After Sunset
-
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อกี้ฉันติดแหง็กอยู่ในห้องทำโทษ โดยมีสายตาอันน่าสะพรึงกลัวของยัยป้าจ้องตลอดเวลา ขอร้องเลย หล่อนเทศฉันเกี่ยวกับการผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ห่วยๆอย่างตาจอร์จ และส่งท้ายให้ฉันอีกด้วยว่า "คุณแฮนเดอร์สัน ฉันไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคุณถึงมีลักษณะเฉพาะตัวแบบนี้" เอ่อ คือ ทำไมหรอ ฉันผิดปกติรึเปล่า ฉันว่าฉันปกติดีนะ ก็แค่มีเพื่อนน้อยไปบ้าง แล้วชอบแต่งตัวแบบเด็กผู้ชาย แต่เฮ้! แล้วไง นี่ประเทศเสรีนะ ฉันต้องปรึกษาทนายรึเปล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้น่ะ
"หวังว่าไม่เป็นไรนะ" เอพริลยืนรอฉันหน้าห้องพร้อมกับทอมและอันดีน่า คุณคงยังไม่รู้จักทั้ง 2 คน ทั้ง 2 คนก็เป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับฉัน ทอมเก่งทุกอย่าง ทุกอย่างเลย เขาทำอาหารเป็นด้วย เนื้อหอมอีกตะหาก ถ้าเขาไม่ได้เป็นเพื่อนฉัน ฉันว่า ฉันต้องชอบเขาแล้วแหละ ส่วน อันดีน่า เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ฉันชอบเธอจัง เธอมาจากแอฟริกาใต้น่ะ แล้วเธอก็จะกลับไปตอนสิ้นปีนี้
"ไม่เลย สบายมาก" ฉันตอบ แต่ฉันก็เกือบลืมไปว่า ตาจอร์จนัดฉันไว้ที่ร้านไอศกรีมตอนเลิกเรียน นี่ก็เลยมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ให้ตายสิ เขาจะรออยู่รึเปล่านะ แต่เฮ้ ทำไมฉันต้องแคร์ด้วยหล่ะ ตานั่นปากจัด แล้วก็ดูโรคจิตด้วย ฉันหมายถึงตาบ้านี่รู้จักชื่อฉันได้ยังไง ฉันหวังนะว่าเขาคงไม่ได้เป็นพวกโรคจิตชอบตามหรือชอบสืบเรื่องคนอื่นหรอกนะ ฉันเกิดอาการกลัวและวิตกนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แบบว่าถ้าฉันไปเจอตานั่นแล้วไม่ได้กลับมาหล่ะ ฉันเลยบอก เอพริลว่าให้เธอไปรอฉันที่บ้าน ถ้าฉันไม่กลับไปภายใน 1 ชม ให้แจ้งความได้เลย เอพริลผู้น่ารักของฉันก็คะยั้นคะยอว่าฉันจะไปไหน ถ้าฉันบอกเธอมีหวังเธอได้กรี๊ดกร๊าด หรือไม่ก็หาว่าฉันเป็นพวกทรยศเพื่อนเป็นแน่ เพราะก็แหม เธอออกจะแสดงแกว่าชอบอีตานั่นอยู่แล้วนิ ฉันให้เธอรู้ไม่ได้หรอก ฉันเลยบอกเธอไปว่าจะไปหาเพื่อนใหม่ให้แบรนดา แมงมุมแม่ม่ายดำของฉัน แต่จะให้แม่รู้ไม่ได้ เพราะแม่จะฆ่าตายแน่ถ้ารู้ว่าฉันออกล่าแมงมุมอีกครั้ง….แล้วเธอก็เชื่อ ฮ่า…ฉันเลยบอกลาเพื่อนๆ และรอจนพวกนั้นเดินลับขอบตึกไป ฉันเลยรีบวิงตรงดิ่งไปที่ร้านไอศรีมที่นัดตาหมอนั่นไว้ อากาศตอนบ่ายของดูเวอร์ร้อนจนจะทอดไข่ได้เลยจริงๆ ฉันท้อเหลือเกินเวลาเจอแดดแรงๆแบบนี้ เฮ้อ! ในที่สุดก็ถึงซะที รองเท้าบู๊ททำให้เท้าของฉันชุ่ม รู้สึกร้อนชะมัด ไม่น่าใส่มาเลย
"รอนานมากเลย" นี่หรอวิธีการทักของเขา
"โทษที ทั้งหมดก็เพราะนายน่ะแหละ ที่ฉันต้องทนติดแหง๊กในห้องทำโทษ ทั้งหมดก็เพราะนาย" ฉันนั่งลง แล้วตัดสินใจจะสั่งไอศกรีมมา ว่าแต่ฉันควรจะเอารสอะไรดี รสที่ไม่เลี่ยน หรือฉันจะสั่งราสเบอร์รี่เชอร์เบตดีนะ เห็นเอพริลบอกว่าอร่อยมากเลย
"เอาหล่ะ ฉันมาที่นี่ก็เพราะว่า เธอ" ว๊ายต๊าย มีรสใหม่ แอปเปิ๊ล เชอร์เบต
“เอา แอปเปิ้ล เชอร์เบตค่า” ฉันตะโกนให้แองจี้พนักงานประจำของที่นี่ เธอยิ้มตอบกลับมา แล้วหรี่สายตามาทางตาจอร์จ ประมาณว่านั่นใครน่ะ ฉันเลยทำปากกลับไปว่า “คนงี่เง่าคนนึง” เธอก็เลยหัวเราะคิกคัก
“นี่เธอ ฟังฉันอยู่รึเปล่า” ตาจอร์จหรี่ตามอง ฉันเลยชะงัก
“ฟังสิ ว่าแต่ อะไรหรอ?” แองจี้เดินถือไอศรีมมาให้ฉัน แล้วส่งสายตาหวานหยดย้อยให้ตาจอร์จ ตานั่นไม่สนใจ แต่ฉันคิดว่าคงเก๊กมากกว่า พวกผู้ชายก็เก๊กเสมอแหละ
“เธอนี่ กรุณาฟังคนอื่นพูดหน่อยได้รึเปล่า แล้วยังจะมาว่าฉันเป็นคนงี่เง่าอีก รู้ไหมฉันมาที่นี่ก็เพราะเธอนะ” ตาจอร์จพูดหน้าเครียด
"เพราะฉัน?... ยังไง ทำไม" ฉันงง พูดตามตรงเขาเป็นโรคจิตรึเปล่า ฉันไม่เคยเอารูปตัวเองไปลงในหนังสือหาคู่หรอกนะ ว่าจะทำเหมือนกันนะ แต่ต้องรอตอนฉัน 35 ไม่มีแฟน จนตรอกแล้วจริงๆน่ะ
"เธอไม่รู้ตัวหรอกหรอว่าเธอคือคนสำคัญ" อร๊าย ต๊าย ฉันไม่ยักรู้ว่าตัวเองสำคัญมาตั้งแต่ ….. เกิดแล้วนะ เอ๊ะ หรือตานี่จะชอบฉัน
"ตอนนี้ผู้ปกป้องคนอื่นได้จากเราไปแล้ว แล้วสิ่งชั่วร้ายกำลังคลืบคลานเข้ามา สิ่งที่เลวร้ายเกินกว่าที่มนุษย์จะคาดคิด เธอเท่านั้นที่จะปกป้อง...." เขาพูด ดูเหมือนจะไม่พูดเล่น แต่ฉันก็ขำอยู่ดี
"นี่ ถ้าเธอจะมาเล่นละครบ้าๆ ขอบอกเลยนะว่าฉันไม่เชื่อ ไปให้ไกลเลยไปตาโรคจิต" ฉันลุกขึ้น กำลังจะเดินหนี แต่แล้วฉันก็ต้องหยุด
"เธอหนีไม่ได้หรอก เธอต้องยอมรับอย่างเดียว เธอกับฉันมีสร้อยที่เหมือนกัน รู้ใช่รึเปล่า"
"แล้วยังไง เธอก็อาจจะได้สร้อยที่เหมือนกับฉันมาก็ได้ อาจมีคนอีก 100 คนที่ใส่สร้อยแบบนี้อยู่ก็ได้"
"เธอได้มันมาจากมาดามฮาน่า ใช่มั๊ย" เขารู้ได้ยังไงกัน สร้อยโลหะเล็กๆที่มีภาษาลาตินเขียนไว้นี่ฉันก็ได้มาจากมาดามฮาน่าจริงๆแหละ
"ใช่" ฉันกลับลงไปนั่ง เหมือนมีมนต์สะกด ผู้ชายคนนี้รู้ได้ยังไง
"ตอนนี้มาดามฮาน่าตายแล้ว ฉันถูกส่งมา เธอเป็นคนที่ถูกเลือกไว้ ฉันจะเป็นผู้ช่วยเธอ เธอไม่มีสิทธิเลือก...."
"เฮ้ นาย ตื่นสิ นี่ชีวิตฉัน ฉันมีสิทธิที่จะเลือก ไม่มีใครมีสิทธิที่จะมาสั่งให้ฉันทำโน่นทำนี่ อย่างที่ฉันไม่ต้องการ"
"มาดามฮาน่า ต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายมาทั้งชีวิตของเธอ ส่วนคนต่อไปที่จะทำหน้าที่นี้ต่อก็คือเธอนั่นแหละ แฮนเดอร์สัน"
"แล้วทำไมต้องฉัน"
"เพราะเธอมีพลังที่คนทั่วไปไม่มี" เขามองเข้ามาในตาของฉัน ท่าทางเขาจริงจังซะด้วยแฮะ
"เอาหล่ะ งั้นขอทบทวนนะ ฉันก็ต้องย้ายไปกรีซ แล้วตั้งชื่อตัวเองว่า มาดามแฮนเดอร์สันสินะ แล้วก็ต้องต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายที่อาจจจะเป็นแค่ตาโรคจิตจอมป่วนไปจนแก่ตายใช่มั๊ย"
"นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น" เขาเสียงดัง ทำเอาคนที่นั่งอยู่ในร้านหันมามองพวกเรา ตานี่ไม่รู้จักอายเอาซะเลย
"เอาหล่ะ ฉันเชื่อละ แต่นายเลิกทำฉันขายหน้าได้รึยัง" ฉันพูดเตรียมลุกออกจากร้าน
"คืนนี้เธอต้องไปกับฉัน" เขาพูดเสียงเบาลง เกือบจะกระซิบ แหม อายเป็นซะด้วย หรือไม่กันนะ
"ได้ยังไง กฏของฉันคือ ฉันจะไม่ออกไปกับผู้ชายตอนกลางคืน โดยเฉพาะคนโรคจิตแบบนาย"
"กฏของฉันก็มีเหมือนกัน ฉันจะไม่พยายามเอ่อม.....กับผู้หญิงที่ดูไม่น่าสนใจ"
"นี่นายหาว่าฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ" ฉันฉุน รู้สึกเหมือนมีคนเอาน้ำร้อนมาราดบนหน้า ตานี่กล้าดียังไง!?
"ยังไงเธอก็ต้องไป ฉันเห็นภาพเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องไม่ดี ที่จะเกิดขึ้นที่โรงเรียนของเธอ เธอต้องไป ต้องไปให้ได้นะ ถ้าเธออยากพิสูจน์ว่าเธอไม่ขี้ขลาด เธอก็ต้องไป"
"หวังว่าไม่เป็นไรนะ" เอพริลยืนรอฉันหน้าห้องพร้อมกับทอมและอันดีน่า คุณคงยังไม่รู้จักทั้ง 2 คน ทั้ง 2 คนก็เป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับฉัน ทอมเก่งทุกอย่าง ทุกอย่างเลย เขาทำอาหารเป็นด้วย เนื้อหอมอีกตะหาก ถ้าเขาไม่ได้เป็นเพื่อนฉัน ฉันว่า ฉันต้องชอบเขาแล้วแหละ ส่วน อันดีน่า เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ฉันชอบเธอจัง เธอมาจากแอฟริกาใต้น่ะ แล้วเธอก็จะกลับไปตอนสิ้นปีนี้
"ไม่เลย สบายมาก" ฉันตอบ แต่ฉันก็เกือบลืมไปว่า ตาจอร์จนัดฉันไว้ที่ร้านไอศกรีมตอนเลิกเรียน นี่ก็เลยมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ให้ตายสิ เขาจะรออยู่รึเปล่านะ แต่เฮ้ ทำไมฉันต้องแคร์ด้วยหล่ะ ตานั่นปากจัด แล้วก็ดูโรคจิตด้วย ฉันหมายถึงตาบ้านี่รู้จักชื่อฉันได้ยังไง ฉันหวังนะว่าเขาคงไม่ได้เป็นพวกโรคจิตชอบตามหรือชอบสืบเรื่องคนอื่นหรอกนะ ฉันเกิดอาการกลัวและวิตกนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แบบว่าถ้าฉันไปเจอตานั่นแล้วไม่ได้กลับมาหล่ะ ฉันเลยบอก เอพริลว่าให้เธอไปรอฉันที่บ้าน ถ้าฉันไม่กลับไปภายใน 1 ชม ให้แจ้งความได้เลย เอพริลผู้น่ารักของฉันก็คะยั้นคะยอว่าฉันจะไปไหน ถ้าฉันบอกเธอมีหวังเธอได้กรี๊ดกร๊าด หรือไม่ก็หาว่าฉันเป็นพวกทรยศเพื่อนเป็นแน่ เพราะก็แหม เธอออกจะแสดงแกว่าชอบอีตานั่นอยู่แล้วนิ ฉันให้เธอรู้ไม่ได้หรอก ฉันเลยบอกเธอไปว่าจะไปหาเพื่อนใหม่ให้แบรนดา แมงมุมแม่ม่ายดำของฉัน แต่จะให้แม่รู้ไม่ได้ เพราะแม่จะฆ่าตายแน่ถ้ารู้ว่าฉันออกล่าแมงมุมอีกครั้ง….แล้วเธอก็เชื่อ ฮ่า…ฉันเลยบอกลาเพื่อนๆ และรอจนพวกนั้นเดินลับขอบตึกไป ฉันเลยรีบวิงตรงดิ่งไปที่ร้านไอศรีมที่นัดตาหมอนั่นไว้ อากาศตอนบ่ายของดูเวอร์ร้อนจนจะทอดไข่ได้เลยจริงๆ ฉันท้อเหลือเกินเวลาเจอแดดแรงๆแบบนี้ เฮ้อ! ในที่สุดก็ถึงซะที รองเท้าบู๊ททำให้เท้าของฉันชุ่ม รู้สึกร้อนชะมัด ไม่น่าใส่มาเลย
"รอนานมากเลย" นี่หรอวิธีการทักของเขา
"โทษที ทั้งหมดก็เพราะนายน่ะแหละ ที่ฉันต้องทนติดแหง๊กในห้องทำโทษ ทั้งหมดก็เพราะนาย" ฉันนั่งลง แล้วตัดสินใจจะสั่งไอศกรีมมา ว่าแต่ฉันควรจะเอารสอะไรดี รสที่ไม่เลี่ยน หรือฉันจะสั่งราสเบอร์รี่เชอร์เบตดีนะ เห็นเอพริลบอกว่าอร่อยมากเลย
"เอาหล่ะ ฉันมาที่นี่ก็เพราะว่า เธอ" ว๊ายต๊าย มีรสใหม่ แอปเปิ๊ล เชอร์เบต
“เอา แอปเปิ้ล เชอร์เบตค่า” ฉันตะโกนให้แองจี้พนักงานประจำของที่นี่ เธอยิ้มตอบกลับมา แล้วหรี่สายตามาทางตาจอร์จ ประมาณว่านั่นใครน่ะ ฉันเลยทำปากกลับไปว่า “คนงี่เง่าคนนึง” เธอก็เลยหัวเราะคิกคัก
“นี่เธอ ฟังฉันอยู่รึเปล่า” ตาจอร์จหรี่ตามอง ฉันเลยชะงัก
“ฟังสิ ว่าแต่ อะไรหรอ?” แองจี้เดินถือไอศรีมมาให้ฉัน แล้วส่งสายตาหวานหยดย้อยให้ตาจอร์จ ตานั่นไม่สนใจ แต่ฉันคิดว่าคงเก๊กมากกว่า พวกผู้ชายก็เก๊กเสมอแหละ
“เธอนี่ กรุณาฟังคนอื่นพูดหน่อยได้รึเปล่า แล้วยังจะมาว่าฉันเป็นคนงี่เง่าอีก รู้ไหมฉันมาที่นี่ก็เพราะเธอนะ” ตาจอร์จพูดหน้าเครียด
"เพราะฉัน?... ยังไง ทำไม" ฉันงง พูดตามตรงเขาเป็นโรคจิตรึเปล่า ฉันไม่เคยเอารูปตัวเองไปลงในหนังสือหาคู่หรอกนะ ว่าจะทำเหมือนกันนะ แต่ต้องรอตอนฉัน 35 ไม่มีแฟน จนตรอกแล้วจริงๆน่ะ
"เธอไม่รู้ตัวหรอกหรอว่าเธอคือคนสำคัญ" อร๊าย ต๊าย ฉันไม่ยักรู้ว่าตัวเองสำคัญมาตั้งแต่ ….. เกิดแล้วนะ เอ๊ะ หรือตานี่จะชอบฉัน
"ตอนนี้ผู้ปกป้องคนอื่นได้จากเราไปแล้ว แล้วสิ่งชั่วร้ายกำลังคลืบคลานเข้ามา สิ่งที่เลวร้ายเกินกว่าที่มนุษย์จะคาดคิด เธอเท่านั้นที่จะปกป้อง...." เขาพูด ดูเหมือนจะไม่พูดเล่น แต่ฉันก็ขำอยู่ดี
"นี่ ถ้าเธอจะมาเล่นละครบ้าๆ ขอบอกเลยนะว่าฉันไม่เชื่อ ไปให้ไกลเลยไปตาโรคจิต" ฉันลุกขึ้น กำลังจะเดินหนี แต่แล้วฉันก็ต้องหยุด
"เธอหนีไม่ได้หรอก เธอต้องยอมรับอย่างเดียว เธอกับฉันมีสร้อยที่เหมือนกัน รู้ใช่รึเปล่า"
"แล้วยังไง เธอก็อาจจะได้สร้อยที่เหมือนกับฉันมาก็ได้ อาจมีคนอีก 100 คนที่ใส่สร้อยแบบนี้อยู่ก็ได้"
"เธอได้มันมาจากมาดามฮาน่า ใช่มั๊ย" เขารู้ได้ยังไงกัน สร้อยโลหะเล็กๆที่มีภาษาลาตินเขียนไว้นี่ฉันก็ได้มาจากมาดามฮาน่าจริงๆแหละ
"ใช่" ฉันกลับลงไปนั่ง เหมือนมีมนต์สะกด ผู้ชายคนนี้รู้ได้ยังไง
"ตอนนี้มาดามฮาน่าตายแล้ว ฉันถูกส่งมา เธอเป็นคนที่ถูกเลือกไว้ ฉันจะเป็นผู้ช่วยเธอ เธอไม่มีสิทธิเลือก...."
"เฮ้ นาย ตื่นสิ นี่ชีวิตฉัน ฉันมีสิทธิที่จะเลือก ไม่มีใครมีสิทธิที่จะมาสั่งให้ฉันทำโน่นทำนี่ อย่างที่ฉันไม่ต้องการ"
"มาดามฮาน่า ต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายมาทั้งชีวิตของเธอ ส่วนคนต่อไปที่จะทำหน้าที่นี้ต่อก็คือเธอนั่นแหละ แฮนเดอร์สัน"
"แล้วทำไมต้องฉัน"
"เพราะเธอมีพลังที่คนทั่วไปไม่มี" เขามองเข้ามาในตาของฉัน ท่าทางเขาจริงจังซะด้วยแฮะ
"เอาหล่ะ งั้นขอทบทวนนะ ฉันก็ต้องย้ายไปกรีซ แล้วตั้งชื่อตัวเองว่า มาดามแฮนเดอร์สันสินะ แล้วก็ต้องต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายที่อาจจจะเป็นแค่ตาโรคจิตจอมป่วนไปจนแก่ตายใช่มั๊ย"
"นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น" เขาเสียงดัง ทำเอาคนที่นั่งอยู่ในร้านหันมามองพวกเรา ตานี่ไม่รู้จักอายเอาซะเลย
"เอาหล่ะ ฉันเชื่อละ แต่นายเลิกทำฉันขายหน้าได้รึยัง" ฉันพูดเตรียมลุกออกจากร้าน
"คืนนี้เธอต้องไปกับฉัน" เขาพูดเสียงเบาลง เกือบจะกระซิบ แหม อายเป็นซะด้วย หรือไม่กันนะ
"ได้ยังไง กฏของฉันคือ ฉันจะไม่ออกไปกับผู้ชายตอนกลางคืน โดยเฉพาะคนโรคจิตแบบนาย"
"กฏของฉันก็มีเหมือนกัน ฉันจะไม่พยายามเอ่อม.....กับผู้หญิงที่ดูไม่น่าสนใจ"
"นี่นายหาว่าฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ" ฉันฉุน รู้สึกเหมือนมีคนเอาน้ำร้อนมาราดบนหน้า ตานี่กล้าดียังไง!?
"ยังไงเธอก็ต้องไป ฉันเห็นภาพเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องไม่ดี ที่จะเกิดขึ้นที่โรงเรียนของเธอ เธอต้องไป ต้องไปให้ได้นะ ถ้าเธออยากพิสูจน์ว่าเธอไม่ขี้ขลาด เธอก็ต้องไป"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ