all about us
2) โดนไล่ออก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความค่ะ หลังจากนั้นก็เหมือนเดิมอีก ที่แกก็เมามายเช่นเคยจนถึงตีห้ายี่สิบนาที เราตรวจเชครายละเอียดต่างๆในเลาจ์เสร็จ พี่แพทซิล่า ก็ได้นอนทอดตัวยาวเหยียดเช่นเดิม แต่งานนี้ เฟอร์นิเจอร์ราคาแพงต่างๆ พี่แพทซิล่าถอดเองใส่ถุงเองแล้วอ๊วกแถมด้วย กลายเป็นทองชุปอ้วก!เลยล่ะค่ะ..เราเองแทบทนไม่ไหวเหมือนกัน แต่ยังใจแข็งปิดผนึกถุง แล้ววานน้องๆกรุ๊ปเดิม ลากแกมแบกแกเข้าห้องส่วนตัวอีกรอบ...
แต่คราวนี้ต้องเปิดแอร์แล้วล่ะ เพราะแกเป็นลูกค้า ไม่ใช่ "ลูกนกหลงลังเหมือนตอนที่แล้ว"และเราเองก้อเหนื่อยเลยเอาผ้าขนหนูที่ใช้ในโรงแรมมาปูนอนข้างๆโซฟาที่พี่แพทซิล่า นอนอยู่ หลับสนิทเหมือนตายค่ะ จนมาได้ยินเสียงหนักๆ คุ้นๆ ว่า.."จันๆ ตื่นเดี๋ยวนี้ " ....." เออ" ตรูรู้แล้วว่าต้องทำงาน เดี๋ยวดิ ในใจเราคิดแบบนั้นจริงๆค่ะ เพราะเวลาคนเราเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันหรือเรื่องหนักๆซักอย่าง เรามักจะพูดแบบนี้นี่ในเวลาที่เรากำลังหลับสบายๆ "เธอออกไปเลยนะ!"...เอ๊า ..!มาไล่อีก เราคิดกึ่งหลับกึ่งฝันค่ะ ...
...แต่ภาพที่ออกมาคือ "เราโดนไล่ออกจากงานจริงๆค่ะ"..สาเหตุคือ ทำงานไม่ดี ทำภาพพจน์เสื่อมเสียแก่ทางโรงแรม และพา"คนนอก"มาพักในห้องพักพนักงานโดยไม่มีเหตุอันควร.
เราพยายามบอกเหตุผลและเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น
กฎคือกฎ(กด)ทำให้เราโดนไล่ออกจากงานแบบไม่มีอะไรกู้ได้ ซองเงินเดือนและค่าจ้างงวดสุดท้ายอยู่ในมือ ทั้งๆที่เช้าวันนี้เราต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวรีบทำงาน แต่เรากลับต้องเก็บของ"ส่วนตัว" และรู้สึกอายมากๆ...น้ำตาไหลเลยค่ะ แล้วไม่มีอะไรในหัวเลยในตอนนั้น ...มันว่างเปล่า เสียใจ อาย ..อยากตายเลยล่ะ.. ที่สำคัญ ... เราจะหางานใหม่ที่ไหนดี? ที่เราได้งานที่นี่เพราะบุญคุณแม่หรอกนะ เพราะแม่เป็นเชพอาหารไทยที่พอมีชื่อเสียงตามหน่วยงานโรงแรมบ้าง เลย"จับยัด"ลูกสาวที่หน้าตาพอไปวัดไปวาได้มาทำงานได้เท่านั้นเอง นึกๆไป ก็พอเข้าใจระบบบ้านเมืองเราเน้าะ เป็นแบบนี้ตลอดเลย ไม่ว่าจะหน่วยเอกชนหรือภาครัฐ ...ฮึ..แม้แต่งานเล็กๆน้อยๆ (น่าน..ยังไม่วายประชด!.)..ค่ะ เราโดนไล่ออก... พร้อมความอายในใจและไม่กล้าเจอใคร.... มันทรมานมากนะคะที่เรามาเจออะไรแบบนี้ แถมเรายังบอกกับเพื่อนใหม่ แปลกๆที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้น ให้เป็นที่ขบขันของเพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่แขกที่มาพักด้วย แล้วพี่แพทซิล่าก็ไม่เคยยอมใคร?... ตอนเที่ยงวันนั้น เราโดนผู้จัดการไล่ออกในขณะที่พี่แพทซิล่ากำลังลอยคอในสระว่ายน้ำของทางโรงแรมอยู่อย่างสบายใจ พอเราโผล่หน้าไปให้แกเห็น แกก็โบกมือให้อย่างสบายใจ ..ก็แหง๋สิ แกเปิดห้องพักแล้วนี่ ห้องธรรมดาราคาคนไทยแค่1,500เอง แต่หากเป็นคนต่างชาติ มันจะกลายเป็นราคา2,500บาททันที..
.....สี่โมงครึ่ง..เราเดินมาหาพี่แพทซิล่า..ที่แกมีความสุขใจเหลือเกิน แกจะพูดหยอกคนโน้นคนนี้ตลอด และพูดเสมอว่า"อีนังจันเพื่อนชั้น"หลังจากดื่มไปหลายแก้ว เราตั้งใจดื่มเองค่ะ แรกๆก้อขอเพื่อนรุ่นพี่ที่เคาท์เตอร์บาร์ แต่ข่าวกระจายเร็วเหลือเกินที่หน้าบาร์ ว่า เราโดนไล่ออก!... ความเห็นใจมันก้อมีอยู่บ้างค่ะในตอนนั้น แต่ไม่มีใครอยากมาใกล้เราเลย เพราะกลัวโดนจับตาไปด้วย กลัวติดร่างแหค่ะ ส่วนเราหลังจากเก็บของส่วนตัวแล้ว ก้อมาดูเพื่อนใหม่ที่เธอช่างสำราญอย่างว่า ว่ายน้ำ คุยกับหนุ่มต่างชาติบ้างไปตามเรื่อง
เรานั่งมองพี่เขาไปคิดในใจว่า "ถ้าเราไม่รู้จักพี่คนนี้ เราคงไม่โดนไล่ออกจากงาน" แต่ในสำนึกจริงๆแล้ว ก้อคิดว่า "ทำไมพี่แพทซิล่าแกมีความสุขจัง?" เราเผลอนั่งมองแกจนพี่คนนึงที่เป็นผู้จัดการใหญ่มาสะกิดที่ไหล่แล้วยื่นนามบัตรของ โรงแรมดังแห่งหนึ่งให้ พร้อมบอกว่า "ถึงเวลาที่เธอต้องบินแล้ว"...
*ตอนต่อไปคือการงานที่ดีขึ้นค่ะพร้อมกับชายหนุ่มที่เรารักเขา พร้อมทั้งมิตรภาพระหว่างเรากับพี่แพทซิล่าได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจัง.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ