วันฟ้าหม่น
9.0
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 18.49 น.
10 ตอน
30 วิจารณ์
21.56K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 13.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เปิดตัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ่ายวันนี้ พริริยาตัดสินใจทำบางอย่าง
หลังเรียนเสร็จ หญิงสาวขึ้นรถประจำทางเดินทางมุ่งหน้าไปยังที่ที่หนึ่งทันที พลางนึกในใจ
“ถึงเวลาแล้วสินะที่เราจะได้เจอกัน รอฉันก่อนนะ ยังไงวันนี้ ฉันก็ต้องพูดกับคุณให้ได้”
หญิงสาวหมายมาดในใจ เนื่องจากวันนี้เส้นด้ายแห่งความอดทนของเธอขาดผึงทันทีเมื่อช่วงเช้าที่เพื่อนของเธอนำหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งมาให้เธอดู
หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับลงพาดหัวข่าวในทำนอง “งานวิวาห์ฟ้าแลบ เศรษฐีหนุ่มหล่อกับม่ายสาวลูกติด”,“คู่ฮอตดอกหญ้ากับมหาเศรษฐีหนุ่มสุดหล่อ”,”คู่รักต่างขั้ว รักสายฟ้าแลบ”
หลังจากพริริยาเห็นพาดหัวข่าวเหล่านี้ เธอจึงคิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว แต่เธอพลาดตรงที่ไม่ได้ดูหน้ามหาเศรษฐีคนนั้นให้ชัดๆ
....................................
ขณะนี้พริริยามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตึกสูงระฟ้าแห่งหนึ่ง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นอ่านป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า “พิภพกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล”
หญิงสาวตัดสินใจเดินเข้าไปภายในตัวตึก และขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 5 ที่มีป้ายติดเอาไว้ว่า “ห้องผู้บริหาร”
พริริยามาหยุดยืนอยู่หน้าห้องทำงานขนาดใหญ่ เธอก้าวเร็วไปที่หน้าห้องนั้นในทันที ขณะที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ก็มีเสียงใสๆ ดังขึ้นด้านหลังว่า
“เอ่อ! ขอโทษนะคะคุณมาหาท่านประธานใช่มั้ยคะ ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ รบกวนรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเรียนท่านประธานให้ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ คุณ เดี๋ยวก่อนค่ะ”
ผู้พูดตกใจ เมื่อหญิงสาวแปลกหน้าถือวิสาสะผลักประตูห้องขนาดใหญ่ ที่มีป้ายติดไว้ชัดเจนว่า “ห้องท่านประธาน” เธอทำอะไรไม่ได้นอกจาก บ่นออกมาเบาๆ ว่า
“ตายแล้ว!ยัยโสภา จะโดนไล่ออกมั้ยล่ะเนี่ย โทษฐานที่บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยให้แขกแปลกหน้าเข้าไปพบท่านโดยไม่ได้เรียนให้ท่านทราบก่อน”
ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็หยิบยาดมประจำตัวออกมาสูดเข้าจมูกแรงๆ สองสามที ก่อนจะเดินลากขากลับไปนั่งที่หน้าห้องท่านประธานด้วยท่าทางหนักใจสุดๆ อยู่ที่เดิม
ภายในห้องทำงานท่านประธาน
พริริยาเดินตรงเข้ามาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ซึ่งมีอยู่เพียงตัวเดียวในห้อง ป้ายหน้าโต๊ะระบุไว้ว่า”นายพิภพ อภินันท์ธนะไพศาล”
ซึ่งบุคคลเจ้าของโต๊ะนั่งหันหลังอยู่บนเก้าอี้เลื่อนตัวใหญ่ที่อยู่หลังโต๊ะ
หญิงสาวแอบค่อนขอดในใจว่า
“ผู้ชายคนนี้คงจะร่ำรวยมหาศาลมากสินะ แม่ของเธอถึงได้ติดอกติดใจเขาได้มากขนาดนี้ เชอะ คงคิดสินะ ว่าเงินสามารถซื้ออะไรก็ได้บนโลกใบนี้ เสียใจนะสำหรับแม่ของฉันคุณไม่มีทางซื้อได้ด้วยเงินของคุณหรอก ฉันไม่มีวันยอมแน่”
พริริยาแกล้งกระแอมเบาๆ พอให้ได้ยิน บุคคลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หันเก้าอี้กลับมาตรงหน้าหญิงสาวทันที
เมื่อหญิงสาวเห็นหน้าเจ้าของโต๊ะทำงาน เธอก็อดแปลกใจไม่ได้
“นี่น่ะเหรอ ผู้ชายที่แม่รัก แม่รักผู้ชายที่อายุอ่อนกว่าคราวลูกคนนี้นะเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ"
'ผู้ชายตรงหน้าหล่อน น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันหรือไม่ก็อาจแก่กว่าไม่กี่ปีคนนี้ เขาเป็นคนที่แม่รักและกำลังจะแต่งงานด้วยงั้นเหรอ'
ชายหนุ่มตรงหน้ามีท่าทางแปลกใจที่เห็นแขกไม่ได้รับเชิญถือวิสาสะเข้ามาภายในห้อง โดยที่เลขาหน้าห้องไม่ได้รายงานให้เขาทราบก่อนเหมือนทุกครั้ง
เขามองสำรวจหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะกลับมาจ้องใบหน้าสวยๆ ของนักศึกษาสาวผู้นี้อีกครั้ง พร้อมเผยรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ
หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจชายหนุ่มตรงหน้าที่มองเธอด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์อย่างกับว่าเธอจะมาสัมภาษณ์งานหรือเป็นตัวประหลาดอะไรสักอย่าง
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว
หญิงสาวตัดสินใจพูดขึ้นว่า
“คุณควเป็น คุณพิภพ ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่พิภพกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล ล่ะสินะ เอาล่ะฉันขอพูดตามตรงเลยก็แล้วกัน”
“ไม่ว่าคุณคิดจะเล่นตลกอะไรหรือกำลังจะหลอกลวงอะไรแม่ฉันอยู่ล่ะก็ ขอบอกไว้ตรงนี้ว่า ฉันจะไม่ยอมและฉันจะไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่ เพราะฉะนั้นกรุณาอย่ามายุ่งกับแม่ฉัน หวังว่าฉันพูดแค่นี้ คุณก็คงรู้นะ ว่าฉันหมายถึงอะไร”
“เอ! สงสัยว่าผมคงไม่ฉลาดพอ ผมจึงไม่อาจเข้าใจความหมายที่คุณพูดมาเลยครับ”
ชายหนุ่มพูดและมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าที่มีท่าทางเอาเรื่องน่าดู แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจเจตนาของเธอมากนัก
ถึงอย่างนั้นเชายหนุ่มก็ยังอยากจะรู้ ว่าเธอมาที่นี่เพื่อเรียกร้องหรือต้องการอะไรกันแน่
“นี่คุณ อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย วิธีนี้มันใช่ไม่ได้ผลกับฉันหรอก ฉันขอบอกอีกครั้งว่า คุณควรยกเลิกงานแต่งงานระหว่างคุณกับแม่ของฉันซะ ถ้าคุณไม่อยากเดือดร้อน”
หญิงสาวชักจะโมโหจึงโพล่งออกมาตรงๆ ด้วยความไม่พอใจชายหนุ่มตรงหน้าที่ดูเหมือนว่าเขากำลังเห็นเรื่องที่เธอพูดเป็นเรื่องตลก
ชายหนุ่มยิ้มในหน้าและหัวเราะเบาๆ อย่างสบายอารมณ์
“อ้อ คราวนี้ผมพอจะเข้าใจความหมายของคุณแล้วล่ะ ผมเดาว่า คุณก็คือ ลูกสาวคนเดียวของคุณพิมพาสินะครับ และดูท่าทางคุณจะหวงแม่ของคุณน่าดู”
ชายหนุ่มนึกไปถึงพาดหัวข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งจะอ่านไปเมื่อเช้าก่อนเข้ามาที่นี่
ทำให้ตอนนี้เขาพอจะเดาเรื่องราวและเจตนาของหญิงสาวตรงหน้าผู้นี้ได้ไม่ยากนัก
( โปรดติดตามตอนต่อไป )
หลังเรียนเสร็จ หญิงสาวขึ้นรถประจำทางเดินทางมุ่งหน้าไปยังที่ที่หนึ่งทันที พลางนึกในใจ
“ถึงเวลาแล้วสินะที่เราจะได้เจอกัน รอฉันก่อนนะ ยังไงวันนี้ ฉันก็ต้องพูดกับคุณให้ได้”
หญิงสาวหมายมาดในใจ เนื่องจากวันนี้เส้นด้ายแห่งความอดทนของเธอขาดผึงทันทีเมื่อช่วงเช้าที่เพื่อนของเธอนำหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งมาให้เธอดู
หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับลงพาดหัวข่าวในทำนอง “งานวิวาห์ฟ้าแลบ เศรษฐีหนุ่มหล่อกับม่ายสาวลูกติด”,“คู่ฮอตดอกหญ้ากับมหาเศรษฐีหนุ่มสุดหล่อ”,”คู่รักต่างขั้ว รักสายฟ้าแลบ”
หลังจากพริริยาเห็นพาดหัวข่าวเหล่านี้ เธอจึงคิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว แต่เธอพลาดตรงที่ไม่ได้ดูหน้ามหาเศรษฐีคนนั้นให้ชัดๆ
....................................
ขณะนี้พริริยามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตึกสูงระฟ้าแห่งหนึ่ง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นอ่านป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า “พิภพกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล”
หญิงสาวตัดสินใจเดินเข้าไปภายในตัวตึก และขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 5 ที่มีป้ายติดเอาไว้ว่า “ห้องผู้บริหาร”
พริริยามาหยุดยืนอยู่หน้าห้องทำงานขนาดใหญ่ เธอก้าวเร็วไปที่หน้าห้องนั้นในทันที ขณะที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ก็มีเสียงใสๆ ดังขึ้นด้านหลังว่า
“เอ่อ! ขอโทษนะคะคุณมาหาท่านประธานใช่มั้ยคะ ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ รบกวนรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเรียนท่านประธานให้ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ คุณ เดี๋ยวก่อนค่ะ”
ผู้พูดตกใจ เมื่อหญิงสาวแปลกหน้าถือวิสาสะผลักประตูห้องขนาดใหญ่ ที่มีป้ายติดไว้ชัดเจนว่า “ห้องท่านประธาน” เธอทำอะไรไม่ได้นอกจาก บ่นออกมาเบาๆ ว่า
“ตายแล้ว!ยัยโสภา จะโดนไล่ออกมั้ยล่ะเนี่ย โทษฐานที่บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยให้แขกแปลกหน้าเข้าไปพบท่านโดยไม่ได้เรียนให้ท่านทราบก่อน”
ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็หยิบยาดมประจำตัวออกมาสูดเข้าจมูกแรงๆ สองสามที ก่อนจะเดินลากขากลับไปนั่งที่หน้าห้องท่านประธานด้วยท่าทางหนักใจสุดๆ อยู่ที่เดิม
ภายในห้องทำงานท่านประธาน
พริริยาเดินตรงเข้ามาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ซึ่งมีอยู่เพียงตัวเดียวในห้อง ป้ายหน้าโต๊ะระบุไว้ว่า”นายพิภพ อภินันท์ธนะไพศาล”
ซึ่งบุคคลเจ้าของโต๊ะนั่งหันหลังอยู่บนเก้าอี้เลื่อนตัวใหญ่ที่อยู่หลังโต๊ะ
หญิงสาวแอบค่อนขอดในใจว่า
“ผู้ชายคนนี้คงจะร่ำรวยมหาศาลมากสินะ แม่ของเธอถึงได้ติดอกติดใจเขาได้มากขนาดนี้ เชอะ คงคิดสินะ ว่าเงินสามารถซื้ออะไรก็ได้บนโลกใบนี้ เสียใจนะสำหรับแม่ของฉันคุณไม่มีทางซื้อได้ด้วยเงินของคุณหรอก ฉันไม่มีวันยอมแน่”
พริริยาแกล้งกระแอมเบาๆ พอให้ได้ยิน บุคคลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หันเก้าอี้กลับมาตรงหน้าหญิงสาวทันที
เมื่อหญิงสาวเห็นหน้าเจ้าของโต๊ะทำงาน เธอก็อดแปลกใจไม่ได้
“นี่น่ะเหรอ ผู้ชายที่แม่รัก แม่รักผู้ชายที่อายุอ่อนกว่าคราวลูกคนนี้นะเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ"
'ผู้ชายตรงหน้าหล่อน น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันหรือไม่ก็อาจแก่กว่าไม่กี่ปีคนนี้ เขาเป็นคนที่แม่รักและกำลังจะแต่งงานด้วยงั้นเหรอ'
ชายหนุ่มตรงหน้ามีท่าทางแปลกใจที่เห็นแขกไม่ได้รับเชิญถือวิสาสะเข้ามาภายในห้อง โดยที่เลขาหน้าห้องไม่ได้รายงานให้เขาทราบก่อนเหมือนทุกครั้ง
เขามองสำรวจหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะกลับมาจ้องใบหน้าสวยๆ ของนักศึกษาสาวผู้นี้อีกครั้ง พร้อมเผยรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ
หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจชายหนุ่มตรงหน้าที่มองเธอด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์อย่างกับว่าเธอจะมาสัมภาษณ์งานหรือเป็นตัวประหลาดอะไรสักอย่าง
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว
หญิงสาวตัดสินใจพูดขึ้นว่า
“คุณควเป็น คุณพิภพ ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่พิภพกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล ล่ะสินะ เอาล่ะฉันขอพูดตามตรงเลยก็แล้วกัน”
“ไม่ว่าคุณคิดจะเล่นตลกอะไรหรือกำลังจะหลอกลวงอะไรแม่ฉันอยู่ล่ะก็ ขอบอกไว้ตรงนี้ว่า ฉันจะไม่ยอมและฉันจะไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่ เพราะฉะนั้นกรุณาอย่ามายุ่งกับแม่ฉัน หวังว่าฉันพูดแค่นี้ คุณก็คงรู้นะ ว่าฉันหมายถึงอะไร”
“เอ! สงสัยว่าผมคงไม่ฉลาดพอ ผมจึงไม่อาจเข้าใจความหมายที่คุณพูดมาเลยครับ”
ชายหนุ่มพูดและมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าที่มีท่าทางเอาเรื่องน่าดู แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจเจตนาของเธอมากนัก
ถึงอย่างนั้นเชายหนุ่มก็ยังอยากจะรู้ ว่าเธอมาที่นี่เพื่อเรียกร้องหรือต้องการอะไรกันแน่
“นี่คุณ อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย วิธีนี้มันใช่ไม่ได้ผลกับฉันหรอก ฉันขอบอกอีกครั้งว่า คุณควรยกเลิกงานแต่งงานระหว่างคุณกับแม่ของฉันซะ ถ้าคุณไม่อยากเดือดร้อน”
หญิงสาวชักจะโมโหจึงโพล่งออกมาตรงๆ ด้วยความไม่พอใจชายหนุ่มตรงหน้าที่ดูเหมือนว่าเขากำลังเห็นเรื่องที่เธอพูดเป็นเรื่องตลก
ชายหนุ่มยิ้มในหน้าและหัวเราะเบาๆ อย่างสบายอารมณ์
“อ้อ คราวนี้ผมพอจะเข้าใจความหมายของคุณแล้วล่ะ ผมเดาว่า คุณก็คือ ลูกสาวคนเดียวของคุณพิมพาสินะครับ และดูท่าทางคุณจะหวงแม่ของคุณน่าดู”
ชายหนุ่มนึกไปถึงพาดหัวข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งจะอ่านไปเมื่อเช้าก่อนเข้ามาที่นี่
ทำให้ตอนนี้เขาพอจะเดาเรื่องราวและเจตนาของหญิงสาวตรงหน้าผู้นี้ได้ไม่ยากนัก
( โปรดติดตามตอนต่อไป )
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ