Bad Boy & Girl ... ภารรักภารกิจร้าย

7.1

เขียนโดย zomii

วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21.03 น.

  35 บท
  144 วิจารณ์
  57.10K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) โบสถ์ กับ วิทยานิพนธ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

        "O_O"

               

        นะ...นั่นมัน โอ้~ ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที่ว่ามันเป็นภาพลวงตา ทำไมดวงตาที่แสนจะสดใสของฉันมันถึงได้บวมโตขนาดนี้! อ๊ากกกก~ >_<

               

        "ตาล... เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมตามันบวมๆ อย่างงี้ล่ะ -_-?"

               

        ฉันเอียงหน้าหลบมือซนๆ ของหวายที่พยายามจิ้มตาฉันตรงที่มันบวมๆ ให้ได้

               

        "เปล่าซักหน่อย ตื่นมามันก็เป็นแบบนี้แล้ว เอ๊ะ! หวายเธออยู่เฉยๆ สิฉันเมื่อยคอแล้วนะ" ฉันหันไปดุหวาย แล้วเจ้าตัวก็เดินกระฟัดกระเฟียดนั่งลงข้างๆ ฟางอย่างไม่พอใจ

               

        "เมื่อคืนร้องไห้หรอตาล" ฟางถามขึ้นบ้าง

               

        "เอ่อ คือว่า...ฉัน เปล่านี้... เมื่อคืนไม่ได้ร้องไห้เลยนะจริงๆ ^^;"

               

        ไม่รู้ว่ามันเหมือนอาการกินปูนร้อนท้องหรือเปล่านะ แต่เรื่องอะไรฉันจะบอกไปตรงๆล่ะ ขืนบอกไปสิ มีหวังต้องได้นั่งตอบคำถามทั้งวันแน่ๆ

               

        หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติตอนกลางวันและเย็นก็ไปซ้อมที่รังพยัคฆ์เหมือนเคย ตอนแรกฉันก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงดีเวลาเจอกวีนแต่ทุกอย่างมันก็ง่ายกว่าที่คิดเมื่อเราสองคนพร้อมใจยิ้มให้กัน แต่ปัญหาของฉันคือไอ้หุ่นยนต์ขี้เก๊กนั่นต่างหาก!

               

        เมื่อวานดันไป เอ่อ ไปอันนั้นๆ (-*-) กับนายนั่นเข้า แถมวันนี้ยังต้องมาซ้อมเต้นรำด้วยกันอีก

               

        "ตาล! เธอเงยหน้าขึ้นหน่อยสิ! ก้มหน้าก้มตาอยู่นั่นแหละ"

               

        ฟางเอ็ดขึ้นเมื่อฉันเลือกที่จะมองเท้ามากกว่ามองหน้าคู่เต้น

               

        "เงยหน้าสิเงยหน้า!"

               

        แล้วฉันก็รีบเงยหน้าทันทีเมื่อเสียงฟางเริ่มเข้มขึ้นทุกขณะ แต่ก็ต้องรีบหลับตาปี๋เมื่อสายตาดันไปสบเข้ากับตานายนั่นอย่างจัง >_<

               

        "โอ๊ะ! ขะ...ขอโทษที ขอโทษ" ฉันรีบขอโทษขอโพยนายไม้ทันที เพราะดันไปเหยียบเท้าเขาเข้าเต็มเปา

               

        "หึ เมื่อไหร่เธอจะเลิกเบ๊อะซักทีห๊ะ"

               

        เสียงเย้ยหยันของไม้ที่กระซิบกลับใกล้ๆ หู ทำให้อารมณ์ในกายฉันพุ่งสูงปี๊ดอย่างกู้ไม่กลับ เลยกระแทกส้นรองเท้าใส่เท้านายนั่นอย่างแรงเป็นการแก้เผ็ด

               

        "โอ๊ย!!!"

               

        เสียงทุ้มเข้มร้องขึ้นก่อนจะผละตัวออกจากฉันก้มลงจับเท้าตัวเองอย่างเจ็บปวด

               

        "ขอโทษนะพอดีไม่ได้ตั้งใจ ^^"

               

        น้ำเสียงสำนึกผิดของฉัน ดึงให้สายตาของนายไม้หันมามอง ก่อนจะหน้าบึ่งตึงแทบจะทันทีที่เห็นรอยยิ้มยั่วพร้อมแลบลิ้นแผล็บๆ เป็นของแถมจากฉัน แบร่ๆ :p

               

        ดังนั้นการซ้อมเต้นรำของวันนี้จึงเสร็จสิ้นเร็วกว่าทุกครั้งเพราะฝ่ายชายเจ็บเท้าจนไม่สามารถเต้นต่อได้ โย่ๆ ^O^ โดยมีพยาบาลสาวแสนสวยอย่างฉันค่อยส่งยิ้ม (ยียวน) ให้กำลังใจไม่ห่าง หลังจากหลังพันเท้าให้คนเจ็บเสร็จ...

 

..............................................  


        ตอนกลับบ้านฉันก็ยังกลับกับกวีนเหมือนเดิมเพราะต้องไปรับน้องเจ้าหญิงด้วยกัน แต่ในระหว่างที่นั่งรถเมล์ไปโรงเรียนของน้องเจ้าหญิงนั้น ฉันก็สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งในชุดนักเรียนของเซนต์ดอร์เบิร์กมองจากทางด้านหลังนั้นดูคุ้นตาชอบกล แต่พอลองหรี่ตามองลงไปที่เท้าจึงสังเกตเห็นผ้าพันแผลพันรอบเท้านั้น ฉันก็ถึงบางอ๋อทันทีก่อนมองตามนายนั่นเดินเข้าไปในโบสถ์ในระแวงนั้น

               

        "เค้าไปทำอะไรในนั้นนะ" ฉันพึมพำออกมาเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้ร่างสูงที่นั่งข้างๆได้ยิน

               

        "ใครหรอตาล?" กวีนถาม พลางมองตามสายตาของฉัน แต่ร่างของนายนั่นก็อันตธานหายไปในโบสถ์เรียบร้อยแล้ว

               

        "ปะ...เปล่านี่ ไม่มีอะไรหรอก" ฉันต่อเลือกที่จะไม่บอกตามความจริง และกวีนเองก็ไม่ถามต่อ

               

        และในจังหวะเดียวกันรถเมล์ที่นั่งมาก็ติดไฟแดงพอดี และคนอย่างฉันก็ไม่ชอบที่จะให้มันค้างคาอยู่ในหัว ไหวเท่าความคิดฉันจึงตัดสินใจเด้งตัวขึ้นยืน

               

        "เอ่อ...วันนี้ฉันคงไปรับน้องเจ้าหญิงกับนายไม่ได้แล้ว พอดีมีธุระด่วนบายนะ"

               

        พูดจบก็โบกมือบ๊ายบาย ก่อนจะเดินอย่างรวดเร็วลงรถไปไม่นำพาต่อเสียงทักท้วงของกวีนที่ดังตามหลังมาซักนิด

               

        อยู่ไหนของเขานะ?...ฉันมองซ้ายแลขวาขณะเดินเข้าไปในตัวอาคารโบสถ์นั้น

               

        ภายในโบสถ์เป็นห้องโถงกว้างขวางหลังคาสูงมีม้านั่งวางเรียงเป็นแถวยาวสองฝั่ง ทางตอนหน้าของห้องเป็นยกพื้นสูงประมาณ 3 – 4 ขั้นบันไดและมีคอกวางอยู่บนนั้น ความกว้างพอดีพื้น มีพระเยซูบนไม้กางเขน ทางด้านหลังเป็นกระจกสีมีรูปเหล่าสาวกและพระแม่มารีแสดงอยู่ ด้านข้างของคอกมีเปียโนตัวหนึ่ง...อาจเป็นเพราะวันนี้ไม่ใช่วันอาทิตย์จึงไม่มีใครอยู่ด้านในเลยซักคนเดียว รอบด้านจึงมีแต่ความเงียบและออกจะวังเวงไปซักนิดสำหรับฉันที่ยืนลังเลว่าจะไปต่อหรือถอยดีกว่า

               

        "มะ...ไม้!" ฉันตัดสินใจตะโกนเรียนนายนั่นเพราะยังไม่คิดเสี่ยงอะไรตอนนี้

               

        "..." และความเงียบคือคำตอบที่ส่งกลับมา

               

        "ไปอยู่ไหนนะ" บ่นพึมพำกับตัวเองพลางชะเง้อมองหาอีกรอบ แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า

               

        ยืนลังเลอยู่นานจนแน่ใจว่าคงไม่พบอีกฝ่ายแน่แล้วจึงตัดสินใจถอยทัพกลับบ้าน แต่ภายในใจยังสงสัยไม่เลิกว่าอีกฝ่ายมาโบสถ์ทำไมในเมื่อวันนี้ไม่มีการทำพิธีทางศาสนา...


..............................................  


        "พี่ต่อเดินทางดีๆ นะค่ะ T_T แล้วอย่าลือซื้อของฝากมาให้ตาลด้วยนะ" ฉันพูดอำลาอาลัยพี่ต่อที่หน้าบ้าน เพราะพี่ท่านต้องขึ้นรถพ่อไปลงที่หมอชิตเพื่อไปทำวิทยานิพนธ์

               

        "ไปเครื่องบินไม่ดีกว่าหรือลูก แม่ไม่ชอบเลยไอ้รถทัวเนี่ยพักนี้พายุยิ่งเข้าอยู่" คุณแม่พูดอย่างเป็นกังวล ในขณะที่พี่ต่อได้แต่ยิ้มรับ

               

        "ช่างเถอะคุณ ลูกก็โตแล้วปล่อยเค้าให้ไปกับเพื่อนๆ เถอะ" คุณพ่อพูด เพราะถ้าให้พี่ต่อขึ้นเครื่องบินก็ต้องไปคนเดียวแหงๆ เพราะเพื่อนๆ พี่ต่อแต่ละคนล้วนเป็นโรคทรัพย์จางกันทั้งนั้น

               

        คุณแม่พยักหน้ารับก่อนจะสวมกอดพี่ต่อแล้วก็หอมแก้มอีกสองฟอด แล้วก็ถึงตาฉันที่ยืนน้ำตาคลอเบ้าอยู่ข้างๆ แม่ พี่ต่อส่งยิ้มให้ฉันก่อนจะอ้าแขนออกฉันจึงโผเข้าหาพี่ชายทันทีก่อนจะปล่อยโฮออกมา TOT

               

        "หึหึ โตแล้วนะเราน่ะ ทำตัวขี้แยไปได้" พี่ตัวพูดพร้อมขยี้หัวฉันอย่างเอ็นดูแกมหมันไส้นิดๆ

               

        "พี่ต่ออะ T^T"

               

        ฉันผละตัวออกจากพี่ต่อก่อนสิ่งยิ้มทั้งน้ำตาให้ หลังจากนั้นพี่ต่อก็หันไปทางพี่ต้นที่ยืนเป่าปากทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ถัดจากฉันไปเล็กน้อย

               

        "ต้น ดูแลน้องดีๆ ด้วยล่ะ" พี่ต้นหยุดเป่าปากก่อนจะหันหน้ามองพี่ต่อพักหนึ่งแล้วจังพยักหน้ารับ ก่อนพูดห้วนๆว่า

               

        "โชคดี...พี่"

               

        พี่ต่อพยักหน้ารับก่อนเดินเข้าไปตบบ่าพี่ต้นเบาๆ แล้วจึงเดินขึ้นรถก่อนจะหันมาโบกมือลาอีกรอบก่อนคุณพ่อจะออกรถไป...

 


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา