ดาบสะท้านยุทธภพ
7.7
9) ความวุ่นวายเมื่อเจอสหายใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่เหลียงจิ้งหลับไหลไม่นานกว่า 3 วัน 3 คือ เหลียงจิ้งก็ตื่นขึ้นมาบนกองศพนับร้อย
“ถึงพวกเจ้าจะคิดทำร้ายข้า แต่ข้ากับพวกเจ้าก็ไม่เคยมีความแค้นต่อกัน และข้ารู้ว่ดีาที่พวกเจ้าทำคงเป็นเพราะคำสั่งของนายพวกเจ้า ถึงยังไงข้าจะทิ้งพวกเจ้าไว้อย่างนี้ไม่ได้หลอกนะ ข้าจะฝังพวกเจ้าทุกคนเลยนะ”
พอเหลียงจิ้งพูดจบ เขาก็ใช้ฝ่ามือยมโลกใส่พื้นดินจนพืนดินยุบลงไปเป็นหลุมๆเพื่อฝังศพพวกนั้น ตอนนี้กำลังภายในของเหลียงจิ้งกลับมาเหมือนเดิมแล้ว
“ข้าขอให้พวกเจ้าจงไปสู่สุขติเถอะ”
พอเหลียงจิ้งฝังพวกเขาเสร็จแล้วก็เดินไปที่หลุมศพพ่อของเขา
“ท่านพ่ออย่างที่ท่านพูดมามันถูกแล้ว อย่าคิดแก้แค้นไม่นั้นข้าก็จะไม่มีวันเป็นสุข ก่อนท่านแม่ข้าตายท่านก็ไม่พูดถึงเรื่องแก้แค้นเลย ข้าคิดแก้แค้นไปเอง ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะไม่คิดแก้แค้นอีก ข้าจะฝึกฝนให้ตัวเองเก่งยิ่งขึ้นถึงจะสามารถปกป้องคนที่ข้ารักเอาไว้ได้ ข้าหวังว่าท่านพ่อจะเป็นคนสุดท้ายที่ข้าไม่อาจช่วยท่านได้ ข้าขอโทษ”
แล้วเหลียงจิ้งก็ร้องให้ต่อหน้าหลุมศพพ่อของเขาและไม่คิดแก้แค้นตามที่พ่อเขาสั่งเสีย แล้วเหลียงจิ้งก็ลุกขึ้นไปเก็บดาบของเขาในบ้านตอนนี้ดาบของเขาก็กลับมาเบาเหมือนเดิมแล้ว แล้วเหลียงจิ้งก็ใช้วิชาตัวเบาขึ้นไปบนหน้าผาสูงกว่า 7 พันเมตรเหลียงจิ้งฝึกวิชาอยู่บนนั้นทั้งวันทั้งคือเพื่อที่จะให้ตัวเองเก่งขึ้น
ผ่านไปอีก 3 ปี
“วันพรุ้งนี้ก็เป็นวันที่ข้าให้สัญญากับไหวอันไว้สินะ และอีกอย่างตอนนี้ข้าก็เก่งขึ้นมามากแล้วข้าลงเขาไปพบไหวอันดีกว่า ป่านี้ไป่พอกับเซียวอี้หลิงจะเป็นยังไงบ้างนะ”
เหลียงจิ้งมองลงไปข้างล้านที่เป็นเหวลึกกว่า 7 พันเมตร แล้วเหลียงจิ้งก็กระโดดลงไป เหลียงจิ้งตกถึงพื้นอย่างนิ่มนวนด้วยกำลังภายในที่มากมายกว่าเมื่อก่อนมาก แล้วเหลียงจิ้งก็เดินที่หลุมศพของพ่อเขา
“ท่านพ่อลูกพร้อมแล้วที่จะไปช้วยเหลือผู้คน ลูกจะต้องฆ่าคนชั่วให้หมด ท่านพ่อหลับให้สบายนะไม่ต้องเป็นห่วงข้า”
แล้วเหลียงจิ้งก็เดินจากไปมุงหน้าไปที่เมืองชันจิ๋ว เหลียงจิ้งออกเดินทางทั้งวันทั้งคือในที่สุดก็มาทันวันนัดของเขากับไหวอัน
‘แล้วโรงเตียบ 5 ดาวมันไปไหนแล้วนะข้าจำได้ว่ามันอยู่ตรงนี้ไม่ใช่หรอ’
เหลียงจิ้งคิดในใจแล้วมองไปทาง เวทีที่เขาใช้ประมุลสินค้ากัน
“ท่านลุงโรงเตียบ 5 ดาวที่เมื่อก่อนอยู่ตรงนี้ไปไหนแล้ว”
เหลียงจิ้งเดินมาถามคุณลุงท่านหนึ่ง
“ท่านคงจะเป็นคนต่างถิ่นสินะ ร้านนั้นละปิดมาทำเป็นเวทีประมูลสินค้าแล้วล่ะน้อยชาย”
คุณลุงท่านนั้นชี้ไปทางเวทีประมูลสินค้า
“นั้นหรอครับ ข้าขอบคุณท่านมาก”
‘ผ่านไปตั้ง 10 ปีแล้วหนิ มันก็ต้องเปลี่ยนแปลเป็นธรรมดา ข้าไปรอไหวอันที่ข้างๆเวทีดีกว่า’
เหลียงจิ้งดูชาวบ้านประมูลสินค้าอย่างสนุกสนานแล้วในที่สุดไหวอันก็มา และบนเวทีกำลังประมูลชายหนุ่มตัวเล็กอายุประมาณ 22 ปี
“ข้าให้ 5 ตำลึง”
“ข้าให้ 10 เลย”
“ข้า 12”
“ข้าให้ 21”
“ข้า 100 เลย”
“มีใครที่ให้มากกว่านี้อีกมั้ย”
ชายหนุ่มที่เอาสินค้ามาประมูลบนเวทีประกาศ ทันไดนั้นเองเหลียงจิ้งก็เห็นไหวอันแล้วก็ยกมือเรียกไหวอัน ติดต่อกันสามครั้ง เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังอยู่ในเขตการประมูลที่เขายกมือติดต่อกัน 3 ครั้งนั้นเท่ากับว่าเขาไว้ 3 หมื่นตำลึงเลย
“นายท่านท่านนี้ให้ 3 หมื่นมีใครให้มากกว่านี้อีกมั้ย 1 2 3 ชายหนุ่มผู้นี้เป็นของคุณชายท่านนี้แล้ว”
แล้วชายหนุ่มที่เอาสินค้ามาประมูลก็ลงไปเชิญเหลียงจิ้งขึ้นมา
“นายท่าน 3 หมื่นตำลึงครับ”
ชายหนุ่มน้ำลายไหลท่วมมาก
“อะไรกันข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าข้าจะเอา”
เหลียงจิ้งปฏิเสธทันที
“อ่าวอย่างนี้ตั้งใจจะมาก่อกวนนั้นชัดๆเลยหนิ ใช่มั้ยพวกเรา ข้าก็เห็นเจ้ายกมือให้ราคา 3 หมื่นตำลึง”
ชายหนุ่มพูดดังไปทั่ว จนไหวอันได้ยินเข้า
‘อ่าวนายท่านหนิ สงสัยจะไปก่อเรื่องอีกแล้ว’
ไหวอันก็รีบขึ้นไปบนเวที
“เฒ่าแก่เท่าไหร่ ข้าจะจ่ายแทนนายข้าเอง”
พอไหวอันรีบไปถึงก็รีบถามถึงราคาทันทีเลย
“ทั้งหมด 3 หมื่นตำลึงครับนายท่าน”
แล้วไหวอันก็เงินออกมาจ่ายเสร็จแล้วก็พาเหลียงจิ้งลงมาจากเวที
“เดียวก่อนนายท่าน สินค้าของท่าน ท่านยังไม่ได้เอาไปเลยนะครับ”
แล้วเฒ่าแก่ก็เอาชายหนุ่มที่เขาประมูลมาให้เหลียงจิ้ง
“ท่านประมูลคนหรอเนี่ย”
ไหวอันถามเหลียงจิ้ง
“ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ คือข้าเป็นเจ้าแล้วข้าเลยยกมือเรียกเจ้า แล้วผู้ชายคนเมื่อกี้ก็ให้ข้าขึ้นไปบนเวที”
เหลียงจิ้งยังงงอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ท่านนี่จริงๆเลย เวลาประมูลกันถ้าใครจะเอาสินค้าชิ้นนั้นก็ต้องยกมือเพื่อนให้ราคาที่มากกว่าที่คนก่อนให้ ท่านเจ้าใจมั้ย”
ไหวอันสอนเหลียงจิ้งอย่างระเอียด
“อย่างนั้นหรอครับ ข้าไม่น่าทำให้เจ้าเสียงตั้ง 3 หมื่นตำลึงไปฟรีๆเลย”
เหลียงจิ้งรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ที่ต้องหาเรื่องให้ไหวอันเสียเงิน
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เรื่องเล็กน้อย ว่าแต่เราจะทำยังไงกับชายผู้นี้ดีล่ะ”
ไหวอันชี้ไปที่ ชายคนที่เหลียงจิ้งประมูลมา
“ช่วยไม่ได้ก็คงต้องให้เขาตามเราไป พอหาที่อยู่ให้เขาได้ค่อยให้เขาไปอยู่ละกัน”
เหลียงจิ้งออกแสดงความคิดเห็น
“แล้วเจ้าชื่ออะไรล่ะ”
ไหวอันถามชายหนุ่ม
“ข้าชื่อออออออ......ชื่ออออออ..... ข้าจำไม่ได้”
ชายหนุ่มพูดออกมา เสียงของเขาหวานมากเหมือนกันผู้หญิงเลย
“ทำไมเสียงเขาไม่เหมือนผู้ชายเลย ชื่อตัวเองก็ยังจำไม่ได้เจ้าเป็นอะไร”
ไหวอันสงสัยในตัวเขามาก
“อย่าไปสนใจเลยข้าว่าเราไปกินข้าวกันดีกว่า”
แล้วเหลียงจิ้งก็กอดคอชายหนุ่มผู้ที่เพิ่งประมูลมาไปหาร้านอาหารกิน
“นายท่านเดี๋ยวก่อน มีสหายของท่าน 2 คนอยากพบท่าน ชื่อ ไป่พอกับเซียวอี้หลิง ตอนนี้พวกเขารอท่านที่โรงเตียบนั้น”
ไหวอันก็ชี้ไปทางโรงเตียบ
“อ่าวเขาสองคนมาด้วยหรอ นั้นเรารีบไปกันเลย”
แล้วทั้งสามก็เดินไปที่โรงเตียบ แล้วก็พบกับไป่พอกลับเซียวอี้หลิง พอเซียวอี้หลิงกับไป่พอเห็นเหลียงจิ้งแล้วก็วิ่งเข้ามากอดเหลียงจิ้งทันทีเลย
“เพื่อนรักเจ้าไปไหนมาตั้ง 10 ปี”
ไป่พอถามเหลียงจิ้ง
“รู้มั้ยว่าพวกเราเป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน”
เซียวอี้หลิงพูดออกมา
“ไหนเจ้าว่าเราจะไปสอบเป็นคราส 2 ด้วยกันไง”
ไป่พอถาม
“ไหนเจ้าว่าเจ้าจะกลับมาหาพวกเราไง”
เซี่ยวอี้หลิงถาม เหลียงจิ้งเจอเป็นชุดๆเลย
“ถามทีละคนสิข้ามีปากเดียวจะไปตอบทันได้ยังไงกัน”
แล้วไป่พอกับเซียวอี้หลิงก็หัวเราะกันใหญ่
“ชั่งเหอะข้าไม่ถามแล้วมาๆข้าสั่งอาหารไว้ให้แล้วกินได้เลย อ่าวแล้วชายท่านนี้เป็นใครกัน”
เซียวอี้หลิงชี้ไปทางชายที่เหลียงจิ้งประมูลมา
“คือข้าไปประมูลมาน่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ”
เหลียงจิ้งยกมือชึ้นมาอย่างกับคนกำลังตกใจ
“ฮ่าๆ ๆ เจ้าเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยนะ กินข้าวร้านเซียวอี้หลิงก็ไม่จ่านมาครั้งหนึ่งละ”
ไป่พอหัวเราะใหญ่เลย
“ตอนนี้พวกเจ้าอยู่คราสไหนกันแล้ว”
เหลียงจิ้งกินข้าวแล้วพูดออกมาข้าวกระเด็นติดหน้าชายหนุ่มที่เพิ่งประมูลมาเต็มไปหมด
“ข้าขอโทษๆ ข้าไม่ตั้งใจ”
แล้วเหลียงจิ้งก็ใช่มือของเขารุบข้าวที่ติดบนใบหน้าของชายหนุ่มออกจนหมด เขารู้สึกว่าใบหน้าของชายหนุ่มนั้นนุ่มเนียนอย่างกับผู้หญิงเลย
“ข้าไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มตอบกลับ
“นั้นก็ดีแล้วกินต่อๆ”
ไหวอันพูดให้ทุกคนกินข้าวต่อ
“ข้า คราส 4 ส่วนไหวอันคราส 4 เซีวอี้หลิงคราส 3 ฮ่าๆ ๆ”
ไป่พอชี้ไปทางคนต่าง
“อะไรกันทำไมต้องหัวเราะข้าด้วย ก็ข้าไม่เก่งยุทธไม่เห็นจะต้องหัวเราะข้าเลย”
เซียวอี้หลิงนางโกรธมาก
“ไม่เป็นใครเดี๋ยวข้าสอนเจ้าเอง รับรองเลยว่าวรยุทธของเจ้าต้องก้าวหน้ากว่าพวกเขาอย่างแน่นอน”
เหลียงจิ้งมองหน้าเซียวอี้หลิงแล้วพูดออกมา
“แล้วพวกเจ้ารู้จักกันได้ยังไง”
เหลียงจิ้งสงสัยมาตั้งนานแล้วเลยถาม
“พวกเราได้อยู่ทีมเดียวกันตอนไปสอบเป็นคราส 3 น่ะ”
ไป่พอรีบตอบเหลียงจิ้งทันที
“นั้นหรอโลกเรากลมจิงๆเลยนะ”
เหลียงจิ้งก็หัวเราะใหญ่ๆเลย พวกเขาพูดคุยกัยจนค่ำแล้วกำลังจะไปเข้านอนกัน
“คือข้าจองห้องไว้แค่ 4 ห้องเองห้องมันเต็มหมดแล้ว”
เซียวอี้หลิงมองหน้าทุกคนแล้วพูดออกมา
“ไม่เป็นไรเดียวข้าไปนอนกับเข้าเองก็ได้”
ไป่พอมองหน้าเซียวอี้หลิงแล้วพูด
“จะบ้าหรอ”
เซียวอี้หลิงปฏิเสธทันที
“ข้าพูดเล่นน่ะ ฮ่าๆ ๆ”
ไป่พอหัวเราะอย่างมีความสุข
“นั้นข้าจะนอนกับเจ้าไม่มีชื่อนี้เองนะ”
เหลียงจิ้งชี้ไปทางชายที่เขาประมูลมา
“ตกลงกันเสร็จแล้วนะขึ้นไปนอนกันได้แล้ว”
ไหวอันพูดเสร็จแล้ว ทุกคนก็เดินไปที่ห้องของตัวเอง
“เจ้านอนตรงนั้น ข้านอนตรงนี้นะ”
เหลียงจิ้งรีบแบ่งเตียงแล้วก็ขึ้นไปหลับเพราะว่าเหลียงจิ้งเหนื่อยมาก ส่วนชายไม่มีชื่อก็ขึ้นไม่หลับตาม ที่เตียงอีกข้างหนึ่ง เหลียงรู้สึกว่าร้อนมากเลยลุกขึ้นมาถอดเสื้อของเขาออกแล้วนอน
“เจ้าถอดเสื้ออกทำไมหรอ”
ชายไม่มีชื่อถามเหลียงจิ้ง
“อ่อ ข้าร้อนน่ะ”
เหลียงจิ้งตอบแล้วก็หลับต่อ
‘ข้าถอดบ้างดีกว่าข้าก็ร้อนเหมือนกัน’
แล้วชายไม่มีชื่อก็ถอดเสื้อผ้าของเขาออกแล้วหลับตามเหลียงจิ้งไป
“เช้าแล้วหรอเนี่ย”
เหลียงจิ้งตื่นขึ้นมาแล้วใส่เสื้อแล้วก็หันมาดูชายไม่มีชื่อ
"ตื่นได้แล้วเช้าแล้ว"
แล้วเหลียงจิ้งก็ดึงผ้าห่มออกแล้วเห็นชายไม่มีชื่อนอนถอดเสื้ออยู่เหลียงจิ้งตกใจมาก
“เจ้าๆ ๆ เจ้าไม่ใช่ผู้ชายหนิ”
พอเหลียงจิ้งเห็นรูปของเธอเลยรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย แล้วเหลียงจิ้งก็เอาเสื้อของเธอให้เธอใส่แล้วก็เดินออกห้องไปหาเพื่อนๆ
“เขาไม่ใช่ผู้ชาย”
เหลียงจิ้งพูดใหญ่เลย
“อะไรเหลียงจิ้งใครไม่ใช่ผู้ชาย”
ไป่พอถามเหลียงจิ้งเขาสงสัยว่าใครไม่ใช่ผู้ชาย
“ก็เจ้าชายไม่มีชื่อนั่นไง ข้านอนกับเขาทั้งคือตื่นมาข้าก็เห็นนนนน......เห็น”
เหลียงจิ้งพูดออกมาตะกุกตะกัก
“เห็นอะไร”
เซียวอี้หลิงถาม
“ข้าเห็นของนางหมดแล้ว แต่ข้าไม่ได้ทำอะไรนางนะ”
เหลียงจิ้งพูดออกมาอย่างร้อนรน
"เวรกำอะไรเนี่ย"
ไหวอันพูดออกมา
“แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อ”
ไป่พอถามเหลียงจิ้ง
“เออ ๆ ข้าคิดว่าจะควรจะรับผิดชอบนางถูกมั้ย"
เหลียงจิ้งแสดงความคิดเห็น
"ข้าจะแต่งงานกับนาง”
เหลียงจิ้งพูดออกมาทุกคนต่างตกใจ
“เหลียงจิ้งพวกเราเพื่องรู้จักนางได้แค่ 1 วันเองนะและก็ไม่รู้ว่านางเป็นใครมาจากไหน”
เซียวอี้หลิงคัดค้านใหญ่เลย และสีหน้าของเธอก็ดูเปลี่ยนไปด้วยดูเหมือนว่าเธอจะกังวลมากกว่าใครๆเลยขนาดเจ้าตัวยังไม่ขนาดนั้นเลย พอไป่พอเห็นสีหน้าของนางแล้วก็เลยหายสงสัยเลยว่าเซียวอี้หลิงรักเหลียงจิ้งหรือป่าว
“แต่นางเป็นฝ่ายเสียหายนะเหลียงจิ้งก็ต้องรับผิดชอบ”
ไป่พอสนับสนุนทันที
“ใช่แล้วข้าต้องรับผิดชอบบนาง และข้าก็ไม่รู้ด้วยว่าในระหว่างที่ข้าไม่รู้ตัวนั้นข้าทำอะไรนางไปบ้างด้วย”
เหลียงจิ้งพูดออกมาอย่างหนักใจ แล้วเจ้าชายไม่มีชื่อก็ลงมา
“มีอะไรกันหรอ”
เขาถามทุกคน ทุกคนต่างมองหน้าเขา
“ข้าจะแต้งงานกับเจ้าเพื่อรับผิดชอบเรื่องเมื่อคืนนี้เอง”
เหลียงจิ้งเดินเข้าไปหานางแล้วพูดกับนางอย่างช้าๆ
“เจ้าจะแต่งกับข้าหรอ ชาย กับ ชาย จะแต่งด้วยกันได้ยังไง”
นางงงมากนางคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายมาโดยตลอด
“เจ้าไม่ใช่ผู้ชายหรอ”
เซียวอี้หลิงพูดออกมาอย่างแตกตื่น
"ตามข้ามา"
เซียวอี้หลิงก็ดึงตัวนางแล้วพาเข้าไปที่ห้องของตัวเอง
‘ถ้าเขาไม่ใช่ผู้ชายจริงๆละก็ ไม่ได้ข้าต้องพิสูจน์’
เซียวอี้หลิงคิดในใจ แล้วเซียวอี้หลิงก็เดินเข้ามาจับหน้าอกของนาง เขาก็รู้ทันทีว่านางไม่ใช่ผู้ชาย
“เจ้าไม่ใช่ผู้ชายหนิ”
เซียวอี้หลิงตกใจมาก
“ข้าเป็นผู้ชายจริงๆ”
นางก็ยังไม่ยอมรับ
“เจ้าดูข้านะ”
แล้วเซียวอี้หลิงก็ถอดเสื้อผ้าของเขาออกหมด แล้วเดินมาถอดของนายอีก
"เจ้าจะทำอะไรน่ะ"
ชายไม่มีชื่อตกใจ
"อยู่เฉยๆน่ะ"
“เจ้าดูสิเจ้าเหมือนข้าทุกอย่าง เจ้าเป็นผู้หญิง”
แล้วเซียวอี้หลิงก็ชักกระบี่ของเขาออกมาจ่อที่คอหอยของนาง
“เจ้าเป็นใคร ใครส่งเจ้ามา”
เซียวอี้หลิงถามนางทันทีที่รู้ว่านางไม่ใช่ผู้ชาย
“ข้า ข้าไม่รู้"
นางพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
"ข้าจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”
นางรู้สึกปวดหัวแล้วก็หมดสติไป
โปรดติดตามตอนต่อไป
“ถึงพวกเจ้าจะคิดทำร้ายข้า แต่ข้ากับพวกเจ้าก็ไม่เคยมีความแค้นต่อกัน และข้ารู้ว่ดีาที่พวกเจ้าทำคงเป็นเพราะคำสั่งของนายพวกเจ้า ถึงยังไงข้าจะทิ้งพวกเจ้าไว้อย่างนี้ไม่ได้หลอกนะ ข้าจะฝังพวกเจ้าทุกคนเลยนะ”
พอเหลียงจิ้งพูดจบ เขาก็ใช้ฝ่ามือยมโลกใส่พื้นดินจนพืนดินยุบลงไปเป็นหลุมๆเพื่อฝังศพพวกนั้น ตอนนี้กำลังภายในของเหลียงจิ้งกลับมาเหมือนเดิมแล้ว
“ข้าขอให้พวกเจ้าจงไปสู่สุขติเถอะ”
พอเหลียงจิ้งฝังพวกเขาเสร็จแล้วก็เดินไปที่หลุมศพพ่อของเขา
“ท่านพ่ออย่างที่ท่านพูดมามันถูกแล้ว อย่าคิดแก้แค้นไม่นั้นข้าก็จะไม่มีวันเป็นสุข ก่อนท่านแม่ข้าตายท่านก็ไม่พูดถึงเรื่องแก้แค้นเลย ข้าคิดแก้แค้นไปเอง ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะไม่คิดแก้แค้นอีก ข้าจะฝึกฝนให้ตัวเองเก่งยิ่งขึ้นถึงจะสามารถปกป้องคนที่ข้ารักเอาไว้ได้ ข้าหวังว่าท่านพ่อจะเป็นคนสุดท้ายที่ข้าไม่อาจช่วยท่านได้ ข้าขอโทษ”
แล้วเหลียงจิ้งก็ร้องให้ต่อหน้าหลุมศพพ่อของเขาและไม่คิดแก้แค้นตามที่พ่อเขาสั่งเสีย แล้วเหลียงจิ้งก็ลุกขึ้นไปเก็บดาบของเขาในบ้านตอนนี้ดาบของเขาก็กลับมาเบาเหมือนเดิมแล้ว แล้วเหลียงจิ้งก็ใช้วิชาตัวเบาขึ้นไปบนหน้าผาสูงกว่า 7 พันเมตรเหลียงจิ้งฝึกวิชาอยู่บนนั้นทั้งวันทั้งคือเพื่อที่จะให้ตัวเองเก่งขึ้น
ผ่านไปอีก 3 ปี
“วันพรุ้งนี้ก็เป็นวันที่ข้าให้สัญญากับไหวอันไว้สินะ และอีกอย่างตอนนี้ข้าก็เก่งขึ้นมามากแล้วข้าลงเขาไปพบไหวอันดีกว่า ป่านี้ไป่พอกับเซียวอี้หลิงจะเป็นยังไงบ้างนะ”
เหลียงจิ้งมองลงไปข้างล้านที่เป็นเหวลึกกว่า 7 พันเมตร แล้วเหลียงจิ้งก็กระโดดลงไป เหลียงจิ้งตกถึงพื้นอย่างนิ่มนวนด้วยกำลังภายในที่มากมายกว่าเมื่อก่อนมาก แล้วเหลียงจิ้งก็เดินที่หลุมศพของพ่อเขา
“ท่านพ่อลูกพร้อมแล้วที่จะไปช้วยเหลือผู้คน ลูกจะต้องฆ่าคนชั่วให้หมด ท่านพ่อหลับให้สบายนะไม่ต้องเป็นห่วงข้า”
แล้วเหลียงจิ้งก็เดินจากไปมุงหน้าไปที่เมืองชันจิ๋ว เหลียงจิ้งออกเดินทางทั้งวันทั้งคือในที่สุดก็มาทันวันนัดของเขากับไหวอัน
‘แล้วโรงเตียบ 5 ดาวมันไปไหนแล้วนะข้าจำได้ว่ามันอยู่ตรงนี้ไม่ใช่หรอ’
เหลียงจิ้งคิดในใจแล้วมองไปทาง เวทีที่เขาใช้ประมุลสินค้ากัน
“ท่านลุงโรงเตียบ 5 ดาวที่เมื่อก่อนอยู่ตรงนี้ไปไหนแล้ว”
เหลียงจิ้งเดินมาถามคุณลุงท่านหนึ่ง
“ท่านคงจะเป็นคนต่างถิ่นสินะ ร้านนั้นละปิดมาทำเป็นเวทีประมูลสินค้าแล้วล่ะน้อยชาย”
คุณลุงท่านนั้นชี้ไปทางเวทีประมูลสินค้า
“นั้นหรอครับ ข้าขอบคุณท่านมาก”
‘ผ่านไปตั้ง 10 ปีแล้วหนิ มันก็ต้องเปลี่ยนแปลเป็นธรรมดา ข้าไปรอไหวอันที่ข้างๆเวทีดีกว่า’
เหลียงจิ้งดูชาวบ้านประมูลสินค้าอย่างสนุกสนานแล้วในที่สุดไหวอันก็มา และบนเวทีกำลังประมูลชายหนุ่มตัวเล็กอายุประมาณ 22 ปี
“ข้าให้ 5 ตำลึง”
“ข้าให้ 10 เลย”
“ข้า 12”
“ข้าให้ 21”
“ข้า 100 เลย”
“มีใครที่ให้มากกว่านี้อีกมั้ย”
ชายหนุ่มที่เอาสินค้ามาประมูลบนเวทีประกาศ ทันไดนั้นเองเหลียงจิ้งก็เห็นไหวอันแล้วก็ยกมือเรียกไหวอัน ติดต่อกันสามครั้ง เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังอยู่ในเขตการประมูลที่เขายกมือติดต่อกัน 3 ครั้งนั้นเท่ากับว่าเขาไว้ 3 หมื่นตำลึงเลย
“นายท่านท่านนี้ให้ 3 หมื่นมีใครให้มากกว่านี้อีกมั้ย 1 2 3 ชายหนุ่มผู้นี้เป็นของคุณชายท่านนี้แล้ว”
แล้วชายหนุ่มที่เอาสินค้ามาประมูลก็ลงไปเชิญเหลียงจิ้งขึ้นมา
“นายท่าน 3 หมื่นตำลึงครับ”
ชายหนุ่มน้ำลายไหลท่วมมาก
“อะไรกันข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าข้าจะเอา”
เหลียงจิ้งปฏิเสธทันที
“อ่าวอย่างนี้ตั้งใจจะมาก่อกวนนั้นชัดๆเลยหนิ ใช่มั้ยพวกเรา ข้าก็เห็นเจ้ายกมือให้ราคา 3 หมื่นตำลึง”
ชายหนุ่มพูดดังไปทั่ว จนไหวอันได้ยินเข้า
‘อ่าวนายท่านหนิ สงสัยจะไปก่อเรื่องอีกแล้ว’
ไหวอันก็รีบขึ้นไปบนเวที
“เฒ่าแก่เท่าไหร่ ข้าจะจ่ายแทนนายข้าเอง”
พอไหวอันรีบไปถึงก็รีบถามถึงราคาทันทีเลย
“ทั้งหมด 3 หมื่นตำลึงครับนายท่าน”
แล้วไหวอันก็เงินออกมาจ่ายเสร็จแล้วก็พาเหลียงจิ้งลงมาจากเวที
“เดียวก่อนนายท่าน สินค้าของท่าน ท่านยังไม่ได้เอาไปเลยนะครับ”
แล้วเฒ่าแก่ก็เอาชายหนุ่มที่เขาประมูลมาให้เหลียงจิ้ง
“ท่านประมูลคนหรอเนี่ย”
ไหวอันถามเหลียงจิ้ง
“ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ คือข้าเป็นเจ้าแล้วข้าเลยยกมือเรียกเจ้า แล้วผู้ชายคนเมื่อกี้ก็ให้ข้าขึ้นไปบนเวที”
เหลียงจิ้งยังงงอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ท่านนี่จริงๆเลย เวลาประมูลกันถ้าใครจะเอาสินค้าชิ้นนั้นก็ต้องยกมือเพื่อนให้ราคาที่มากกว่าที่คนก่อนให้ ท่านเจ้าใจมั้ย”
ไหวอันสอนเหลียงจิ้งอย่างระเอียด
“อย่างนั้นหรอครับ ข้าไม่น่าทำให้เจ้าเสียงตั้ง 3 หมื่นตำลึงไปฟรีๆเลย”
เหลียงจิ้งรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ที่ต้องหาเรื่องให้ไหวอันเสียเงิน
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เรื่องเล็กน้อย ว่าแต่เราจะทำยังไงกับชายผู้นี้ดีล่ะ”
ไหวอันชี้ไปที่ ชายคนที่เหลียงจิ้งประมูลมา
“ช่วยไม่ได้ก็คงต้องให้เขาตามเราไป พอหาที่อยู่ให้เขาได้ค่อยให้เขาไปอยู่ละกัน”
เหลียงจิ้งออกแสดงความคิดเห็น
“แล้วเจ้าชื่ออะไรล่ะ”
ไหวอันถามชายหนุ่ม
“ข้าชื่อออออออ......ชื่ออออออ..... ข้าจำไม่ได้”
ชายหนุ่มพูดออกมา เสียงของเขาหวานมากเหมือนกันผู้หญิงเลย
“ทำไมเสียงเขาไม่เหมือนผู้ชายเลย ชื่อตัวเองก็ยังจำไม่ได้เจ้าเป็นอะไร”
ไหวอันสงสัยในตัวเขามาก
“อย่าไปสนใจเลยข้าว่าเราไปกินข้าวกันดีกว่า”
แล้วเหลียงจิ้งก็กอดคอชายหนุ่มผู้ที่เพิ่งประมูลมาไปหาร้านอาหารกิน
“นายท่านเดี๋ยวก่อน มีสหายของท่าน 2 คนอยากพบท่าน ชื่อ ไป่พอกับเซียวอี้หลิง ตอนนี้พวกเขารอท่านที่โรงเตียบนั้น”
ไหวอันก็ชี้ไปทางโรงเตียบ
“อ่าวเขาสองคนมาด้วยหรอ นั้นเรารีบไปกันเลย”
แล้วทั้งสามก็เดินไปที่โรงเตียบ แล้วก็พบกับไป่พอกลับเซียวอี้หลิง พอเซียวอี้หลิงกับไป่พอเห็นเหลียงจิ้งแล้วก็วิ่งเข้ามากอดเหลียงจิ้งทันทีเลย
“เพื่อนรักเจ้าไปไหนมาตั้ง 10 ปี”
ไป่พอถามเหลียงจิ้ง
“รู้มั้ยว่าพวกเราเป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน”
เซียวอี้หลิงพูดออกมา
“ไหนเจ้าว่าเราจะไปสอบเป็นคราส 2 ด้วยกันไง”
ไป่พอถาม
“ไหนเจ้าว่าเจ้าจะกลับมาหาพวกเราไง”
เซี่ยวอี้หลิงถาม เหลียงจิ้งเจอเป็นชุดๆเลย
“ถามทีละคนสิข้ามีปากเดียวจะไปตอบทันได้ยังไงกัน”
แล้วไป่พอกับเซียวอี้หลิงก็หัวเราะกันใหญ่
“ชั่งเหอะข้าไม่ถามแล้วมาๆข้าสั่งอาหารไว้ให้แล้วกินได้เลย อ่าวแล้วชายท่านนี้เป็นใครกัน”
เซียวอี้หลิงชี้ไปทางชายที่เหลียงจิ้งประมูลมา
“คือข้าไปประมูลมาน่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ”
เหลียงจิ้งยกมือชึ้นมาอย่างกับคนกำลังตกใจ
“ฮ่าๆ ๆ เจ้าเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยนะ กินข้าวร้านเซียวอี้หลิงก็ไม่จ่านมาครั้งหนึ่งละ”
ไป่พอหัวเราะใหญ่เลย
“ตอนนี้พวกเจ้าอยู่คราสไหนกันแล้ว”
เหลียงจิ้งกินข้าวแล้วพูดออกมาข้าวกระเด็นติดหน้าชายหนุ่มที่เพิ่งประมูลมาเต็มไปหมด
“ข้าขอโทษๆ ข้าไม่ตั้งใจ”
แล้วเหลียงจิ้งก็ใช่มือของเขารุบข้าวที่ติดบนใบหน้าของชายหนุ่มออกจนหมด เขารู้สึกว่าใบหน้าของชายหนุ่มนั้นนุ่มเนียนอย่างกับผู้หญิงเลย
“ข้าไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มตอบกลับ
“นั้นก็ดีแล้วกินต่อๆ”
ไหวอันพูดให้ทุกคนกินข้าวต่อ
“ข้า คราส 4 ส่วนไหวอันคราส 4 เซีวอี้หลิงคราส 3 ฮ่าๆ ๆ”
ไป่พอชี้ไปทางคนต่าง
“อะไรกันทำไมต้องหัวเราะข้าด้วย ก็ข้าไม่เก่งยุทธไม่เห็นจะต้องหัวเราะข้าเลย”
เซียวอี้หลิงนางโกรธมาก
“ไม่เป็นใครเดี๋ยวข้าสอนเจ้าเอง รับรองเลยว่าวรยุทธของเจ้าต้องก้าวหน้ากว่าพวกเขาอย่างแน่นอน”
เหลียงจิ้งมองหน้าเซียวอี้หลิงแล้วพูดออกมา
“แล้วพวกเจ้ารู้จักกันได้ยังไง”
เหลียงจิ้งสงสัยมาตั้งนานแล้วเลยถาม
“พวกเราได้อยู่ทีมเดียวกันตอนไปสอบเป็นคราส 3 น่ะ”
ไป่พอรีบตอบเหลียงจิ้งทันที
“นั้นหรอโลกเรากลมจิงๆเลยนะ”
เหลียงจิ้งก็หัวเราะใหญ่ๆเลย พวกเขาพูดคุยกัยจนค่ำแล้วกำลังจะไปเข้านอนกัน
“คือข้าจองห้องไว้แค่ 4 ห้องเองห้องมันเต็มหมดแล้ว”
เซียวอี้หลิงมองหน้าทุกคนแล้วพูดออกมา
“ไม่เป็นไรเดียวข้าไปนอนกับเข้าเองก็ได้”
ไป่พอมองหน้าเซียวอี้หลิงแล้วพูด
“จะบ้าหรอ”
เซียวอี้หลิงปฏิเสธทันที
“ข้าพูดเล่นน่ะ ฮ่าๆ ๆ”
ไป่พอหัวเราะอย่างมีความสุข
“นั้นข้าจะนอนกับเจ้าไม่มีชื่อนี้เองนะ”
เหลียงจิ้งชี้ไปทางชายที่เขาประมูลมา
“ตกลงกันเสร็จแล้วนะขึ้นไปนอนกันได้แล้ว”
ไหวอันพูดเสร็จแล้ว ทุกคนก็เดินไปที่ห้องของตัวเอง
“เจ้านอนตรงนั้น ข้านอนตรงนี้นะ”
เหลียงจิ้งรีบแบ่งเตียงแล้วก็ขึ้นไปหลับเพราะว่าเหลียงจิ้งเหนื่อยมาก ส่วนชายไม่มีชื่อก็ขึ้นไม่หลับตาม ที่เตียงอีกข้างหนึ่ง เหลียงรู้สึกว่าร้อนมากเลยลุกขึ้นมาถอดเสื้อของเขาออกแล้วนอน
“เจ้าถอดเสื้ออกทำไมหรอ”
ชายไม่มีชื่อถามเหลียงจิ้ง
“อ่อ ข้าร้อนน่ะ”
เหลียงจิ้งตอบแล้วก็หลับต่อ
‘ข้าถอดบ้างดีกว่าข้าก็ร้อนเหมือนกัน’
แล้วชายไม่มีชื่อก็ถอดเสื้อผ้าของเขาออกแล้วหลับตามเหลียงจิ้งไป
“เช้าแล้วหรอเนี่ย”
เหลียงจิ้งตื่นขึ้นมาแล้วใส่เสื้อแล้วก็หันมาดูชายไม่มีชื่อ
"ตื่นได้แล้วเช้าแล้ว"
แล้วเหลียงจิ้งก็ดึงผ้าห่มออกแล้วเห็นชายไม่มีชื่อนอนถอดเสื้ออยู่เหลียงจิ้งตกใจมาก
“เจ้าๆ ๆ เจ้าไม่ใช่ผู้ชายหนิ”
พอเหลียงจิ้งเห็นรูปของเธอเลยรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย แล้วเหลียงจิ้งก็เอาเสื้อของเธอให้เธอใส่แล้วก็เดินออกห้องไปหาเพื่อนๆ
“เขาไม่ใช่ผู้ชาย”
เหลียงจิ้งพูดใหญ่เลย
“อะไรเหลียงจิ้งใครไม่ใช่ผู้ชาย”
ไป่พอถามเหลียงจิ้งเขาสงสัยว่าใครไม่ใช่ผู้ชาย
“ก็เจ้าชายไม่มีชื่อนั่นไง ข้านอนกับเขาทั้งคือตื่นมาข้าก็เห็นนนนน......เห็น”
เหลียงจิ้งพูดออกมาตะกุกตะกัก
“เห็นอะไร”
เซียวอี้หลิงถาม
“ข้าเห็นของนางหมดแล้ว แต่ข้าไม่ได้ทำอะไรนางนะ”
เหลียงจิ้งพูดออกมาอย่างร้อนรน
"เวรกำอะไรเนี่ย"
ไหวอันพูดออกมา
“แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อ”
ไป่พอถามเหลียงจิ้ง
“เออ ๆ ข้าคิดว่าจะควรจะรับผิดชอบนางถูกมั้ย"
เหลียงจิ้งแสดงความคิดเห็น
"ข้าจะแต่งงานกับนาง”
เหลียงจิ้งพูดออกมาทุกคนต่างตกใจ
“เหลียงจิ้งพวกเราเพื่องรู้จักนางได้แค่ 1 วันเองนะและก็ไม่รู้ว่านางเป็นใครมาจากไหน”
เซียวอี้หลิงคัดค้านใหญ่เลย และสีหน้าของเธอก็ดูเปลี่ยนไปด้วยดูเหมือนว่าเธอจะกังวลมากกว่าใครๆเลยขนาดเจ้าตัวยังไม่ขนาดนั้นเลย พอไป่พอเห็นสีหน้าของนางแล้วก็เลยหายสงสัยเลยว่าเซียวอี้หลิงรักเหลียงจิ้งหรือป่าว
“แต่นางเป็นฝ่ายเสียหายนะเหลียงจิ้งก็ต้องรับผิดชอบ”
ไป่พอสนับสนุนทันที
“ใช่แล้วข้าต้องรับผิดชอบบนาง และข้าก็ไม่รู้ด้วยว่าในระหว่างที่ข้าไม่รู้ตัวนั้นข้าทำอะไรนางไปบ้างด้วย”
เหลียงจิ้งพูดออกมาอย่างหนักใจ แล้วเจ้าชายไม่มีชื่อก็ลงมา
“มีอะไรกันหรอ”
เขาถามทุกคน ทุกคนต่างมองหน้าเขา
“ข้าจะแต้งงานกับเจ้าเพื่อรับผิดชอบเรื่องเมื่อคืนนี้เอง”
เหลียงจิ้งเดินเข้าไปหานางแล้วพูดกับนางอย่างช้าๆ
“เจ้าจะแต่งกับข้าหรอ ชาย กับ ชาย จะแต่งด้วยกันได้ยังไง”
นางงงมากนางคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายมาโดยตลอด
“เจ้าไม่ใช่ผู้ชายหรอ”
เซียวอี้หลิงพูดออกมาอย่างแตกตื่น
"ตามข้ามา"
เซียวอี้หลิงก็ดึงตัวนางแล้วพาเข้าไปที่ห้องของตัวเอง
‘ถ้าเขาไม่ใช่ผู้ชายจริงๆละก็ ไม่ได้ข้าต้องพิสูจน์’
เซียวอี้หลิงคิดในใจ แล้วเซียวอี้หลิงก็เดินเข้ามาจับหน้าอกของนาง เขาก็รู้ทันทีว่านางไม่ใช่ผู้ชาย
“เจ้าไม่ใช่ผู้ชายหนิ”
เซียวอี้หลิงตกใจมาก
“ข้าเป็นผู้ชายจริงๆ”
นางก็ยังไม่ยอมรับ
“เจ้าดูข้านะ”
แล้วเซียวอี้หลิงก็ถอดเสื้อผ้าของเขาออกหมด แล้วเดินมาถอดของนายอีก
"เจ้าจะทำอะไรน่ะ"
ชายไม่มีชื่อตกใจ
"อยู่เฉยๆน่ะ"
“เจ้าดูสิเจ้าเหมือนข้าทุกอย่าง เจ้าเป็นผู้หญิง”
แล้วเซียวอี้หลิงก็ชักกระบี่ของเขาออกมาจ่อที่คอหอยของนาง
“เจ้าเป็นใคร ใครส่งเจ้ามา”
เซียวอี้หลิงถามนางทันทีที่รู้ว่านางไม่ใช่ผู้ชาย
“ข้า ข้าไม่รู้"
นางพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
"ข้าจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”
นางรู้สึกปวดหัวแล้วก็หมดสติไป
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ