Bad Boy & Girl ... ภารรักภารกิจร้าย
34) แต่เป็นตรงนี้...ของมันต่างหาก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นี่...พี่ต่อไปแล้วนะ"
ฉันพูดขึ้นในขณะเดินไปรังพยัคฆ์พร้อมกับ ฟาง แอร์และหวาย ในตอนกลางวัน
"หา! ไปไหนอ่ะ!" หวายหันขวับมาถามเสียงหลง
"ไปทำวิทยานิพนธ์ที่เหนือน่ะ" ฉันตอบกลับ มองสีหน้าตื่นตะลึงของหวายที่ดูจะโอเวอร์แอ็คติ้งไปซักนิดแต่มันก็ช่วยให้อารมณ์เศร้าของฉันคลายลงได้ ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกับฟางและแอร์เมื่อหวายเริ่มการหวยโหยถึงพี่ชายของฉันที่ตอนนี้คงไปถึงภาคเหนือแล้วมั้งอย่างขำๆ
"...วันนี้พวกเราอนุญาตให้เธอพักหนึ่งวัน"
ฉันนั่งกระพริบตาปริบๆ ทบทวนคำพูดของแอร์ ก่อนจะกระโดดโลดเต้นดีใจอย่างลืมตัวทำให้ฟางต้องส่งสายตาพิฆาตมาให้ เท่านั้นแหละฉันก็กลับมาสงบเสงียบเรียบร้อยเหมือนเดิมแทบจะทันที แต่ก็แอบเต้นสามช่าในใจแทน >_<
สาเหตุที่วันนี้ฉันได้พักน่ะหรอ ก็มาจากป้ายประกาศเปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดดาวโรงเรียนในกลางเดือนหน้าที่โชว์หราตามสถานที่ต่างๆในโรงเรียน ขนาดหน้าห้องน้ำหญิงยังมีเลย รวมทั้งข้อความแสดงความคิดเห็นของคนในโรงเรียนที่โพทส์ความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวเต็งในการประกวดที่มีสิทธิ์ชนะมาประชุมหารือกัน โดยที่ฉันขอออกมายืดเส้นยืดสายข้างนอกดีกว่า
"ลูกตาลจ๋า~ เก๊ามาแว้ว >O<"
เสียงของนายเจโอดังมาแต่ไกลก่อนเจ้าตัวจะบินถลามานั่งลงบนพื้นหญ้าข้างๆ ฉันด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง ฉันขอยอมรับนะว่าตอนแรกก็กลัวนายนี่เหมือนกันแต่ตอนนี้เริ่มชินแล้วแหละ
"อ้าว! ทำไมไม่อยู่ประชุมกับเค้าล่ะ" ฉันถามอย่างแปลกใจเพราะนายหัวส้มตรงหน้าฉันคนนี้มันไม่เคยพลาดการประชุมที่เกี่ยวกับการประกวดเลยซักครั้งนี่นา
"ไม่อะ ขี้เกียจฟังยัยจุ้นแพล่ม คนอะไรพูดมากชิบโป๋งเลย" พูดพลางส่ายหน้าแบบเอือมระอาเต็มที
"ถามจริงๆ เถอะนะ นายกับแอร์เคยโกธรแค้นกันมาก่อนหรือเปล่าเนี่ย" ฉันถามอย่างสงสัย เพราะเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรมีเรื่องทุกที
"อืม..." อีกฝ่ายยกนิ้วขึ้นเคาะปากเบาๆ อย่างครุ่นคิด ก่อนตอบ "เท่าที่จำได้ไม่มี"
"งั้นหรอ... แปลกจริงๆ" ฉันพึมพำเบาๆอย่างคิดไม่ตก
"ช่างเถอะ! ว่าแต่เมื่อกี้เธอคิดอะไรอยู่หรอ" ฉันมองหน้าแบ้วๆที่เจโอส่งมาให้พร้อมคำถามอย่างน่ารัก ก็อดที่จะยิ้มรับไม่ได้
"ก็คิดเรื่อยๆแหละ..." ฉันตอบพลางเบนสายตาออกไปมองสนามบอลเขียวขจีตรงหน้า ก่อนภาพนายไม้ที่เดินเข้าโบสถ์จะโผล่แว๊บเข้ามาให้สมอง
"อ่อ! พอดีฉันคิดอยู่เรื่องหนึ่งสงสัยมากๆ เลยอยากถามนายหน่อย"
พอได้ยินคำพูดของฉันเท่านั้นแหละ เจโอถึงกับสะดุ้งยืดตัวตรงแน่วพร้อมเก๊กหล่อ ก่อนพูดว่า
“จัดมาเลยน้องสาว เจโอคนนี้ยินดีรับใช้ ^O^”
ฉันหัวเราะเบาๆ กับท่าทางนั้นพลางส่ายหน้า
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เมื่อวานเห็นไม้เค้าเข้าไปในโบสถ์น่ะเลยสงสัย" พูดถึงตรงนี้คนฟังก็ถึงบางอ๋อทันที แต่ก็ยังไม่ตอบคำถามซักที
"แล้วเธอสงสัยอะไรล่ะ"
ฉันฟังคำถามนั้นแล้วก็ถามตัวเองอีกครั้ง นั้นสิฉันสงสัยอะไร?
"ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าแต่นายบอกได้มั้ยว่านายนั่นเค้าไปโบสถ์ทำไม" ฉันถามกลับ
ส่วนเจโอก็ทำท่าทางเป็นคิดหนักทั้งๆ ที่หน้าตาฉายชัดอยู่แล้วว่ารู้คำตอบ
"ไปสวดมนต์มั้ง" เขาตอบกลับ แต่ไม่วายมีมั้งให้ค้างคาใจคนฟังเล่น
"วันศุกร์เนี่ยนะ!" ฉันสวนกลับ ทำให้คนตอบหน้าเหวอไปนิด ก่อนจะกระแอมกระไอแล้วตอบอีกครั้งว่า
"ถ้างั้นก็ไปเยี่ยมญาติ..."
คำตอบคราวนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นเปี่ยม ฉันหัวหน้าขวับคอแทบเคล็ด หัวสมองก็แล่นอย่างเร็วเมื่อเจอสิ่งที่น่าสนใจ
"ญาติหรอ!? นี่นายอย่าบอกว่านายไม้มีญาติเป็นนักบวชหรือแม่ชีน่ะ" ฉันค่อยๆ พูดล่อหลอกอีกฝ่าย เพื่อให้ได้ในสิ่งที่น่าสนใจ อีกอย่างเพราะกลัวว่าคนเล่ามันจะไม่ยอมเล่าเอาถ้าถามไปตรงๆ
"หึ!" เจโอส่ายหน้าหวือ "ไม่ใช่หรอก เพราะญาติมันอาศัยอยู่หลังโบสถ์ต่างหาก"
"หลังโบสถ์!?" อะไรหว่าอยู่หลังโบสถ์ เอ๊ะ! อย่าบอกนะว่า
"สุสาน!!! O_O" ฉันระเบิดเสียงอย่างตกใจ
“ถะ...ถะ...ถูกต้องนะคร๊าบ” เจโอทำท่าชี้นิ้วมาด้านหน้าประกอบคำพูด ส่วนฉันนั่งนิ่งอึ้งไปเรียบร้อยแล้ว
"แสดงว่านายนั่นเป็นคริสสินะ" ฉันถามกลับเพื่อความแน่ใจ แต่ก็ต้องแปลกใจกับคำตอบที่ได้รับ
"เปล่านี่ ไอ้ไม้มันนับถือพระพุทธเจ้า"
"-*-" ถ้ามันบอกว่านับถือศาสนาพุทธก็จบแล้วดันบอกนับถือพระพุทธเจ้า กรูล่ะ (เริ่ม) เครียด
"^O^"
"งั้นใครอะ เอ่อ คือฉันหมายความว่าถ้านายนั้นไม่เป็นคริสแล้วทำไมถึงมีญาติเป็นคริสล่ะ"
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วแหละ แต่ฉันอยากถามเรื่อยๆ นี่นา รอเวลาที่นายนี่ติดลมเมื่อไหร่ก็เสร็จเมื่อนั้น ฮิฮิ
"ก็ไม่ใช่ญาติน่ะสิ แต่เป็นตรงนี้...ของมันต่างหาก"
ฉันมองตามมือร่างสูงที่ชี้ไปตำแหน่งหัวใจ ก็ถึงบางอ๋อบ้าง แฟนงั้นหรอ?
"นายหมายถึง..." ฉันเว้นระยะทำเป็นคิด และมันคงจะชักช้าไปคนเริ่มติดลมจึงตอบสวนแทนว่า
"คนที่มันรักไง"
อืมๆๆ คนที่นายนั่นรักงั้นหรอ? พูดอย่างกับรักเขาข้างเดียวอย่างงั้นแหละ
"คนที่รัก? นายหมายถึงแฟนหรอ?" ฉันแสร้งถามกลับอีก พร้อมสีหน้าอินโนเซ้น
"เปล๊า มันรักเค้า แต่เค้าไม่รักมัน" คนตอบก็ตอบอย่างหน้าซื่อตาใสไม่รู้ตัวซักนิดว่ากำลังโดนมารยาหญิงล่อหลอกอยู่
"อ้าว! ทำไมล่ะนายไม้ก็ออกจะ...หล่อ ซะขนาดนั้น"
ฉันคงไม่ชอบหน้านายนั่นมากๆ แน่ๆ เลย ขนาดจะชมก็ต้องกลั้นหายใจชมเลยคิดดู
"ก็เพราะผู้หญิงเค้าไปรักคนอื่นแล้วอะดี้... ทั้งๆ ที่ไอ้ไม้มันมาก่อนแต่ก็ต้องอกหักเพราะผู้หญิงเค้าไม่รักมัน ดันไปรักไอ้รุ่นพี่ที่มหาลัยแทน แม่งโคตรสงสารมันเลยตอนนั้น"
ฉันรีบงับปากตัวเองแทบไม่ทันตอนที่เจโอเว้นระยะในการพูด นึกว่าจะพูดแค่นั้นที่ไหนได้ล่อซะยาวเชียว นี่แสดงว่านายนี่ต้องติดลมแล้วแหงๆ เลย ฮิฮิ
"อืม...อ๊ะ! นี่แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นตะ..."
"ซี้แหงแก๋เรียบร้อยแล้ว"
คิดแล้วก็ใจหายยังไม่รู้แฮะ
"ไอ้ไม้มันก็รักของมันมาก เมื่อก่อนมันแทบจะเป็นจะตายกว่าจะตัดใจได้ ยิ่งตอนมันรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตายนะมันแทบคลั่ง...จะว่าไปมันก็คลั่งเลยนี่หว่า -_- ตอนนั้นมีแต่คนเรียกมันว่า 'ปีศาจ' ใครมาสะกิดต่อมมันนิดนะ มันซัดซะน้วมทันทีแบบไม่ยั้งเลยทีเดียว มีรายหนึ่งมันเล่นเอาซะเข้าโรง'บาล..."
ฟังถึงตอนนี้ฉันก็ต้องลอบกลืนน้ำลาย คนอะไรวีรกรรมสุดยอดจริงๆ
"...หยอดน้ำข้าวต้มไปเป็นเดือน หลังจากนั้นพอมันทำใจได้มันก็ไปเยี่ยมหลุมศพผู้หญิงคนนั้นทุกวันจนถึงเดี๋ยวนี้ เพราะมันยังรักของมันไม่เคยเปลี่ยน..."
พูดถึงตรงนี้คนพูดก็นิ่งเงียบไป... จากเป็นก็เจ็บ จากตายยิ่งเจ็บกว่า งั้นหรอ?...
พอแยกย้ายกันกลับบ้านฉันก็ขอตัวกลับบ้านเลยไม่ไปรับน้องเจ้าหญิงกับนายกวีน โดยให้เหตุผลว่าไม่ค่อยสบาย ปวดหัวนิดๆ แล้วก็มาแอบซุ่มรอไอ้หุ่นยนต์ขี้เก๊กผู้ตั้งมั่นในรักอย่างอดทน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ