Kingdom Heart พันธสัญญารัก พันธสัญญาหัวใจ

-

เขียนโดย White_Clover

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 12.41 น.

  6 chapter
  21 วิจารณ์
  16.33K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ความจริง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 3

ความจริง

 

                เช้าตรู่วันต่อมา เอริเนียก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอลืมตาขึ้นมา พบว่าเธออยู่ในห้องนอนอีกครั้ง ซึ่งตอนแรกเธอตกใจมาก เพราะเธอคิดว่า เธอถูกพากลับมา

“น...นี่ อีกแล้วเหรอ!?”

 เธอคิดพลางมองไปรอบๆ ห้อง สีพื้นห้องคล้ายกับในปราสาทขององค์ชายผู้นั้น เธอไม่มั่นใจ เลยลุกขึ้นเปิดหน้าต่างมา พบว่าวิวทิวทัศน์เปลี่ยนไปจากเดิมมาก จากบ้านเมืองที่ก่อสร้างด้วยอิฐผสมกับปูน ที่กำลังถูกทำลาย กลายเป็นบ้านเมืองที่ก่อสร้างจากหินอ่อนที่สภาพปกติดี

“เอ๋...ไม่ใช่เหรอ ไม่สิ นี่ฉันต้องฝันไปแน่ๆ”

เธอคิด สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้เธอตกใจ ไปหลบอยู่ข้างเตียง

“ขอเข้าไปนะจ๊ะ…”

 เสียงหญิงสาวที่อยู่นอกห้องพูด พลางเปิดประตูเข้ามา เธอจึงค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากข้างเตียง “คงตกใจล่ะสิ ขอโทษทีนะจ๊ะ” เธอพูด พลางยิ้มให้

“ค...คุณ...?”

“ฉันชื่อเชอริลจ้ะ เป็นองค์รักษ์ของพระมหาจักรพรรดิ ถือว่าโชคดีนะ ที่เธอถูกพระองค์ช่วยเหลือมา” เธอพูด

“พระมหาจักรพรรดิ ร...หรือ คะ?”

“จ้ะ...คนที่ช่วยเหลือเจ้าเมื่อคืนนี้อย่างไรล่ะจ๊ะ” เธอตอบ “คงจะหิวแย่ล่ะสิ เพราะเห็นท่านบอกว่า เจ้าน่ะตัวผอมซูบไปมากเลย” เธอพูด

“เอ่อ...”

“ทานไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องกลัวพวกเราหรอก” เธอพูด

“ขอบคุณนะคะ คุณเชอริล” หญิงสาวผมสีบอร์นอ่อนกล่าว

“ไม่เป็นไรจ้ะ ด้วยความยินดีจ้ะ” เธอพูด “อ้อ! ทานเสร็จแล้วไปพบพระมหาจักรพรรดิด้วยนะ ท่านต้องการที่จะพูดกับเจ้า”

“อ...เอ่อ ค่ะ” เอริเนียขานรับ

 

อีกด้านหนึ่งในปราสาท...

“ฝ่าบาท หญิงสาวที่ท่านช่วยมาเมื่อคืนนี้ เป็นใครหรือขอรับ” ทหารนายหนึ่งถาม                                             

“ข้าก็ไม่รู้หรอก...แต่เหมือนนางจะหนีอะไรมาบางอย่าง...” ชายหนุ่มผมสีเงินรวบยาวถึงกลางหลังพูด ในขณะที่เขากำลังเช็ดคราบเลือดที่ดาบของเขาอยู่

“หนีมาหรือขอรับ?” เขาถาม

“อืม...เพราะข้ายังไม่ทันถูกต้องตัวนางเลย นางกลัวข้าเสียก่อน เพราะคิดว่าข้าเป็นพวกฮาริสเสียกระมั้ง...” ชายหนุ่มผมยาวสีเงินพูด “แต่ข้าก็ยังไม่ค่อยไว้ใจนางอยู่ดี ต่อให้ใบหน้าของนาง หรือชีวิตของนางจะเป็นอย่างไรก็ตามเถอะ…” เขาพูดต่อ
                ทหารนายนั้นไม่พูดอะไร เพียงแต่พยักหน้ารับเท่านั้น แต่สักพัก ชายหนุ่มคนนั้นก็พูดขึ้นมาอีกว่า

“โครเชล วันนี้เจ้าต้องไปสอนพวกทหารรับจ้างไม่ใช่หรือ นี่เลยเวลาไป 5 นาทีแล้วนะ” เขาพูด

“อ...เอ๊ะ! จริงด้วยสิ ขออภัยด้วยขอรับ กระผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” โครเชลพูด แล้วรีบวิ่งไปทันที

                ทันทีที่เขาออกไป ชายหนุ่มคนนั้นก็ยังนั่งเช็ดดาบของเขาอยู่ต่อไป พลางคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาได้พบกับเอริเนีย

‘เธอเป็นใครกันแน่ ทำไมเธอไม่มีกลิ่นของพวกผู้พิทักษ์นี้เลย ที่แน่ๆ เธอมีแค่กลิ่นของฮาริสที่ติดมาด้วย แถมอีกอย่าง ถ้าเป็นนางสนมของเจ้านั่น ทำไมเธอถึงวิ่งหนีมา...’

เขาคิดไปได้สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“ฝ่าบาท หม่อมฉันขออนุญาตเข้าไปนะเพคะ...”

เสียงหญิงสาวที่ดูไม่ค่อยคุ้นหูดังขึ้นจากภายนอกห้อง เขารีบเก็บดาบเข้าฝัก แล้วเดินไปที่ประตูพลางเปิดประตูขึ้นมา ก็พบว่า เป็นหญิงสาวที่เขาช่วยมาเมื่อคืนนี้

“เจ้าเองหรือ เจ้ามาก็ดีแล้ว เข้ามาก่อนสิ”

เขาพูด จนเธอค่อยๆ เดินเข้ามา โดยที่เธอยังกังวลและกลัวเขาอยู่

“ไม่ต้องกลัวข้าหรอก ข้าไม่ใช่พวกของฮาริส...” เขาพูด พลางนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ ตัวเขา จนเขาเรียกเธอมานั่งที่เก้าอี้อีกตัว

“ท...ท่านเรียกข้า มีอะไรหรือเพคะ” เธอถาม

“เจ้าชื่ออะไร?” เขาถาม

“เอริเนีย เพคะ” เธอตอบ

“เจ้ามาจากที่ไหน แล้วเจ้าเป็นอะไรฮาริส” เขาถามอีกครั้ง

“หม่อมฉัน...เป็นคนของอาทาเทียร์ บุตรบุญธรรมของตระกูลแฟรินเซ่ หม่อมฉันไม่ได้เป็นอะไรกับองค์ชายฮาริสเพคะ” เธอพูด

“เจ้าพูดจริงหรือ?” เขาถามย้ำ

“หม่อมฉันพูดจริงเพคะ หม่อมฉันไม่ได้เป็นอะไรกับองค์ชายฮาริสจริงๆ เพียงแต่...”

“เพียงแต่อะไร?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเลือดเย็นนั่นอีกครั้ง

“แม่ของหม่อมฉัน ต้องการให้หม่อมฉันเป็นนางสนมขององค์ชายฮาริส ซึ่งองค์ชายก็สนใจในตัวหม่อมฉันอยู่แล้ว แต่ว่าหม่อมฉันไม่ยอมรับ ก็เลยถูกองค์ชายลักพาตัวมา จนเป็นเหตุที่ทำให้หม่อมฉันต้องหนีมาเพคะ” เธอตอบ

“แล้วทำไมเจ้าไม่เป็นนางสนมเสียซะทีเดียว เรื่องมันจะได้จบ...”

                คำถามนั้นได้หลุดออกมาจากพระโอษฐ์ ของจักรพรรดิผมสีเงินใบหน้าที่เลือดเย็นนั่น ทำให้เธอคิดไม่ออกว่าจะตอบอย่างไรดี

“ม...หม่อมฉัน....”

“เอาเถอะ ไม่ตอบก็ไม่ตอบ เพราะข้าเองก็คงจะเรื่องมากไปหน่อยที่ถามอย่างนั้น” พระองค์ตรัส

“แค่นี้ขอก็รู้แล้วล่ะ ว่าเจ้าเป็นใคร ข้าต้องการรู้เท่านี้ เพราะตอนแรก ข้านึกว่าเจ้าจะเป็นมือสังหาร หรือ หน่วยสอดแนมของฮาริส แต่พอมาดูอีกที หน้าอย่างเจ้า คงไม่มีทางเป็นไปได้ หน้าของเจ้า มีแต่ความทุกข์ ความเศร้า และความกลัวเท่านั้นเอง”

 เขาพูด พลางมามองที่ใบหน้าของเธอด้วยสายพระเนตรที่ดูเย็นชา จนแทบทำให้เธอขนลุก

“เพราะเจ้าคงเห็นข้าในตำแหน่งมหาจักรพรรดิ ผู้ที่ซึ่งป่าเถื่อนทำลายบ้านเมืองอื่นย่อยยับไปทั่ว รวมถึงบ้านเกิดของเจ้า” เขาพูดต่อ

“ไม่เลยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอตอบ

“ข้าไม่เชื่อหรอก ทุกๆ คนต่างคิดกันแบบนี้” เขาพูด พลางลุกจากเก้าอี้มาที่ระเบียง มองดูบ้านเมืองด้วยสายตาที่แลดูเย็นชาแต่แฝงไปด้วยความอ้างว้าง

“ฝ่าบาท...” เอริเนียเรียกขานพลางถอนหายใจไปเฮือกหนึ่ง

                เขาไม่ตอบอะไร เพียงแต่เงียบไปเฉยๆ ทำให้เธอต้องนิ่งไปสักพัก

“ข้าน่ะ...” พระองค์ตรัส จนเธอเงยหน้าขึ้นมา “เสียแม่ตั้งแต่ข้ายังเป็นเด็ก เพราะตอนนั้น ท่านแม่ทรงอ่อนแอมาก ต่อมา ข้าก็เสียท่านพ่อไปโดยฝีมือของมือสังหารแห่งเอเทเทียร์...” พระองค์ตรัส

 “ส่วนอาทาเทียร์...แท้จริงแล้วเป็นฝีมือของเอเทเทียร์ ซึ่งตอนนั้น เอเทเทียร์ต้องการที่จะเป็นใหญ่ เลยโยนตราบาปให้อิทราเนียร์ ต่อมาอิทราเนียร์และอาทาเทียร์ ก็ไม่ได้เป็นประเทศเพื่อนบ้านกันอีก”

                เอริเนียไม่พูดอะไร เพียงแต่ ฟังไปตามเรื่องที่พระองค์เล่า

“ทุกคน ต่างเห็นว่า ประเทศนี้เป็นประเทศที่ป่าเถื่อน เจ้าเองก็คิดแบบนั้น แต่เจ้าไม่กล้าพูดใช่ไหม เอริเนีย?”

                ชายหนุ่มผู้นั้นถามอีกครั้ง เอริเนียก็ยังใจเย็นอยู่เลยตอบไปว่า

“ไม่เลยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอพูด พลางส่ายหน้า “เกือบทุกคนที่คิดว่าใช่ แต่สำหรับหม่อมฉัน คิดว่าไม่ใช่หรอกเพคะ”

“เพราะอะไร?” พระองค์ถาม

“หม่อมฉันเข้าใจท่านดี หม่อมฉันก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า นั่นก็ไม่ใช่ฝีมือของประเทศของท่าน สิ่งที่หม่อมฉันพูดไป หม่อมฉันพูดความจริง”

“อย่างนั้น หรอกหรือ...” พระองค์ขมวดพระขนงไปชั่วขณะ พลางแสดงใบหน้าที่ดูเคร่งขรึม แต่ก็แฝงรอยยิ้มดูมีเลศนัย สักพัก พระองค์ก็เดินมาทางที่เธอนั่งอยู่

“ถ้างั้น ข้าก็ค่อยสบายใจหน่อย” พระองค์ตรัส พลางมองมาที่ใบหน้างามของเธออีกครั้ง “แต่รอบต่อไป เจ้าไม่จำเป็นต้องเรียกข้าว่า พระมหาจักรพรรดิ หรือ ฝ่าบาท และก็ไม่ต้องเรียกตัวเองว่าหม่อมฉัน พูดคุยตามภาษาพูดธรรมดาดีกว่า” พระองค์ตรัสอีกครั้ง

“หม่อมฉันคงทำมิได้หรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ได้...” เธอพูด

“ข้ารู้ แต่ถือว่าเป็นคำขอของข้าก็ก็แล้วกัน” พระองค์ตรัสอีกครั้ง

“ก็ได้เพคะ ท่านจะหม่อมฉันเรียกท่านว่าอะไรหรือเพคะ?” เธอถาม

“เอ็ดเวิร์ด...” พระองค์ตรัส “นั่นเป็นชื่อแท้จริงของข้า แต่ไม่มีใครเคยเรียกข้าด้วยชื่อนั้น” พระองค์ตรัสอีกครั้ง

“ข้าอยากให้เจ้าเรียกชื่อของข้า มากกว่า มหาจักรพรรดิ หรือ ฝ่าบาทนั่น ข้าได้ยินจนชินหูแล้ว”

“เพราะท่านเป็นราชา และเป็นมหาจักรพรรดิ” เอริเนียพูด      

“อืม...ก็จริงของเจ้า แต่นั่นถือเป็นคำขอของข้า” พระองค์ตรัส “ให้ถือว่า ทุกคนในพระราชวัง เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกับเจ้า” พระองค์ตรัส พลางยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เพคะ หม่อมฉันจะเรียกตามนั้น”  เธอพูด

“ดีแล้วล่ะ...เอาเถอะ ข้าก็มีเรื่องที่จะพูดแค่นี้แหละ เจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะนะ” พระองค์ตรัส

“ค่ะ...” เธอพูด แล้วเดินออกไปจากห้องของพระองค์

                จนเวลาผ่านไปได้สักพัก โครเชลก็มาหา

“มาแล้วหรือ โครเชล?” พระองค์ถาม

“ขอรับ อืม...เรื่องหญิงสาวคนนั้น จะทำอย่างไรต่อขอรับ” เขาถาม

“เรื่องนั้น” พระองค์ตรัส แล้วทรงขมวดพระขนงอีกครั้ง

“จะให้กระผมดูแลอารักขานางเลยไหมขอรับ” เขาถาม

“ไม่ต้องหรอก เรื่องนั้นข้าจะดูแลนางเอง” พระองค์ตรัส “เพราะแค่นี้ เจ้าก็เหนื่อยมามากแล้ว...”

“งั้นหรือขอรับ งั้นกระผมขอตัวก่อนนะขอรับ”

เขาพูด แล้วเดินออกจากห้องไปอีกครั้ง...

 

                เอ็ดเวิร์ด หรือ พระมหาจักรพรรดิเดินไปรอบห้องอีกครั้ง เขาหยิบรูปภาพถ่ายเก่าๆ ขึ้นมาจากลิ้นชัก เป็นรูปเด็กชายตัวเล็กๆ ผมสีเงินกำลังยิ้มหน้าบาน ยืนอยู่ข้างๆ หญิงสาวและชายหนุ่ม        วัยกลางคน เขามองรูปนั้น แล้วก็ยิ้มออกมา แล้วก็เก็บเข้าที่เดิม

                แต่เขาก็หวนคิดเรื่องเอริเนียอีกครั้ง เขาก็เกือบจะอมยิ้มมาเหมือนกัน เหมือนกับว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่บางอย่าง

                แต่...สิ่งหนึ่ง ที่เขาไม่ได้บอกกับเธอไป คือ เผ่าพันธุ์ที่แท้จริงของเขา ที่เป็นปีศาจลูกครึ่งแวมไพร์ ซึ่งเขาเองก็คิดไม่ถึง แต่ถ้าหากบอกไป...มันจะยิ่งทำให้เธอต้องตกใจซ้ำสองอีกหรือเปล่า?

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา