Angel's quest Part I Staff of angel
7.2
20) Saff of angel บทที่20 เริ่มต้นการเดินทาง(ตอนจบ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความAngel Fantasy
บทที่20
เช้าตรู่ของวันใหม่ วายุรีบลงจากหอนอนทันทีที่ตื่น เขากะจะไปขอโทษเรื่องที่เมื่อคืนเขากำลังจะเตรียมของแต่หาเป้ไม่เจอ อุปกรณ์ทุกอย่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย วายุแทบจะบ้าเมื่อจะเดินทางแล้วของทุกอย่างหายไปหมด
เมื่อลงถึงด้านล่างที่แผนกต้อนรับ ครูแร็กทิวมารอพร้อมครูอลิซแล้ว เมื่อทั้งสองเห็นสีหน้าของวายุ ทั้งสองก็อมยิ้ม ทำให้เขาเริ่มสงสัย
“เอ่อ ครูแร็กทิวครับ ของผมหาหมด สงสัยว่าพวกเพื่อนๆแกล้งผม”
ครูอลิซกลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกแล้ว เธอระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง ดังจนพวกเอลที่เพิ่งลงมาตกใจตามๆกัน
“นี่ไงวายุ ครูใช้คาถาจัดของให้แล้ว”
ครูอลิซชี้ที่กระเป๋าสะพายสี่ใบที่ตั้งอยู่ มันมีขนาดเล็กจนวายุไม่แน่ใจว่ามาจะเก็บเสื้อผ้าสัมภาระของเขาได้หมด ใจเขาอยากไปค้นมันดูจริงเลย
“ไว้ใจได้ มันกว้างกว่าที่คิด เอาว่าภายในมันกว้ากว่าห้องนี้เสียอีกนะวายุ”
“ครูใหญ่เรียกพวกหนูมาทำไมคะ”
เสียงเบลล่าดังขึ้นเมื่อทันทีที่ลงมาจนถึงชั้นล่าง พวกเธอแค่ได้รับข้อความให้ลงมาพบครูใหญ่ตอนเช้าของวันนี้ แต่ไม่มีเหตุผลที่ให้มาพบ
“เอาว่าวันนี้พวกเธอจะต้องทัศนศึกษากันนานหน่อยนะ ไปวันนี้เลย ในเมื่อทุกคนพร้อมแล้วก็ออกเดินทางได้”
‘อะไรวะ ตูยังไม่หายง่วงเลย แล้วจะไปกับอะไรวะ’
พวกเอลเองก็ไม่ต่างจากวายุเท่าไหร่ พวกเธอยังคง งง มันเป็นคำสั่งไม่คาดฝัน(เผด็จการ) พวกเธอยังไม่รู้ลวงหน้าด้วยซ้ำ แล้วยังต้องไปกันทันทีที่รู้ดชเรื่อง และพวกเธอรวมทั้งวายุสงสัยภายในใจว่า ครูใหญ่คนนี้ บ้าหรือเปล่า
“ครูไม่ได้บ้า เอางี้พอขึ้นตู้โดยสารแล้วครูจะอธิบายเรื่องทั้งหมด”
ครูใหญ่แร็กทิวอธิบายให้ทั้งหมดเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับการเดินทางและเรื่องของวายุ ทำให้เอลรู้สึกโกรธวายุขึ้นมานิดหน่อย แต่พอฟังเหตุผลที่ต้องให้วายุปกปิดจากครูแร็กทิว เหตุการณ์ทุกอย่างก็คลี่คลาย
นี่เป็นครั้งแรกที่วายุออกจากสถาบันในเวลาเกือบเดือน แต่ยังดีที่ครูอลิซยังอยู่ข้างวายุ ทำให้เขาสบายใจมากขึ้น รวมทั้งมีที่ปรึกษาปัญหาต่างๆด้วย(วายุคิดว่าเขาจะไม่ปรึกษาแร็กทิวเด็ดขาดยกเว้นเรื่องเวทมนต์ของบลู) วายุไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมครูแร็กทิวห้ามเขาไม่ให้บอกครูอลิซเรื่องบลู แต่กลับบอกเองซะงั้น เขารู้สึกว่าครูแร็กทิวไม่ใช่แค่เซอ แต่ยังบ้า เว่อ สารพัดที่จะนึกออกเก่ยวกับความติ๊งต๊อง
“วายุ นายเคยเห็นผียายแก่ที่วิหารใช่ไหม”
“ใช่ ยายแก่นั่นมีผมขาว ใส่ชุดขาว มีไม้เท้าจางๆนะผมคิดว่า”
“ถูกเผง ผียายแก่นั่นคงเป็นผู้ดูแลวิหารแน่ๆ ที่พลีชีตนเองปกป้องคทา”
“แล้วครูแร็กทิวอย่าบอกนะว่าจะให้ไปถามเรื่องคทากับผียายแก่นั่น”
“ฉลาดนี่”
วายุเกาหัว เขาไม่อยากพบผียายแก่อีก มันเป็นสิ่งไม่ค่อยน่าปลื้มเท่าไหร่ ที่รู้ๆคือยายแก่นั่นเรียกเขามาที่นี่ ความคิดของแร็กทิวอาจจะถูก
‘โอ้ย นี่ตูคิดอะไรตามแร็กทิวไปแล้วรึไง จะบ้าตามตานั่นไปแล้วรึวะ’
“ใช่วายุ เธอจะบ้าตามชั้นแล้ว”
วายุหน้าซีดเผือก เขาโดนอ่านใจอีกแล้ว ครั้งนี้แร็กทิวอ่านที่เขาแอบคิดลับหลังอีกด้วย แล้วทันใดก็นึกขึ้นได้
“นายนึกขึ้นได้ว่าจะให้ชั้นสอน การปิดใจ ใช่ไหม”
“ครับ ใช่ ถูกต้องที่ซู้ดดด”
“เอาละ ก่อนจะไปถึงวิหาร งั้นนายลองวาดกำแพงหนาๆไว้ในใจ”
วายุลองทำอย่างนั้นดูกำแพงหนาๆทำด้วยอิฐที่เขาวาดไว้ในใจกำแพงนั้นมีขนาดสูงใหญ่ แต่จู่ๆก็พังลงไปในช่วงพริบตา
“สมาธิยังวอกแวก เธอต้องใช้สมาธิมากกว่านี้ เอาไหนลองดูใหม่”
เจนนี่นั่งลูบนิมสีขาวของเธอ เธอรู้สึกอะไรบางอย่างกับครูใหญ่คนนี้ โดยที่แน่ๆเธอรู้สึกว่าแร็กทิวไม่ใช่พ่อเธอแน่นอน
พ่อแท้ๆของเธอเคยบอกว่าเธอมีพี่ชายคนนึงที่หลังจากแม่คลอดเจนนี่ได้ พ่อกับแม่ของเธอก็แยกทางกันโดยเจนนี่ไปอยู่กับพ่อ แม่ของเธอก็ได้เอาพี่ชายของเธอไป ตั้งแต่วันนี้เวลาผาไปเป็นสิบๆปี เจนนี่ไม่มีโอกาสพบหน้าแม่และพี่ชายซึ่งตอนนี้เธอก็ยังจำหน้าแม่และพี่ชายไม่ได้แล้ว เธอในตอนนี้สงสัยว่าแร็กทิวนิสัยเหมือนพ่อของเธอเป็นพี่ชายเธอหรือเปล่า ส่วนแร็กทิวก็ได้อ่านความคิดนั้นแล้วเขายิ่งต้องใช้เวลาพิสูจน์กับเจนนี่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าตนมีน้องสาวหรือไม่ เพราะแม่ที่เพิ่งตายไปไม่เคยบอกไว้
“ผมยังไม่ยอมแพ้หรอกครับ”
“พอก่อนเถอะ ชั้นเบื่อแล้ว”
“ได้ไง ตอนนี้กำลังคึกนะครับ”
“แต่ชั้นหน่ายเต็มทน”
“อย่าเพิ่งเบื่อสิ ผมยังไหวน่ะ”
“พอก่อนเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้วกันพอดี นายรับมือการทะลวงจิตไม่ไหวแล้วเชื่อเหอะวายุ”
“แต่ว่า...”
“พอเถอะวายุ จริงอย่างที่เขาบอกนั้นแหละ นายจะหมดแรงเสียก่อนนะ วันนี้คงต้องเหนื่อยทั้งวัน”
วายุถอนใจ เขาครางอย่างสิ้นหวังในเมื่อครูอลิซยืนยันด้วยตัวเอง เขาจึงไม่มีปัญญาที่จริงถกเถียงตอบโต้ได้เลย
“ดูเหมือนว่าหมอนี่จะติดเธอนะอลิซ”
“คงงั้นแหละค่ะ หมอนี่ติดชั้นเหมือนลูกติดแม่เลยค่ะ”
“พูดงี้ผมเคืองนะเจ๊”
ทั้งหมดหัวเราะสนุกสนาน ทุกคนยกเว้นวายุที่รู้ความหมายของคำว่า ‘เจ๊’ ทำให้เขาได้เปรียบโดยไม่รู้ตัว แต่แล้วเสียงสัญญาณดังขึ้นบ่งบอกว่าทั้งหมดได้มาถึงวิหารแล้ว การเดินทางครั้งใหญ่ก็เริ่มต้นเสียที
จบภาค 1
โปรดติดตาม Angel Fantasy ภาคStaff of angel ภาค2ต่อนะครับ
imppreal
บทที่20
เช้าตรู่ของวันใหม่ วายุรีบลงจากหอนอนทันทีที่ตื่น เขากะจะไปขอโทษเรื่องที่เมื่อคืนเขากำลังจะเตรียมของแต่หาเป้ไม่เจอ อุปกรณ์ทุกอย่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย วายุแทบจะบ้าเมื่อจะเดินทางแล้วของทุกอย่างหายไปหมด
เมื่อลงถึงด้านล่างที่แผนกต้อนรับ ครูแร็กทิวมารอพร้อมครูอลิซแล้ว เมื่อทั้งสองเห็นสีหน้าของวายุ ทั้งสองก็อมยิ้ม ทำให้เขาเริ่มสงสัย
“เอ่อ ครูแร็กทิวครับ ของผมหาหมด สงสัยว่าพวกเพื่อนๆแกล้งผม”
ครูอลิซกลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกแล้ว เธอระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง ดังจนพวกเอลที่เพิ่งลงมาตกใจตามๆกัน
“นี่ไงวายุ ครูใช้คาถาจัดของให้แล้ว”
ครูอลิซชี้ที่กระเป๋าสะพายสี่ใบที่ตั้งอยู่ มันมีขนาดเล็กจนวายุไม่แน่ใจว่ามาจะเก็บเสื้อผ้าสัมภาระของเขาได้หมด ใจเขาอยากไปค้นมันดูจริงเลย
“ไว้ใจได้ มันกว้างกว่าที่คิด เอาว่าภายในมันกว้ากว่าห้องนี้เสียอีกนะวายุ”
“ครูใหญ่เรียกพวกหนูมาทำไมคะ”
เสียงเบลล่าดังขึ้นเมื่อทันทีที่ลงมาจนถึงชั้นล่าง พวกเธอแค่ได้รับข้อความให้ลงมาพบครูใหญ่ตอนเช้าของวันนี้ แต่ไม่มีเหตุผลที่ให้มาพบ
“เอาว่าวันนี้พวกเธอจะต้องทัศนศึกษากันนานหน่อยนะ ไปวันนี้เลย ในเมื่อทุกคนพร้อมแล้วก็ออกเดินทางได้”
‘อะไรวะ ตูยังไม่หายง่วงเลย แล้วจะไปกับอะไรวะ’
พวกเอลเองก็ไม่ต่างจากวายุเท่าไหร่ พวกเธอยังคง งง มันเป็นคำสั่งไม่คาดฝัน(เผด็จการ) พวกเธอยังไม่รู้ลวงหน้าด้วยซ้ำ แล้วยังต้องไปกันทันทีที่รู้ดชเรื่อง และพวกเธอรวมทั้งวายุสงสัยภายในใจว่า ครูใหญ่คนนี้ บ้าหรือเปล่า
“ครูไม่ได้บ้า เอางี้พอขึ้นตู้โดยสารแล้วครูจะอธิบายเรื่องทั้งหมด”
ครูใหญ่แร็กทิวอธิบายให้ทั้งหมดเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับการเดินทางและเรื่องของวายุ ทำให้เอลรู้สึกโกรธวายุขึ้นมานิดหน่อย แต่พอฟังเหตุผลที่ต้องให้วายุปกปิดจากครูแร็กทิว เหตุการณ์ทุกอย่างก็คลี่คลาย
นี่เป็นครั้งแรกที่วายุออกจากสถาบันในเวลาเกือบเดือน แต่ยังดีที่ครูอลิซยังอยู่ข้างวายุ ทำให้เขาสบายใจมากขึ้น รวมทั้งมีที่ปรึกษาปัญหาต่างๆด้วย(วายุคิดว่าเขาจะไม่ปรึกษาแร็กทิวเด็ดขาดยกเว้นเรื่องเวทมนต์ของบลู) วายุไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมครูแร็กทิวห้ามเขาไม่ให้บอกครูอลิซเรื่องบลู แต่กลับบอกเองซะงั้น เขารู้สึกว่าครูแร็กทิวไม่ใช่แค่เซอ แต่ยังบ้า เว่อ สารพัดที่จะนึกออกเก่ยวกับความติ๊งต๊อง
“วายุ นายเคยเห็นผียายแก่ที่วิหารใช่ไหม”
“ใช่ ยายแก่นั่นมีผมขาว ใส่ชุดขาว มีไม้เท้าจางๆนะผมคิดว่า”
“ถูกเผง ผียายแก่นั่นคงเป็นผู้ดูแลวิหารแน่ๆ ที่พลีชีตนเองปกป้องคทา”
“แล้วครูแร็กทิวอย่าบอกนะว่าจะให้ไปถามเรื่องคทากับผียายแก่นั่น”
“ฉลาดนี่”
วายุเกาหัว เขาไม่อยากพบผียายแก่อีก มันเป็นสิ่งไม่ค่อยน่าปลื้มเท่าไหร่ ที่รู้ๆคือยายแก่นั่นเรียกเขามาที่นี่ ความคิดของแร็กทิวอาจจะถูก
‘โอ้ย นี่ตูคิดอะไรตามแร็กทิวไปแล้วรึไง จะบ้าตามตานั่นไปแล้วรึวะ’
“ใช่วายุ เธอจะบ้าตามชั้นแล้ว”
วายุหน้าซีดเผือก เขาโดนอ่านใจอีกแล้ว ครั้งนี้แร็กทิวอ่านที่เขาแอบคิดลับหลังอีกด้วย แล้วทันใดก็นึกขึ้นได้
“นายนึกขึ้นได้ว่าจะให้ชั้นสอน การปิดใจ ใช่ไหม”
“ครับ ใช่ ถูกต้องที่ซู้ดดด”
“เอาละ ก่อนจะไปถึงวิหาร งั้นนายลองวาดกำแพงหนาๆไว้ในใจ”
วายุลองทำอย่างนั้นดูกำแพงหนาๆทำด้วยอิฐที่เขาวาดไว้ในใจกำแพงนั้นมีขนาดสูงใหญ่ แต่จู่ๆก็พังลงไปในช่วงพริบตา
“สมาธิยังวอกแวก เธอต้องใช้สมาธิมากกว่านี้ เอาไหนลองดูใหม่”
เจนนี่นั่งลูบนิมสีขาวของเธอ เธอรู้สึกอะไรบางอย่างกับครูใหญ่คนนี้ โดยที่แน่ๆเธอรู้สึกว่าแร็กทิวไม่ใช่พ่อเธอแน่นอน
พ่อแท้ๆของเธอเคยบอกว่าเธอมีพี่ชายคนนึงที่หลังจากแม่คลอดเจนนี่ได้ พ่อกับแม่ของเธอก็แยกทางกันโดยเจนนี่ไปอยู่กับพ่อ แม่ของเธอก็ได้เอาพี่ชายของเธอไป ตั้งแต่วันนี้เวลาผาไปเป็นสิบๆปี เจนนี่ไม่มีโอกาสพบหน้าแม่และพี่ชายซึ่งตอนนี้เธอก็ยังจำหน้าแม่และพี่ชายไม่ได้แล้ว เธอในตอนนี้สงสัยว่าแร็กทิวนิสัยเหมือนพ่อของเธอเป็นพี่ชายเธอหรือเปล่า ส่วนแร็กทิวก็ได้อ่านความคิดนั้นแล้วเขายิ่งต้องใช้เวลาพิสูจน์กับเจนนี่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าตนมีน้องสาวหรือไม่ เพราะแม่ที่เพิ่งตายไปไม่เคยบอกไว้
“ผมยังไม่ยอมแพ้หรอกครับ”
“พอก่อนเถอะ ชั้นเบื่อแล้ว”
“ได้ไง ตอนนี้กำลังคึกนะครับ”
“แต่ชั้นหน่ายเต็มทน”
“อย่าเพิ่งเบื่อสิ ผมยังไหวน่ะ”
“พอก่อนเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้วกันพอดี นายรับมือการทะลวงจิตไม่ไหวแล้วเชื่อเหอะวายุ”
“แต่ว่า...”
“พอเถอะวายุ จริงอย่างที่เขาบอกนั้นแหละ นายจะหมดแรงเสียก่อนนะ วันนี้คงต้องเหนื่อยทั้งวัน”
วายุถอนใจ เขาครางอย่างสิ้นหวังในเมื่อครูอลิซยืนยันด้วยตัวเอง เขาจึงไม่มีปัญญาที่จริงถกเถียงตอบโต้ได้เลย
“ดูเหมือนว่าหมอนี่จะติดเธอนะอลิซ”
“คงงั้นแหละค่ะ หมอนี่ติดชั้นเหมือนลูกติดแม่เลยค่ะ”
“พูดงี้ผมเคืองนะเจ๊”
ทั้งหมดหัวเราะสนุกสนาน ทุกคนยกเว้นวายุที่รู้ความหมายของคำว่า ‘เจ๊’ ทำให้เขาได้เปรียบโดยไม่รู้ตัว แต่แล้วเสียงสัญญาณดังขึ้นบ่งบอกว่าทั้งหมดได้มาถึงวิหารแล้ว การเดินทางครั้งใหญ่ก็เริ่มต้นเสียที
จบภาค 1
โปรดติดตาม Angel Fantasy ภาคStaff of angel ภาค2ต่อนะครับ
imppreal
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ