Corona : Sunny Ville
9.2
2) Hello Heather
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันใส่มันฝรั่งชิ้นสุดท้ายเข้าปากแล้วตัดสินใจจะไปหาอเล็กซ์ที่ห้องของเขา แต่ปรากฏว่าอเล็กซ์ไม่อยู่ที่ห้อง ฉันสงสัยจริงๆว่าเขาหายไปไหนในเช้าวันเสาร์แบบนี้ แต่ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงประเภทที่ตามจิกแฟนตัวเองหรอกนะ ฉันอยากจะอยู่กันอย่างให้เกียรติกันมากกว่า อีกอย่างฉันก็ไม่คิดว่าอเล็กซ์จะนอกใจฉันด้วย เพราะเขาเป็นคนที่ดีมาก
“สวัสดีจ้ะ โคลอี้” เฮเทอร์เดินเข้ามาทักทายอย่างสุภาพตามสไตล์ของเธอ เฮเทอร์เป็นผู้หญิงที่เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้มากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย เธอเป็นบาร์บี้ประเภทที่คุณซื้อมาแล้วไม่อยากจะแกะออกมาเล่นแต่เป็นประเภทที่อยากจะเก็บไว้ใส่ในกล่องตั้งโชว์มากกว่า
“สวัสดีจ้ะ เฮเทอร์ ตื่นเช้าจังนะ” ฉันฉีกยิ้ม รู้สึกตัวเองดูย่ำแย่เมื่อยืนกับเฮเทอร์ เฮเทอร์ดูดีมากในชุดวิ่งตอนเช้าของเธอ ทั้งๆที่ไม่ได้แต่งหน้า แต่ฉันนี่สิ ขนาดใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์รัดรูปและแต่งหน้านิดๆยังสวยสู่เธอไม่ได้
“เป็นปกติจ้ะ ฉันต้องออกกำลังกาย เธอก็รู้ฉันอยู่ชมรมการแสดง แล้วอีกไม่กี่วันฉันจะต้องขึ้นเวทีแล้ว ผู้กำกับฉันน่ะเฮี๊ยบสุดๆ อีตาไมเคิล เจมส์น่ะ เฮ้อ ตานั่นบอกให้ฉันลดอีก 2 ปอนด์ถ้าไม่อยากดูอ้วนเป็นหมูบนเวที” เฮเทอร์ทำหน้าเศร้า ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเธอต้องลดน้ำหนักอีก ในเมื่อตอนนี้เธอสวยเช้งอยู่แล้ว ฉันว่าบางทีโลกนี้ก็ไม่ยุติธรรมเลย ฉันเลยบอกเธอว่าถ้าคราวหน้าอีตาไมเคิลอะไรนั่นบอกให้เธอลดน้ำหนักอีกละก็ โทรหาฉันเลยฉันจะไปจัดการมันให้ ฉันละทนไม่ได้จริงๆ ผู้หญิงเราต้องผอมมากๆ เป็นกุ้งแห้งหรอถึงจะสวย ฉันไม่เห็นด้วยสุดๆ
เฮเทอร์บอกลาฉัน เธอเสียบหูฟังเข้าหูแล้ววิ่งต่อไป ฉันเลยไม่รู้จะทำอะไรต่อ เลยคิดว่าจะเดินกลับไปที่หอพัก แต่ในระหว่างทางที่เดิน ฉันก็รู้สึกไม่ดีเลย เหมือนโลกหมุนไปหมด บรรยากาศเริ่มคล้ายในหนังสยองขวัญ บางทีฉันอาจจะตื่นเช้าเกินไป หรือบางที…
“โคลอี้…” ฉันสาบานได้ว่ามีคนเรียก แต่นี่มัน 8 โมงเช้าแล้วนะ แล้วฉันก็ไม่ค่อยอยากเชื่อหรือคิดเรื่องผีด้วย ฉันเลยสาดสายตามองไปรอบๆ ไม่คิดเลยว่ามหาวิทยาลัยจะเงียบ และดูวังเวงขนาดนี้
“ใครน่ะ?…อเล็กซ์หรอ? ไม่ตลกนะ” ฉันตะโกนกลับไป แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ฉันก็ว่าคงไม่ใช่อเล็กซ์หรอก เสียงเหมือน…
ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือมาจับที่ไหล่
“ฉันตามหาเธอตั้งนาน” ฉันหันกลับไปอย่างโล่งใจ เมื่อเห็นว่ามือนั้นเป็นมือของเจน
“เมื่อกี้เธอเรียกฉันหรอ” ฉันถามกลับไปแบบร้อนใจแต่เจนบอกว่าไม่ได้เรียก เธอแค่เดินตามมาแล้วเห็นฉันหยุดตะโกนหาใครหรืออะไรสักอย่าง ดูท่าทางจะเป็นลมเลยเข้ามาจับไว้ ฉันเห็นหน้าตาของเจนเหมือนเป็นห่วงฉันสุดๆ เลยตัดสินใจไม่บอกเธอว่าฉันได้ยินเสียงเรียก เสียงที่เหมือนเคที่น้องสาวฉัน ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน เคที่น้อยของฉัน
“กลับห้องดีกว่านะ ว่าแต่เธอมาทำอะไรแถวนี้คนเดียวน่ะ ฉันมีเรื่องด่วนจะเล่าให้ฟัง ฉันว่าเธอคงยังไม่รู้ เธออกมาก่อนที่จะเห็นไอ้นี่น่ะ คือเมื่อกี้ฉันไปหาคริสที่ห้องมาเพราะเจอมัน เลยต้องไปบอกยกเลิกนัดของเราคืนนี้” เธอยื่นกระดาษที่เป็นประกาศของมหาลัยมาให้ฉัน มันเขียนว่า มีนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยเราโดนทำร้ายร่างกาย ห้ามนักศึกษาหญิงเดินในที่เปลี่ยวคนเดียวหลังหกโมงเย็นและห้ามออกจากห้องพักของตัวเองหลังสองทุ่ม
“แล้วฉันก็เจออีตารูมเมทเขาน่ะ อีตาไมเคิล เจมส์น่ะ กำลังโวยวายได้ที่เลย ฉันเลยถามคริสว่าเขาเป็นบ้าอะไร คริสบอกว่าตานั่นโมโหเรื่องหาคนมาเล่นละครงี่เง่าของเขาไม่ทัน เห็นว่าคนที่ตายนี่เป็นนางเอกของเรื่องล่ะ ฉันล่ะไม่เข้าใจอีตาโหดนี่เลย ไม่มีความเห็นใจ หรือให้เกียรติคนตายสักนิด คือขอบอกว่าเมื่อคืนมีคนโดนข่มขืนแล้วฆ่าระหว่างทางกลับหอพัก อีกฟากนึงของมหาลัยน่ะ เขาว่าเมื่อคืนคนมามุงเยอะมากเลย ตำรวจ รถพยายาลมาหมดเลย คริสก็ออกมาดูนะ แต่ไม่เห็นศพน่ะ เฮ้อ ว่าแต่พูดแล้วก็ขนลุก ฉันว่ากะจะไปดูซะหน่อย เห็นคริสว่าตอนนี้พวกตำรวจก็ยังไม่น่าจะไปนะ เห็นว่ามีพวกนักข่าวด้วยหล่ะ ในจดหมายมหาลัยเขียนว่าทำร้ายร่างกายเฉยๆ มหาลัยงี่เง่า ยังไงพวกเราก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดีล่ะ ฉันว่าเรื่องนี้ต้องโดนประท้วงแน่ๆ ถ้ามีคนประท้วงจริงๆฉันจะไปร่วมด้วยนะ” เจนบอกฉันสีหน้าเคร่งเครียด
“อะไรนะ เมื่อกี้เธอพูดถึงใครนะ” ฉันถามเจนกลับไปอย่างตกใจ
“ประท้วงไง ไปด้วยกันนะ” เจนพูดสีหน้าเอาจริงเอาจังเพราะเธอเป็นพวกความยุติธรรมต้องมาก่อน
“ไม่ใช่...เรื่องละครอะไรนั่นน่ะ แล้วก็รูมเมทของคริสน่ะ เธอว่าอะไรนะ”
“อีตาไมเคิล เจมส์ไง ก็นางเอกของตานั่นน่ะ ที่โดน….แบบว่าเธอก็รู้ น่าเศร้านะ เธอสวยมากเลยด้วย” ฉันหยุดเดินและหันกลับไปในทางที่ฉันเพิ่งคุยกับเฮเทอร์มา เฮเทอร์เป็นนางเอกของเรื่อง
“ผิดคนรึเปล่า เธอแน่ใจหรอว่านางเอก” ฉันถามกลับไปอย่างร้อนใจ
“ใช่ ฉันรู้สึกว่าชื่อเฮ... อะไรสักอย่างนี่แหละ อืมมมม เฮเทอร์ อะไรนี่แหละมั้ง”
ฉันช็อกพูดอะไรไม่ออก ฉันอยากจะบอกเธอว่าฉันเพิ่งคุยกับเฮเทอร์มา ไม่ถึง 3 นาทีที่แล้ว แต่ฉันไม่อยากให้เจนเป็นห่วงฉัน หลายปีที่ผ่านมาเธอด้องทนฟังเรื่องผีๆสางๆของฉันมามาก ฉันเลยตัดสินใจไม่พูดต่อเรื่องที่ฉันเจอเฮเทอร์ เจนพยุงฉันกลับเข้าห้องแล้วหายาแก้ไข้มาให้ฉัน เธอบอกฉันให้นอนพัก เพราะหน้าฉันซีดเหมือนศพสุดๆ ฉันว่าที่หน้าฉันเป็นแบบนี้ เพราะฉันเพิ่งเจอและคุยกับคนที่เพิ่งตายไปไม่นานมากกว่า
เจนปิดประตูห้อง เธอว่าจะออกไปดูเหตุการณ์ ส่วนฉันก็ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ มีคำถามมากมายในหัวฉันตอนนี้ คนที่ฉันคุยด้วยเมื่อกี้เป็นใคร แต่ฉันสาบานได้ว่าเฮเทอร์ แล้วเธอก็ไม่ดูเหมือนผีเลยสักนิด คนที่เหมือนผีน่ะน่าจะเป็นฉันมากกว่า แล้วฉันก็ดูนะเรื่อง Ghost Whisperer น่ะ ผีต้องมาแบบหายตัวได้ไม่ใช่หรอ แต่เมื่อกี้ฉันเห็นเฮเทอร์วิ่งจากไปนะ ไม่ได้หายตัวไป…
ฉันยืนบนสนามหน้าบ้านในซันนี่วิลล์อีกครั้ง แดดยามเช้าที่นี่แรงเหมือนทุกครั้ง ฉันเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เสียงการ์ตูนตอนเช้าของเคที่ดังไปทั่วบ้าน ฉันเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เคที่น้อยของฉันนั่งอยู่ ฉันเลยเข้าไปดูการ์ตูนกับเธอ เคที่แบ่งขนมปังให้ฉันกิน
“กินอาหารเช้ากับหนูสิคะ” เคที่ยิ้มอย่างสดใส พร้อมกับแทะเล็มขนมปังอย่างมีความสุข
ฉันกัดขนมปังไปหนึ่งคำแล้วเดินเข้าไปในครัว แม่กำลังคั้นน้ำส้มอยู่ ฉันเดินเข้าไปกอดแม่ แม่ยิ้มแล้วหันมามองหน้าฉัน
“โคลอี้แม่มีเรื่องจะบอกจ้ะ”
“ปัง ปัง ปัง…โคลอี้…”
“ลูกตั้งใจฟังแม่นะ …..”
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ตาของฉันร้าวเหมือนทุกครั้ง ฉันตั้งสติแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู ฉันเห็นเจนยืนอยู่หน้าตาตระหนก ฉันคิดว่าเธอลืมกุญแจเลยย้อนกลับมาเอา ซึ่งก็จริง เธอลืมกุญแจ แต่มันไม่ใช่สาเหตุที่เธอกลับมา
"โคลอี้ เธอทำใจดีๆไว้นะ คริสเพิ่งโทรมาบอกฉันว่า อเล็กซ์โดนจับ เขาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีการตายของ เฮเทอร์"
(ติดตามตอนต่อไป)
“สวัสดีจ้ะ โคลอี้” เฮเทอร์เดินเข้ามาทักทายอย่างสุภาพตามสไตล์ของเธอ เฮเทอร์เป็นผู้หญิงที่เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้มากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย เธอเป็นบาร์บี้ประเภทที่คุณซื้อมาแล้วไม่อยากจะแกะออกมาเล่นแต่เป็นประเภทที่อยากจะเก็บไว้ใส่ในกล่องตั้งโชว์มากกว่า
“สวัสดีจ้ะ เฮเทอร์ ตื่นเช้าจังนะ” ฉันฉีกยิ้ม รู้สึกตัวเองดูย่ำแย่เมื่อยืนกับเฮเทอร์ เฮเทอร์ดูดีมากในชุดวิ่งตอนเช้าของเธอ ทั้งๆที่ไม่ได้แต่งหน้า แต่ฉันนี่สิ ขนาดใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์รัดรูปและแต่งหน้านิดๆยังสวยสู่เธอไม่ได้
“เป็นปกติจ้ะ ฉันต้องออกกำลังกาย เธอก็รู้ฉันอยู่ชมรมการแสดง แล้วอีกไม่กี่วันฉันจะต้องขึ้นเวทีแล้ว ผู้กำกับฉันน่ะเฮี๊ยบสุดๆ อีตาไมเคิล เจมส์น่ะ เฮ้อ ตานั่นบอกให้ฉันลดอีก 2 ปอนด์ถ้าไม่อยากดูอ้วนเป็นหมูบนเวที” เฮเทอร์ทำหน้าเศร้า ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเธอต้องลดน้ำหนักอีก ในเมื่อตอนนี้เธอสวยเช้งอยู่แล้ว ฉันว่าบางทีโลกนี้ก็ไม่ยุติธรรมเลย ฉันเลยบอกเธอว่าถ้าคราวหน้าอีตาไมเคิลอะไรนั่นบอกให้เธอลดน้ำหนักอีกละก็ โทรหาฉันเลยฉันจะไปจัดการมันให้ ฉันละทนไม่ได้จริงๆ ผู้หญิงเราต้องผอมมากๆ เป็นกุ้งแห้งหรอถึงจะสวย ฉันไม่เห็นด้วยสุดๆ
เฮเทอร์บอกลาฉัน เธอเสียบหูฟังเข้าหูแล้ววิ่งต่อไป ฉันเลยไม่รู้จะทำอะไรต่อ เลยคิดว่าจะเดินกลับไปที่หอพัก แต่ในระหว่างทางที่เดิน ฉันก็รู้สึกไม่ดีเลย เหมือนโลกหมุนไปหมด บรรยากาศเริ่มคล้ายในหนังสยองขวัญ บางทีฉันอาจจะตื่นเช้าเกินไป หรือบางที…
“โคลอี้…” ฉันสาบานได้ว่ามีคนเรียก แต่นี่มัน 8 โมงเช้าแล้วนะ แล้วฉันก็ไม่ค่อยอยากเชื่อหรือคิดเรื่องผีด้วย ฉันเลยสาดสายตามองไปรอบๆ ไม่คิดเลยว่ามหาวิทยาลัยจะเงียบ และดูวังเวงขนาดนี้
“ใครน่ะ?…อเล็กซ์หรอ? ไม่ตลกนะ” ฉันตะโกนกลับไป แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ฉันก็ว่าคงไม่ใช่อเล็กซ์หรอก เสียงเหมือน…
ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือมาจับที่ไหล่
“ฉันตามหาเธอตั้งนาน” ฉันหันกลับไปอย่างโล่งใจ เมื่อเห็นว่ามือนั้นเป็นมือของเจน
“เมื่อกี้เธอเรียกฉันหรอ” ฉันถามกลับไปแบบร้อนใจแต่เจนบอกว่าไม่ได้เรียก เธอแค่เดินตามมาแล้วเห็นฉันหยุดตะโกนหาใครหรืออะไรสักอย่าง ดูท่าทางจะเป็นลมเลยเข้ามาจับไว้ ฉันเห็นหน้าตาของเจนเหมือนเป็นห่วงฉันสุดๆ เลยตัดสินใจไม่บอกเธอว่าฉันได้ยินเสียงเรียก เสียงที่เหมือนเคที่น้องสาวฉัน ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน เคที่น้อยของฉัน
“กลับห้องดีกว่านะ ว่าแต่เธอมาทำอะไรแถวนี้คนเดียวน่ะ ฉันมีเรื่องด่วนจะเล่าให้ฟัง ฉันว่าเธอคงยังไม่รู้ เธออกมาก่อนที่จะเห็นไอ้นี่น่ะ คือเมื่อกี้ฉันไปหาคริสที่ห้องมาเพราะเจอมัน เลยต้องไปบอกยกเลิกนัดของเราคืนนี้” เธอยื่นกระดาษที่เป็นประกาศของมหาลัยมาให้ฉัน มันเขียนว่า มีนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยเราโดนทำร้ายร่างกาย ห้ามนักศึกษาหญิงเดินในที่เปลี่ยวคนเดียวหลังหกโมงเย็นและห้ามออกจากห้องพักของตัวเองหลังสองทุ่ม
“แล้วฉันก็เจออีตารูมเมทเขาน่ะ อีตาไมเคิล เจมส์น่ะ กำลังโวยวายได้ที่เลย ฉันเลยถามคริสว่าเขาเป็นบ้าอะไร คริสบอกว่าตานั่นโมโหเรื่องหาคนมาเล่นละครงี่เง่าของเขาไม่ทัน เห็นว่าคนที่ตายนี่เป็นนางเอกของเรื่องล่ะ ฉันล่ะไม่เข้าใจอีตาโหดนี่เลย ไม่มีความเห็นใจ หรือให้เกียรติคนตายสักนิด คือขอบอกว่าเมื่อคืนมีคนโดนข่มขืนแล้วฆ่าระหว่างทางกลับหอพัก อีกฟากนึงของมหาลัยน่ะ เขาว่าเมื่อคืนคนมามุงเยอะมากเลย ตำรวจ รถพยายาลมาหมดเลย คริสก็ออกมาดูนะ แต่ไม่เห็นศพน่ะ เฮ้อ ว่าแต่พูดแล้วก็ขนลุก ฉันว่ากะจะไปดูซะหน่อย เห็นคริสว่าตอนนี้พวกตำรวจก็ยังไม่น่าจะไปนะ เห็นว่ามีพวกนักข่าวด้วยหล่ะ ในจดหมายมหาลัยเขียนว่าทำร้ายร่างกายเฉยๆ มหาลัยงี่เง่า ยังไงพวกเราก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดีล่ะ ฉันว่าเรื่องนี้ต้องโดนประท้วงแน่ๆ ถ้ามีคนประท้วงจริงๆฉันจะไปร่วมด้วยนะ” เจนบอกฉันสีหน้าเคร่งเครียด
“อะไรนะ เมื่อกี้เธอพูดถึงใครนะ” ฉันถามเจนกลับไปอย่างตกใจ
“ประท้วงไง ไปด้วยกันนะ” เจนพูดสีหน้าเอาจริงเอาจังเพราะเธอเป็นพวกความยุติธรรมต้องมาก่อน
“ไม่ใช่...เรื่องละครอะไรนั่นน่ะ แล้วก็รูมเมทของคริสน่ะ เธอว่าอะไรนะ”
“อีตาไมเคิล เจมส์ไง ก็นางเอกของตานั่นน่ะ ที่โดน….แบบว่าเธอก็รู้ น่าเศร้านะ เธอสวยมากเลยด้วย” ฉันหยุดเดินและหันกลับไปในทางที่ฉันเพิ่งคุยกับเฮเทอร์มา เฮเทอร์เป็นนางเอกของเรื่อง
“ผิดคนรึเปล่า เธอแน่ใจหรอว่านางเอก” ฉันถามกลับไปอย่างร้อนใจ
“ใช่ ฉันรู้สึกว่าชื่อเฮ... อะไรสักอย่างนี่แหละ อืมมมม เฮเทอร์ อะไรนี่แหละมั้ง”
ฉันช็อกพูดอะไรไม่ออก ฉันอยากจะบอกเธอว่าฉันเพิ่งคุยกับเฮเทอร์มา ไม่ถึง 3 นาทีที่แล้ว แต่ฉันไม่อยากให้เจนเป็นห่วงฉัน หลายปีที่ผ่านมาเธอด้องทนฟังเรื่องผีๆสางๆของฉันมามาก ฉันเลยตัดสินใจไม่พูดต่อเรื่องที่ฉันเจอเฮเทอร์ เจนพยุงฉันกลับเข้าห้องแล้วหายาแก้ไข้มาให้ฉัน เธอบอกฉันให้นอนพัก เพราะหน้าฉันซีดเหมือนศพสุดๆ ฉันว่าที่หน้าฉันเป็นแบบนี้ เพราะฉันเพิ่งเจอและคุยกับคนที่เพิ่งตายไปไม่นานมากกว่า
เจนปิดประตูห้อง เธอว่าจะออกไปดูเหตุการณ์ ส่วนฉันก็ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ มีคำถามมากมายในหัวฉันตอนนี้ คนที่ฉันคุยด้วยเมื่อกี้เป็นใคร แต่ฉันสาบานได้ว่าเฮเทอร์ แล้วเธอก็ไม่ดูเหมือนผีเลยสักนิด คนที่เหมือนผีน่ะน่าจะเป็นฉันมากกว่า แล้วฉันก็ดูนะเรื่อง Ghost Whisperer น่ะ ผีต้องมาแบบหายตัวได้ไม่ใช่หรอ แต่เมื่อกี้ฉันเห็นเฮเทอร์วิ่งจากไปนะ ไม่ได้หายตัวไป…
ฉันยืนบนสนามหน้าบ้านในซันนี่วิลล์อีกครั้ง แดดยามเช้าที่นี่แรงเหมือนทุกครั้ง ฉันเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เสียงการ์ตูนตอนเช้าของเคที่ดังไปทั่วบ้าน ฉันเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เคที่น้อยของฉันนั่งอยู่ ฉันเลยเข้าไปดูการ์ตูนกับเธอ เคที่แบ่งขนมปังให้ฉันกิน
“กินอาหารเช้ากับหนูสิคะ” เคที่ยิ้มอย่างสดใส พร้อมกับแทะเล็มขนมปังอย่างมีความสุข
ฉันกัดขนมปังไปหนึ่งคำแล้วเดินเข้าไปในครัว แม่กำลังคั้นน้ำส้มอยู่ ฉันเดินเข้าไปกอดแม่ แม่ยิ้มแล้วหันมามองหน้าฉัน
“โคลอี้แม่มีเรื่องจะบอกจ้ะ”
“ปัง ปัง ปัง…โคลอี้…”
“ลูกตั้งใจฟังแม่นะ …..”
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ตาของฉันร้าวเหมือนทุกครั้ง ฉันตั้งสติแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู ฉันเห็นเจนยืนอยู่หน้าตาตระหนก ฉันคิดว่าเธอลืมกุญแจเลยย้อนกลับมาเอา ซึ่งก็จริง เธอลืมกุญแจ แต่มันไม่ใช่สาเหตุที่เธอกลับมา
"โคลอี้ เธอทำใจดีๆไว้นะ คริสเพิ่งโทรมาบอกฉันว่า อเล็กซ์โดนจับ เขาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีการตายของ เฮเทอร์"
(ติดตามตอนต่อไป)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ