เล่ห์กลรักเงาอสูร

-

เขียนโดย RATH

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 00.57 น.

  30 chapter
  16 วิจารณ์
  45.92K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) บทที่ 3 ดวงตาแห่งความเศร้า_6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
เล่ห์กลรักเงาอสูร
 
 
บทที่ 3 ดวงตาแห่งความเศร้า_6
 
            ธเนศก้าวเดินกลับมาพร้อมน้ำส้มปั้นเต็มแก้วอีกครั้ง มินตราลุกขึ้นยืนตัวตรงพร้อมยื่นฝามือออกไปรับน้ำส้มปั้นจากฝามือของธเนศ นำเอามาถือเก็บเอาไว้ดื่มเอง พร้อมก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไม่คิดต้องการอยากที่จะรอคอยธเนศอยู่เช่นเดิม แต่มือหนาใหญ่ของธเนศกับไขว่คว้าจับฝามือข้างซ้ายของมินตราเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่มินตราจะก้าวเดินหลบหนีไปไกลเกินกว่าจะเอื้อมถึงอีกครั้ง
            “พอมีโอกาสคราใด คุณพร้อมจะก้าวเดินหลบหนีจากผมไปตลอดเวลาเลยนะครับ” มินตราไม่คิดจะตอบรับหรือปฏิเสธ เธอได้แต่ก้าวเดินพร้อมดูดน้ำส้มปั้นไปเรื่อยๆ และจับจ้องมองวิวทิวทัศน์สองข้างถนนต่อไป
            “ผมตอบคำถามของคุณ มามากพอสมควรแล้ว คุณควรที่จะให้ผมได้สอบถามอะไรคุณกลับไปบ้าง” มินตรายังคงก้าวเดินดูดน้ำส้มปั้นทำไม่สนใจเขาอยู่อีกเช่นเดิม ธเนศบีบฝามือของมินตราจนกระชับให้แน่นมากขึ้น เพื่อต้องการอยากที่จะให้มินตราหันวงหน้าอันเฉยชามาสนใจคำพูดของเขาบ้าง
            “โอ้ย!! ฉันเจ็บนะ” มินตราร้อยโอดโอยเมื่อธเนศบีบฝามือของเธอแน่นหนามากจนเกินไป
            “ก็คุณไม่คิดจะสนใจ คำพูดของผมก่อนทำไมกันล่ะ”
            “ฉันไม่ได้สัญญาอะไรกับคุณไว้สักหน่อย ว่าฉันจะตอบคำถามอะไรของคุณ”
            “แต่ตามมารยาทแล้ว เราต้องแลกเปลี่ยนคำถามซึ่งกันและกัน คุณจะมาเอาเปรียบผมอย่างนี้ไม่ได้”
            “ไม่เห็นจะไปเอาเปรียบอะไรคุณตรงไหนเลย เรื่องของคุณมันไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลยแม้สัก-กะ-นิ๊ด-เดียว” ธเนศบีบฝามือของมินตราจนแน่นกระชับมากยิ่งขึ้น มากกว่าในครั้งแรกอีกครั้ง ฐานะที่ไม่ให้เกียรติประวัติชีวิตอันทรงคุณค่าของเขา
            “โอ้ย!! ฉันเจ็บนะ คุณธเนศ” มินตราจับจ้องมองธเนศอย่างไม่พอใจ
            “คุณไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวของใครมาล้อเล่น” ธเนศจับจ้องมองมินตราอย่างไม่พอใจหญิงสาวเช่นกัน
            “ก็ได้เรื่องของคุณมันช่างลึกซึ้งกินใจ จนน่าอิจฉาริษยามาก พอใจหรือยังล่ะค่ะ” ธเนศบีบฝามือของมินตราแน่นกว่าเก่าเป็นสองเท่า
            “โอ้ย!!” มินตราอ้าปากร้องเสียงหลง จนต้องคายหลอดดูดน้ำส้มออก แล้วร้องโอดโอยจนลำตัวงองิกบิดกันเป็นเกลียว
            “ก็ได้ฉันขอโทษ ฉันยอมคุณแล้วอยากถามอะไรฉันก็ถามมาได้เลย” ธเนศคายแรงบีบฝามือของมินตราออก พร้อมยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างผู้กำลังกำชัยชนะเอาไว้ในมือ
            “ถ้าฉันเป็นแม่นางแบบคู่หมั้นของคุณ คุณจะทำกับเธออย่างที่กำลังทำกับฉันอยู่ในขณะนี้ไหมค่ะ คุณธเนศ” มินตราจับจ้องมองใบหน้าของธเนศ แต่เห็นเพียงแต่รอยยิ้มอันกรุ้มกริ่มเป็นคำตอบในคำถามของเธอเท่านั้น
            “โรสิลี ตอบคำถามผมทุกครั้ง ที่ผมถามครับ” มันคือคำตอบของธเนศที่ตอบ ไม่ยักกะตรงกับคำถาม แต่มินตราก็สามารถจะถอดรหัสภายในคำตอบออกมาได้ว่า
            “ผมไม่คิดจะทำร้ายคู่หมั้นของผม ให้ต้องเจ็บตัวอย่างแน่นอนครับ”
            “ฉันเข้าใจแล้ว คุณอยากจะถามอะไรฉันก็ถามมาได้เลย ถ้าฉันตอบได้ฉันก็จะตอบ” เมื่อพูดจบมินตราก็หวนกลับไปดูดน้ำส้ม ในแก้วพลาสติกของเธอต่อไปตามเดิม อย่างไม่คิดจะสนใจ ว่าธเนศจะตั้งคำถามอะไรนำกลับมาถามกับเธอ
            “ผมอยากจะ....”
          “รู้ว่าคุณเป็นใคร และต้องการอยากจะแก้แค้นใคร ในตระกูลของผม บอกผมมาให้เข้าใจหน่อยได้ไหมครับ” ธเนศอ้าปากค้าง และสามารถจะพูดออกมาได้เพียงแค่สามคำแรกเท่านั้น ส่วนประโยคคำถามส่วนที่เหลือต้องหยุดค้างคาเอาไว้ อยู่ภายในจิตใจเพราะมินตราเกิดจะต้องหยุดก้าวเดินอย่างกระทันทันและจับจ้องมองตรงไปยังห้องเสื้อผ้าหรูหรากลางใจเมือง “ร้านผ้าไหมอบดาว” บริการชุดวิวาห์ ชุดสูท ชุดไทย ชุดพื้นเมือง
            “คุณจะทำอะไร” ธเนศถามขึ้น
            “ฉันอยากจะลองสวมชุดวิวาห์นั้นดูสักครั้ง”
            “ว่าอะไรนะ” เธอหันวงหน้าอันเปรอะเปื้อนรอยยิ้มมาสบตากับเขาพร้อมจับจูงมือของเขาจนแนบแน่น แล้วพาก้าวเดินตรงเข้าไปภายในห้องเสื้อเบื้องหน้า
            “ยินดีตอนรับค่ะ” พนักงานตอนรับแต่งตัวด้วยผ้าไหมไทยหมดทั้งตัว ยกมือไหว้อย่างยิ้มแย้ม
            “สนใจผ้าไหมแบบไหนสอบถามได้นะค่ะ”
            “ฉันอยากจะลองสวมชุดวิวาห์” มินตราตอบคำถามออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเดียวกัน
            “เชิญตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ” มินตราก้าวเดินติดตามพนักงานตอนรับเข้าไปภายในห้องเสื้อด้านใน มันทำให้ธเนศต้องก้าวเดินติดตามเข้าไปด้วย ภายในห้องเสื้อมีเสื้อผ้าทุกรูปแบบจัดเตรียมเอาไว้ให้บริการกับลูกค้าอย่างมากมายจริงๆ มีทั้งเสื้อผ้าของสุภาพสตรีและของสุภาพบุรุษ
            “พวกคุณต้องการจะใช้บริการถ่ายรูปภาพด้วยไหมค่ะ”
            “ต้องนัดคิวก่อนล่วงหน้าไหมค่ะ”
            “ไม่ต้องค่ะ ถ้าสะดวกวันนี้ก็ถ่ายได้เลย”
            “ตกลงค่ะ” มินตราแย้มยิ้มตอบรับอย่างดีใจ พนักงานตอนรับก้าวเดินตรงไปยังโทรศัพท์ติดต่อกันภายใน พร้อมกดหมายเลขโทรออกไปยังห้องสตูดิโอให้จัดเตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพให้พร้อม แล้วก้าวเดินตรงกลับเข้ามาหามินตราตามเดิม
            “พวกคุณต้องการอยากจะลองสวมชุดแบบไหนดูก่อนค่ะ” มินตราชี้นิ้วตรงไปยังชุดวิวาห์สีขาว สำหรับสุภาพสตรีอันมีรูปร่างได้สัดส่วนอย่างเช่นมินตราพอดิบพอดี และข้างๆ กันกับชุดวิวาห์สีขาว ก็ยังมีชุดทักซิโด้ของเจ้าบ่าวเป็นสีขาวยืนโชว์เอาไว้เคียงคู่กันอยู่ด้วย
            “ตามฉันมาค่ะ คุณธเนศ มาช่วยเป็นนายแบบลองชุดแต่งงานคู่กันกับฉันหน่อย” ในวันนี้ทั้งวันเขาคิดที่จะตามใจมินตราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ถึงขนาดให้เขาต้องมาลองชุดแต่งงานด้วยกันกับเธอ มันก็รู้สึกจะเกินเลยมากจนเกินไปจริงๆ หากโรสิลีคู่หมั้นของเขามารับรู้เรื่องเข้ารับรองได้ว่า เขาต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งทอง เสียทั้งเวลาพาเธอออกไปทานข้าว เที่ยวเล่น หรือซื้อรองเท้า ตลอดจนกระเป๋าแบรนด์เนมเพื่อเป็นการปลอบประโลมจิตใจของโรสิลีเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้นเลยทีเดียว
            “มันจะดีหรือครับ”
            “ฉันไม่คิดจะขอคุณแต่งงาน ด้วยสักหน่อยนะค่ะ ฉันเพียงแค่ต้องการอยากจะรู้รับว่า หากฉันได้สวมชุดแต่งงานคู่กันกับคุณขึ้นมาจริงๆ มันจะเป็นอย่างไรก็เท่านั้น” ธเนศไม่ได้สนใจคำพูดอันมีนัยยะอันแอบแฝงอยู่ของมินตราเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะธเนศกำลังรู้สึกตื่นตกใจและกังวลใจอยู่อย่างมากมายก็เป็นไปได้
            “เอาชุดไปสวมเถอะค่ะ แล้วออกไปรอฉันที่ห้องสตูดิโอ แล้วฉันจะติดตามคุณออกไป” ธเนศไม่กล้าจะปฏิเสธมินตราเช่นเคย เพราะหากมินตราเกิดไม่พอใจขึ้นมาสิ่งที่เขาลงทุนลงแรงไปตั้งแต่ต้นจนจบก็จะสูญเสียเปล่าๆ ปรี่ๆ ไปด้วย เขาก้าวเดินตามพนักงานเข้าไปในห้องลองชุด แล้วสวมใส่ชุดตามที่มินตราต้องการอยากจะให้ใส่จนเสร็จสิ้นเรียบร้อยเป็นอย่างดี แล้วจึงก้าวเดินออกไปยืนรอคอยมินตราอยู่ภายในห้องสตูดิโออย่างจิตใจสุดแสนจะวุ่นวายใจเป็นที่สุด ไม่นานต่อมามินตราก็ปรากฏตัวออกมาในชุดที่สะสวยงดงามสุดจนเขาเองต้องตกตะลึงตาค้าง จนไม่กล้าที่จะละสายตาไปจากเธอได้เลย
            “คุณพร้อมแล้วใช่ไหมค่ะ คุณธเนศ”
            “คะ-ครับ ผมพร้อมแล้ว” พนักงานถ่ายภาพเริ่มจัดมุมกล้อง แสง เงา ของรูปให้ออกมาให้สะสวยงดงามที่สุด แล้วเริ่มถ่ายรูปใบแรกในท่าทางการยืนคู่กัน ใบที่สองคือท่าโอบกอดกันอย่างกำลังหอมแก้มของอีกฝ่าย และภาพใบที่สาม สี่ ห้า หก จนสุดท้ายไปหยุดที่รูปภาพใบที่ยี่สิบในอิริยาบถต่างๆ กันออกไปอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด จนเขาเองยังต้องหลงลืมไปเลยว่ามันไม่ใช้เรื่องจริง มันเป็นแค่การแสดงที่เขาทำมันลงไปก็เพื่อเอาอกเอาใจมินตราให้มีความสุขก็เท่านั้นเอง
            “ขอบคุณมากนะค่ะ คุณธเนศ เกียรติภูมินต์” มันเป็นน้ำเสียงจริงจังเหมือนเธอกำลังต้องการอยากจะกล่าวคำอำลากับเขา และหากเธอกำลังจะจากเขาไปจริงๆ เขาจะรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจหรือไม่กันนะ
            “แน่นอนว่าจะต้องรู้สึกเจ็บปวดบ้างอย่างแน่นอน”  คำตอบที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในจิตใจส่วนลึก ตอบคำถามออกมาอย่างชัดเจน
            “ไม่เป็นไรครับ มันเป็นแค่การแสดงเท่านั้น” เขาจับจ้องมองเห็นแววตาของมินตราเศร้าสร้อยลงไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มของเธอยังคงสดใสร่าเริงอยู่เช่นเดิม
            “คุณไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะค่ะ ฉันก็จะออกไปเปลี่ยนชุดของฉันด้วยเหมือนกัน” เขาและมินตราต่างก้าวเดินออกไปด้านนอกอย่างพร้อมเพรียงกัน และต่างแยกย้ายกันหายเข้าไปยังห้องเปลี่ยนชุด แต่สำหรับเขาแล้วยังไม่สามารถจะเปลี่ยนชุดจนแล้วเสร็จได้ในทันทีทันใดอันเนื่องมาจาก
            “คุณธเนศค่ะ” เสียงร้องทักทายมาจากทางด้านหลังของเขา เขาสามารถจะจดจำน้ำเสียงหวานๆ เพราะๆ นั้นได้เป็นอย่างดี เขาหันหลังกลับ ไปตามน้ำเสียงร้องทักนั้นในทันที
            “น้ำหวาน” ผู้จัดการส่วนตัวของโรสิลีคู่หมั้นของเขาเอง
            “คุณมาทำอะไรที่นี่”
            “น้ำหวานอยากจะถามคุณธเนศมากกว่า ว่าคุณธเนศมาทำอะไรที่นี่ เพราะน้ำหวานต้องมารับชุดของโรสเป็นประจำอยู่แล้ว”
            “ผม...” ธเนศไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอย่างไรดี
            “ผมมาถ่ายรูปแต่งงานครับ” รับรองได้ว่าเรื่องที่เขากำลังเกรงกลัวและนึกหวาดกลัวอยู่จะต้องเกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน
            “น้ำหวานเห็นหมดแล้วล่ะค่ะ คุณธเนศพาผู้หญิงมาถ่ายรูปแต่งงานด้วย น้ำหวานบันทึกมันเก็บเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือหมดแล้วค่ะ น้ำหวานจะส่งรูปภาพทั้งหมดเอาไปให้โรสได้ดู” น้ำหวานเริ่มขมขู่เขา อย่างต้องการที่จะทำอย่างที่ได้ข่มขู่เขาออกไปจริงๆ
            “อย่านะครับคุณน้ำหวาน มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ผมแค่มาถ่ายรูปเล่นๆ เท่านั้น และผมก็สามารถจะพิสูจน์ได้ด้วย” เขาต้องติดตามมินตรา ให้มาช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาให้ได้ไม่อย่างนั้น มันจะต้องเป็นเรื่องราวใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
            “ก็ได้ค่ะ พิสูจน์สิ่งที่คุณธเนศพูดมาให้น้ำหวาน เชื่อหน่อยสิค่ะ ไม่อย่างนั้นน้ำหวานจะส่งรูปพวกนี้ไปให้โรสได้ดูจริงๆ ด้วย”
            “อย่าๆๆ ครับ ตามผมมาเลยครับ” ธเนศก้าวเดินนำพาน้ำหวานออกไปด้านนอกห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อที่จะไปติดตามหามินตราให้มาช่วยกันยืนยันความบริสุทธิ์ของเขา
            “ขอโทษนะครับ ผู้หญิงที่มาด้วยกันกับผมเธออยู่ไหนแล้วครับ” ธเนศสอบถามพนักงานตอนรับคนเดิม พนักงานยืนกระดาษแผ่นเล็กๆ ส่งให้กับธเนศพร้อมข้อความสั้นๆ ที่มินตราเขียนทิ้งเอาไว้
            “ จากมินตรา ตรีเตชะมร กระต่าย ในอดีตของคุณ ลาก่อน” ธเนศตัวแข็งเป็นก้อนหินจนหมดสิ้นความรู้สึกไปชั่วขณะ จนเหมือนคนกำลังถูกสะกดให้ต้องกลับกลายเป็นก้อนหิน สุดท้ายแล้วเรื่องที่เขากำลังเกรงกลัวและหวาดกลัวมาตลอดทั้งชีวิต มันก็ได้บังเกิดขึ้นมาจนได้คำตอบของทุกๆ ปมปริศนาของทุกๆ สิ่งที่เขาต้องการอยากจะสืบเสาะแสวงหาจากมินตรามันกับปรากฏผ่านข้อความสั้นๆ เพียงไม่กี่คำเท่านั้น
            “ป่อ-ค่ะ-ป่อ-ค่ะ” น้ำเสียงเด็กหญิงตัวน้อย กำลังร้องเรียกบิดาของตนเอง ที่กำลังหมดสิ้นสติการรับรู้เรื่องราวใดๆ จากฝีมือของบิดาของเขาเอง
            “ป่อ-ค่ะ-ป่อ-ค่ะ-อุ้ม-นู” แม้เด็กหญิงตัวน้อยจะร้องตะโกนเรียกบิดาเสียงดังสักกี่ครั้ง จะยาวนานเป็นชั่วโมงๆ บิดาของเด็กหญิงตัวน้อยก็ไม่คิดจะตอบรับสิ่งใดเลย แม้แต่เสียงร้องของลูกสาวตัวน้อยก็ตาม
            “เขายอมจำนนแล้ว ไม่ขอต่อสู่ต่อไปอีกแล้ว ยอมจำนนแล้วจริงๆ มินตรา ตรีเตชะมร”
            “คุณธเนศค่ะ น้ำหวานต้องการหลักฐานเดียวนี้ค่ะ”
            “ไม่มีหลักฐานอะไรทั้งนั้น” ธเนศตะโกนตอบกลับออกไปเสียงดัง อย่างไม่คิดจะสนใจอะไรอื่นอีกต่อไป แม้แต่ความรู้สึกของโรสิลีคู่หมั้นของเขาเองก็ตาม เพราะขณะนี้ธเนศกำลังซ็อกและรู้สึกเศร้าเสียใจอย่างสุดขีดที่จะรับอะไรได้ไหวอีกแล้ว
            “แล้วตอนนี้ เธอไปไหนแล้วครับ” ธเนศตะโกนถามพนักงานตอนรับ
            “มีคนมารับเธอไปค่ะ แล้วเหมือนว่าคนที่มารับเธอไปจะบอกว่าหากคุณต้องการอยากจะพบกับเธออีกครั้งให้ไปเจอเธอได้ที่ คุ้มเวียงผาหลวงของพ่อเลี้ยงเกียงไกร ตรีเตชะมร”  
........................................
-จบบทที่ 3-

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา