คุณหมอหัวใจแหวว

7.6

เขียนโดย sivach_13

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18.10 น.

  18 ตอน
  20 วิจารณ์
  35.80K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) คุณหมอหัวใจแหวว...อยากจะเปลี่ยนลุคส์แล้วครับ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"นิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อบุคคลหรือสถานที่ที่ปรากฏในเรื่องเป็นเรื่องสมมติที่ไม่มีอยู่จริง นะจ๊ะ"


โรงพยาบาลชุมชนมั่นคง เป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดกลาง

ตั้งอยู่บริเวณอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

โรงพยาบาลแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่คุณหมอที่ใช้ทุนเรียนจากรัฐบาล

ต้องมาประจำเพื่อชดใช้ทุนในการเรียนด้วยเช่นกัน


โรงพยาบาลชุมชนมั่นคงมีอาคารทั้งหมด 4 อาคาร

อาคารด้านหน้าติดกับสวนหย่อมเป็นอาคารขนาดใหญ่มี 8 ชั้น

เป็นอาคารผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก


ด้านซ้ายเป็นอาคาร 5 ชั้นสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ

ทางด้านขวาเป็นอาคาร 4 ชั้น เป็นอาคารผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อ รวมกับผู้ป่วยประกันสังคม

และด้านหลังเป็นแฟลตซึ่งเป็นที่พักของแพทย์และพยาบาล


"คุณหมอตรัย"ย้ายมาทำงานที่นี่ย่างเข้าปีที่ 3 แล้ว


"คุณหมอตรัย" หรือ นายแพทย์ตรัย กษิตษร เป็นชายหนุ่มรูปร่างเพรียว

สูงประมาณ 175 เซ็นติเมตร ไหล่กว้างหนาเพราะเล่นฟิตเนสอยู่บ่อยๆ

ถึงจะไม่ขนาดมีซิกแพ็คหรือล่ำเป็นเกย์กล้ามปู...แต่บอดี้คุณหมอก็โอนะ


ชายหนุ่มมีใบหน้าเรียวยาว โหนกแก้มสูง คิ้วหนาเข้มหางคิ้วยาว

ดวงตาสีดำสนิททอประกายอ่อนหวาน จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากเต็มได้รูป 

ผมสีดำสนิทแม้จะสไลด์อย่าวัยรุ่นเกาหลีแต่ก็ดูเรียบร้อย


เวลาพูดคุยไม่ว่าจะกับใครหมอตรัยจะมีรอยยิ้มแต้มอยู่บนริมฝีปากเสมอ

น้ำเสียงก็นุ่มนิ่ม ไม่มีวีนไม่มีเหวี่ยง นิสัยหรือก็อ่อนโยนเรียบร้อยเกินชายหนุ่มธรรมดาทั่วไป 


นอกจากนี้หมอตรัยของเรายังเป็นกุมารแพทย์ที่มีฝีมือพอตัว

เพราะคุณหมอเคยได้ทุนไปเทคคอร์สเกี่ยวกับกุมารแพทย์ที่อเมริกาถึง 2 ปี

และฝึกงานที่นั่นอีก 2 ปีกว่าแถมมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกือบจะไม่กลับไทยซะแล้ว


สิ่งที่ทำให้หมอตรัยเป็น"คนดัง"ของโรงพยาบาลไม่ใช่เพราะเรื่องแค่นี้

อ้อ...ไม่ใช่เรื่องคุณหมออยู่เป็นโสดมาจนอายุ 35

แม้จะมีสาวน้อยสาวใหญ่หลายนางแวะมาชม้ายตา

ทอดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กให้ในปีแรกๆที่ย้ายมาหรอกนะ

(แต่ตอนนี้ก็ไม่เหลือแล้วแหละ สาวที่จะมาทอดสะพานให้น่ะ)


หากเพราะ...ก๊วนเพื่อนสนิทของคุณหมอต่างหาก

ที่ส่งเสริมให้คุณหมอกลายเป็น"คนดัง"ไปด้วย

 

ไม่ว่าจะเป็น..

"หมอแอ๊ด" หรือนายแพทย์อดิสรณ์ ที่ตอนนี้เป็นหญิงไปแล้วทั้งตัว หมอผิวหนังคนดัง

"หมอดิว"หรือนายแพทย์ฤทธิภพ หมอศัลยกรรมความงามฝีมือดี

ผู้มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน และขณะนี้แท็กทีมกับหมอแอ๊ด

เปิดคลินิกเสริมความงามชื่อ"ลาล่า"อยู่

"หมอก๊อต" นายแพทย์กรวิทย์ อายุรแพทย์ผู้ประกาศตนเป็นเกย์อย่างไม่แคร์สื่อ

และสุดท้าย"หมอริน"นายแพทย์นรินทร์ ศัลยแพทย์แพทย์หัวใจสีม่วงอีกคน


...หมอตรัยมักจะไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อนๆเสมอ

ก็อยู่โรงพยาบาลเดียวกันมั่ง โรงพยาบาลใกล้ๆกันมั่ง ทั้งนั้นนี่นา

จึงไม่ต้องแปลกใจที่ใครๆต่างก็เหมาว่าหมอตรัยเองก็เป็นหนึ่งในขบวนการ

"คุณหมอหัวใจแหวว"

...แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เต็มใจก็ตาม...


วันจันทร์เป็นวันแรกของสัปดาห์ และเป็นวันที่วุ่นวายที่สุด

ไม่ว่าจะสำหรับสำนักงานเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐบาล

เช้านี้ก็เช่นกันที่คนไข้หลั่งไหลมากันแต่เช้า


"หวัดดีครับพี่จุ๋ม คนไข้เยอะไหมครับวันนี้"

หมอตรัยเปิดประตูห้องตรวจ ก่อนจะส่งเสียงทักทายพยาบาลอาวุโสร่างท้วม

แล้วนั่งประจำโต๊ะ เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจผู้ป่วยรายแรก


"หวัดดีค่ะหมอ...อุ๊ย! เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมวันนี้คุณหมอดูเซอร์จังเลย..."

พยาบาลพี่จุ๋มทักพร้อมกับทำตาโตแฟ้มเอกสารแทบหล่นจากมือ


วันนี้...คุณหมอตรัยที่ปกติจะเนี้ยบกริบตลอด

เวลาเข้าเวรเช้าด้วยใบหน้าที่อุดมไปด้วยเคราเป็นปื้น!!

(แน่นอนว่าแม้จะดูคล้าย บอย-ปกรณ์ ยังไง

คุณพยาบาลพี่จุ๋มก็ไม่มีทางเห็นหมอตรัยของเราแมนขึ้นเป็นเด็ดขาด)


ย้อนไปราวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับหมอตรัย

เจ้าหน้าจากสาธารณสุขจังหวัดเชิญให้คุณหมอไปเป็นวิทยากร

เพื่อบรรยายเกี่ยวกับโรคและวัคซีนเด็กให้กับเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอฟัง


คุณหมอมีส่วนร่วมในงานสาธารณสุขตั้งแต่มาทำงานที่นี่ได้ราวหนึ่งปี

และมักจะถูกเชิญเป็นวิทยากรค่อนข้างบ่อยถึงบ่อยมากเพราะเชิญง่ายและความรู้แน่น

ครั้งนี้จัดการบรรยายที่โรงแรมแห่งหนึ่งในชะอำ

 

บรรยากาศช่วงเบรคกับงานเลี้ยงช่วงเย็นแม้ว่าจะสนุกสนานแต่ก็ไม่ครื้นเครงเท่าปกติ

จนคุณหมอตรัยต้องเอ่ยปากถาม


"พี่นาครับ ทำไมวันนี้ตัวป่วนดูเงียบๆไปหล่ะครับ ปกติเสียงดังกว่านี้นี่นา"

คุณหมอบุ้ยปากไปทางสาวหมวยร่างเล็กตัวป่วนประจำงานที่วันนี้มาแปลก

เจ้าตัวหลบมุมไปนั่งเงียบอยู่ข้างนอกและดูจะเหม่อลอยผิดปกติ

ทั้งๆที่เป็นงานเลี้ยงเย็นที่มีคาราโอเกะที่แสนจะโปรดปราน


"วีเหรอคะ มันทะเลาะกับแฟนน่ะ ครั้งนี้คงเลิกกันจริงๆแระล่ะค่ะหมอ  

ที่ผ่านมาก็บ๊งเบ๊งกันแรงมากๆเลยหล่ะ"

กุลนารี หรือพี่นา เพื่อนสนิทของยัยหมวยวีเฉลย


"อืมม์ อย่างงี้นี่เอง"

หมอตรัยมองไปทางวีรญา หญิงสาวฝังตัวอยู่บนม้านั่งติดกับซุ้มฤาษีผสม

นอกห้องคาราโอเกะที่แสนอึกทึก

ร่างบอบบางนั่งห่อไหล่ท่ามกลางความมืดยิ่งทำให้ดูตัวเล็กกระจ้อยลงไปอีก

 

คุณหมอรู้จักวีรญามาย่างเข้าปีที่ 2 แล้ว


"วีรญา" หรือ ยัยหมวยวี เป็นหญิงสาวเชื้อสายไทย-จีน ผิวขาว ร่างเล็ก

ปากนิดจมูกหน่อย ตาชั้นเดียวบ้องแบ๊วและด้วยความสูงเพียง 153 เซ็นติเมตร

บวกกับผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสไลด์สั้น 

เลยทำให้เชื่อยากว่ายัยหมวยวีอายุปาเข้าไปตั้ง 29 แล้ว 


แม้ว่าวีรญาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยเลิศเลอเพอร์เฟ็ค

หน้าตาก็ออกจะน่ารักแบบธรรมดาสามัญ พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน(อิอิ)

แต่ด้วยความเป็นคนยิ้มง่าย มนุษยสัมพันธ์ดี ชอบเทคแคร์ และมีนิสัยตรงไปตรงมา

 

นอกจากนี้ยัยหมวยยังชอบทำอะไรโก๊ะๆให้คนอื่นได้ฮาโดยไม่รู้ตัวเสมอ

แน่นอนว่าก็มีส่วนห้าวไม่น้อยเช่นกัน

จึงทำให้หมอตรัยค่อยๆมองว่ายัยหมวยวีเป็น"คนพิเศษ"


ปีนี้ยัยหมวยวีอายุเข้าใกล้เลข3นำหน้าเข้าไปทุกที 

จึงมักได้รับแรงกดดันจากทางบ้านที่กลัวลูกสาวจะขึ้นคานมาก ว่าให้รีบแต่งงานซะที

จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกับ"นายตั้ม"แฟนหนุ่มที่อ่อนกว่า 2 ปี อยู่บ่อยๆ


คุณหมอตรัยเจอกับวีรญาครั้งแรก ก็คือตอนที่คุณหมอย้ายมา

ที่โรงพยาบาลชุมชนมั่นคงได้เกือบปี

และถูกเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับโรคที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพเด็กในระยะยาว


คุณหมอยังจำภาพหญิงสาวที่กุลีกุจอต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม

รวมถึงคอยเทคแคร์ผู้เข้าร่วมประชุมที่ค่อนข้างสูงอายุ

หรือผู้เข้าประชุมที่มีท่าทางอ่อนเพลียจากการเดินทางอย่างมีน้ำใจ


"น้องมาจากไหนเหรอคะ เพิ่งย้ายมาใหม่เหรอพี่ไม่คุ้นหน้าเลยอ่ะ

แล้วทานอะไรมายังคะ? เอาขนมป่ะเดี๋ยวพี่หยิบให้"


เจ้าหล่อนทักทายคุณหมอที่นั่งพักเงียบๆอย่างมั่นใจมากกกก

ก่อนจะถูกกุลนารีลากคอเสื้อออกไปพร้อมคำตอบที่ทำให้หน้าแตกอย่างย่อยยับว่า


"นั่นหมอตรัย วิทยากรวันนี้ย่ะแก จะมึนไปไหนเนี่ย หา...ยัยวี๊"


"ม่ายจริ๊งงงงงง ก็เค้าดูเด็กกว่าวีอีกง๊า"


คุณหมอตรัยจำได้ว่าตอนนั้นหัวเราะขำยัยจอมเอ๋อจนปวดแก้มไปหมด

การบรรยายครั้งนั้นคุณหมอตรัยเห็นทั้งความมีน้ำใจ

และความโก๊ะของหญิงสาวตลอดทั้งงาน


...สิ่งที่ทำให้หญิงสาวเข้ามานั่งอยู่ในหัวใจของคุณหมอตรัยไม่ใช่แค่เรื่องนี้...

ความประทับใจที่เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทุกครั้งที่เจอกัน

เรื่องราวต่างๆที่ถูกถ่ายทอดจากคนรอบกายมาถึงคุณหมอต่างหาก

ที่ทำให้คุณหมอตรัยค่อยๆชอบยัยหมวยวีเพิ่มขึ้น


ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยัยหมวยวีช่วยเพื่อนที่สถานีอนามัย

พาผู้ป่วยสูงอายุมารับวัคซีนที่โรงพยาบาล

แต่ขากลับดันถูกลืมไว้ที่โรงพยาบาลคนเดียวจนคุณหมอต้องพากลับไปส่งที่ทำงาน


ไม่ว่าจะเป็นตอนที่มาติดต่อประสานงานเกี่ยวกับงานสาธารณสุข

ที่ยัยจอมป่วนมักจะแอบมาเม้าท์อย่างเฮฮาพร้อมกับซื้อขนมอร่อยๆมาฝากพี่ๆพยาบาล

และฝากมาถึงคุณหมอเป็นประจำ


ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครั้งที่คุณหมอไปเป็นวิทยากรแล้วตรงกับวันเกิด

ก็มีเค้กจากผู้จัดการบรรยายมาเซอร์ไพรซ์ พร้อมกับของขวัญจากบรรดาแม่ยก

ชายหนุ่มจำได้ว่ายัยตัวแสบซื้อรองเท้าแตะสีสันฉูดฉาดบาดใจสำหรับเดินเล่นริมทะเลมาให้

เพราะเป็นการจัดการบรรยายที่โรงแรมติดทะเลแห่งหนึ่งที่จังหวัดประจวบฯ

จนเขามาสืบรู้ทีหลังว่าวีรญาเป็นตัวตั้งตัวตียุให้ผู้จัดซื้อเค้กและจัดงานวันเกิดเล็กๆให้เขา

เพราะทราบมาจากพยาบาลพี่จุ๋ม


ทั้งข่าวที่ว่าเรื่องที่ยัยตัวดีไปมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ที่มางานเลี้ยง

ที่เกิดอาการเมาแล้วแอลกอฮอล์ลงไข่

แอบแต๊ะอั๋งจนหญิงสาวกระโดดผลักอกซะเกือบมีเรื่องกัน

จนต้องให้ผู้ใหญ่มาเคลียร์ ยัยหมวยเองก็ร้ายใช่เล่น 

 

หรือจะเรื่องที่ไปวีนไปเหวี่ยงเจ้าหน้าที่หนุ่มจอมขี้หลี

ที่มาจากหน่วยงานอื่นที่แล้วมาขายขนมจีบผิดกาละเทศะจนอีกฝ่ายขยาด


ตอนที่พากังสดาลเพื่อนสนิท ที่ป่วยฉุกเฉินมาส่งโรงพยาบาลตอน 4 ทุ่ม

แล้วถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนป่วยซะเอง

ด้วยความที่ยัยหมวยเป็นคนผิวขาวซีดจนเป็นเรื่องเล่าขำขันประจำวอร์ด


...และตอนที่หมอตรัยพบ"แฟน"ของหญิงสาวเป็นครั้งแรก

ที่งานเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน"อัจฉรา"เพื่อนที่ทำงานของยัยหมวยวี

 

"ตั้ม"หรือสิทธิพร แฟนหนุ่มของวีรญาอายุน้อยกว่ายัยหมวย 2 ปี

แต่หน้าแก่ล้ำหน้ายัยหมวยไปมากแถมศรีษะก็เริ่มเถิก

นั่นเพราะยัยหมวยวีถือคติว่า"ผู้ชายหน้าตาดีส่วนใหญ่นิสัยจะเลว"

ดังนั้นหนุ่มหล่อในสายตาของยัยหมวยวีก็จะประมาณ

ดีเจแจ็ค พี่สอง-วงพาราด็อกซ์ และน้าเน็ก (รสนิยมปวดตับจังนะ ยัยหมวยยย)


คุณหมอตรัยและทีมงานของยัยหมวยออกจะสนิทสนมกัน

ทั้งยัยกั้ง พี่นา ยัยกิ๊บ แล้วก็ยังมี พี่โจ้และพี่อ๋อง เกย์กล้ามปูคู่ดูโอที่ดำรงตนเป็นหัวหน้าทีม

หลังจากนั้น"ข่าว"เกี่ยวกับแฟนของยัยหมวยวีก็มาถึงหูหมอตรัยอยู่บ่อยๆ

จากที่เคยชมว่า

 

"แฟนยัยวีมันดีเนอะ โครตเอาใจใส่เลยอ่ะ"

"ซื้อของให้ยัยวีบ๊อยบ่อยเนอะ"

 

...ก็เริ่มเปลี่ยนไป


"ถ้าเป็นกั้งนะ กั้งเลิกเลยอ่ะหมอ อะไรนิดอะไรหน่อยก็วางโทรศัพท์ใส่ ปิดโทรศัพท์หนี

มันคิดว่าเป็นเทวดา ยัยวีต้องง้อมันทุกครั้งหรือไง หล่อตายชักหละ ผู้ชายหน้าเงือกพรรค์นั้น"

กังสดาลเล่าพลางทำปากยื่นอย่างใส่อารมณ์


"เวลาทะเลาะกันก็ว่ายัยวีแรงๆตลอด ยัยวีนะคะพอเสาร์-อาทิตย์

ก็ต้องไปช่วยบ้านเค้าขายของมั่งหละ

เก็บบ้านมั่งหละ นาเลยไม่รู้ยัยวีจะไปเป็นแฟนหรือไปเป็นคนใช้บ้านนั้นกันแน่"

กุลนารีบ่น


"มันก็เป็นเรื่องของคนสองคนนะครับ เป็นห่วงยังไงเราก็คนนอก

คงได้แต่เอาใจช่วยเท่านั้นล่ะครับ"

หมอตรัยบอกสองสาวในตอนนั้นด้วยเสียงนิ่มๆ

ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกเจ็บแปลบปลาบอยู่ในใจ


...นั่นเป็นเรื่องเมื่อครึ่งปีก่อน ตอนที่หมอตรัยเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าหัวใจตัวเองไปอยู่ที่"ใคร"


ตลอดเวลาที่รูจักกันมา 2 ปีเศษๆ

กว่าคุณหมอตรัยจะรู้ใจตัวเองว่าชอบยัยหมวยวีเข้าให้ ก็รู้จักกันมาจะเป็นปีแล้วมั้ง

แถมเจ้าตัวเค้ายังมีแฟนแล้วซะอีก

คุณหมอมาดนิ่มก็เลยได้แต่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆมาในฐานะเพื่อนมาโดยตลอด

 

แล้ววันนี้ก็มารู้ว่าหญิงสาวเลิกกับแฟนเป็นที่เรียบร้อยแล้วซะอีก

...ใจที่เคยนิ่งๆก็เลยชักจะเริ่มแกว่ง


"แล้วแฟนวีเค้าติดต่อมาบ้างมั้ยครับ พอเป็นแบบนี้แล้ว"

หมอตรัยหันไปถามพี่นา


"ไม่เลยค่ะ ยัยวีขนเสื้อผ้า ข้าวของกลับมาบ้านพักหมดแล้ว

ทางนั้นเค้ายังเฉยๆเลยค่ะ มีแต่แม่กับพี่สาวอีตาตั้มที่ยังมีน้ำใจถามไถ่บ้าง

แต่ไอ้เจ้าตัวแม้แต่จะขอโทษ...มันยังไม่พูดกับยัยวีเลย"

พี่นาเล่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ


"ยัยวีจับได้ว่านายตั้มน่ะ แอบติดต่อกับผู้หญิงคนนึง

ยัยนั่นก็มีลูกมีสามีแล้วยังมาเจ๊าะแจ๊ะนายตั้มอีก ยัยวีมันก็วีนสิ

ทั้งผู้หญิงคนนั้นแล้วก็นายตั้มด้วย แต่นายตั้มน่ะยืนยันแบบเอาข้างไถ"


"บอกว่าเพื่อนกันเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร แล้วยัยผู้หญิงนั่นก็ส่งข้อความมาอีกหลายหน

ยัยวีก๊อเลยทนไม่ไหวทะเลาะกับอีตานั่น คราวนี้อีตาตั้มน่ะบอกเลิกยัยวีเลยค่ะ

มันว่ายัยวีไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องส่วนตัวมันขนาดนั้น แถมว่าแรงๆทั้งนั้น

ยัยวีก็เลยขนของกลับบ้านพัก"


"2-3วันแรกก็ยังเงียบๆอยู่ พอยัยวีโทร.ไปง้อ มันยิ่งเอาใหญ่ค่ะ ว่าได้ว่าเอาเลย

ยัยวีร้องไห้จนอาเจียนเลยล่ะค่ะ แต่นี่ก็ผ่านมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้วนะคะ

ที่ติดต่อทางนั้นไม่ได้ ยัยวีน่ะ ร้องไห้เกือบทุกวัน"

พี่นาเล่าต่ออย่างเจ็บใจแทนน้องรัก


"ใช่ค่ะ ทางบ้านยัยวีก็คอยกดดันให้แต่งกันซะทีเพราะคบกันก็นานแล้ว

ยัยวีก็จะสามสิบแล้ว อายชาวบ้านเค้ามั่งอะไรมั่ง ยัยวีก็เลยยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่"

กังสดาลเสริม


คำตอบจากสองสาวทำเอาหัวใจของชายหนุ่มหวั่นไหว

หมอตรัยรู้สึกผิดหน่อยๆที่ตนเองรู้สึกยินดีที่วีรญาเลิกกับแฟนหนุ่ม

ทั้งๆที่รู้ว่าหญิงสาวต้องเจ็บปวดขนาดไหน


"ผมอยากคุยกับวีหน่อยน่ะครับ"

คุณหมอตรัยบอกพี่นา ก่อนจะพาตัวเองลุกจากเก้าอี้

ไปหาหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่นอกห้องจัดเลี้ยงคนเดียว


เสียงฝีเท้าย่ำทรายที่ใกล้เข้ามาและภาพรองเท้าหนังสีดำเรียบที่ประชิดตรงหน้า

ทำให้หญิงสาวผละออกจากภวังค์แล้วเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของรองเท้า

ที่ทอดสายตาลงมาพอดี


เมื่อสายตาประสานกัน 

หมอตรัยมองเห็นความปวดร้าวที่ซ่อนเอาไว้ไม่มิดของหญิงสาวเต็มสองตา


"วี...คุยกับหมอหน่อยได้ไหมครับ"

หมอตรัยบอกคนที่นั่งห่อไหลอยู่ตรงหน้าด้วยเสียงนุ่มๆ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา