ฝากหัวใจไว้ที่...ฮานอย
9.0
20) ปลอบโยน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากชายหนุ่มส่งคืนจักรยานเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินมาหาหญิงสาวที่รออยู่หน้าร้านจักรยานเช่า
“เป็นอะไรคุณ เงียบแบบนี้ มันเหมือนไม่ใช่คุณนะ พูดอะไรบ้างสิ” ชายหนุ่มถามหญิงสาว ทำให้เธอพูดกับเขาว่า
“หือ ฮือ ฮือ…ก็ฉันกลัวนี่ เพราะนายคนเดียว ไอ้บ้า” หญิงสาวร้องไห้จนตัวโยน
ชายหนุ่มเห็นก็เกิดความรู้สึกผิด เพราะคิดว่าเขาเองก็มีส่วนทำให้หญิงสาวต้องไปเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ เมื่อสักครู่นี้ ชายหนุ่มจึงตามไปลูบศีรษะของหญิงสาวเป็นการปลอบโยน แต่แทนที่สถานการณ์จะดีขึ้น เขากลับรู้สึกว่า หญิงสาวยิ่งร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม จนชายหนุ่มต้องจับศีรษะเธอมาพิงกับตัวและกอดปลอบเธอแบบหลวมๆ เหมือนพี่ชายกำลังปลอบน้องสาว และทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียง
“ฟื๊ด ฮือ โฮ” หญิงสาวสั่งน้ำมูกไปที่แถวกระดุมเสื้อชายหนุ่ม เนื่องจากต้องการจะแก้แค้นชายหนุ่ม
“เฮ้ย ทำอะไร ยัยสกปรก นี่เธอจะมาสั่งขี้มูกใส่ฉันทำไม ผู้หญิงอะไรสกปรกที่สุด” ชายหนุ่มต่อว่าหญิงสาว
ปิ่นปัก ยิ่งแกล้งทำเป็นร้องไห้เสียงดังขึ้นกว่าเดิม “ฮืออออออ ฮือออ ฉันอยากกลับที่พัก อยากล้างหน้า ล้างตา”
“ล้างขี้มูกด้วย ยัยขี้แง” ชายหนุ่มต่อให้หญิงสาว
“ไปกันได้แล้ว หรือ เธออยากจะอยู่รอไอ้ผู้ชายคนเมื่อกี้ก็เชิญ” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวเสร็จก็เดินนำหน้า โดยที่คราวนี้ไม่ลืมที่จะหันไปดูว่าเธอเดินตามเขามาหรือไม่ เมื่อถึงหน้าโรงแรม ชายหนุ่มหยุดเดินกะทันหัน
“อุ๊ย” หญิงสาวไม่ทันระวังตัว และ ก็ชนเข้าที่แผ่นหลังชายหนุ่ม จนเธอเซเกือบล้ม ดีที่ชายหนุ่มคว้าแขนเธอไว้ได้ทัน
เมื่อทรงตัวได้ หญิงสาวพูดกับชายหนุ่มเสียงฉุนว่า “นี่ นายจะหยุดจะเบรคบอกกันบ้างก็ได้ ดูสิฉันเกือบล้มแล้วเห็นมั๊ย”
ตอนแรกที่ชายหนุ่มหยุด เนื่องจากนึกได้ว่า ควรจะขอโทษเธอที่เขาเองก็มีส่วนทำให้เธอต้องเจอเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ทำให้เธอเสียขวัญเมื่อสักครู่นี้ แต่เมื่อเขาเห็นเธอหันกลับมาต่อว่าเรื่องที่เขาทำให้เธอเซเกือบล้ม ทำให้ชายหนุ่มต้องเก็บคำขอโทษไว้และพูดกับหญิงสาวว่า
“ทำไม กลัวหน้าเธอจะไปวัดกับพื้นที่นี่น่ะเหรอ จะได้รู้กันว่าอะไรมันหนากว่ากัน” ชายหนุ่มพูดเสร็จก็รีบวิ่งหนีหญิงสาว เพราะเขารู้ว่าเธอต้องตามมาจัดการกับเขาแน่ๆ
“ไอ้บ้า ไอ้ชักโครก หยุดเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาววิ่งไล่ชายหนุ่มจนถึงหน้าลิฟต์
“นี่แหนะ ปากเสียดีนัก ไอ้บ้า” หญิงสาวตามมาทุบชายหนุ่มเป็นพัลวัน
“โอ๊ย! คุณ จะบ้าเหรอ ผมเจ็บนะ นี่คนนะไม่ใช่กระท้อน มาทุบๆ จะได้หวาน”
“ก็นายปากเสียกับฉันก่อนทำไมล่ะ”
“เอ๊า ก็ผมไม่อยากเห็นคุณเงียบนิ ผมเดินมากับคนนะคุณ ไม่ใช่เดินมากับผี จะได้เดินเงียบมาตลอดทาง”
“โรคจิตเหรอไง ชอบยั่วประสาทชาวบ้านเขาเนี่ย” หญิงสาวว่าชายหนุ่ม แต่เมื่อเธอหันไปมองรอบๆ คนที่รอขึ้นลิฟต์ และคนที่อยู่แถวๆ นั้นต่างมองเธอ และยิ้ม บางคนก็ซุบซิบกัน เพราะคิดว่าหญิงสาวและชายหนุ่มเป็นคู่รักที่หยอกล้อกัน หญิงสาวเลยจำเป็นต้องหยุดต่อปากต่อคำกับชายหนุ่ม เธอได้แต่เพียงยิ้มแหย ให้กับคนเหล่านั้นและเธอก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังคุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์
“คุณพูดอะไรกับเขา”
“เปล๊า ไม่มีอะไร เขาก็แค่บอกผมว่า แฟนคุณน่ารักดีนะ งอนกันอยู่เหรอ”
“ผมก็แค่บอกว่า อ่อ ครับแฟนผมซาดิสต์ชอบทำร้ายร่างกายผม”
หญิงสาวชูกำปั้นทันที ก่อนที่จะกระซิบบอกกับชายหนุ่มเหมือนกลัวว่าหนุ่มนักท่องเที่ยวคนนั้นจะฟังรู้เรื่องว่า “นี่ นายจะบ้าเหรอ ใครบอกให้บอกเขาแบบนั้น ฉันเสียหายนะ แอบอ้างมั่วซั่ว อย่างนายแม้แต่ขนรักแร้ฉันสักเส้นนายก็จะไม่ได้เห็น” พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้นักท่องเที่ยวหนุ่มคนนั้น
“คุ๊ณณณ ใครเขาอยากจะเห็นขนรักแร้คุณ บ้าหรือเปล่า เขามีแต่ขาอ่อนก็คงไม่ได้เห็น นี่กลัวผมเห็นขนรักแร้คุณ ฮ่า ฮ้า ฮ่า”
เมื่อลิฟต์เปิดชายหนุ่มก็เดินเข้าลิฟต์ก่อนหน้าหญิงสาว ซึ่งตอนนี้ทำหน้าตาบอกบุญไม่รับอยู่อีกฝากหนึ่งของลิฟต์
“เอ๊า คุณ ดูสิผมลืมขอกุญแจห้องที่หน้าเคาน์เตอร์มาเลย เพราะคุณคนเดียว คุณรอผมแป๊บนึงละกัน เดี๋ยวผมลงไปเอาก่อน”
หญิงสาวหลังผ่านเหตุการณ์นั้นมา รีบตรงไปเกาะแขนเสื้อชายหนุ่ม และพูดว่า “ไม่เอา ฉันจะลงไปด้วย ฉันไม่กล้ายืนรอคนเดียว”
ชายหนุ่มยิ้ม และเดินนำหน้าโดยมีหญิงสาวเดินตามต้อยๆ
เมื่อถึงด้านล่างชายหนุ่มรับกุญแจเสร็จเรียบร้อย และนำมาเปิดห้อง พอเข้าห้องพักเรียบร้อยสิ่งแรกที่ชายหนุ่มเอ่ยกับหญิงสาวคือ “ยัยตัวดี มานี่เลย”
หญิงสาวแกล้งทำไม่ได้ยิน เดินไปนั่งที่เตียงนอนและหันไปอีกฝากหนึ่งซึ่งตรงข้ามกับที่ชายหนุ่มยืนอยู่
“หูแตกเหรอไง ฉันบอกว่ามานี่ไง”
“ใคร นายเรียกใคร” หญิงสาวทำเป็นหันซ้าย หันขวา หาว่าชายหนุ่มเรียกใคร
“ถ้าเธอชื่อว่า ยัยปิ่นหัก เอ้ยปิ่นปัก ก็มานี่เลย อย่าลืมสัญญาที่เธอให้ไว้ ไม่งั้นคืนนี้ก็เชิญครับ ไปหาที่นอนที่อื่นได้” ชายหนุ่มยั่วหญิงสาว
“ทำไม มีอะไรคะเจ้านาย” หญิงสาวประชด
“มานี่เลย มาจัดการสิ่งปฏิกูลจากเธอที่ทำไว้ที่เสื้อฉัน”
“ทำไม ถ้านายจะซัก นายก็ถอดแล้วเรียกให้ทางโรงแรมมาเอาไปซักสิ อย่าบอกนะว่านายจะให้ฉันซักผ้าให้นายด้วย ไม่เอาหรอกฉันไม่ทำ ขนาดอยู่บ้าน ฉันยังไม่เคยซักเองเลย” หญิงสาวย่นจมูกใส่ชายหนุ่ม
“เปล่า มาถอดเสื้อให้ฉันเลย ขี้มูกเธอเต็มกระดุมเสื้อฉันแบบนี้ ฉันไม่กล้าจับ มีเชื้อโรคหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยัยซ๊กม๊ก” จริงๆ ชายหนุ่มก็ไม่ได้รังเกียจถึงขนาดนี้ เพียงแต่เขาตั้งใจจะแกล้งหญิงสาวเท่านั้น
“จะบ้าเหรอ เกิดมาฉันยังไม่เคยถอดเสื้อให้ผู้ชายคนไหนเลยแม้แต่พ่อของฉัน แล้วนายคิดว่านายเป็นใคร”
ชายหนุ่มหัวเราะและพูดว่า “อย่าบอกนะว่าเธอยังไม่เคย..….” ชายหนุ่มแกล้งพูดหยุดเพียงเท่านี้
“ไอ้บ้า พูดดีๆ นะ ว่าไม่เคยอะไร มันจะอะไรมันก็เรื่องของฉัน” หญิงสาวพูดพร้อมกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย
“ไม่เคยก็เคยซะ ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรเธอนอกจากฉันไม่กล้าจับขี้มูกของเธอ ยัยซ๊กม๊ก มาเลยหรือว่าจะ” ชายหนุ่มพูดค้างไว้และเดินไปที่ประตูและเปิดประตูออกและผายมือให้หญิงสาวเห็น
“ฮึ มาสิเร็วๆ ก่อนฉันจะเปลี่ยนใจ” หญิงสาวบอกชายหนุ่ม และคิดในใจ (ฉันเปลี่ยนใจได้ด้วยเหรอ ในเมื่อตอนนี้มีแต่ตัวเท่านั้น)
ชายหนุ่มเดินทางหยุดตรงหน้าหญิงสาว เพื่อให้หญิงสาวแกะกระดุมให้
หญิงสาวหันหน้าออกจากตัวชายหนุ่มเนื่องจากไม่กล้ามอง และหลับหูหลับตาแกะกระดุมให้ชายหนุ่ม ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอหน้าแดงไปหมดเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำแบบนี้ให้กับผู้ชายที่ไหน แม้แต่เดชา ที่เธอคบกับเขามาหลายปี ก็ไม่เคยที่จะใกล้ชิดกันขนาดนี้
“เสร็จหรือยัง เร็วๆ สิ ผมเมื่อยไปหมดแล้ว เสร็จหรือยัง” ชายหนุ่มเร่งหญิงสาว และแอบยิ้มในท่าทางไร้เดียงสาของเธอ
“โอ๊ย จะรีบไปไหน ฉันก็รีบอยู่เนี่ย” หญิงสาวพูดทั้งๆ ที่ยังหลับหูหลับตาแกะกระดุมเสื้อให้ชายหนุ่ม
“เอ๊า เสร็จแล้ว ไอ้คนบ้าอำนาจ”
“ขอบคุณนะที่รักกกก” ชายหนุ่มแกล้งพูดยั่วหญิงสาว
“ใครที่รักนาย บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบ” หญิงสาวพูดเสียงฉุนและนั่งลงที่เตียงนอนของเธอ
“แล้วนี่ จะมายืนหาพระแสงดาบอะไร จะไปทำอะไรก็ไปสิ” หญิงสาวพูดกับชายหนุ่ม
“ไม่ได้มายืนหาพระแสงดาบหรอกที่รัก แต่หน้าที่ของเธอมีอะไร” ชายหนุ่มพูดเสียงแข็ง
หญิงสาวเดินกระแทกเท้าผ่านหน้าชายหนุ่มไปอย่างรู้หน้าที่เพื่อไปจัดของให้กับชายหนุ่มอาบน้ำ
“ฝากไว้ก่อนเหอะ” หญิงสาวกล่าวก่อนที่จะเห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ
ชายหนุ่มได้ยินจึงตะโกนมาบอกหญิงสาวว่า "มาเอาคืนสักทีเถอะ ฝากบ่อยแบบนี้ผมไม่มีตังค์จ่ายดอกเบี้ย ฮ่า ฮ้า ฮ้า"
"ไอ้โรคจิต ไอ้ชักโครก" หญิงสาวตะโกนไปว่าชายหนุ่มกลับทันที
“เป็นอะไรคุณ เงียบแบบนี้ มันเหมือนไม่ใช่คุณนะ พูดอะไรบ้างสิ” ชายหนุ่มถามหญิงสาว ทำให้เธอพูดกับเขาว่า
“หือ ฮือ ฮือ…ก็ฉันกลัวนี่ เพราะนายคนเดียว ไอ้บ้า” หญิงสาวร้องไห้จนตัวโยน
ชายหนุ่มเห็นก็เกิดความรู้สึกผิด เพราะคิดว่าเขาเองก็มีส่วนทำให้หญิงสาวต้องไปเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ เมื่อสักครู่นี้ ชายหนุ่มจึงตามไปลูบศีรษะของหญิงสาวเป็นการปลอบโยน แต่แทนที่สถานการณ์จะดีขึ้น เขากลับรู้สึกว่า หญิงสาวยิ่งร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม จนชายหนุ่มต้องจับศีรษะเธอมาพิงกับตัวและกอดปลอบเธอแบบหลวมๆ เหมือนพี่ชายกำลังปลอบน้องสาว และทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียง
“ฟื๊ด ฮือ โฮ” หญิงสาวสั่งน้ำมูกไปที่แถวกระดุมเสื้อชายหนุ่ม เนื่องจากต้องการจะแก้แค้นชายหนุ่ม
“เฮ้ย ทำอะไร ยัยสกปรก นี่เธอจะมาสั่งขี้มูกใส่ฉันทำไม ผู้หญิงอะไรสกปรกที่สุด” ชายหนุ่มต่อว่าหญิงสาว
ปิ่นปัก ยิ่งแกล้งทำเป็นร้องไห้เสียงดังขึ้นกว่าเดิม “ฮืออออออ ฮือออ ฉันอยากกลับที่พัก อยากล้างหน้า ล้างตา”
“ล้างขี้มูกด้วย ยัยขี้แง” ชายหนุ่มต่อให้หญิงสาว
“ไปกันได้แล้ว หรือ เธออยากจะอยู่รอไอ้ผู้ชายคนเมื่อกี้ก็เชิญ” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวเสร็จก็เดินนำหน้า โดยที่คราวนี้ไม่ลืมที่จะหันไปดูว่าเธอเดินตามเขามาหรือไม่ เมื่อถึงหน้าโรงแรม ชายหนุ่มหยุดเดินกะทันหัน
“อุ๊ย” หญิงสาวไม่ทันระวังตัว และ ก็ชนเข้าที่แผ่นหลังชายหนุ่ม จนเธอเซเกือบล้ม ดีที่ชายหนุ่มคว้าแขนเธอไว้ได้ทัน
เมื่อทรงตัวได้ หญิงสาวพูดกับชายหนุ่มเสียงฉุนว่า “นี่ นายจะหยุดจะเบรคบอกกันบ้างก็ได้ ดูสิฉันเกือบล้มแล้วเห็นมั๊ย”
ตอนแรกที่ชายหนุ่มหยุด เนื่องจากนึกได้ว่า ควรจะขอโทษเธอที่เขาเองก็มีส่วนทำให้เธอต้องเจอเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ทำให้เธอเสียขวัญเมื่อสักครู่นี้ แต่เมื่อเขาเห็นเธอหันกลับมาต่อว่าเรื่องที่เขาทำให้เธอเซเกือบล้ม ทำให้ชายหนุ่มต้องเก็บคำขอโทษไว้และพูดกับหญิงสาวว่า
“ทำไม กลัวหน้าเธอจะไปวัดกับพื้นที่นี่น่ะเหรอ จะได้รู้กันว่าอะไรมันหนากว่ากัน” ชายหนุ่มพูดเสร็จก็รีบวิ่งหนีหญิงสาว เพราะเขารู้ว่าเธอต้องตามมาจัดการกับเขาแน่ๆ
“ไอ้บ้า ไอ้ชักโครก หยุดเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาววิ่งไล่ชายหนุ่มจนถึงหน้าลิฟต์
“นี่แหนะ ปากเสียดีนัก ไอ้บ้า” หญิงสาวตามมาทุบชายหนุ่มเป็นพัลวัน
“โอ๊ย! คุณ จะบ้าเหรอ ผมเจ็บนะ นี่คนนะไม่ใช่กระท้อน มาทุบๆ จะได้หวาน”
“ก็นายปากเสียกับฉันก่อนทำไมล่ะ”
“เอ๊า ก็ผมไม่อยากเห็นคุณเงียบนิ ผมเดินมากับคนนะคุณ ไม่ใช่เดินมากับผี จะได้เดินเงียบมาตลอดทาง”
“โรคจิตเหรอไง ชอบยั่วประสาทชาวบ้านเขาเนี่ย” หญิงสาวว่าชายหนุ่ม แต่เมื่อเธอหันไปมองรอบๆ คนที่รอขึ้นลิฟต์ และคนที่อยู่แถวๆ นั้นต่างมองเธอ และยิ้ม บางคนก็ซุบซิบกัน เพราะคิดว่าหญิงสาวและชายหนุ่มเป็นคู่รักที่หยอกล้อกัน หญิงสาวเลยจำเป็นต้องหยุดต่อปากต่อคำกับชายหนุ่ม เธอได้แต่เพียงยิ้มแหย ให้กับคนเหล่านั้นและเธอก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังคุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์
“คุณพูดอะไรกับเขา”
“เปล๊า ไม่มีอะไร เขาก็แค่บอกผมว่า แฟนคุณน่ารักดีนะ งอนกันอยู่เหรอ”
“ผมก็แค่บอกว่า อ่อ ครับแฟนผมซาดิสต์ชอบทำร้ายร่างกายผม”
หญิงสาวชูกำปั้นทันที ก่อนที่จะกระซิบบอกกับชายหนุ่มเหมือนกลัวว่าหนุ่มนักท่องเที่ยวคนนั้นจะฟังรู้เรื่องว่า “นี่ นายจะบ้าเหรอ ใครบอกให้บอกเขาแบบนั้น ฉันเสียหายนะ แอบอ้างมั่วซั่ว อย่างนายแม้แต่ขนรักแร้ฉันสักเส้นนายก็จะไม่ได้เห็น” พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้นักท่องเที่ยวหนุ่มคนนั้น
“คุ๊ณณณ ใครเขาอยากจะเห็นขนรักแร้คุณ บ้าหรือเปล่า เขามีแต่ขาอ่อนก็คงไม่ได้เห็น นี่กลัวผมเห็นขนรักแร้คุณ ฮ่า ฮ้า ฮ่า”
เมื่อลิฟต์เปิดชายหนุ่มก็เดินเข้าลิฟต์ก่อนหน้าหญิงสาว ซึ่งตอนนี้ทำหน้าตาบอกบุญไม่รับอยู่อีกฝากหนึ่งของลิฟต์
“เอ๊า คุณ ดูสิผมลืมขอกุญแจห้องที่หน้าเคาน์เตอร์มาเลย เพราะคุณคนเดียว คุณรอผมแป๊บนึงละกัน เดี๋ยวผมลงไปเอาก่อน”
หญิงสาวหลังผ่านเหตุการณ์นั้นมา รีบตรงไปเกาะแขนเสื้อชายหนุ่ม และพูดว่า “ไม่เอา ฉันจะลงไปด้วย ฉันไม่กล้ายืนรอคนเดียว”
ชายหนุ่มยิ้ม และเดินนำหน้าโดยมีหญิงสาวเดินตามต้อยๆ
เมื่อถึงด้านล่างชายหนุ่มรับกุญแจเสร็จเรียบร้อย และนำมาเปิดห้อง พอเข้าห้องพักเรียบร้อยสิ่งแรกที่ชายหนุ่มเอ่ยกับหญิงสาวคือ “ยัยตัวดี มานี่เลย”
หญิงสาวแกล้งทำไม่ได้ยิน เดินไปนั่งที่เตียงนอนและหันไปอีกฝากหนึ่งซึ่งตรงข้ามกับที่ชายหนุ่มยืนอยู่
“หูแตกเหรอไง ฉันบอกว่ามานี่ไง”
“ใคร นายเรียกใคร” หญิงสาวทำเป็นหันซ้าย หันขวา หาว่าชายหนุ่มเรียกใคร
“ถ้าเธอชื่อว่า ยัยปิ่นหัก เอ้ยปิ่นปัก ก็มานี่เลย อย่าลืมสัญญาที่เธอให้ไว้ ไม่งั้นคืนนี้ก็เชิญครับ ไปหาที่นอนที่อื่นได้” ชายหนุ่มยั่วหญิงสาว
“ทำไม มีอะไรคะเจ้านาย” หญิงสาวประชด
“มานี่เลย มาจัดการสิ่งปฏิกูลจากเธอที่ทำไว้ที่เสื้อฉัน”
“ทำไม ถ้านายจะซัก นายก็ถอดแล้วเรียกให้ทางโรงแรมมาเอาไปซักสิ อย่าบอกนะว่านายจะให้ฉันซักผ้าให้นายด้วย ไม่เอาหรอกฉันไม่ทำ ขนาดอยู่บ้าน ฉันยังไม่เคยซักเองเลย” หญิงสาวย่นจมูกใส่ชายหนุ่ม
“เปล่า มาถอดเสื้อให้ฉันเลย ขี้มูกเธอเต็มกระดุมเสื้อฉันแบบนี้ ฉันไม่กล้าจับ มีเชื้อโรคหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยัยซ๊กม๊ก” จริงๆ ชายหนุ่มก็ไม่ได้รังเกียจถึงขนาดนี้ เพียงแต่เขาตั้งใจจะแกล้งหญิงสาวเท่านั้น
“จะบ้าเหรอ เกิดมาฉันยังไม่เคยถอดเสื้อให้ผู้ชายคนไหนเลยแม้แต่พ่อของฉัน แล้วนายคิดว่านายเป็นใคร”
ชายหนุ่มหัวเราะและพูดว่า “อย่าบอกนะว่าเธอยังไม่เคย..….” ชายหนุ่มแกล้งพูดหยุดเพียงเท่านี้
“ไอ้บ้า พูดดีๆ นะ ว่าไม่เคยอะไร มันจะอะไรมันก็เรื่องของฉัน” หญิงสาวพูดพร้อมกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย
“ไม่เคยก็เคยซะ ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรเธอนอกจากฉันไม่กล้าจับขี้มูกของเธอ ยัยซ๊กม๊ก มาเลยหรือว่าจะ” ชายหนุ่มพูดค้างไว้และเดินไปที่ประตูและเปิดประตูออกและผายมือให้หญิงสาวเห็น
“ฮึ มาสิเร็วๆ ก่อนฉันจะเปลี่ยนใจ” หญิงสาวบอกชายหนุ่ม และคิดในใจ (ฉันเปลี่ยนใจได้ด้วยเหรอ ในเมื่อตอนนี้มีแต่ตัวเท่านั้น)
ชายหนุ่มเดินทางหยุดตรงหน้าหญิงสาว เพื่อให้หญิงสาวแกะกระดุมให้
หญิงสาวหันหน้าออกจากตัวชายหนุ่มเนื่องจากไม่กล้ามอง และหลับหูหลับตาแกะกระดุมให้ชายหนุ่ม ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอหน้าแดงไปหมดเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำแบบนี้ให้กับผู้ชายที่ไหน แม้แต่เดชา ที่เธอคบกับเขามาหลายปี ก็ไม่เคยที่จะใกล้ชิดกันขนาดนี้
“เสร็จหรือยัง เร็วๆ สิ ผมเมื่อยไปหมดแล้ว เสร็จหรือยัง” ชายหนุ่มเร่งหญิงสาว และแอบยิ้มในท่าทางไร้เดียงสาของเธอ
“โอ๊ย จะรีบไปไหน ฉันก็รีบอยู่เนี่ย” หญิงสาวพูดทั้งๆ ที่ยังหลับหูหลับตาแกะกระดุมเสื้อให้ชายหนุ่ม
“เอ๊า เสร็จแล้ว ไอ้คนบ้าอำนาจ”
“ขอบคุณนะที่รักกกก” ชายหนุ่มแกล้งพูดยั่วหญิงสาว
“ใครที่รักนาย บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบ” หญิงสาวพูดเสียงฉุนและนั่งลงที่เตียงนอนของเธอ
“แล้วนี่ จะมายืนหาพระแสงดาบอะไร จะไปทำอะไรก็ไปสิ” หญิงสาวพูดกับชายหนุ่ม
“ไม่ได้มายืนหาพระแสงดาบหรอกที่รัก แต่หน้าที่ของเธอมีอะไร” ชายหนุ่มพูดเสียงแข็ง
หญิงสาวเดินกระแทกเท้าผ่านหน้าชายหนุ่มไปอย่างรู้หน้าที่เพื่อไปจัดของให้กับชายหนุ่มอาบน้ำ
“ฝากไว้ก่อนเหอะ” หญิงสาวกล่าวก่อนที่จะเห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ
ชายหนุ่มได้ยินจึงตะโกนมาบอกหญิงสาวว่า "มาเอาคืนสักทีเถอะ ฝากบ่อยแบบนี้ผมไม่มีตังค์จ่ายดอกเบี้ย ฮ่า ฮ้า ฮ้า"
"ไอ้โรคจิต ไอ้ชักโครก" หญิงสาวตะโกนไปว่าชายหนุ่มกลับทันที
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ