวใจของฉัน”มีนาได้แต่พูดอยู่ในในเธอมองตามธนาด้วยความรู้สึกอิ่มเอ็มใจ

 

                สุธีขอให้สายธารรออยู่ที่ห้องพักของเขาเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็จะออกเวณแล้ว เสียงเปิดประตูและมีเสียงเดินเข้ามาในห้อง สายธารนึกดีใจคิดว่าเป็นสุธี แต่พอหันมองกับเป็นนิษา ทั้งคู่ดูจะตกใจพอๆ กัน

     “น้อง มาทำอะไรที่นี่”นิษาถามขึ้น เธอมีสีหน้าไม่พอใจนักที่เห็นสายธาร

     “แล้วพี่หละ มาทำอะไรที่ห้องพี่สุธี”สายธารถามกลับ นิษายิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก

     “อ้อ..เด็กที่สุธีว่าก็คงจะเป็นเธอสินะที่คอยตามตื้อเขาอยู่”นิษามองและยิ้มเยอะ เมื่อเห็นสายธารสีดดูไม่จืด

     “ว่าอะไรนะ พี่คิดว่าพี่มีสิทธิ์พูดอย่างนี้ได้งั้นหรือ”สายธารรู้สึกโมโห เมื่อคิดว่าสุธีพูดถึงเธอในทางไม่ดี

     “แล้วไงจ๊ะ ฉันกับพี่ชายของเธอจบกันแล้ว ถ้าฉันจะไปมาหาสู่กับสุธีเธอคิดว่ามันจะเป็นอย่างไงหละ”นิษาพูด

     “ขอให้มันจบกันจริงๆ เถอะอย่าได้ซมซานกลับไปหาพี่ชายของฉันอีกแล้วกัน”สายธารพูดเสียงแข็ง

     “ระหว่างสุธีกับธนา พี่คงไม่โง่พอจะไปเลือกธนาผู้ชายที่ไม่มีอนาคตอย่างนั้นหรอก”นิษาพูดและพอใจที่ได้เห็นสายธารโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอโกรธจนไม่สามารถที่จะทนยืนอยู่ตรงนั้นได้ สายธารเปิดประตูเดินออกไปได้ไม่นานนัก สุธีที่กำลังเดินเข้ามาด้วยอารมณ์ที่แสนจะปิติกำลังคิดโปรแกรมที่จะไปในวันนี้ แต่แล้ว

     “รอนานไหมครับ เราไปกันเถอะ”สุธีพูดทั้งๆ ที่ไม่ได้มอง และเขาต้องตกใจเมื่อคนที่ยิ้มให้เขาเป็นนิษาแทน

     “นิษา คุณเข้ามาทำอะไรข้างในนี้ แล้วน้องหละ น้องไปไหน”สุธีถาม นิษายิ้มและทำไม่รู้ไม่ชี้

     “ดูคุณจะห่วงเด็กบ้านั้นมากเลยนะ หรือคิดจะกินไก่วัด”นิษาพูด สุธีมีสีหน้าไม่พอใจนัก

     “ถ้าน้องเป็นอะไรหละก็ คุณกับผมเห็นดีกันแน่นอน”สุธีพูดจบเขาเก็บของได้ก็เดินออกไปปล่อยให้นิษายืนหน้าเครียดด้วยความโกรธ

     “ยายน้อง เธอคิดจะมาเป็นคู่แข่งฉันงั้นหรือ ขอให้เจอเรื่องไม่ดีระหว่างทางด้วยเถิด” นิษาแซ่งพร้อมยกมือท่วมหัวด้วยความโมโห ที่สุธีเห็นเด็กไม่สิ้นกินน้ำนมดีกว่าตัวเอง

                สายธารขับรถมาจนใกล้จะถึงทางเข้าไร่บ้านของเธอ เธอจอดรถและปล่อยโฮ่ร้องออกมา เธอกั้นมันเอาไว้ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้ว สายธารนั่งร้องไห้อยู่นานจนมองไปทางไหนก็มืดไปหมด

     “พี่สุธีนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่น้องจะร้องไห้เพราะพี่”สายธารีบเช็ดน้ำตาก่อนจะสตาร์ทรถ แต่แล้วก็มีเสียงเคาะกระจก ชายหนุ่มสองคนท่าทางไม่เป็นมิตรกำลังมองเธอด้วยรอยยิ้มอันน่ากลัวเธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

     “อย่ามายุ่งกับฉันออกไปนะ”สายธารตะโกนออกไปด้วยความกลัว อีกคนหนึ่งพยายามจะเปิดประตูรถ อีกคนยืนขวางทางรถเธอไว้ สายธารทั้งกลัวและตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเธอเอาแต่ร้องไห้และบีบแตไล่ ไม่นานก็มีแสงรถสาดมาที่รถเธอและบีบแตเสียงยาวหวังไล่ผู้ร้าย ทั้งสองหนุ่มตกใจรีบวิ่งหนีไป สายธารก้มหน้าร้องไห้ด้วยความกลัว

     “รถของน้องนี่”สุธีตกใจและวิ่งลงจากรถ ตรงเข้ามาเคาะกระจกรถสายธารยังคงกลัวจนไม่ยอมมองดู

    “น้องเปิดประตูให้พี่ นี่พี่เองนะ”สุธีพยายามเรียกเธออยู่นาน

     “ไม่..ไม่นะ อย่ามายุ้งกับฉัน” สายธารเอาแต่ปิดหูปิดตาร้องไห้ด้วยความกลัวสุดๆ

     “น้อง.. เป็นอะไรมากไหม น้องตั้งสติแล้วมองดูสิ นี่พี่เองพี่สุธีไง”สายธารหันมองน้ำตาท่วมใบหน้าอันขาวสีด

     “พี่สุธี ช่วยน้องด้วย น้องกลัว”สายธารเปิดประตูรถได้เธอก็โผเข้ากอดสุธีตัวสั่น และเอาแต่ร้องไห้สุธีพยายามปลอบโยนเธออยู่นานสายธารจึงยอมหยุด สุธีขับรถตามไปส่งเธอที่บ้าน และขอร้องไม่ให้สุธีบอกเรื่องนี้กับทุกคนเพราะกลัวว่าทุกคนจะเป็นกังวลกันเสียงเปล่า สุธีจำต้องรับปากไม่อย่างนั้นเธอก็จะพาลโกรธเขาไปด้วย

 

                แอนนาทำตัวลับๆ ล่อๆ ที่หน้าห้องน้ำเก่า ที่นี่แทบจะไม่มีใครเข้ามาใช้มันเพราะอยู่ไกลจากตึกเรียนมาก เธอถูกสั่งให้ดูต้นทางที่หน้าห้องน้ำแห่งนี้เป็นประจำ แอนนาไม่เคยรู้ว่าพวกนั้นเข้าไปทำอะไรกันด้านใน

     “ยายแอนมีใครผ่านมาบ้างหรือเปล่า”เสียงของดาวล้อมตะโกนมาจากด้านใน แอนนาตอบไปว่าไม่มี เวลาผ่านไปกว่า 15 นาที ทั้งสร้อยทอง นิตยา ดาวล้อม และเจนจิตรเดินออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างคนมีความสุข

     “พวกเธอไปกินช็อกโกเลตในห้องน้ำกันมาหรือฉันได้กลิ่น”แอนนาถามขึ้นทุกคนมองหน้ากันและหัวเราะเสียงดังรั่น

     “ใช่...ขอโทษนะที่ไม่ได้แบ่งให้เธอของดีมีน้อยจ้า”ดาวล้อมพูด และทุกคนยังเอาแต่หัวเราะจนแอนนาดูจะงง

 

                มีนามองสบตากับแอนนาและทั้งสองยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร มินทร์ตามองเห็นเข้าพอดี

     “เธอกับแอนนาดูจะเป็นมิตรกันมากเลยนะ”มินทร์ตาถาม มีนาหันกลับมายิ้มให้เพื่อนทั้งสองที่กำลังมองดูเธออย่างแปลกใจ มีนาจึงเล่าความเป็นมาให้ทั้งสองเข้าใจ สายธารเห็นด้วยแต่มินทร์ตาดูจะค้านไม่ยอมเข้าใจในตอนแรก เมื่อมีนาอธิบายความคิดเห็นของเธอมินทร์ตาจึงยอมรับแต่โดยดี

      “แล้ววันนี้พวกเธอจะไปดูเราซ้อมกันไหม”มีนาถามขึ้น สายธารและมินทร์ตา ยิ้มและพยักหน้าตามคำเชิญ

 

                ตกเย็นเมื่อสายธารและมินทร์ตาออกมาจากห้องสมุด ทั้งสองจึงเดินตรงไปยังโรงยิม ที่มีนากำลังซ้อมยูโดอยู่ ระหว่างนั้นทางสุธีโทรเข้ามาหาสายธารเพื่ออาสาไปส่ง แต่เธอบอกสุธีว่า ต้องกลับพร้อมมีนาเธอได้นัดไว้ก่อนแล้ว สุธีจึงของตามมา เมื่อเขามาถึงสุธีมองหาโรงยิมและสอบถามคนนักศึกษาจนเขาเดินมาถึง

     “คงเป็นที่นี่นะ”สุธีอ่านป้ายและเดินเข้ามาดู ด้านในกลางโรงยิม หลายคนกำลังซ้อมทุ่มคู่ต่อสู้ บ้างก็กำลังนอนกองอยู่กับพื้น สุธีดูจะทึ่งไม่น้อยเมื่อคนที่ทุ่มคู่ต่อสู้นั้น คือผู้หญิงที่เขาเคยคิดว่า สวย อ่อนโยน น่ารัก น่าทะนุถนอมอยู่ด้วย

     “ถึงกับอึ้งไปเลยหรือค่ะคุณหมอ”เสียงหวานๆ ดูค้นหู และเมื่อสุธีมองมา สายธารและมินทร์ตากำลังยืนยิ้มอยู่

     “ก็นิดหนึ่ง ไม่คิดว่าคนที่ดูอ่อนโยนอย่างคุณมีนาจะชอบเล่นพวกแบบนี้”สุธียังคงมองดูท่าทางเอาจริงเอาจังของมีนา ดูแล้วเขาก็นึกขำเมื่อนึกถึงตอนที่เขาคิดจะจีบเธอเพราะอย่างดูแล ปกป้องเธอ แต่เป็นอย่างนี้แล้วคงตรงกันข้าม

     “พี่สุธีนึกขำอะไรอยู่หรือค่ะ”สายธารแปลกใจที่อยู่ๆ สุธีก็ยิ้มขึ้นมา เขาปฏิเสธเพราะเขาไม่อยากพูดถึงมันอีก

 

                หลังจากที่เลิกซ้อมพวกเขาก็ไปทานข้าว วันนี้ทุกคนดูจะมีความสุขกันทั่วหน้า เมื่อสุธีได้รู้จักมีนามากขึ้นเขาก็รู้อะไรบางอย่าง ความจริงแล้วนอกจากจะสวย และเก่ง เธอยังดูเข้มแข็ง และเขารู้สึกอายเมื่อคิดถึงอดีต

     “คุณหมอกำลังคิดตลกฉันอยู่ในใจหรือค่ะ”มีนาถามเมื่อเห็นสุธีมองหน้าเธอบ่อยๆ และทุกครั้งก็แอบอมยิ้ม

     “เปล่าครับ ผมแค่คิดไม่ถึงว่าจะได้รู้จักตัวจริงของคุณ มันน่าทึงจริงๆ”สุธีพูดทำเอามีนาหัวเราะไม่ยอมหยุด

     “แต่ก่อนฉันเป็นใครหรือค่ะ”คำพูดของมีนาทำเอาทุกคนหัวเราะไปตามๆ กัน

     “อ้อ..ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ผมไม่คิดว่าคุณจะมีมุมอื่นๆ อีก”สุธีแก้ต่างทั้งๆ ที่สาวๆ ยังพากันหัวเราะ

     “ก็มีนาเขาเป็นลูกทหารนี่ค่ะ เรื่องแบบนี้เธอต้องเก่งอยู่แล้วหละค่ะ”สายธารอธิบายให้สุธีเข้าใจ

 

                ธนานำใบประกาศจบการศึกษาปริญญาโทรจากฝรั่งเศษยื่นให้กับผู้เป็นพ่อ และผู้เป็นแม่ดูจะดีใจไม่น้อย

     “นี่อะไร!! ตกลงแกไม่ได้เรียนวิศวะอย่างที่ฉันตั้งใจจริงๆ งั้นเหรอ”ผู้เป็นพ่อขึ้นเสียง ธนาหน้าเครียดนั่งนิ่ง

     “ค่อยๆ พูดกันเถอะพ่อ ลูกอย่างเรียนอะไรทำอะไรก็ตามใจลูกเถอะ”แม่ดาวเรืองพยายามที่จะอธิบาย

     “คุณก็ดีแต่ให้ท้ายลูก อนาคตของมันอยู่โน้นปลายดอย คุณเห็นไหม”พ่ออาทรหันมาตะวาดภรรยา

     “แล้วแกจะเอาอย่างไง กิจการของครอบครัวแกจะไม่คิดที่จะช่วยเลยใช่ไหม”ผู้เป็นพ่อหันมาถามลูกเสียงแข็ง

     “ผมจะไปเป็นครูบนดอยตุง งานของพ่อผมจะมาช่วยดูแลในวันหยุด”ธนาพูดจบเขาลุกขึ้น

     “แกคิดว่าแกเป็นใคร ถึงจะทำงานสองอย่างออกมาดีได้ ฉันผิดหวังในตัวแกจริง”ผู้เป็นพูดจบถึงกับซุดนั่งกับโซฟา แม่ดาวเรืองประคองและปลอบให้ใจเย็น ธนาเดินขึ้นบันไดมา ก็พบว่ามีนากำลังยืนอยู่ ธนามองได้ครู่หนึ่งเขาก็เดินผ่านโดยไม่มีคำพูดใดๆ มีนารู้สึกได้ถึงนัยตาคู่นั้นมันคงเครียด เศร้า และอึดอันจนไม่อาจฝืนยิ้มออกมาได้

 

                วันต่อมาธนาเก็บของและเตรียมพร้อมที่จะขึ้นดอย เขาไม่ฟังคำขัดค้านของใครทั้งสิ้น นี่เป็นครั้งแรกที่   มีนาเห็นท่าทางอันเย็นชาของเขา เธอได้แต่มองดูเขาอยู่ห่างๆ เพราะเธอเป็นเพียงคนนอกแค่ผู้อาศัยเท่านั้น

     “พี่ค่ะ ทำไมพี่ต้องรีบไปขนาดนี้หละ พ่อยังไม่หายโกรธพี่เลยนะ”สายธารพยายามห้ามพี่ชาย โดยมีนายืนมองอยู่

     “น้องดูแลพ่อกับแม่ แทนพี่ด้วยนะพี่จะพยายามมาในวันหยุด”ธนาสั่งลาผู้เป็นน้องและหันไปมองมีนา เธอได้แต่ยืนมองเขา และส่งผ่านความรู้สึกห่วงใยผ่านทางสายตาที่แสนจะอาทรยิ่งนัก ธนารับรู้ถึงความรู้สึกนั้น เขายิ้มให้เธอ ก่อนจะขึ้นรถไป ธนาไม่ได้เอ่ยหรือสั่งลาเธอเลยสักคำ มีนารู้สึกผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างมาก

     “คนใจร้าย บอกลาสักคำก็ไม่มี คงเพราะเราไม่ได้มีความหมายกับเขาสินะ”มีนาคิดด้วยความน้อยใจ

 

                สุธีเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก สายธารและแม่ดาวเรืองรีบเดินเข้ามาหา มีนายืนมองห่างๆ

     “คุณพ่อเป็นไงบ้างค่ะ”สายธารถามสีหน้าเป็นกังวลพอๆ กับแม่ดาวเรืองที่รอฟังอยู่

     “คุณอา ความดันขึ้นนะครับ ถ้ามีเรื่องตกใจบ่อยๆ อาจจะถึงขั้นอันตรายได้”สุธีพูดก่อนจะส่งยาให้น้าดาวเรือง

     “ธนามันไปดอยตั้งแต่เมื่อไหร่”สุธีถามเมื่อเดินออกมาที่สวนหลังบ้าน โดยมีนาถือน้ำเดินตามมาสมทบ

     “พี่ชายใจร้าย น้องหละผิดหวังจริงๆ”สายธารดูจะโมโหพี่ชายไม่น้อย

     “เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพี่จะไปดูมันที่ดอยแล้วกันนะ”สุธีอาสา มีนาดูจะดีใจเล็กน้อย เธอขอตามไปด้วยคน

 

                หนึ่งอาทิตย์ต่อมาสุธีเดินเข้ามาในบ้านพักพร้อมกับสายธารแต่ทั้งคู่กับพบแต่ความว่างเปล่า

     “พี่ธนา พี่อยู่ไหนนะ”สายธารมองหาจนทั่วบ้านก็ไม่เห็นแม้เงาของธนา สุธีจับมือให้กำลังใจ

     “มันคงอยู่ในหมู่บ้านนี้และ เราออกไปหาข้างนอกกันเถอะ”สุธีพูดและจูมมือสายธารไม่ยอมห่างสายธารมองดูมือที่จับเธอไว้แน่นมันดูอบอุ่นจนเธอไม่อยากปล่อยมันให้หลุดมือ

                ขณะนั้นธนาเกณฑ์คนทั้งหมู่บ้านเพื่อไปซ้อมแทรมโรงเรียนที่ทั้งเก่าและทรุดโทรมการซ่อมแซมดำเนินการมากว่า 2-3 วันแล้ว มีนามองดูผู้หญิงชาวบ้านทั้งสาวและชรากำลังถือข้าวของ ดูเหมือนจะเป็นพวกอาหารเดินตรงไปทางด้านทิศเหนือด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข

     “เขาไปไหนกันนะ”มีนาถามตัวเองด้วยความสงสัย เพราะเธอไม่รู้ว่าถ้าถามพวกเขาแล้วเธอจะสื่อสารกันรู้เรื่องหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนัก มีนาเลือกที่จะเดินตามไปดูพวกเขา และเมื่อเดินไปได้ไม่ไกลนักก็เห็นผู้คนส่วนมากกำลังขมักเขม้นทำงานกันอย่างมีความสุข มีนาเดินเข้าไปดูใกล้ และเห็นป้ายชื่อว่า

     “โรงเรียนของเรา ชาวดอยตุง” มีนาอ่านมัน และเดินดูรอบๆ ก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งด้านหลังของเขาคล้ายๆ กับว่าเคยเห็นมาก่อน มันดูคุ้นตา มีนาเดินเข้าไปใกล้ๆ มันชัดเจน และแน่ใจมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้น

     “ผมขอน้ำดื่มสักแก้วได้ไหมครับ”เสียงของธนาพูดขึ้นทั้งๆ ที่ยังได้หันมอง มีนายิ้มด้วยความดีใจ เธอเดินไปหยิบน้ำที่ชาวบ้านตักใส่แก้วไว้อย่างเป็นระเบียง มีนาเดินมายืนอยู่ด้านหลังธนาอีกครั้งพร้อมยื่นแก้วน้ำให้เขา

     “ขอบคุณครับ เดี๋ยวสักครู่ก็พักทานข้าวกันก่อนนะครับ” ธนาพูดจบและหันกลับมาเพื่อจะหยิบแก้วน้ำ ตาเขาต้องตกตะลึง เมื่อผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขากำลังมอง นัยตาประกายแห่งความยินดี และรอยยิ้มที่เขาคิดถึงมาตลอด

     “มีนา..!”เสียงของธนาแผวเบาด้วยความตื้นตันใจ ธนาวางค้อนที่ถือเอาไว้ลง และเดินมาจนใกล้ตัวมีนา นัยตาของเขายังคงจ้องมองเธอ ก่อนจะโอบกอดเธออย่างลืมตัว ท่ามกลางสายตาชาวบ้านที่มองอยู่ด้วยรอยยิ้ม

     “พี่ธนา...พี่ทำอะไรค่ะ”มีนาตกใจจนตัวแข็งทื่อพูดตะกุกตะกัก หน้าแดงร้อนลุ่มด้วยความตกใจ เมื่อธนารู้ตัวก็อีกที

     “เอ่อ...พี่ขอโทษนะ เรามาได้อย่างไง”ธนาปล่อยมีนาออกจากอ้อมกอดของเขา และดูเขาจะเขินจนไม่กล้ามองหน้าของเธอ มีนามองดูรอบๆ พบว่าชาวบ้านกำลังมองและยิ้มให้กับพวกเธอ มีนาพูดอะไรไม่ออก

     “ก็มากับน้องไง พี่ทำอะไรเมื่อกี้น้องเห็นนะ”เสียงใส่ๆ ดังมาจากอีกด้าน สายตาดุเหมือนกำลังตำหนิพี่ชายตัวเอง

     “น้องก็มาด้วยเหรอ...”ธนารู้สึกอายมากกว่าเดิม และสักครู่สุธีก็เดินออกมาจากอีกมุม ธนาหน้าเสียขึ้นมาทันที เพราะเขาไม่แน่ใจว่าสุธีจะเห็นภาพเมื่อครู่หรือไม่ เขารู้มาโดยตลอดว่าเพื่อนรักแอบมีใจให้มีนาตั้งแต่แรกเจอแล้ว

     “ฉันก็มา นายไม่คิดจะทักทายเพื่อนรักอย่างฉันบ้างหรือ”สุธีเดินเข้ามายืนข้างๆ สายธาร

 

                หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ทั้งมีนา สายธาร และสุธีก็ช่วยธนาและชาวบ้าน ซ่อมแซมโรงเรียนด้วยใบหน้าแห่งความสุขและเสียงหัวเราะที่แสนประทับใจ ธนาแอบมองดูมีนาอยู่บ่อยๆ และเช่นเดียวกันกับเธอที่มองดูเขาทำงานอย่างขันแข็ง มีนารู้สึกภูมิใจในตัวของธนาไม่น้อย ท่าทาง ที่เอาใจใส่กันและกันเหมือนคู่รักที่น่าอิจฉานั้น อยู่ในสายตาของสุธี กำลังมองดูอยู่ห่างๆ สายธารมองตามสายตาของสุธีจึงเข้าใจ

     “พี่สุธีผิดหวังมากใช่ไหม”สายธารยืนอยู่ข้างๆ และคำพูดที่ดูจะปลอบโยนนั้น ทำให้สุธีหันกลับมายิ้ม

     “เปล่านี่ พี่มีเรื่องต้องผิดหวังด้วยเหรอ”สุธีหลบตาและหันไปทำงานต่อ สายธารยื่นผ้าเช็ดหน้าให้สุธีและส่งยิ้ม

     “พี่ไม่ได้กำลังคิดว่าพี่ธนาหักหลังพี่อยู่ใช่ไหม”สายธารถามต่อทำให้สุธีนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะหันกับมายิ้ม

     “ความรักนะ มันไม่ได้ตัดสินว่าใครจะผิดหรือถูกได้เหรอนะ เพราะความรักมันเป็นเพียงความรู้สึกหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นจะสร้างจิตนาการและความรู้สึกของมันให้เป็นแบบไหน และเช่นเดียวกันการที่จะเป็นคู่รักกัน ก็คือความรักของคนสองคน ที่สร้างจิตนาการและความรู้สึกที่คล้าย และเหมือนกันเท่านั้นถึงจะเข้ากันได้”สุธีพูด

     “อย่างนั้นหรือค่ะ”สายธารคิดตามเธอจึงได้รู้สึกเจ็บปวด เพราะกำลังคิดว่าจิตนาการของเธอกับเขามันไม่ได้ตรงกัน ทำไมไม่สามารถที่จะทำให้เขาหันมองเธอด้วยความรักแบบอื่นได้ น้องจากความรักแบบน้องสาวเท่านั้น

     “เป็นอะไรไปหละน้อง ทำไมทำหน้าแบบนั้น พี่พูดซึ้งไปเหรอ”สุธีเห็นสายตาของสายธารเศร้าจนเขาแปลกใจ

     “พูดอะไรกันอยู่หรือค่ะ”มีนาเดินเข้ามาร่วมกลุ่ม เมื่อเห็นหน้าของเพื่อนสาว เหมือนคนกำลังผิดหวังมีนาจึงหันไปหาคำตอบกับสุธี สายธารขอตัวเดินออกมาจากกลุ่ม เธอเดินออกไปไกลจนคิดว่าไม่มีใคร เธอจึงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด แต่เธอกับไม่รู้ว่าสุธีเดินตามเธอมา และเขาก็เห็นได้ชัดเธอกำลังร้องไห้อยู่ สุธีแอบมองอยู่ห่างๆ เขาไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปปลอบโยนเหมือนเคย เขาทำได้แต่เฝ้ามองเธอด้วยความห่วงใยห่างๆ

     “เพราะพี่ใช่ไหมน้องถึงได้ร้องไห้อย่างคนที่เจ็บปวดแบบนี้ พี่จะต้องทำอย่างไงดี”สุธีได้แต่พูดกับตังเอง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา