นิยายไร้เรื่อง
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ" ไงเมฆ คุยกับเสี่ยวิทย์เป็นยังไงบ้าง" อาคมถามเพื่อนรุ่นน้องที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง
" ไม่ไงหรอกครับพี่ ก็อย่างที่เราคิดๆกันนั่นแหละ ว่าแกก็พอใจในผลงานที่ผ่านมาของผม แกเลยแนะให้ผมลองทำหนังเต็มตัวสักครั้ง" เมฆากล่าวเสียงเรียบไร้ร่องรอยตื่นเต้น
"แล้วแกตอบเสี่ยว่าไงละ" หนุ่มใหญ่ถามต่อเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ
" ก็ยังไม่ว่ายังไงหรอกครับ เพราะตอนนี้ผมยังไม่มีแผนอะไรในใจจริงจัง อีกอย่างงานกำกับซิทคอมที่ทำอยู่ตอนนี้เรทติ้งกำลังดี ผมเองก็ชอบด้วย แล้วถ้าจะทำหนังสักเรื่องจริงๆ ผมก็อยากทำอะไรที่แปลกออกไปจากงานเก่าๆผมด้วย" ชายหนุ่มเคาะนิ้วบนโต๊ะเบาๆ ท่าทางครุ่นคิด
" มีอะไรหรือ" อาคมเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีลังเล
" เมื่อปีก่อนผมกะไอ้ชัยเคยคุยกันเล่นๆเรื่องทำหนังฉีกจากแนวเก่าๆของตัวเองเหมือนกัน พอเสี่ยมาพูดกับผมวันนี้เลยทำให้นึกถึงเรื่องที่พูดกันตอนนั้น" เมฆากล่าวเสียงเรียบ
" พวกแกคิดทำหนังแนวไหนกันละ" อาคมถามแต่ไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบมากนักจึงไม่ได้สังเกตท่าทีลังเลของอีกฝ่ายว่าควรพูดหรือไม่
"หนัง.....รักโรแมนติคนะครับพี่" ชายหนุ่มตอบแล้วรอดูปฏิกิริยาอีกฝ่าย ทั้งห้องเงียบกริบราวสองวิก่อนที่อาคมจะปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่นห้อง จนเพื่อนร่วมงานที่ทำงานอยู่ด้านนอก พยายามเมียงมองผ่านทางหน้าต่างกระจกบานใหญ่จนชายหนุ่มต้องเดินไปเลื่อนผ้าม่านปิดไว้
" พวกแกสองคนนี่อ่านะจะทำหนังรัก" หนุ่มใหญ่พูดเสียงกลั้วหัวเราะ นึกถึงหน้า' เจ้าชัย' ผู้กำกับหนุ่มจ่อมกะล่อน มีข่าวกับสาวๆจนเพื่อนร่วมงานชินชา ซ้ำหนังเคยทำเป็นพวกหนังบู๊ ยิงกันระห่ำ ส่วนคนที่อยู่ตรงหน้า วันนี้ผมยาวรกปรกต้นคอถูกมัดไว้หลวมๆ ท่าทางเงียบๆกับรอยยิ้มอ่อนๆที่มีแจกจ่ายให้ทุกคนเสมอเคยทำให้ผู้ร่วมงานย่ามใจว่าว่าไม่น่ามีพิษสงอะไรเมื่อสมัยเจ้าตัวเข้ามาทำงานในฐานะตากล้องจึงไม่ได้ใส่ใจเวลาชายหนุ่มขอให้ทำอะไร จนเมื่อผลของการละเลยกระทบกับงานอย่างจัง คนเงียบๆ ไม่เรื่องมาก สามารถทำให้คนถูกมองเกิดอาการร้อนๆหนาวๆได้เหมือนกัน นับจากนั้นต่างก็เป็นที่รู้กันว่า 'คุณเมฆาใจดีแต่ดุ' แต่ก็ยังมีสาวๆทั้งในกองนอกกองให้ความสนใจอยู่ดี จนวันหนึ่งเจ้าตัวจูงแขนเด็กหญิงแก้มยุ้ยหน้าตาน่ารักเข้ามาในกองบอกสั้นๆแค่ว่า ' ลูกสาวผมครับ' สาวๆในกองอึ้งไปตามกันๆ ไม่มีใครกล้าถามว่าแม่เด็กอยู่ไหน และชายหนุ่มดูเหมือนไม่เคยใส่ใจจะพูดถึง แม้อาคมรู้เรื่องมาบ้างในฐานะที่เคยรู้จักกันเมื่อครั้งอยู่ต่างประเทศ แต่เขาก็ไม่เคยใส่ใจที่จะถามไถ่เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน
"ยัยหมูหวานเป็นยังไงบ้าง ไม่เห็นพามาเที่ยวออฟฟิซบ้างเลย" หนุ่มใหญ่เปลี่ยนเรื่อง
" โอ้ย...ช่วงนี้แกดื้อครับ ตากับยายก็เอาไม่อยู่ ต้องผมคนเดียว นี่ แกร้องขอให้ผมพาไปเที่ยวช่วงปิดเทอมให้ได้" ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าอิ่มสุขทุกครั้งเมื่อนึกถึงลูกสาววัยสี่ขวบของตัวเอง
" เด็กกำลังโตก็อย่างนี้แหละ แกก็รีบหาแม่ให้เด็กมันเสียทีซิ จะได้มีคนช่วยเลี้ยง สาวๆแถวนี้เขาก็ยินดีกันทั้งนั้น มัวแต่หวงเนื้อหวงตัวอยู่นั่น"
ผู้เป็นกึ่งพี่กึ่งนายแซว เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า เมฆาไม่เคยให้ความสนใจหญิงใดเป็นพิเศษ แม้จะมีทั้งดารานางแบบอยากเป็นข่าวกับชายหนุ่มบ้างแต่เจ้าตัวก็หาทางหลีกเลี่ยงได้เสมอ สาวๆบางคนยิ่งโดนปฏิเสธกลับยิ่งชอบ เห็นเป็นเรื่องท้าทาย เมฆาจึงต้องลำบากเพราะสาวๆเสมอ ยิ่งหากวันไหนรถไฟชนกันเวลาที่เขาทำงานอยู่ในออฟฟิซ วันนั้นชายหนุ่มมักมี'ประชุมด่วน'ให้ต้องเข้าร่วมทุกที สาวๆในออฟฟิซแอบพูดกันว่าเขาเป็นเกย์ แต่เด็กหญิงแก้มยุ้ยที่ทุกคนได้พบเห็นกลับเป็นข้อลบล้างข้อสัณนิษฐานของเหล่าช่างเมาท์ได้เรื่อยไป
" นี่ผมรับปากกับแกว่าจะพาไปงานเลี้ยงศิษย์เก่าสมัยมัธยมของผมที่จะถึงนี้ ตื่นเต้นใหญ่เลย ชวนคุณตาคุณยายเลือกชุดไปงานเป็นอาทิตย์แล้วครับ"
เมฆาพูดเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อนึกภาพยัยแก้มยุ้ยโชว์ชุดเก่งของตัวเองมาให้เขาดูทุกวัน หรือภาพคุณตาคุณยายเออออห่อหมกกับแม่หลานสาวตัวดี
" เรานี่ก็เหลือเกินนะ แทนที่จะควงสาวไปงาน เอาลูกสาวไปซะงั้น ถามจริงๆ พวกที่อยู่ข้างนอกนั่นไม่สนใจบ้างหรอ แล้วไหนจะคุณๆอะไรที่ไล่ตามแกอีก จะครองตัวเป็นซามูไรพ่อลูกอ่อนไปถึงไหนกัน" เมฆายิ้มอ่อนๆเมื่อจับน้ำเสียงจริงจังในคำถามอีกฝ่ายได้
" ชีวิตผม ผมก็รุ้สึกว่าเจอมาทุกรสชาติแล้วนะครับ รัก โลภ โกรธ หลง ก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ผมรู้สึกว่าอิ่มแล้ว ทุกวันนี้ เพื่อลูก กับความสุขเล็กๆในการได้ทำงานที่รักเท่านั้น ก็เพียงพอแล้วครับ" ชายหนุ่มตอบอีกฝ่ายเบาๆแต่ชัดเจนถูกถ้อยคำ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ