ผู้ชนะสิ้นคิด
7.6
2) ลุงไข่เหล็ก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter2
ลุงไข่เเหล็ก
“อ้าว ชายย้อย เอ็งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ให้ซุ่มให้เสียง เดี๋ยวก็โดนกูกุดหัวซะนี่” ลุงไข่เล็กโวยเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นชายยศเข้ามานั่งชันเข่าทำหน้าม่อยอยู่บนโซฟาในบ้านแก
“อ้าวไอ้นี่ เสือกไม่ตอบกูด้วย ถ้าเอ็งจะมานั่งสมาธิที่นี่ กูว่ามึงคิดผิดแล้วย้อย” แกย้อนอีกทีเมื่อเห็นชายยศนิ่งเงียบไม่อื้ออ้ากับแก
“ลุงเล็กคับ ผมควรทำวิธีไหนดีให้คนผิดโดนลงโทษโดยที่ไม่มีใครรู้เห็น”
“ฮิๆ ฮุๆๆ ฮะๆ ฮ่าๆๆๆ” ลุงเล็กได้ยินแล้วก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้ “มึง ฮ่าๆ... มึงนี่มันช่างเหมือนพ่อแกชิบหาย ให้ตายโอ๊ยแม่ควายขวิด”
“แต่มึงจำไว้นะ! มึงอย่าเสือกทำแบบนั้นให้กูรู้เด็ดขาด!”
สิ้นเสียงลุงไข่เล็กทุกอย่างเงียบกริบ ชายยศนั่งอึ้งตัวแข็งทื่ออย่างกับเป็นตะคริวไปทั้งร่าง ลุงไข่เล็กไม่ค่อยเกรี้ยวกราดใส่เขาบ่อยนัก ถึงแกมักจะใช้คำเก่าสมัยพ่อเฒ่าแม่ทวด แต่ก็ไม่ได้ฟังแล้วสะท้านไปถึงตับไตไส้ปอดเหมือนที่แกเพิ่งพูดเมื่อกี้นี้
อะไรของลุงแกละเนี่ย
“ใครผิดก็ว่ากันไปตามกฎสิวะ มึงจะใช้วิธีสกปรกลงโทษคนอื่นไม่ได้ มันต้องเอาความถูกต้องเข้าว่าโว้ย มันจะได้ไม่ย้อนมาทำลายตัวมึงเอง จำใส่กะโหลกมึงเอาไว้!”
ชายยศไม่ขานไม่ตอบ ได้แค่นั่งก้ม พยักหน้ารับหงึกๆ กลัวลุงไข่เล็กจะแพ่นกบาลอย่างที่แกทำกับลูกหลานคนอื่นๆ เวลาโกรธ
-------------------------------------------------------------------
“เป็นไงยศ ได้ความอะไรบ้างล่ะไปปรึกษาลุงแกน่ะ” แม่เอ่ยปากถามทันทีที่ชายยศเปิดประตูเข้าบ้าน
“ครับ ก็พอได้อยู่” เขาตอบเสียงหงอย “แต่ผมเห็นว่าเกือบสามทุ่มแล้วก็เลยกลับมาก่อน ไม่อยากรบกวนเวลาอ่านหนังสือแก”
“ถ้าลุงพูดจาขวานผ่าซากมากไป ลูกก็ไม่ต้องไปถือสานะ ยังไงๆ ลุงเขาก็รักและหวังดีกับลูกนะ”
ชายยศเบือนหน้าไปทางต้นเสียง ตามองต่ำ และนิ่ง อยู่ครู่หนึ่ง เหมือนขบคิดอยู่ในใจ แล้วปรารภขึ้น “ครับแม่”
“เออยศ แม่มีอะไรจะเล่าให้ฟังแน่ะ ง่วงรึยังล่ะ” แม่รีบพูดทันควันเมื่อเห็นเขาทำท่าจะเดินหลบฉากหนีเข้าห้องนอน
“เอ่อ ยังครับ”
“งั้นมานั่งข้างๆ แม่สิ”
ชายยศนั่งลงแล้วเอียงตัวนอนตะแคง วางหัวบนตักแม่ แสร้งทำไม่เห็นแม่ผุดยิ้ม
“เมื่อก่อนตอนที่ลูกยังเล็กๆ ไม่รู้ประสีประสา พ่อของลูกกับลุงไข่เล็กเป็นคู่หูที่ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ นับว่าเป็นเพื่อนเกลอของพ่อคนเดียวที่มีเชียวแหละ เนี่ยแหละเหตุผลที่ลุงไข่แกรักลูกอย่างกับลูกในไส้ตัวเอง” แม่เริ่มเล่าเรื่อง พลางก้มลงมองดูชายยศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักอันอบอุ่น ชายยศเองนอนลุ้นรอฟังอดีตของพ่อกับลุงไข่เล็กต่อไป
“ลุงไข่เล็กเป็นตัวตั้งตัวตีนำพ่อเข้าไปเล่นการเมือง เพราะเห็นว่าพ่อของลูกมีคุณสมบัติพร้อมเพรียง แถมจบด็อกเตอร์จากอังกฤษ แกจึงสนับสนุนเป็นการใหญ่ จนในที่สุดพ่อก็ชนะการเลือกตั้งซ่อมได้เป็น สส. แบบแบ่งเขต ได้เข้าไปทำงานในสภา ไม่ถึงขวบปีพ่อก็ไปเจอเรื่องไม่ชอบมาพากลเข้า สืบไปสืบมาก็พบว่ารัฐมนตรีตนหนึ่งใช้อำนาจทางการเมืองบุกรุกป่าสงวนและลักลอบตัดไม้หลายพื้นที่ รวมทั้งยังค้าอาวุธเถื่อนและคอรัพชั่นอีกด้วย กฎหมายไม่เคยเอาผิดคนนี้ได้เลยเพราะมันใช้เงินซื้อกินหมด พ่อเขาทนดูไม่ได้จึงลงมือเองโดยไม่พึ่งตำรวจหรือพนักงานหน้าไหนเลย แต่กลับถูกหลอก เพราะแหล่งข่าวก็เป็นพวกของไอ้ระยำคนนั้น พ่อของลูกเลยถูกตำรวจวิสามัญ”
ลุงไข่เเหล็ก
“อ้าว ชายย้อย เอ็งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ให้ซุ่มให้เสียง เดี๋ยวก็โดนกูกุดหัวซะนี่” ลุงไข่เล็กโวยเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นชายยศเข้ามานั่งชันเข่าทำหน้าม่อยอยู่บนโซฟาในบ้านแก
“อ้าวไอ้นี่ เสือกไม่ตอบกูด้วย ถ้าเอ็งจะมานั่งสมาธิที่นี่ กูว่ามึงคิดผิดแล้วย้อย” แกย้อนอีกทีเมื่อเห็นชายยศนิ่งเงียบไม่อื้ออ้ากับแก
“ลุงเล็กคับ ผมควรทำวิธีไหนดีให้คนผิดโดนลงโทษโดยที่ไม่มีใครรู้เห็น”
“ฮิๆ ฮุๆๆ ฮะๆ ฮ่าๆๆๆ” ลุงเล็กได้ยินแล้วก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้ “มึง ฮ่าๆ... มึงนี่มันช่างเหมือนพ่อแกชิบหาย ให้ตายโอ๊ยแม่ควายขวิด”
“แต่มึงจำไว้นะ! มึงอย่าเสือกทำแบบนั้นให้กูรู้เด็ดขาด!”
สิ้นเสียงลุงไข่เล็กทุกอย่างเงียบกริบ ชายยศนั่งอึ้งตัวแข็งทื่ออย่างกับเป็นตะคริวไปทั้งร่าง ลุงไข่เล็กไม่ค่อยเกรี้ยวกราดใส่เขาบ่อยนัก ถึงแกมักจะใช้คำเก่าสมัยพ่อเฒ่าแม่ทวด แต่ก็ไม่ได้ฟังแล้วสะท้านไปถึงตับไตไส้ปอดเหมือนที่แกเพิ่งพูดเมื่อกี้นี้
อะไรของลุงแกละเนี่ย
“ใครผิดก็ว่ากันไปตามกฎสิวะ มึงจะใช้วิธีสกปรกลงโทษคนอื่นไม่ได้ มันต้องเอาความถูกต้องเข้าว่าโว้ย มันจะได้ไม่ย้อนมาทำลายตัวมึงเอง จำใส่กะโหลกมึงเอาไว้!”
ชายยศไม่ขานไม่ตอบ ได้แค่นั่งก้ม พยักหน้ารับหงึกๆ กลัวลุงไข่เล็กจะแพ่นกบาลอย่างที่แกทำกับลูกหลานคนอื่นๆ เวลาโกรธ
-------------------------------------------------------------------
“เป็นไงยศ ได้ความอะไรบ้างล่ะไปปรึกษาลุงแกน่ะ” แม่เอ่ยปากถามทันทีที่ชายยศเปิดประตูเข้าบ้าน
“ครับ ก็พอได้อยู่” เขาตอบเสียงหงอย “แต่ผมเห็นว่าเกือบสามทุ่มแล้วก็เลยกลับมาก่อน ไม่อยากรบกวนเวลาอ่านหนังสือแก”
“ถ้าลุงพูดจาขวานผ่าซากมากไป ลูกก็ไม่ต้องไปถือสานะ ยังไงๆ ลุงเขาก็รักและหวังดีกับลูกนะ”
ชายยศเบือนหน้าไปทางต้นเสียง ตามองต่ำ และนิ่ง อยู่ครู่หนึ่ง เหมือนขบคิดอยู่ในใจ แล้วปรารภขึ้น “ครับแม่”
“เออยศ แม่มีอะไรจะเล่าให้ฟังแน่ะ ง่วงรึยังล่ะ” แม่รีบพูดทันควันเมื่อเห็นเขาทำท่าจะเดินหลบฉากหนีเข้าห้องนอน
“เอ่อ ยังครับ”
“งั้นมานั่งข้างๆ แม่สิ”
ชายยศนั่งลงแล้วเอียงตัวนอนตะแคง วางหัวบนตักแม่ แสร้งทำไม่เห็นแม่ผุดยิ้ม
“เมื่อก่อนตอนที่ลูกยังเล็กๆ ไม่รู้ประสีประสา พ่อของลูกกับลุงไข่เล็กเป็นคู่หูที่ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ นับว่าเป็นเพื่อนเกลอของพ่อคนเดียวที่มีเชียวแหละ เนี่ยแหละเหตุผลที่ลุงไข่แกรักลูกอย่างกับลูกในไส้ตัวเอง” แม่เริ่มเล่าเรื่อง พลางก้มลงมองดูชายยศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักอันอบอุ่น ชายยศเองนอนลุ้นรอฟังอดีตของพ่อกับลุงไข่เล็กต่อไป
“ลุงไข่เล็กเป็นตัวตั้งตัวตีนำพ่อเข้าไปเล่นการเมือง เพราะเห็นว่าพ่อของลูกมีคุณสมบัติพร้อมเพรียง แถมจบด็อกเตอร์จากอังกฤษ แกจึงสนับสนุนเป็นการใหญ่ จนในที่สุดพ่อก็ชนะการเลือกตั้งซ่อมได้เป็น สส. แบบแบ่งเขต ได้เข้าไปทำงานในสภา ไม่ถึงขวบปีพ่อก็ไปเจอเรื่องไม่ชอบมาพากลเข้า สืบไปสืบมาก็พบว่ารัฐมนตรีตนหนึ่งใช้อำนาจทางการเมืองบุกรุกป่าสงวนและลักลอบตัดไม้หลายพื้นที่ รวมทั้งยังค้าอาวุธเถื่อนและคอรัพชั่นอีกด้วย กฎหมายไม่เคยเอาผิดคนนี้ได้เลยเพราะมันใช้เงินซื้อกินหมด พ่อเขาทนดูไม่ได้จึงลงมือเองโดยไม่พึ่งตำรวจหรือพนักงานหน้าไหนเลย แต่กลับถูกหลอก เพราะแหล่งข่าวก็เป็นพวกของไอ้ระยำคนนั้น พ่อของลูกเลยถูกตำรวจวิสามัญ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ