ความรักของยัยบ๊องกับนายใจดี
6.9
6) เรื่องซวยๆเกิดกับฉันอีกแล้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบรรยากาศในรถเงียบสนิทเนื่องจากการเดินทางที่ยาวนานทำให้ทุกคนหลับกันหมด มีเพียงรุ่นพี่ 10 กว่าคนที่เล่นไพ่กันอยู่ข้างล่าง
"เย้ ๆ" เสียงพี่แตงร้องเย้เสียงดังเนื่องจากเธอคงจะได้กินไพ่เพื่อนเป็นแน่
"เย้" พี่แตงร้องอีกแล้ว แต่ทุกคนหลับกันหมด
"คร้อก ฟี้ ครอก" เสียงฟ้าฟาดอ้าปากกรนเสียงดังทำเอาวิมาลาที่นั่งอยู่ใกล้ๆตกใจตื่นเมื่อหันหน้ามาเธอก็เห็นฟ้าฟาดกรนแถมยังมีน้ำลายไหลออกมาอีกมันช่างเป็นภาพที่น่าเกลียดอะไรเช่นนี้ เธอทำหน้าแหยๆ พร้อมเบี่ยงหน้าไปทางอื่น
"แหย่ะ คนอะไรน่าเกลียดชะมัด นี่ถ้าไม่ติดว่าหล่อหน่อยนะ ฉันจะเปลี่ยนไปนั่งที่อื่น" เธอพูดแล้วอีกสักพักเธอก็หลับไป
รถเมล์คัน A ค่อยๆเคลื่อนไปอย่างช้าๆนำหน้ารถเมล์คัน B , C , E และ F คนขับขับอย่างใจเย็นแม้ว่าใบหน้าจะเริ่มอิดโรยเนื่องจากตอนนี้เวลาได้ผ่านไปกว่า 8 ชั่วโมงแล้ว เพราะเค้าขับมาจากภูเก็ตซึ่งเป็นโรงเรียนของพวกเหล่าพระเอกนางเอกนั่งเอง แต่ยังดีที่พวกเธอได้พักรับประทานอาหารที่ภัตตาคารที่จังหวัดสมุทรสงครามมาก่อนหน้านี้ ได้กินอาหารทะเลสดๆจึงค่อยหน้าตาไม่บู้บี้กันหน่อย
"อีกสองชั่วโมงจะถึงแล้วนะครับ" คนขับพูดด้วยเสียงงัวเงียหากไม่มีใครฟังเลย หลับกันจนหมด
"คงเหนื่อยกัน" คนขับอายุราวๆ 50 กล่าว เพราะเขาเองก็ง่วงไม่น้อยแต่หลับไม่ได้เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ
เวลาผ่านไปสองชั่วโมง
"ถึงแล้วครับ" คนขับกล่าวพร้อมกับเอ่ยให้ทุกๆคนลงไปสูดอากาศที่เขาใหญ่ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนสุข ทั้งป่าไม้ ใบหญ้า นกร้อง และสัตว์ต่างๆ รวมไปถึงช้างที่เดินกลางถนนแบบบ้านๆ หลังจากที่รับบัตรแล้ว รถเมล์ค่อยๆเลื่อนไปจอดยังที่จอดรถ
"เย้ถึงซักที ฉันจะได้เดินสูดอากาศก็คราวนี้แหล่ะ" หนิหน่าพูดในขณะที่ทุกคนลงไปกันจนหมดแล้ว หนิหน่าเธอก็ช้าอย่างนี้เสมอแหล่ะ
"ลงไปกันเถอะ ฟาง แก้ว" หนิหน่ากล่าว และเธอรู้สึกดีใจสุดๆเพราะว่าเธอรักธรรมชาติมาก ชอบสิงสาลาสัตว์ไปหมด ขณะที่เธอกำลังเดินเล่นและดีใจที่เห็นช้างป่าเดินผ่านไปนั้น
"โอ๊ย เจ็บจังเลย โอ๊ยๆ" เป็นอะไรไปหนิหน่า ไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไรเจ็บเท้าอ่ะ
"อ้าวเป็นอะไรหล่ะหนิหน่า ตั้งกี้ยังดีๆอยู่เลย" ฟางกล่าว
"โอ๊ย เลือดๆ โอ๊ย ฉันจะเป็นลม เลือดไหลอ่ะ" ฟางเข้ามาดูตายแล้วหนิหน่าเลือดไหลที่เท้าเป็นอะไรหล่ะนี่ที่แท้แล้วในรองเท้าเธอมีหนามไม้อยู่มันตำเข้าให้แล้ว "โอ๊ยฉันไม่ไหวแล้วอ่ะ" หนิหน่าร้องโอดโอยหน้าเหลืองหน้าเขียว ฟ้าฟาดอยู่ข้างล่างตกใจมากทำหน้าไม่ถูกจึงรีบเข้ามาช่วย
"เธอเป็นอะไรมากไหม นิ แล้วจะทำไงหล่ะทีนี้มีใครเอายามาบ้าง เค้าร้องเรียกหาคนที่มียาที่พอจะช่วยหนิหน่าได้บ้าง"
"โอ๊ยๆ" หนิหน่าร้องเสียงดัง
"ทนหน่อยสิ ยัยนิ ยัยซุ่มซ่าม เงอะงะเดินแค่นี้ก็ให้หนามมันบาดได้ ทนหน่อย" ฟ้าฟาดพูดขณะค่อยๆดึงหนามที่ตำยัยหนิหน่าออก
"กรี๊ด! กรี๊ด!" หนิหน่าร้องกรี๊ดด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดขีด หลังจากนั้นฟ้าฟาดก็ค่อยพันแผลให้นางเองของเราอย่างมือเบา
"ยัยนี่มันสำออยค่ะ" วิมาลาหมั่นใส้หนิหน่ามากอยากจะแกล้งเป็นซะเอง
"โอ๊ยๆ วิมาลาเจ็บ" วิมาลาทำเป็นร้องบ้างแต่ไม่มีใครเชื่อเธอ "ทำไมทีฉันไม่มีใครเชื่อนะ ไม่ย้อมไม่ยอม" วิมาลาแกล้งทำหน้าเหยเกเลียนแบบนางเอกของเราบ้าง
"กรี๊ด ยัยวิมาลา เธอมาทำหน้าเหมือนฉันทำไม กรี๊ด" หนิหน่าพูดด้วยหน้าเหลืองหน้าเขียว
"นี่ๆ หยุดได้แล้วทั้งสองคนนั่นแหล่ะ รู้มั๊ยว่าฉันน่ะรำคาญเต็มทนแล้ว คนนึงก็อินโนเซนต์อีกคน ก็..."
"ก็อะไรคะ ฟ้าฟาด"
"ไม่มีอะไรครับ" ฟ้าฟาดแทบไม่อยากเอ่ยเลยเพราะกลัวว่าจะได้ยินเสียงกรี๊ดอันแสบหูของวิมาลาเค้าอีกคน
ขณะที่หนิหน่าต้องไปนอนพัก เธอนอนหลับอยู่คนเดียวน่าสงสาร ขณะที่ทุกคนก็เริ่มมีความสนใจที่จะได้ทำกิจกรรมสนุกๆในคืนนี้แล้ว
"น้องๆคะ คืนนี้เราจะไปดูซาฟารีไนต์กันค่ะ เป็นการชมสัตว์ป่ายามกลางคืน บรรยากาศงดงามมากนะคะน้อง เป็นอะไรที่น้องๆไม่เคยเจอแน่นอนค่ะ" แล้วเราก็ไปต่อกันที่พิธีเคารพศาล เพื่อความปลอดภัยของน้องๆนะคะ ไม่เชื่อก็อย่าหลบหลู่ค่ะ แล้วก็ไปต่อกันที่ พิธีเคารพรุ่นพี่แบบ Sotus ค่ะน้องๆ แล้วเราก็ไปทานอาหารแล้วก็นอน
ส่วนวันพรุ่งนี้เราก็จะไปปีนเขาจนถึงยอดกัน ไปrally ขี่จักรยานชมวิว แล้วก็ตามด้วยเข้าฐานค่ะ น้องๆคนไหนสนใจสามารถไปล่องแก่งได้นะคะ แต่ขึ้นได้ทีละ 5-6 คนค่ะ เป็นยังไงบ้างคะ กิจกรรมน่าสนใจไหมคะ"
รุ่นพี่พูดด้วยรอยยิ้มเพราะคิดว่าทุกๆคนจะประหลาดใจเป็นแน่ ทุกๆคนทำหน้าตื่นตาตื่นใจกันใหญ่
"เอาหล่ะไปชมป่ายามค่ำคืนกันได้แล้วค่ะ มีวิทยากรให้คำแนะนำด้วยนะคะ เป็นอะไรที่ตื่นตามาก" รุ่นพี่แตงย้ำ
"รุ้แล้วค่ะ" วิมาลาบอก "งั้นไปกันเลยนะคะ ไปค่ะ ฟ้าฟาด" วิมาลาพูดอีกครั้ง
ทุกคนขึ้นรถรางไปในคันเดียวกัน บรรยากาศมืดๆแต่มีแสงไฟสาดมาเพียงเบาๆ ช่างสวยงามจริง
วิทยากรเริ่มบรรยายถึงสัตว์ต่างๆ "ขณะนี้เรามาถึงถ้ำเสือแล้วนะครับ เสื้อตัวนี้สังเกตให้ดีจะมีลายพาดกลอนมา ใช่แล้วครับมันคือเสือลายพาดกลอนนั่นเอง ตอนนี้คือยามหาอาหารของมัน มีใครจะไปให้อาหารมันใกล้ๆไหมครับ ผมขอบอกนะครับว่าไม่อันตรายหรอก เพราะว่ามีกรงที่หนาแน่นป้องกันอยู่ และเราไม่ได้ยื่นอาหารไปโดยตรงครับ แต่ว่าเราจะใส่อาหารไปที่ไม้ไผ่อันนี้ที่มีตะข่ายสำหรับใส่อาหารซึ่งไม้นั้นมีลักษณะยาวพอที่จะทำให้คุณไม่โดนเสื้อทำร้ายได้ครับ"
"ฟ้าฟาดคุณสนใจจะให้อาหารเสือไหมคะ" วิมาลากล่าว
"เราไปให้อาหารด้วยกันไงคะ โรแมนติกออก" เธอพูดพร้อมจะยั่วยวนฟ้าฟาดเต็มที่
ตอนนี้เป็นเวลา 20.00 น. แล้ว ฟ้าฟาดเริ่มง่วง แต่ในขณะที่วิมาลากอดฟ้าฟาดจนน่าเกลียด แต่ฟ้าฟาดก็ไม่ได้หลงเชื่อ แต่ด้วยความรักสัตว์เค้าจึงทำเป็นทำตามวิมาลาอย่างว่าง่าย
"โหเก่งจังค่ะ" วิมาลาบอก
"ครับ ขอบคุณครับ" ฟ้าฟาดกล่าว ฟ้าฟาดกำลังในใจว่ารำคาญยัยวิมาลาเหลือเกินเมื่อเสร็จงานนี้แล้วเขาจะแวะไปหาหนิหน่าสักหน่อยแต่ไม่รู้ว่ายัยวิมาลาจะมาจุ้นจ้านอีกหรือเปล่านะ เค้าคิด
"เย้ ๆ" เสียงพี่แตงร้องเย้เสียงดังเนื่องจากเธอคงจะได้กินไพ่เพื่อนเป็นแน่
"เย้" พี่แตงร้องอีกแล้ว แต่ทุกคนหลับกันหมด
"คร้อก ฟี้ ครอก" เสียงฟ้าฟาดอ้าปากกรนเสียงดังทำเอาวิมาลาที่นั่งอยู่ใกล้ๆตกใจตื่นเมื่อหันหน้ามาเธอก็เห็นฟ้าฟาดกรนแถมยังมีน้ำลายไหลออกมาอีกมันช่างเป็นภาพที่น่าเกลียดอะไรเช่นนี้ เธอทำหน้าแหยๆ พร้อมเบี่ยงหน้าไปทางอื่น
"แหย่ะ คนอะไรน่าเกลียดชะมัด นี่ถ้าไม่ติดว่าหล่อหน่อยนะ ฉันจะเปลี่ยนไปนั่งที่อื่น" เธอพูดแล้วอีกสักพักเธอก็หลับไป
รถเมล์คัน A ค่อยๆเคลื่อนไปอย่างช้าๆนำหน้ารถเมล์คัน B , C , E และ F คนขับขับอย่างใจเย็นแม้ว่าใบหน้าจะเริ่มอิดโรยเนื่องจากตอนนี้เวลาได้ผ่านไปกว่า 8 ชั่วโมงแล้ว เพราะเค้าขับมาจากภูเก็ตซึ่งเป็นโรงเรียนของพวกเหล่าพระเอกนางเอกนั่งเอง แต่ยังดีที่พวกเธอได้พักรับประทานอาหารที่ภัตตาคารที่จังหวัดสมุทรสงครามมาก่อนหน้านี้ ได้กินอาหารทะเลสดๆจึงค่อยหน้าตาไม่บู้บี้กันหน่อย
"อีกสองชั่วโมงจะถึงแล้วนะครับ" คนขับพูดด้วยเสียงงัวเงียหากไม่มีใครฟังเลย หลับกันจนหมด
"คงเหนื่อยกัน" คนขับอายุราวๆ 50 กล่าว เพราะเขาเองก็ง่วงไม่น้อยแต่หลับไม่ได้เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ
เวลาผ่านไปสองชั่วโมง
"ถึงแล้วครับ" คนขับกล่าวพร้อมกับเอ่ยให้ทุกๆคนลงไปสูดอากาศที่เขาใหญ่ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนสุข ทั้งป่าไม้ ใบหญ้า นกร้อง และสัตว์ต่างๆ รวมไปถึงช้างที่เดินกลางถนนแบบบ้านๆ หลังจากที่รับบัตรแล้ว รถเมล์ค่อยๆเลื่อนไปจอดยังที่จอดรถ
"เย้ถึงซักที ฉันจะได้เดินสูดอากาศก็คราวนี้แหล่ะ" หนิหน่าพูดในขณะที่ทุกคนลงไปกันจนหมดแล้ว หนิหน่าเธอก็ช้าอย่างนี้เสมอแหล่ะ
"ลงไปกันเถอะ ฟาง แก้ว" หนิหน่ากล่าว และเธอรู้สึกดีใจสุดๆเพราะว่าเธอรักธรรมชาติมาก ชอบสิงสาลาสัตว์ไปหมด ขณะที่เธอกำลังเดินเล่นและดีใจที่เห็นช้างป่าเดินผ่านไปนั้น
"โอ๊ย เจ็บจังเลย โอ๊ยๆ" เป็นอะไรไปหนิหน่า ไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไรเจ็บเท้าอ่ะ
"อ้าวเป็นอะไรหล่ะหนิหน่า ตั้งกี้ยังดีๆอยู่เลย" ฟางกล่าว
"โอ๊ย เลือดๆ โอ๊ย ฉันจะเป็นลม เลือดไหลอ่ะ" ฟางเข้ามาดูตายแล้วหนิหน่าเลือดไหลที่เท้าเป็นอะไรหล่ะนี่ที่แท้แล้วในรองเท้าเธอมีหนามไม้อยู่มันตำเข้าให้แล้ว "โอ๊ยฉันไม่ไหวแล้วอ่ะ" หนิหน่าร้องโอดโอยหน้าเหลืองหน้าเขียว ฟ้าฟาดอยู่ข้างล่างตกใจมากทำหน้าไม่ถูกจึงรีบเข้ามาช่วย
"เธอเป็นอะไรมากไหม นิ แล้วจะทำไงหล่ะทีนี้มีใครเอายามาบ้าง เค้าร้องเรียกหาคนที่มียาที่พอจะช่วยหนิหน่าได้บ้าง"
"โอ๊ยๆ" หนิหน่าร้องเสียงดัง
"ทนหน่อยสิ ยัยนิ ยัยซุ่มซ่าม เงอะงะเดินแค่นี้ก็ให้หนามมันบาดได้ ทนหน่อย" ฟ้าฟาดพูดขณะค่อยๆดึงหนามที่ตำยัยหนิหน่าออก
"กรี๊ด! กรี๊ด!" หนิหน่าร้องกรี๊ดด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดขีด หลังจากนั้นฟ้าฟาดก็ค่อยพันแผลให้นางเองของเราอย่างมือเบา
"ยัยนี่มันสำออยค่ะ" วิมาลาหมั่นใส้หนิหน่ามากอยากจะแกล้งเป็นซะเอง
"โอ๊ยๆ วิมาลาเจ็บ" วิมาลาทำเป็นร้องบ้างแต่ไม่มีใครเชื่อเธอ "ทำไมทีฉันไม่มีใครเชื่อนะ ไม่ย้อมไม่ยอม" วิมาลาแกล้งทำหน้าเหยเกเลียนแบบนางเอกของเราบ้าง
"กรี๊ด ยัยวิมาลา เธอมาทำหน้าเหมือนฉันทำไม กรี๊ด" หนิหน่าพูดด้วยหน้าเหลืองหน้าเขียว
"นี่ๆ หยุดได้แล้วทั้งสองคนนั่นแหล่ะ รู้มั๊ยว่าฉันน่ะรำคาญเต็มทนแล้ว คนนึงก็อินโนเซนต์อีกคน ก็..."
"ก็อะไรคะ ฟ้าฟาด"
"ไม่มีอะไรครับ" ฟ้าฟาดแทบไม่อยากเอ่ยเลยเพราะกลัวว่าจะได้ยินเสียงกรี๊ดอันแสบหูของวิมาลาเค้าอีกคน
ขณะที่หนิหน่าต้องไปนอนพัก เธอนอนหลับอยู่คนเดียวน่าสงสาร ขณะที่ทุกคนก็เริ่มมีความสนใจที่จะได้ทำกิจกรรมสนุกๆในคืนนี้แล้ว
"น้องๆคะ คืนนี้เราจะไปดูซาฟารีไนต์กันค่ะ เป็นการชมสัตว์ป่ายามกลางคืน บรรยากาศงดงามมากนะคะน้อง เป็นอะไรที่น้องๆไม่เคยเจอแน่นอนค่ะ" แล้วเราก็ไปต่อกันที่พิธีเคารพศาล เพื่อความปลอดภัยของน้องๆนะคะ ไม่เชื่อก็อย่าหลบหลู่ค่ะ แล้วก็ไปต่อกันที่ พิธีเคารพรุ่นพี่แบบ Sotus ค่ะน้องๆ แล้วเราก็ไปทานอาหารแล้วก็นอน
ส่วนวันพรุ่งนี้เราก็จะไปปีนเขาจนถึงยอดกัน ไปrally ขี่จักรยานชมวิว แล้วก็ตามด้วยเข้าฐานค่ะ น้องๆคนไหนสนใจสามารถไปล่องแก่งได้นะคะ แต่ขึ้นได้ทีละ 5-6 คนค่ะ เป็นยังไงบ้างคะ กิจกรรมน่าสนใจไหมคะ"
รุ่นพี่พูดด้วยรอยยิ้มเพราะคิดว่าทุกๆคนจะประหลาดใจเป็นแน่ ทุกๆคนทำหน้าตื่นตาตื่นใจกันใหญ่
"เอาหล่ะไปชมป่ายามค่ำคืนกันได้แล้วค่ะ มีวิทยากรให้คำแนะนำด้วยนะคะ เป็นอะไรที่ตื่นตามาก" รุ่นพี่แตงย้ำ
"รุ้แล้วค่ะ" วิมาลาบอก "งั้นไปกันเลยนะคะ ไปค่ะ ฟ้าฟาด" วิมาลาพูดอีกครั้ง
ทุกคนขึ้นรถรางไปในคันเดียวกัน บรรยากาศมืดๆแต่มีแสงไฟสาดมาเพียงเบาๆ ช่างสวยงามจริง
วิทยากรเริ่มบรรยายถึงสัตว์ต่างๆ "ขณะนี้เรามาถึงถ้ำเสือแล้วนะครับ เสื้อตัวนี้สังเกตให้ดีจะมีลายพาดกลอนมา ใช่แล้วครับมันคือเสือลายพาดกลอนนั่นเอง ตอนนี้คือยามหาอาหารของมัน มีใครจะไปให้อาหารมันใกล้ๆไหมครับ ผมขอบอกนะครับว่าไม่อันตรายหรอก เพราะว่ามีกรงที่หนาแน่นป้องกันอยู่ และเราไม่ได้ยื่นอาหารไปโดยตรงครับ แต่ว่าเราจะใส่อาหารไปที่ไม้ไผ่อันนี้ที่มีตะข่ายสำหรับใส่อาหารซึ่งไม้นั้นมีลักษณะยาวพอที่จะทำให้คุณไม่โดนเสื้อทำร้ายได้ครับ"
"ฟ้าฟาดคุณสนใจจะให้อาหารเสือไหมคะ" วิมาลากล่าว
"เราไปให้อาหารด้วยกันไงคะ โรแมนติกออก" เธอพูดพร้อมจะยั่วยวนฟ้าฟาดเต็มที่
ตอนนี้เป็นเวลา 20.00 น. แล้ว ฟ้าฟาดเริ่มง่วง แต่ในขณะที่วิมาลากอดฟ้าฟาดจนน่าเกลียด แต่ฟ้าฟาดก็ไม่ได้หลงเชื่อ แต่ด้วยความรักสัตว์เค้าจึงทำเป็นทำตามวิมาลาอย่างว่าง่าย
"โหเก่งจังค่ะ" วิมาลาบอก
"ครับ ขอบคุณครับ" ฟ้าฟาดกล่าว ฟ้าฟาดกำลังในใจว่ารำคาญยัยวิมาลาเหลือเกินเมื่อเสร็จงานนี้แล้วเขาจะแวะไปหาหนิหน่าสักหน่อยแต่ไม่รู้ว่ายัยวิมาลาจะมาจุ้นจ้านอีกหรือเปล่านะ เค้าคิด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ