คุณหมอหัวใจแหวว
1) คุณหมอหัวใจแหวว...อยากจะเปลี่ยนลุคส์แล้วครับ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อบุคคลหรือสถานที่ที่ปรากฏในเรื่องเป็นเรื่องสมมติที่ไม่มีอยู่จริง นะจ๊ะ"
โรงพยาบาลชุมชนมั่นคง เป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดกลาง
ตั้งอยู่บริเวณอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
โรงพยาบาลแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่คุณหมอที่ใช้ทุนเรียนจากรัฐบาล
ต้องมาประจำเพื่อชดใช้ทุนในการเรียนด้วยเช่นกัน
โรงพยาบาลชุมชนมั่นคงมีอาคารทั้งหมด 4 อาคาร
อาคารด้านหน้าติดกับสวนหย่อมเป็นอาคารขนาดใหญ่มี 8 ชั้น
เป็นอาคารผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
ด้านซ้ายเป็นอาคาร 5 ชั้นสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ
ทางด้านขวาเป็นอาคาร 4 ชั้น เป็นอาคารผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อ รวมกับผู้ป่วยประกันสังคม
และด้านหลังเป็นแฟลตซึ่งเป็นที่พักของแพทย์และพยาบาล
"คุณหมอตรัย"ย้ายมาทำงานที่นี่ย่างเข้าปีที่ 3 แล้ว
"คุณหมอตรัย" หรือ นายแพทย์ตรัย กษิตษร เป็นชายหนุ่มรูปร่างเพรียว
สูงประมาณ 175 เซ็นติเมตร ไหล่กว้างหนาเพราะเล่นฟิตเนสอยู่บ่อยๆ
ถึงจะไม่ขนาดมีซิกแพ็คหรือล่ำเป็นเกย์กล้ามปู...แต่บอดี้คุณหมอก็โอนะ
ชายหนุ่มมีใบหน้าเรียวยาว โหนกแก้มสูง คิ้วหนาเข้มหางคิ้วยาว
ดวงตาสีดำสนิททอประกายอ่อนหวาน จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากเต็มได้รูป
ผมสีดำสนิทแม้จะสไลด์อย่าวัยรุ่นเกาหลีแต่ก็ดูเรียบร้อย
เวลาพูดคุยไม่ว่าจะกับใครหมอตรัยจะมีรอยยิ้มแต้มอยู่บนริมฝีปากเสมอ
น้ำเสียงก็นุ่มนิ่ม ไม่มีวีนไม่มีเหวี่ยง นิสัยหรือก็อ่อนโยนเรียบร้อยเกินชายหนุ่มธรรมดาทั่วไป
นอกจากนี้หมอตรัยของเรายังเป็นกุมารแพทย์ที่มีฝีมือพอตัว
เพราะคุณหมอเคยได้ทุนไปเทคคอร์สเกี่ยวกับกุมารแพทย์ที่อเมริกาถึง 2 ปี
และฝึกงานที่นั่นอีก 2 ปีกว่าแถมมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกือบจะไม่กลับไทยซะแล้ว
สิ่งที่ทำให้หมอตรัยเป็น"คนดัง"ของโรงพยาบาลไม่ใช่เพราะเรื่องแค่นี้
อ้อ...ไม่ใช่เรื่องคุณหมออยู่เป็นโสดมาจนอายุ 35
แม้จะมีสาวน้อยสาวใหญ่หลายนางแวะมาชม้ายตา
ทอดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กให้ในปีแรกๆที่ย้ายมาหรอกนะ
(แต่ตอนนี้ก็ไม่เหลือแล้วแหละ สาวที่จะมาทอดสะพานให้น่ะ)
หากเพราะ...ก๊วนเพื่อนสนิทของคุณหมอต่างหาก
ที่ส่งเสริมให้คุณหมอกลายเป็น"คนดัง"ไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็น..
"หมอแอ๊ด" หรือนายแพทย์อดิสรณ์ ที่ตอนนี้เป็นหญิงไปแล้วทั้งตัว หมอผิวหนังคนดัง
"หมอดิว"หรือนายแพทย์ฤทธิภพ หมอศัลยกรรมความงามฝีมือดี
ผู้มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน และขณะนี้แท็กทีมกับหมอแอ๊ด
เปิดคลินิกเสริมความงามชื่อ"ลาล่า"อยู่
"หมอก๊อต" นายแพทย์กรวิทย์ อายุรแพทย์ผู้ประกาศตนเป็นเกย์อย่างไม่แคร์สื่อ
และสุดท้าย"หมอริน"นายแพทย์นรินทร์ ศัลยแพทย์แพทย์หัวใจสีม่วงอีกคน
...หมอตรัยมักจะไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อนๆเสมอ
ก็อยู่โรงพยาบาลเดียวกันมั่ง โรงพยาบาลใกล้ๆกันมั่ง ทั้งนั้นนี่นา
จึงไม่ต้องแปลกใจที่ใครๆต่างก็เหมาว่าหมอตรัยเองก็เป็นหนึ่งในขบวนการ
"คุณหมอหัวใจแหวว"
...แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เต็มใจก็ตาม...
วันจันทร์เป็นวันแรกของสัปดาห์ และเป็นวันที่วุ่นวายที่สุด
ไม่ว่าจะสำหรับสำนักงานเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐบาล
เช้านี้ก็เช่นกันที่คนไข้หลั่งไหลมากันแต่เช้า
"หวัดดีครับพี่จุ๋ม คนไข้เยอะไหมครับวันนี้"
หมอตรัยเปิดประตูห้องตรวจ ก่อนจะส่งเสียงทักทายพยาบาลอาวุโสร่างท้วม
แล้วนั่งประจำโต๊ะ เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจผู้ป่วยรายแรก
"หวัดดีค่ะหมอ...อุ๊ย! เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมวันนี้คุณหมอดูเซอร์จังเลย..."
พยาบาลพี่จุ๋มทักพร้อมกับทำตาโตแฟ้มเอกสารแทบหล่นจากมือ
วันนี้...คุณหมอตรัยที่ปกติจะเนี้ยบกริบตลอด
เวลาเข้าเวรเช้าด้วยใบหน้าที่อุดมไปด้วยเคราเป็นปื้น!!
(แน่นอนว่าแม้จะดูคล้าย บอย-ปกรณ์ ยังไง
คุณพยาบาลพี่จุ๋มก็ไม่มีทางเห็นหมอตรัยของเราแมนขึ้นเป็นเด็ดขาด)
ย้อนไปราวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับหมอตรัย
เจ้าหน้าจากสาธารณสุขจังหวัดเชิญให้คุณหมอไปเป็นวิทยากร
เพื่อบรรยายเกี่ยวกับโรคและวัคซีนเด็กให้กับเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอฟัง
คุณหมอมีส่วนร่วมในงานสาธารณสุขตั้งแต่มาทำงานที่นี่ได้ราวหนึ่งปี
และมักจะถูกเชิญเป็นวิทยากรค่อนข้างบ่อยถึงบ่อยมากเพราะเชิญง่ายและความรู้แน่น
ครั้งนี้จัดการบรรยายที่โรงแรมแห่งหนึ่งในชะอำ
บรรยากาศช่วงเบรคกับงานเลี้ยงช่วงเย็นแม้ว่าจะสนุกสนานแต่ก็ไม่ครื้นเครงเท่าปกติ
จนคุณหมอตรัยต้องเอ่ยปากถาม
"พี่นาครับ ทำไมวันนี้ตัวป่วนดูเงียบๆไปหล่ะครับ ปกติเสียงดังกว่านี้นี่นา"
คุณหมอบุ้ยปากไปทางสาวหมวยร่างเล็กตัวป่วนประจำงานที่วันนี้มาแปลก
เจ้าตัวหลบมุมไปนั่งเงียบอยู่ข้างนอกและดูจะเหม่อลอยผิดปกติ
ทั้งๆที่เป็นงานเลี้ยงเย็นที่มีคาราโอเกะที่แสนจะโปรดปราน
"วีเหรอคะ มันทะเลาะกับแฟนน่ะ ครั้งนี้คงเลิกกันจริงๆแระล่ะค่ะหมอ
ที่ผ่านมาก็บ๊งเบ๊งกันแรงมากๆเลยหล่ะ"
กุลนารี หรือพี่นา เพื่อนสนิทของยัยหมวยวีเฉลย
"อืมม์ อย่างงี้นี่เอง"
หมอตรัยมองไปทางวีรญา หญิงสาวฝังตัวอยู่บนม้านั่งติดกับซุ้มฤาษีผสม
นอกห้องคาราโอเกะที่แสนอึกทึก
ร่างบอบบางนั่งห่อไหล่ท่ามกลางความมืดยิ่งทำให้ดูตัวเล็กกระจ้อยลงไปอีก
คุณหมอรู้จักวีรญามาย่างเข้าปีที่ 2 แล้ว
"วีรญา" หรือ ยัยหมวยวี เป็นหญิงสาวเชื้อสายไทย-จีน ผิวขาว ร่างเล็ก
ปากนิดจมูกหน่อย ตาชั้นเดียวบ้องแบ๊วและด้วยความสูงเพียง 153 เซ็นติเมตร
บวกกับผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสไลด์สั้น
เลยทำให้เชื่อยากว่ายัยหมวยวีอายุปาเข้าไปตั้ง 29 แล้ว
แม้ว่าวีรญาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยเลิศเลอเพอร์เฟ็ค
หน้าตาก็ออกจะน่ารักแบบธรรมดาสามัญ พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน(อิอิ)
แต่ด้วยความเป็นคนยิ้มง่าย มนุษยสัมพันธ์ดี ชอบเทคแคร์ และมีนิสัยตรงไปตรงมา
นอกจากนี้ยัยหมวยยังชอบทำอะไรโก๊ะๆให้คนอื่นได้ฮาโดยไม่รู้ตัวเสมอ
แน่นอนว่าก็มีส่วนห้าวไม่น้อยเช่นกัน
จึงทำให้หมอตรัยค่อยๆมองว่ายัยหมวยวีเป็น"คนพิเศษ"
ปีนี้ยัยหมวยวีอายุเข้าใกล้เลข3นำหน้าเข้าไปทุกที
จึงมักได้รับแรงกดดันจากทางบ้านที่กลัวลูกสาวจะขึ้นคานมาก ว่าให้รีบแต่งงานซะที
จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกับ"นายตั้ม"แฟนหนุ่มที่อ่อนกว่า 2 ปี อยู่บ่อยๆ
คุณหมอตรัยเจอกับวีรญาครั้งแรก ก็คือตอนที่คุณหมอย้ายมา
ที่โรงพยาบาลชุมชนมั่นคงได้เกือบปี
และถูกเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับโรคที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพเด็กในระยะยาว
คุณหมอยังจำภาพหญิงสาวที่กุลีกุจอต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม
รวมถึงคอยเทคแคร์ผู้เข้าร่วมประชุมที่ค่อนข้างสูงอายุ
หรือผู้เข้าประชุมที่มีท่าทางอ่อนเพลียจากการเดินทางอย่างมีน้ำใจ
"น้องมาจากไหนเหรอคะ เพิ่งย้ายมาใหม่เหรอพี่ไม่คุ้นหน้าเลยอ่ะ
แล้วทานอะไรมายังคะ? เอาขนมป่ะเดี๋ยวพี่หยิบให้"
เจ้าหล่อนทักทายคุณหมอที่นั่งพักเงียบๆอย่างมั่นใจมากกกก
ก่อนจะถูกกุลนารีลากคอเสื้อออกไปพร้อมคำตอบที่ทำให้หน้าแตกอย่างย่อยยับว่า
"นั่นหมอตรัย วิทยากรวันนี้ย่ะแก จะมึนไปไหนเนี่ย หา...ยัยวี๊"
"ม่ายจริ๊งงงงงง ก็เค้าดูเด็กกว่าวีอีกง๊า"
คุณหมอตรัยจำได้ว่าตอนนั้นหัวเราะขำยัยจอมเอ๋อจนปวดแก้มไปหมด
การบรรยายครั้งนั้นคุณหมอตรัยเห็นทั้งความมีน้ำใจ
และความโก๊ะของหญิงสาวตลอดทั้งงาน
...สิ่งที่ทำให้หญิงสาวเข้ามานั่งอยู่ในหัวใจของคุณหมอตรัยไม่ใช่แค่เรื่องนี้...
ความประทับใจที่เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทุกครั้งที่เจอกัน
เรื่องราวต่างๆที่ถูกถ่ายทอดจากคนรอบกายมาถึงคุณหมอต่างหาก
ที่ทำให้คุณหมอตรัยค่อยๆชอบยัยหมวยวีเพิ่มขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยัยหมวยวีช่วยเพื่อนที่สถานีอนามัย
พาผู้ป่วยสูงอายุมารับวัคซีนที่โรงพยาบาล
แต่ขากลับดันถูกลืมไว้ที่โรงพยาบาลคนเดียวจนคุณหมอต้องพากลับไปส่งที่ทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่มาติดต่อประสานงานเกี่ยวกับงานสาธารณสุข
ที่ยัยจอมป่วนมักจะแอบมาเม้าท์อย่างเฮฮาพร้อมกับซื้อขนมอร่อยๆมาฝากพี่ๆพยาบาล
และฝากมาถึงคุณหมอเป็นประจำ
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครั้งที่คุณหมอไปเป็นวิทยากรแล้วตรงกับวันเกิด
ก็มีเค้กจากผู้จัดการบรรยายมาเซอร์ไพรซ์ พร้อมกับของขวัญจากบรรดาแม่ยก
ชายหนุ่มจำได้ว่ายัยตัวแสบซื้อรองเท้าแตะสีสันฉูดฉาดบาดใจสำหรับเดินเล่นริมทะเลมาให้
เพราะเป็นการจัดการบรรยายที่โรงแรมติดทะเลแห่งหนึ่งที่จังหวัดประจวบฯ
จนเขามาสืบรู้ทีหลังว่าวีรญาเป็นตัวตั้งตัวตียุให้ผู้จัดซื้อเค้กและจัดงานวันเกิดเล็กๆให้เขา
เพราะทราบมาจากพยาบาลพี่จุ๋ม
ทั้งข่าวที่ว่าเรื่องที่ยัยตัวดีไปมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ที่มางานเลี้ยง
ที่เกิดอาการเมาแล้วแอลกอฮอล์ลงไข่
แอบแต๊ะอั๋งจนหญิงสาวกระโดดผลักอกซะเกือบมีเรื่องกัน
จนต้องให้ผู้ใหญ่มาเคลียร์ ยัยหมวยเองก็ร้ายใช่เล่น
หรือจะเรื่องที่ไปวีนไปเหวี่ยงเจ้าหน้าที่หนุ่มจอมขี้หลี
ที่มาจากหน่วยงานอื่นที่แล้วมาขายขนมจีบผิดกาละเทศะจนอีกฝ่ายขยาด
ตอนที่พากังสดาลเพื่อนสนิท ที่ป่วยฉุกเฉินมาส่งโรงพยาบาลตอน 4 ทุ่ม
แล้วถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนป่วยซะเอง
ด้วยความที่ยัยหมวยเป็นคนผิวขาวซีดจนเป็นเรื่องเล่าขำขันประจำวอร์ด
...และตอนที่หมอตรัยพบ"แฟน"ของหญิงสาวเป็นครั้งแรก
ที่งานเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน"อัจฉรา"เพื่อนที่ทำงานของยัยหมวยวี
"ตั้ม"หรือสิทธิพร แฟนหนุ่มของวีรญาอายุน้อยกว่ายัยหมวย 2 ปี
แต่หน้าแก่ล้ำหน้ายัยหมวยไปมากแถมศรีษะก็เริ่มเถิก
นั่นเพราะยัยหมวยวีถือคติว่า"ผู้ชายหน้าตาดีส่วนใหญ่นิสัยจะเลว"
ดังนั้นหนุ่มหล่อในสายตาของยัยหมวยวีก็จะประมาณ
ดีเจแจ็ค พี่สอง-วงพาราด็อกซ์ และน้าเน็ก (รสนิยมปวดตับจังนะ ยัยหมวยยย)
คุณหมอตรัยและทีมงานของยัยหมวยออกจะสนิทสนมกัน
ทั้งยัยกั้ง พี่นา ยัยกิ๊บ แล้วก็ยังมี พี่โจ้และพี่อ๋อง เกย์กล้ามปูคู่ดูโอที่ดำรงตนเป็นหัวหน้าทีม
หลังจากนั้น"ข่าว"เกี่ยวกับแฟนของยัยหมวยวีก็มาถึงหูหมอตรัยอยู่บ่อยๆ
จากที่เคยชมว่า
"แฟนยัยวีมันดีเนอะ โครตเอาใจใส่เลยอ่ะ"
"ซื้อของให้ยัยวีบ๊อยบ่อยเนอะ"
...ก็เริ่มเปลี่ยนไป
"ถ้าเป็นกั้งนะ กั้งเลิกเลยอ่ะหมอ อะไรนิดอะไรหน่อยก็วางโทรศัพท์ใส่ ปิดโทรศัพท์หนี
มันคิดว่าเป็นเทวดา ยัยวีต้องง้อมันทุกครั้งหรือไง หล่อตายชักหละ ผู้ชายหน้าเงือกพรรค์นั้น"
กังสดาลเล่าพลางทำปากยื่นอย่างใส่อารมณ์
"เวลาทะเลาะกันก็ว่ายัยวีแรงๆตลอด ยัยวีนะคะพอเสาร์-อาทิตย์
ก็ต้องไปช่วยบ้านเค้าขายของมั่งหละ
เก็บบ้านมั่งหละ นาเลยไม่รู้ยัยวีจะไปเป็นแฟนหรือไปเป็นคนใช้บ้านนั้นกันแน่"
กุลนารีบ่น
"มันก็เป็นเรื่องของคนสองคนนะครับ เป็นห่วงยังไงเราก็คนนอก
คงได้แต่เอาใจช่วยเท่านั้นล่ะครับ"
หมอตรัยบอกสองสาวในตอนนั้นด้วยเสียงนิ่มๆ
ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกเจ็บแปลบปลาบอยู่ในใจ
...นั่นเป็นเรื่องเมื่อครึ่งปีก่อน ตอนที่หมอตรัยเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าหัวใจตัวเองไปอยู่ที่"ใคร"
ตลอดเวลาที่รูจักกันมา 2 ปีเศษๆ
กว่าคุณหมอตรัยจะรู้ใจตัวเองว่าชอบยัยหมวยวีเข้าให้ ก็รู้จักกันมาจะเป็นปีแล้วมั้ง
แถมเจ้าตัวเค้ายังมีแฟนแล้วซะอีก
คุณหมอมาดนิ่มก็เลยได้แต่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆมาในฐานะเพื่อนมาโดยตลอด
แล้ววันนี้ก็มารู้ว่าหญิงสาวเลิกกับแฟนเป็นที่เรียบร้อยแล้วซะอีก
...ใจที่เคยนิ่งๆก็เลยชักจะเริ่มแกว่ง
"แล้วแฟนวีเค้าติดต่อมาบ้างมั้ยครับ พอเป็นแบบนี้แล้ว"
หมอตรัยหันไปถามพี่นา
"ไม่เลยค่ะ ยัยวีขนเสื้อผ้า ข้าวของกลับมาบ้านพักหมดแล้ว
ทางนั้นเค้ายังเฉยๆเลยค่ะ มีแต่แม่กับพี่สาวอีตาตั้มที่ยังมีน้ำใจถามไถ่บ้าง
แต่ไอ้เจ้าตัวแม้แต่จะขอโทษ...มันยังไม่พูดกับยัยวีเลย"
พี่นาเล่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"ยัยวีจับได้ว่านายตั้มน่ะ แอบติดต่อกับผู้หญิงคนนึง
ยัยนั่นก็มีลูกมีสามีแล้วยังมาเจ๊าะแจ๊ะนายตั้มอีก ยัยวีมันก็วีนสิ
ทั้งผู้หญิงคนนั้นแล้วก็นายตั้มด้วย แต่นายตั้มน่ะยืนยันแบบเอาข้างไถ"
"บอกว่าเพื่อนกันเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร แล้วยัยผู้หญิงนั่นก็ส่งข้อความมาอีกหลายหน
ยัยวีก๊อเลยทนไม่ไหวทะเลาะกับอีตานั่น คราวนี้อีตาตั้มน่ะบอกเลิกยัยวีเลยค่ะ
มันว่ายัยวีไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องส่วนตัวมันขนาดนั้น แถมว่าแรงๆทั้งนั้น
ยัยวีก็เลยขนของกลับบ้านพัก"
"2-3วันแรกก็ยังเงียบๆอยู่ พอยัยวีโทร.ไปง้อ มันยิ่งเอาใหญ่ค่ะ ว่าได้ว่าเอาเลย
ยัยวีร้องไห้จนอาเจียนเลยล่ะค่ะ แต่นี่ก็ผ่านมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้วนะคะ
ที่ติดต่อทางนั้นไม่ได้ ยัยวีน่ะ ร้องไห้เกือบทุกวัน"
พี่นาเล่าต่ออย่างเจ็บใจแทนน้องรัก
"ใช่ค่ะ ทางบ้านยัยวีก็คอยกดดันให้แต่งกันซะทีเพราะคบกันก็นานแล้ว
ยัยวีก็จะสามสิบแล้ว อายชาวบ้านเค้ามั่งอะไรมั่ง ยัยวีก็เลยยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่"
กังสดาลเสริม
คำตอบจากสองสาวทำเอาหัวใจของชายหนุ่มหวั่นไหว
หมอตรัยรู้สึกผิดหน่อยๆที่ตนเองรู้สึกยินดีที่วีรญาเลิกกับแฟนหนุ่ม
ทั้งๆที่รู้ว่าหญิงสาวต้องเจ็บปวดขนาดไหน
"ผมอยากคุยกับวีหน่อยน่ะครับ"
คุณหมอตรัยบอกพี่นา ก่อนจะพาตัวเองลุกจากเก้าอี้
ไปหาหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่นอกห้องจัดเลี้ยงคนเดียว
เสียงฝีเท้าย่ำทรายที่ใกล้เข้ามาและภาพรองเท้าหนังสีดำเรียบที่ประชิดตรงหน้า
ทำให้หญิงสาวผละออกจากภวังค์แล้วเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของรองเท้า
ที่ทอดสายตาลงมาพอดี
เมื่อสายตาประสานกัน
หมอตรัยมองเห็นความปวดร้าวที่ซ่อนเอาไว้ไม่มิดของหญิงสาวเต็มสองตา
"วี...คุยกับหมอหน่อยได้ไหมครับ"
หมอตรัยบอกคนที่นั่งห่อไหลอยู่ตรงหน้าด้วยเสียงนุ่มๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ