Love Hormone สัมผัส(รัก)หน่อยนะ My Darling
-
9) กับดักราชสีห์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“หมายความว่าไงเนี่ย รอให้พวกเราโดนยำซะเละเหมือนเนื้อที่โดนชุบแป้งรอใส่กระทะทอดก่อนแล้วค่อยปล่อยให้เคลื่อนไหวได้อย่างนั้นเหรอ เฮอะ!พระเจ้าช่วยเจ้าพวกนั้นมันบ้าเกินไปแล้ว!” เนตระบายออกด้วยความโมโหก่อนจะหันไปมองหน้าพี่สาวของตนที่กำลังตกอยู่ในสภาพเดียวกับเขาเพียงแต่เธอล้มไปกองอยู่กับพื้นแค่นั้นเอง
“เห็นฤทธิ์มันรึยัง คราวนี้มันเล่นซะครบหน่วยเลย โอ้ย!เด็กดี เด็กน่ารัก! โดนเข้าจังๆอะเข็ดรึยัง!”
“หุบปากไปเลย แล้วจะแน่ใจได้ไงว่าใช่ออร์แกนกับออกัสน่ะ บางทีอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้”
“โห่!เจ๊นี่!...” ทั้งสองคนยังไม่เลิกที่จะมีปากเสียงกันง่ายๆจนคนห้ามเริ่มจะเบื่อหน้าที่ที่พวกเขาต้องทำซะแล้วเหมือนกัน
“เป็นไปได้ไง ทำไมเจ้าพวกนั้นถึงไม่โดนอะไรเลยล่ะ” เกรสแย้งขึ้นอย่างเสียอารมณ์พลางใช้สายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรมองไปยังไอซ์ ออมเล็ต อะตอมและป้าแพร ใช่!สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขาที่กลายเป็นคนชุบแป้งรอทอดในขณะที่อีกสี่คนที่เหลือที่ดังกล้าวกลับไม่ได้อย่างพวกเขา
เฟลอร์แอบถอนหายใจโล่งอก เพราะอย่างน้อยเด็กฝาแฝดที่เขาเห็นเมื่อตะกี้คงจะไม่คิดทำร้ายคนตาบอดอย่างไอซ์หรอก แต่อีกสามคนที่เหลือคงจะเป็นผลพลอยได้ที่ตัวกับดักกั้นอาณาเขตเอาไว้ก็แค่เท่านั้น
“ให้ตายสิ ห้องทั่งห้องเนี่ยโดนปรับปรุงใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเราไม่ได้รับรู้เลยล่ะ” เจคอร์ดบ่นพึมพัมอย่างไม่สบอารมณ์หลังจากเขาได้รับรู้อะไรบ้างอย่างเกี่ยวกับห้องโถงแห่งนี้ด้วยการใช้เลนส์HPr(เลนส์จับกระแสไฟฟ้า)ของเขาสำหรับจับตำแหน่งการหมุนเวียนและไหลเวียนของพลังงานกระแสไฟฟ้า
“หมายความว่าไง?” น้ำเป็นคนตั้งคำถาม
“ห้องนี้ถูกปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ ตอนนี้มันไม่ได้เป็นเพียงห้องโถงธรรมดา ภายใต้คอนกรีตมีแผงวงจรการควบคุมขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ข้างใต้และดูๆแล้วสวิตซ์ปลายทางมันก็คงจะเป็น...ห้องเก็บของห้องถัดไปทางขวามือของพวกเรา” อินฟินิตี้พูดในขณะที่ใช้อุปกรณ์แบบเดียวกันกับเจคอร์ดค่อยๆเดินอธิบายไล่เรียงเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเห็นและความน่าจะเป็นที่เป็นไปได้ในความคิดเขา
“ทั้งๆที่พวกนายมีอุปกรณ์บ้าๆนั่นทำไมไม่รีบเอาออกมาใช้ตั้งแต่ต้นเล่า!” น้ำพูดตะคอกเสียงด้วยความไม่พอใจอย่างหนักเพราะหนุ่มเจ้าสำอางอย่างเขาคงไม่อยากพบตัวเองอยู่ในสภาพน่าสมเพชต่อหน้าเหล่าฝูงคนมากมายถึงแม้จะเป็นเหล่าญาติๆและคนรู้จักสนิทชิดเชื้อเหมือนอย่างในตอนนี้เป็นแน่
“ใครบอกว่าไม่ทำล่ะ แต่เพราะทำแล้วไม่สามารถหาการไหลเวียนของกระแสไฟฟ้าแปลกปลอมได้น่ะสิ ถึงไม่ได้พูดอะไรออกมา เหตุผลเพราะตอนนั้นยังไม่มีใครสับสวิตซ์การใช้งานของมันให้อยู่ในโหมดonกระแสไฟฟ้าจึงไม่เกิดการหมุนเวียนทำให้เครื่องHPrไม่สามารถตรวจสอบได้ แม้แต่ประตูที่ถูกตั้งรหัสล็อกเอาไว้ก็เหมือนกัน เมื่อถูกสั่งให้เกิดการไหลเวียนของกระแสไฟฟ้าประตูมันก็จะเกิดการล็อกอัตโนมัติทันที”
“แสบจริงๆ ฉันว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการสนับสนุนจากป้าแน่”เจคอร์ดแสดงความคิดเห็น
“เพื่ออะไรล่ะ?” น้ำเอ่ยปาก
“ก็คงจะทำเพื่อทดลองก่อนการใช้งานจริงของ ‘กับดักราชสีห์’ ยังไงล่ะ” อินฟินิตี้พูดหลางยิ้มมุมปาก ถึงแม้ว่าตัวของเขาจะเต็มไปด้วยแป้งสีขาวเหนียวเหนอะหนะไปหมทั้งตัวแต่บนใบหน้าของเขากลับฉายแววเหมือนคนที่มีอะไรบางอย่างอยู่ในใจแต่ไม่ยอมที่จะเปิดเผยมันออกมา
คลึง!
“ยังถือว่าพอมีความฉลาดอยู่บ้างนะอิน เจ แต่แค่กับดักของเด็ก14ขวบเพียงแค่นี้ยังตามไม่ทันก็ถือว่ายังใช้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หรอกนะ” เสียงการเข้ามาเยือนอีกครั้งของอินซูลินเปิดฉากออกหลังจากบานประตูถูกปลดล็อกออกด้วยรหัสของเด็กแฝดทั้งสองที่ถูกสั่งการมาจากโทรศัพท์ของพวกเขา ทุกคนหันไปให้ความสนใจแก่คนจำนวน6คนที่ยืนอยู่ที่บานประตูด้วยสภาพที่แตกต่างไปจากตัวเองอย่างสิ้นเชิง มีอินซูลินยืนยิ้มด้วยท่าทางสงบๆ ครีเอดที่ยืนนิ่งๆรอรับคำสั่งจากเจ้านาย ออร์แกนและออกัสที่ยืนคอตกสึนึกผิดอยู่ข้างๆ เอสแส็คที่ยืนกุมหัวเราะอยู่ไม่ไกล และอลิซันที่ยืนมุดหน้ากลัวความผิดอยู่ด้วยอีกคน
“ออมเล็ต อะตอม แล้วก็หลานด้วยเอสแส็ค”
“ครับ!?”
“พวกหลานพาไอซ์กลับห้องไปกับแพรก่อนจากนั้นก็ค่อยตามฉันไปหาแม่ของพวกเธอกัน”คำพูดประโยคสุดท้ายของอินซูลินทำให้เอสแส็คมีใบหน้าที่เศร้าลงในทันที ออมเล็ตและอะตอมที่กำลังมองเขาต่างก็เข้าใจถึงเหตุผลที่น้องชายของตนทำสีหน้าแบบนั้นดี แต่แค่เขาไม่พูดเพียงเท่านั้น
“ครับ”
“อลิซันเธอก็กลับที่พักไปได้แล้ว” อลิซันตอบรับอย่างมีมารยาทเช่นเดียวกันก่อนจะเดินทางกลับที่พักของตน
“แครดิลอสนายทำหน้าที่บกพร่อง ปล่อยให้ออร์แกนและออกัสละสายตาไปได้หวังว่าคราวหน้าคงไม่มีเรื่องแบบนี้ให้ฉันรับรู้อีกนะ”
“ครับ ท่านหญิง”แครดิลอสยอมรับอย่างรู้ตัว
“ส่วนพวกเธอสองคน การเอาเจ้าพวกนี้เป็นหนูทดลองกับดักถือเป็นเรื่องเสียมารยาทจนเกินไป ยิ่งเอาไอซ์เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยยิ่งแล้วใหญ่ พรุ่งนี้เตรียมรับบทลงโทษไว้แล้วกัน คราวนี้ไม่ใช่เล่นๆแน่” ออร์แกนและออกัสกลืนน้ำลายลงคอด้วยอาการหน้าซีดก่อนจะงุดหัวลงตามแรงโน้มถ่วงโลกเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
“เอาเป็นว่าวันนี้เราพอกันแค่นี้ก็แล้วกัน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปล้างเนื้อล้างตัว นายต้องงรีบไปสนามบินไม่ใช่เหรออิน รีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกเดินทางได้แล้วเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวแล้วนะ”
“ครับ งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน ลาล่ะครับ”อินฟินิตี้รับคำผู้เป็นป้าและยกมือไหว้ลาทุกคน ก่อนจะจับข้อแขนเล็กของเฟลอร์เดินไปกับเขาด้วย แต่ว่า...ข้อแขนของผู้ชายเขาไม่เล็กขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ อินฟินิตี้หันกับไปมองหน้าของเฟลอร์แต่หญิงสาวก็ยังมองหน้าเขากลับแบบไร้อารมณ์
‘คงยังเด็กอยู่มั้ง’ เป็นคำตอบเดียวที่เขาจะตอบให้กับตัวเองเพราะความมั่นใจ
“พวกนายทุกคนสามารถกลับได้เดี๋ยวนี้ ยกเว้นเฟลอร์” โชเฟและเจาว์ลอร์ถึงกับสะดุ้ง ซึ่งไม่แตกต่างกับอินฟินิตี้ซักเท่าไหร่
“ก็แค่คืนนี้คืนเดียวคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ... ครีเอด”
“ครับ!”
“พาเฟลอร์ไปล้างตัวให้สะอาด หาเสื้อผ้าให้ใส่แล้วพาไปรอฉันที่ห้องด้วยล่ะ ส่วนทางนี้ฉันให้นายเป็นคนจัดการเกณฑ์แม่บ้านเท่าที่จะหาได้มาทำความสะอาดให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เรามีความจำเป็นต้องใช้รับแขก” อินซูลินหันหลังกลับหลังจากพูดเสร็จก่อนจะเดินจากไปในทันที
“เชิญทางนี้ครับท่านเฟลอร์” ครีเอดโค้งตัวเชิญตามธรรมเนียมรอให้เฟลอร์เดินมาหาเขา
“ฉันเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องตาม” หญิงสาวพูดเสียงเรียบให้กับองคลักษณ์ทั้งสองก่อนจะเดินไปยังเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ ครีเอดงอตัวกลับทันทีที่เฟลอร์เดินมาหาเขาก่อนจะพาหญิงสาวสู่ที่พัก
อินฟินิตี้มองตามเฟลอร์ไปจนละสายตาก่อนจะหันขวับไปหาอดีตลูกน้องของตัวเอง
“ยืนรออะไรอยู่ล่ะ กลับกันได้แล้ว”
“ข...ครับ!!!”
“เห็นฤทธิ์มันรึยัง คราวนี้มันเล่นซะครบหน่วยเลย โอ้ย!เด็กดี เด็กน่ารัก! โดนเข้าจังๆอะเข็ดรึยัง!”
“หุบปากไปเลย แล้วจะแน่ใจได้ไงว่าใช่ออร์แกนกับออกัสน่ะ บางทีอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้”
“โห่!เจ๊นี่!...” ทั้งสองคนยังไม่เลิกที่จะมีปากเสียงกันง่ายๆจนคนห้ามเริ่มจะเบื่อหน้าที่ที่พวกเขาต้องทำซะแล้วเหมือนกัน
“เป็นไปได้ไง ทำไมเจ้าพวกนั้นถึงไม่โดนอะไรเลยล่ะ” เกรสแย้งขึ้นอย่างเสียอารมณ์พลางใช้สายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรมองไปยังไอซ์ ออมเล็ต อะตอมและป้าแพร ใช่!สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขาที่กลายเป็นคนชุบแป้งรอทอดในขณะที่อีกสี่คนที่เหลือที่ดังกล้าวกลับไม่ได้อย่างพวกเขา
เฟลอร์แอบถอนหายใจโล่งอก เพราะอย่างน้อยเด็กฝาแฝดที่เขาเห็นเมื่อตะกี้คงจะไม่คิดทำร้ายคนตาบอดอย่างไอซ์หรอก แต่อีกสามคนที่เหลือคงจะเป็นผลพลอยได้ที่ตัวกับดักกั้นอาณาเขตเอาไว้ก็แค่เท่านั้น
“ให้ตายสิ ห้องทั่งห้องเนี่ยโดนปรับปรุงใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเราไม่ได้รับรู้เลยล่ะ” เจคอร์ดบ่นพึมพัมอย่างไม่สบอารมณ์หลังจากเขาได้รับรู้อะไรบ้างอย่างเกี่ยวกับห้องโถงแห่งนี้ด้วยการใช้เลนส์HPr(เลนส์จับกระแสไฟฟ้า)ของเขาสำหรับจับตำแหน่งการหมุนเวียนและไหลเวียนของพลังงานกระแสไฟฟ้า
“หมายความว่าไง?” น้ำเป็นคนตั้งคำถาม
“ห้องนี้ถูกปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ ตอนนี้มันไม่ได้เป็นเพียงห้องโถงธรรมดา ภายใต้คอนกรีตมีแผงวงจรการควบคุมขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ข้างใต้และดูๆแล้วสวิตซ์ปลายทางมันก็คงจะเป็น...ห้องเก็บของห้องถัดไปทางขวามือของพวกเรา” อินฟินิตี้พูดในขณะที่ใช้อุปกรณ์แบบเดียวกันกับเจคอร์ดค่อยๆเดินอธิบายไล่เรียงเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเห็นและความน่าจะเป็นที่เป็นไปได้ในความคิดเขา
“ทั้งๆที่พวกนายมีอุปกรณ์บ้าๆนั่นทำไมไม่รีบเอาออกมาใช้ตั้งแต่ต้นเล่า!” น้ำพูดตะคอกเสียงด้วยความไม่พอใจอย่างหนักเพราะหนุ่มเจ้าสำอางอย่างเขาคงไม่อยากพบตัวเองอยู่ในสภาพน่าสมเพชต่อหน้าเหล่าฝูงคนมากมายถึงแม้จะเป็นเหล่าญาติๆและคนรู้จักสนิทชิดเชื้อเหมือนอย่างในตอนนี้เป็นแน่
“ใครบอกว่าไม่ทำล่ะ แต่เพราะทำแล้วไม่สามารถหาการไหลเวียนของกระแสไฟฟ้าแปลกปลอมได้น่ะสิ ถึงไม่ได้พูดอะไรออกมา เหตุผลเพราะตอนนั้นยังไม่มีใครสับสวิตซ์การใช้งานของมันให้อยู่ในโหมดonกระแสไฟฟ้าจึงไม่เกิดการหมุนเวียนทำให้เครื่องHPrไม่สามารถตรวจสอบได้ แม้แต่ประตูที่ถูกตั้งรหัสล็อกเอาไว้ก็เหมือนกัน เมื่อถูกสั่งให้เกิดการไหลเวียนของกระแสไฟฟ้าประตูมันก็จะเกิดการล็อกอัตโนมัติทันที”
“แสบจริงๆ ฉันว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการสนับสนุนจากป้าแน่”เจคอร์ดแสดงความคิดเห็น
“เพื่ออะไรล่ะ?” น้ำเอ่ยปาก
“ก็คงจะทำเพื่อทดลองก่อนการใช้งานจริงของ ‘กับดักราชสีห์’ ยังไงล่ะ” อินฟินิตี้พูดหลางยิ้มมุมปาก ถึงแม้ว่าตัวของเขาจะเต็มไปด้วยแป้งสีขาวเหนียวเหนอะหนะไปหมทั้งตัวแต่บนใบหน้าของเขากลับฉายแววเหมือนคนที่มีอะไรบางอย่างอยู่ในใจแต่ไม่ยอมที่จะเปิดเผยมันออกมา
คลึง!
“ยังถือว่าพอมีความฉลาดอยู่บ้างนะอิน เจ แต่แค่กับดักของเด็ก14ขวบเพียงแค่นี้ยังตามไม่ทันก็ถือว่ายังใช้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หรอกนะ” เสียงการเข้ามาเยือนอีกครั้งของอินซูลินเปิดฉากออกหลังจากบานประตูถูกปลดล็อกออกด้วยรหัสของเด็กแฝดทั้งสองที่ถูกสั่งการมาจากโทรศัพท์ของพวกเขา ทุกคนหันไปให้ความสนใจแก่คนจำนวน6คนที่ยืนอยู่ที่บานประตูด้วยสภาพที่แตกต่างไปจากตัวเองอย่างสิ้นเชิง มีอินซูลินยืนยิ้มด้วยท่าทางสงบๆ ครีเอดที่ยืนนิ่งๆรอรับคำสั่งจากเจ้านาย ออร์แกนและออกัสที่ยืนคอตกสึนึกผิดอยู่ข้างๆ เอสแส็คที่ยืนกุมหัวเราะอยู่ไม่ไกล และอลิซันที่ยืนมุดหน้ากลัวความผิดอยู่ด้วยอีกคน
“ออมเล็ต อะตอม แล้วก็หลานด้วยเอสแส็ค”
“ครับ!?”
“พวกหลานพาไอซ์กลับห้องไปกับแพรก่อนจากนั้นก็ค่อยตามฉันไปหาแม่ของพวกเธอกัน”คำพูดประโยคสุดท้ายของอินซูลินทำให้เอสแส็คมีใบหน้าที่เศร้าลงในทันที ออมเล็ตและอะตอมที่กำลังมองเขาต่างก็เข้าใจถึงเหตุผลที่น้องชายของตนทำสีหน้าแบบนั้นดี แต่แค่เขาไม่พูดเพียงเท่านั้น
“ครับ”
“อลิซันเธอก็กลับที่พักไปได้แล้ว” อลิซันตอบรับอย่างมีมารยาทเช่นเดียวกันก่อนจะเดินทางกลับที่พักของตน
“แครดิลอสนายทำหน้าที่บกพร่อง ปล่อยให้ออร์แกนและออกัสละสายตาไปได้หวังว่าคราวหน้าคงไม่มีเรื่องแบบนี้ให้ฉันรับรู้อีกนะ”
“ครับ ท่านหญิง”แครดิลอสยอมรับอย่างรู้ตัว
“ส่วนพวกเธอสองคน การเอาเจ้าพวกนี้เป็นหนูทดลองกับดักถือเป็นเรื่องเสียมารยาทจนเกินไป ยิ่งเอาไอซ์เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยยิ่งแล้วใหญ่ พรุ่งนี้เตรียมรับบทลงโทษไว้แล้วกัน คราวนี้ไม่ใช่เล่นๆแน่” ออร์แกนและออกัสกลืนน้ำลายลงคอด้วยอาการหน้าซีดก่อนจะงุดหัวลงตามแรงโน้มถ่วงโลกเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
“เอาเป็นว่าวันนี้เราพอกันแค่นี้ก็แล้วกัน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปล้างเนื้อล้างตัว นายต้องงรีบไปสนามบินไม่ใช่เหรออิน รีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกเดินทางได้แล้วเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวแล้วนะ”
“ครับ งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน ลาล่ะครับ”อินฟินิตี้รับคำผู้เป็นป้าและยกมือไหว้ลาทุกคน ก่อนจะจับข้อแขนเล็กของเฟลอร์เดินไปกับเขาด้วย แต่ว่า...ข้อแขนของผู้ชายเขาไม่เล็กขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ อินฟินิตี้หันกับไปมองหน้าของเฟลอร์แต่หญิงสาวก็ยังมองหน้าเขากลับแบบไร้อารมณ์
‘คงยังเด็กอยู่มั้ง’ เป็นคำตอบเดียวที่เขาจะตอบให้กับตัวเองเพราะความมั่นใจ
“พวกนายทุกคนสามารถกลับได้เดี๋ยวนี้ ยกเว้นเฟลอร์” โชเฟและเจาว์ลอร์ถึงกับสะดุ้ง ซึ่งไม่แตกต่างกับอินฟินิตี้ซักเท่าไหร่
“ก็แค่คืนนี้คืนเดียวคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ... ครีเอด”
“ครับ!”
“พาเฟลอร์ไปล้างตัวให้สะอาด หาเสื้อผ้าให้ใส่แล้วพาไปรอฉันที่ห้องด้วยล่ะ ส่วนทางนี้ฉันให้นายเป็นคนจัดการเกณฑ์แม่บ้านเท่าที่จะหาได้มาทำความสะอาดให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เรามีความจำเป็นต้องใช้รับแขก” อินซูลินหันหลังกลับหลังจากพูดเสร็จก่อนจะเดินจากไปในทันที
“เชิญทางนี้ครับท่านเฟลอร์” ครีเอดโค้งตัวเชิญตามธรรมเนียมรอให้เฟลอร์เดินมาหาเขา
“ฉันเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องตาม” หญิงสาวพูดเสียงเรียบให้กับองคลักษณ์ทั้งสองก่อนจะเดินไปยังเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ ครีเอดงอตัวกลับทันทีที่เฟลอร์เดินมาหาเขาก่อนจะพาหญิงสาวสู่ที่พัก
อินฟินิตี้มองตามเฟลอร์ไปจนละสายตาก่อนจะหันขวับไปหาอดีตลูกน้องของตัวเอง
“ยืนรออะไรอยู่ล่ะ กลับกันได้แล้ว”
“ข...ครับ!!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ