Bad Boy & Girl ... ภารรักภารกิจร้าย
35) อย่ามาเหยียบที่นี่อีก!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอดทน...อดทน...อดทน...อดทน!...อดทน!!...ทนไม่ไหวแล้วโว้ย! >O<!
ในขณะที่จะหันหลังกลับบ้านหางตาก็เหลือบเห็นร่างสูงในชุดนักเรียนเซนต์ดอร์เบิร์กเดินลงจากรถแท็กซี่พร้อมช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อเล็กๆ ในมือ แล้วเดินตรงเข้าไปในตัวอาคารโบสถ์ทันที เห็นดังนั้นแล้วฉันจึงค่อยๆ แอบย่องตามไปโดยเดินที่ปลายเท้าเอา...ที่แท้ด้านหลังของตัวอาคารมันเชื่อมต่อกับทางไปสุสานนี่เองถึงว่าวันนั้นเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน…
ฉันนั่งย่อๆ แอบอยู่หลังหลุมศพหลุมหนึ่ง ระยะทางจากหลุมศพที่ฉันแอบกับหลุมศพที่นายนั่นยืนอยู่ห่างกันไกลพอควร จึงทำให้ไม่เห็นว่าหน้าตาหลุมศพนั้นเป็นอย่างไร เห็นแต่นายไม้ที่เอาแต่ยืนจ้องหลุมนั้นน้านนาน
เวลาผ่านไปขาฉันเริ่มชาจึงต้องเปลี่ยนกิริยาบทซักหน่อยแต่ไม่ทันระวัง เผลอไปเหยียบกิ่งไม้เข้าเต็มๆ
-เปราะ-
เสียงกิ่งไม้หักดังก้องไปทั่วบริเวณ ร่างสูงที่ยืนด้านหน้าหลุมฝังศพหันมองแต่ก็ไม่พบสิ่งใด
"วันนี้เราเอากุหลาบขาวมาให้..."
เสียงที่เอ่ยออกมานั้นแผ่วเบา พลางกวาดสายตามองรอบๆ หลุดศพก็พบดอกลิลลี่ที่เริ่มเหี่ยวเฉาแล้วช่อหนึ่งวางอยู่
"ของมันสินะ หึ!" ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มเย็นขณะมองดอกลิลลี่ช่อนั้น
"เรากลับก่อนนะ"
..........................................................
ร่างสูงของนายไม้เดินจากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงช่อดอกกุหลาบขาวที่ถูกจัดไว้ในแจกันอย่างสวยงาม ฉันมองจนแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายไปจนไกลแล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสายแก้เมื่อยขบ แต่ก็ไม่วายชะเง้อมองอีกให้แน่ใจว่านายนั่นไปแล้วจริงๆ
"ฟู่~ หวังว่าคงไม่ย้อนกลับมานะ"
ฉันพูดพลางสาวเท้าไปหาหลุมศพนั้นอย่างไม่แน่ใจว่าหลุมไหนกันแน่ จนสายตาไปปะทะกับช่อดอกกุหลาบขาวเข้า
"ต้องใช่แน่ๆ"
ฉันก้มลงมองช่อกุหลาบขาวตรงหน้าใกล้ๆ อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อทั่วบริเวณนั้นไม่มีช่อดอกไม้เลย ดังนั้นช่อนี้แหละ!
ไม่มีรูปภาพ มีแต่วันเดือนปีเกิดและวันมรณะเท่านั้น ตรงที่ถูกสลักชื่อไว้มีฝุ่นเกาะหนาจนมองไม่ออกว่าชื่ออะไร ฉันจึงตัดสินในย่อตัวลงแล้วยื่นมือไปปัดฝุ่นออก
"วศิรีรินทร์ เอื้อกอบกูล...ชื่อเล่น ‘น้ำอุ่น’ งั้นหรอ?" ฉันหรี่ตามองให้แน่ใจอีกครั้ง เพราะตัวอักษรมันเริ่มเลือนๆ แล้วจึงมองไม่ค่อยชัด
"คิดจะทำอะไรน่ะ!" เสียงทุ้มเข้มติดห้วนๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้คนที่กำลังอยู่ในภวังค์ตัวอักษรสะดุ้งเฮือก รีบกระโดดลุกขึ้นก่อนหันขวับมองเจ้าของเสียง
"นะ...นาย..." ฉันพูดตะกุกตะกัก พลางมองหน้าบึ่งตึงของนายไม้อย่างหวาดๆ
"เธอคิดจะทำอะไร!" เสียงที่ถามขึ้นอีกรอบยังคงความแข็งกร้าวไว้เช่นเดิม
"ฉัน...ฉัน "
ฉันอะไรเล่า! คิดสิคิด ดูเหมือนยิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งรน ฉันจึงตัดสินใจหุบปากไม่ตอบ
"รีบไปซะ! แล้วอย่ามาเหยียบที่นี่อีก!"
ฉันเงยหน้าสบตบนายไม้ ไม่เข้าใจว่ากับอีแค่มาดูหลุมศพคนที่มันรักแค่นี้มันถึงกลับตวาดกันด้วย มันเริ่มเหลืออดแล้วนะ!
ส่วนเรื่องที่เธอแอบตามฉันมา ฉันจะถือว่าไม่รู้ไม่เห็น ดังนั้นเธอรีบออกไปจากที่นี่ซะ!"
"เออ! ฉันไปแน่ๆๆ กับอีแค่หลุมศพก็ขอดูนิดดูหน่อยไม่ได้ งั้นเชิญนายดูคนเดียวซะให้พอใจเลยแล้วกัน ไหนๆ ตอนเค้าอยู่นายก็ไม่ได้ครอบครองเค้าแล้วนี่ พอเค้าตายนายก็ครอบครองหลุมศพเค้าไปแทนแล้วกัน! ไอ้บ้าเอ้ย!!"
พอตะโกน (ด่า) เสร็จก็กระทืบเท้าหนีไป แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออีกฝ่ายกระชากแขนฉันหมุนกลับไปประจันหน้า จนหัวแทบคะมำไปจิ้มอกนายนั่น
"เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง!" เสียงถามรอดไรฟันนั้น เล่นเอาฉันขนลุกซู่ ไม่กล้าสบตาวาววับน่ากลัวนั่น แต่ด้วยความที่แพ้ใครไม่เป็นจึงจำต้องข่มความเกรงเอาไว้
"หลับแล้วฝันเห็นเอา" ฉันเชิดหน้าตอบไปนู้นอย่างหมันไส้ พลางมองไอ้หุ่นยนต์มันเริ่มกัดฟันกรอด
"อย่ามาเล่นลิ้น เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง!" นายนั่นถามกลับอีกครั้งพร้อมเพิ่มแรงบีบตรงต้นแขนอีก
"โอ้ย! ฉันเจ็บนะ!!" ฉันร้อง แต่มันก็ไม่ได้นำพาต่อเสียงอันแหลมปี๊ดของฉันซักนิด กลับยิ่งเพิ่มแรงบีบขึ้นอีก
"นี่! ไอ้บ้า!!" ฉันใช้ยุทธวิธีการเอาตัวรอดเวลาโดนฉุดมาใช้โดยการสอดแขนทำท่ากอดอกแล้วบิดแขนนั้นน้อยๆ ก็สามารถหลุดออกจากมือมารมาได้ แล้วก็สาด (ด่า) ใส่ทันที
"นายมันบ้า! กับอีแค่ผู้หญิงคนเดียวจะอะไรกันนักกันหนา ที่ผ่านมานายยังทรมานตัวเองกับคนรอบข้างไม่พอหรือไง อดีตมันคือสิ่งที่ผ่านไปแล้วเราไม่สามารถแก้ไขมันได้ นายควรจะเปิดใจบ้างสิ...มัวแต่เฝ้าละเมอเพ้อภพถึง...น้ำอุ่น...เค้าก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหานายหรอก ส่วนเรื่องที่ว่าฉันรู้เรื่องนายมาได้ไงนั้นฉันไม่บอก เพราะถ้าฉันบอกไปนายก็จะทำผิดอีก ผิดที่คนรอบข้างไม่สามารถกล่าวโทษนายได้!"
ฉันนิ่งมองหน้านายนั่นที่ดูจะอึ้งอยู่แปป ก่อนจะวิ่งออกจากตรงนั้นไปทันที...
...................................................
พอกลับถึงบ้านฉันก็รีบเปลี่ยนชุดแล้วลงซ้อมแตะต่อยอย่างเอาเป็นเอาตายจนคนเป็นเป้าล่อต้องขอพักยกแล้วพักยกอีก
"พอๆ พอก่อนโว้ย! ฉันจะตายเพราะลูกเตะของแกแล้วไอ้ตาล" พี่ต้นโวยพร้อมกับหอบหายใจเข้าปอดอย่างแรง
"แกไปโกธรใครมาหรือเปล่าวะเนี่ย!"
"เปล่าซักหน่อย แค่เซ็งๆ เลยอยากออกกำลังกาย" ฉันตอบไปทั่ว ทั้งที่ใจยังนึกแค้นไอ้หุ่นยนต์นั่นไม่หาย ชิ! ทำมาเป็นหน้าโหดหน็อยไอ้ขี้เก๊กเอ้ย! นึกแล้วชักจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีก
"พี่ต้นลุก!"
"ไม่ๆๆ ไม่! ฉันเลิกแล้ว ถ้าแกอยากซ้อมต่อก็เชิญไปซ้อมกับกระสอบทรายนู้น เฮ้อ~ เหนื่อยโว้ย!"
ฉันมองพี่ชายตัวเองอย่างหน่ายๆ หนักก็ไม่เอาเบาก็ไม่สู้แต่ถ้าเป็นหญิงล่ะก็ต้นกล้าพร้อมลุยแหลก เหอๆ
"อืมๆๆ" ฉันขานรับในลำคอ ก่อนจะหันไปทางกระสอบทราย ไม่รู้ว่าฉันเหนื่อยหรือว่าแค้นนายนั่นมากถึงได้เห็นหน้าไอ้หุ่นยนต์นั่นลอยอยู่หน้ากระสอบพร้อมคำพูดที่ว่า ‘รีบไปซะ! แล้วอย่ามาเหยียบที่นี่อีก!’
ฮึ่ม! ยิ่งคิดยิ่งแค้น!! ป๊าบ!!!ๆๆๆๆ -_-*
ต้นกล้ามองน้องสาวตัวเองยกขาขึ้นเตะกระสอบทรายตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนเคยไปมีเรื่องเครียดแค้นกันมาก่อน พลางนึกสงสารเจ้ากระสอบทรายน้อยขึ้นมารำไร ...หวังว่าคงไม่ต้องซื้อใหม่หรอกนะ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ