ดาบสะท้านยุทธภพ
7.7
11) โจรบ้ารัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพระอาทิตย์ตอนเช้าติ่งแสงสีทองจากภูเขาที่สวยงามเหลียงจิ้งจึงตื่นขึ้นมาเหลียงกับไหวอันเดิมเหล้าด้วยกันเมาแล้วหลัยไปโดนไม่รู้ตัว พอเหลียงจิ้งตื่นขึ้นมาก็เดินเข่ไปในบ้าน
“ไหวอันมีเรื่งอะไรหรอ”
เหลียงจิ้งถามไหวอันทันที เมื่อไหวอันได้รับข้อความจากนกพิราบสื่อสาร และสีหน้าไหวอันก็ดูเหมือนกำลังกังวลอะไรบางอย่างอยู่
“คือท่านพ่อข้าส่งข่าวมาว่า พวกอธรรม คราส 4 กว่า 5 พันนายกำลังจะไปโจมตีสำนักคุณธรรมของพ่อข้า ข้าจะทำยังไงดี”
ไหวอันเล่าเรื่องทั้งหมดให้เหลียงจิ้งฟัง
“ข้าว่ารีบไปช่วยพ่อเจ้าก่อนดีกว่านะ”
เหลียงจิ้งออกความคิดเห็น
“เสี่ยวเชี่ยนเจ้าคิดว่าไงบ้าง”
นางที่กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหารพอได้ยินเหลียงจิ้งถามก็รีบหันมามองเหลียงจิ้ง
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ หากไปช้าอาจจะไม่ทันการ”
“ดีนั้นเราออกเดินทางกันเลย”
เหลียงจิ้งเดินไปหยิบดาบแล้วเตรียมตัวออกเดินทาง
“แล้วกับข้าวพวกนี้ล่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนถามเหลียงจิ้ง
“ข้ายังไม่หิวถ้าเจ้าสองคนหิวก็ทานกันก่อนเลยนะ”
เหลียงจิ้งไม่รู้ว่านางทำสุดฝีมือเพื่อนให้เหลียงจิ้งทานโดยเฉพาะเลย เหลียงจิ้งพูดแบบนี้ทำให้นางดูเศร้าขึ้นมาทันทีเลย ไหวอันดูสีหน้านางแล้วก็เข้าใจทันที
“นายท่านข้าว่าเรากินข้าวก่อนะแล้วค่อยเดินทางก็ได้ ไปช้านิดหน่อยเองไม่เป็นไรหลอก”
ไหวอันพยายามเรียกเหลียงจิ้งให้มากินข้าว
“คือข้ายังไม่หิวจริงๆ ข้าจะออกไปฝึกยุทธข้างนอกเตรียมรับมือกับพวกอธรรมนะ”
แล้วเหลียงจิ้งก็เดินออกไปฝึกยุทธ
“นายหญิง นายท่านไม่กิน นั้นเรากินกันเถอะ”
ไหวอันชวยนางกิน
“ข้าไม่หิวแล้วล่ะ ขอโทษนะ”
นางพูดจบก็เดินไปที่ห้องนอนของนางแล้วเก็บของเตรียมออกเดินทาง
“ไปกันหมดเลย นั้นข้ากินคนเดียวก็ได้”
ไหวอันก็นั่งกินคนเดียวจนหมด
“อร่อยจัง”
ไหวอันพูดเสียงดังให้เหลียงจิ้งได้ยิน แต่เหลียงจิ้งก็ไม่สนใจ
“กินเสร็จแล้วเราก็ออกเดินทางกันเลย”
เหลียงจิ้งเห็นว่ากินเสร็จแล้วจึงรีบสั่งให้ออกเดินทางกลัวจะไปไม่ทัน
“แล้วเสี่ยวเชี่ยนล่ะ”
เหลียงจิ้งมองหานางไม่เจอเลยถามไหวอัน
“นางคงไปเก็บของเตรียมเดินทางแล้วน่ะ”
ไหวอันตอบเหลียงจิ้งไป
“นั่นหรอนั้นเจ้าก็ช่วยไปบอกนางให้เร็วหน่อย ข้ารีบไปน่ะ”
เหลียงจิ้งรีบออกเดินทางเพราะกลัวว่าเซียวอี้หลิงจะมาตามหาเขาอีก
“เฮ้ย ไม่ได้หลอกนายท่าน ข้าเป็นผู้ชายนะจะไปเข้าห้องนางได้ยังไงกัน ข้าว่าท่านไปเองดีกว่าเพราะว่านายท่านเป็นสามีนางหนิเข้าไปก็ไม่เสียหายอะไร”
ไหวอันเห็นว่าไม่เหมาะสมเลยปฏิเสธไปทันที
“อื่ม นั่นข้าไปเรียกเอง”
เหลียงจิ้งกำลังจะไปเรียนนาง แต่นางก็ลงมาพอดี
“ไม่ต้องละล่ะ นางลงมาแล้ว”
เหลียงจิ้งเห็นนางลงมาแล้วเลยพูดกับไหวอันอีกที
“นั้นเราออกเดินทางเลยนะแล้วต้องไปทางไหน ไหวอันมานำทางทีสิ”
เหลียงจิ้งไม่รู้ทางเลยให้ไหวอันเป็นคนนำทาง
“ได้ครับ”
แล้วไหวอันก็เดินนำไป
พวกเขาเดินทางได้ 2 วันแล้ว แล้วในระหว่างทางก็ได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนตามไปด้วย แล้วทั้งสามก็มีถืองหมู่บ้านหลี่ซัง
“คนสวยในหมู่บ้านนี้หายไปไหนหมดนะเดินมาตั้งนานยังไม่เห็นสักกะคนเลย ดูๆไปนายหญิงจะสวยสุดละ ฮ่าๆ”
ไหวอันพูดไปหัวเราะไป
“นี่ก็ค่ำแล้วข้าว่าเราพักที่นี่กันดีกว่านะ”
เหลียงจิ้งถามไหวอัน
“ได้ครับ ไว้พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อก็ได้”
แล้วทั้งสามก็เดินเข้าไปในโรงเตียบ
“เฒ่าแก่ ขอสองห้องเอาห้องที่ดีที่สุดนะ”
ไหวอันจองห้องเรียนร้อยแล้วกำลังจะเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเอง
“ท่านจอมยุทธ นางผู้นั้นสวยมากยังไงก็ขอให้ดูแลนางดีๆด้วยนะ เพราะหลายวันมานี้สาวสวยในหมู่บ้านเราถูกจับตัวไปพอเห็นอีกทีก็กลายเป็นศพไปแล้ว ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้เลย”
เฒ่าแก่เตือนเหลียงจิ้งเพราะเห็นเป็นคนต่างถิ่นคงไม่รู้เรื่องนี้
“ไม่น่าล่ะทำไมข้าถึงไม่เห็นสาวสวยในหมู่บ้านนี่เลย เฒ่าแก่เรื่องมันยังไง”
ไหวอันถามเฒ่าแก่ เพราว่าเขาตั้งใจจะช่วยหมู่บ้านนี้
“ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครหลอกนะ แต่ถ้าเขาเห็นสาวสวยเมื่อไหร่เขาก็จะมาจับตัวนางไปแล้วก็ฆ่าทิ้ง ข้าก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าเขาทำทำไม”
เฒ่าแก่ก้มหน้าลง
“แล้วพอมีใครเห็นรูปร่างหน้าตาเขาบ้างมั้ย”
ไหวอันถามถึงเขาเพราะอาจจะช่วยเป็นเบาะแสให้จับคนร้ายได้
“เห็นมีคนบอกว่าเป็นชายหนุ่ม ทุกครั้งที่มาก็จะปิดหน้าปิดตาไม่ให้ใครเห็นหน้า”
เฒ่าแก่ก็พูดเท่าที่รู้ แต่กลับมีชายหนุ่มหน้าตาตีนั่งดื่มน้ำชาอยู่ในโรงเตียบมองมาทางเสี่ยวเชี่ยน
“อย่างนั้นหรอ แล้วข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้นะ”
ไหวอันพยายามจะช่วยหมู่บ้านนี้
“ขอบคุณนายท่านแต่ระวังๆหน่อยนะ เห็นมีคนบอกว่าวรยุทธของคนร้ายน่ะเกร่งมาก”
เฒ่าเตือนไหวอัน
“ช่างเหอะอย่าไปสนใจเลยนะเสี่ยวเชี่ยนถึงเรื่องนี้จะเป็นความจริงแต่ยังไงข้าก็ไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปหลอกในระหว่างนี้เจ้าอย่าอยู่ห่างจากข้านะเจ้าใจมั้ย ถ้าเกิดอะไรขึ้นข้าจะได้ช่วยเจ้าได้ทัน”
เหลียงจิ้งเอามือทั้งสองของเขาจับที่หัวไหล่ของเสี่ยวเชี่ยนแล้วพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนตอบเป็นอันว่ารับรู้แล้ว แล้วทั้งสามก็เดินขึ้นไปนอนบนห้องนอนของตัวเอง ในขณะที่เหลียงจิ้งกับเสี่ยวเชี่ยนกำลังนอนอยู่นั้นก็มีชายหนุ่มสวมชุดสีดำปกปิดใบหน้าพุ่งเข้ามาจากประตูด้านหน้าจู่โจมใส่เสี่ยวเชี่ยนแต่เหลียงจิ้งสัมผัสได้ถึงรังสีฆ่าฟันมาตั้งแต่เมื่อกี่แล้วเลยรอให้ศัตรูจู่โจมก่อน พอศัตรูจู่โจมเข้ามาเหลียงจิ้งก็รีบลุกขึ้นมาแล้วใช้ฝ่ามือยมโลกจู่โจมไป 3 ทีแต่ศัตรูหลบการโจมตีได้แล้วพยายามเข้ามาหาเสี่ยวเชี่ยนที่ตกใขแล้วลุกขึ้นมาหลบหลังเหลียงจิ้ง ศัตรูเห็นว่าคู่ต่อสู้นั้นเกร่งกว่าเลยใช้วิชาตัวเบาวิ่งไปที่เสาบ้านด้านซ้ายของเหลียงจิ้งแล้วใช้เท่าของเขาทีบเสาบ้านแล้วพุ่งจู่โจมเข้ามาหาเสี่ยวเชี่ยนเหลียงจิ้งอยู่ห่างจากเสี่ยวเชี่ยนไม่มากนักเลยใช้มือข้างขวาจับคมกระบี่ของศัตรูไว้เพื่อไม่ให้เข้าไกล้เสี่ยวเชี่ยนแล้วใช้มือซ้ายใช้ฝ่ามือยมโลกใส่ศัตรูคั้งนี้ได้ผลโดนเต็มๆกลางอกศัตรูเลย พอศัตรูได้รับบาดเจ็บเลยใช้วิชาตัวเบาหลบหนีไป ส่วยไหวอันที่อยู่ห้องข้างนั้นได้ยินเสียงต่อกันจึงรีบวิ่งเข้ามาดู
“ท่านพี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
พอการต่อสู่จบลงเสี่ยวเชี่ยนก็รีบวิ่งเข้ามาดูแผลที่มือให้เหลียงจิ้ง
“เจ็บมากมั้ย”
เสี่ยวเชี่ยนก็รีบเอายาให้กระเป๋าของตัวเองออกมาแล้วรีบทำแผลให้เหลียงจิ้งทัน
“นั้นข้าจะตามคนร้ายไปนะครับนายท่าน”
พอไหวอันเข้ามาเห็นเลือดหมดเป็นทางเลย เลนรู้ทันทีว่าคนร้ายได้รับบาดเจ็บแล้ว เลยจะตามไปดู
“อย่าไหวอัน เราไม่รู้ว่าพวกมันมีกี่คน และอีกอย่างตอนนี้ก็มืดด้วย รอให้สว่างแล้วเราค่อยออกไปตามหาจะดีกว่า”
เหลียงจิ้งเห็นตอนกลางคืนไม่ปรอดภัยเลยห้ามไหวอันไว้
“ครับนายท่านนั้นคือนี้ข้าน้อยจะเฝ้าหน้าประตูให้นะครับ”
ไหวอันอาสาเป็นยามให้
“ไม่ต้องหลอก ข้าคนเดียวก็พอรับมือพวกนั้นไหวแล้วล่ะ”
เหลียงจิ้งเห็นถ้าให้เข้ามาเฝ้าจะเป็นการรบกวนเกินไป
“ยังจะพูดดีอีกถ้ารับมือได้จะบาดเจ็บหรอ”
เสี่ยวเชี่ยนโต้กลับทันทีเลย แล้วไหวอันก็ไปเป็นยามเฝ้าอยู่หน้าห้อง พอเช้าแล้วไหวอันเหลียงจิ้งและเสี่ยวเชี่ยนก็เดินไม่ตามคาบเลือดนั้นแล้วในที่สุดก็มาถึงบ้านของหญิงสาวคนหนึ่งนางก็สวยไม่แพ้กับเสี่ยวเชี่ยนเลย ไหวอันเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังกอดสามีของนางอยู่ที่ถูกฝ่ามือของเหลียงจิ้งบาดเจ็บสาหัส
“นายท่านเขาใช่มั้ยคนร้าย”
ไหวอันเห็นแล้วรีบถามเหลียงจิ้งทันทีเลย
“ใช่แล้ว”
ไหวอันหันไปมองชายคนนั้นที่ถูกฝ่ามือยมโลกของตัวเองเลยแน่ในว่าใช่เขาแน่ๆ พอหญิงสาวเห็นพวกของเหลียงจิ้งแล้วก็มองมาทางพวกเขา
“ข้าขอร้องอย่าทำอะไรสามีข้าเลย ถึงเขาจะทำเรื่องชั่วช้าแต่ที่เขาทำไปเพราะว่าเขารักข้า เขาไม่อยากให้ใครสวยกว่าข้าเลยทำแบบนี้”
หญิงสาวก็ร้องให้แล้วขอร้องเหลียงจิ้ง
“ไม่ได้คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ”
เหลียงจิ้งชักดาบของเขาออกมา
“พี่เหลียงข้าว่าปล่อยพวกเขาไปเถอะนะดูจากอาการของชายท่านนั้นแล้วคงไม่รอดแล้วล่ะ และอีกอย่างที่เขาทำไปเพราะว่ารักนางมากเลยทำไปโดยไม่คิด ข้าขอให้ท่านพี่ปล่อยพวกเขาไปเถอะนะ”
เสี่ยวเชี่ยนเห็นใจนางเลยขอร้องเหลียงจิ้ง
“ไม่ได้”
เหลียงจิ้งปฏิเสธตามเดิม
“ใช่แล้วครับท่านนายเราปล่อยเขาไปเถอะนะ แล้วไปประกาศให้คนในหมู่บ้านทรายก็พอว่าเราได้กำจัดโจรชั่วไปแล้ว”
ไหวอันก็ขอร้องอีกคนหนึ่ง
“ได้ในเมื่อพวกเจ้าไม่เห็นด้วยกับข้า ข้าก็คงต้องทำตามเสียงข้างมากสินะ ข้าปล่อยไปก็ได้”
แล้วเหลียงจิ้งก็เก็บดาบของเขา
“เราไปกันเถอะ”
แล้วทั้งสามก็ไปที่หมู่บ้านแล้วไปกระกาศข่าวนี้ พอประกาศเสร็จแล้วนกพิราบสื่อสารอีกตัวก็บินมาหาไหวอัน พอไหวอันได้อ่านข้อความนี้แล้วตกใจมากเลยรีบรายงานเหลียงจิ้ง
“นายท่านพวกอธรรมเดินทางไว้กว่าที่เราคาดการไว้อีก 3 วันจะถึงที่สำนักคุณธรรม ของพ่อข้าแล้วข้าว่าถ้าเราไม่ใช้วิชาตัวเบาไปคงไม่ทันการแล้วล่ะ และที่เราช้าเพราะว่าเราต้องคอยช่วยเหลือชาวบ้านอีก”
ไหวอันออกแสดงความคิดเห็น
“ได้”
เหลียงจิ้งตอบตกลง
“แต่ข้าไม่มีวิชาตัวเบานะ”
เสี่ยวเชี่ยนความจำเสื่อมเลยลืมวรยุทธของตัวเองไปหมดแล้ว
“ไม่เป็นไร”
เหลียงจิ้งตอบรับแล้วก็อุ้มนางขึ้นมาทันที
“ท่านจะทำอะไรน่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนตกใจนิดหน่อย
“ก็เจ้าไม่มีวิชาตัวเบา ให้ข้าอุ้มเจ้าแล้วเราไปด้วยกันไม่ดีหรอ ไหวอันออกเดินทางได้ยัง”
เหลียงจิ้งเรียกไหวอันที่กำลังคุยกับพวกชาวบ้านที่มาขอบคุณ
“ครับ”
แล้วไหวอันกับเหลียงจิ้งก็ใช้วิชาตัวเบาเดินทางไปที่สำนักคุณธรรม ส่วนเสี่ยวเชี่ยนที่ไม่มีวิชาตัวเบาก็ต้องกอดเหลียงจิ้งไว้แน่เลยทีเดียว
โปรดติดตามตอนต่อไป
“ไหวอันมีเรื่งอะไรหรอ”
เหลียงจิ้งถามไหวอันทันที เมื่อไหวอันได้รับข้อความจากนกพิราบสื่อสาร และสีหน้าไหวอันก็ดูเหมือนกำลังกังวลอะไรบางอย่างอยู่
“คือท่านพ่อข้าส่งข่าวมาว่า พวกอธรรม คราส 4 กว่า 5 พันนายกำลังจะไปโจมตีสำนักคุณธรรมของพ่อข้า ข้าจะทำยังไงดี”
ไหวอันเล่าเรื่องทั้งหมดให้เหลียงจิ้งฟัง
“ข้าว่ารีบไปช่วยพ่อเจ้าก่อนดีกว่านะ”
เหลียงจิ้งออกความคิดเห็น
“เสี่ยวเชี่ยนเจ้าคิดว่าไงบ้าง”
นางที่กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหารพอได้ยินเหลียงจิ้งถามก็รีบหันมามองเหลียงจิ้ง
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ หากไปช้าอาจจะไม่ทันการ”
“ดีนั้นเราออกเดินทางกันเลย”
เหลียงจิ้งเดินไปหยิบดาบแล้วเตรียมตัวออกเดินทาง
“แล้วกับข้าวพวกนี้ล่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนถามเหลียงจิ้ง
“ข้ายังไม่หิวถ้าเจ้าสองคนหิวก็ทานกันก่อนเลยนะ”
เหลียงจิ้งไม่รู้ว่านางทำสุดฝีมือเพื่อนให้เหลียงจิ้งทานโดยเฉพาะเลย เหลียงจิ้งพูดแบบนี้ทำให้นางดูเศร้าขึ้นมาทันทีเลย ไหวอันดูสีหน้านางแล้วก็เข้าใจทันที
“นายท่านข้าว่าเรากินข้าวก่อนะแล้วค่อยเดินทางก็ได้ ไปช้านิดหน่อยเองไม่เป็นไรหลอก”
ไหวอันพยายามเรียกเหลียงจิ้งให้มากินข้าว
“คือข้ายังไม่หิวจริงๆ ข้าจะออกไปฝึกยุทธข้างนอกเตรียมรับมือกับพวกอธรรมนะ”
แล้วเหลียงจิ้งก็เดินออกไปฝึกยุทธ
“นายหญิง นายท่านไม่กิน นั้นเรากินกันเถอะ”
ไหวอันชวยนางกิน
“ข้าไม่หิวแล้วล่ะ ขอโทษนะ”
นางพูดจบก็เดินไปที่ห้องนอนของนางแล้วเก็บของเตรียมออกเดินทาง
“ไปกันหมดเลย นั้นข้ากินคนเดียวก็ได้”
ไหวอันก็นั่งกินคนเดียวจนหมด
“อร่อยจัง”
ไหวอันพูดเสียงดังให้เหลียงจิ้งได้ยิน แต่เหลียงจิ้งก็ไม่สนใจ
“กินเสร็จแล้วเราก็ออกเดินทางกันเลย”
เหลียงจิ้งเห็นว่ากินเสร็จแล้วจึงรีบสั่งให้ออกเดินทางกลัวจะไปไม่ทัน
“แล้วเสี่ยวเชี่ยนล่ะ”
เหลียงจิ้งมองหานางไม่เจอเลยถามไหวอัน
“นางคงไปเก็บของเตรียมเดินทางแล้วน่ะ”
ไหวอันตอบเหลียงจิ้งไป
“นั่นหรอนั้นเจ้าก็ช่วยไปบอกนางให้เร็วหน่อย ข้ารีบไปน่ะ”
เหลียงจิ้งรีบออกเดินทางเพราะกลัวว่าเซียวอี้หลิงจะมาตามหาเขาอีก
“เฮ้ย ไม่ได้หลอกนายท่าน ข้าเป็นผู้ชายนะจะไปเข้าห้องนางได้ยังไงกัน ข้าว่าท่านไปเองดีกว่าเพราะว่านายท่านเป็นสามีนางหนิเข้าไปก็ไม่เสียหายอะไร”
ไหวอันเห็นว่าไม่เหมาะสมเลยปฏิเสธไปทันที
“อื่ม นั่นข้าไปเรียกเอง”
เหลียงจิ้งกำลังจะไปเรียนนาง แต่นางก็ลงมาพอดี
“ไม่ต้องละล่ะ นางลงมาแล้ว”
เหลียงจิ้งเห็นนางลงมาแล้วเลยพูดกับไหวอันอีกที
“นั้นเราออกเดินทางเลยนะแล้วต้องไปทางไหน ไหวอันมานำทางทีสิ”
เหลียงจิ้งไม่รู้ทางเลยให้ไหวอันเป็นคนนำทาง
“ได้ครับ”
แล้วไหวอันก็เดินนำไป
พวกเขาเดินทางได้ 2 วันแล้ว แล้วในระหว่างทางก็ได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนตามไปด้วย แล้วทั้งสามก็มีถืองหมู่บ้านหลี่ซัง
“คนสวยในหมู่บ้านนี้หายไปไหนหมดนะเดินมาตั้งนานยังไม่เห็นสักกะคนเลย ดูๆไปนายหญิงจะสวยสุดละ ฮ่าๆ”
ไหวอันพูดไปหัวเราะไป
“นี่ก็ค่ำแล้วข้าว่าเราพักที่นี่กันดีกว่านะ”
เหลียงจิ้งถามไหวอัน
“ได้ครับ ไว้พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อก็ได้”
แล้วทั้งสามก็เดินเข้าไปในโรงเตียบ
“เฒ่าแก่ ขอสองห้องเอาห้องที่ดีที่สุดนะ”
ไหวอันจองห้องเรียนร้อยแล้วกำลังจะเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเอง
“ท่านจอมยุทธ นางผู้นั้นสวยมากยังไงก็ขอให้ดูแลนางดีๆด้วยนะ เพราะหลายวันมานี้สาวสวยในหมู่บ้านเราถูกจับตัวไปพอเห็นอีกทีก็กลายเป็นศพไปแล้ว ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้เลย”
เฒ่าแก่เตือนเหลียงจิ้งเพราะเห็นเป็นคนต่างถิ่นคงไม่รู้เรื่องนี้
“ไม่น่าล่ะทำไมข้าถึงไม่เห็นสาวสวยในหมู่บ้านนี่เลย เฒ่าแก่เรื่องมันยังไง”
ไหวอันถามเฒ่าแก่ เพราว่าเขาตั้งใจจะช่วยหมู่บ้านนี้
“ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครหลอกนะ แต่ถ้าเขาเห็นสาวสวยเมื่อไหร่เขาก็จะมาจับตัวนางไปแล้วก็ฆ่าทิ้ง ข้าก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าเขาทำทำไม”
เฒ่าแก่ก้มหน้าลง
“แล้วพอมีใครเห็นรูปร่างหน้าตาเขาบ้างมั้ย”
ไหวอันถามถึงเขาเพราะอาจจะช่วยเป็นเบาะแสให้จับคนร้ายได้
“เห็นมีคนบอกว่าเป็นชายหนุ่ม ทุกครั้งที่มาก็จะปิดหน้าปิดตาไม่ให้ใครเห็นหน้า”
เฒ่าแก่ก็พูดเท่าที่รู้ แต่กลับมีชายหนุ่มหน้าตาตีนั่งดื่มน้ำชาอยู่ในโรงเตียบมองมาทางเสี่ยวเชี่ยน
“อย่างนั้นหรอ แล้วข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้นะ”
ไหวอันพยายามจะช่วยหมู่บ้านนี้
“ขอบคุณนายท่านแต่ระวังๆหน่อยนะ เห็นมีคนบอกว่าวรยุทธของคนร้ายน่ะเกร่งมาก”
เฒ่าเตือนไหวอัน
“ช่างเหอะอย่าไปสนใจเลยนะเสี่ยวเชี่ยนถึงเรื่องนี้จะเป็นความจริงแต่ยังไงข้าก็ไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปหลอกในระหว่างนี้เจ้าอย่าอยู่ห่างจากข้านะเจ้าใจมั้ย ถ้าเกิดอะไรขึ้นข้าจะได้ช่วยเจ้าได้ทัน”
เหลียงจิ้งเอามือทั้งสองของเขาจับที่หัวไหล่ของเสี่ยวเชี่ยนแล้วพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนตอบเป็นอันว่ารับรู้แล้ว แล้วทั้งสามก็เดินขึ้นไปนอนบนห้องนอนของตัวเอง ในขณะที่เหลียงจิ้งกับเสี่ยวเชี่ยนกำลังนอนอยู่นั้นก็มีชายหนุ่มสวมชุดสีดำปกปิดใบหน้าพุ่งเข้ามาจากประตูด้านหน้าจู่โจมใส่เสี่ยวเชี่ยนแต่เหลียงจิ้งสัมผัสได้ถึงรังสีฆ่าฟันมาตั้งแต่เมื่อกี่แล้วเลยรอให้ศัตรูจู่โจมก่อน พอศัตรูจู่โจมเข้ามาเหลียงจิ้งก็รีบลุกขึ้นมาแล้วใช้ฝ่ามือยมโลกจู่โจมไป 3 ทีแต่ศัตรูหลบการโจมตีได้แล้วพยายามเข้ามาหาเสี่ยวเชี่ยนที่ตกใขแล้วลุกขึ้นมาหลบหลังเหลียงจิ้ง ศัตรูเห็นว่าคู่ต่อสู้นั้นเกร่งกว่าเลยใช้วิชาตัวเบาวิ่งไปที่เสาบ้านด้านซ้ายของเหลียงจิ้งแล้วใช้เท่าของเขาทีบเสาบ้านแล้วพุ่งจู่โจมเข้ามาหาเสี่ยวเชี่ยนเหลียงจิ้งอยู่ห่างจากเสี่ยวเชี่ยนไม่มากนักเลยใช้มือข้างขวาจับคมกระบี่ของศัตรูไว้เพื่อไม่ให้เข้าไกล้เสี่ยวเชี่ยนแล้วใช้มือซ้ายใช้ฝ่ามือยมโลกใส่ศัตรูคั้งนี้ได้ผลโดนเต็มๆกลางอกศัตรูเลย พอศัตรูได้รับบาดเจ็บเลยใช้วิชาตัวเบาหลบหนีไป ส่วยไหวอันที่อยู่ห้องข้างนั้นได้ยินเสียงต่อกันจึงรีบวิ่งเข้ามาดู
“ท่านพี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
พอการต่อสู่จบลงเสี่ยวเชี่ยนก็รีบวิ่งเข้ามาดูแผลที่มือให้เหลียงจิ้ง
“เจ็บมากมั้ย”
เสี่ยวเชี่ยนก็รีบเอายาให้กระเป๋าของตัวเองออกมาแล้วรีบทำแผลให้เหลียงจิ้งทัน
“นั้นข้าจะตามคนร้ายไปนะครับนายท่าน”
พอไหวอันเข้ามาเห็นเลือดหมดเป็นทางเลย เลนรู้ทันทีว่าคนร้ายได้รับบาดเจ็บแล้ว เลยจะตามไปดู
“อย่าไหวอัน เราไม่รู้ว่าพวกมันมีกี่คน และอีกอย่างตอนนี้ก็มืดด้วย รอให้สว่างแล้วเราค่อยออกไปตามหาจะดีกว่า”
เหลียงจิ้งเห็นตอนกลางคืนไม่ปรอดภัยเลยห้ามไหวอันไว้
“ครับนายท่านนั้นคือนี้ข้าน้อยจะเฝ้าหน้าประตูให้นะครับ”
ไหวอันอาสาเป็นยามให้
“ไม่ต้องหลอก ข้าคนเดียวก็พอรับมือพวกนั้นไหวแล้วล่ะ”
เหลียงจิ้งเห็นถ้าให้เข้ามาเฝ้าจะเป็นการรบกวนเกินไป
“ยังจะพูดดีอีกถ้ารับมือได้จะบาดเจ็บหรอ”
เสี่ยวเชี่ยนโต้กลับทันทีเลย แล้วไหวอันก็ไปเป็นยามเฝ้าอยู่หน้าห้อง พอเช้าแล้วไหวอันเหลียงจิ้งและเสี่ยวเชี่ยนก็เดินไม่ตามคาบเลือดนั้นแล้วในที่สุดก็มาถึงบ้านของหญิงสาวคนหนึ่งนางก็สวยไม่แพ้กับเสี่ยวเชี่ยนเลย ไหวอันเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังกอดสามีของนางอยู่ที่ถูกฝ่ามือของเหลียงจิ้งบาดเจ็บสาหัส
“นายท่านเขาใช่มั้ยคนร้าย”
ไหวอันเห็นแล้วรีบถามเหลียงจิ้งทันทีเลย
“ใช่แล้ว”
ไหวอันหันไปมองชายคนนั้นที่ถูกฝ่ามือยมโลกของตัวเองเลยแน่ในว่าใช่เขาแน่ๆ พอหญิงสาวเห็นพวกของเหลียงจิ้งแล้วก็มองมาทางพวกเขา
“ข้าขอร้องอย่าทำอะไรสามีข้าเลย ถึงเขาจะทำเรื่องชั่วช้าแต่ที่เขาทำไปเพราะว่าเขารักข้า เขาไม่อยากให้ใครสวยกว่าข้าเลยทำแบบนี้”
หญิงสาวก็ร้องให้แล้วขอร้องเหลียงจิ้ง
“ไม่ได้คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ”
เหลียงจิ้งชักดาบของเขาออกมา
“พี่เหลียงข้าว่าปล่อยพวกเขาไปเถอะนะดูจากอาการของชายท่านนั้นแล้วคงไม่รอดแล้วล่ะ และอีกอย่างที่เขาทำไปเพราะว่ารักนางมากเลยทำไปโดยไม่คิด ข้าขอให้ท่านพี่ปล่อยพวกเขาไปเถอะนะ”
เสี่ยวเชี่ยนเห็นใจนางเลยขอร้องเหลียงจิ้ง
“ไม่ได้”
เหลียงจิ้งปฏิเสธตามเดิม
“ใช่แล้วครับท่านนายเราปล่อยเขาไปเถอะนะ แล้วไปประกาศให้คนในหมู่บ้านทรายก็พอว่าเราได้กำจัดโจรชั่วไปแล้ว”
ไหวอันก็ขอร้องอีกคนหนึ่ง
“ได้ในเมื่อพวกเจ้าไม่เห็นด้วยกับข้า ข้าก็คงต้องทำตามเสียงข้างมากสินะ ข้าปล่อยไปก็ได้”
แล้วเหลียงจิ้งก็เก็บดาบของเขา
“เราไปกันเถอะ”
แล้วทั้งสามก็ไปที่หมู่บ้านแล้วไปกระกาศข่าวนี้ พอประกาศเสร็จแล้วนกพิราบสื่อสารอีกตัวก็บินมาหาไหวอัน พอไหวอันได้อ่านข้อความนี้แล้วตกใจมากเลยรีบรายงานเหลียงจิ้ง
“นายท่านพวกอธรรมเดินทางไว้กว่าที่เราคาดการไว้อีก 3 วันจะถึงที่สำนักคุณธรรม ของพ่อข้าแล้วข้าว่าถ้าเราไม่ใช้วิชาตัวเบาไปคงไม่ทันการแล้วล่ะ และที่เราช้าเพราะว่าเราต้องคอยช่วยเหลือชาวบ้านอีก”
ไหวอันออกแสดงความคิดเห็น
“ได้”
เหลียงจิ้งตอบตกลง
“แต่ข้าไม่มีวิชาตัวเบานะ”
เสี่ยวเชี่ยนความจำเสื่อมเลยลืมวรยุทธของตัวเองไปหมดแล้ว
“ไม่เป็นไร”
เหลียงจิ้งตอบรับแล้วก็อุ้มนางขึ้นมาทันที
“ท่านจะทำอะไรน่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนตกใจนิดหน่อย
“ก็เจ้าไม่มีวิชาตัวเบา ให้ข้าอุ้มเจ้าแล้วเราไปด้วยกันไม่ดีหรอ ไหวอันออกเดินทางได้ยัง”
เหลียงจิ้งเรียกไหวอันที่กำลังคุยกับพวกชาวบ้านที่มาขอบคุณ
“ครับ”
แล้วไหวอันกับเหลียงจิ้งก็ใช้วิชาตัวเบาเดินทางไปที่สำนักคุณธรรม ส่วนเสี่ยวเชี่ยนที่ไม่มีวิชาตัวเบาก็ต้องกอดเหลียงจิ้งไว้แน่เลยทีเดียว
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ