Bad Boy & Girl ... ภารรักภารกิจร้าย

7.1

เขียนโดย zomii

วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21.03 น.

  35 บท
  144 วิจารณ์
  56.51K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

34) แต่เป็นตรงนี้...ของมันต่างหาก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


        "นี่...พี่ต่อไปแล้วนะ"

               

        ฉันพูดขึ้นในขณะเดินไปรังพยัคฆ์พร้อมกับ ฟาง แอร์และหวาย ในตอนกลางวัน

               

        "หา! ไปไหนอ่ะ!" หวายหันขวับมาถามเสียงหลง

               

        "ไปทำวิทยานิพนธ์ที่เหนือน่ะ" ฉันตอบกลับ มองสีหน้าตื่นตะลึงของหวายที่ดูจะโอเวอร์แอ็คติ้งไปซักนิดแต่มันก็ช่วยให้อารมณ์เศร้าของฉันคลายลงได้ ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกับฟางและแอร์เมื่อหวายเริ่มการหวยโหยถึงพี่ชายของฉันที่ตอนนี้คงไปถึงภาคเหนือแล้วมั้งอย่างขำๆ

               

        "...วันนี้พวกเราอนุญาตให้เธอพักหนึ่งวัน"

               

        ฉันนั่งกระพริบตาปริบๆ ทบทวนคำพูดของแอร์ ก่อนจะกระโดดโลดเต้นดีใจอย่างลืมตัวทำให้ฟางต้องส่งสายตาพิฆาตมาให้ เท่านั้นแหละฉันก็กลับมาสงบเสงียบเรียบร้อยเหมือนเดิมแทบจะทันที แต่ก็แอบเต้นสามช่าในใจแทน >_<

               

        สาเหตุที่วันนี้ฉันได้พักน่ะหรอ ก็มาจากป้ายประกาศเปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดดาวโรงเรียนในกลางเดือนหน้าที่โชว์หราตามสถานที่ต่างๆในโรงเรียน ขนาดหน้าห้องน้ำหญิงยังมีเลย รวมทั้งข้อความแสดงความคิดเห็นของคนในโรงเรียนที่โพทส์ความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวเต็งในการประกวดที่มีสิทธิ์ชนะมาประชุมหารือกัน โดยที่ฉันขอออกมายืดเส้นยืดสายข้างนอกดีกว่า

               

        "ลูกตาลจ๋า~ เก๊ามาแว้ว >O<"

               

        เสียงของนายเจโอดังมาแต่ไกลก่อนเจ้าตัวจะบินถลามานั่งลงบนพื้นหญ้าข้างๆ ฉันด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง ฉันขอยอมรับนะว่าตอนแรกก็กลัวนายนี่เหมือนกันแต่ตอนนี้เริ่มชินแล้วแหละ

               

        "อ้าว! ทำไมไม่อยู่ประชุมกับเค้าล่ะ" ฉันถามอย่างแปลกใจเพราะนายหัวส้มตรงหน้าฉันคนนี้มันไม่เคยพลาดการประชุมที่เกี่ยวกับการประกวดเลยซักครั้งนี่นา

               

        "ไม่อะ ขี้เกียจฟังยัยจุ้นแพล่ม คนอะไรพูดมากชิบโป๋งเลย" พูดพลางส่ายหน้าแบบเอือมระอาเต็มที

               

        "ถามจริงๆ เถอะนะ นายกับแอร์เคยโกธรแค้นกันมาก่อนหรือเปล่าเนี่ย" ฉันถามอย่างสงสัย เพราะเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรมีเรื่องทุกที

               

        "อืม..." อีกฝ่ายยกนิ้วขึ้นเคาะปากเบาๆ อย่างครุ่นคิด ก่อนตอบ "เท่าที่จำได้ไม่มี"

               

        "งั้นหรอ... แปลกจริงๆ" ฉันพึมพำเบาๆอย่างคิดไม่ตก

               

        "ช่างเถอะ! ว่าแต่เมื่อกี้เธอคิดอะไรอยู่หรอ" ฉันมองหน้าแบ้วๆที่เจโอส่งมาให้พร้อมคำถามอย่างน่ารัก ก็อดที่จะยิ้มรับไม่ได้

               

        "ก็คิดเรื่อยๆแหละ..." ฉันตอบพลางเบนสายตาออกไปมองสนามบอลเขียวขจีตรงหน้า ก่อนภาพนายไม้ที่เดินเข้าโบสถ์จะโผล่แว๊บเข้ามาให้สมอง

               

        "อ่อ! พอดีฉันคิดอยู่เรื่องหนึ่งสงสัยมากๆ เลยอยากถามนายหน่อย"

               

        พอได้ยินคำพูดของฉันเท่านั้นแหละ เจโอถึงกับสะดุ้งยืดตัวตรงแน่วพร้อมเก๊กหล่อ ก่อนพูดว่า

               

        “จัดมาเลยน้องสาว เจโอคนนี้ยินดีรับใช้ ^O^”

               

        ฉันหัวเราะเบาๆ กับท่าทางนั้นพลางส่ายหน้า

               

        "ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เมื่อวานเห็นไม้เค้าเข้าไปในโบสถ์น่ะเลยสงสัย" พูดถึงตรงนี้คนฟังก็ถึงบางอ๋อทันที แต่ก็ยังไม่ตอบคำถามซักที

               

        "แล้วเธอสงสัยอะไรล่ะ"

               

        ฉันฟังคำถามนั้นแล้วก็ถามตัวเองอีกครั้ง นั้นสิฉันสงสัยอะไร?

               

        "ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าแต่นายบอกได้มั้ยว่านายนั่นเค้าไปโบสถ์ทำไม" ฉันถามกลับ

               

        ส่วนเจโอก็ทำท่าทางเป็นคิดหนักทั้งๆ ที่หน้าตาฉายชัดอยู่แล้วว่ารู้คำตอบ

               

        "ไปสวดมนต์มั้ง" เขาตอบกลับ แต่ไม่วายมีมั้งให้ค้างคาใจคนฟังเล่น

               

        "วันศุกร์เนี่ยนะ!" ฉันสวนกลับ ทำให้คนตอบหน้าเหวอไปนิด ก่อนจะกระแอมกระไอแล้วตอบอีกครั้งว่า

               

        "ถ้างั้นก็ไปเยี่ยมญาติ..."

               

        คำตอบคราวนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นเปี่ยม ฉันหัวหน้าขวับคอแทบเคล็ด หัวสมองก็แล่นอย่างเร็วเมื่อเจอสิ่งที่น่าสนใจ

               

        "ญาติหรอ!? นี่นายอย่าบอกว่านายไม้มีญาติเป็นนักบวชหรือแม่ชีน่ะ" ฉันค่อยๆ พูดล่อหลอกอีกฝ่าย เพื่อให้ได้ในสิ่งที่น่าสนใจ อีกอย่างเพราะกลัวว่าคนเล่ามันจะไม่ยอมเล่าเอาถ้าถามไปตรงๆ

               

        "หึ!" เจโอส่ายหน้าหวือ "ไม่ใช่หรอก เพราะญาติมันอาศัยอยู่หลังโบสถ์ต่างหาก"

               

        "หลังโบสถ์!?" อะไรหว่าอยู่หลังโบสถ์ เอ๊ะ! อย่าบอกนะว่า

        

         "สุสาน!!! O_O" ฉันระเบิดเสียงอย่างตกใจ

               

        “ถะ...ถะ...ถูกต้องนะคร๊าบ” เจโอทำท่าชี้นิ้วมาด้านหน้าประกอบคำพูด ส่วนฉันนั่งนิ่งอึ้งไปเรียบร้อยแล้ว

               

        "แสดงว่านายนั่นเป็นคริสสินะ" ฉันถามกลับเพื่อความแน่ใจ แต่ก็ต้องแปลกใจกับคำตอบที่ได้รับ

               

        "เปล่านี่ ไอ้ไม้มันนับถือพระพุทธเจ้า"

               

        "-*-" ถ้ามันบอกว่านับถือศาสนาพุทธก็จบแล้วดันบอกนับถือพระพุทธเจ้า กรูล่ะ (เริ่ม) เครียด

               

        "^O^"

               

        "งั้นใครอะ เอ่อ คือฉันหมายความว่าถ้านายนั้นไม่เป็นคริสแล้วทำไมถึงมีญาติเป็นคริสล่ะ"

               

        เรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วแหละ แต่ฉันอยากถามเรื่อยๆ นี่นา รอเวลาที่นายนี่ติดลมเมื่อไหร่ก็เสร็จเมื่อนั้น ฮิฮิ

               

        "ก็ไม่ใช่ญาติน่ะสิ แต่เป็นตรงนี้...ของมันต่างหาก"

               

        ฉันมองตามมือร่างสูงที่ชี้ไปตำแหน่งหัวใจ ก็ถึงบางอ๋อบ้าง แฟนงั้นหรอ?

               

        "นายหมายถึง..." ฉันเว้นระยะทำเป็นคิด และมันคงจะชักช้าไปคนเริ่มติดลมจึงตอบสวนแทนว่า

               

        "คนที่มันรักไง"

               

        อืมๆๆ คนที่นายนั่นรักงั้นหรอ? พูดอย่างกับรักเขาข้างเดียวอย่างงั้นแหละ

               

        "คนที่รัก? นายหมายถึงแฟนหรอ?" ฉันแสร้งถามกลับอีก พร้อมสีหน้าอินโนเซ้น

               

        "เปล๊า มันรักเค้า แต่เค้าไม่รักมัน" คนตอบก็ตอบอย่างหน้าซื่อตาใสไม่รู้ตัวซักนิดว่ากำลังโดนมารยาหญิงล่อหลอกอยู่

               

        "อ้าว! ทำไมล่ะนายไม้ก็ออกจะ...หล่อ ซะขนาดนั้น"

   

        ฉันคงไม่ชอบหน้านายนั่นมากๆ แน่ๆ เลย ขนาดจะชมก็ต้องกลั้นหายใจชมเลยคิดดู

               

        "ก็เพราะผู้หญิงเค้าไปรักคนอื่นแล้วอะดี้... ทั้งๆ ที่ไอ้ไม้มันมาก่อนแต่ก็ต้องอกหักเพราะผู้หญิงเค้าไม่รักมัน ดันไปรักไอ้รุ่นพี่ที่มหาลัยแทน แม่งโคตรสงสารมันเลยตอนนั้น"

               

        ฉันรีบงับปากตัวเองแทบไม่ทันตอนที่เจโอเว้นระยะในการพูด นึกว่าจะพูดแค่นั้นที่ไหนได้ล่อซะยาวเชียว นี่แสดงว่านายนี่ต้องติดลมแล้วแหงๆ เลย ฮิฮิ

               

        "อืม...อ๊ะ! นี่แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นตะ..."

               

        "ซี้แหงแก๋เรียบร้อยแล้ว"

               

        คิดแล้วก็ใจหายยังไม่รู้แฮะ

               

        "ไอ้ไม้มันก็รักของมันมาก เมื่อก่อนมันแทบจะเป็นจะตายกว่าจะตัดใจได้ ยิ่งตอนมันรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตายนะมันแทบคลั่ง...จะว่าไปมันก็คลั่งเลยนี่หว่า -_- ตอนนั้นมีแต่คนเรียกมันว่า 'ปีศาจ' ใครมาสะกิดต่อมมันนิดนะ มันซัดซะน้วมทันทีแบบไม่ยั้งเลยทีเดียว มีรายหนึ่งมันเล่นเอาซะเข้าโรง'บาล..."

               

        ฟังถึงตอนนี้ฉันก็ต้องลอบกลืนน้ำลาย คนอะไรวีรกรรมสุดยอดจริงๆ

               

        "...หยอดน้ำข้าวต้มไปเป็นเดือน หลังจากนั้นพอมันทำใจได้มันก็ไปเยี่ยมหลุมศพผู้หญิงคนนั้นทุกวันจนถึงเดี๋ยวนี้ เพราะมันยังรักของมันไม่เคยเปลี่ยน..."

               

        พูดถึงตรงนี้คนพูดก็นิ่งเงียบไป... จากเป็นก็เจ็บ จากตายยิ่งเจ็บกว่า งั้นหรอ?...

               

        พอแยกย้ายกันกลับบ้านฉันก็ขอตัวกลับบ้านเลยไม่ไปรับน้องเจ้าหญิงกับนายกวีน โดยให้เหตุผลว่าไม่ค่อยสบาย ปวดหัวนิดๆ แล้วก็มาแอบซุ่มรอไอ้หุ่นยนต์ขี้เก๊กผู้ตั้งมั่นในรักอย่างอดทน

 


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา