Pain ขอแค่นี้ก็พอแล้ว

-

เขียนโดย anatear

วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23.49 น.

  9 ตอน
  2 วิจารณ์
  16.39K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) หมัดล้มควาย กับ ปีศาจสายน้ำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      “อ้าว! นั่งคนเดียวอีกแล้วหรอ” เสียงของชายร่างท้วมเอ่ยขึ้นใบหน้าที่ถูกปกปิดใต้เรือนผมอันยาวสลวยสวยมากกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก ทำให้เดาสีหน้าได้ไม่ชัดเจน “ขอนั่งด้วยคนนะ”

      “ค่ะ ยังไงก็ของซุ้มคณะเรานี่คะ” อัญ ยิ้มตอบ

      “เพื่อนไปไหนหมดล่ะ ทำไมดูไม่มีคนคบเลย” รุ่นพี่ปี 2 ผมยาวเอ่ยถามพลางแกะห่อขนมปังไปพลาง

      “เอ่อ...จริงๆ ก็คงจะอย่างนั้นแหละค่ะ” สาวผมขาวมองคู่สนทนาอย่างสงสัย จะกินยังไงเมื่อผมบังทั้งใบหน้าอย่างนั้น

      “ทำไมล่ะ ไปทำอะไรแปลกๆเข้าหรือไง” รุ่นพี่ถามพร้อมกับสอดขนมปังไปใต้ผม

      “เอ่อ...น่าจะเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวมากกว่าค่ะ” อัญ พยายามสังเกตุ โยกตัวหามุมดีๆมอง

      “ของสะสมหรือไง” รุ่นพี่เสยผมออกด้วยความรำคาญ “เห็นจ้องนานและ สงสัยว่าจะกินยังไงสินะ” เขาเอ่ยอย่างตรงๆเหมือนรู้ความคิดของเธอ

      “แฮะๆ” อัญ ยิ้มกลบเกลื่อน

      “หวัดดีครับพี่...โอม” 3 เว้นช่วงนึกชื่อสักพัก

      “หวัดดีครับ” เขาทักกลับ

      “กำลังคุยอะไรกันหรอครับ” 3 เข้ามานั่งข้างๆอัญพร้อมกับวางขนมที่เพิ่งไปซื้อมา

      “พี่มาเป็น กขค หรือเปล่าเนี่ย” ชายผมยาวรีบพูดเผื่อไว้ก่อน เขาเตรียมตัวลุกเปลี่ยนที

      “เปล่า ครับ นั่งได้ครับ” 3 เอ่ยแก้ “เพื่อนต่างคณะน่ะครับ”

      “หรอ” รุ่นพี่โอม นั่งลงที่เดิม แต่ยังไม่ทันไร ชายอีกคนก็เข้ามาแจม

      “โอม นั่งด้วยดิ” ชายอีกคนวัยไม่ต่างจากรุ่นพี่เข้ามานั่งข้างโดยไม่รอคำตอบจากใครถึงปากจะขออนุญาติก็เถอะ “คุยไรกันอยู่”

      “เห็นน้องเค้านั่งคนเดียวตลอดน่ะ เลยเข้ามาถาม” โอมตอบอย่างนิ่งๆ

      “จริงหรือ ไม่ใช่สนใจน้องเค้าเป็นพิเศษนะ” พี่ชายของนา แหย่เล่น “เออ น้อง...อัญ” เข้าเว้นช่วงนึกชื่อก่อนจะเอ่ยต่อ “เมื่อวานขอบใจมาก พี่ล่ะสะใจจริงๆ”

      “อะไรหรอวะ” โอมหันไปถามอย่างงงๆ

      “ก็เมื่อวานน้องชั้นวิ่งโร่ร้องไห้ไปหาพ่อแม่เลยล่ะ เห็นบอก โดนเพื่อนขู่ฆ่าหรืออะไรเนี่ยแหละ” โด้ เล่าอย่างสนุกปาก สีหน้า น้ำเสียงและท่าทาง บ่งบอกได้ว่าเขาสะใจแค่ไหน “ดูท่าพ่อกับแม่ก็ไม่น้อยหน้านะ กำลังเดินเรื่องหรืออะไรเนี่ยแหละ”

      “แล้วทำไม..คิดว่าเป็นหนูล่ะคะ” อัญ แย้งกลับมาเล็กน้อย

      “ก็บอก ผมขาว ตาแดง ทั้งมหาลัยมีคนเดียวนี่นา” โด้ ตอบอย่างนิ่งเฉย “แต่เห็นน้องนั่งอยู่ได้ก็แปลว่าเรื่องผ่านไปแล้วสินะ”

      “เรื่องเดินไวขนาดนั้นเลยหรือไง เพิ่งเกิดเองนะ” โอมถามแทรก

      “อือ ถ้า ผอ. เดินเรื่องแปะเงินเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ” เพื่อนของรุ่นพี่พูดอย่างไม่กลัวว่าใครจะได้ยินเข้า

      “นั่นน้องพี่นะครับ จะไม่ไปโอ๋หรือดูแลซักหน่อยออกจะใจดำไปนะครับ” 3 เอ่ยเสนออย่างกล้าๆกลัวๆว่าจะไปขัดใจเขาหรือเปล่า

      “นั่นสินะ น้องสาวพี่น่ะ ไม่เห็นหัวพี่หรอก พ่อแม่เอาแต่ตามใจเพราะเป็นลูกผู้หญิง เลยได้ใจมาตลอดจนนิสัยแบบที่เห็นน่ะแหละ โดนคนอื่นดัดนิสัยซักทีก็ดีเหมือนกันจะได้โตขึ้นมาหน่อย” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นน้อยใจทันที สีหน้าแววตาก็ไปทางนั้นด้วย เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาแล้วสูบอย่างปลงทุกข์ “แค่กๆ..ๆ เหม็นชิบ” เขาปัดควันพลางดับบุหรี่ทันที

      “จริงๆ มันไม่ควรจะสูบตั้งแต่แรกแล้วล่ะครับ” 3 เอ่ยพร้อมกับเกาหน้าตัวเองเบาๆ

      “มีอะไรหรอน้อง เห็นนั่งจ้องหน้ามาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว” ชายผมยาวทักหลังจากที่สังเกตุเห็น อัญ นั่งจ้องหน้าพลางนึกอะไรสักอย่างมานานแล้ว

      “น้องเค้าสนใจแกเปล่า” โด้ แหย่ของเขา

      “ผมพี่ไม่ได้สีดำนี่นา” อัญ เอ่ยทักด้วยความช่างสังเกตุ

      “อ๋อ อือพี่ย้อมดำน่ะ พอนานๆไปเลยสีจาง” โอมตอบพลางจับผมตัวเองมามอง

      “ผมแดง แว่นดำ ร่างใหญ่ ปีศาจสายน้ำหรือเปล่า” 3 เหมือนจะเอ่ยลอยๆ แต่ทำให้ชายผมยาวชะงักเล็กน้อยกับเพื่อนของเขาที่นั่งกลั้นยิ้มอย่างสุดฝืน

      “ใครล่ะนั่น” โอมเอ่ยกลับ

      “ก็พี่ไม่ใช่หรอครับ” 3 เอ่ยอย่างมั่นใจ “เรื่อนผมสีแดง ผมคิดว่าพี่ย้อมปกปิดไว้ แว่นน่ะเปลี่ยนกันได้ แต่พี่ก็ยังสีดำเหมือนเดิม ร่างใหญ่ก็เห็นๆกันอยู่” เขาแจงรายละเอียดให้ฟังทั้งหมด

      “ผิดคนแล้วล่ะ...”

      “ฮ่าๆ ยอมเถอะเพื่อนน้องเค้ารู้แล้ว” โด้ ปล่อยหัวลั่นหลังจากที่กลั้นมาสุดจะทนพลางตบบ่าเพื่อนตัวเอง “ปกปิดไปก็เท่านั้นแล้ว”

      “เห้อ” โอมถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง “แกก็รีบเฉลยจังเลย” เขาหันไปว่าเพื่อนตนเองที่กำลังพยายามกลั้นหัวเราะ

      “พี่เป็น ปีศาจสายน้ำจริงๆหรอ” อัญ เอ่ยพร้อมสายตาที่คาดหวัง ขอให้คนนี้ใช่เถอะ

      “เอ่อ...พี่เองแหละ” โอมลำบากใจก่อนตอบ

      “จริงหรอ” สายตาของอัญกลายเป็นปราบปลื้มเหมือนความหวังสำเร็จแล้ว ทั้งท่าทางน้ำเสียงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเหมือนวัยรุ่นเจอดาราอย่างไหนอย่างนั้นเลยก็ว่าได้

      “รู้จักหรอ” 3 หันไปถามอย่างงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของอัญ

      “อือ อัจฉริยะวัย 20 ต้นๆ เจ้าของผลงานนวัตกรรมต่างๆ จากในการ์ตูนให้เป็นจริงได้” อัญ สาธยายความดีงานที่รุ่นพี่นั่งข้างหน้าเธอก่อไว้ “ทั้ง Air Trek ในเรื่อง Air _ear หรือ แว่น Observer ในเรื่อง _ragon ball นั่นก็ใช่”

      “เธอรู้ดีจัง” 3 หันไปมองด้วยท่าทีควรจะเชื่อดีไหม

      “อือ ชั้นติดตามตลอด ไม่นึกว่าจะเป็นคนแบบนี้” อัญ เอ่ยด้วยท่าทีปลื้มอย่างสุดๆ

      “นั้นชมใช่มั้ย”

      “หนูเป็นแฟนคลับพี่มานานแล้วนะคะ ขอลายเซ็นพร้อมรูปถ่ายได้มั้ยคะ” อัญ แสดงอาการระริกระรี้ออกมาเหมือนเจอกับดาราดังคนหนึ่งเลยทีเดียว

      “ขนาดนั้นเลยเหรอ” โอม เกาหน้าอย่างหนักใจเล็กน้อย “พี่ก็แค่ได้ Idea จากการ์ตูนน่ะแหละ ไม่ได้อะไรหรอก”

      “พี่มี Mail เบอร์ เว็ปส่วนตัว มั้ยคะ” อัญ ขอตรงๆ แววตาของเธอเป็นประกายระยิบ “วันเกิด ของที่ชอบ สี อาหาร ลักษณะผู้หญิง กีฬา” และอีกมากมายที่เธอถามอย่างออกนอกหน้า

      เพื่องของเธอไม่ได้เห็นเธอเป็นแบบนี้มานานก็อดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ได้ถึงในใจจะรู้สึกหวิวๆก็ตาม

      “ขอขนาดนี้เป็นแฟนพี่เลยมั้ยน้อง”

      “โอ๊ะ! ครั้งแรกที่เอ็งจีบหญิงนะเนี่ย” โด้ แหย่เพื่อนที่ไม่เคยมีประโยคจีบหญิงใดๆออกจากปากมาตั้งแต่รู้จักกัน “เฮ้ย สนใจน้องเค้าแล้วใช่ม้า”

      “แค่ประชดน่ะ”

      “แล้วพี่โด้ก็คงเป็นเด็ก คณะเทคโนโลยี อุตสาหกรรม สาขาการประดิษฐ์นวัตกรรม หรือเปล่าคะ” อัญเอ่ยอย่างสงสัย

      “เดาแม่นนะเรา” เจ้าตัวตอบ

      “ในผลงานต่างๆของปีศาจสายน้ำที่ลงไว้มันมีชื่อคนผลิตเป็น สาขาการประดิษฐ์นวัตกรรมนี่คะ”

      “อือ ก็พี่น่ะเอาความคิดของไอนี่มา แล้วมาทำให้เป็นจริง” โด้อธิบายการทำงานของตัวเอง “จะเอามาเฉยๆก็ไม่ได้เลยใส่ชื่อเจ้าของผลงานลงไป”

      “พี่เองอยากทำน่ะ แต่ไม่มีงบ เวลา ทุน เลยต้องพึ่งเค้า”

 

ช่วงเย็นของวันนั้น

      ขณะที่นักเรียนนักศึกษากำลังทยอยกลับ อัญ กับ 3 เดินคู่กันเหมือนปกติ ซึ่งทั้งคู่เดินตาม รุ่นพี่โอมและรุ่นพี่เค็นโด้ โดยไม่รู้ตัว ทั้ง 2 คู่เดินมาเรื่อยคุยกันไประหว่างทางจนถึงทางม้าลาย อัญ และ 3 หยุดรอ แต่ รุ่นพี่โอมและเคนโด้ เดินคุยกันอย่างไม่รู้เรื่องออกไปนอกถนน

      “นั่นพี่โอมกับพี่โด้นี่นา” อัญทัก แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเธอ...

      “ปิ๊นนนนนนนนนนนน!!”

      รุ่นพี่โอมถูกรถชนกลิ้งไปตกหลังรถ คนที่ยืนถัดมาเป็นรุ่นพี่เค็นโด้รถพุ่งเข้ามาชนเต็มๆ “ตู้ม!!” ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์รีบเข้ามามุงดูบางส่วนเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น

      อัญ ยืนตัวสั่น หน้าซีดเผือก เหงื่อบนใบหน้าออกมาจนไหลหยดลงบนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

      “...เปล่า  อัญ เป็นอะไรไป” 3 เอ่ยเรียกเธอ แต่เธอกลับไม่ตอบสนองใดๆจนต้องเข้าไปเขย่าตัวเธอถึงจะรับรู้ “เป็นอะไร หน้าซีดเลย”

      “ปะ...เปล่า ชั้นไม่เป็นไร” อัญ ส่ายหัวเล็กเป็นการปฏิเสทอีกทางหนึ่ง แต่ทั้งน้ำเสียง แววตา และร่างกาย กลับสั่นสะท้านจนออกอาการอย่างเห็นได้ชัด

      “เธอสั่นใหญ่แล้ว” 3 ยังรั้งไว้ ไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด

      “บอกว่าไม่ไง” ทันทีที่เธอปัดมือเขาพ้นออกจากตัวแล้วก้าวเดิน ร่างของเธอก็ทรุดลงทันที แม้จะพยายามขนาดไหนแต่ขาของเธอก็ไม่ยอมขยับ

      “อัญไหว...มั้ย...” 3 รู้คำตอบทันทีหลังจากที่เห็นใบหน้าที่มีน้ำตาเอ่อไหลออกมา

      “อย่าเพิ่งขยับสิครับ เดี๋ยวเลือดตกในหรอก” คนที่เข้ามาช่วย ตะโกนบอกผู้ประสบเหตุ ที่กำลังเดินเข้ามาหาทั้งคู่

      “เป็นอะไป แค่นี้หน้ามือเลยหรือไง”

      “อึ้ย!!” 3 ตกใจหลังจากหันไปมองต้นเสียง “พี่โดนรถชนไม่ใช่หรอ” เขาเอ่ยถามอย่างกลัวๆและงงๆ

      “ก็ใช้นะ ดีที่ว่ารู้ตัวทันน่ะ” รุ่นพี่ผมยาวเอ่ยพร้อมกับยิ้ม

      “โอม เอ็งจะกลับเลยหรือเปล่า” รุ่นพี่เค็นโด้ เดิมตามมาไล่ๆกัน

      “อ้าว พี่โดนชนเต็มๆไม่ใช่หรอ” 3 เอ่ยอย่างตกใจ คนที่หนักที่สุดมันน่าจะเป็นรุ่นพี่เค็นโด้สิ

      “อือ ดีที่รู้ตัวก่อน” เขาตอบ

      “จริงๆ ไม่ต้องหยุดรถก็ได้นี่ แบบนี้คนขับก็สิ้นใจสิ” โอมเอ่ยพลางหันไปมองซากรถที่หน้ายับยู่ยี่ราวกับชนของแข็งมา

      “ไม่หยุด เด็กๆที่ข้ามถนนได้ ตายฮ่า หมดสิ” เค็นโด้ เอ่ยพลางชี้ไปทาง ทางม้าลายที่เด็กเล็กกำลังข้ามถนนอยู่ “1คนเมาตายดีกว่า เด็กเล็ก 1 คนไม่ใช่หรอ”

      “พี่ครับ เหมือนผมกำลังฟังเรื่องที่สุดยอดอยู่เลย”

      “แฮะๆ” เสียงหัวเราะของอัญดังขึ้นเบาๆพอที่จะทำให้ทั้ง 3 หันมาสนใจ เธอบาดน้ำตาเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่ดีใจและโล่งใจ ทั้ง 3 โล่งใจกับภาพที่เห็น

 

      “ปวดข้อมืออ่า” เค็นโด้ โอดครวญพลางบีบข้อมือตนเอง หลังจากที่เดินออกมาจากเหตุการณ์

      “ก็ดันไปต่อยรถสวนซะงั้น” โอมย้อน “แล้วก็รีบออกมา กลัวว่าจะต้องเป็นพยานให้ตำรวจอีก”

      “ก็มันเสียเวลานิ”

      “งั้นดีแลย ตัดแขนแกทิ้งซะชั้นจะลอง Auto Mail พอดี”

      “บ้านเอ็งดิ”

      “ฮิฮิ” อัญ หัวเราะเบาๆกับประโยคสนทนาชวนทะเลาะของทั้ง 2 ถึงเหตุการณ์จะคลี่คลายแล้วแต่ขาของเธอยังคงอ่อนแรงจึงต้องกอดแขนเพื่อนชายเป็นเสาหลักไปก่อน

      เจ้าของแขนหน้าแดงเล็กน้อย เพราะแขนของเขาถูกกอดไว้เสียแน่น ไม่แปลกอะไรหากเขาคิดเลยเถิดออกไป เขาหันมามอง อัญเล็กน้อย

      “อย่ามองแบบนั้นสิ ชั้นก็ใช่ว่าจะอยากกอดแขนนายนักหรอกนะ” สาวผมขาวเอ่ยด้วยเสียงแข็งๆพร้อมกับหันไปมองทางอื่น

      “ไม่ได้ว่าอะไรนี่”

 

      “3 ลูกได้ดูขาวมั้ย เค้าว่ามีคนบ้าทำลายรถแน่ะ”

      “เอ๋”

 

      “มีคนกล่าวหาว่าคุณไปทำลายรถของผู้เสียหาย ขอเชิญไปสอบสวนด้วนครับ”

      “ห๊ะ! ผมเป็นผู้เสียหายนะคร้าบบบ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา