Cupid ขอความรักบังเกิดกับฉันที
8.3
2) พบเจอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ1.
พบเจอ
ตี๊ด!!~ตี๊ด!!~ตี๊ด!!~กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง~
“เคนตะ!!”
“ฝันถึงเคนตะอีกแล้วหรอ เฮ้อ...เรื่องมันก็นานมาแล้วนะยังไม่ลืมอีกหรอ”
ฉันมองดวงตาที่เฉี่ยวคมที่มองฉัน พลางเอื้อมมือไปปิดเสียงปลุกที่น่าลำคาญข้างหู
“ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว ไปโรงเรียนวันแรกเดี๋ยวก็สายหรอก”
คนที่พูดกับฉันก็คือพี่สาวของฉันเองแหละ ฉันบิดขี้เกียจพอประมาณ แล้วลุกขึ้นไปยังห้องน้ำก่อนที่ฉันจะหยุดมองตัวเองในกระจก
‘…เรื่องมันก็นานมาแล้วนะยังไม่ลืมอีกหรอ’
แปลกนะเหมือนเรื่องของฉันกับเคนตะยังผ่านมาได้ไม่นานนี้เอง แค่คิดถึงหน้าเขาน้ำตาของฉันก็ไหลเอาดื้อๆ ฉันนึกถึงจมูกโด่งๆที่คอยแตะแก้มฉันเบาๆ นึกถึงคิ้วคมเข้มที่ขมวดเข้าหากันเวลาที่ฉันคอยแต่หาเรื่องปวดหัวมาให้ นึกถึงรอยยิ้ม ยิ้มที่ไม่เคยจางหายไปไหน ยังจะอ้อมกอดอุ่นๆที่คอยปลอบโยนฉันอีก
เหมือนเขาอยู่ใกล้ๆฉันแค่นี้เอง
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเคนตะ...จากฉันไป 2ปีแล้ว เขาจากฉันไปอย่างไม่มีวันหวนกลับจากไปโดยที่ฉันไม่มีโอกาสบอกรักเขาด้วยซ้ำไป ~~
ฉันลืมแนะนำตัวเองไปเลย...ขอโทษทีนะที่ฉันมัวแต่คิดถึงเคนตะอยู่..~เอาง่ายๆเลยนะ ฉันชื่อมากี้ อายุ22ปี กำลังเรียนมหาลัย P คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
“วันนี้ร้อนเป็นบ้า..อยากอยู่บ้านตากแอร์จริงๆเลย”
พี่เจนนี่เดินบ่นออกมาจากห้อง คือแบบว่าห้องฉันกับพี่เจนนี่ติดกันหน่ะ
ฉันห่างจากพี่สาวฉัน 4 ปีแน่นอนพี่ฉันทำงานแล้วแต่ฉันนี่สิ...ยังไม่จบสักที
“มากี้ไปก่อนนะค่ะพี่เจน ไว้ปิดเทอมคราวหน้าเจอกันใหม่” ฉันลากกระเป๋าออกจากห้องส่วนพี่เจนนี่ก็ยิ้มให้ฉัน..รู้ไหมพี่ฉันหน่ะชอบบอกว่าฉันเรียนโรงเรียนอยู่เรื่อยทั้งที่ฉันจะจบมหาลัยอยู่แล้วT_T
‘จะไปโรงเรียนแล้วหรอ แหมเคนตะมารับสินะ...เบื่อจริงๆเลยคนมีคู่เนี่ย’
‘พี่เจนนี่ก็ว่าไป เคนตะเขาก็ทำไปงั้นแหละตามปะสาคนบ้า’
‘หึๆ ระวังเถอะไม่มีเคนตะแล้วจะรู้สึก’
ทำไมตอนนั้นฉันถึงไม่รักเขาให้มากๆเหมือนกับที่เขารักฉันนะ ฉันมันคงโง่จริงๆสินะ
“น้องครับถึงแล้วครับ”
เสียงคนขับแท็กซี่บอกให้ฉันรู้ว่าฉันมาถึงมหาลัยแล้ว
มหาลัย P ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาลัยอันดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้ และฉันก็ย้ายอยู่ที่นี้ได้2ปีแล้ว
ว่าแต่..ฉันต้องแบกกระเป๋าหนักๆคนเดียวหรอเนี่ย ไม่เป็นไรบึกบึนสู้โว้ย!!!
เพล้ง!
“โอ้ย..”อะไรก็ไม่รู้หล่นลงมากระแทกหัวฉันเต็มๆ ฉันร้องด้วยความเจ็บมือก็จับไปตรงที่ปวด
~0๐0~ ฮือๆหัวฉันมีเลือดนิ
“คุณ..เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”
“หึ! เดินมาไม่รู้จักมองทางมันก็สมควร”
คนแรกก็ดูเป็นห่วงฉันอยู่นะแต่ไอคนที่สองเนี่ยมันเป็นใครฟะ อย่าให้ฉันรู้นะว่าเป็นใคร หึย!อยากมองหน้าแต่ดันเงยหน้าไม่ขึ้นอีก
“เฮ้...เลือดเธอออกนิ ยูตะแกพาเค้าไปโรงบาลเลยนะ”
“เรื่องอะไร ยัยนี่เซ่อซ่าเองไม่เกี่ยวกับฉันซะหน่อย”
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าสองคนนี้เป็นใครหน้าตาเป็นไง แต่ฉันขอจัดการไอคนปากเสียก่อนเห๊อะ
ตุ๊บ!!
ฉันกำหมัดขวาพร้อมกับต่อยลงไปที่คนปากเสียก่อนที่ฉันจะเดินดุ่มๆไปที่ห้องพยาบาลเองเลย นี่มันวันซวยอะไรของฉันก็ไม่รู้เจ็บตัวแล้วยังเจอผู้ชายนิสัยเสียอีก
พระเจ้าจะกลั่นแกล้งฉันรึไง
“ยัยบ้า!! อย่าให้ฉันเจอเธออีกนะฉันฆ่าเธอแน่” บอกได้เลยว่านี่คือเสียงที่ฉันได้ยินชัดเจนที่สุดก่อนที่ฉันจะไม่รู้ว่าเขาด่าอะไรฉันอีกเพราะฉันไม่อยากสนใจคำพูดของผู้ชายปากสวะสักเท่าไรและอีกอย่างมันเป็นคำขู่ที่ไม่น่ากลัวเอาซะเลย
“ว้าย มากี้ !!! ทำไมหัวแกถึงเป็นแบบนี้หล่ะ”
“นั่นสิ ดูน่ากลัวจังเลย”
“พอเลย แพร มินต์ เลิกจับหัวฉันโยกไปมาได้แล้ว ฉันเจ็บนะ” ฉันบ่นให้เพื่อนสนิทของฉันด้วยความลำคานเมื่อมาถึงห้องเรียน ก็หัวฉันสิมีผ้าพันหัวเต็มไปหมดอึดอัดจริงๆเลย
“แล้วนี่ใครทำแกหล่ะเนี่ย” แพรถามฉันด้วยความสงสัยแต่ฉันจะบอกได้ยังไงในเมื่อฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
“อ้อ!! ฉันให้อาร์ตขนของของแกให้แล้วนะ ฉันก็ว่าอยู่ว่าแกทิ้งกระเป๋าไว้ทำไม”
ฉันวางถุงยาลงที่โต๊ะเรียนก่อนจะมีใบเหลืองหล่นลงมา
“ยินดีด้วยที่วันนี้คุณโชคดี จะได้กลายเป็น ‘ตัวน่ากำจัด’ ของทุกคน” ฉันอ่านจบก็เงยหน้าขึ้นมาเห็นยัยมินต์ จ้องฉันด้วยความตกใจ ปนสยดสยอง “อะไรมินต์ แหม!! ทำหน้าหยั่งกับว่าฉันโดนใบแดงเหมือนในหนัง F4งั้นแหละ” พูดจบฉันก็ยัดกระดาษลงไปที่โต๊ะของคนข้างๆ ที่จริงก็กลัวเหมือนกันนะ ยัดให้คนอื่นแล้วกัน
“แสดงว่ายูตะกลับมาแล้ว แกไปมีเรื่องกับยูตะมาหรอมากี้” แล้วฉันจะรู้มั้ยว่ายูตะเป็นใคร
“เปล่านิ” ฉันปฎิเสธไปแต่เหมือนจะไม่มีใครเชื่อฉันสักคน -^-
ผ่านไป5นาที ก็เริ่มมีคนเข้ามาในห้องเรียน จากนั้นก็
“กรี๊ดดดดดดดดด”
“พวกเรายัยใบไผ่โดนใบเหลือง 0๐0”
ทุกคนทำหน้าตกใจและมองใบไผ่เป็นตาเดียว ใช่แล้วหล่ะโต๊ะข้างๆก็คือโต๊ะใบไผ่ ไม่อยากจะเชื่อเลยมหาลัยดังๆแบบนี้จะมีเรื่องแบบนี้ด้วย ปัญญาอ่อนสิ้นดี -_-
“พวกเราจัดการ!!” ดาด้าหัวหน้ากลุ่มคนรักยูตะลุกขึ้นสั่งการทันที ส่วนใบไผ่ก็ถอยกรู่ไปหลังห้องตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แล้วฉันจะบาปมั้ยเนี่ยที่โดยเคราะห์ให้คนอื่น
“เอ่อ..คือว่านะ ค่อยๆพูดก็ได้นะ เอางี้เดี๋ยวยัยนี่ฉันจะจัดการให้พวกเธอเอง ไม่ต้องถึงมือพวกเธอหรอก” ฉันรีบเดินไปจับมือใบไผ่ให้ตามฉันมานอกห้อง “เธอร้องดังๆสิ เอาแบบเจ็บปวดที่สุดเลยนะ”
“ห๊ะ..”
“เร็วๆสิ อยากโดนกระทืบรึไงหล่ะ”
“อ๋อๆ” ใบไผ่มองฉันเป็นเชิงขอบคุณก่อนที่ชีจะเริ่มตีบทแตก “โอ้ย!! พอแล้วฉันกลัวแล้ว โอ้ยยย”
“ฉันจะกำจัดแกด้วยมือฉันเองใบไผ่ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ” ใช้ได้เหมือนกันนิฉัน แต่ว่าเพื่อนๆกำลังจะออกมาดูแล้ว ไม่ได้ๆ “นี่เธอรีบไปห้องพยาบาลให้เร็วที่สุดเลยนะใบไผ่” ฉันหันมากระซิบใบไผ่เบาๆ
ใบไผ่รีบวิ่งไปห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ที่จริงก่อนจะย้ายมาที่นี้ฉันก็เคยเป็นพวกอันธพาลเหมือนกันนะ เที่ยวแจกใบดำไปทั่วเลยหล่ะ
“มากี้..ใบไผ่ไปไหนแล้วหล่ะ” แพรถามฉันเมื่อเดินมาอยู่หน้าห้อง
“ฉันให้ไปห้องพยาบาลแล้วหล่ะ มีครูมิซึอยู่คงไม่มีใครกล้าทำอะไรยัยนั้นหรอก” มินต์กับแพรถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ฉันอยากรู้จริงๆว่านายยูตะเป็นใคร
“มินต์..คนที่ชื่อยูตะเป็นใครหรอ”
พบเจอ
ตี๊ด!!~ตี๊ด!!~ตี๊ด!!~กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง~
“เคนตะ!!”
“ฝันถึงเคนตะอีกแล้วหรอ เฮ้อ...เรื่องมันก็นานมาแล้วนะยังไม่ลืมอีกหรอ”
ฉันมองดวงตาที่เฉี่ยวคมที่มองฉัน พลางเอื้อมมือไปปิดเสียงปลุกที่น่าลำคาญข้างหู
“ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว ไปโรงเรียนวันแรกเดี๋ยวก็สายหรอก”
คนที่พูดกับฉันก็คือพี่สาวของฉันเองแหละ ฉันบิดขี้เกียจพอประมาณ แล้วลุกขึ้นไปยังห้องน้ำก่อนที่ฉันจะหยุดมองตัวเองในกระจก
‘…เรื่องมันก็นานมาแล้วนะยังไม่ลืมอีกหรอ’
แปลกนะเหมือนเรื่องของฉันกับเคนตะยังผ่านมาได้ไม่นานนี้เอง แค่คิดถึงหน้าเขาน้ำตาของฉันก็ไหลเอาดื้อๆ ฉันนึกถึงจมูกโด่งๆที่คอยแตะแก้มฉันเบาๆ นึกถึงคิ้วคมเข้มที่ขมวดเข้าหากันเวลาที่ฉันคอยแต่หาเรื่องปวดหัวมาให้ นึกถึงรอยยิ้ม ยิ้มที่ไม่เคยจางหายไปไหน ยังจะอ้อมกอดอุ่นๆที่คอยปลอบโยนฉันอีก
เหมือนเขาอยู่ใกล้ๆฉันแค่นี้เอง
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเคนตะ...จากฉันไป 2ปีแล้ว เขาจากฉันไปอย่างไม่มีวันหวนกลับจากไปโดยที่ฉันไม่มีโอกาสบอกรักเขาด้วยซ้ำไป ~~
ฉันลืมแนะนำตัวเองไปเลย...ขอโทษทีนะที่ฉันมัวแต่คิดถึงเคนตะอยู่..~เอาง่ายๆเลยนะ ฉันชื่อมากี้ อายุ22ปี กำลังเรียนมหาลัย P คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
“วันนี้ร้อนเป็นบ้า..อยากอยู่บ้านตากแอร์จริงๆเลย”
พี่เจนนี่เดินบ่นออกมาจากห้อง คือแบบว่าห้องฉันกับพี่เจนนี่ติดกันหน่ะ
ฉันห่างจากพี่สาวฉัน 4 ปีแน่นอนพี่ฉันทำงานแล้วแต่ฉันนี่สิ...ยังไม่จบสักที
“มากี้ไปก่อนนะค่ะพี่เจน ไว้ปิดเทอมคราวหน้าเจอกันใหม่” ฉันลากกระเป๋าออกจากห้องส่วนพี่เจนนี่ก็ยิ้มให้ฉัน..รู้ไหมพี่ฉันหน่ะชอบบอกว่าฉันเรียนโรงเรียนอยู่เรื่อยทั้งที่ฉันจะจบมหาลัยอยู่แล้วT_T
‘จะไปโรงเรียนแล้วหรอ แหมเคนตะมารับสินะ...เบื่อจริงๆเลยคนมีคู่เนี่ย’
‘พี่เจนนี่ก็ว่าไป เคนตะเขาก็ทำไปงั้นแหละตามปะสาคนบ้า’
‘หึๆ ระวังเถอะไม่มีเคนตะแล้วจะรู้สึก’
ทำไมตอนนั้นฉันถึงไม่รักเขาให้มากๆเหมือนกับที่เขารักฉันนะ ฉันมันคงโง่จริงๆสินะ
“น้องครับถึงแล้วครับ”
เสียงคนขับแท็กซี่บอกให้ฉันรู้ว่าฉันมาถึงมหาลัยแล้ว
มหาลัย P ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาลัยอันดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้ และฉันก็ย้ายอยู่ที่นี้ได้2ปีแล้ว
ว่าแต่..ฉันต้องแบกกระเป๋าหนักๆคนเดียวหรอเนี่ย ไม่เป็นไรบึกบึนสู้โว้ย!!!
เพล้ง!
“โอ้ย..”อะไรก็ไม่รู้หล่นลงมากระแทกหัวฉันเต็มๆ ฉันร้องด้วยความเจ็บมือก็จับไปตรงที่ปวด
~0๐0~ ฮือๆหัวฉันมีเลือดนิ
“คุณ..เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”
“หึ! เดินมาไม่รู้จักมองทางมันก็สมควร”
คนแรกก็ดูเป็นห่วงฉันอยู่นะแต่ไอคนที่สองเนี่ยมันเป็นใครฟะ อย่าให้ฉันรู้นะว่าเป็นใคร หึย!อยากมองหน้าแต่ดันเงยหน้าไม่ขึ้นอีก
“เฮ้...เลือดเธอออกนิ ยูตะแกพาเค้าไปโรงบาลเลยนะ”
“เรื่องอะไร ยัยนี่เซ่อซ่าเองไม่เกี่ยวกับฉันซะหน่อย”
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าสองคนนี้เป็นใครหน้าตาเป็นไง แต่ฉันขอจัดการไอคนปากเสียก่อนเห๊อะ
ตุ๊บ!!
ฉันกำหมัดขวาพร้อมกับต่อยลงไปที่คนปากเสียก่อนที่ฉันจะเดินดุ่มๆไปที่ห้องพยาบาลเองเลย นี่มันวันซวยอะไรของฉันก็ไม่รู้เจ็บตัวแล้วยังเจอผู้ชายนิสัยเสียอีก
พระเจ้าจะกลั่นแกล้งฉันรึไง
“ยัยบ้า!! อย่าให้ฉันเจอเธออีกนะฉันฆ่าเธอแน่” บอกได้เลยว่านี่คือเสียงที่ฉันได้ยินชัดเจนที่สุดก่อนที่ฉันจะไม่รู้ว่าเขาด่าอะไรฉันอีกเพราะฉันไม่อยากสนใจคำพูดของผู้ชายปากสวะสักเท่าไรและอีกอย่างมันเป็นคำขู่ที่ไม่น่ากลัวเอาซะเลย
“ว้าย มากี้ !!! ทำไมหัวแกถึงเป็นแบบนี้หล่ะ”
“นั่นสิ ดูน่ากลัวจังเลย”
“พอเลย แพร มินต์ เลิกจับหัวฉันโยกไปมาได้แล้ว ฉันเจ็บนะ” ฉันบ่นให้เพื่อนสนิทของฉันด้วยความลำคานเมื่อมาถึงห้องเรียน ก็หัวฉันสิมีผ้าพันหัวเต็มไปหมดอึดอัดจริงๆเลย
“แล้วนี่ใครทำแกหล่ะเนี่ย” แพรถามฉันด้วยความสงสัยแต่ฉันจะบอกได้ยังไงในเมื่อฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
“อ้อ!! ฉันให้อาร์ตขนของของแกให้แล้วนะ ฉันก็ว่าอยู่ว่าแกทิ้งกระเป๋าไว้ทำไม”
ฉันวางถุงยาลงที่โต๊ะเรียนก่อนจะมีใบเหลืองหล่นลงมา
“ยินดีด้วยที่วันนี้คุณโชคดี จะได้กลายเป็น ‘ตัวน่ากำจัด’ ของทุกคน” ฉันอ่านจบก็เงยหน้าขึ้นมาเห็นยัยมินต์ จ้องฉันด้วยความตกใจ ปนสยดสยอง “อะไรมินต์ แหม!! ทำหน้าหยั่งกับว่าฉันโดนใบแดงเหมือนในหนัง F4งั้นแหละ” พูดจบฉันก็ยัดกระดาษลงไปที่โต๊ะของคนข้างๆ ที่จริงก็กลัวเหมือนกันนะ ยัดให้คนอื่นแล้วกัน
“แสดงว่ายูตะกลับมาแล้ว แกไปมีเรื่องกับยูตะมาหรอมากี้” แล้วฉันจะรู้มั้ยว่ายูตะเป็นใคร
“เปล่านิ” ฉันปฎิเสธไปแต่เหมือนจะไม่มีใครเชื่อฉันสักคน -^-
ผ่านไป5นาที ก็เริ่มมีคนเข้ามาในห้องเรียน จากนั้นก็
“กรี๊ดดดดดดดดด”
“พวกเรายัยใบไผ่โดนใบเหลือง 0๐0”
ทุกคนทำหน้าตกใจและมองใบไผ่เป็นตาเดียว ใช่แล้วหล่ะโต๊ะข้างๆก็คือโต๊ะใบไผ่ ไม่อยากจะเชื่อเลยมหาลัยดังๆแบบนี้จะมีเรื่องแบบนี้ด้วย ปัญญาอ่อนสิ้นดี -_-
“พวกเราจัดการ!!” ดาด้าหัวหน้ากลุ่มคนรักยูตะลุกขึ้นสั่งการทันที ส่วนใบไผ่ก็ถอยกรู่ไปหลังห้องตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แล้วฉันจะบาปมั้ยเนี่ยที่โดยเคราะห์ให้คนอื่น
“เอ่อ..คือว่านะ ค่อยๆพูดก็ได้นะ เอางี้เดี๋ยวยัยนี่ฉันจะจัดการให้พวกเธอเอง ไม่ต้องถึงมือพวกเธอหรอก” ฉันรีบเดินไปจับมือใบไผ่ให้ตามฉันมานอกห้อง “เธอร้องดังๆสิ เอาแบบเจ็บปวดที่สุดเลยนะ”
“ห๊ะ..”
“เร็วๆสิ อยากโดนกระทืบรึไงหล่ะ”
“อ๋อๆ” ใบไผ่มองฉันเป็นเชิงขอบคุณก่อนที่ชีจะเริ่มตีบทแตก “โอ้ย!! พอแล้วฉันกลัวแล้ว โอ้ยยย”
“ฉันจะกำจัดแกด้วยมือฉันเองใบไผ่ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ” ใช้ได้เหมือนกันนิฉัน แต่ว่าเพื่อนๆกำลังจะออกมาดูแล้ว ไม่ได้ๆ “นี่เธอรีบไปห้องพยาบาลให้เร็วที่สุดเลยนะใบไผ่” ฉันหันมากระซิบใบไผ่เบาๆ
ใบไผ่รีบวิ่งไปห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ที่จริงก่อนจะย้ายมาที่นี้ฉันก็เคยเป็นพวกอันธพาลเหมือนกันนะ เที่ยวแจกใบดำไปทั่วเลยหล่ะ
“มากี้..ใบไผ่ไปไหนแล้วหล่ะ” แพรถามฉันเมื่อเดินมาอยู่หน้าห้อง
“ฉันให้ไปห้องพยาบาลแล้วหล่ะ มีครูมิซึอยู่คงไม่มีใครกล้าทำอะไรยัยนั้นหรอก” มินต์กับแพรถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ฉันอยากรู้จริงๆว่านายยูตะเป็นใคร
“มินต์..คนที่ชื่อยูตะเป็นใครหรอ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ