ยมทูตสีขาว ภาคการปฏิวัติของโมโมะ
7.3
3) นรกบนเส้นขอบฟ้า๓
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกริ๊ง...
เมื่อลืมตาตื่น
สิ่งที่ได้เห็นคืน โคมไฟติดเพดานแบบธรรมดาๆ
กลิ่นที่ได้รับคือกลิ่นยาแอลกอฮอล์ ชวนขนลุก
เสียงที่ได้ยินคือ เสียงขลุ่ยในท่วงทำนองเพลง ล่องแม่ปิง
ซอน ซอน ซอน ลา ซอน มี ซอน ลา โด......ซอน ลา ซอน โด ซอน ลา ซอนโด มี เร ซอน มี....ซอน โด เร มี เร มี ซอน มี เร ดด มี เร..........
เด็กสาวลุกขึ้นนั่งก่อนจะพบว่าตนเองอยู่ท่ามกลางแถวเตียงผู้ป่วยที่เรียงตัวกันจากหน้าต่างไปจนถึงผนังอีกฝั่งประมาณ 7 -8 ตัว โดยที่อีกด้านหนึ่งเป็นผ่านม่านบานเลื่อนสีเขียว
นี้เราอยู่ที่ไหนหว่า
...อ๋อ....ห้องพญาบาลนี้เอง ว่าแต่...
ซอน โด เร มี เร มี ซอน มี เร ดด มี เร.......... ซอน ลา โด เร มี เร ซอน เร มี เร ซอน ลา ซอน โด เร มี ........
เสียงดนตรีชวนให้เคลิ้มเล็ดลอดออกมาจาก หลั่งผนังผ้าม่านนั้น ยังคงบรรเลงอยู่
ใครมาเป่าขลุยในนี้ฟะ
เสียงที่ฟังดูน่าลำคาน ทว่าไพเราะ สามารถกล่อมประสาทของเด็กสาวจน เธอไม่มีอารมณ์จะบ่นว่า ‘หนวกหูโว้ย’
แล้วเราเป็นอะไรไปหละเนี้ย
อ๋อ จำได้แล้ว เมื่อเช้านี้เรา....เฮี้อก!!!!
เมธิกาเกิดอาการผวาขึ้นทันทีหลังจากจำเหตุการณ์กระตุกขวัญแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อตอนเช้า
กับประสบการณ์ได้พบสิ่งเหนือธรรมชาติแบบเต็มๆ ตา
จะยังไงก็เถอะ แล้วเรามาอยู่ที่นี้ได้ไงหว๋า
บางทีอาจารย์ห้องพญาบาลมาเห็นเข้าเลยอุ้มเรามานอนอยู่ที่นี้หละมั้ง
เธอคิดแบบนั้น
เอาหละได้เวลาลุกแล้ว กี้โมงแล้วน๋า...บรรลัยแล้ว....เที่ยงกว่า
เด็กสาวถูกเสียงขลุ่ยที่ยังคงบรรเลงเพลงสุดคลาสสิคของคนเจียงใหม่ เกลี้ยกล่อมเสียเพลินจนไม่ทันสังเกตนาฬิกาบนพนังห้อง
ไม่ใช้เวลามาเอ้อระเหยนะเฟ้ย เย็นไว้ๆ ก่อนอื่นจัดผ้าปูกับหมอนก่อน แล้วกระเป๋าอยู่ไหนหละเนี้ย สงสัยอาจารย์แก่เก็บไว้ให้แล้วมั้ง บนพื้นหละ ไม่มีเปลือกกล้วยใช่ไหม ..จะไปมีได้ไงเหล่าโธ่
เด็กสาวแสดงอาการลุกลี้ลุกลน และเมื่อมั่นใจว่าบนพื้นไม่มีเปลือกกล้วยให้เยียบ เธอพุ้งตัวผ่านผ้าม่านออกไป
ทว่า
“อาจาร์ยค่ะ หนู..เออ...”
เหมือนกับว่าโลกทั้งใบหยุดหมุน
เลือดในตัวเหมือนจะถูกแช่แข็ง
คนที่อยู่ตรงหน้าเธอ เป็นเด็กหนุ่ม ชั้น ม.1 กำลังนั่นหลับเป่าขลุ่ยอยู่ เป็นคนที่เมธิการู้จักดี
เด็กสาวที่ผ่านประสบการณ์เสียดนรกมานับครั้งไม่ถ่วน ทั้งไม้หน้าสาม สนับมือ ดาบญี่ปุ่น แม้แต่ระเบิดปิงปอง เธอได้ลิ้มรสความเจ็บปวดจากสิ่งเหล่านี้มาจนชิน ความกลัวต่อสิ่งเหล่านั้นจึงไม่มีอยู่ในความคิดของเธอแม้แต่น้อง
ณ วันนี้ ไม่สิ นับจากคืนงานศพของสันติ เมธิกาต้องเผชิญกับสิ่งที่เธอถูกความกลัวพุ่งเข้าแทงที่หัวใจจน วิญญาณแทบออกจาร่าง
ดวงตาของอสูรกาย
กลิ่นอาย อาฆาต
เด็กผู้ชายคนนั้น
“ฟื้นแล้วก๋า”
เมื่อพบว่าอดีตพี่สะใภ้ ได้สติคืนมาแล้ว อนันต์ก็หยุดบรรเลงขลุ่ยก่อนที่ทักเธอด้วยน้ำเสียงแสนเยือกเย็น
สายตาของเขาจ้องไปทางเมธิกา
“.....”
เด็กสาวกลัวจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
ภายใต้ห้องพญาบาล ไม่มีใครอยู่นอกเหนือจากอนันต์และสาวรุ้นพี่ม.6
เมธิกานึกขึ้นได้
วันนี้อาจารย์ห้องพยาบาลไปทำธุระที่เวียดนามนี้นา ถ้างั้นคนที่หามเรามาก็.....
!!!
ความกลัวกัดกินสติปัญญาของเธอ
“ตะเจ้าผมหันปี้เป็นลนหน้าห้องสมุด เลยถือวิสาสะอุ่มปี้มา สุมาดตยเน้อ”
......
“ถ้าบ่เป็นหยั๋งหละขใจ๋ลุกขึ้นเฮียเน้อ ปี้หลับไปวันค่ำ”
.....
“กำเดียวต่อนบ่ายโมงผมมีคาบเฮียนและ ขอตัวก่อนเน้อ”
.....
“กระเป๋าปี้ผมเอายองไว้ตรงนั้นนะ”
.....
ทุกคำพุดของเด็กชาย เมธิกาไม่สามารถโต้ตอบได้แต่อย่างใด ความเย็นชาของอนันต์ทำให้เธอไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะหายใจ
เราควรจะรู้สึกอย่างไงดี ตรงหน้าเราคือคนที่สูญเสียพี่ชายไปโดยที่เราเป็นต้นเหตุ และก็เป็นคนที่เรารักด้วย แต่เพราะเราไม่ใช้คนดี สุดท้ายแล้ว คนที่รักเราคนนั้นก็ต้องจากไป
ควรจะเป็นฉันมากกว่า
ควรแล้วหละที่น้องจะเกลียดพี่
พี่เองก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน
“เอ้อ...ปี้เมย์ มัแหมอย่าง”
???
“มีมนุษย์ต่างดาว ซ่อนตัวอยู่ข้างๆ ตู้ยานะ ระวังโตยเน้อ”
.....
หา....
เฮ๋....
โอ๋...
เด็กชายทิ้งคำพุดเป็นปริศนา ก่อนจะออกจากห้องไป
บางทีเขสคงจะเดาอารมณ์ของเมิกาออกว่าเธอกำลังหดหู่อย่างแรกเลยยิมุขเข้าให้ก่อนจะหนีไป
ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ
จิตใจที่จมดิ่งอยู่ในท้องทะเลแห่งความทุกข์ของเด็กสาว จู่ๆก็กระโจนขึ้นมาด้วยแรงดึงดูดของ อาการ ‘ไม่เก็ตมุข’
“หา...”
เธอยืนเอ๋ออยู่พักใหญ่ก่อนจะหันไปมองบริเวณที่อนันต์บอก
“ม....มนุษย์ต่างดาว เหรอ”
....
“โอยนี้ฮาจะบ้าแล้วก๋า จะไปมีได้ใดเหล่า มนุษย์ต่าง....อะ”
จู่ๆผนังที่ปูด้วยวอร์เปเปอร์ ที่จริงคือผืนผ้าที่มีสีเดียวกันกับผนังประมาณ 80*90 เซนติเมตร ค่อยๆ ลอกออกมาจากมุม คล้ายวิชาพลางตัวติดกำแพงของนินจา
....
!!!
.....
และเมื่อผืนผ้าถูกลอกออกจนเผยสิ่งที่อยู่ข้างในให้เห็น
ดวงตากลมโต
หมวกรูปทรงประหลาดสีเหลืองมีสัญลักษณ์ดาว5แฉก
รูปร่างเขียวแปลกจนไม่สามารถบรรยายได้
เมธิกาสบตากับสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวหนึ่ง
แล้วมันตัวอะไรฟะเนี้ย
“เคโระ ๆๆๆๆๆ ....ท...ทำไมเด็กคนนั้นถึงรู้ว่าข้าน้อยอยู่ที่นี้ได้หละขอรับ”
เฮื้อก....พูดได้ด้วย
“ช่างเถอะ ในเมื่อความแตกก็ช่วยไม่ได้ เคโระๆๆ... เธอคือ เมธิกา สุขบุญสังข์ สินะขอรับ
โอ้ยตูอยากจะบ้าตาย
“วันนี้มันอะไรกันฟะ เจอแต่ตัวประหลาดตั้งแต่เช้าแล้วนะ แถมยังพูดภาไทยกลางอีก ฟังแล้วมันเจ็บเอวโว้ย”
“เคโระๆๆ.... กล่าวแรงเกินไปแล้วนะขอรับ จริงๆแล้ว ข้าน้อยเป็นยมทูตต่างหากหละขอรับ ไม่ใช่ชาวเคโรนที่คิดจะยึดคลองเพคุปองชะหน่อยนะขอรับ”
“หา....ยมทูต”
“ใช้แล้วขอรับ”
ว่าแล้วร่างของเจ้ากบต่างดาว ก็ค่อยๆเรืองแสงก่อนจะกลายสภาพเป็นเด็กสาว ทั้งเส้นผม ทั้งผิวพรรณขาวนวลน่าเอ็นดู
นั้นยังตัวประหลาดสีขาวที่เจอกันเมื่อเช้านี้หว๋า
แต่คราวนี้สาวน้อยสีขาวคนนั้นอยาในชุดนักเรียนผู้ชาย ด้วยเสื้อสูทสีกรมท่า ตรงหน้าอกมีสัญลักษณ์ คล้ายโรงเรียนไฮโซที่ไหนชักแห่ง ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงยาวสีดำ
ยมทูตที่แต่งเป็นชายล่วงกระเป๋ากางเกง หยิบบัตรบางอย่างบื้นออกมาโชว์ให้เมธิกาดู
“ฉันคือ ยมทูต A100100 ฉันไม่สนใจสนุษย์ธรรมดาหรอก แต่ถ้าใครใกล้ถึงกำหนดตายเต็มที หรือใครที่กำลังจะสูญเสียคนสำคัญไป หรือคนที่เพิ่งจะสุญเสียคนที่รักไป จงมาหาฉันชะ แค่นี้แหละ”
.....
และแล้ว โลกก็หยุดหมุนไปเกือบ50วินาที ก่อนที่แมวดำตัวหนึ่งบินออกมาจากไหนไม่รู้ กระโดดขึ้นใช้ท่ามาสไลเดอร์คิค ถีบสาวน้อยสีขาวกระเด็นตดผนังไป
นั้นคือแมวพูดได้ที่เมธิกาเห็นเมื่อเช้า
“โอ้ย เจ็บนะ ทำอะไรของเธอนะแดเนียล”
“ฉันต่างหากที่อยากจะถามเธอ โมโมะ กำลังทำอะไรอยู่นะ”
“ก็เห็นอยู่ไม่ใช้เหรอ กำลังเล่นเป็นฮารูฮิอยู่ไง “
“เรื้องนั้นฉันรู้ แต่ว่าโมโมะ ที่เธอกำลังคอสอยู่นะ มันฟูจิโอกะ ฮารูฮิ (โอรัน โฮสต์คลับ) ไม่ใช่ สึซึมิยะ (เรียกเธอว่าพระเจ้า สึซึมิยะ ฮารูฮิ”
“เอ๋...งั้นก็แปลว่ามีฮารูฮิ 2 คนงั้นเหรอ...แล้วฉันก็คลอสสผิดคนด้วย ว้ายหน้าแตกเลยฉัน”
ทั้ง2คนซึ่งกำลังยิงมุขกันอยู่นึกขึ้นได้ว่าพวกเขากำลังทำให้เด็กสาวอยู่ในอาการ ‘ไม่เก็ดมุข’ อยู่ได้ตั้งนานก่อนที่ทั้งคุ่จะบ่มงึมงำว่า
“ชิ พวกคนธรรมดา ไม่มีทางเข้าใจธรรมชาติของโอตาคุอย่างพวกเราหรอก”
“?????? โอตาคุ ????”
“ช่างเถอะๆ เรื่องนั้นไวก่อน ก็อย่างที่แนะนำตัวไป แต่จะเรียกฉันว่าโมโมะก็ได้จ๊ะ 100สองตัวเรียกต่อกันป็น โมโมะไง”
“อ้าวไม่ได้อ่านว่า เฮียกคุเบียกคุหรอกเหรอ”
“นั้นแหละจ๊ะ”
เอ๋...
เอ๋อ...
โอ๋...
“ด...เดี๋ยวก่อนสิ พวกเธอบอกฉันก่อนสิ นี้มันเรื่องอะไรกันแน่”
“เรื่องอะไรนะเหรอ ก็ ‘ยมทูตสีขาว ฉบับเตรียมตัวโดนฟ้องร้องเอาค่าลิขสิทธ์’ ไงเหล่ายัยทอมเอ๋อ”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น อ๊ะ... เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้เธอพูดว่าเธอเป็นยมทุตเหรอ”
“บะห้าหูหลึ่ง หู่ฮาบอกคิงแล้วบ่ใจ๋ก๋า”
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมแดเนียลถึงรู้ภาเหนือได้แต่ที่แน่ๆ
“ใช่แล้วเมื่อเช้าฉันลื่นเปลือกกล้วยจนหัวกระแทก พอตื่นมาก็เจอยมทูต อะ.. หรือว่า นี้ฉัน...นี้ฉัน....นี้ฉัน...”
“ยังไม่เข้าใจหรือไง”
“เอ๋”
ทันใดนั้นเอง ร่างกายของเจ้าแมวอวดดี ก็ส่งเสียงระเบิดดังปุ๊ง แล้วเปลี่ยนร่างเป็นผู้ชายใหญ่ล่ำที่มีร่างกายกำยำ มีกล้ามเป็นมัดๆ เปลือยท่อนบน ตรงหน้าอกม่รอยแผลเป็นคล้ายถูดใช้นิ้วจิ้มแทง 7จุด เรียงตัวกันคล้ายกลุ่มดาวอะไรชักอย่าง
เขาชี้หน้าไปที่เมธิกา
“แกนะ ได้ตายไปแล้ว”
....
โลกหยุดหมุนไปอีก50วินาที
...
“พอเถอะจ๊ะ อย่าไปอำเขาเล่นแบบนั้นสิจ๊ะ เคนจิโร่... เอ้ยไม่ใช่..แดเนียล”
เมื่อลืมตาตื่น
สิ่งที่ได้เห็นคืน โคมไฟติดเพดานแบบธรรมดาๆ
กลิ่นที่ได้รับคือกลิ่นยาแอลกอฮอล์ ชวนขนลุก
เสียงที่ได้ยินคือ เสียงขลุ่ยในท่วงทำนองเพลง ล่องแม่ปิง
ซอน ซอน ซอน ลา ซอน มี ซอน ลา โด......ซอน ลา ซอน โด ซอน ลา ซอนโด มี เร ซอน มี....ซอน โด เร มี เร มี ซอน มี เร ดด มี เร..........
เด็กสาวลุกขึ้นนั่งก่อนจะพบว่าตนเองอยู่ท่ามกลางแถวเตียงผู้ป่วยที่เรียงตัวกันจากหน้าต่างไปจนถึงผนังอีกฝั่งประมาณ 7 -8 ตัว โดยที่อีกด้านหนึ่งเป็นผ่านม่านบานเลื่อนสีเขียว
นี้เราอยู่ที่ไหนหว่า
...อ๋อ....ห้องพญาบาลนี้เอง ว่าแต่...
ซอน โด เร มี เร มี ซอน มี เร ดด มี เร.......... ซอน ลา โด เร มี เร ซอน เร มี เร ซอน ลา ซอน โด เร มี ........
เสียงดนตรีชวนให้เคลิ้มเล็ดลอดออกมาจาก หลั่งผนังผ้าม่านนั้น ยังคงบรรเลงอยู่
ใครมาเป่าขลุยในนี้ฟะ
เสียงที่ฟังดูน่าลำคาน ทว่าไพเราะ สามารถกล่อมประสาทของเด็กสาวจน เธอไม่มีอารมณ์จะบ่นว่า ‘หนวกหูโว้ย’
แล้วเราเป็นอะไรไปหละเนี้ย
อ๋อ จำได้แล้ว เมื่อเช้านี้เรา....เฮี้อก!!!!
เมธิกาเกิดอาการผวาขึ้นทันทีหลังจากจำเหตุการณ์กระตุกขวัญแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อตอนเช้า
กับประสบการณ์ได้พบสิ่งเหนือธรรมชาติแบบเต็มๆ ตา
จะยังไงก็เถอะ แล้วเรามาอยู่ที่นี้ได้ไงหว๋า
บางทีอาจารย์ห้องพญาบาลมาเห็นเข้าเลยอุ้มเรามานอนอยู่ที่นี้หละมั้ง
เธอคิดแบบนั้น
เอาหละได้เวลาลุกแล้ว กี้โมงแล้วน๋า...บรรลัยแล้ว....เที่ยงกว่า
เด็กสาวถูกเสียงขลุ่ยที่ยังคงบรรเลงเพลงสุดคลาสสิคของคนเจียงใหม่ เกลี้ยกล่อมเสียเพลินจนไม่ทันสังเกตนาฬิกาบนพนังห้อง
ไม่ใช้เวลามาเอ้อระเหยนะเฟ้ย เย็นไว้ๆ ก่อนอื่นจัดผ้าปูกับหมอนก่อน แล้วกระเป๋าอยู่ไหนหละเนี้ย สงสัยอาจารย์แก่เก็บไว้ให้แล้วมั้ง บนพื้นหละ ไม่มีเปลือกกล้วยใช่ไหม ..จะไปมีได้ไงเหล่าโธ่
เด็กสาวแสดงอาการลุกลี้ลุกลน และเมื่อมั่นใจว่าบนพื้นไม่มีเปลือกกล้วยให้เยียบ เธอพุ้งตัวผ่านผ้าม่านออกไป
ทว่า
“อาจาร์ยค่ะ หนู..เออ...”
เหมือนกับว่าโลกทั้งใบหยุดหมุน
เลือดในตัวเหมือนจะถูกแช่แข็ง
คนที่อยู่ตรงหน้าเธอ เป็นเด็กหนุ่ม ชั้น ม.1 กำลังนั่นหลับเป่าขลุ่ยอยู่ เป็นคนที่เมธิการู้จักดี
เด็กสาวที่ผ่านประสบการณ์เสียดนรกมานับครั้งไม่ถ่วน ทั้งไม้หน้าสาม สนับมือ ดาบญี่ปุ่น แม้แต่ระเบิดปิงปอง เธอได้ลิ้มรสความเจ็บปวดจากสิ่งเหล่านี้มาจนชิน ความกลัวต่อสิ่งเหล่านั้นจึงไม่มีอยู่ในความคิดของเธอแม้แต่น้อง
ณ วันนี้ ไม่สิ นับจากคืนงานศพของสันติ เมธิกาต้องเผชิญกับสิ่งที่เธอถูกความกลัวพุ่งเข้าแทงที่หัวใจจน วิญญาณแทบออกจาร่าง
ดวงตาของอสูรกาย
กลิ่นอาย อาฆาต
เด็กผู้ชายคนนั้น
“ฟื้นแล้วก๋า”
เมื่อพบว่าอดีตพี่สะใภ้ ได้สติคืนมาแล้ว อนันต์ก็หยุดบรรเลงขลุ่ยก่อนที่ทักเธอด้วยน้ำเสียงแสนเยือกเย็น
สายตาของเขาจ้องไปทางเมธิกา
“.....”
เด็กสาวกลัวจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
ภายใต้ห้องพญาบาล ไม่มีใครอยู่นอกเหนือจากอนันต์และสาวรุ้นพี่ม.6
เมธิกานึกขึ้นได้
วันนี้อาจารย์ห้องพยาบาลไปทำธุระที่เวียดนามนี้นา ถ้างั้นคนที่หามเรามาก็.....
!!!
ความกลัวกัดกินสติปัญญาของเธอ
“ตะเจ้าผมหันปี้เป็นลนหน้าห้องสมุด เลยถือวิสาสะอุ่มปี้มา สุมาดตยเน้อ”
......
“ถ้าบ่เป็นหยั๋งหละขใจ๋ลุกขึ้นเฮียเน้อ ปี้หลับไปวันค่ำ”
.....
“กำเดียวต่อนบ่ายโมงผมมีคาบเฮียนและ ขอตัวก่อนเน้อ”
.....
“กระเป๋าปี้ผมเอายองไว้ตรงนั้นนะ”
.....
ทุกคำพุดของเด็กชาย เมธิกาไม่สามารถโต้ตอบได้แต่อย่างใด ความเย็นชาของอนันต์ทำให้เธอไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะหายใจ
เราควรจะรู้สึกอย่างไงดี ตรงหน้าเราคือคนที่สูญเสียพี่ชายไปโดยที่เราเป็นต้นเหตุ และก็เป็นคนที่เรารักด้วย แต่เพราะเราไม่ใช้คนดี สุดท้ายแล้ว คนที่รักเราคนนั้นก็ต้องจากไป
ควรจะเป็นฉันมากกว่า
ควรแล้วหละที่น้องจะเกลียดพี่
พี่เองก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน
“เอ้อ...ปี้เมย์ มัแหมอย่าง”
???
“มีมนุษย์ต่างดาว ซ่อนตัวอยู่ข้างๆ ตู้ยานะ ระวังโตยเน้อ”
.....
หา....
เฮ๋....
โอ๋...
เด็กชายทิ้งคำพุดเป็นปริศนา ก่อนจะออกจากห้องไป
บางทีเขสคงจะเดาอารมณ์ของเมิกาออกว่าเธอกำลังหดหู่อย่างแรกเลยยิมุขเข้าให้ก่อนจะหนีไป
ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ
จิตใจที่จมดิ่งอยู่ในท้องทะเลแห่งความทุกข์ของเด็กสาว จู่ๆก็กระโจนขึ้นมาด้วยแรงดึงดูดของ อาการ ‘ไม่เก็ตมุข’
“หา...”
เธอยืนเอ๋ออยู่พักใหญ่ก่อนจะหันไปมองบริเวณที่อนันต์บอก
“ม....มนุษย์ต่างดาว เหรอ”
....
“โอยนี้ฮาจะบ้าแล้วก๋า จะไปมีได้ใดเหล่า มนุษย์ต่าง....อะ”
จู่ๆผนังที่ปูด้วยวอร์เปเปอร์ ที่จริงคือผืนผ้าที่มีสีเดียวกันกับผนังประมาณ 80*90 เซนติเมตร ค่อยๆ ลอกออกมาจากมุม คล้ายวิชาพลางตัวติดกำแพงของนินจา
....
!!!
.....
และเมื่อผืนผ้าถูกลอกออกจนเผยสิ่งที่อยู่ข้างในให้เห็น
ดวงตากลมโต
หมวกรูปทรงประหลาดสีเหลืองมีสัญลักษณ์ดาว5แฉก
รูปร่างเขียวแปลกจนไม่สามารถบรรยายได้
เมธิกาสบตากับสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวหนึ่ง
แล้วมันตัวอะไรฟะเนี้ย
“เคโระ ๆๆๆๆๆ ....ท...ทำไมเด็กคนนั้นถึงรู้ว่าข้าน้อยอยู่ที่นี้ได้หละขอรับ”
เฮื้อก....พูดได้ด้วย
“ช่างเถอะ ในเมื่อความแตกก็ช่วยไม่ได้ เคโระๆๆ... เธอคือ เมธิกา สุขบุญสังข์ สินะขอรับ
โอ้ยตูอยากจะบ้าตาย
“วันนี้มันอะไรกันฟะ เจอแต่ตัวประหลาดตั้งแต่เช้าแล้วนะ แถมยังพูดภาไทยกลางอีก ฟังแล้วมันเจ็บเอวโว้ย”
“เคโระๆๆ.... กล่าวแรงเกินไปแล้วนะขอรับ จริงๆแล้ว ข้าน้อยเป็นยมทูตต่างหากหละขอรับ ไม่ใช่ชาวเคโรนที่คิดจะยึดคลองเพคุปองชะหน่อยนะขอรับ”
“หา....ยมทูต”
“ใช้แล้วขอรับ”
ว่าแล้วร่างของเจ้ากบต่างดาว ก็ค่อยๆเรืองแสงก่อนจะกลายสภาพเป็นเด็กสาว ทั้งเส้นผม ทั้งผิวพรรณขาวนวลน่าเอ็นดู
นั้นยังตัวประหลาดสีขาวที่เจอกันเมื่อเช้านี้หว๋า
แต่คราวนี้สาวน้อยสีขาวคนนั้นอยาในชุดนักเรียนผู้ชาย ด้วยเสื้อสูทสีกรมท่า ตรงหน้าอกมีสัญลักษณ์ คล้ายโรงเรียนไฮโซที่ไหนชักแห่ง ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงยาวสีดำ
ยมทูตที่แต่งเป็นชายล่วงกระเป๋ากางเกง หยิบบัตรบางอย่างบื้นออกมาโชว์ให้เมธิกาดู
“ฉันคือ ยมทูต A100100 ฉันไม่สนใจสนุษย์ธรรมดาหรอก แต่ถ้าใครใกล้ถึงกำหนดตายเต็มที หรือใครที่กำลังจะสูญเสียคนสำคัญไป หรือคนที่เพิ่งจะสุญเสียคนที่รักไป จงมาหาฉันชะ แค่นี้แหละ”
.....
และแล้ว โลกก็หยุดหมุนไปเกือบ50วินาที ก่อนที่แมวดำตัวหนึ่งบินออกมาจากไหนไม่รู้ กระโดดขึ้นใช้ท่ามาสไลเดอร์คิค ถีบสาวน้อยสีขาวกระเด็นตดผนังไป
นั้นคือแมวพูดได้ที่เมธิกาเห็นเมื่อเช้า
“โอ้ย เจ็บนะ ทำอะไรของเธอนะแดเนียล”
“ฉันต่างหากที่อยากจะถามเธอ โมโมะ กำลังทำอะไรอยู่นะ”
“ก็เห็นอยู่ไม่ใช้เหรอ กำลังเล่นเป็นฮารูฮิอยู่ไง “
“เรื้องนั้นฉันรู้ แต่ว่าโมโมะ ที่เธอกำลังคอสอยู่นะ มันฟูจิโอกะ ฮารูฮิ (โอรัน โฮสต์คลับ) ไม่ใช่ สึซึมิยะ (เรียกเธอว่าพระเจ้า สึซึมิยะ ฮารูฮิ”
“เอ๋...งั้นก็แปลว่ามีฮารูฮิ 2 คนงั้นเหรอ...แล้วฉันก็คลอสสผิดคนด้วย ว้ายหน้าแตกเลยฉัน”
ทั้ง2คนซึ่งกำลังยิงมุขกันอยู่นึกขึ้นได้ว่าพวกเขากำลังทำให้เด็กสาวอยู่ในอาการ ‘ไม่เก็ดมุข’ อยู่ได้ตั้งนานก่อนที่ทั้งคุ่จะบ่มงึมงำว่า
“ชิ พวกคนธรรมดา ไม่มีทางเข้าใจธรรมชาติของโอตาคุอย่างพวกเราหรอก”
“?????? โอตาคุ ????”
“ช่างเถอะๆ เรื่องนั้นไวก่อน ก็อย่างที่แนะนำตัวไป แต่จะเรียกฉันว่าโมโมะก็ได้จ๊ะ 100สองตัวเรียกต่อกันป็น โมโมะไง”
“อ้าวไม่ได้อ่านว่า เฮียกคุเบียกคุหรอกเหรอ”
“นั้นแหละจ๊ะ”
เอ๋...
เอ๋อ...
โอ๋...
“ด...เดี๋ยวก่อนสิ พวกเธอบอกฉันก่อนสิ นี้มันเรื่องอะไรกันแน่”
“เรื่องอะไรนะเหรอ ก็ ‘ยมทูตสีขาว ฉบับเตรียมตัวโดนฟ้องร้องเอาค่าลิขสิทธ์’ ไงเหล่ายัยทอมเอ๋อ”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น อ๊ะ... เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้เธอพูดว่าเธอเป็นยมทุตเหรอ”
“บะห้าหูหลึ่ง หู่ฮาบอกคิงแล้วบ่ใจ๋ก๋า”
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมแดเนียลถึงรู้ภาเหนือได้แต่ที่แน่ๆ
“ใช่แล้วเมื่อเช้าฉันลื่นเปลือกกล้วยจนหัวกระแทก พอตื่นมาก็เจอยมทูต อะ.. หรือว่า นี้ฉัน...นี้ฉัน....นี้ฉัน...”
“ยังไม่เข้าใจหรือไง”
“เอ๋”
ทันใดนั้นเอง ร่างกายของเจ้าแมวอวดดี ก็ส่งเสียงระเบิดดังปุ๊ง แล้วเปลี่ยนร่างเป็นผู้ชายใหญ่ล่ำที่มีร่างกายกำยำ มีกล้ามเป็นมัดๆ เปลือยท่อนบน ตรงหน้าอกม่รอยแผลเป็นคล้ายถูดใช้นิ้วจิ้มแทง 7จุด เรียงตัวกันคล้ายกลุ่มดาวอะไรชักอย่าง
เขาชี้หน้าไปที่เมธิกา
“แกนะ ได้ตายไปแล้ว”
....
โลกหยุดหมุนไปอีก50วินาที
...
“พอเถอะจ๊ะ อย่าไปอำเขาเล่นแบบนั้นสิจ๊ะ เคนจิโร่... เอ้ยไม่ใช่..แดเนียล”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ