เจ้าชายขบถ...รักษ์
4) บทที่ 4 แผนการกบฏลอบสังหาร (บทต้น)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่ 4
แผนการกบฏลอบสังหาร (บทต้น)
ในห้องสี่เหลี่ยมไม่สามารถระบุสถานที่ตั้งได้ ขนาดความกว้างยาวของห้องสามารถบรรจุลูกวัวหรือลูกควายตัวเป็นๆได้อย่างน้อยสามถึงสี่ตัว ห้องสี่เหลี่ยมมันจึงมีขนาดไม่ใหญ่โตมากนักแต่มันกับสามารถวางหรือตั้งเตียงนอนสำหรับคนเพียงคนเดียวไว้นอนได้อย่างสุขสบาย ส่วนข้างเตียงนอนในห้องแคบๆจะมีโต๊ะและเก้าอี้เล็กๆวางทิ้งไว้ข้างๆ... ในห้องเล็กๆจะมีไฟติดแพดานเพียงหลอดเล็กๆหลอดเดียวหากเปิดสวิทซ์ไฟนีออนที่แพดาน ห้องเล็กๆทั้งห้องจะสว่างด้วยแสงสีขาวนวล แต่ในยามนี้ทั้งห้องอยู่ในสภาพแห่งความมืดมิดไฟนีออนหลอดเล็กๆติดแพดานไม่ได้ถูกเปิดทิ้งไว้ เตียงนอนขนาดเล็กๆก็ไม่มีใครหลับนอนอยู่ แต่หากจ้องมองดีๆ ตรงไปยังเก้าอี้ข้างเตียงนอนจะพบแผ่นหลังของมนุษย์ปริศนามันเป็นแผ่นหลังสีดำงองุ้มอันกลมกลืนกับความมืดมิดของห้องเล็กๆ มนุษย์ปริศนากำลังนั่งนิ่งเงียบอยู่บนเก้าอี้ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้นอย่างอ้างว้างและแสนหดหู่ในหัวใจอันไม่สามารถบรรยายให้แก่ใครได้รับรู้ได้
แสงไฟจากแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์จุดโฟกัสเล็กๆมันไม่มีแสงสว่างมากมายนัก แต่มันสามารถทำให้มองเห็นแผ่นหลังมนุษย์ปริศนา ผู้ที่ไม่ชอบแสงสว่างจากไฟนีออนได้บ้างเพียงบางส่วน ชายหนุ่มกำลังนั่งคีย์ข้อมูลอะไรบางอย่างที่เป็นความลับสุดยอด ข้อมูลที่คีย์มันไม่สามารถเปิดเผยให้แก่ใครรับรู้ได้ เสียงกดแป้นคีย์บอร์ดดังขึ้นเป็นระยะๆ แล้วจางหายไป แล้วจะดังขึ้นอีกครั้ง มนุษย์ปริศนาก้มหน้าก้มตาให้ความสนใจไปยังจุดโฟกัสเดียวมันคือจอมอนิเตอร์ มนุษย์ปริศนาเหมือนถูกผีหรือวิญญาณเข้าสิงเขาไม่สนใจสิ่งใดเลยแม้เพียงนิดเดียว...เสียงเคาะแป้นคีย์บอร์ดดังขึ้นอีกครั้งและอีกครั้งเป็นจังหวะสม่ำเสมอพร้อมกับข้อความที่เป็นความลับสุดยอดปรากฏขึ้นบนจอมอนิเตอร์ซ้ำๆ กันหลายครั้ง
Tiger:
Rabbit: เธออยู่ไหน ตอบด้วย
Rabbit: เธออยู่ไหน ตอบด้วย
Rabbit: เธออยู่ไหน ตอบด้วย
Rabbit: ตอบด้วย มีข่าวร้ายที่เธอต้องรับรู้ไว้ ....
ชายหนุ่มนั่งมองข้อความของตัวเองที่คีย์ไว้บนจอมอนิเตอร์อย่างเฝ้ารอด้วยหัวใจที่เป็นทุกข์และร้อนลน ชายหนุ่มเฝ้ารอสัญญาณการตอบกลับมาของข้อความอย่างหัวใจวุ่นวายและด้วยดวงใจที่คะนึงหา และเป็นห่วงเป็นใย สุดท้ายสัญญาณการตอบกลับมาก็ปรากฏขึ้นบนจอมอนิเตอร์ ทำให้ชายหนุ่มปริศนาผู้ร้อนลนเกิดความโล่งใจและผ่อนคลายความตึงเครียดมากขึ้น ผู้ชายปริศนาใช้สายตาสุดยอดของสายลับสองหน้าอ่านข้อความและคีย์ข้อความตอบโต้กลับไปอย่างรวดเร็ว
Rabbit : แจ้งรหัสผ่านด้วย...
Tiger : หึ หึ...รหัสผ่านคือ XXXXXXX
Rabbit : สวัสดีเสือขาว คุณสบายดีใช่มั้ย แล้วเสือดำเป็นอย่างไรบ้าง
Tiger : สวัสดีเช่นกันกระต่ายน้อย กระต่ายแสนสวยผู้ได้ตายจากไปแล้ว...ส่วนเสือดำอยู่ในความควบคุมดูแลของผมอย่างสมบูรณ์แบบเป็นอย่างดีแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง เราสามารถใช้ประโยชน์จากเสือดำได้อีกอย่างมากมาย ผมมีข่าวร้ายต้องแจ้งให้ทราบ เตรียมเปิดรับข้อมูลที่ผมกำลังส่งไปให้ในทันทีด้วย
Rabbit: ส่งข้อมูลมาได้เลย ฉันพร้อมจะรับข้อมูลแล้ว เสือขาว
ชายหนุ่มปริศนาที่มีรหัสว่า Tiger กดแป้นคีย์บอร์ดส่งข้อมูลบางอย่างให้แก่กระต่ายน้อยหรือผู้มีรหัสว่า Rabbit ทันที การจัดส่งข้อมูลใช้เวลาไม่นานก็เสร็จสำเร็จอย่างสมบูรณ์ดีร้อยเปอร์เซ็นต์กระต่ายน้อยเปิดแฟ้มข้อมูลที่เสือขาวส่งมาให้ในทันที พร้อมอ่านข้อมูลที่ได้รับมาอย่างตั้งใจเหมือนดังเครื่องสแกนเลเซอร์อย่างสายตาของสุดยอดมือสังหารหรือสายลับสองหน้าเช่นกัน
ข้อมูลลับสุดยอด
แผนการกบฏลอบสังหาร XX/XX
วันXX เดือน XX ปีXXXX
ในจอมอนิเตอร์ของกระต่ายน้อยปรากฏใบหน้ามือสังหารจำนวนห้าคน อันประกอบด้วย เสือดำ เสือขาว กระต่ายดำ แมวดำ แมวขาว ทุกคนร่วนเป็นชายหนุ่มยกเว้น กระต่ายดำเท่านั้นที่เป็นหญิงสาวแสนสวย ประวัติของกระต่ายดำไม่ได้แตกต่างจากเธอมากมายนัก กระต่ายดำคือร่างฝาแฝดของเธอที่แบ่งภาคกันกระต่ายดำได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงใบหน้าจนมีลักษณะคลายคลึงกับเธอเกือบถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ยกเว้นแววตาที่ผูกอาฆาตพยาบาทของกระต่ายดำเท่านั้นที่แตกต่างจากเธอ กระต่ายดำสูญเสียชีวิตคนในครอบครัวไปจนหมดสิ้นจากเหตุการณ์ก่อกบฏล้มล้างราชบัลลังก์ในหลังก่อน สาเหตุการตายของครอบครัวกระต่ายดำยังคงเป็นปริศนา จนแม้แต่ในวินาทีนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถรับรู้ความจริงได้ใครหรือผู้ใดเป็นผู้สังหารครอบครัวของกระต่ายดำกันแน่ แต่กระต่ายดำฝังใจและได้ตัดสินลงโทษเป้าหมายไปเรียบร้อยแล้ว นั้นก็คือบุคคลทุกคนในราชบัลลังก์แห่งประเทศมหภาคเดือนตะวันอันรวมถึงเจ้าชายกิติศักดิ์หรือองค์สิงหราชด้วย
เธอนั่งมองรูปใบหน้าของกระต่ายดำอย่างคิดคำนึงแล้วหันวงหน้าไปจ้องมองกระจกข้างห้องแล้วเปรียบเทียบรูปวงหน้าระหว่างรูปวงใบหน้าของเธอและรูปวงใบหน้ากระต่ายดำ หัวใจเธอเริ่มสั่นไหวตื่นกลัวอย่างไม่สามารถบอกใครได้ เธอยื่นนิ้วเรียวยาวไปลูบคลำจอมอนิเตอร์อย่างเบาๆเพราะต้องการจะสัมผัสถึงเลือดและเนื้อของกระต่ายดำอย่างใกล้ชิด แต่ก็ต้องหยุดปลายนิ้วเรียวเล็กลงอย่างช้าๆ เพราะเธอไม่สามารถคิดหลอกลวงตัวเองได้ กระต่ายดำในจอมอนิเตอร์เป็นได้แค่ข้อมูลอิเล็คทรอนิค ไม่มีเลือดและเนื้อ ตลอดจนจิตใจความรู้สึก กระต่ายดำไม่มีทางเหมือนกับเธอได้อย่างเต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์กระต่ายดำขาดซึ่งหัวใจของความเมตตราปราณีกระต่ายดำถูกครอบงำด้วยความมืดของวิญญาณร้ายอย่างสมบูรณ์แบบ ระหว่างที่เธอกำลังอยู่ในช่วงสับสน เสียงการส่งข้อมูลจากเสือขาวก็ดังขึ้นอีกครั้งปลุกสติการรับรู้ของเธอให้ตื่นขึ้นอีกครั้งเช่นกัน
Tiger : กระต่ายน้อย อ่านข้อมูลเสร็จแล้วใช่มั้ย
Rabbit: อ่านแล้ว เวลาลอบสังหารจะเกิดขึ้นประมาณเวลาเท่าไร เสือขาว..ฉันต้องการเวลาที่แน่นอน
Tiger : เวลาที่แน่นอนไม่สามารถระบุได้ แต่มันจะเกิดขึ้นในการประชุมสภาในวันนี้ และครั้งนี้จะเป็นการติดต่อกันครั้งสุดท้ายของพวกเรา จนกว่าจะมีโอกาสได้พบกันใหม่อีกครั้งจงอย่าได้ไว้ใจใคร...ลาก่อนกระต่ายน้อย..
Rabbit: ลาก่อนเช่นกัน เสือขาว จนกว่าจะมีโอกาสได้พบกันใหม่...
การเชื่อมต่อข้อมูลของสายลับหรือมือสังหารสองหน้าทั้งสองคนจบลง...ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก็มืดมิดสนิทลงไม่มีแสงเงาสิ่งใดเหลืออยู่อีกเลย เสือขาวเดินไปยังเตียงนอนเงียบๆ แล้วล้มตัวลงนอนอย่างช้าๆ ด้วยหัวใจคิดคำนึงแสนวุ่นวายใจ ในแผนการลอบสังหารที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ และแผนการคิดคดทรยศขบถต่อพวกพ้องกลุ่มเดียวกันที่มีความคิดแปลกแยกแตกต่างไม่ลงรอยกัน ดังความมืดมิดและแสงสว่าง มันคือเหตุผลที่ไม่สามารถบอกเล่าแก่ใครได้ แล้วไม่นานดวงตาที่แสนหนักหน่วงก็ปิดลงอย่างช้าๆ อย่างเฝ้ารอวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึง
..................................................................
“องค์ชายท่านทรงตื่นได้แล้ว วันนี้ท่านมีประชุม...”
“ภาวิต...”
“ใช่ข้า...เออ...หม่อมฉันเอง เช้าแล้วพะยะค่ะองค์สิงหราช...”
“ข้ารู้แล้วองครักษ์ภาวิต...”
“หม่อมฉันเตรียมน้ำให้ทรงสรงยามเช้าแล้วพะยะค่ะ องค์สิงหราช”
“เจ้าถูหลังให้แก่ข้าได้หรือไม่ องครักษ์ภาวิต”
“ไม่ได้พะ..ยะ..คะ”
“ทำไมถึงจะไม่ได้เล่าองครักษ์ภาวิต”
“เพราะพระองค์ทรงสายและล่าช้ามากแล้วไม่ควรมาเสียเวลากับการให้กระหม่อมถูหลังให้ พะยะค่ะ องค์สิงหราช”
“หึ หึ เหตุผลของเจ้าน่าฟังดี แต่ข้าคิดว่าเจ้ามันขี้เกลียดเสียมากกว่า ใช่หรือไม่ องครักษ์ภาวิต”
“ท่านชอบล้อข้าเล่นยามเช้าเช่นนี้เสมอเลยนะเจ้าชาย หากท่านต้องการจะถูหลังจริงๆ ข้าจะเรียกนางข้าหลวงมาปรนนิบัติให้แก่ท่านเอง ท่านต้องการจริงๆ หรือไม่ เจ้าชาย”
“ไม่ล่ะ ข้าไม่ต้องการให้ใครมาคอยปรนนิบัติข้า ข้าเพียงแค่ล้อเจ้าเล่นยามเช้าเท่านั้น องครักษ์ภาวิต”
“อย่างนั้นเจ้าชายก็ทรงลุกขึ้นจากเตียงนอนได้แล้ว หม่อมฉันจะได้จัดการเก็บกวาด จัดเตรียมที่บรรทมให้แก่เจ้าชายใหม่พะยะค่ะองค์สิงหราช”
“อย่างนั้นก็ได้ ...วันนี้ข้าไม่ต้องการจะเข้าประชุมสภาเลยจริง ๆ องครักษ์ภาวิต..เห๊อ..เกิดเป็นเจ้าชายทำไมถึงไม่สุขสบายอย่างในหนังในละครนะ องครักษ์ภาวิต เจ้าคิดอย่างข้าคิดหรือไม่เจ้าองครักษ์จอมขี้เกลียด”
“พะยะคะ...องค์สิงหราช”
“พะยะคะ องค์สิงหราช เมื่อเจ้าไม่อยากตอบคำถามข้าเจ้ามักจะพูดคำนี้เป็นประจำเจ้ามันขี้เกลียดจริงๆ นั้นแล...ภาวิต”
“พะยะคะ...องค์สิงหราช”
“เจ้าต้องการจะล้อเลียนข้า ให้ข้าโกรธแต่เช้าเลยนะ ภาวิต”
“พะยะคะ...องค์สิงหราช” “พะยะคะ...องค์สิงหราช”
เสียงเจ้าชายสิงหราชและองครักษ์หนุ่มน้อยดังขึ้นพร้อมกัน พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้เท่าทันกันของเจ้าชายสิงหราชที่มีต่อองครักษ์หนุ่มหน้าตาสะสวยเยี่ยงอิสตรี เจ้าชายหนุ่มยิ้มและหัวเราะในความน่ารักขององครักษ์ภาวิต พระองค์ทรงมองเห็นวงหน้าที่แดงกล่ำอมสีชมพูเยี่ยงอิสตรีของราชองครักษ์ภาวิตแล้วรู้สึกดวงพระหทัยเริ่มสั่นไหวอย่างไม่ชอบมาพากล แล้ววรกายก็จะทรงเริ่มรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ตามมาอีกเป็นระยะๆ องค์สิงหราชทรงใช้ฝ่ามือหยาบใหญ่ทั้งสองข้างลูบขนเล็กๆตามพระวรกายเพื่อให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น หรือในบางครั้งหากพระวรกายเกิดความเร่าร้อนอย่างชายชาตรีพระองค์ก็จะเรียกร้องขอให้ราชองครักษ์ภาวิตทรงจัดหาน้ำดื่มเย็นๆ มาให้ทรงถวายดื่มเพื่อดับกระหายความเร่าร้อนเยื่ยงชายชาตรี...
ในบางครั้งหากองค์สิงหราชเกิดพระพักตร์มืดดำจนขีดสุดพระองค์จะทรงขอให้ราชองครักษ์ภาวิตเอาก้อนน้ำแข็งเย็นๆมาลูบวงพระพักตร์เพื่อเรียกพระสติความเป็นชายชาตรีกลับคืนมา แต่ในอีกไม่ช้าไม่นานพระองค์อาจจะทรงพระสติขาดเป็นเสี่ยงๆ และขาดการควบคุมพระองค์เองอย่างสมบูรณ์แบบอย่างแน่ๆ การใช้ฝามือทั้งสองข้างลูบขนตามพระวรกาย การขอน้ำดื่มเย็นๆ การใช้ก้อนน้ำแข็งเพื่อเรียกพระสติ ก็คงไม่สามารถช่วยเหลือพระองค์ได้อีกต่อไป ...พระเจ้า!! อย่าให้ถึงวันนั้นเลย... ...พระเจ้า!! ช่วยชีวิตพญาราชสีห์เช่นข้าองค์สิงหราชผู้นี้ด้วย...อนาคตข้างหน้าพระองค์จะยังได้เป็นเจ้าชายสิงหราชแห่งประเทศมหภาคเดือนตะวันต่อไปอีกหรือไม่นะ...
“เจ้าชายท่านไม่สบายหรือเปล่าพะยะค่ะ”
“ภาวิต คนไม่สบายจะยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุขเช่นข้าได้อย่างนั้นหรือ”
“แต่เจ้าชายมีอาการตัวสั่นเหมือนคนเป็นไข้ และเหงื่อไหล เหมือนคนไม่สบาย หม่อมฉันขอวัดไข้ให้แก่พระองค์ดีกว่านะพะยะค่ะ เจ้าชาย”
“ไม่ต้อง..ภา...วิต...ข้าสบายดี ข้าต้องการจะสรงน้ำเย็นๆแล้ว”
“พะยะคะ...องค์สิงหราช”
องค์สิงหราชลุกขึ้นนั่งที่ริมเตียงพระบรรทมอย่างช้าๆ อย่างจิตใจเลื่อนลอยไม่ทรงระวังพระองค์เองเลยว่าอยู่ในสภาพเช่นไร ผ้าห่มไหมเนื้อดีผืนเล็กที่ปิดปังพระวรกายไว้เลื่อนหลุดลงกองทิ้งไว้บนเตียงพระบรรทม เมื่อลุกขึ้นยืนพระวรกายองค์ตรงพร้อมการย่างก้าวเดินพระวรกายที่ไร้ซึ่งสิ่งปกปิดมิดชิดก็เปิดเผยให้เห็นถึงความเป็นชายชาตรีต่อหน้าต่อตาองครักษ์หนุ่มอย่างไม่ได้ทรงตั้งดวงพระหทัย
องค์สิงหราชทรงมีรูปร่างได้สัดส่วนสมบูรณ์แบบอย่างชายชาตรีทุกประการ วงพระพักตร์ได้สัดส่วนคมคาย เส้นพระเกศาดกดำดังนิล พระนลาฎและพระนาสิก ได้สัดส่วนโค้งงออย่างชายหนุ่มแขกขาวแดนภารตะ ส่วนพระโอษฐ์เมื่อแย้มยิ้มจะเห็นไรพระทนต์ที่ทรงเสน่ห์ แต่สิ่งที่มีเสน่ห์มากๆที่สุดของเจ้าชายสิงหราชสำหรับภาวิตก็คือพระขนงและพระโลมา ภาวิตจ้องมองดวงพระเนตรของเจ้าชาย เธอจะมองเห็นพระขนงดกดำทั้งสองข้างที่ช่วยเสริมทำให้พระดวงเนตรของเจ้าชายสิงหราชมีความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยนอย่างแสนประหลาด ส่วนพระโลมาสีน้ำตาลเล็กๆตามพระวรกายจะปรากฏยังพระอุระและพระถันทั้งสองข้างของเจ้าชายสิงหราช มันได้ทำให้เจ้าชายแขกขาวแดนภารตะเป็นบุรุษที่งดงามเหนือกว่าชายใดจะทาบเทียมเสมอเหมือน
ภาวิตจ้องมองสำรวจพระวรกายเจ้าชายสิงหราชต่อไปอย่างตั้งใจ เธอมองตรงไปยังพระนาภีและพระโสณี ของเจ้าชายอย่างกระหายความอยากรู้อยากเห็นร่างกายที่แสนจะงดงามดังเทพบุตรกรีกผสมภารตะและเอเชียของเจ้าชายหนุ่ม สายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่พระขนเพชรและพระเครื่องเพศของเจ้าชายสิงหราช พระขนเพชรมีสีน้ำตาลดังเช่นเดียวกันกับพระโลมาสีน้ำตาลที่ปรากฏทั่วทั้งพระวรกาย ส่วนพระเครื่องเพศของเจ้าชายจะทรงมีขนาดใหญ่กว่าของชายหนุ่มชาวเอเชียโดยทั่วไป
พระบิดาและพระมารดาของเจ้าชายมีเชื่อสายของชนชาติแขกขาวผสมกับชนชาติชาวเอเชีย ทำให้เจ้าชายสิงหราชได้รับสืบทอดขนาดพระเครื่องเพศที่มีขนาดใหญ่มากอย่างแขกขาวแดนภารตะมาอย่างสมบูรณ์แบบ ภาวิตละสายตาจากขนาดของพระเครื่องเพศของเจ้าชายสิงหราชแล้วจ้องมองวงพระพักตร์และพระดวงเนตรของเจ้าชายอีกครั้ง อย่างสำรวจความรู้สึกนึกคิดของเจ้าชายสิงหราชว่ามีความรู้สึกนึกคิดเขินอายเป็นเช่นไรหรือไม่
“องค์สิงหราช ท่านทรงรับรู้องค์เองหรือไม่ ขณะนี้สภาพพระวรกายของพระองค์เป็นเช่นไร”
เจ้าชายสิงหราชทรงแย้มยิ้มพระโอษฐ์ ทรงเสน่ห์ให้แก่องครักษ์ภาวิตอย่างมีเลศนัยและไม่ตอบรับคำถามที่องครักษ์ภาวิตสอบถามพระองค์ไว้ แต่ทรงก้าวเดินต่อไปอย่างไม่สนใจสิ่งใดรอบข้างหรือแม้แต่พระวรกายที่เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิดของพระองค์เอง ทรงก้าวเดินหายพระวรกายอันเปลือยเปล่าเข้าไปยังห้องสรงน้ำอย่างไม่รู้สึกรู้สมสิ่งใดรอบข้าง ภาวิตได้แต่จ้องมองตามพระวรกายเปลือยเปล่าทรงเสน่ห์ของเจ้าชายไปอย่างสงสัยในพฤติกรรมอันแปลกๆของเจ้าชาย และมันทำให้เธอเกิดความรู้สึกอันสับสนในปฏิกิริยาเคมีของเจ้าชายที่มีต่อเธอ
เธอทอดถอนใจแล้วเดินตรงไปยังเตียงพระบรรทมแล้วจัดเก็บทำความสะอาดเตียงพระบรรทมจนเรียบร้อย แล้วเดินตรงไปยังเครื่องทรงของเจ้าชายที่ต้องสวมใส่ในวันนี้เพื่อเข้าร่วมประชุม มันคือวันที่กำลังจะมีเหตุการณ์ลอบสังหารเกิดขึ้นโดยกลุ่มกบฏในอีกไม่กี่นาทีหรือไม่เกินชั่วโมงข้างหน้านี้ ภาวิต วางกางเกง เสื้อสูท เสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไท ไว้รวมกันสำหรับให้เจ้าชายได้สวมใส่ก่อนที่จะต้องไปพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันหรือทรงได้คาดคิดมาก่อนล่วงหน้าและอาจจะทรงทำให้องค์สิงหราชรู้สึกตื่นกลัวและต้องการอยากจะหลบหนี วิ่งหนีหรือต่อสู่เพื่อเอาชีวิตของพระองค์ให้รอดพ้นจากอันตรายอีกครั้ง
ภาวิตเดินตรงไปยังโต๊ะทรงพระอักษรของเจ้าชายสิงหราชแล้วเปิดลิ้นชักหยิบปืนสั้นบาเร็ตต้า พร้อมแม็กกาซีน เต็ม 15 นัด และแม็กกาซีนสำรองอีกสามชุดมาวางทิ้งไว้ข้างเครื่องทรงของเจ้าชายสิงหราชอย่างเตรียมพร้อมไว้ให้ก่อนล่วงหน้า
“เจ้ากำลังทำสิ่งใดองครักษ์ภาวิต...”
เธอหันวงหน้ากลับหลังหันเห็นเจ้าชายกำลังจับจ้องมองเธออยู่อย่างเงียบๆ แล้วมองตรงไปยังอาวุธปืนบาเร็ตต้าที่เธอเตรียมพร้อมไว้ให้
“หม่อมฉันเตรียมเครื่องทรงและอาวุธปืนไว้ให้พะยะค่ะ องค์สิงหราช”
“วันนี้ข้าไม่ต้องการพกอาวุธปืน ข้าต้องการพกแค่ปากกาและรายงานการประชุมเท่านั้น องครักษ์ภาวิต”
“แต่วันนี้พระองค์ต้องพกอาวุธปืน...เจ้าชาย”
“เจ้าเป็นอะไรของเจ้าภาวิต ข้าเป็นเจ้าชาย และเป็นเจ้านาย ข้าก็ไม่ได้เป็นลูกน้องของเจ้าภาวิต ข้าบอกข้าไม่ต้องการจะพกอาวุธปืนข้าก็จะไม่พก เจ้าไม่มีสิทธิมาบังคับข้า...องครักษ์ภาวิต”
“องค์สิงหราชวันนี้เชื่อหม่อมฉันสักครั้งได้หรือไม่พะยะค่ะ ทรงพกอาวุธเถอะองค์สิงหราช”
“เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใยข้ามากหรอกภาวิต วันนี้มีเจ้าหน้าที่คุ้มกันข้าและรัฐมนตรีที่ร่วมประชุม มากมายหลายร้อยคนไม่มีใครทำอะไรข้าได้หรอก...เห๊อ...เชื่อข้าเถอะภาวิตเก็บปืนไว้ยังที่เดิมของมัน แล้วหยิบเครื่องทรง กางเกง กับเสื้อมาให้ข้าใส่ได้แล้วข้าหนาวมากแล้ว”
“พะยะค่ะ องค์สิงหราช”
ภาวิตก้าวเดินไปเพียงแค่ก้าวเดียวแล้วหยิบกางเกงยื่นส่งให้เจ้าชายสิงหราช เจ้าชายทรงปลดผ้าขนหนูสีขาวออกจากพระวรกายต่อหน้าต่อตาภาวิตอีกครั้งอย่างไม่มีอาการเขินอายเลยแม้แต่เพียงนิดเดียว
“องค์สิงหราชทำไมท่านชอบเปลือยวรกายอวดโชว์แก่ข้าเช่นนี้ด้วย ข้ารู้แล้วว่าท่านเป็นชายชาตรี ไม่จำเป็นต้องอวดโชว์รูปกายของท่านกับข้าเช่นนี้บ่อยๆ ก็ได้”
“หึ หึ ฮ่า ฮ่า!!! ...เจ้าคิดเช่นนั้นจริงรึ ภาวิต เจ้าคิดว่าข้าต้องการจะโชว์ร่างกายอวดแก่เจ้าจริงๆยังงั้นรึ เจ้านี้มันหลงตัวเองจริงๆ ภาวิต”
“แล้วทำไมท่านต้องเปลือยวรกายต่อหน้าข้าบ่อยๆ ด้วยเล่า องค์สิงหราช”
“ทำไมข้าต้องบอกเหตุผลแก่เจ้าด้วยเล่า ภาวิต หึ หึ...”
“อย่างนั้นท่านจงเตรียมพระองค์ไว้ ข้าจะแอบถ่ายรูปท่านแล้วโหลดลงเวบไซต์ดูสิท่านจะยังสนุกอยู่อีกหรือไม่ องค์สิงหราช”
“หึ หึ เจ้านี้มันวิตถาร แล้วนะภาวิต”
“องค์สิงหราชต่างหากที่ทรงวิตถาร ทรงชอบเปลือยวรกายอวดโชว์พระเครื่องเพศอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่ข้าเสียหน่อย”
“ข้าเปลือยกายก็เฉพาะในพื้นที่ของข้า ภาวิต ข้าไม่ได้ออกไปเปลือยกายนอกห้องนอนของข้าเสียหน่อย จริงหรือไม่...องค์รักษ์ภาวิต”
“ถึงอย่างนั้นท่านก็ไม่ควรแก้ผ้าต่อหน้าข้าบ่อยๆ เจ้าชายสิงหราช”
“เจ้าจะทะเลาะกันข้าอีกนานมั้ยภาวิต ส่งเข็มขัดมาให้ข้าด้วย”
“พะยะค่ะ องค์สิงหราช”
ภาวิตทอดถอนใจอย่างจนด้วยปัญญาจะโต้ตอบกับเจ้าชายสิงหราช เธอส่งเข็มขัด แล้วส่งเสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไท ให้แก่เจ้าชายอย่างรวดเร็ว มันใช่เวลาไม่นานเจ้าชายสิงหราชก็อยู่ในชุดสูทสีดำอย่างสุภาพบุรุษผู้งดงาม เธอหยิบปากกาที่โต๊ะทรงพระอักษรยื่นส่งให้เจ้าชาย องค์สิงหราชหยิบปากกาจากมือเธอแล้วเสียบปากกาสีดำไว้ยังกระเป๋าลับด้านในเสื้อสูท เธอหยิบหวียื่นส่งให้เจ้าใช้เพื่อตบแต่งพระเกศาให้เข้าทรงตามที่ต้องการ แล้วก้าวเดินไปยังขวดน้ำหอมหลายสิบขวดที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ เธอใช้สายตาสำรวจอย่างรวดเร็วแล้วหยิบขึ้นมาหนึ่งขวดอย่างที่ใจเธอต้องการ เจ้าชายมองตามนิ้วเรียวเล็กของเธอด้วยสายพระเนตรอันมีเลศนัยบางอย่าง แล้วทรงแย้มยิ้มพระโอษฐ์นิดๆอย่างพึ่งพอหทัย
“เจ้ารู้ใจข้าจริงๆ ภาวิต แม้แต่น้ำหอมเจ้ายังรับรู้ว่าข้าต้องการจะใช้กลิ่นเช่นไรในวันนี้”
“พะยะค่ะ องค์สิงหราช”
“เจ้าฉีดมันให้ข้าด้วยภาวิต”
“พะยะค่ะ องค์สิงหราช”
ภาวิตฉีดพ้นน้ำหอมลอยขึ้นเหนือศีรษะของตัวเธอเองกลิ่นน้ำหอมลอยเต็มห้องพระบรรทม เจ้าชายสิงหราชทรงหัวเราะชอบหทัย ในความขี้เล่นของเธอ
“ภาวิตหากเจ้ายังฉีดน้ำหอมเช่นนี้ ให้แกข้าทุกวัน ข้าคงหาเงินมาซื้อน้ำหอมแบบนี้มาใช้บ่อยๆไม่ได้แน่ เจ้าใช้น้ำหอมของข้าเหมือนกับเจ้ากำลังใช้สเปร์ยดับกลิ่น ขวดละสิบบาทยี่สิบบาทเลย เจ้านี้มันเหลือทนจริงๆ ภาวิต เจ้าพอได้แล้ว ไปหยิบกระเป๋าเอกสารของข้ามาได้แล้ว ข้าจะเดินไปรอเจ้าที่รถแล้วเจ้าอย่าได้มัวช้าอยู่ล่ะภาวิต”
“พะยะค่ะ องค์สิงหราช”
แล้วเจ้าชายสิงหราชทรงก้าวเดินออกไปจากห้องพระบรรทมอย่างรวดเร็ว ภาวิตเดินไปหยิบกระเป๋าเอกสาร แล้วเปิดกระเป๋าเอกสารพร้อมหยิบอาวุธปืนบาเร็ตต้าพร้อมกระสุนเต็มแม็กกาซีนและชุดแม็กกาซีนสำรองอีกสามชุดซ้อนเก็บไว้ในกระเป๋าเอกสารของเจ้าชายสิงหราช แล้วปิดกระเป๋ากลับตามเดิมแล้วจึงเดินตามเจ้าชายสิงหราชออกจากห้องพระบรรทม ด้วยหัวใจที่วุ่นวายใจในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้...
.............................................................................................................
จบบทที่ 4 ต่อบทที่ 5 แผนการกบฏลอบสังหาร (บทจบ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ