ดาบสะท้านยุทธภพ

7.7

เขียนโดย wutna

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 00.44 น.

  12 ตอน
  21 วิจารณ์
  21.73K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) คนที่ใช่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากที่นางหมดสติไปไหวอันก็ได้ไปตามหมอที่เก่งที่สุดในเมืองชันจิ๋วมาดูอาการของนาง

“เพื่อนข้าเป็นยังไงบ้างครับ ท่านหมอ”

เหลียงจิ้งด้วยความเป็นห่วง

“นางไม่เป็นอะไรหลอก ก็แค่ร่างกายอ่อนเพลียนิดหน่อย ว่าแต่ใครเป็นญาติของนางล่ะ”

ผู้ชายอายุ 60 ปีแล้ว ก้มหน้าแล้วถามทุกคน

“พวกเราไม่รู้ว่านางเป็นใครหลอกน่ะ แต่นายข้าไปประมูลนางมาพอจะเป็นญาติให้นางได้มั้ย”

ไหวอันเอามือตบไหล่เหลียงจิ้งเบาๆ

“ได้ๆ นั่นเชิญทางนี้หน่อย”

แล้วคุณหมอก็พาเหลียงจิ้งไปที่มุมห้อง

“คืออย่างนี้นะนางน่ะไม่เป็นอะไรหลอก ตั้งแต่ที่เจ้าได้พบกับนางเจ้ารู้สึกมั้ยว่านางแปลกๆ”

คุณหมอก็ค่อยๆพูดกับเหลียงจิ้ง

“ใช่ครับนางแปลกมาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ถามอะไรก็ตอบแต่ว่าไม่รู้จำไม่ได้อย่างเดียวเลย”

เหลียงจิ้งมองนางแล้วหันกลับมาคุยกันคุณหมอต่อ

“ใช่แล้วอาการนี้เป็นอาการของคนความจำเสื่อม แต่ที่ข้าได้ตรวจชีพจรของนางดูนางไม่ได้ความจำเสื่อมจากการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือน แต่นางกินยากระชากวิญญาณไปแน่ๆ เพราะว่าชีพจรของนางเต้นไม่เป็นจังหวะเดียวก็เร็วเดียวก็ช้า ลมปราณของนางวิ่งไปมาทั่วล่างกายเพื่อช่วยคุ้มกันอวัยวะต่างๆภายในของนาง ถ้านางไม่มีลมปราณที่เข็งเกร่งนางคงตายไปนานแล้ว ยานี้หมออย่างข้าช่วยเจ้าไม่ได้หลอกนะ แต่มีทางหนึ่งที่จะช่วยนางได้คือ ต้องมีคนถ่ายกำลังภายในให้นางเพื่อนช่วยคุ้มกันอวัยวะส่วนต่างๆของนาง ถ่ายให้วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็นทุกวัน ไม่เกิน 1 เดือนนางก็จะหายเป็นปกติเอง ส่วนเรื่องความทรงจำของนางข้าก็ไม่รู้ว่าจะกลับคืนมาหรือไม่”

แล้วคุณหมอก็เก็บอุปกรณ์ของเขาแล้วก็เดินออกไป

“หมอเขาว่าไงบ้างเหลียงจิ้ง”

ไป่พอถามด้วยความอยากรู้

“หมอบอกว่านางความจำเสื่อมเพราะกินยากระชากวิญญาณเข้าไป”

เหลียงจิ้งมองนางด้วยความสงสาร

“ยากระชากวิญญาณหรอคือยาอะไร”

ไป่พ่อพูดออกมาเพราะเขาไม่เคยได้ยินชื่อยานี้เลย

“ยากระชากวิญญาณ เป็นยาที่มันจะค่อยๆทำลายอวัยวะส่วยต่างๆของร่ายกายเริ่มจากส่วนบนสุดคือสมองแล้วก็ค่อยๆทำลายไปจนถึงลำไส้ คนที่ถูกยานี้เข้าไปต้องใช้เวลานานกว่าจะตาย ประมาณครึ่งเดือน ถ้าไม่มีคนถ่ายกำลังภายในช่วยก็จะตายในที่สุด แต่ถ้ามีคนถ่ายช่วยก็จะช่วยยับยั้งพิษได้แต่ถ้าคนที่ถ่ายมีกำลังภายในน้อยก็จะช่วยต่อชีวิตได้แค่ไม่กี่วันแต่ถ้าที่ถ่ายมีกำลังภายในมากก็จะหายขาดไปเลย”

ไหวอันผู้รอบรู้เล่าให้ฟังอย่างละเอียด

“เหลียงจิ้งข้ามีเรื่องจะคุยกันเจ้ามากับข้าหน่อย เอาดาบของเจ้ามาด้วยนะ”

ไป่พอเชิญเหลียงจิ้งไปคุยเป็นการส่วนตัว

“ได้ข้าจะรีบตามไป”

เหลียงจิ้งตกลงแล้วก็เดินไปเอาดาบแล้วรีบตามไป่พอไป

“มีอะไรหรอไป่พอ”

พอเหลียงไปถึงก็รับถามทันทีว่ามีเรื่องอะไร

“เจ้ารักเซียวอี้หลิงมั้ย”

ไป่พอหันหลังให้เหลียงจิ้งอยู่แล้วก็ถามเหลียงจิ้งเมื่อเหลียงจิ้งมาถึง

“เจ้าถามทำไม”

เหลียงจิ้งงงมากว่าเป็นเรื่องอะไร

“แค่ตอบมาว่ารักหรือไม่รักก็พอ เจ้าไม่เคยปิดบังอะไรข้าเลย ข้าหวังว่าครั้งนี้เจ้าจะไม่ปิดบังข้า”

ไป่พอหันมาแล้วมองหน้าเหลียงจิ้ง

“ใช่ ข้ารักนาง”

เหลียงจิ้งตอบไปตามตรง

“ดี ดี นั้นวันนี้เราตัดสินกันด้วยคมดาบคมกระบี่กันดีกว่า”

ไป่พอก็ชักกระบี่ของเขาออกมา

“ช้าก่อน อย่าให้ผู้หญิงแค่คนเดียวมาทำลายมิตรภาพของเราจะดีกว่า ข้าจะแต่งงานกับนาง(ไม่มีชื่อ) เจ้าจะได้ไม่หนักใจเรื่องนี้อีก”

เหลียงจิ้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

“เหลียงจิ้งเจ้าดีกับข้ามาก หากเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยข้าจะช่วยเจ้าเต็มที่เลยนะ”

พอได้ยินว่าเหลียงจิ้งจะแต่งงานกับนาง(ไม่มีชื่อ) ไป่พอก็เดินเข้ามากอดเหลียงจิ้ง ไป่พอใช้เวลาที่เหลียงจิ้งไม่ทันได้ระวังตัวนั้น ใช้กระบี่แทงเข้าไปที่ห้องของเหลียงจิ้ง

“เหลียงจิ้งถ้ามีเจ้า เซียวอี้หลิงก็จะไม่มีวันรักข้า ข้าขอโทษเจ้าจริงๆนะ”

แล้วไป่พอก็ชักกระบี่ออกแล้วก็แทงเข้าไปอีกสองครั้ง ไป่พอก็เก็บกระบี่แล้วก็รีบวิ่งไปหาเซียวอี้หลิงกับไหวอันทันที

“อ่าวพี่ไป่คุยกับเหลียงจิ้งเสร็จแล้วหรอ  แล้วเหลียงจิ้งไปไหนแล้วล่ะข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเขาพอดีเลย”

เซียวอี้หลิงเห็นไป่พอกลับมาแล้วเลยถามหาเหลียงจิ้ง ไป่พอเห็นว่านางถามหาเหลียงจิ้งถึงกับหน้าเสียเลยทีเดียว

“เออ เออคือเหลียงจิ้งเขาไปซื้อยาให้นางน่ะ แล้วบอกให้ข้าพาเจ้ากลับไปก่อน แล้วพอนางหายดีแล้วเหลียงจิ้งจะตามมาทีหลัง”

ในที่สุดไป่พอก็หาข้ออ้างได้

“แล้วเราจะไปไหนกัน”

เซียวอี้หลิงถามกลับ

“คือ เหลียงจิ้งเข้าไปเรากลับบ้านไปก่อน เพื่อช่วยไปหาบ้านสักหลังให้เขา ก็เขาจะแต่งงานกับนางหนิก็ต้องมีบ้านสิถูกมั้ย เหลียงจิ้งก็เลยให้เราไปหาบ้านให้เขาสักหลังก่อนไง”

ไป่พอพูดตะกุกตะกัก

“อย่างนั้นหรอนั้นเรารีบไปกันเลย”

เมื่อเป็นคำสั่งของเหลียงจิ้งเซียวอี้หลิงจึงรีบทำทันทีโดยไม่รู้ว่าไป่พอกำลังโกหกนางอยู่ ส่วนไหวอันรู้สึกไม่ค่อยดีเพราะไป่พอพูดมีพิรุษไหวอันก็เลยออกไปหาเหลียงจิ้งดูแต่ตอนนี้ก็มืดมากแล้วประมาณ 22.00 น.

“นายท่าน ท่านอยู่ไหน”

ไหวอันเดินไปทั่วทั้งเมืองเพื่อหาเหลียงจิ้ง ไหวอันจึงแน่ใจว่าต้องเกิดเรื่องแน่ๆ ไหวอันเลยกลับไปดูที่โรงเตียบอีกที พอไปถึงโรงเตียบไหวอันก็ได้กลิ่นคาวเลือดก็เลยเดินดูให้ทั่วโรงเตียบ พอไปถึงด้านหลังของโรงเตียบก็พบเหลียงจิ้งนอนหมดสติอยู่ ไหวอันเลยแบกเหลียงจิ้งขึ้นมาแล้วพาไปบนห้อง

“นายท่านทำใจดีๆไว้นะครับ ข้าน้ายจะรีบไปตามหมอมาให้”

แล้วไหสอันก็ไปตามหมอคนเดิมมาอีก

“มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยเมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย”

หมอถามไหวอัน

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันข้าเห็นนายข้านอนหมดสติอยู่หลังโรงเตียบ ท่านช่วยนายข้าหน่อยนะ”

ไหวอันห่วงเหลียงจิ้งมาก

“ยังดี แผลไม่ลึกเท่าไหร่ แล้วก็ไม่โดนส่วนสำคัญๆด้วย”

หมอก็ใส่ยาสมันแผลแล้วก็เขียนไปสั่งยาให้

“ข้าไปละนะ”

แล้วหมอก็เดินออกไป

“ข้าขอบคุณท่านมาก”

ไหวอันเดินไปส่งแล้วก็กลับมาดูเหลียงจิ้งต่อ

เช้าวันใหม่มาถึงแล้ว

“ไหวอันๆ”

พอเหลียงจิ้งตื่นขึ้นมาก็รีบเรียกหาไหวอันทันที

“ครับนายท่าน ข้าน้อยอยู่นี่”

ไหวอันที่หลับอยู่พอได้ยินเสียงของเหลียงจิ้งก็รีบตื่นขึ้นมาทันที

“นาง นางเป็นไงบ้าง”

เหลียงจิ้งรีบถามหา นาง(ไม่มีชื่อ)ทันที

“เดียวข้าไม่ตามนางให้นะ นายท่าน”

แล้วไหวอันก็ไปตามนางมาหาเหลียงจิ้ง

“ไหวอันเข้ามาใกล้ข้าสิ”

เหลียงจิ้งเรียกไหวอัน แล้วไหวอันก็เข้ามาหาเหลียงจิ้งใกล้พอสมควร

“เจ้าสกัดจุดนางไว้นะแล้วพานางมานั่งบนเตียงข้า ข้าจะถ่ายกำลังภายในให้กับนาง นางถึงจะหายดี”

เหลียงจิ้งก็กระซิบข้างๆหูไหวอัน

“ไม่ได้นะท่าน ท่านยังบาดเจ็บอยู่ไม่ควรใช่กำลังภายในรักษานางนะ ให้ข้าทำดีกว่า”

ไหวอันรีบพูดขึ้นมาทันทีเพราะกลัวว่าเหลียงจิ้งจะเป็นอะไรไป

“กำลังภายในของเจ้ายังไม่เกร่งพอที่จะรักษานางหลอก ถ้าไม่รีบรักษานางอาจจะไม่รอดนะ เจ้าเข้าใจมั้ย”

เหลียงจิ้งพูดด้วยเหตุด้วยผลไหวอันจึงยอม

“แม่นางนายท่านเรียกเจ้า”

ไหวอันเรียกนาง พอนางหันมาหาเหลียงจิ้งไหวอันก็รีบสกัดจุดนางทันที

“ไหวอันเจ้าจะทำอะไรน่ะ”

นางบนนิดหน่อย

“ไม่ต้องกลัวนะนายข้าจะรักษาให้เจ้า”

ไหวอันพยายามพูดให้นางสงบลง

“ข้าไม่ได้เป็นอะไรนะทำไมต้องรักษาด้วย”

นางบ่นใหญ่เลย

“เจ้ามีชื่อมั้ย”

เหลียงจิ้งถามนาง

“ข้าบอกแล้วไงว่าข้าจำไม่ได้”

นางตอบเหลียงจิ้งด้วยน้ำเสียงที่สงบลง

“ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้านะ แต่ต่อไปนี้เจ้าต้องเชื่อฟังข้ารู้มั้ย”

เหลียงจิ้งมองหน้านาง

“จริงหรอนั้นข้าเชื่อฟังท่านก็ได้”

ดูเหมือนว่านางจะอยากได้ชื่อมาก

“ชื่อว่าเสี่ยวเชี่ยนดีมั้ย เจ้าคิดว่ายังไงไหวอัน”

เหลียงจิ้งขอความคิดเห็นจากไหวอัน

“เป็นชื่อที่ดีมากเลยครับ นายท่าน”

ไหวอันตอบไปตามตรง

“ดี ดี นั้นเจ้าชื่อ เสี่ยวเชี่ยนนะ”

พอเหลียงจิ้งเห็นว่าไหวอันเห็นชอบด้วยเลยใช้ชื่อนี้

“ได้ ข้าจะได้มีชื่อสักที”

เสี่ยวเชี่ยนนางดูเหมือนจะชอบชื่อนี้มาก

“เอาล่ะที่นี้เจ้าก็ต้องเชื่อฟังข้าแล้วนะ”

“ได้ข้าจะเชื่อฟังท่านทุกอย่างเลย”

เสี่ยวเชี่ยนตอบตกลง

“นั้นเจ้าอย่าบ่นนะอยู่นิ่งๆ”

เหลียงจิ้งรีบสั่งทันที

“ได้”

เสี่ยวเชี่ยนตอบตกลง

“ไหวอันพานางมานี่”

พอไหวอันได้ยินก็รีบพานางมานั่งหน้าเหลียงจิ้ง เหลียงจิ้งก็รีบถ่ายกำลังถายในให้นางทันที

“เสี่ยวเชี่ยนเจ้ารู้สึกยังไงบ้าง”

พอเหลียงจิ้งถ่ายเสร็จก็รีบถามถึงอาการของเสี่ยวเชี่ยนทันที

“ข้ารู้สึกดีขึ้นมากเลย หายใจก็สะดวกขึ้นมากด้วย มือไม้ก็มีแรงมากขึ้นด้วย”

เสี่ยวเชี่ยนตอบไปตามอาการที่เขาสัมผัสได้

“นั้นหรอนั้นข้าจะถ่านกำลังภายใจให้เจ้าทุกวันเลยนะ”

เหลียงจิ้งเห็นว่าอาการของนางดีขึ้นจริงๆเหลียงจิ้งก็หายห่วง

“ข้าขอบคุณนายท่านมากเลยนะ แล้วจะทำให้ข้าขยับได้ยัง”

เสี่ยวเชี่ยนอยากออกไปเดินเล่นแล้วสิ

“อ่อข้าขอโทษ ข้าลืมไปเลย”

แล้วเหลียงจิ้งก็คายจุดให้

“ขอบคุณค่ะ นายท่าน”

เสี่ยวเชี่ยนขอบคุณแล้วก็เดินออกไป

“ไหวอันเจ้าช่วยไปซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงให้นางหน่อยนะ”

“แต่ถ้าข้าไปแล้วใครจะดูแลท่านล่ะ”

ไหวอันไปอยากไปไหนไกลเพราะกลัวจะมีคนมาทำร้ายเหลียงจิ้งอีก

“ข้าไม่เป็นไรแล้วรีบไปเถอะ”

ไหวอันเห็นว่าเหลียงจิ้งไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆเลยพาเสี่ยวเชี่ยนไปชื้อเสื้อผ้า

“ช่วยเลือกเสื้อผ้าให้นางด้วยนะเอาชุดที่สวยที่สุดในร้ายน่ะชุดไหนสวยก็เอาออกมาให้นางลอง”

พอไปถึงที่ร้ายขายเสื้อผ้าแล้วไหวอันก็สั่งใช่แม่ค้าเลือกให้นางใส่ทันที

“คนรับหรอค่ะนายท่าน สวยนะเนี่ย”

แม่ค้าถามไหวอัน

“อ่อไม่ใช่หลอก ว่าที่ภรยาของนายข้าน่ะ”

ไหวรับปฏิเสธทันที

“นายท่าน คือ มันสวยทุกชุดเลยจะเอาชุดไหนค่ะ”

พนักงานในร้านเอาชุดมาให้ไหวอันดู

“ถ้าสวยทุกชุด ก็เอาหมดนั้นเลย”

ไหวอันชื่อเสื้อผ้าหมดทั้งร้านเลย

“ได้ยินมั้ยเร็วๆเข้าเดียวนายท่าน จะเปลี่ยนใจ”

แม่ค้าน้ำลายท่วมปากเลยที่เดียว

“ทั้งหมด 7 พันตำลึงค่ะนายท่าน”

ไหวอันได้ยินก็รับเอ่เงินมาจ่ายทันทีเลย

“แล้วนายหญิงข้าล่ะอยู่ไหน”

ไหวอันรีบถามหาเสี่ยวเชี่ยนทันที

“มาแล้วๆ”

แม่ค้าก็รีบพานางมาหาไหวอันทันทีเลย ไหวอันเห็นทางถึงกับตาค้างเลยทีเดียว

“ท่านสวยมาก นายหญิง ข้ายังไม่เคยเห็นใครสวยเท่าท่านเลย”

ไหวอันเล่นชมจนเสี่ยวเชี่ยนหน้าแดงเลย

“แล้วทำไมต้องเรียกข้าว่า นายหญิงด้วยล่ะ ก็เรามีนายคนเดียวกันไม่ใช่หรอคะ”

เสี่ยวเชี่ยนงงมากไหวอันเรียกเขาว่านายหญิง

“ก็นายท่านจะแต่งงานกับท่านไม่ใช่หรอครับ ตอนนี้ท่านเป็นผู้หญิงนะครับทำอะไรก็ต้องระวัง เวลาพูดถ้าท่านมีหางเสียงท่านก็จะดูน่ารักมากเลยครับ”

ไหวอันพูดถึงเรื่องแต่งงาน เสี่ยวเชี่ยนก็ดูเหมือนว่าเธอจะดีใจมาก แล้วไหวอันก็สอนถึงเรื่องต่างๆที่ผู้หญิงต้องปฏิบัติให้เสี่ยวเชี่ยนฟังอย่างระเอียด

“เรากลับกันเถอะนายท่านคงรอนานแล้วล่ะ”

แล้วไหวอันกับเสี่ยวเชี่ยนก็กลับไปที่โรงเตียบ มีสาวๆพนักงานในร้านเดินตามกว่า 10 คนเพราะยกเสื้อผ้าไปให้

นายท่านข้ากลับมาแล้ว”

ไหวอันรายงานตัว

“อ่าวแล้วเสี่ยวเชี่ยนล่ะ”

เหลียงจิ้งรียบถามหาเสี่ยวเชี่ยนทันทีที่เห็นไหวอัน

“นางอยู่ข้างนอก จะให้ข้าไปเรียนมาให้มั้ยครับ”

“อื่ม ได้เวลาถ่ายกำลังภายในแล้วเรียกนางมาเลย”

แล้วไหวอันก็ไปเรียนนางมาหาเหลียงจิ้ง พอนางเข้ามาเหลียงจิ้งก็มองตาค้างเลย

“มีอะไรหรอค่ะนายท่าน”

เสียงหวานๆของนางทำให้เหลียงจิ้งตื่นขึ้นมาจากโลกส่วนตัว

“คือได้เวลาถ่ายกำลังภายในให้เจ้าแล้วน่ะ”

เหลียงจิ้งก็รีบตอบไปทันที

“ค่ะ”

เสี่ยวเชี่ยนตอบรับแล้วก็เดินมาหาเหลียงจิ้ง เหลียงจิ้งก็สกัดจุกนางแล้วถ่ายกำลังภายในให้จนเสร็จ

“เสร็จแล้วล่ะ”

เหลียงจิ้งก็พูดให้นางรู้ตัวว่าถ่านให้เสร็จแล้ว นางก็หันมามองหน้าเกลียงจิ้ง

“นายท่านคะ ข้ามีเรื่องอยากจะถามท่านได้มั้ยคะ”

นางมีอะไรบางอย่างที่อยากรู้มากๆ

“ได้สิมีอะไรก็พูดมาเถอะ”

เหลียงจิ้งอนุญาตให้โอกาสเสี่ยวเชี่ยนถาม

“คือเรื่องที่เราจะแต่งงานกันน่ะ ท่านพูดจริงหรอค่ะ ถ้าท่านจะแต่งเพราะว่าต้องรับผิดชอบข้า ไม่ต้องก็ได้ค่ะ เพราะเรื่องนี้ข้าเป็นคนผิดเองที่ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร”

เสี่ยวเชี่ยนดูเหมือนเศร้ามาก และดูเหมือนว่าจะเป็นผุ้หญิงเต็มตัวละด้วย

“ข้าจะถามเจ้าแค่ครั้งเดียวนะ ตอบแค่ว่า ยอม หรือ ไม่ยอม ก็พอ เจ้ายอมแต่งงานกับข้ามั้ย”

เหลียงจิ้งสบตานางก็รู้แล้วว่าสายตาที่นางมองมาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย

“ไม่”

เสี่ยนเชี่ยนตอบว่าไม่ เหลียงจิ้งถึงกับตาแดงน้ำตาจะไหลออกมาแต่เหลียงจิ้งพยายามเก็บอาการไว้ เหลียงจิ้งแค่รู้ว่านางเป็นผู้หญิงหัวใจของเหลียงจิ้งก็ค่อยๆมาเป็นของนางแล้วบวกกับคำพูดของไป่พอ หัวใจของเหลียงจิ้งจึงเป็นของนางจนหมดแล้ว แต่เหลียงจิ้งเป็นคนหวานไม่เป็นนายเลยไม่รู้ว่าเหลียงจิ้งเองก็รักนางอยู่เหมือนกัน

“ท่านต้องตอบข้าก่อน เพราะว่าข้าถามท่านก่อนนะ”

พอเสี่ยวเชี่ยนพูดออกมาหมดทั้งประโยค เหลียงจิ้งก็หน้าปานขึ้นมาเลย

“ไหนเจ้าว่าจะเชื่อฟังข้าไง ข้าถามเจ้า เจ้าก็ต้องตอบข้าสิ”

เหลียงจิ้งรีบทวงสัญญาทันที

“ข้า......ข้า.....ยอม”

นางหน้าแดงถึงใบหูเลยทีเดียว เหลียงจิ้งนี่ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายบ้างเลย

“เมื่อท่านทั้งสองตกลงกันได้แล้วพอท่านหายดีข้าน้อยจะรีบจัดการงานแต่งงานให้นะครับ”

ไหวอันพูดเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องทันทีเพราะรู้ดีว่าถึงอยู่ต่อ ก็คงจะไปเป็น กขค เขาเปล่าๆ

แล้วอยู่ๆเหลียงจิ้งก็กระอักเลือดออกมา เสี่ยวเชี่ยนเห็นแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปหาแล้วถามเหลียงจิ้งทันทีว่า

“ท่านเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

เสี่ยวเชี่ยนเป็นห่วงเหลียงจิ้งมากจึงรีบถามอาการ

“ข้าไปเป็นข้าใช้กำลังภายในมากเกินไปก็เท่านั้นเอง ข้าพักสักแปปก็คงจะหาย”

แล้วเสี่ยวเชี่ยนก็ประคองเหลียงจิ้งนอนลง

“ค่ะ นั้นให้ข้าอยู่ดูแลท่านนะคะ”

เสี่ยวเชี่ยนคุกเขาลงแล้วขอเหลียงจิ้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน

“อื่ม”

เหลียงจิ้งตอบตกลงแล้วก็หลับไป

ผ่านไป 1 เดือนแล้วเหลียงจิ้งถ่ายกำลังภายในให้เสี่ยวเชี่ยนทุกวันจนนางหายดีแล้ว ส่วนแผลของเหลียงจิ้งก็หายแล้วเหมือนกันที่แผลครั้งนี้หายช้าเพราะว่าเหลียงจิ้งต้องถ่ายกำลังภายในของเขาให้กับเสี่ยวเชี่ยนนี่เอง

“นายท่านก็หายดีแล้วนายท่านจะจัดงานมงคลเมื่อไหร่ดีล่ะครับ จะจัดงานใหญ่หรืองานเล็กข้าน้อยไหวอันจะจัดการให้เองครับ”

ไหวอันถามเหลียงจิ้ง

“ข้าคิดว่าจัดให้เราสามคนก็พอแล้วล่ะ ข้าไม่อยากให้มันใหญ่โตน่ะและอีกอย่างข้าก็แค่คนธรรมดาไม่มียศตำเหน่งอะไร จัดงานเล็กๆก็พอแล้ว”

เหลียงจิ้งออกแสดงความคิดเห็น

“นั้นจัดคืนนี้เลยมั้ยครับ ข้าจะไปจัดเตรียมของมาให้เอง”

ไหวอันรับงาน

“อื่มก็ดีนะ”

เหลียงจิ้งเห็นด้วย

แล้วงานแต่งงานก็ได้จัดขึ้น

“1 ไหว้ฟ้าดิน”

ไหวอันเป็นคนกล่าว

เหลียงจิ้งกับเสี่ยวเชี่ยนก็ไหว้พร้อมกัน

“2 ไหว้บรรพบุรุษ”

เหลียงจิ้งกับเสี่ยวเชี่ยนก็ไหว้พร้อมกัน

“3 ไหว้กันและกัน”

เสี่ยวเชี่ยนและเหลียงจิ้งก็หันหน้าเข้ามาหากันแล้วกำลังจะไหว้กันและกัน แต่เหลียงจิ้งมีเรื่องอะไรบ้างอย่างจะพูดเลยขอให้หยุดก่อน

“หยุดก่อน เสี่ยวเชี่ยน ถ้าความทรงจำของเจ้ากลับมาเจ้าจะเสียใจมั้ยที่ต้องแต่งงานกับข้า”

เหลียงจิ้งกับเสี่ยวเชี่ยนสบตากัน แล้วเสี่ยวเชี่ยนก็ตอบกลับไป

“ข้าไม่เสียใจ”

เสี่ยวเชี่ยนตอบอย่างมั่นใจ

“เจ้าแน่ใจนะ”

เหลียงจิ้งถามเพื่อความแน่ใจอีกที

“ข้าแน่ใจ”

เสี่ยวเชี่ยนก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะไม่เสียใจ

“อื่ม ไหวอันต่อเลย”

เหลียงจิ้งหันมาพูดกับไหวอัน

“3ไหว้กันและกัน”

แล้วทั้งสองก็ไหว้กันและกัน พอพิธีเสร็จแล้วเหลียงจิ้งก็ออกไปดูดาวตกข้างนอก ส่วนเสี่ยวเชี่ยนก็อยู่ในห้องนอน ส่วนไหวอันก็กำลังเก็บของอยู่ ไหวอันเห็นเหลียงจิ้งนั่งดูดาวอยู่คนเดียวเลยเดินเข้าไปถาม

“นายท่าน ท่านไม่ไปเข้าห้อง ห หรอครับ”

ไหวอันถามเหลียงจิ้ง

“ข้ายังไม่อยากทำน่ะ ข้ากลัวว่าถ้าความทรงจำของนางกลับคืนมาแล้วนางมีคนรักอยู่แล้วข้าจะทำผิดต่อนางกับคนรักของนางน่ะ”

เหลียงจิ้งพูดถึงเหตุผลให้ไหวอันฟัง

“นายท่านจะคิดทำไมให้มันปวดหัวล่ะครับ ถึงยังไงนางก็เป็นภรยาท่านแล้ว ท่านจะกลัวอะไรอีกล่ะครับ และอีกอย่างเมื่อกี้นางก็บอกกับท่านแล้วไงถึงความจำนางจะกลับมาแต่นางก็จะไม่คิดเสียใจ”

ไหวอันพยายามพูดไม่ให้เหลียงจิ้งคิดมาก

“เหล้าหมดแล้วช่วยไปเอาให้ข้าหน่อยสิ”

แล้วไหวอันก็ไปเอาเหล้าหลังบ้าน ส่วนเสี่ยวเชี่ยนก็ลงมาหาเหลียงจิ้ง

“ท่านพี่ท่านยังไม่นอนอีกหรอคะ”

เสี่ยวเชี่ยนนั่งลงข้างๆเหลียงจิ้ง

“เจ้าเห็นดาวนั้นมั้ย ถึงจะอยู่บนฟ้าไม่มีใครทำอะไรมันได้แต่สุดท้ายมันก็ต้องตกลงมา ทุกอย่างบนโลกใบนี้มันไม่แน่นอน ข้าน่ะต้องสุญเสียมันแล้วเสียมันอีก”

เสี่ยวเชี่ยนเข้าใจในความหมายที่เหลียงจิ้งพูด เหลียงจิ้งหมายความว่ามันไม่มีอะไรที่แน่นอนเสมอไป

“ท่านพี่ท่านเห็นดาวดวงนั้นมั้ย”

เสี่ยวเชี่ยนชี้ไปทางดาวเหนือ

“ดาวดวงนั้นน่ะมันสว่างที่สุดเลยนะและก็ไม่เคยตกลงมาด้วย”

เสี่ยวเชี่ยนพูดแบบนี้ทำให้เหลียงจิ้งคิดได้ว่า ถ้าเราแข็มแข็งเหมือนแสงสว่างของดาวดวงนั้นก็จะไม่มีอะไรมาทำอะไรเราได้เหมือนดาวดวงนั้นที่ไม่เคยตกลงมา

“เจ้าพูดได้ดีฮ่าๆ ๆ”

เหลียงจิ้งหัวเราะใหญ่เลย

“ท่านพี่ท่านเมามากแล้วข้าว่าเราไปนอนกันดีกว่านะ”

เสี่ยวเชี่ยนเห็นว่าเหลียงจิ้งเมามากแล้วเลยจะพาไปนอนแต่เหลียงจิ้งกลับไม่ไปนอน

“ข้ายังไม่เมา ข้ายังเห็นหน้าเขาชัดอยู่เลย”

แล้วเหลียงจิ้งก็เอามือไปจับที่แก้มของเสี่ยวเชี่ยนเบาๆแล้วค่อยๆเข้าไปจูบเสี่ยวเชี่ยน ยังไม่ทันจูบเลยไหวอันที่ไปเอาเหล้สหลังบ้านก็มาพอดี

“นายท่านข้าเอาเหล้ามา...”

ไหวอันตะโกนออกมาแต่พอเห็นภาพนั้นเข้าก็เลยหยุดตะโกนแต่ก็ไม่ทันแล้วเหลียงจิ้งกับเสี่ยวเชี่ยนได้ยินหมดแล้ว เหลี่ยงจิ้งก็เลยกลับมานั่งตัวตรงเหมือนเดิม

“เออ ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเชิญท่าน ต่อกันเถอะข้าไปนอนก่อนนะ”

ไหวอันพูดเสร็จก็หันกลับไป

“ไหวอันเหล้าของข้าล่ะ”

เหลียงจิ้งเรียกไหวอัน ไหวอันยิ้มเล็กน้อยแล้วก็เอาเหล้าเข้าไปให้เหลียงจิ้ง

“แฮ่ ๆ เชิญพวกท่านต่อกันเถอะข้าไม่เห็นอะไรทั้นนั้นเหละ”

แล้วไหวอันก็หันหลังกลับไป

“ไหวอันนนนนนนนนน เจ้าเห็นอะไร”

เหลียงจิ้งลากเสียงยาวถามไหวอัน

“ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ข้าไปก่อนนะ”

ไหวอันยิ้มเล็กน้อยแล้วกำลังจะเดินต่อ

“เดียวก่อนไหวอัน เข้าเห็นข้ากำลังทำอย่างนี้ใช่มั้ย”

แล้วเหลียงจิ้งก็จูบปากเสี่ยวเชี่ยนยาวเลย แล้วเหลียงจิ้งก็ค่อยดึงหน้าตัวเองออกมา

“เจ้าเห็นอย่างนี้ใช่มั้ย”

เหลียงจิ้งถามไหวอัน

“ก็ประมาณนั่นเหละ แต่ข้ายังเห็นไม่ชัดเลยขออีกรอบได้มั้ย”

ไหวอันเจ้าเล่มาก

“ได้นั้นข้าจะแสดงให้ดูอีกรอบ”

เหลียงจิ้งตอบรับ แล้วก็เอามือไปจับหัวของเสี่ยวเชี่ยนจะจูบอีกครั้ง

“จะบ้าหรอ บ้ากันใหญ่แล้เจ้าทั้งวสองคนเนี่ย”

เสี่ยวเชี่ยนหน้าแดงแล้วก็ลุงขึ้นแล้วเดินเข้าห้องไป ส่วนเหลียงจิ้งกับไหวอันก็หัวเราะกันใหญ่เลย

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา