วันฟ้าหม่น

9.0

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 18.49 น.

  10 ตอน
  30 วิจารณ์
  21.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 13.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ประกาศสงคราม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ใช่ ฉันนี่แหละคือ ลูกสาวของคุณพิมพา และฉันขอบอกว่าไม่ว่าแม่จะรักผู้ชายอย่างคุณมากแค่ไหน และไม่ว่าคุณจะคิดยังไงกับแม่ของฉัน คุณจะรักแม่ของฉันจริงหรือแค่คิดจะหลอกลวงแม่ของฉันเท่านั้นก็ตาม”

 

“แต่ฉันขอประกาศเอาไว้ตรงนี้ว่า ฉันจะขัดขวางคุณให้ถึงที่สุด งานแต่งงานระหว่างคุณกับแม่ของฉันจะไม่มีวันเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด”

 

ชายหนุ่มตรงหน้าปรบมือเบาๆ และยิ้มเต็มหน้าก่อนจะพูดว่า

 

“คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าบุกมาเพื่อมาประกาศสงครามกับผมถึงที่ ดี! ผมชอบ!คนที่พูดตรงไปตรงมาแบบคุณนี่แหละ เป็นผู้หญิงที่เก่งจริงๆ ผมขอชื่นชมคุณจากใจ”

 

หญิงสาวรู้สึกว่าเขากำลังเห็นสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องตลก ท่าทางเขาสบายๆ ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรกับคำพูดของเธอเลยแม้สักนิด

 

“นี่คุณพิภพ คุณคิดว่าที่ฉันพูดมาเป็นเรื่องตลกงั้นเหรอ คุณคิดผิดแล้วล่ะ คอยดูนะ สักวันคุณกับฉัน เราจะได้เห็นดีกัน”

 

ชายหนุ่มยิ้มเต็มหน้าอีกครั้งอย่างพึงพอใจ เขาไม่มีท่าทางสะทกสะท้านกับคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย แถมเขายังพูดทีเล่นทีจริงกับเธออีกว่า

 

“ดีครับ ถือว่าผมโชคดีจริงๆ ที่ได้พบคุณวันนี้ ผมว่าผมเริ่มเห็นอะไรดีๆ ในตัวคุณแล้วล่ะ ต่อไปหวังว่าคุณคงจะเห็นอะไรดีๆ ในตัวผมบ้างนะครับ”

 

พูดจบเขาก็ยื่นมือขวามาตรงหน้าหญิงสาวก่อนรีบพูดต่อว่า

 

“ยินดีที่ได้รู้จักผู้หญิงแกร่งอย่างคุณ ไม่ทราบจะให้ผมเรียกคุณว่าอะไรดีครับ”

 

หญิงสาวนึกโมโหที่เขาเล่นลิ้นกับเธอและเห็นสิ่งที่เธอมาพูดกับเขาวันนี้เป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น

 

“คุณไม่จำเป็นต้องรู้จักฉันและฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้จักคุณ หวังว่าคุณคงเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดใยวันนี้ เพราะนับจากนี้ไป ฉันจะถือว่าคุณ คือ ศัตรูของฉัน”

 

ชายหนุ่มยังคงมีท่าทางสบายๆ เหมือนเคย เขาบอกกับหญิงสาวว่า

 

“อืม ผมว่า คุณมีน้ำใจนักกีฬามากนะคุณผู้หญิง ที่อย่างน้อยคุณก็มาบอกฝ่ายตรงข้ามว่าคุณพร้อมที่จะลงมือโจมตีแล้ว ให้อีกฝ่ายมีโอกาสเตรียมพร้อมรับมือกับอาวุธทุกรูปแบบของคุณ”

 

“แต่ผมว่าอย่างน้อยๆ คุณก็น่าจะบอกให้เขาทราบชื่อเสียงเรียงนามของคุณไว้บ้างนะครับ เพื่อที่เขาจะได้เตรียมรับมือได้ถูกคน”

 

ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ ซึ่งตรงข้ามกับหญิงสาวตรงหน้าที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงด้วยความไม่พอใจกับอาการล้อเลียนและคำพูดยียวนกวนประสาทของเขา

 

อีกอย่างท่าทางสบายๆ ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย นั่นยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกขัดเคืองใจยิ่งนัก

 

จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ

 

ชายหนุ่มจึงบอกว่า

 

“เข้ามา…มีอะไรเหรอโสภา”

 

“คือ ท่านประธาน บอกว่าท่านติดธุระอีกประมาณสัก 2-3 ชั่วโมง ท่านจึงจะเข้ามา ท่านบอกให้คุณพีระศักดิ์รอที่นี่ หรือจะออกไปกินอะไรรองท้องรอท่านที่ห้องรับรองของบริษัทก่อนก็ได้ค่ะ”

 

“อืม งั้นเหรอ ขอบใจมากโสภา”

 

โสภาหันมามองหน้าหญิงสาวแปลกหน้าในห้องด้วยความสงสัยกึ่งแปลกใจสักครู่ ก่อนจะเห็นสายตาเป็นเชิงไล่ของชายหนุ่ม

 

หล่อนจึงขอตัวออกไปแต่ก็ไม่วายแอบเหล่มอง พร้อมกับนึกในใจว่า

 

“เอ! ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่นะ คุณพีถึงได้ไม่ไล่ตะเพิดออกมาเหมือนทุกครั้ง แสดงว่าเธอคนนี้ต้องมีอะไรดีแน่ หรือว่า…”

 

ตอนนี้พริริยาเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งแล้ว  โดยการเฉลยของเลขาหน้าห้องเมื่อสักครู่นี้นั่นเอง

 

หญิงสาวรู้ตัวว่าพลาดไปถนัด แต่เธอก็พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ ไม่เต้นไปตามเกมส์ของชายหนุ่มอีกต่อไป

 

“นี่คุณ ตกลงคุณไม่ใช่คุณพิภพใช่มั้ย แล้วคุณเป็นใคร”

 

“ขอบคุณสำหรับคำถามครับคุณผู้หญิง ผม พีระศักดิ์ หลานชาย คนเดียวของคุณลุงพิภพ ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกับผู้หญิงสวยๆ และฝีปากกล้าอย่างคุณ”

 

เขาทำท่าโค้งหนึ่งครั้งก่อนจะยื่นมือขวามาตรงหน้าหญิงสาวอีกรอบอย่างใจเย็น ชายหนุ่มส่งยิ้มให้เธอ แม้หญิงสาวแทบจะแยกเขี้ยวใส่เขาแล้วตอนนี้ก็ตามที

 

พริริยาใช้มือขวาของเธอปัดมือของชายหนุ่มออกไปอย่างแรง ก่อนจะพูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า

 

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม ฉันไม่อยากรู้จักใคร โดยเฉพาะคนที่เป็นพวกเดียวกับฝ่ายตรงข้ามกับฉันอย่างนายพิภพนั่น”

 

พูดจบหญิงสาวก็สะบัดตัว และรีบเดินหนีออกมาจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว

 

พีระศักดิ์ยกมือขวาขึ้นมามองดู พร้อมยิ้มให้ตัวเอง ก่อนจะพูดกับตัวเองเบาๆ ว่า

 

“คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจและผมอยากรู้จักคุณให้มากขึ้นกว่านี้อีก คุณเป็นใครกันแน่นะ”

 

หลังเดินออกมาพ้นจากห้องทำงานนั่นแล้ว หญิงสาวคิดในใจว่า

 

“นายพีระศักดิ์ คิดว่าฉันจะหลงกล ให้นายมาหลอกได้ง่ายๆ เหรอ ไม่มีทางหรอก วันนี้ถือซะว่าฉันมาประกาศสงครามกับทั้งลุงทั้งหลานพร้อมกันทีเดียวเลยก็แล้วกัน”

 

พริริยารีบเดินออกจากตัวตึกไปอย่างรวดเร็ว จนไม่ทันได้สังเกตว่า บนหน้าต่างห้องทำงานของชั้นที่เธอเพิ่งเดินออกมา มีใครคนหนึ่งยกวัตถุบางอย่างขึ้นมาส่องเล็งมาที่เธอในระยะไกล

 

ก่อนจะกดเบาๆ จนเกิดแสงวาบขึ้นมา 1 ครั้ง เขาคนนั้นยิ้มอย่างพอใจขณะที่ใช้มือหยิบกระดาษสีขาวขนาดเล็กที่ค่อยๆ เลื่อนออกมาจากวัตถุนั้นขึ้นมามองดู

 

( โปรดติดตามตอนต่อไป )

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา