คุณหมอหัวใจแหวว
7.6
17) อยากได้เธอมาเป็นแฟน 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“น่าเกลียดมากเลยนะพี่โรจน์ ตึกก็อยู่แค่นั้นแท้ๆเดินไปเอาเองก็ได้ ทำไมต้องมาแย่งของคุณหมอเค้าด้วย”
วีรญาว่าให้อย่างเหลืออด แต่อีกฝ่ายก็ไม่สะทกสะท้าน กลับลอยหน้าดื่มน้ำเหมือนจะแกล้งยั่ว คราวนี้ดีกรีความโมโหที่พุ่งจี๊ดขึ้นมาทำให้ยัยหมวยใช้ถ้อยคำที่รุนแรงขึ้น
“งานก็ไม่ทำแล้วยังมาทำตัวแย่ๆให้คนอื่นเห็นอีก ถามจริงๆเถอะพี่ไม่อายบ้างเหรอที่กินแรงแถมยังเอาเปรียบชาวบ้านเค้าอย่างงี้น่ะ”
คำพูดของยัยหมวยจี้ใจดำสาโรจน์อย่างจัง ชายร่างเตี้ยถลึงตามองหญิงสาวแล้วออกอาการฮึดฮัด ถ้าไม่ติดเกย์ล่ำกับหมอตรัยยัยหมวยคงโดนตบร่วงไปแล้ว แต่นี่ถ้าจะทำอะไรยัยเด็กปากดีนี่สาโรจน์คงอ่วมเพราะแขนล่ำน้องๆน่องแรดนั่นแน่ๆ แถมหมอตรัยก็ยืนมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอีก เมื่อประเมินแล้วมีแต่เสียมากกว่าได้รุ่นพี่จอมขี้เกียจจึงผละจากไปด้วยท่าทางยียวนกวนบาทาเท่าที่จะทำได้
“ดีนะว่าชั้นใส่บาตรบ่อยเลยใจเย็นลงเยอะ เป็นเมื่อก่อนไอ้นี่ได้คลานเป็นหมาถูกสิบล้อทับแน่”
พี่โจ้เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน พอหันมาเห็นหมอตรัยที่มองยัยหมวยตาเชื่อมก็ขยิบตาให้แว่บหนึ่ง ก่อนจะเดินไปสำรวจเส้นทางเก็บน้ำทางอื่นต่อ ปล่อยให้วีรญาอยู่กับหมอตรัยอย่างรู้งาน
“ทีนี้หมอก็ไม่มีน้ำดื่มแล้วสิ”
คุณหมอพูดขึ้นลอยๆแล้วก้มมองยัยหมวยที่ถือขวดชาเขียวเย็นเฉียบค้างอยู่
“หนูวีจะใจดีแบ่งน้ำให้หมอดื่มสักนิดได้มั้ยครับ หรือว่าจะรังเกียจ หือมม์”
แผนสูงอีกแล้วอ่ะหมอ เห็นๆอยู่ว่ายัยหมวยยกขวดดื่มแบบไม่สนหลอด(หมวยอ่ะ ไม่มีมาดนางเอกเลย ให้ตายสิ)ถ้าดื่มด้วยกันแบบนี้ก็กลายเป็นจูบทางอ้อมน่ะสิ แต่คุณหมอออกตัวซะแบบนี้วีรยาก็เลยต้องส่งน้ำให้ เดี๋ยวคุณหมอจะน้อยใจว่ารังเกียจเค้าน่ะ ใบหน้าขาวๆหน้าแดงซ่านไปหมด เขินอ่ะดิยัยหมวยเอ๊ย
นายแพทย์หนุ่มรับขวดน้ำที่วีรญาส่งให้แล้วจรดริมฝีปากลงที่ปากขวดช้าๆก่อนจะยกขึ้นดื่ม สายตาเปล่งประกายเสน่หาจับจ้องที่ริมฝีปากเล็กๆแบบไม่วางตาเหมือนจะเตือนให้วีรญานึกถึงวันที่ถูกเขาขโมยจูบ เล่นเอาหญิงสาวยิ่งทำอะไรไม่ถูกไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคนช่างแกล้ง แก้มแดงจนถึงหูเลยทีนี้
ปฏิกิริยาหวั่นไหวของร่างเล็กๆตรงหน้าสร้างความพึงใจให้ชายหนุ่มยิ่งนัก ขอเอาคืนสักนิดนะครับหนูวี...เมื่อเช้าหมอยังแทบคลั่งเพราะหนูวีเลยนะ รู้ไหมเอ่ย
“นิดเดียวเองครับ นี่ไง...”
หมอตรัยส่งขวดน้ำคืนหญิงสาวก่อนจะพูดประโยคถัดไปที่ทำให้ยัยหมวยเขินยิ่งกว่าเดิม
“เหมือนจูบกันทางอ้อมเลยเนอะ หมอเคยอ่านเจอในการ์ตูนสมัยเด็กๆน่ะ ฮะฮะฮะ”
แถมด้วยหัวเราะทิ้งท้ายด้วยเสียงหวานนุ่มเบาๆ แล้วทีนี้ยัยหมวยจะกล้าดื่มน้ำต่อมั้ยเนี่ย...หมอตรัย
แต่วีรญาก็ไม่ได้มีเวลาเขินนานนัก ครู่เดียวพี่โจ้ก็ส่งเสียงเรียกให้มาช่วยงานต่อ การที่วีรญาได้มีโอกาสลงพื้นที่กับรุ่นพี่หุ่นล่ำนับเป็นโอกาสดีที่จะได้ซึมซับความรู้จากพี่โจ้ เนื่องจากพี่โจ้นั้นเป็นคนเก่งและชอบถ่ายทอดความรู้โดยไม่หวงวิชา หมอตรัยเองก็ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างหมอกับนักวิชาการเมื่อได้ลงพื้นที่กับรุ่นพี่ของวีรญาเช่นกัน เมื่อเก็บข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ววีรยา โจ้ และหมอตรัยก็กลับมาช่วยทางด้านหมอปิงต่อ
“ชื่นใจมั้ยครับเพื่อน”
หมอปิงแซวทันทีที่เห็นเพื่อนเดินหน้าบานมาแต่ไกล เจ๊ๆพยาบาลและเจ้าหน้าที่หลายนางเริ่มทำท่าเตรียมพร้อมนินทาระยะเผาขนกันอีกครั้ง
“ชื่นใจมากครับ ขอบคุณเพื่อนมากเลยนะครับ”
ชายหนุ่มตอบเพื่อคิ้วบางด้วยน้ำเสียงระรื่น แซวกันไปมาพอหอมปากหอมคอแล้วต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป หมอตรัยในฐานะกำลังเสริมนั้นลงมือเต็มที่เหมือนได้รับมอบหมายมาเลยทีเดียว
จวบจนสี่โมงเย็นคณะทำงานของแต่ละหน่วยงานจึงเตรียมตัวแยกย้ายกันกลับ วันนี้นับว่าการทำงานก้าวหน้าไปมากเหลือแค่ให้หน่วยดำเนินการเกี่ยวกับความสะอาดเข้ามาจัดการสภาพแวดล้อมและบ่อเก็บน้ำ แล้วก็สรุปรายงานอีกนิดหน่อยก็เป็นอันเรียบร้อย
“เดี๋ยววีไปสรุปรายงานทั่วไป ข้อมูลครบหรือยัง ฮึ เรื่องสิ่งแวดล้อมกับสิ่งที่ต้องทำให้โจ้รับไปนะ พี่จะสรุปเรื่องตัวอย่างที่จะส่งตรวจเอง”
พยาบาลพี่น้องแจงงานให้วีรยาและโจ้รับทราบ ทั้งสองฝ่ายตกลงจะส่งรายงานให้กันภายในไม่เกินทุ่มครึ่งก่อนจะแยกย้ายกันไป ก่อนจากกันพยาบาลพี่น้องยังมีแก่ใจบอกกับคุณหมอตรัยด้วยท่าทางเป็นห่วงเป็นใยว่า
“หมอตรัยคะ พาคุณแม่ไปรดน้ำมนต์เยอะๆนะคะ ซักเจ็ดวัดกำลังดี ของพรรค์นี้มันแรงค่ะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่”
คุณหมอของเราก็ได้แต่ยิ้มและขอบคุณเบาๆด้วยท่าทางออกจะงงๆ หมอปิงเจ้าของรางวัลรามสูรย์ทองคำน่ะหลบไปแอบขำคิกคักอยู่คนเดียวไกลๆ
“อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะปิง เดี๋ยวเราโทร.ชวนแอ๊ดกับริน นะ..ว่าไง”
หมอตรัยชวนเพื่อน อยากจะเลี้ยงสมนาคุณซักหน่อยที่เปิดโอกาสให้เขาได้พบวีรญา แต่หมอปิงนั้นรีบร้อนที่จะกลับบ้านแม้ว่าเพื่อนจะชวนอย่างไรก็ไม่สน
“เราต้องกลับไปกินมื้อเย็นกับครอบครัวว่ะ เดี๋ยวลูกสาวจะคอยแย่ แล้วงานนี่ก็ยุ่งๆไม่ค่อยได้เล่นกับลูกมา2วันแล้ว”
เหตุผลนี้เล่นเอาคนชวนต้องยอม หมอตรัยจึงหันไปทางโจ้และยัยหมวย
“งั้นเดี๋ยวสักทุ่มครึ่งหมอมารับนะครับ คราวนี้ชวนพวกพี่นา กั้ง แล้วก็น้องกุ๊กไปด้วย พี่โจ้ก็เอาพี่เอ๋ไปด้วยนะครับ”
คำชวนของหมอตรัยทำให้ทั้งยัยหมวยและพี่โจ้หันมายิ้มให้กัน ทีนี้ทุกคนก็จะได้ไปทานข้าวด้วยกันโดยที่ยัยหมวยไม่ต้องโดนค่อนขอดว่าทิ้งเพื่อนแล้วสินะ
วีรญาและรุ่นพี่กล้ามโตตกลงนั่งรถคุณหมอกลับบ้าน ทำให้สาโรจน์ต้องนั่งรถสำนักงานกลับเพียงคนเดียวพร้อมสัมภาระมากมายที่สองพี่น้องจงใจเอาคืนบ้างหลังจากสุดจะทนกับพฤติกรรมแย่ๆของคนเห็นแก่ตัว งานนี้ชายร่างเตี้ยบ่นกระปอดกระแปดให้คนขับรถฟังถึงความไร้น้ำใจของวีรญาและพี่โจ้ตลอดทาง จนลุงเวกคนขับรถอาวุโสถึงกับเอือมในความช่างฟ้อง
พอกลับมาถึงทั้งโจ้และวีรญาก็รีบแจ้งกำหนดการให้เพื่อนๆทราบก่อนจะรีบกลับมาสุมหัวสรุปรายงานกันสองคน ส่วนคนอื่นๆก็ตีแบดมั่งเล่นเกมมั่งฆ่าเวลาก่อนจะทุ่มครึ่ง งานของยัยหมวยกับพี่โจ้มาเสร็จเอาเกือบๆหนึ่งทุ่มทั้งคู่รีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวกันอย่างด่วนจี๋ขณะที่คนอื่นๆเตรียมพร้อมจะเฉิดฉายกันเรียบร้อยแล้ว
ยังไม่ทันทุ่มครึ่งคนใจร้อนเพราะแรงรักก็มาจอดรถคอยหน้าบ้านพี่โจ้ ขณะที่พี่เอ๋ไปเป็นคอสตูมให้ยัยหมวย พี่เอ๋เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการให้ยัยตัวดีแต่งตัวให้ดูดีกว่านี้เมื่อเห็นวีรญามาในชุดเสื้อยืดหลวมโพรกและกางเกงสามส่วนเด็กแนว
“แกจะไปขายพวงมาลัยสี่แยกเหรอยะ แต่งตัวอย่างงี้ ยัยวีฉันบอกแกกี่ครั้งกี่หนแล้ว ไอ้เรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวเนี่ย หือ...บลาๆๆๆ”
หลังจากโดนเทศนาไปสิบนาทีจนเกือบบรรลุ แล้วพี่เอ๋ก็ตามไปจัดการกับยัยหมวยถึงบ้าน ระหว่างนั้นเพื่อนๆก็คาดไม่ถูกไม่รู้ว่ายัยหมวยจะโดนบ่นไปอีกกี่ยกกัน แต่คิดว่าคงจะหูชา ดังนั้นเมื่อวีรญาเดินออกมาจากบ้านอีกครั้งเพื่อนจึงพากันถอนใจด้วยความโล่งอกที่ยัยตัวดีแต่งตัวน่ารักดูเป็นผู้หญิงขึ้นเยอะ ขณะที่คนโดนบ่นเป็นสิบๆนาทีเดินหน้าตูมตามก้นพี่เอ๋ออกมา
“ได้ข่าวว่าเมื่อกี้จะไปเป็นเด็กขายพวงมาลัยเหรอครับ หนูวี”
หมอตรัยแซวคนหน้าบึ้งด้วยเสียงหวานนุ่ม เพื่อนๆยัยหมวยกระซิบกระซาบกันว่ายังไงๆก็เกย์ชัวร์ เสียงหวานๆแบบนี้ คนถูกแซวไม่ตอบหันมายกมือไหว้คุณหมอ
“หนูวียิ้มหน่อยน่า ทำหน้าบึ้งไม่น่ารักเลย ไหนยิ้มซิๆ”
พอเห็นคนตัวเล็กยังทำหน้าบอกบุญไม่รับ มือใหญ่ๆก็จับสองแก้มขาวๆดึงออกให้ฉีกยิ้มจนยัยหมวยอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“แค่แต่งตัวให้มันดีๆหน่อยแค่เนี้ยยย จะว่ายากไปไหนยะยัยวี”
พี่เอ๋บ่นรอบที่ล้านเจ็ด แต่ยัยหมวยก็เถียงรอบที่ล้านเจ็ดเท่ากัน
“ก็วีเหนื่อย ขี้เกียจแต่งตัวนี่”
“มันก็เสื้อเหมือนกัน กางเกงเหมือนกัน แค่แกเลือกตัวที่มันดูดีหน่อยแค่เนี้ยมันจะตายมั้ยยะ หา..แล้วยังจะเถียงอีก ไม่ใช่แกจะขี้เกียจแต่งตัวหรอกชั้นรู้ แต่แกไม่ยอมเลือกก่อนใส่ต่างหาก”
คราวนี้เจ๊เท้าเอวก้มลงมองยัยตัวปัญหาที่ทำปากยื่นเพราะเถียงสู้ไม่ได้ ก็จริงของพี่เอ๋เค้านี่
“ต่อไปถ้าแกยังแบบนี้อีกชั้นจะไปชวยแต่งตัวให้ทุกครั้งเลย แล้วจะชวนหมอตรัยไปดูด้วย ดีไหม”
พี่เอ๋ขู่ฟ่อดๆจนยัยหมวยชักหงอกลัวพี่เอ๋จับแต่งตัวน่ะไม่กลัวหรอกเพราะโดนบ่อยแล้ว กลัวแกจะพาคนที่ยืนยิ้มตาเป็นประกายอยู่ข้างๆนี่ไปด้วยมากกว่านะสิ ตัวแสบหันมายิ้มประจบเกาะแข้งเกาะขาล่ำๆ
“แค่นี้วีก็หูจะฉีกแล้วค่ะพี่ขา สัญญาเลยว่าต่อไปวีจะแต่งตัวดีดี๊เลยนะ”
พี่เอ๋ได้ทีขี่แพะไล่(แพะคงแบนเพราะน้ำหนักตัวพี่เอ๋แล้วล่ะ)
“เอ๊ เอาไงดีน๊า หมอตรัยอยากดูด้วยกันมั้ยครับ”
เกย์อาภัพผมพยักเพยิดให้ชายหนุ่มที่ยิ้มหวานอยู่ข้างๆ ทั้งสองรุมไซโคแกล้งยัยหมวยกันอยู่ครู่หนึ่ง พี่โจ้ก็ชวนกันออกเดินทาง เฮียบัญชาให้ยัยหมวยไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถหมอตรัยดังเช่นทุกครั้ง ตามด้วยกุลนารีและกังสดาลที่ขอนั่งจับผิดสังเกตพฤติกรรมตาหมอว่าจะแต๋วแตกออกมาเมื่อไร(จริงมันไม่ใช่อ่ะ กิฟ มันไม่ใช่ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ...เฮ้อ) ส่วนน้องกุ๊กขอนั่งไปกับพี่โจ้และพี่เอ๋ดีกว่า จะได้เม้าท์กันให้มันส์หยด แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้แยกย้ายกันขึ้นรถ ภัทราก็เดินเข้ามาทักเสียก่อน(มาจากตรงไหนฟระ...ไม่ทันสังเกตเลย:คอมเม้นต์พี่โจ้)
“ไปไหนกันคะพี่โจ้ พี่เอ๋ อุ๊ย หวัดดีค่ะคุณหมอ”
น้องรักพี่ด้ายกมือไหว้กระชดกระช้อยสวยงาม พี่เอ๋เห็นสภาพยัยนี่แล้วก็ประเมินสถานการณ์ได้ว่าคงแอบได้ยินพวกเขานัดกันแหงๆ เลยทำเนียนจะขอตามไปด้วยเพราะชุดที่ชีใส่น่ะ พร้อมรบ สวยเลิศเฉิดฉายเกินกว่าจะใส่เพื่อเดินมาทักทายกันธรรมดาๆ
“ก็ว่าจะออกไปหาอะไรกินกันน่ะ นัดเพื่อนๆหมอตรัยเอาไว้”
พี่โจ้ตอบกลางๆ ไม่ชวนไม่เชิญ ดูซิเจ้าหล่อนจะทำยังไง
“รถเต็มหรือยังเอ่ย มีที่ว่างอีกสักที่ให้ภัทไปด้วยคนได้ไหมคะ”
ปากถามพี่โจ้ แต่ตาชม้ายไปทางหมอตรัยพร้อมกับทำท่ากระดุ๊กกระดิ๊กน่ารักน่าเอ็นดู แต่พี่โจ้เห็นแล้วหมั่นไส้จนอยากง้างเท้าถีบ
“นะคะๆๆๆ”
เจ้าหล่อนเข้ามาเกาะแขนพี่โจ้ เกย์ล่ำเกือบจะสะบัด ถ้าไม่ใช่คนสนิทชิดเชื้อมาทำแบบนี้มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้อ้ะ...อี๋ๆๆๆ
“ภัทไม่รู้จักเพื่อนหมอตรัยหรอก จะสนุกเหรอ พี่ไปกันนานนะ”
พี่เอ๋ขัดคอด้วยรู้สึกหมั่นไส้จนขนแขนสแตนอัพแทนเพื่อนที่ถูกชะนีเกาะอยู่
“แหม...ก็มีพวกเราไปด้วยตั้งหลายคน อีกอย่างภัทก็ไม่มีใคร...ภัทเหงา ได้ไหมคะหมอ”
ประโยคสุดท้ายทอดเสียงเครือ ถ้าไม่ให้ไปด้วยคงจะดูแล้งน้ำใจจนน่าเกลียด เมื่อเห็นคุณหมอตรัยมีท่าทางลำบากใจพี่โจ้จึงหันมาพยักหน้าอนุญาต
“อือ งั้นก็ไปขึ้นรถสิ”
ภัทรากระดี๊กระด๊าขึ้นมาทันที เจ้าหล่อนอาศัยความไวรีบแทรกตัวขึ้นไปนั่งข้างหน้าเคียงคู่หมอตรัยท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน พี่โจ้นั้นทึ่งในมารยาหญิงของน้องเลิฟพี่ด้ายิ่งนัก ถ้ายัยหมวยวีได้สักครึ่งของยัยนี่ป่านนี้หมอตรัยหลงหัวปักหัวปรำไปแล้วมั้ง
คุณหมอตรัยรู้สึกไม่พอใจนิดหน่อยเมื่อเห็นน้องสาวพี่ด้ามานั่งแทนที่วีรญา ยัยหมวยเองก็เบื่อขี้หน้าภัทราเต็มทนจึงไปนั่งเม้าท์กับน้องกุ๊กที่รถพี่โจ้พี่เอ๋ดีกว่า รถสองคันจึงมีบรรยากาศต่างกันลิบลับ รถคันของพี่โจ้พี่เอ๋มีแต่เสียงเพลงวัยรุ่นและเสียงพูดคุยกรี๊ดกร๊าดเฮฮากันลั่น ท่าทางสุขีกันดี
ขณะที่รถของหมอตรัยบรรยากาศเริ่มมาคุ ภัทราพยายามเล่าเรื่องของตนเองให้ดูน่าเห็นใจเข้าไว้เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากคุณหมอมาดนิ่ม ที่จริงคุณหมอก็อยากจะเห็นใจที่ภัทราเล่ามาเหมือนกันเพราะท่าทาง แววตา และน้ำเสียงที่แสนเศร้า ถ้าไม่ติดว่าเคยได้รับข้อมูลด้านลบของสาวน้อยผู้นี้จากปากเหล่าเพื่อนสนิทของวีรญามาบ้างแล้วหมอตรัยคงสงสารได้สนิทใจกว่านี้เป็นแน่
กุลนารีและกังสดาลที่นั่งอยู่ข้างหลังแอบเบ้ปากพยักเพยิดให้กันหลายครั้งเมื่อเห็นดาราเจ้าบทบาทตีบทได้แตกกระจุย น่าสงสารจนเหมือนนางเอกนิยาย จนตอนท้ายๆกุลนารีทนไม่ไหวแกล้งทำท่าเหมือนจะอาเจียน
“แหวะ..หมอคะ พี่ว่าพี่เมารถนะคะ ขอนั่งหน้าได้ไหม”
กุลนารีออกอาการได้สมจริงจนหมอตรัยต้องจอดรถทั้งๆที่อีกไม่นานก็จะถึงที่หมายแล้ว
“พี่นาเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ จะอาเจียนไหม”
แพทย์หนุ่มถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยเมื่อรถจอดสนิท
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวนั่งข้างหน้าได้ลมเย็นๆคงดีขึ้น”
พี่นาตอบหมอตรัยก่อนจะปรายตามองภัทราที่เงยหน้าขึ้นสบตาเจ๊พอดี สองสาวมองอย่างรู้ทันกัน และภัทราก็จำต้องเป็นฝ่านสละสิทธิ์มานั่งข้างหลังคู่กับกังสดาลที่มีสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์
“ปกติภัทรไม่เคยเห็นพี่นาเมารถง่ายนี่คะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะเนี่ย”
ภัทราแสร้งถามเหมือนจะห่วงใยทั้งๆที่คำตอบก็รู้กันอยู่แก่ใจกันอยู่แล้วทั้งคู่ พี่นาซึ่งเอาผ้าเช็ดหน้าหยดน้ำมันหอมแตะจมูกอยู่หันมาแสยะยิ้มให้ก่อนจะตอบด้วยคำตอบที่แสนจะสาแก่ใจเจ๊
“ปกติก็ไม่เป็นหรอกจ้ะ แต่ถ้าฟังอะไรที่มันมากๆ เยอะๆแล้ว พี่ก็จะเป็นแบบนี้แหละ ต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะคะที่ทำให้วุ่นวาย”
นั่นเล่นเอาภัทราเงียบไปด้วยความโกรธกรุ่นและเสียหน้า ขณะที่หมอตรัยฟังแล้วเริ่มจะมองออกรางๆว่าพี่นาต้องการจะสื่ออะไรให้เขาทราบ เมื่อถึงร้านอาหารและรถจอดสนิทชายหนุ่มจึงแกล้งทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรแล้วเดินเคียงพี่นาเหมือนจะเป็นห่วงอาการของสาวรุ่นพี่
วันนี้เป็นอีกครั้งที่ทุกคนนัดเจอกันที่ร้านข้าวต้มอาตี๋ ทางฝั่งเพื่อนๆของหมอตรัยมีหนุ่มหล่อใจสาวที่วีรญาไม่คุ้นหน้าเพิ่มมาอีกคน เมื่อพากันเดินไปถึงโต๊ะอาหารที่ต่อกันยาวเหยียดตามจำนวนคนแล้วภัทราก็รีบนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างหมอตรัยทันที
พี่เอ๋เห็นเข้าก็รีบดันให้วีรญามานั่งทางขวามือของคุณหมอแทนที่ตนเองอย่างไม่ยอมแพ้ต่อเล่ห์กระเท่น้องสาวพี่ด้า อีกฝ่ายจึงตวัดตามองพี่เอ๋ที่มองกลับด้วยสายตาที่บ่งบอกว่า...จะทำอะไรน่ะ กรูรู้ทันนะเฟ้ย
จากนั้นหมอดิว็แนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน และทุกคนก็ได้ทราบว่าหนุ่มแว่นสุดหล่อก็คือหมอก๊อตที่เคยแต่ได้ยินชื่อกันมาตลอดนั่นเอง ด้วยความที่คนเยอะงานนี้ต่างก็ไหว้กันไปไหว้กันมา เรียกว่าไหว้กันจนมือพลิกไปเลย
“หนูวีคนนี้นี่เอง ที่แอ๊ดเล่าให้ฟังว่าหมอตรัยตามจีบอยู่ใช่มั้ยคะ”
หมอก็อตยิ้มหวานแล้วทักวีรญาอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะปล่อยช็อตเด็ดให้หมอตรัยร้อนๆหนาวๆ
“หนูวีคบกับหมอตรัยต้องระวังนะคะ เพื่อนหมอเสน่ห์แรง ไปไหนมาไหนมีแต่สาวๆอยากได้เป็นแฟน นี่ก็ผ่านมือผู้หญิงมากี่คนแล้วนะแอ๊ด”
ประโยคต่อไปหันไปถามหมอแอ๊ดซึ่งกำลังหัวเราะถูกใจที่แกล้งหมอตรัยได้
“เอ...กี่คนน้อ..สาม...ไม่สิๆ สี่คนได้มั้ง มีของนอกคนนึงด้วยนะ”
แต่ยัยหมวยพาลคิดในใจต่อให้ว่า...ไม่จริงอ่ะ ผ่านมือชายสิจะน่าเชื่อกว่า นุ่มนิ่มออกปานนั้น ขณะที่เพื่อนๆฝั่งหมอตรัยขำกันใหญ่ที่ชายหนุ่มร้อนตัวจนวางสีหน้าไม่ถูกแต่ยัยหมวยกลับนั่งซื่อบื้อไม่รู้เรื่อง
“ไม่ใช่ซักหน่อย หนูวีอุดหูไว้ๆ อย่าไปฟังยัยก๊อตมาก หมอน่ะมีแต่ถูกทิ้งน่าสงสารจะตาย”
หมอตรัยหน้ามุ่ยเอามือประกบหูยัยหมวยไม่ให้ฟังที่เพื่อนพูด วีรญาจึงหันมาส่งยิ้มละลายใจให้คุณหมอพร้อมกับให้กำลังใจจนชายหนุ่มซาบซึ้งแทบลงไปนอนดิ้นว่า
“วีเชื่อคุณหมอค่ะ ไม่ว่าคุณหมอจะผ่านผู้ชายมากี่คนแล้วก็ตาม ยังไงวีก็ยังชอบคุณหมอเหมือนเดิมนะคะ”
หมอหนุ่มถอนใจเฮือก ชอบ ของหนูวีก็คงจะเหมือนกับที่เจ้าตัวชอบพี่โจ้ ชอบพี่เอ๋ แบบนั้น..อย่างงั้นเหรอ หมอไม่ได้อยากได้แบบนั้นนี่ครับ หนูวีอ้ะ
ภัทราลอบมองกุมารแพทย์แห่งโรงพยาบาลชุมชนมั่นคงที่แสดงออกชัดเจนว่ามีใจให้คู่แข่งของหล่อน ในขณะที่ผู้หญิงซื่อบื้อนั่นไม่รู้เรื่องอะไรเอาซะเลย ภัทราขัดใจยิ่งนัก...ทำไมไม่เป็นหล่อนนะ ที่นายแพทย์ผู้นี้ให้ความสนใจ
ขณะที่รับประทานอาหารหมอตรัยคอยเทคแคร์ยัยหมวยอยู่ตลอดเวลา สายตาอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความเสน่หาทีทอดมองยัยหมวยยิ่งทำให้ภัทราสุดจะหมั่นไส้ขณะที่คนอื่นชักรู้สึกเขินๆแทนวีรญา
“นี่ถ้าแต่งงานกันไปจะยังเป็นแบบนี้อยู่อีกไหมเนี่ย ถามจริงๆเถอะตรัย”
หมอก๊อตแซวอีกครั้ง คราวนี้แพทย์หนุ่มจากโรงพยาบาลชุมชนมั่นคงตอบเสียงดังฟังชัดทั้งๆที่เขินจนหน้าแดงก่ำ
“อืมม์ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ เราก็จะดีกับหนูวีแบบนี้คนเดียวและตลอดไปนั่นแหละ”
วีรญาซึ่งเป็นคนฟัง แม้จะคิดอยู่เสมอว่าคุณหมอตรัยเป็นชายใจสาวพอได้ยินแบบนี้เข้าก็หน้าแดงแข่งกับหมอตรัยเอาทีเดียว
ตอนนี้ภัทรานั้นมั่นใจแน่นอนแล้วว่าหมอตรัยไม่ได้เป็นเกย์ดังที่ทุกคนเล่าลือกันและที่สำคัญตอนนี้หมอหนุ่มกำลังมีใจให้กับวีรญาอย่างลึกซึ้งเสียด้วย ในสายตาของภัทรานั้น วีรญาเป็นเพียงยัยหมวยหน้าจืดที่ใกล้ขึ้นคาน นิสัยหรือก็ขวางโลกทำอะไรสู้หล่อนไม่ได้สักอย่างเดียว แม้แต่พี่ด้าก็ยังรักใคร่ชื่นชมหล่อนมากกว่าใครๆ
ภัทราไม่เข้าใจว่าหมอตรัยมาเห็นอะไรดีในตัวผู้หญิงจืดชืดคนนั้นถึงดูหลงไหลได้ปลื้มกับวีรญาเสียนักหนา ก็ในเมื่อกับวีรญาที่ดูไม่มีอะไรโดดเด่นคุณหมอยังปลื้มเสียขนาดนั้น แล้วถ้าหล่อนซึ่งใครๆ(แล้วมันใครล่ะฟระ)ชื่นชมในความน่ารักน่าใคร่จะลงสังเวียนชิงรักหักสวาทกับยัยหมวยดูบ้าง ผลมันจะเป็นยังไงกันนะ หญิงสาวยิ้มมุมปากด้วยท่าทางมาดมั่น...ลองดูสักตั้งเป็นไร เรื่องแบบนี้ใครดีใครได้นี่นา
เมื่ออิ่มหนำกันดีแล้ว ทุกคนก็เตรียมตัวจะแยกย้ายกันกลับ พี่โจ้รีบเอาเงินค่าอาหารในส่วนของพวกเขายัดใส่มือคุณหมอตรัยที่ตั้งท่าจะเป็นเจ้ามือ
“อเมริกันแชร์ดีที่สุดครับ ไม่งั้นคราวหน้าคงไม่มีใครกล้ามาด้วยอีกแน่นอน”
พี่โจ้ยื่นคำขาดทำให้แพทย์หนุ่มจำต้องรับธนบัตรเก็บเข้ากระเป๋า แต่ยังไม่วายบ่นเบาๆ
“พี่โจ้ไม่เห็นต้องคิดมากเลยครับ ก็นานๆเลี้ยงทีหมอไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว”
“ไม่ได้ครับ เรื่องนี้ต้องขอสักเรื่อง ไม่งั้นทางผมคงลำบากใจกันแย่”
พี่โจ้ยืนยันแล้วส่งยิ้มกว้างให้คุณหมอ ก่อนจะกระซิบบางอย่างให้อีกฝ่ายได้หัวเราะชอบใจในความแสนกลของรุ่นพี่ยัยหมวย
“หมอช่วยมีธุระไปกับยัยวีสองคนหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมเคลียร์ทางให้”
ร่างล่ำสันด้วยมัดกล้ามเดินไปทางกลุ่มเพื่อนพ้องก่อนจะส่งเสียงที่ฟังขัดกับขนาดตัวบัญชาการ
“ภัทรเดี๋ยวมากับพี่นะ หมอคงต้องไปส่งยัยนาที่บ้านแล้วล่ะ ยัยนาท่าจะอาการไม่ดีแล้วก็คงปีนขึ้นมานั่งรถชั้นไม่สะดวก วีกับกั้งพวกแกไปดูพี่นาคันโน้นไป”
“เดี๋ยวภัทรดูพี่นาให้ก็ได้ค่ะ ขามาก็มาด้วยกัน กลับก็กลับด้วยกันสิคะ แหม...ภัทก็อยากนั่งเก๋งไม่อยากปีนกระบะเหมือนกันนี่นา”
ภัทรายังต่อรองแถมเสนอตัวเป็นคนดูแลกุลนารีเสียอีก พี่โจ้ชักสีหน้ากับความมากเรื่องของน้องสาวพี่ด้าทันที
“มีอะไรกันเอ่ย ให้หมอช่วยมั้ยครับ”
หมอรินซึ่งแอบฟังมาพักใหญ่เสนอตัวเข้าแก้ปัญหาทันที ลงว่าหมอรินได้จัดการแล้วไม่มีงานไหนที่เคลียร์ไม่ได้ ไม่งั้นเสียชื่อแย่
“งั้นเดี๋ยวหมอไปส่งพี่นาเอง คุณภัทรว่าจะช่วยดูพี่นาให้ใช่มั้ยครับ งั้นก็มาด้วยกันเลย แล้วก็ใครอีกนะ...น้องกั้งใช่ไหม รถหมออยู่ทางนี้ครับตามมาเลย หุๆ”
“เอ่อ...แล้วพี่วีละคะ”
ภัทราแสร้งถามถึงวีรญาคล้ายจะห่วงใย
“อ๋อ..หนูวีน่ะเดี๋ยวเพื่อนหมอไปส่งเองแหละครับ เห็นหมอตรัยบอกว่าอยากคุยกับหนูวีต่ออีกสักหน่อยก่อน คุณภัทรมีอะไรรึเปล่าครับ”
หมอรินแกล้งถามกลับ ดูซิจะแถไปทางไหนอีก
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ภัทรเห็นว่าดึกแล้วน่าจะกลับพร้อมๆกัน ถ้ากลับทีหลังกันสองคนใครมาเห็นเข้าแล้วเอาไปพูดก็คงจะไม่งามน่ะค่ะ”
คุณหมอหน้าสวยหัวเราะน้อยๆพลางปรายตาไปยังภัทรา..ฉลาดพูดนะยัยนี่
“แหม...ก็ธรรมดาคนคบกันน่ะครับ ก็ต้องอยากอยู่ด้วยกันสองคนบ้าง ถ้ามีข่าวแบบนั้นจริงก็ดีสิ หมอตรัยจะได้รีบยกขันหมากไปขอยัยหมวยซะที ขานั้นเค้ารอให้มีข่าวอยู่นานแล้วนะนั่น อยากได้เมียเต็มแก่แล้ว”
หมอรินแกล้งอำส่ง รอดูปฏิกิริยาของคนห่วงเพื่อน กุลนารีกับกังสดาลนั้นหัวเราะกันร่วน ภัทราเองก็หันมายิ้มให้แต่แววตาเท่านั้นที่ไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย หมอรินยังอดนึกไม่ได้ว่าภัทรานั้นวางตัวได้ดูดีและแนบเนียน วิธีการพูดจาก็ฉลาดไม่แสดงอะไรออกมาให้เห็นได้ง่ายๆ ผิดกับยัยหมวยที่ซื่อตรงต่อความรู้สึก คิดยังไงก็แสดงออกแบบนั้น แต่ยังไงซะหมอรินก็ยังนึกชอบยัยหมวยที่เป็นแบบนั้นมากกว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างภัทรา
พอกำจัดจุดอ่อนไปจนหมดแล้วก็เหลือแค่คุณหมอตรัยกับยัยหนูวีจอมบื้อ ชายหนุ่มถือวิสาสะจับมือเล็กนุ่มนิ่มจูงขึ้นรถซะเลย
“หนูวีอยากทานขนมหวานอะไรมั้ยครับ”
หมอหนุ่มถามขึ้นเมื่ออยู่บนรถกันแล้ว
“ไม่เอาแล้วล่ะค่ะ อิ่มจะตายอยู่แล้ว คุณหมออยากทานขนมอะไรอีกหรือเปล่าคะถามแบบนี้ เดี๋ยววีไปนั่งเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ”
วีรญาหันมามองคุณหมอด้วยดวงตาบ้องแบ๊วน่ารัก ..สุดที่จะห้ามใจไหว ชายหนุ่มกดริมฝีปากที่มีหนวดแข็งลงบนแก้มขาวๆของคนข้างกายแล้วสูดกลิ่นหอมอ่อนๆจากผิวนุ่มอย่างหลงไหล
“น่ารักจังเลย หนูวีจ๋า”
เสียงทุ้มพึมพำอ่อนหวานอยู่บนแก้มของวีรญา หญิงสาวรู้สึกหวามไหวระคนจั๊กจี้เมื่อผิวข้างแก้มถูกคลอเคลียด้วยไรหนวด วันนี้นับว่าคุณหมอแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารู้สึกยังไงกับเธอ แล้วพอมาเจอแบบนี้เข้าไปยัยหมวยก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวพยายมใช้มือเล็กๆดันไหล่ของชายหนุ่มให้ใบหน้าคมสันออกห่างจากตนเอง ทว่ามือเจ้ากรรมก็เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน
“ไม่อยากทานของหวาน แต่อยากทานหนูวี..”
เสียงอ่อนหวานเมื่อครู่สั่นพร่าด้วยแรงอารมณ์ขณะที่ริมฝีปากร้อนๆเลื่อนมาที่ริมฝีปากของวีรญาแล้วเม้มเบาๆ ก่อนจะผละออกอย่างแสนเสียดาย...หมอตรัยกลับมาคุมสติได้อีกครั้ง ชายหนุ่มถอนหายใจรุนแรงนึกโมโหตัวเองที่หื่นไม่เลือกสถานที่ ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าวีรญาคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ขอโทษนะครับหนูวี หมอลืมตัวไปหน่อย”
คุณหมอพูดเสียงอ่อนพลางลูบแก้มที่แดงด้วยความเขินอายอย่างเบามือ เห็นอย่างนี้แล้วก็อดแหย่ยัยหมวยไม่ได้
“เจ็บหรือเปล่าครับ เมื่อกี้นี้โดนหนวดด้วยนี่”
เท่านี้ยัยหมวยก็ก้มหน้างุดไม่กล้าตอบอะไรทั้งสิ้น คุณหมอของเราจึงหัวเราะเบาๆใครจะว่าเขาช่างแกล้งก็ช่าง แต่หมอตรัยไม่เคยนึกที่จะอยากทำแบบนี้กับใครที่ไม่ใช่วีรญาเลยจริงๆ
“อาทิตย์หน้าหยุดสามวัน หนูวีกลับบ้านไหม”
ชายหนุ่มชวนคุยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ขืนเป็นแบบนี้เดี๋ยววีรญาเกิดโกรธเขาขึ้นมาล่ะแย่เลย
“กลับค่ะ”
ยัยหมวยตอบแบบไม่มองหน้าเพราะกลัวว่าจะต้องสบตากับดวงตาที่เป็นประกายพราวระยับนั่น ตอนนี้หญิงสาวใจเต้นแรงเสียจนกลัวว่าคนข้างๆจะได้ยินทีเดียว
“งั้นกลับวันพฤหัสพร้อมกันนะครับ เดี๋ยวหมอจะแวะไปส่งที่บ้าน”
ในระยะหนึ่งปีมานี้หมอตรัยมักจะเลือกช่วงเวลากลับบ้านที่อยุธยาให้ตรงกับวีรญาเพราะจะได้ใช้เป็นข้ออ้างในการไปรับไปส่งหญิงสาวที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง ค่าที่บ้านของยัยหมวยเป็นทางผ่านก่อนจะถึงจังหวัดอยุธยา จนระยะหลังๆชายหนุ่มรู้สึกว่ามารดาของวีรญาเริ่มมองเขาด้วยสายตาแปลกๆคล้ายไม่พอใจ ถ้าว่ากันตามจริงเส้นทางกลับบ้านของหมอตรัยนั้นไม่จำเป็นต้องผ่านทางบ้านยัยหมวยเลยด้วยซ้ำ แต่ก็...นั่นแหละนะ คนเค้าอยากผ่านนี่นา
หมอตรัยชวนหญิงสาวพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยเพราะต้องการคลายความกดดันที่ยัยหมวยต้องเผชิญจากการที่เขารุกเข้าจีบอย่างเต็มตัวจนวีรญาคลายอาการพูดคุยแบบเกร็งๆเข้าสู่สภาวะร่าเริงแจ่มใสตามปกติ พอมาถึงหน้าบ้านพักชายหนุ่มก็เดินลงไปส่งยัยหมวยจนถึงหน้าบ้าน
เมื่อวีรญาอาบน้ำเสร็จและเตรียมตัวจะเข้านอนจึงสังเกตเห็นข้อความเข้าที่โทรศัพท์มือถือ ..เป็นข้อความของหมอตรัย
นอนหลับฝันดีนะครับ แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้
ขอโทษที่หอมแก้มหนูวีแรงไปหน่อย
จะเอาคืนบ้างก็ได้นะครับ หมอเต็มใจ>3<
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ