หัวใจใส่ถุง
6.2
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18.12 น.
11 ตอน
9 วิจารณ์
20.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 10.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) แผนซ้อนแผน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความก่อนที่สถานการณ์จะตึงเครียดไปมากกว่านี้ จู่ๆ พัสรียาก็ลุกขึ้นขอตัวออกไปก่อน ขณะกำลังจะเดินผ่านชายหนุ่มหล่อนก็พูดเบาๆ พอให้ได้ยินกันสองคน
“คุณก้องเกียรติ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ก้องเกียรติได้ทีก็ขอตัวออกไปบ้างเหมือนกัน เขาเดินตามหญิงสาวมาติดๆ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“เอ! วันนี้คุณมาแปลกนะพัสรียา จู่ๆ คุณก็นึกอยากคุยกับผมขึ้นมา หรือว่า…”
“นี่คุณก้อง อย่ามานอกเรื่องดีกว่า คุณจะเอายังไงก็ว่ามา”
“เอายังไง นั่นสิ จะเอายังไงดีน๊า ว่าแต่คุณหมายถึงเรื่องอะไรกันล่ะครับคุณผู้หญิง”
“นี่คุณ กรุณาอย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย ที่คุณหญิงพูดมาทั้งหมดนั่น ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่ คุณต้องการจะกลั่นแกล้งให้ฉันหัวหมุนเล่นใช่มั้ยคุณก้อง”
“เปล่านี่ ฉันไม่ได้ว่างมากนักที่จะมาปั่นหัวใครเล่นหรอกนะ แต่เพราะว่าเธอนั่นแหละ พัสรียา เพราะเธอนั่นแหละมาเสนอตัวให้ฉันถึงบ้าน ถ้าฉันเดาไม่ผิดเธอกับพ่อกับแม่ของเธอคงจะหวังสมบัติของตระกูลฉันอยู่ใช่มั้ยล่ะ อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาหน่อยเลย”
“เอ๊ะ! คุณก้องนี่คุณว่าอะไรนะ คุณกำลังใส่ร้ายครอบครัวของชั้น คุณกำลังดูหมิ่นเกียรติของครอบครัวฉันอยู่ คุณนี่มันแย่จริงๆ ชั้นล่ะสงสารคุณหญิงกับคุณท่านเสียจริงๆ เลยที่พวกท่านอุตส่าห์หวังดีคิดอยากช่วยให้คุณได้สำนึก แต่ดูท่าทางเห็นจะยากเสียแล้วล่ะ”
“อ้อ งั้นก็แสดงว่าฉันก็เข้าใจครอบครัวเธอผิดน่ะสิ พัสรียา ถ้าจริงๆ แล้วครอบครัวของเธอคงจะไม่ได้หวังมาฮุบสมบัติของตระกูลชั้นหรอกใช่มั้ย ถ้าจะให้ชั้นเชื่อเธอ เธอก็ต้องพิสูจน์ด้วยการแต่งงานกับฉันและทำตัวเป็นสะใภ้ที่ดีของเกียรติการุณย์ แล้วเมื่อนั้นชั้นถึงจะยอมเชื่อเธอ”
“นี่พูดแบบนั้น มันจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอคุณก้อง อย่านึกว่าชั้นจะไม่รู้ทันคุณนะ ฉันไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยการแต่งงานกับเพลย์บอยเจ้าเล่ห์อย่างคุณหรอก ฉันพิสูจน์ด้วยวิธีอื่นก็ได้นี่นา”
“เอาน่าใจเย็นๆ พัสรียาเธอไม่เห็นจำเป็นจะต้องซีเรียสขนาดนั้นก็ได้นี่ ชั้นต่างหากล่ะที่จะต้องซีเรียสกว่าเธอที่จู่ๆ พ่อกับแม่ของชั้นก็ดันให้ผู้หญิงที่ชั้นไม่รู้จักมาแต่งงานกับชั้น แล้วชีวิตที่เคยสงบสุขของชั้นก็ต้องหายวับไปในชั่วพริบตา”
“ถ้าอย่างนั้นก็มีอยู่ทางเดียวแล้วล่ะคุณก้อง ถ้าเราร่วมมือกัน”
“เอ๊ะ! นี่เธอหมายถึงอะไรน่ะ พัสรียา”
“ก็หมายความว่า คุณกับฉันต้องร่วมมือกัน เพื่อให้พ่อกับแม่ของทั้งคุณและชั้นยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ให้ได้น่ะสิ”
ชายหนุ่มแทบจะขยี้ตาเลยทีเดียว นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่านะที่เขาเห็นรอยยิ้มใสๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวเข้าใจยากคนนี้ ดูท่าตอนนี้เธอจะหมายมาดอะไรบางอย่างเอาไว้ในใจเป็นแน่ ชายหนุ่มครุ่นคิดในใจ
“เธอคิดที่จะทำอะไรนะ พัสรียา ชั้นก็อยากจะรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอคิดจะจัดการเดินเกมส์หมากนี้ยังไงเหมือนกัน”
“นี่ว่าไงล่ะ ตกลงคุณจะยอมตกลงรับข้อเสนอของชั้นรึเปล่า”
หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายกว่าทีแรกจนเห็นได้ชัด ด้วยเข้าใจไปว่าชายหนุ่มจอมเพลย์บอยคนนี้คงไม่ชอบการถูกจับคลุมถุงชนแบบนี้เป็นแน่ แล้วอีกอย่างเขาคงไม่มีทางเลือกมากนักที่จะปฏิเสธการให้ความร่วมมือกับหล่อนในครั้งนี้
“เอางั้นก็ได้ คุณมีวิธีจัดการยังไงก็ลองว่ามาสิ”
“เดี๋ยวก่อนใจเย็นๆ สิ ก่อนอื่น เราต้องมาเป็นพันธมิตรกันเสียก่อน”
ชายหนุ่มทำหน้างง ไม่เข้าใจความหมายที่หล่อนพูด พัสรียายื่นมือขวาออกมาข้างหน้า และพูดขึ้นว่า
“จากนี้ไปเราจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เราจะร่วมมือกันยกเลิกการคลุมถุงชนในครั้งนี้ให้สำเร็จให้ได้ และที่สำคัญเราจะไว้เนื้อเชื่อใจกัน เราจะไม่หักหลังกัน ด้วยเกียรติของเรา…พัสรียา และนายก้องเกียรติทายาทของตระกูลเกียรติการุณย์”
พูดจบหญิงสาวยิ้มเต็มใบหน้าก่อนจะพยักพเยิดให้ชายหนุ่มยื่นมือมาเพื่อจับมือเป็นพันธมิตรกัน อย่างที่ได้กล่าวจบไป เมื่อเห็นชายหนุ่มยังอิดออดอยู่ หล่อนจึงถือวิสาสะคว้ามือขวาเขาขึ้นมาจับเอาไว้และเขย่าเบาๆ ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า
“หากใครไม่ซื่อสัตย์ หรือคิดจะหักหลังล่ะก็ ขอให้ชีวิตประสบพบเจอแต่หายนะ มีแต่ความทุกข์กายทุกข์ใจ หาความเจริญก้าวหน้าไม่ได้เลยตลอดชีวิต…”
ประโยคสุดท้ายของหล่อนทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง ก็หล่อนเล่นสาปแช่งเขาไปตลอดทั้งชีวิตซะขนาดนั้นน่ะ ก็ใครบอกกันล่ะว่าเขาคิดที่อยากจะยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้กับหล่อนแบบจริงๆ จังๆ แบบนั้นน่ะ ความจริงตอนนี้ใจเขามันกลับคิดตรงกันข้ามกับหล่อนเสียแล้ว ให้ตายสิเนี่ย…
( โปรดติดตามตอนต่อไป )
“คุณก้องเกียรติ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ก้องเกียรติได้ทีก็ขอตัวออกไปบ้างเหมือนกัน เขาเดินตามหญิงสาวมาติดๆ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“เอ! วันนี้คุณมาแปลกนะพัสรียา จู่ๆ คุณก็นึกอยากคุยกับผมขึ้นมา หรือว่า…”
“นี่คุณก้อง อย่ามานอกเรื่องดีกว่า คุณจะเอายังไงก็ว่ามา”
“เอายังไง นั่นสิ จะเอายังไงดีน๊า ว่าแต่คุณหมายถึงเรื่องอะไรกันล่ะครับคุณผู้หญิง”
“นี่คุณ กรุณาอย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย ที่คุณหญิงพูดมาทั้งหมดนั่น ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่ คุณต้องการจะกลั่นแกล้งให้ฉันหัวหมุนเล่นใช่มั้ยคุณก้อง”
“เปล่านี่ ฉันไม่ได้ว่างมากนักที่จะมาปั่นหัวใครเล่นหรอกนะ แต่เพราะว่าเธอนั่นแหละ พัสรียา เพราะเธอนั่นแหละมาเสนอตัวให้ฉันถึงบ้าน ถ้าฉันเดาไม่ผิดเธอกับพ่อกับแม่ของเธอคงจะหวังสมบัติของตระกูลฉันอยู่ใช่มั้ยล่ะ อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาหน่อยเลย”
“เอ๊ะ! คุณก้องนี่คุณว่าอะไรนะ คุณกำลังใส่ร้ายครอบครัวของชั้น คุณกำลังดูหมิ่นเกียรติของครอบครัวฉันอยู่ คุณนี่มันแย่จริงๆ ชั้นล่ะสงสารคุณหญิงกับคุณท่านเสียจริงๆ เลยที่พวกท่านอุตส่าห์หวังดีคิดอยากช่วยให้คุณได้สำนึก แต่ดูท่าทางเห็นจะยากเสียแล้วล่ะ”
“อ้อ งั้นก็แสดงว่าฉันก็เข้าใจครอบครัวเธอผิดน่ะสิ พัสรียา ถ้าจริงๆ แล้วครอบครัวของเธอคงจะไม่ได้หวังมาฮุบสมบัติของตระกูลชั้นหรอกใช่มั้ย ถ้าจะให้ชั้นเชื่อเธอ เธอก็ต้องพิสูจน์ด้วยการแต่งงานกับฉันและทำตัวเป็นสะใภ้ที่ดีของเกียรติการุณย์ แล้วเมื่อนั้นชั้นถึงจะยอมเชื่อเธอ”
“นี่พูดแบบนั้น มันจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอคุณก้อง อย่านึกว่าชั้นจะไม่รู้ทันคุณนะ ฉันไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยการแต่งงานกับเพลย์บอยเจ้าเล่ห์อย่างคุณหรอก ฉันพิสูจน์ด้วยวิธีอื่นก็ได้นี่นา”
“เอาน่าใจเย็นๆ พัสรียาเธอไม่เห็นจำเป็นจะต้องซีเรียสขนาดนั้นก็ได้นี่ ชั้นต่างหากล่ะที่จะต้องซีเรียสกว่าเธอที่จู่ๆ พ่อกับแม่ของชั้นก็ดันให้ผู้หญิงที่ชั้นไม่รู้จักมาแต่งงานกับชั้น แล้วชีวิตที่เคยสงบสุขของชั้นก็ต้องหายวับไปในชั่วพริบตา”
“ถ้าอย่างนั้นก็มีอยู่ทางเดียวแล้วล่ะคุณก้อง ถ้าเราร่วมมือกัน”
“เอ๊ะ! นี่เธอหมายถึงอะไรน่ะ พัสรียา”
“ก็หมายความว่า คุณกับฉันต้องร่วมมือกัน เพื่อให้พ่อกับแม่ของทั้งคุณและชั้นยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ให้ได้น่ะสิ”
ชายหนุ่มแทบจะขยี้ตาเลยทีเดียว นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่านะที่เขาเห็นรอยยิ้มใสๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวเข้าใจยากคนนี้ ดูท่าตอนนี้เธอจะหมายมาดอะไรบางอย่างเอาไว้ในใจเป็นแน่ ชายหนุ่มครุ่นคิดในใจ
“เธอคิดที่จะทำอะไรนะ พัสรียา ชั้นก็อยากจะรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอคิดจะจัดการเดินเกมส์หมากนี้ยังไงเหมือนกัน”
“นี่ว่าไงล่ะ ตกลงคุณจะยอมตกลงรับข้อเสนอของชั้นรึเปล่า”
หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายกว่าทีแรกจนเห็นได้ชัด ด้วยเข้าใจไปว่าชายหนุ่มจอมเพลย์บอยคนนี้คงไม่ชอบการถูกจับคลุมถุงชนแบบนี้เป็นแน่ แล้วอีกอย่างเขาคงไม่มีทางเลือกมากนักที่จะปฏิเสธการให้ความร่วมมือกับหล่อนในครั้งนี้
“เอางั้นก็ได้ คุณมีวิธีจัดการยังไงก็ลองว่ามาสิ”
“เดี๋ยวก่อนใจเย็นๆ สิ ก่อนอื่น เราต้องมาเป็นพันธมิตรกันเสียก่อน”
ชายหนุ่มทำหน้างง ไม่เข้าใจความหมายที่หล่อนพูด พัสรียายื่นมือขวาออกมาข้างหน้า และพูดขึ้นว่า
“จากนี้ไปเราจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เราจะร่วมมือกันยกเลิกการคลุมถุงชนในครั้งนี้ให้สำเร็จให้ได้ และที่สำคัญเราจะไว้เนื้อเชื่อใจกัน เราจะไม่หักหลังกัน ด้วยเกียรติของเรา…พัสรียา และนายก้องเกียรติทายาทของตระกูลเกียรติการุณย์”
พูดจบหญิงสาวยิ้มเต็มใบหน้าก่อนจะพยักพเยิดให้ชายหนุ่มยื่นมือมาเพื่อจับมือเป็นพันธมิตรกัน อย่างที่ได้กล่าวจบไป เมื่อเห็นชายหนุ่มยังอิดออดอยู่ หล่อนจึงถือวิสาสะคว้ามือขวาเขาขึ้นมาจับเอาไว้และเขย่าเบาๆ ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า
“หากใครไม่ซื่อสัตย์ หรือคิดจะหักหลังล่ะก็ ขอให้ชีวิตประสบพบเจอแต่หายนะ มีแต่ความทุกข์กายทุกข์ใจ หาความเจริญก้าวหน้าไม่ได้เลยตลอดชีวิต…”
ประโยคสุดท้ายของหล่อนทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง ก็หล่อนเล่นสาปแช่งเขาไปตลอดทั้งชีวิตซะขนาดนั้นน่ะ ก็ใครบอกกันล่ะว่าเขาคิดที่อยากจะยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้กับหล่อนแบบจริงๆ จังๆ แบบนั้นน่ะ ความจริงตอนนี้ใจเขามันกลับคิดตรงกันข้ามกับหล่อนเสียแล้ว ให้ตายสิเนี่ย…
( โปรดติดตามตอนต่อไป )
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ