Angel's quest Part I Staff of angel
19) Staff of angel บทที่19 คิดจะไปก็ไป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความAngel Fantasy
บทที่19 คิดจะไปก็ไป
“เนี่ยนะหรอ แฟร์รี่สีฟ้า”
วายุอุทานอย่างแปลกใจเมื่อเห็นแฟร์รี่ตัวจิ๋วบินล่องลอยด้วยปีกของมันที่มีลักษณะเรียวยาว2คู่ คู่แรกอยู่ด้านบนใหญ่ยากกว่าคู่ด้านล่าง และปีกทั้งสี่ก็กระพือเร็วจนมองไม่ทัน(วายุเห็นปีกทั้งสี่ตอนที่เจ้าแฟร์รี่น้อยทะยานขึ้นโดยไม่กระพือปีก)
“ใช่ ดูท่าทางจะเป็นตัวเมียซะด้วย”
ครูใหญ่แร็กทิวสมทบความคิด เขาก็เคยเห็นแฟร์รี่สีฟ้าเต็มๆตาเช่นกัน ที่ผ่านมาเขาเคยเห็นแต่สีเขียว เพราะมันมีอยู่ตามป่าที่อุดมสมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่แล้วแฟร์รี่สีฟ้ามักจะอยู่ตามแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์สะอาดมากๆและมีสายรุ้งปรากฏให้เห็นตลอดวัน
“แหมๆพูดจาไม่ดีเลย นี่เขาเรียกว่าผู้หญิงนะเจ้าค่ะ ไม่ใช่ตัวเมียอย่างคุณเจ้าชายพูดกัน ขอให้พูดใหม่ด้วยนะเจ้าค่ะ ข้าชื่อบลูนะเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าเจ้านายชื่ออะไรเจ้าค่ะ บลูจะได้เรียกถูกเจ้าค่ะ”
แฟร์รี่น้อยสะปัดชายผมยาวของเธอพูดซะยาวทันทีที่เธอมีโอกาสคุยบ้าง แต่เธอกลับมีท่าทีดุแร็กทิวที่เรียกเธอว่า ‘ตัวเมีย’ เธอไม่ชอบมันเอาเสียเลย
“ชั้นชื่อวายุ นะ สวัสดี”
“เอ่ย..ข้าก็สวัสดีเจ้านายเช่นกันเจ้าค่ะ นี่ๆต้องการให้ข้าน้อยช่วยอะไรก็บอกได้นะเจ้าค่ะ ข้าน้อยทำได้ทุกอย่างไม่วาจะเป็นทำกับข้าว ซักผ้า ถูบ้าน แม้กระทั่งเลี้ยงน้อง ข้าน้อยก็ทำได้เช่นกันนะเจ้าค่ะ ไม่อยากจะบอกเจ้าค่ะ ฮะๆๆๆๆๆๆ”
\ “นังบลูนี่พูดมากเป็นบ้าเลย”
บลูเสกให้ปากกากระเด็นใส่ครูใหญ่แร็กทิว เขาหลบได้หวุดหวิด แล้วหลังจากนั้นของก็ระวังมันมากขึ้น
“โทษฐานพูดไม่ดีกับบลูนะเจ้าค่ะ”
“เอ่ย บลู หยุดเถอะ คนนี้เป็นคนให้แหวนของเธอกับชั้นเอง เขาทำอะไรปล่อยๆเขาไปหน่อยเถอะ”
“รับทราบเจ้าค่ะ”
ครูแร็กทิวกล่าวขอบคุณวายุ เขาไม่อยากจะทะเลาะกับบลูอีก มันเป็นการไม่ดีเอาเสียเลยเพราะตอนนี้สถานการณ์มันไม่ค่อยดีหลังจากอาทีน่าก่อเรื่องขึ้นมา เขายิ่งต้องระวังภัยแก่สถานบันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะความปลอดภัยของนักเรียน โดยให้มีการเสกคาถาคุ้มครองวัตถุมืดทุกชนิดไว้เรียบร้อยแล้ว
“เอาล่ะ เข้าเรื่อง ที่ชั้นให้บลูแก่นาย ไม่ใช่ให้ไว้คุยเล่นนะ แต่บลูสามารถคุ้มครองนายได้ และเป็นพลังให้นายด้วย อีกไม่นานหรอก นายจะสามารถให้พลังนั้นได้อย่างคล่องแคล่ว และบลูก็จะพัฒนาขึ้นไปด้วย ตอนนี้บลูอยู่แค่ขั้นแรก ขึ้นสุดท้ายจะเป็นขั้นสามที่พลังสูงสุด ทีนี้นายวายุ จงเตือนตัวเองไว้เสมอว่า อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า นายจำได้ไหม”
“จำได้ครับ”
“เอานี่ไปด้วย”
ครูแร็กทิวหยิบหนังสือปกฟ้าเล่มหนาเขียนว่า “คู่มือเลี้ยงแฟร์รี่สีฟ้า” เขาอ่านมันเสียงดังก่อนที่วายุจะรับมันไป ครูแร็กทิวนึกเสียดายอยู่เหมือนกันเพราะหนังสือเล่มนี้ถือว่าหายยากไม่แพ้แฟร์รี่สีฟ้าเท่าไหร่
“หลังจากนี้ นายไม่ต้องท่องคาถานั้นแล้วนะ นายแค่บอกให้มันกลับ มันก็กลับไปยังแหวน ถ้านายเรียกมันออกมา มันก็ออกมา”
“แล้วสมมุติว่าผมจะคุยกับมันโดยไม่เรียกได้ไหม”
“แน่นอน”
“ดีเลยครับ ผมรู้สึกตื่นเต้นใช้ได้เลย”
“งั้นก็ดี นายไปได้แล้วแต่อยาลืมเรียกมันกลับด้วยนะ อย่าให้ใครเห็นมันเชียวนะ รวมทั้งอลิซด้วย”
“แต่...”
“ไม่มีแต่นะวายุ เธอรับปากชั้นได้ไหม”
“ได้ครับ”
วายุเดินออกมาจากห้องของครูแร็กทิว ตอนนี้บลูกลับเข้าไปในแหวนสีฟ้าของเขาแล้ว เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันเฝ้ามองเขาอยู่ตลอดเวลา ในแหวนแห่งนี้มีเนื้อที่สำหรับบินเล่นไม่รู้จบ และยังสามารถนอนหลับได้อย่างอบอุ่น ถือว่าแฟร์รี่ตัวนี้มีความสุขไม่แพ้แฟร์รี่ที่อยู่ในถิ่นที่อยู่โดยธรรมชาติเลย
“เธอเป็นบ้างบลู”
วายุกระซิบถามแฟร์รี่ของเขาโดยที่บลูยังไม่ทันตั้งตัวเลย มันตอบช้าไปหน่อยแต่เขาก็สบายใจ มันไม่ได้เบื่อเขานี่
วายุย่างเท้าลงบันได ด้านล่างครูอลิซรออยู่แล้ว เธอถามทันทีที่เห็นวายุ แต่เขาจำคำของครูใหญ่ได้ วายุจำต้องโกหกไปแต่ครูอลิซก็ไม่สงสัยเท่าที่ควร แต่วายุเองก็ไม่รู้สึกสบายใจเท่าไหร่
“ครูใหญ่ให้บอกเธอว่า เธอต้องไปพบเขาทุกเย็นที่ห้องทำงาน เขาบอกเธอรึยัง”
“ยังครับ”
“ทำไมเขาไม่บอกเธอเองล่ะ ชั้นไม่เข้าใจจริงๆ เมื่อครู่ก็ไม่ยอมบอก เขาลืมอะไรรึเปล่า”
“ผมก็ไม่รู้”
“อย่างงี้แหละวายุ แร็กทิวเป็นคนที่อ่านใจยากอยู่หรอก ตั้งใจทำอะไรโดยที่คนอื่นไม่เข้าใจ มันบ้างชัดๆเลย”
“บางทีนะครับ ผมว่าตาคนนี้คงอยากช่วยนะครับ เพราะเขาบอกผมว่า เขารู้เรื่องผมก่อนครูรู้เสียอีก”
“นั่นสิจะปกติ เขาอ่านใจคนได้นะ รู้พลังอีกด้วย ตานี่ร้ายชะมัด เพราะแบบนี้ชั้นไม่อยากจะเข้าไปในห้องบ้านั่นไง ตานั่นเขาไม่เคยพลาดการอ่านใจคนรอบข้างหรอก”
“ผมก็ว่างั้น”
วายุนึกถึงตอนที่ครูแร็กทิวบอกความสามารถของตนเอง เขาคิดว่าครูแร็กทิวอ่านใจบลูทำให้ยั่วโมโหบลูได้ถูกจุด เขาขนลุกกรูเพราะความลับต่างๆที่อยู่ในโลกเขาโดนอ่านด้วยหรือเปล่า ความลับที่บอกใครไม่ได้เลย ความลัของวัยรุ่นคนนึงที่ต้องปิดเป็นสิ่งที่ลับเฉพาะตน
“ครูอลิซครับ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว กลับหอสมุดดีกว่า”
“ก็ดี งั้นไปกัน”
ครูอลิซเดินนำวายุไป เขารู้สึกว่าหอสมุดอยู่ใกล้ในเมื่อเขาใช้เส้นทางนี้ออกจะบ่อย วายุเริ่มชินกับวิถีชีวิตแบบนี้ และความต้องการจะกลับบ้านกลับเลือนหายไปแล้ว เขาอยู่ที่นี่ได้แค่สองวันเท่านั้น กลับมีความสนุกและรู้สึกว่ามันนานกว่าที่โลกของเขาเยอะเลย แต่ไม่นานเขาคงชินไปเอง
หลังจากกลับไปหอสมุด พวกเอลกำลังรอเขาอยู่แล้ว เบลล่ากับเจนนี่กำลังอ่านหนังสือที่ชอบบนโต๊ะอ่านหนังสือ ส่วนเอลยืนรอเขาอยู่ วายุรีบเดินเข้าไปหาเธอกันทีจนโดนครูอลิซแซวก่อนที่เธอจะจากไปทำภารกิจของบรรณารักษ์
“เธอเป็นอะไรไหม”
“เปล่านี่”
เอลพาวายุเดินออกไปนอกหอสมุด เธอดูเป็นมิตรกว่าครั้งก่อน และวายุเองก็วางใจเธอมากขึ้นเหมือนกับเขาจะรู้ว่าเธอจะไม่พยายามฆ่าเขาอีกแล้ว
“ครูอาทีน่าไม่น่าเป็นอย่างงั้นเลย ครูอาทีน่าที่ชั้นรู้จักใจดีจะตาย นั่นคงไม่ใช้เธอแน่”
“ไม่หรอกเอล อาทีน่าคนนั้นเป็นอย่างนั้นอยู่ก่อนแล้ว แร็กทิวบอกฉัน”
“ครูใหญ่นั้นหรอ จะไปรู้อะไร แค่คนธรรมดานั่นแหละ”
“เธอกำลังเข้าใจผิดเอล เขาเก่งมากนะ แม้เขาจะดูเซอๆไปหน่อยเหอะ”
“งั้นหรอ งั้นชั้นคงต้องดูเขาใหม่แล้ว แล้วนี่จะว่าอะไรไหมถ้าจะบอกว่า ชั้นต้องไปเรียนก่อน”
“ไม่มีปัญหานี่ ตามสบายเอล”
ทั้งสองพากันกลับมาที่หอสมุดอีกครั้ง โดยที่เอลมาตามพวกเพื่อนๆของเธอ ส่วนวายุเองก็รู้สึกว่าระหว่างทั้งสอง เยื่อใยบางๆคงเกิดขึ้นแล้วโดยที่เขาไม่นึกไม่ฝันเลย
หลังจากนั้นพวกเอลก็ได้มาหาเขาที่หอสมุดทุกวัน และตกเย็นเขาเองก็ไปหาครูแร็กทิวทุกวัน โดยที่ครูแร็กทิวให้เขาฝึกใช้บลูให้เป็น คาถาต่างๆเขาจำได้ยังไม่เยอะพอสมควร เขาเปิดคู่มือเลี้ยงแฟร์รี่สีฟ้าอ่านทุกคืนเหมือนกันแต่เขายังมีปัญหาบางอย่างที่แก้ไม่ได้เช่น การแก้ปัญหาเมื่อแฟร์รี่สีฟ้าไม่ยอมกลับแหวน มันเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว บางครั้งเขาและครูแร็กทิวช่วยกันกล่อมบลูอยู่ตั้งนานกว่ามันจะยอมกลับเข้าแหวน ครูแร็กทิวบอกเขาว่ามันยังเด็กคงซนได้ซักพวกแต่ไม่นานก็เลิกดื้อ ตอนนี้บลูเองก็ว่านอนสอนง่ายขึ้นเยอะ เสียอย่างเดียวปากเจ้าแฟร์รี่ตัวนี้หุบไม่ค่อยจะได้ เพราะมันไม่ได้ออกมาพูดคุยกับใคร มันคงอยากระบายเต็มที่เรื่องนี้วายุไม่ขัดข้องแต่แร็กทิวรับไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ เขามักจะบ่นว่าแฟร์รี่ปากยืดไม่ยอมหดซักที(สำนวนเซอๆของเขาเอง”
วันนี้ก็เหมือนเดิม แค่เวลานับจากที่วายุมาอยู่ที่นี่ผ่านไปเกือบเดือนแล้ว วายุสามารถปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตนี้ได้ เขายังสามารถใช้เวทมนตร์จากบลูได้คล่องแคล่วบางบท เช่น การให้บลูยิงพลังทำลายให้เป้าหมายอย่างรวดเร็วและรุนแรงพอควร คาถาบทนี้สามารถกระแทกสุนัขตัวใหญ่กระเด็นไปเลยได้ แล้วยังมีคาถารักษาขั้นแรก ที่รักษาแผลเช่น มีดบาด หกล้ม ให้หายได้ชั่วพริบตา และคาถาที่วายุต้องใช้พลังของเขาเองด้วย โดยที่จะมีแสงออร่าสีฟ้าครอบคลุมมือเขา ทำให้สามารถปล่อยพลังทำลายสีฟ้าได้รุนแรงพอๆกับคาถาบทแรก ครูแร็กทิวบอกว่ามันคือคาถา ‘เปลวไฟสีฟ้า’ อีกหน่อยสามารถทำให้เขาบินได้ แต่ตอนนี้บลูยังเด็ก คาถาเปลวไฟฟ้านี้ต้องใช้พลังงานมากทั้งบลูและวายุ ทำให้ใช้ได้ไม่เกิน 5 นาที คาถาก็หมด
“บลู เปลวไฟสีฟ้า”
“รับทราบเจ้าค่ะ”
มือของเขามีออร่าคล้ายเปลวสีฟ้าขึ้นมาทันที เขาเคลื่อนที่เข้าโจมตีกระสอบทรายที่ครูแร็กทิวจัดไว้ให้หลายอัน เขาต่อยกระสอบทรายอันหนึ่งมันกระเด็นออกไปอย่างแรงและเขายังต่อยกระสอบทรายอีกอันภายในเสี้ยววินาที(กระสอบทรายแต่ละอันอยู่ไกลพอควร)
ตุบ!!ตุบ!!ๆๆๆๆๆๆๆ
เมื่อครบห้านาทีวายุและบลูก็มากองอยู่ที่พื้น แต่ได้รับการปรบมือจากครูแร็กทิวตอบแทนเพราะเขาเห็นว่าวายุทำได้ดีกว่าครั้งก่อน ครูแร็กทิวให้เวลาวายุพักเหนื่อยหายใจซักครู่ก่อนที่จะเริ่มการพูดคุยติชม
“วันนี้ถือว่าดีกว่าเมื่อวานนะวายุ บลูเองก็สามารถส่ายคาถาได้อย่างรวดเร็ว โดยรวมคือ ดี”
“ขอบคุณครับ แต่ทำไงที่ผมกับบลูจะใช้คาถาเปลวไฟสีฟ้าได้นานกว่านี้ครับ”
วายุพูดทั้งๆที่ยังหอบอยู่ บลูเองก็ยังประคองตัวเองให้ลุกขึ้นไม่ได้ พูดง่ายๆคือทั้งสองหมดสภาพต่อสู้นั่นเอง
“จนบลูจะพัฒนาขึ้นอีกขั้นนั่นแหละ เธอคงจะเติบโตขึ้นด้วยนะวายุ”
“แล้วเมื่อไหร่หรอครับ ที่จะถึงเวลานั้นครับ”
“อันนี้ชั้นก็ไม่รู้หรอก แต่ยังไงซะ พวกเธอก็ต้องฝึกหนักเพราะอีกไม่นานหรอกชั้นว่า พวกดาร์กคงจะเคลื่อนไหวแล้ว”
“พวกมันจะทำอะไรกับครับ”
“สิ่งล่าสุดที่ทำไปคือทำลายวิหาร ถ้าไม่นับที่พยายามฆ่าเธอ ชั้นว่ามันคงต้องการคทา แย่แล้วซิ”
“แล้วคทาที่ว่าเอาไว้ทำอะไรหรอครับ”
“พวกมันต้องการชิ้นส่วนของสี่เซ็ตนางฟ้า”
“ไม่เห็นเข้าใจเลยครับ มันจะเอาไว้ทำอะไร”
“เพื่อปลดปล่อยเทพของพวกมันที่ถูกจองจำ ถ้าตำนานพูดไม่ผิด ตอนนี้พวกเราคงจะแย่แล้ว ถ้าเกิดมันได้คทานั้นไป แย่แน่ๆ”
“ผมจะขออาสาไปเอามันเองครับ”
“ไม่ดีหรอกวายุ เธอคนเดียวไม่ไหวหรอก ต้องให้มีครไปด้วย”
“แล้วจะทำยังไง คนที่ว่าก็ยังไม่น่าไว้ใจครับ แล้วผมคิดว่าเรื่องนี้น่าเก็บให้เป็นความลับมากที่สุด”
“งั้นเธอคงเพิ่มจำนวนคนรู้เรื่องเธอหน่อยแล้วแหละวายุ”
วายุเอียงคอทำหน้าเชิงสงสัย แร็กทิวพูดเป็นปริศนาแก่เขาเสมอ ครั้งนี้ก็ด้วย วายุยังไม่เข้าใจที่แร็กทิวพูดเลย เขายังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องอีกแต่ไม่กล้าปฎิเสธแร็กทิวเท่าไหร่
“ดูเหมือนเธอคงไม่อยากให้ใครรู้เรื่องมากนักใช่ไหม”
“เอ่อ..”
วายุแก้ตัวไม่ถูก เขาเลยไปชั่วขณะ ว่าแร็กทิวมีความสามารถอ่านใจคนได้ แล้วเขารั้วทันทีว่าถูกอ่านใจไปสดๆร้อนๆ
“ไม่ต้องห่วงวายุ คนที่ชั้นจะบอกคือคนที่เธอน่าจะรู้จับดีกว่าชั้นอีก”
“ใครละครับ”
“ก็สาวที่นายแอบปลื้มไง”
“เอ่อ..”
วายุงุมๆงำๆเขาพูดไม่ถูก เขารู้ตัวเลยว่าถูกอ่านใจอีกแล้ว อีกอย่างเขาก็ปิดใจตัวเองไม่เป็นซะด้วย เขาอยากปิดใจเป็นมากๆเลยในตอนนี้
“ใช่ อีกหน่อยชั้นจะสอนวิชาปิดใจให้ เอาละๆ คนที่ชั้นจะบอกคือ เอล และเพื่อนๆของพวกเธอ”
“อย่าเด็ดขาดนะครับ ผมไม่อยากให้พวกนั้นเสี่ยงด้วย”
“ไม่ต้องห่วงไงวายุ พวกนั้นเขาอาจเหนือชั้นกว่านายอีกนะ ใครจะรู้ เอาว่าพวกนั้นเป็นเพื่อนร่วมทางของนายละกัน เดี๋ยวชั้นจะให้เวลาพวกนายคืนนึง พรุ่งนี้ออกเดินทาง”
“ไม่เร็วจังเลยล่ะ”
“มันชักช้าไม่ได้แล้วไงวายุ”
“แล้วจุดมุ่งหมายล่ะครับ”
“วิหารนางฟ้า”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ